ท่านเฟิงจวินพยักหน้า"ข้าขอคิดก่อน เหมือนมีอะไรลืมไปแล้ว"ฟู่จาวหนิงเลิกเส้นผมของนางออกตรวจสอบฮูหยินใหญ่โม่พวกนางตอนนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไร"จริงด้วย" ท่านเฟิงจวินยังพูดอีกว่า "ตอนนั้นข้ารู้สึกว่า แม่ของท่านบนตัวมีกลิ่นหอมอยู่ ไม่แน่ใจว่ากลิ่นอะไร กลิ่นไม่ค่อยดีนัก"ฟู่จาวหนิงมือชะงัก"ไม่ใช่กลิ่นธูปหรือ?""ไม่ใช่" ท่านเฟิงจวินส่ายหัว "รุ้สึกว่ากลิ่นไม่น่าดม ข้าตอนนั้นยังคิด บนตัวหญิงสาวตระกูลฟู่คนนี้มันกลิ่นอะไรนะ? เข้าวังมาทำไมถึงไม่พิถีพิถันหน่อย นี่ถ้ามาเจอพวกคนชั้นสูงมาได้กลิ่นเข้า คงได้เกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแน่ๆ"นางพูดถึงจุดนี้ก็รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงฟู่จาวหนิงมองสีหน้านาง "ขอบคุณท่านเฟิงจวินมากที่บอกเรื่องเหล่านี้กับข้า ตอนนี้ท่านนอนพักผ่อนเสียก่อน ข้าจะฝังเข็มให้ท่าน จากนั้นจะจ่ายยาบางส่วนให้ ส่วนจะใช้ยาอย่างไรข้าอธิบายกับพวกฮูหยินไว้ก็พอ ท่านปล่อยใจให้สบาย แม้ว่าข้าตอนนี้จะยังพูดกับท่านชัดเจนไม่ได้ว่าโรคนี้คืออะไร แต่ว่ารักษาได้""จริงหรือ?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน รักษาได้จริงหรือ?""หา?"หญิงสาวตระกูลโม่แต่ละคนที่นี่ล้วนดีใจกันขึ้นมาเป็นล้นพ้นฟู่จาวหนิงเป็นคนแรกที่พู
ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างเกินคาดหน่อยๆ "ไอ๊หยา คุณชายลู่นี่ไม่เลวเลย""ลูกพี่หนิงอย่าขำข้านะ ทำเอาเหมือนข้าเป็นคนโง่" ลู่ทงหัวเราะเหอะๆ "แต่ว่า ขอแค่ข้ายืนหยัดจุดนี้ พวกเขาตอนแรกเองก็เคยสงสัย แต่ว่าเชิญหมอหลายคนมาตรวจอาการ แต่ก็ไม่มีใครพูดว่าเฟิงจวินติดพิษ ดังนั้นคนของตระกูลโม่จึงไม่ได้สงสัยอีกแล้ว"ลู่ทงถอนหายใจอีกครั้ง"ข้าต่อมาก็เคยยกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาก็บอกว่าข้าเป็นคนที่ไม่ได้รู้เรื่องวิชาแพทย์เลย แล้วจะไปเก่งกาจกว่าพวกเขาได้อย่างไร? พวกหมอบอกว่านี่เป็นโรคประหลาด ยังมีคนมาพลิกตำราโบราณสมัยก่อนดูด้วย บอกว่าเคยมีบันทึกไว้ มีโรคที่ผู้ป่วยกลัวแสง ผิวหนังขาวผิดปกติ ไม่เหมือนมนุษย์"มีโรคคนเผือกบางประเภท ที่เป็นได้เช่นนี้จริงฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตัวอย่างที่หมอค้นออกมาน่าจะเป็นโรคคนเผือกแต่ของท่านเฟิงจวินนี้ไม่ใช่"หมอยังบอกว่า ในเมื่อเป็นโรคประหลาดที่ผิวเปลี่ยนเป็นสีขาว เช่นนั้นเฟิงจวินก็ควรจะน่าจะเป็นโรคคล้ายๆ กัน เพียงแต่ทำไมผิวจึงเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเทียน ยังต้องหาสาเหตุจากอีกหลายๆ ด้าน ตระกูลโม่เชิญคนมาไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังเชิญคนมาตรวจในจวน ในเรือน อาหารการกิน เสื้อผ
