แม่นางเจี๋ยกับไห่ฉางจวิ้นต่อให้เป้าหมายไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ แต่ตอนที่เห็นเครื่องประดับอัดแน่นอยู่ในกล่องทั้งสองคนก็ชะงักไปครู่หนึ่งพวกนางสบตากันผาดหนึ่ง ล้วนเห็นความหวั่นไหวและลังเลในใจขึ้นมาถึงอย่างไรถ้าหยิบของเหล่านี้ไป พวกนางก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับโจรเลยน่ะสิ! แต่ก็หวั่นไหวเหลือเกินฟู่จาวหนิงเห็นพฤติกรรมของพวกนางอยู่ในห้องเภสัช กลั้นหัวเราะไม่อยู่"รีบหาสิ่งยืนยัน!"แม่นางเจี๋ยถึงอย่างไรก็เป็นของตระกูลฮู่ ได้สติกลับมาก่อน และให้ไห่ฉางจวิ้นรีบไปหาสิ่งยืนยันฟู่จาวหนิงได้ยินคำพูดของพวกนางจึงเข้าใจแล้วว่าพวกนางมาหาอะไร สิ่งยืนยันหรือ? หรือว่าจะหาสิ่งยืนยันที่ชิงอวิ๋นเซียวทำหายนั่น?โดยใช้งูตัวนั้นหรือ?นางมองไปทางศพงูที่ตายบนโต๊ะตัวนั้นตัวงูดำสนิททั้งร่าง แต่กลางหลังของมันกลับมีสีทองอยู่แถบหนึ่ง เปล่งประกายอยู่ใต้แสง ดูแล้วเหมือนกับเป็นทองคำจริงๆนี่คือสิ่งที่พวกนางเรียกว่างูหลังทองหรือ?นางมองขลุ่ยหยก จู่ๆ ก็พบลวดลายที่เล็กละเอียดมากลายหนึ่ง ก่อนหน้านี้มองไม่เห็นฟู่จาวหนิงสองมือจับขลุ่ยหยก และออกแรงบิดที่ลายนั้น ขลุ่ยหยกก็หมุนขึ้นมา ด้านในกลวง ซ่อนปิ่นปักผมด้ามหนึ่งเอาไว
"ขอรับ""เช่นนั้นก็ดี เฮ้อ พวกนางสมควรโดนแล้ว" ฟู่จาวหนิงปรบๆ มือ "ไม่ต้องให้คนตามหรอก แต่ว่าส่งคนไปที่แจ้งจวนอ๋องเจวี้ยนหน่อย ให้พวกเขาเพิ่มการตรวจลาดตระเวณ แล้วก็ถามชิงอีดู ชิ่งอวิ๋นเซียวอยู่ที่ไหน บอกว่าข้าพรุ่งนี้จะไปที่จวนอ๋อง เชิญเข้าไปด้วย"ยังไงของนางก็ต้องส่งคืนไปก่อนอีกครึ่งคืนฟู่จาวหนิงก็หลับลงเป็นอย่างดี แต่ก็มีอีกหลายคนที่นอนไม่หลับไห่ฉางจวิ้นกับแม่นางเจี๋ยหลังจากกลับไปก็เริ่มตัวร้อน ทั้งสองคนเอาแต่พูดเพ้อ มึนๆ งงๆ แล้วยังรู้สึกเหมือนตัวเองถูกผีไล่อยู่ตลอดอย่างไรอย่างนั้น ประเดี๋ยวก็ร้องลั่นขึ้นมาชิงอีทางนั้นพอได้ข่าวจากทหารบ้านตระกูลฟู่ ก็เพิ่มการลาดตระเวณ ให้คนไปหาชิ่งอวิ๋นเซียว แต่ก็ไม่กล้าปลุกท่านอ๋องเดิมทีคิดว่าฟู่จาวหนิงจะกลับมาไว ดังนั้นตอนที่เซียวหลันยวนลุกขึ้นมา ชิงอีก็รีบแจ้งเรื่องเมื่อคืนนี้ออกไปใครจะคิดว่าเซียวหลันยวนพอได้ยิน หน้าก็เปลี่ยนสีไปทันที "มีคนลอบเข้าไปในห้องนาง? แล้วนางบาดเจ็บไหม?"ชิงอีตกตะลึง "ไม่เป็นไร ท่านอ๋อง พระชายาไม่เป็นอะไรเลย" ดังนั้นถึงสามารถให้สืออีออกมาส่งข่าวได้นั่นเองถ้าหากพระชายาเกิดเรื่อง เขาเมื่อครู่ก็ไม่รู้จะรายงานอย
