พวกเขาออกหาสิ่งของตามรูปร่างปิ่นปักผมที่เขาพูดมาชิ่งอวิ๋นเซียวหัวเราะแหยขึ้นมา หน้าแดงไปหมด "ข้า ข้าเองก็คิดไม่ถึงไปชั่วขณะ เพราะขลุ่ยหยกมันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือสิ่งยืนยัน ดังนั้นข้าจึงเอาแต่คิดจะหาสิ่งยืนยัน ตัวข้าเองก็ลืมไปเลยว่าซ่อนมันไว้ในขลุ่ยหยก"ทุกคนหมดคำจะพูดขึ้นพร้อมกันอย่างนี้ก็ได้หรือ?เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิง "เห็นไหม? จะมองคนสักคนห้ามมองแต่ภายนอก มีคนบางคนหน้าตาราวกับเทพเซียน แต่ธาตุแท้ก็เป็นคนโง่ๆ คนหนึ่ง"ฟู่จาวหนิงทนไม่ไหว หัวเราะพรืดออกมา"ท่านไปพูดกับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งแบบนั้นได้อย่างไร?""ข้าไม่ได้พูดถึงเขา นี่เจ้าเป็นคนพูดนะ" เซียวหลันยวนตอบชิ่งอวิ๋นเซียวร้องเชอะ "เอาเถอะ ข้าโง่ข้าก็ยอมรับ แต่ว่า อ๋องเจวี้ยน สิ่งยืนยันของข้ามอบให้ท่านแล้ว ก็ถือว่าข้าช่วยเหลือท่านครั้งใหญ่แล้วกระมัง? ท่านต้องเก็บไว้สักพัก ข้ายังไม่อยากกลับไป""ชิงอี จัดห้องพักแขกให้เขาหน่อย" เซ๊ยวหลันยวนเองก็ไม่ใจแคบ "แล้วก็ ไปหาคนตระกูลฮู่ด้วย ให้พวกเขาพรุ่งนี้ตอนเช้านำสิ่งยืนยันมามอบให้ด้วย""ขอรับ""อ๋องเจวี้ยน ผู้นำตระกูลฮู่มาที่เมืองหลวงเกือบเดือนแล้ว เขายังไม่นำสิ่งยืนยันมามอบ
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะให้พวกเขาได้รู้หน้าตาของสิ่งยืนยันเลยเซียวหลันยวนมองฮู่เจียไท่ ขาดูแล้วเป็นคนซื่อสัตย์มา แต่อันที่จริงจะซื่อสัตย์เพียงไหนใครก็ไม่อาจรู้อย่างน้อยจากที่เซียวหลันยวนเห็น เขาพูดมาเช่นนี้ไม่ได้ดูซื่อสัตย์เอาเสียเลย"แล้วเจ้ามาหาคนถึงจวนอ๋องเจวี้ยน เพราะสงสัยว่าข้าจะเอาตัวผู้นำตระกูลฮู่ไปซ่อนหรือ?""ไม่ไม่ไม่ ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้ว แน่นอนว่าข้าไม่กล้าสงสัยท่านอ๋องเช่นนี้ เพียงแต่ท่านพ่อในเมื่อบอกว่าจะมาจวนอ๋องเจวี้ยนเพื่อส่งสิ่งยืนยัน เช่นนั้นจึงทำได้เพียงมาถามจวนอ๋องเท่านั้น""ผู้ดูแล วันนี้เห็นผู้นำตระกูลฮู่บ้างไหม?" เซียวหลันยวนถามผู้ดูแล"รายงานท่านอ๋อง ไม่เห็นเลยขอรับ""เรียกทหารที่ออกลาดตระเวณในวันนี้มาให้หมด""ขอรับ"ทหารที่ออกลาดตระเวณวันนี้ถูกเรียกมาทั้งหมดแล้ว เซียวหลันยวนพูดต่อหน้าฮู่เจียไท่ ถามสถานการณ์กับพวกเขา"รายงานท่านอ๋อง ข้าน้อยรับผิดชอบลาดตระเวณด้านนอกจวนอ๋อง วันนี้ไม่มีคนนอกเข้าใกล้จวนอ๋องเลย ไม่มีใครเข้ามาในอาณาเขตลาดตระเวณของพวกข้าเลย""ท่านอ๋อง พวกเรารับผิดชอบลาดตระเวณในจวน ในจวนวันนี้ไม่เห็นคนนอกเข้าใกล้จวนอ๋องเลย" ทหารอีกคน