ลู่ทงฟังอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง ก็รู้ว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของฟู่จาวหนิงในอดีตแน่ก่อนหน้าที่พวกเขาจะตรวจสอบเรื่องในอดีตชัดเจน เขาเองก็จะไม่พูดไปเรื่อยฟู่จาวหนิงปล่อยลู่ทงไว้ก่อน ตรงไปหาผู้อาวุโสจี้ใครจะรู้ว่าพอเพิ่งมาถึงประตูก็เห็นผู้อาวุโสจี้แบกถุงออกมา ทำท่าเหมือนจะออกไปข้างนอกอย่างไรอย่างนั้น"ท่านอาจารย์ ท่านจะไปไหนหรือ?""ศิษย์รัก เจ้ามาได้พอดีเลย" ผู้อาวุโสจี้เห็นนางแล้วดีใจมาก "พันธมิตรโอสถส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าได้รับวัตถุดิบยามากองหนึ่ง ล้ำค่าอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ขายวัตถุดิบยายังบอกว่าพบกับสถานที่ที่วัตถุดิบยาชั้นยอดงอกขึ้นมาอีกด้วย ข้าต้องรีบไปดูเสียหน่อย""ที่ไหนหรือ?""สถานที่ยังไม่รู้ ข้าต้องกลับไปที่พันธมิตรโอสถก่อนรอบหนึ่ง เจ้าจะไปกับอาจารย์ด้วยไหม? เจ้ามาเข้าร่วมพันธมิตรโอสถใต้หล้าตั้งนานแล้ว แต่อาจารย์ก็ยังไม่เคยพาเจ้ากลับไปพบเจ้าพันธมิตรกับเหล่าผู้อาวุโสเลย"ฟู่จาวหนิงชะงักไปนางเองก็หวั่นไหวขึ้นมานิดๆแต่คิดๆ แล้วก็ส่ายหัว "ท่านอาจารย์ ท่านก็รู้ ว่าตอนนี้ข้ามีเรื่องที่ยังออกไปไหนไม่ได้ชั่วคราว เซียวหลันยวนทางนั้นน่ะ"ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจ
"ได้ เช่นนั้นก็ให้คนของจวนอ๋องเจวี้ยนอยู่ เช่นนั้นข้าไปก่อน เดิมทีเมื่อครู่ก็อยากจะไปหาเจ้าอยู่ แต่ตอนนี้เจ้ากลับให้ข้าต้องวิ่งวนไปรอบหนึ่งเสียแล้ว ไว้ข้าไปพันธมิตรโอสถถามถึงสถานที่นั้นแล้วจะเขียนจดหมายมาบอกเจ้า เจ้าลองดูว่าถ้าตอนนั้นว่าง ค่อยคิดว่าจะไปก็ได้"ผู้อาวุโสจี้อยากจะพาฟู่จาวหนิงไปจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะได้สอนสิ่งที่เจอระหว่างทางให้กับนางไปเลยแต่ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้ไปไหนไม่ได้เขาก็พอจะเข้าใจอยู่"ท่านอาจารย์ เช่นนั้นก็เดินทางปลอดภัยนะ""อืม ไปแล้ว"ผู้อาวุโสจี้จึงอาจากเมืองหลวงไปกลับมาพูดถึงทางเซียวหลันยวน เขาพาคนตรงไปที่วังหลวงก่อนหน้านี้ รถม้าของโหวจวิ้นอันขับเข้าไปในประตูวังแล้ว อันเหนียนติดตามอยู่ด้านหลัง พอเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าวังไปแล้วจริงๆ จึงรู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้องเพราะทั้งบ้านโหวจวิ้นอันอันที่จริงไม่ได้เข้าวังมานานมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมีช่วงหนึ่งที่ฮูหยินโหวจวิ้นอันกับฮองเฮาไม่ลงรอยกัน ฮองเฮาแม้จะไม่ได้คิดลงมืออะไรกับโหวจวิ้นอัน แต่เขาก็ได้ยินข้อมูลส่วนในมา ฮองเฮาเคยให้คนมาบอกกับโหวจวิ้นอันว่าไม่อยากจเห็นฮูหยินโหวอีกแล้วโหวจวิ้นอันบอกกับฮูหยิน ถ้าไม่เข้