"ท่านอ๋องจะต้องรอพระชายาอยู่แน่เลย""ชิ่งอวิ๋นเซียวมาหรือยัง?"ที่นางนัดคือชิ่งอวิ๋นเซียวนะ"ยังไม่มา แต่ได้ยินชิงอีบอกว่า เขาน่าจะอยู่ระหว่างทางกลับเมือง""กลับเมือง?"ฟู่จาวหนิงลูบจมูกอย่างเขินๆพอหาของในเมืองไม่เจอ ดังนั้นเลยออกไปหาที่นอกเมืองหรือ? เช่นนั้นชิ่งอวิ๋นเซียวเด็กคนนี้สมองก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไรแล้ว เห็นๆ อยู่ว่าพบกับนางในเมืองครั้งนั้นยังไปนั่งวางมาดหล่ออยู่บนหัวกำแพงอยู่เลย แต่นี่ลืมไปหมดแล้วหรือ?"ข้าจะไปเรือนเจียนเจียดูว่าเซียวหลันยวนมีเรื่องอะไร"หงจั๋วรีบถาม "แล้วข้าวกลางวันจะไปกินกันที่เรือนเจียนเจียได้ไหมเจ้าคะ?""ได้"ฟู่จาวหนิงมาถึงเรือนเจียนเจีย มองซ้ายมองขวาในเรือนไม่เจอคน แต่ในห้องข้างกลับมีการเคลื่อนไหว พอเดินไปไม่กี่ก้าวก็เจอเฝิ่นซิงถือถังน้ำออกมา"นี่ทำอะไรอยู่หรือ?""พระชายามาแล้ว!" เฝิ่นซิงร้องขึ้นอย่างเบิกบาน "ท่านอ๋องบอกว่าให้เก็บกวาดห้องนี้ให้ดี แล้วจัดการให้เป็นห้องหนังสือเสีย""ข้าไม่ได้ใช้หรอกนะ""ข้าจะมาใช้เอง" ด้านในมีเสียงเซียวหลันยวนลอดออกมาฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว เดินเข้าไปห้องนี้นางก่อนหน้าเคยเห็นแล้ว ไม่มีของอะไรอยู่เลย หลักๆ คือน
เฝิ่นซิงที่อยู่ข้างๆ ก็แอบปิดปากคิกคักขึ้นเสียแล้วพระชายายังจะถามอีกหรือ?ท่านอ๋องอยากมีเวลาอยู่กับพระชายาให้มากหน่อยชัดๆ หลังจากนี้ห้องหนังสือก็อยู่ด้วยกันแล้ว พระชายาเขียนตำรับยา ท่านอ๋องฝึกอักษร ดีจะตายไปนางคิดแล้วก็วาดภาพฝันแสนหวานเซียวหลันยวนกดนิ้วที่ข้างปากแล้วกระแอมขึ้นมา เปลี่ยนหัวข้อสนทนา "หิวแล้ว ออกไปหากินข้าวกันก่อน""ท่านหิวตั้งแต่เช้ามาจนถึงตอนนี้เลยหรือ?" ฟู่จาวหนิงเอียงตามองเขา"พูดให้ถูกหน่อยก็คือหิวตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้""ท่านอ๋องเมื่อคืนกินไปไม่กี่คำ ไม่สิ หลายวันนี้ความอยากอาหารของท่านอ๋องไม่ดีเอาเสียเลย" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้นข้างๆหวังว่าพระชายาจะสงสารท่านอ๋องบ้าง"ไม่อยากอาหาร? เหมือนว่าเขาดีขึ้นแล้วนี่นา" ฟู่จาวหนิงเดินไปข้างๆ เซียวหลันยวน ยื่นมือไปจับข้อมือเขา "เดี่ยวหมอเทวดาอย่างข้าจะถือโอกาสจับชีพจรตรวจอาการให้ระหว่างไปกินข้าวนี้"เซียวหลันยวนพลิกมือกลับไปจับข้อมือนาง เปลี่ยนเป็นจูงนางแทน"ไม่รีบ กินเสร็จแล้วค่อยตรวจ"เขาจูงมือนางเดินไปโถงเล็กอย่างสงบฟู่จาวหนิงถูกเขาดึงมือเดิน ก็มองเขา จากนั้นก็มองมือของทั้งสองคน รู้สึกอะไรบางอย่างไม่ค่อยถูกต้