"สิ่งยืนยันของปรมาจารย์ฉือเชินก็อยู่กับข้าแล้ว แล้วสิ่งนี้ก็จะเอามาไว้กับข้าอีก ท่านไม่กลัวว่าข้าจะไปหาอีกชิ้นของผู้นำตระกูลฮู่ แล้วรวมสิ่งยืนยันจนครบสามชิ้นนำไปแลกสิ่งของมาก่อนหรือ?""ไม่กลัว"เซียวหลันยวนตอบกลับแบบแทบจะไม่คิด"เพราะอะไร?" ฟู่จาวหนิงไม่เข้าใจ"หนิงหนิง จะมากน้อยข้าก็เข้าใจตัวเจ้าอยู่นะ ไม่ว่าระหว่างพวกเราจะมีอดีตกับความยุ่งเหยิงแบบไหน คุณสมบัติของตัวเจ้าเองก็กางแผ่อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว เรื่องบางเรื่องเจ้าเองก็ไม่สนใจที่จะทำหรอก"ฟู่จาวหนิงกัดริมฝีปาก "เชอะ ข้ากลับแล้ว"นางหมุนตัวเดินออกมานี่มาพูดให้นางหวั่นไหวประหลาดๆ แล้วยังมาเรียกนางว่าหนิงหนิงอีก?พอเรียกนางหนิงหนิงทำให้ในสมองนางคิดเรื่องที่ทั้งสองคนพัวพันกันในห้องอาบน้ำก่อนหน้านี้ขึ้นมาตอนที่เกิดอารมณ์รักเขาจะเรียกหนิงหนิงเสียงทุ้มต่ำหลังจากออกไปลมหนาวก็โถมเข้ามา ทำให้ใบหน้าร้อนผะผ่าวหน่อยๆ ของฟู่จาวหนิงอุณหภูมิลดลงทันทีนางตบๆ ที่แก้ม และไม่รู้ว่านางกับเซียวหลันยวนตอนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกันแน่แต่ว่าถัดจากนี้จะเป็นอย่างไรพวกนางก็ยังไม่รู้ ทำได้เพียงเดินไปทีละก้าวๆ เท่านั้นฟู่จาวหนิงกระชับผ้าคลุมให
ฟู่จาวหนิงรีบปีนขึ้นกำแพง ข้ามกำแพงอย่างรวดเร็ว กระโดดเข้าไปในเรือนเล็ก คล่องแคล่วว่องไวสืออีทำได้แค่คุ้มกันอยู่ด้านนอกฟู่จาวหนิงเข้าไปในเรือน รีบเดินไปห้องข้าง ประตูเพิ่งจะงับลงมานางแนบตัวอยู่ด้านนอก ได้ยินการเคลื่อนไหวในห้อง"เจ้าไปไหนมา ข้าแทบจะคอแห้งตายอยู่แล้ว เรียกอยู่ครึ่งค่อนวันไม่มีใครมารินน้ำให้ข้า"พอได้ยินเสียง ฟู่จาวหนิงก็เลิกคิ้ว เป็นไปตามคาด จมูกของนางยังใช้การได้ดีอยู่ เมื่อครู่ตอนที่ปัญญาชนเดินผ่านข้างตัวนาง นางก็ได้กลิ่นมากลิ่นหนึ่งและกลิ่นนั้นก็คือพิษที่ฉาบไว้ในอาวุธลับที่สืออียิงโดนพวกนางนั่นเอง หลังจากโดนพิษไปก็จะส่งกลิ่นนี้ออกมาบนตัวปัญญาชนคนนี้มีกลิ่นนั้นติดอยู่ จะต้องใกล้ชิดหรือสัมผัสกับไห่ฉางจวิ้นไม่ก็แม่นางเจี๋ยแน่นอน โอบๆ กอดๆ อะไรแบบนี้และพอติดตามมา ก็เป็นไปตามคาด ไห่ฉางจวิ้นนั่นเองฟู่จาวหนิงรู้สึกนับถือไห่ฉางจวิ้นหน่อยๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเอาแต่พัวพันกับซือถูไป๋หรือ? ตอนนี้พอซือถูไปจากไป นางก็หาเป้าหมายใหม่ได้แล้วเสียด้วย?"เสี่ยวจวิ้น ข้าเพิ่งจะออกไปซื้อยาให้เจ้า แต่ว่ายาที่เจ้าบอกมาเหล่านี้ราคาไม่ธรรมดาเลย ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังไปโรงย
มาป้ายสีนางเช่นนี้เลยหรือ!"ทำไมจะไม่ได้ทำ? กล่องเครื่องประดับข้าถูกรื้อค้นจนกระจัดกระจาย ด้านในของหายไปตั้งเยอะ ถ้าไม่ใช่เจ้าก็คือแม่นางเจี๋ยที่ไปด้วยกันกับเจ้าคนนั้นหรือ?"พอได้ยินชื่อแม่นางเจี๋ยที่ฟู่จาวหนิงพูดออกมา ไห่ฉางจวิ้นก็ตกตะลึงจนลืมโต้แย้งนางเห็นๆ อยู่ว่าในห้องไม่มีคน แล้วฟู่จาวหนิงรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ไปด้วยกันกับนางคือแม่นางเจี๋ย?"เจ้าหาแม่นางเจี๋ยเจอแล้วหรือ?" ไห่ฉางจวิ้นโพล่งออกมาจากอาการสั่นสะเทือนตกตะลึงปัญญาชนมองนางอย่างตะลึงเช่นกันนี่ไม่ใช่ว่านางยอมรับแล้วหรอกหรือ?เข้าไปห้องของคนอื่นเพื่อขโมยของกับคนที่ชื่อแม่นางเจี๋ยคนนั้นน่ะนะ?เขาเองก็ตกตะลึงไปแล้วเช่นกัน!หญิงสาวที่หน้าตางดงามขนาดนี้ แต่เป็นหัวขโมยอย่างนั้นหรือ!"คุณชาย นางเป็นภรรยาผู้น้อยของท่านหรือ? เช่นนั้นหลังจากที่ข้ารายงานกับทางการ ท่านก็ต้องไปอธิบายกับจวนทางการให้ชัดเจนด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบคำพูดของไห่ฉางจวิ้น แต่หันไปพูดกับคุณชายถูกดวงตางามเช่นนี้ของนางจ้องมอง คุณชายก็รู้สึกว่ากระดูกของตนเองปวกเปียกไปเสียแล้วเขารีบโบกไม้โบกมือ "ไม่ๆๆ แม่นางเข้าใจผิดแล้ว นางไม่ใช่ภรรยาผู้น้อยของข้า
ฟู่จาวหนิงเดินถอยออกไปอย่างรวดเร็วหันหน้ามายิ้มให้ปัญญาชน บอกว่า "คุณชาย ได้ยินไหม? นางไม่ใช่แค่ขโมย แต่ยังเลี้ยงงูอีก้ดวย ท่านต้องระวังให้ดีเลยนะ"ปัญญาชนกับคนใช้พอได้ยินคำหนี้ก็ตกตะลึงหน้าเปลี่ยนสีกระทั่งหน้าตาที่งดงามของฟู่จาวหนิงก็ไม่กล้าคิดแล้ว รีบร้อนถอยกลับไปในห้อง ปิดประตูเสียงดังปัง ลั่นดาลสนิทหลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อแล้ว คิดจะเก็บของกันทั้งคืนแล้วย้ายออกไป กลัวว่าจะถูกไห่ฉางจวิ้นเอาเปรียบ ซึ่งนี่คือเรื่องหลังจากนี้ฟู่จาวหนิงมองประตูที่ลั่นดาลสนิท ร้องจุ๊ขึ้นสองเสียง จากนั้นก็มองไห่ฉางจวิ้น "ทำอย่างไรดี? ตอนนี้ไม่มีใครเก็บเจ้าไว้แล้วสินะ""เจ้า..." ไห่ฉางจวิ้นโมโหจนพูดไม่ออก"แล้วก็ พอเจ้าไม่มีไหมใจโลหิต งูหลังทองตัวนั้นก็ตายไปแล้ว กลับไปเผ่าโม๋ลั่วก็น่าจะลำบากอยู่กระมัง? แล้วเจ้ายังจะเป็นนักบุญหญิงได้อีกหรือ?""พรวด!"ไห่ฉางจวิ้นกระอักเลือดออกมาเป็นครั้งที่สามของวันนี้"ไอ๊หยา เจ้าวิตกจนใจเจ็บเลยหรือ น่าสงสาร แต่ว่าข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอกนะ ข้าเองก็มีเรื่องต้องไปก่อนแล้ว"ฟู่จาวหนิงหลังจากตีสุนัขตกน้ำจนสะบักสะบอมก็หมุนตัวเดินจากไป ไม่คิดจะสนใจอะไรไ