นอกประตูมีเสียงตะโกนของอันเหนียนลอดเข้ามา"ข้ากำลังหงุดหงิด ให้เขาสงบปากแล้วไสหัวไป""องค์จักรพรรดิ ข้ามีเรื่องประหลาดจะมาแจ้งกับฝ่าบาท!"เรื่องประหลาด?องค์จักรพรรดิถูกประโยคนี้ดึงดุดไว้ทันที ผู้ตรวจการอันเองก็เป็นปฏิปักษ์กับเขาบ่อยครั้ง และเป็นคนที่เอาจริงเอาจังด้วย แล้วจะมีเรื่องประหลาดอะไรที่ต้องมาบอกเขากัน?หรือว่าจะมีเรื่องอะไรจริงๆ?เขากระแอมออกมาเสียงหนึ่ง "เอาล่ะ ข้าจะลองฟังดู ให้เขาเข้ามา"อันเหนียนรีบเดินเข้ามา พอเห็นองค์จักรพรรดิ ก็เอ่ยอย่างตื่นเต้นกับเขาขึ้นทันที "องค์จักรพรรดิ! ได้ยินว่านายท่านผังได้รับของประหลาดชิ้นหนึ่งส่งไปให้กับท่างไทเฮา! ข้าขอหยิบยืมสายตาของฝ่าบาทไปเปิดโลกหน่อยได้ไหม?""เจ้าพูดเรื่องอะไรออกมากัน?"องค์จักรพรรดิงงงันไปเมื่อครู่บอกว่ามีเรื่องประหลาดอยู่ที่หน้าประตูหรือ? ตอนนี้ทำไมกลายเป็นว่านายท่านผังมีของประหลาดส่งไปให้ไทเฮากัน?"นี่เจ้าเข้ามาในวังเพื่อดูผังอ้ายชิงส่งของขวัญให้กับไทเฮาหรือ?""ถูกต้อง องค์จักรพรรดิ นายท่านผังน่ะ ท่านเองก็เข้าใจตัวเขาอยู่กระมัง? คนที่ขี้งกขี้เหนียวขนาดนั้น ปีที่แล้วงานฉลองวันเกิดของฝ่าบาท นายท่านผังส่งอะไรม
ไทเฮาพอตะคอก ก็ทำให้นายท่านผังที่อยู่ด้านนอกตกใจสะดุ้งโหยงเขามองไปยังชายหนุ่มข้างๆ"พวกเจ้าอยากจะพูดอะไรกับไทเฮากันแน่?""นายท่านผังไม่ต้องตึงเครียด นี่ไม่ใช่เรืองแย่สำหรับไทเฮาและองค์จักรพรรดิ" ชายหนุ่มที่ตามมาข้างๆ เงยหน้าพูดขึ้น และก็เป็นฮู่เจียไท่ที่พวกของเซียวหลันยวนตามหามาหลายวันแล้วนั่นเอง"ไม่ใช่แค่พูดกับไทเฮาเท่านั้น พวกท่านยังคิดจะพูดอะไรกังองค์จักรพรรดิอีก?""นายท่านผัง อีกเดี๋ยวท่านก็จะรู้""ข้าเคยพูดไว้แล้ว ว่าข้าไม่ใช่คนที่เลอะเลือนไม่รู้อะไรเลยแบบในอดีตอีกแล้ว ข้าไม่อยากจะทำเรื่องเหล่านั้นกับพวกท่านอีกแล้ว"นายท่านผังยังพูดไม่ทันจบ ฮู่เจียไท่ก็ยื่นมือมากดบนบ่าของเขา ใช้กำลังภายในกดลงไป จนทำเอาบ่าเขาทั้งเจ็บทั้งชา ขยับไม่ได้ชั่วขณะฮู่เจียไท่กดเสียงลงต่ำ "ท่านคิดว่าเรื่องบางเรื่องนึกจะถอนตัวก็ถอนตัวได้หรือ? นายท่านผัง ท่านไร้เดียงสาเกินไปแล้ว"ในห้อง ไทเฮากำลังโกรธเคืองโหวจวิ้นอัน "ข้าบอกไปแล้วเมื่อตอนนั้น ไม่ว่าสิ่งที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ให้อายวนจะเป็นอะไร นั่นมันก็เป็นสิ่งของของเขา ใครก็ห้ามไปแตะต้องแย่งชิง นี่เป็นสิ่งที่ข้ารับปากไท่ซ่างหวงไว้ จะคอยดูแทนเขา""ใช