"หรือว่าไม่มี?" ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามขึ้นอย่างตั้งใจ "เช่นนั้นท่านบอกข้าหน่อย ถ้าหากเจอตัวพวกเขาแล้ว ท่านเตรียมจะทำอย่างไร"เซียวหลันยวนนิ่งงันไปชั่วขณะ"มีอยู่สองความเป็นไปได้ หนึ่งคือตอนนั้นพวกเขาเองก็ถูกใส่ร้ายเช่นกัน เรื่องราวไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา อีกหนึ่งคือครั้งนั้นพวกเขาวางยาใส่ท่านจริงๆ"ฟู่จาวหนิงวิเคราะห์อย่างสงบ "แต่ว่าตอนนั้นท่านเองก็คงจะวิเคราะห์ไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง ว่าพวกเขาไม่มีแรงจูงใจในการทำร้ายท่านเลย""ถูกต้อง"เซียวหลันยวนเองก็ยอมรับแล้วพวกเขาไม่มีแรงจูงใจที่จะวางยาใส่เขา เพราะว่าตอนนั้นฟู่หลินซื่อมีลูกน้อย ฟู่จิ้นเชินเองก็เพิ่งจะเดินก้าวแรกในอนาคตที่รุ่งโรจน์ ตอนนั้นตระกูลฟู่ของพวกเขายังช่วยเหลือองค์จักรพรรดิ น่าจะไม่มีอะไรที่คุ้มค่าให้พวกเขาต้องทำเรื่องเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ หรือว่าจะถูกบีบบังคับแต่ต่อให้มีคนมาบีบบังคับ พวกเขาก็ไม่น่าจะใช่ตัวเลือกดีที่สุดที่จะทำเรื่องนี้นี่นาทั้งสองคนไม่มีวรยุทธ์เลย ฟู่หลินซื่อเองก็เป็นแค่หญิงสาวอ่อนโยนคนหนึ่ง ทำเรื่องเช่นนี้จะมาหานางทำไมกัน?เซียวหลันยวนไม่ได้โง่ขนาดนั้น ที่จะเอาแต่สงสัยตัวพวกเขาพอคิดถึงจุดนี้ ฟู่จา
ชิ่งอวิ๋นเซียวกว่าจะมาถึงจวนอ๋องก็เป็นช่วงบ่ายฟู่จาวหนิงตอนที่เห็นเขา สีหน้าเขาดูหดหู่หน่อยๆแต่ว่าพอเห็นเซียวหลันยวน ชิ่งอวิ๋นเหวียวก็ร้องเรียกขึ้นทันที "อ๋องเจวี้ยนอ๋องเจวี้ยน ข้าคิดออกแล้วว่าสิ่งยืนยันไปทำหายอยู่ที่ไหน! ครั้งหนึ่งข้าพบกับพวกนักเลงหัวไม้คิดจะปล้นชิงคนแก่คนหนึ่ง หลังจากนั้นก็คิดไม่ถึงว่ายาที่ชายชราคนนั้นสกัดออกมาจะร้ายกาจมาก ผงยาถุงหนึ่งก็เล่นงานพวกเขาจนล้มไปหมด!"แค่กๆฟู่จาวหนิงพอได้ยินถึงตรงนี้ก็แทบจะสำลักออกมาชิ่งอวิ๋นเซียวในที่สุดก็คิดออกแล้ว!ชายหนุ่มที่หน้าตาดีขนาดนี้ ดูแล้วสง่าราวกับเซียนขนาดนี้ แต่สมองกลับไม่ดีเอาเสียเลย ตอนนี้เพิ่งจะคิดออก"สกัดยาออกมาได้ร้ายกาจหรือ?"เซียวหลันยวนเหลือบมองฟู่จาวหนิง"หน้าตาเป็นอย่างไร?""ก็แค่คนแก่คนหนึ่ง" ชิ่งอวิ๋นเซียวพรรณนาออกมาเซียวหลันยวนมองไปทางฟู่จาวหนิงอีกครั้งภายใต้สายตาของเขา ฟู่จาวหนิงถอนหายใจหยิบขลุ่ยหยกออกมา ยื่นส่งไปตรงหน้าชิ่งอวิ๋นเซียว"ข้าเก็บมันได้""อ๋า?? อ๊าๆๆ! ขลุ่ยหยกของข้า! ของชิ้นนี้เลย!"ชิ่งอวิ๋นเซียวพอรัรบไป ก็ตื่นเต้นจนกระโดดเหยงๆเขาไม่คิดแม้แต่น้อย บิดขลุ่ยหยกเลานั้นต่อหน้าพว