องค์จักรพรรดิแสร้งทำเป็นไม่สนใจ แต่อันที่จริงการบีบคั้นของเขาก็เผยออกมาแล้วตอนนี้ยังกลั้นหายใจรอคำตอบของเขาอยู่ ดูตึงเครียดมาก"ข้าไม่รู้""เฮ้อ!" องค์จักรพรรดิโมโหจนระบายออกมา "อายวน ในเมื่อเจ้าไม่รู้ แล้วจะช่างมันได้อย่างไรกัน? บางทีของเหล่านั้นอาจจะเป็นสมบัติแคว้นเจาของพวกเราก็ได้!""อื๋อ? แคว้นเจาของพวกเรา?" เซียวหลันยวนทวนซ้ำประโยคนี้มาอย่างล้อเล่นความหมายนี้ขององค์จักรพรรดิไม่ใช่ว่าชัดเจนมากแล้วหรือ?นี่คือคิดจะครอบครองมาเป็นของตนเองแล้วสินะ?แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับสมบัติแคว้นเจา? นั่นเป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ให้เขา"ข้าหมายถึงว่า บางทีของสิ่งนี้อาจจะล้ำค่ามาก" องค์จักรพรรดิอธิบายเสียงแห้ง"องค์จักรพรรดิควบคุมแผ่นดินอยู่ในกำมือ"เซียวหลันยวนตอบกลับด้วยประโยคนี้ไท่ซ่างหวงทิ้งบัลลังก์จักรพรรดิให้เขาแล้ว ให้เขาเป็นองค์จักรพรรดิของแคว้นเจา แผ่นดินล้วนเป็นของเขา ทำไม นี่ยังไม่พอใจอีกหรือ?องค์จักรพรรดิกระแอม ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อเหมือนกันเซียวหลันยวนพูดมาตรงๆ เช่นนี้ นี่มันเกือบจะบอกว่าเขาละโมบจนไร้ขีดจำกัดแล้ว"องค์จักรพรรดิถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ข้าจะขอตัวออกจา
ฟู่จาวหนิงพอเห็นจงเจี้ยนร้อนรนขนาดนั้น ก็ให้สืออีกดเขาไว้"เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว ไม่ต้องตื่นเต้น นอนลง!"จงเจี้ยนจึงนอนลงโดยไม่คิดจะลุกขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในท่าทางกังวลมากอยู่ "คุณหนู ผู้เฒ่าฟู่สี่ทั้งสองคนอยู่ในบ้านตระกูลฟู่เช่นนี้ ไม่ปลอดภัยเลยจริงๆ ด้วย ตอนนั้นนางจับข้าได้ในทันที ยิ่งไปกว่านั้นที่ลงมือก็ยังเป็นพิษที่ร้ายกาจขนาดนี้ ถ้าหากนาง"เขายังพูดไม่ทันจบ ฟู่จาวหนิงก็ถอนหายใจ"ข้ารู้แล้ว แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่าฟู่สี่จะเป็นคนลงมือ""นางไม่ใช่คนใบ้ นางตอนนั้นยังนัดพบกับฮูหยินหรงเยว่อยู่เลย ดังนั้น แขกที่ไปยังหอจันทร์หยาดที่ฮูหยินหรงเยว่เป็นคนเปิด จะเป็นสถานที่ดึงดูดสาวกของพวกนางใช่หรือไม่กัน?"พอจงเจี้ยนพูดออกมา ฟู่จาวหนิงใจสั่นกึก พูดเช่นนี้ก็น่าจะเป็นไปได้จริงๆ"ฮูหยินหรงเยว่ตอนนั้นเอาแต่พัวพันบิดาของเจ้า การจากไปของพ่อแม่เจ้า จะเกี่ยวข้องกับลัทธิเทพทำลายล้างไหมนะ?"ด้านนอกประตูมีเสียงเซียวหลันยวนดังขึ้นฟู่จาวหนิงหันหน้ามองออกไป ก็เห็นเขากำลังพาชิงอีเดินเข้ามา ทันใดนั้นก็ตกตะลึงไป"ท่านทำไมจู่ๆ ก็มาที่นี่กัน?""พระชายา ท่าอ๋องเพิ่งออกจากในวัง" ชิงอีบอก ถึงแม้เขาจะไม