"ไร้สาระ นี่เจ้าพูดเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร!"ไทเฮาโมโหแล้วจริงๆ ถ้าองค์จักรพรรดิ คิดจะให้ใครไปเป็นข้าราชการก็ให้คนนั้นเป็นข้าราชการได้โดยที่ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น เช่นนั้นแผ่นดินนี้ก็คงเป็นแผ่นดินที่ใกล้จะล่มสลายไปแล้ว!คิดว่าควบคุมแคว้นหนึ่งมันเป็นเรื่องง่ายดายหรือไรกัน?"นี่มันโง่เขลาตรงไหน? ไทเฮา พวกเราเองก็ไม่เคยเข้าวังมาเพื่อขออะไรเลย ตอนนี้แค่ขอเงื่อนไขเล็กๆ นี้ ทำไมจึงทำไม่ได้กัน?" โหวจวิ้นอันกัดฟันพูดถึงอย่างไรตอนที่เข้ามาเขาก็คิดไว้แล้ว ไทเฮากับองค์จักรพรรดิจะต้องโกรธแน่ แต่หลังจากโกรธก็ควรจะรับปากเพื่อความรุ่งโรจน์ในภายหลัง เขาเองก็ต้องงัดกับแรงกดดันนี้"ต่อให้เจ้าอยากจะขอตำแหน่งข้ารชการ อย่าน้อยก็ควรจะขอเพื่อคนของตระกูลตนสิ?" ไทเฮาสูดลมหายใจลึก นางเองก็มองออกแล้ว โหวจวิ้นอันครั้งนี้ถ้าทำไม่สำเร็จจะไม่ยอมลดละแน่"คนผู้นี้สำหรับข้าแล้วสำคัญอย่างมาก พูดได้ว่าเป็นผู้มีบุญคุณเลยทีเดียว"คนที่หลังจากนี้สามารถทำให้เขากลายเป็นคนที่สูงส่งมั่งมี จะไม่สำคัญได้อย่างไรกัน?"โอ๋? ผู้มีบุญคุณ? เช่นนั้นก็พอเข้าใจได้ แล้วเป็นใครกัน?" ไทเฮาถาม"เขาอยู่ด้านนอกนี้ ไทเฮ
ถ้าหากเลือกระหว่างองค์จักรพรรดิและอ๋องเจวี้ยน คนมากมายคงคิดว่าไทเฮายืนอยู่ด้านองค์จักรพรรดิทางนี้ ถึงอย่างไรประชาชนก็ล้วนคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะดวงใจของไท่ซ่างหวงกับไทเฮาในอดีต เป็นลูกชายของผู้หญิงคนอื่นที่รับเข้ามาจากด้านนอกตอนนั้นไท่ซ่างหวงรักแม่ผู้ให้กำเนิดอ๋องเจวี้ยนมาก คนทั้งหมดล้วนคิดว่าในใจไทเฮาจะต้องสะกิดใจอยู่ สำหรับอ๋องเจวี้ยน นางจะต้องรังเกียจอยู่อย่างแน่นอนดังนั้นหลายปีมานี้ นางจึงไม่ถามไม่ไถ่ต่ออ๋องเจวี้ยน และไม่ได้ปกป้องเขาด้วยดังนั้นพวกของฮู่เจียไท่่จึงเลือกเข้ามากล่อมไทเฮา แล้วค่อยให้ไทเฮาไปกล่อมองค์จักรพรรดิทีละนิดทีละนิดฮู่เจียไท่ไม่รอให้ไทเฮาตั้งตัวติด เอ่ยต่อมาว่า"ไทเฮาอยากรู้ไหมว่าไท่ซ่างหวงทิ้งอะไรไว้ให้อ๋องเจวี้ยน? ตระกูลฮู่ของข้าปลายปีนี้ จะมากน้อยก็ล้วนได้ยินท่านผู้เฒ่าเอ่ยถึงเรื่องไท่ซ่างหวงในอดีต ไท่ซ่างหวงเคยกำชับเขาอะไร และหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนแต่งงานจะทำอะไร กระทั่งเพราะอะไรต้องรอให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานก่อนค่อยส่งสิ่งยืนยันให้เขา เรื่องเหล่านี้ข้ารู้ทั้งหมด"ฮู่เจียไท่มั่นใจมาก ไทเฮาจะต้องอยากรู้เรื่องเหล่านี้แน่ถึงอย่างไรไทเฮาตอนนั้นก็รังเกียจตัวตน