พวกเขาออกหาสิ่งของตามรูปร่างปิ่นปักผมที่เขาพูดมาชิ่งอวิ๋นเซียวหัวเราะแหยขึ้นมา หน้าแดงไปหมด "ข้า ข้าเองก็คิดไม่ถึงไปชั่วขณะ เพราะขลุ่ยหยกมันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือสิ่งยืนยัน ดังนั้นข้าจึงเอาแต่คิดจะหาสิ่งยืนยัน ตัวข้าเองก็ลืมไปเลยว่าซ่อนมันไว้ในขลุ่ยหยก"ทุกคนหมดคำจะพูดขึ้นพร้อมกันอย่างนี้ก็ได้หรือ?เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิง "เห็นไหม? จะมองคนสักคนห้ามมองแต่ภายนอก มีคนบางคนหน้าตาราวกับเทพเซียน แต่ธาตุแท้ก็เป็นคนโง่ๆ คนหนึ่ง"ฟู่จาวหนิงทนไม่ไหว หัวเราะพรืดออกมา"ท่านไปพูดกับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งแบบนั้นได้อย่างไร?""ข้าไม่ได้พูดถึงเขา นี่เจ้าเป็นคนพูดนะ" เซียวหลันยวนตอบชิ่งอวิ๋นเซียวร้องเชอะ "เอาเถอะ ข้าโง่ข้าก็ยอมรับ แต่ว่า อ๋องเจวี้ยน สิ่งยืนยันของข้ามอบให้ท่านแล้ว ก็ถือว่าข้าช่วยเหลือท่านครั้งใหญ่แล้วกระมัง? ท่านต้องเก็บไว้สักพัก ข้ายังไม่อยากกลับไป""ชิงอี จัดห้องพักแขกให้เขาหน่อย" เซ๊ยวหลันยวนเองก็ไม่ใจแคบ "แล้วก็ ไปหาคนตระกูลฮู่ด้วย ให้พวกเขาพรุ่งนี้ตอนเช้านำสิ่งยืนยันมามอบให้ด้วย""ขอรับ""อ๋องเจวี้ยน ผู้นำตระกูลฮู่มาที่เมืองหลวงเกือบเดือนแล้ว เขายังไม่นำสิ่งยืนยันมามอบ
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะให้พวกเขาได้รู้หน้าตาของสิ่งยืนยันเลยเซียวหลันยวนมองฮู่เจียไท่ ขาดูแล้วเป็นคนซื่อสัตย์มา แต่อันที่จริงจะซื่อสัตย์เพียงไหนใครก็ไม่อาจรู้อย่างน้อยจากที่เซียวหลันยวนเห็น เขาพูดมาเช่นนี้ไม่ได้ดูซื่อสัตย์เอาเสียเลย"แล้วเจ้ามาหาคนถึงจวนอ๋องเจวี้ยน เพราะสงสัยว่าข้าจะเอาตัวผู้นำตระกูลฮู่ไปซ่อนหรือ?""ไม่ไม่ไม่ ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้ว แน่นอนว่าข้าไม่กล้าสงสัยท่านอ๋องเช่นนี้ เพียงแต่ท่านพ่อในเมื่อบอกว่าจะมาจวนอ๋องเจวี้ยนเพื่อส่งสิ่งยืนยัน เช่นนั้นจึงทำได้เพียงมาถามจวนอ๋องเท่านั้น""ผู้ดูแล วันนี้เห็นผู้นำตระกูลฮู่บ้างไหม?" เซียวหลันยวนถามผู้ดูแล"รายงานท่านอ๋อง ไม่เห็นเลยขอรับ""เรียกทหารที่ออกลาดตระเวณในวันนี้มาให้หมด""ขอรับ"ทหารที่ออกลาดตระเวณวันนี้ถูกเรียกมาทั้งหมดแล้ว เซียวหลันยวนพูดต่อหน้าฮู่เจียไท่ ถามสถานการณ์กับพวกเขา"รายงานท่านอ๋อง ข้าน้อยรับผิดชอบลาดตระเวณด้านนอกจวนอ๋อง วันนี้ไม่มีคนนอกเข้าใกล้จวนอ๋องเลย ไม่มีใครเข้ามาในอาณาเขตลาดตระเวณของพวกข้าเลย""ท่านอ๋อง พวกเรารับผิดชอบลาดตระเวณในจวน ในจวนวันนี้ไม่เห็นคนนอกเข้าใกล้จวนอ๋องเลย" ทหารอีกคน
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