พระชายาเยว่รู้สึกว่า แม่นมเยว่อดทนอยู่ในวังมายี่สิบปี คงวางแผนงานใหญ่อะไรอยู่นางถึงแม้จะเคยเห็นฝีมือแม่นมเยว่มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าแม่นมเยว่เองก็ไม่ได้มีฝีมือมากขนาดนั้น ถ้าหากนางร้ายกาจจริง จำเป็นต้องมาซุ่มอยู่ในวังหลวงยี่สิบปี แต่ก็ยังทำเรื่องไม่เสร็จแบบนี้หรือ?แม่นมเยว่น่าจะเป็นยอดฝืมือในการใช้ยา ยิ่งไปกว่านั้นยังยอดเยี่ยมในด้านการสกัดยาชนิดนั้น ยาที่ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจเท่าไร ถึงอย่างไรก็ทำให้แค่ผู้ชายมีความสุขล่องลอยได้มากเท่านั้น ทำเรื่องใหญ่โตอะไรให้สำเร็จไม่ได้ตอนนี้ นางได้รับความโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิแล้ว ยังต้องคอยฟังแม่นมเยว่อยู่อีกหรือ?แต่ถ้าแม่นมเยว่ก็มีวิธีการที่จะให้องค์จักรพรรดิรับมือกับอ๋องเจวี้ยนจริงล่ะ?จะว่าไป ยาชนิดนั้นของแม่นมเยว่ ถ้าหากใช้กับอ๋องเจวี้ยน ไม่รู้ว่าจะมีประสิทธิผลไหมชั่วขณะหนึ่ง พระชายาเยว่คิดไปร้อยแปดจากนั้นนางก็ไปที่ครัวเล็ก ลงมือทำของว่างขึ้นมาถาดหนึ่ง เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งเนื้อแต่งตัวอย่างประณีต ยกของว่างเข้าไปในห้องหนังสือหลวงองค์จักรพรรดิเพิ่งฟังรายงานลับจบเขาให้คนจับตาดูคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของคนหลายคนในเมืองหลวง
"จุ๊ๆ เรื่องนี้..." พระชายาเยว่คิดๆ ยังไม่รู้จะจัดการอย่างไรก่อนดีชั่วคราว"เจ้ากลับไปอยู่ข้างๆ เฉินฮ่าวปิงก่อนแล้วกัน คอยจับตาดูนางไว้ มีเรื่องอะไรก็มาบอกกับข้า" พระชายาเยว่รู้สึกว่าตอนนี้ใช้งานชิวอวิ๋นไปก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว"่เจ้าค่ะ"รอจนชิวอวิ๋นออกไป พระชายาเยว่ก็เรียกคนเข้ามาคนคนนี้ดูแล้วปกติดี แต่ว่าการเดินเหินในวังนั้นไม่ถูกใครสังเกตหรือสนใจเลยเป็นแม่นมที่หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง"แม่นมเยว่ เมื่อครู่เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม?"แม่นมเยว่คนนี้ก้มหน้าต่ำเล็กน้อย เอ่ยขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ"ได้ยินแล้วพะย่ะค่ะ""เรื่องนี้ ควรจะเผยกับองค์จักรพรรดิไหม?""ได้พะย่ะค่ะ""แต่ถ้าองค์จักรพรรดิรู้ อาจจะกริ้วอย่างรุนแรงได้ อ๋องฉยงที่มีความคิดไม่ดีกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ถ้าลือออกไปจะไม่ดีกับราชวงศ์""เรื่องนี้มีประโยชน์กับการที่พวกเราจะสืบค้นระดับความอดทนของจักรพรรดิต่ออ๋องฉยงได้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะอะไรอ๋องฉยงจึงยังอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบให้ชัดเจน""เนื้อหาการคุยกันของอ๋องฉยงกับองค์จักรพรรดิทำไมจึงเปิดเผยไม่ได้" พระชายาเยว่ถอนหายใจ"ดังนั้น
"อะไรนะ?!"พระชายาเยว่พอได้ยินประโยคนั้นของชิวอวิ๋น ทิ้งมารยาทอะไรไปเกือบหมดจนแทบกระโจนขึ้นมา"เจ้าอย่ามาพูดมั่วซั่วนะ! ถ้าให้คนอื่นได้ยินข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"อันที่จริงนางเองก็ไม่อยากได้ชิวอวิ๋นแล้ว ดูแล้วเหมือนทำเรื่องอะไรก็ไม่สำเร็จ ไร้ประโยชน์สิ้นดีแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินชิวอวิ๋นพูดประโยคนี้ออกมา ก็ทำเอานางลืมเรื่องที่จะโยนชิวอวิ๋นทิ้งไปทันที"เป็นเรื่องจริง พระชายา เรื่องนี้ถ้าไม่ได้ยินเองกับหู ข้าน้อยจะกล้าแต่งขึ้นมาได้อย่างไรกัน?" ชิวอวิ๋นรีบพูด"อ๋องฉยงชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนรึ?""พะย่ะค่ะ ตอนที่ออกมาจากวังราชนิเวศน์ ข้าไปเจอที่หน้าประตูใหญ่"พระชายาเยว่คิดถึงใบหน้า รูปร่างของฟู่จาวหนิง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อ"ได้ยินว่าอ๋องฉยงเป็นพวกชื่นชอบสาวงาม ไม่เช่นนั้นพระชายาอ๋องฉยงคงไม่คุมเขาไว้อย่างเข้มงวด ราวกับอยู่ในคุกแน่นอน"เพราะพอหย่อนยาน ไม่ทันระวังหน่อย อ๋องฉยงก็อาจจะไปหลับนอนกับสาวสวยคนไหนแล้วก็คอยเลี้ยงไว้ด้านนอกแต่พระชายาอ๋องฉยงเข้มงวดเสียขนาดนั้นแล้ว อ๋องฉยงก็ยังมีอวิ๋นจูกับเฉินฮ่าวปิงลูกนอกสมรสสองคนนี้ได้ที่โตแล้วมีอยู่สองคน แล้วที่ยังไม่โตล่ะ? อธิบายได้ว่าอ๋อง
"ข้าต้องการวัตถุดิบยาเหล่านี้เดิมทีก็จะให้นางส่งไปที่เมืองเจ้อ แล้วนางปฏิเสธเอง เดิมทีนี่เป็นความคิดของข้า! ท่านบอกว่าข้ารับมือไม่ไหว นางเองก็ไม่ใช่ว่าพึ่งพาคนอื่นหรือ ก็แค่เพราะนางแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนที่มีอำนาจ! ท่านให้นางเอาอ๋องเจวี้ยนให้ข้าสิ! ถ้าหากข้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเองยังทำได้ดีกว่านางเสียอีก!"ต่งฮ่วนจือถูกเสียงแหลมของนางแผดใส่จนปวดหูไปหมดแล้วเขามองอย่างตกตะลึงไปทางเฉินฮ่าวปิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นคนแบบนี้"เจ้าคิดว่าที่ศิษย์น้องหญิงมีความสามารถขนาดนี้ เป็นเพราะแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนหรือไรกัน?""แล้วไม่ใช่หรือ? นางก็แค่พึ่งพาอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน ด้านหลังมีต้นไม้ใหญ่ให้พักพิงร่มเย็น! ถ้าหากไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน ตอนนั้นที่นางถอนหมั้นกับรัฐทายาทเซียวไปก็คงจะเอาตัวไม่รอดแล้ว ต่อมานางจะได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนหมอจนเข้าพันธมิตรโอสถได้อย่างไรกัน?!"ต่งฮ่วนจือมองนางลึกๆ ส่ายหัวถอนหายใจ"บนโลกนี้ไม่มีรัฐทายาทเซียวอีกแล้ว"ขนาดรัฐทายาทเซียวไม่อยู่แล้ว ก็ยังไม่รู้หรือ?"ช่างเถอะ วันนี้เจ้าเป็นท่านหญิงไปแล้ว ข้าก็แค่ประชาชนธรรมดา ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ขอตัวแค่นี้
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง