พันธมิตรโอสถใต้หล้าควบคุมการหมุนเวียนของวัตถุดิบยาถึงเกือบแปดส่วน ยิ่งไปกว่านั้น พันธมิตรโอสถใต้หล้ายังมีคนเปี่ยมความสามารถที่รู้จักวัตถุดิบยากและค้นหาวัตถุดิบยารวมถึงปรุงวัตถุดิบยาอยู่มากมายอีกด้วย ถ้าหากขาดยาอะไรไป สามารถไปหาพันธมิตรโอสถใต้หล้า พวกเขาจะจัดการหาให้เจ้าเองฃแน่นอน จำเป็นต้องมีเวลาและค่าตอบแทนด้วยผู้อาวุโสพันธมิตรโอสถใต้หล้าจี้ซินเว่ยก็คือคนที่รอบรู้เรื่องตัวยาและถนัดในการปรุงวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ ดังนั้นเขาจะไปยังแคว้นใดก็ล้วนได้รับการต้อนรับอย่างดี คนมากมายล้วนเคารพเขา ไม่กล้าผิดใจกับเขา กระทั่งหมอหลวงในราชวงศ์บางแคว้น เหล่าหมอเทวดา ก็ยังอยากจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเขาเลยถึงอย่างไร บางครั้งวิชาหมอสูงส่ง แต่ถ้าขาดวัตถุดิบยาไปก็ช่วยคนไม่ได้จี้ซินเว่ยชอบเขาไปหมกตัวอยู่แต่ในภูเขา หายาขุดยาปรุงยา หาตัวยากมากแต่วันนี้เขากลับปรากฎตัวที่นี่พวกรองขุนพลหลิวล้วนรู้สึกว่า ผู้อาวุโสจี้ไม่ได้มาหาฟู่จาวหนิงแน่นอน"หุบจันทร์ลับน่าจะมีวัตถุดิบยาอยู่ไม่น้อย ดังนั้นผู้อาวุโสจี้คงคิดจะขึ้นเขาไปเก็บยากระมัง"หมอเทวดาหลี่ร้องเชอะเย็นชา "อายุอานามขนาดนี้แล้ววันๆ ยังคิดแต่จะขึ้นเข
"อีกนิดเดียวแล้ว!""ฟู่จาวหนิงยังไม่กลับมา"รองขุนพลหลิวกับหมอเทวดาหลี่รอคนจนในใจลิงโลดมีคนมองไปทางอ๋องเจวี้ยน มีอยู่ไม่น้อยที่เห็นใจเขาคิดไม่ถึงว่างานแต่งงานใหญ่ที่กะทันหันของอ๋องเจวี้ยน ท้ายสุดจะไปไม่รอดฟู่จาวหนิงเป็นไปได้มากว่าจะตายอยู่ในเขาจันทร์ลับฟ้าแล้ว ต่อให้ยังไม่ตาย ออกมาก็คงไม่ทันอยู่ดี เดิมทีเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่ดีดี ตอนนี้กลายเป็นคว้าน้ำเหลวเสียแล้วคนทั้งหมดล้วนจ้องเขม็งไปที่ธูปที่เหลืออยู่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียว ก็จะไหม้หมดแล้วชิงอีเองก็กลั้นลมหายใจอย่างตึงเครียด จ้องเขม็งไปที่ถนนภูเขาทางเข้าอ๋องเจวี้ยนสายตาลึกทึมคนที่กล้ามาขวางรถม้ากลางถนนเพื่อจะมาเป็นพระชายาเขา มีฝีมือแค่นี้เองหรือ?"คึกคักขนาดนี้เลยหรือ? นี่มารอข้ากันหรือไร?"เสียงหญิงสาวใสกังวานจู่ๆ ก็ดังลอดมาจากต้นไม้ข้างๆ ทางเข้าภูเขาต้นหนึ่ง"ใครกัน?"คนทั้งหมดมองไปบนต้นไม้ ก็เห็นว่าบนงามไม้ขนาดใหญ่มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ ข้างๆ ยังมีตะกร้าหลังวางอยู่ใบหนึ่งนางเหมือนเพิ่งจะตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลอย่างไรอย่างนั้น นั่งตัวตรงขึ้นมา บิดขี้เกียจ"ฟู่จาวหนิง!"รองขุนพลหลิวร้องเสียงหลงขึ้นมา
"เอ๋? รองขุนพลหลิวท่านทำไมถึงมาสงสัยข้ากัน?"ฟู่จาวหนิงทำสีหน้าประหลาดใจ "ตอนข้ากลับมาฟ้ายังมืดอยู่เลยนะ กลางค่ำกลางคืน ข้ากลัวว่าจะทำพวกท่าตื่น แล้วก็ไม่รู้ว่าหลังจากออกมาตอนกลางคืนจะมีการตรวจสอบยาเลยไหม ยิ่งไปกว่านั้นข้าเองก็ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ดังนั้นเลยหาที่หลับนอนรอจนฟ้าสางแค่นั้นเอง""นี่ไม่ใช่แค่ว่านอนจนถึงตอนนี้ จนเกือบจะมาไม่ทันอยู่แล้วหรือไร แล้วท่านมาบอกว่าข้าจงใจได้อย่างไรกัน?"ท่าทีของฟู่จาวหนิง ทำเอารองขุนพลหลิวโมโหจนเข็ดฟันเขารู้สึกว่านางจงใจแน่ๆ แต่เขาก็ไม่มีหลักฐาน!"เอาล่ะ คนของพวกท่านก็มาครบแล้วใช่ไหม? เช่นนั้นตอนนี้ก็มาเริ่มตรวจสอบสมุนไพรที่ข้าขุดมาเลยดีไหม?"ฟู่จาวหนิงมาถึงข้างตัวอ๋องเจวี้ยนแล้วพอชำเลืองมอง ก็เห็นผู้อาวุโสจี้ที่อยู่ข้างๆ อ๋องเจวี้ยน นางตกตะลึงไป ตาเฒ่าจี้เปลี่ยนชุดแล้ว ดูแล้วอย่างกับผู้อาวุโสใหญ่ที่มีทั้งฐานะและตำแหน่งเลยผู้อาวุโสจี้ก็โบกมืออย่างดีใจให้นาง จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้วางที่ข้างปากทำท่าจุ๊ๆ ส่งสายตาให้นางศิษย์เอ๋ย ตอนนี้ยังไม่ต้องรู้จักกัน เดี๋ยวอาจารย์จะพูดแทนเจ้าเอง!เขาพาหมอมาไม่น้อยเลย"คุณหนูฟู่ขุดวัตถุดิบยามาครบสิบชนิดไห
ฟู่จาวหนิงพยักหน้า ปลดตะกร้าหลังวางลง เดินมาที่หน้าโต๊ะยาว นำเอาวัตถุดิบยาออกมาคนทั้งหมดล้วนเดินตามเข้ามายืนอยู่ข้างโต๊ะยาว ดวงตามองตามการเคลื่อนไหวของนางวัตถุดิบยาชนิดแรกที่ฟู่จาวหนิงหยิบออกมาเป็นพืชที่ดูคล้ายวัชพืชป่ากอหนึ่งชิงอีเองก็พุ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน อ๋องเจวี้ยนชะงักนิดหนึ่ง แต่ก็ยังลงจากรถม้าค่อยๆ เดินเข้ามา เขาเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง มองเจ้าช่อนั่น..."วัชพืชป่านี้เรียกว่าอะไร?"ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเขาผาดหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือผลักเขา"ท่านอย่าเข้ามาใกล้นัก"อ๋องเจวี้ยนตกตลึง นางผลักเขาหรือ?นางกล้าผลักเขา!คนอื่นพอเห็นการกระทำนี้ของฟู่จาวหนิงก็ถลึงตาโตขึ้นมาเช่นกัน"หญ้าสมุนไพรเหล่านี้มีบางส่วนมีพิษอยู่ ถ้ายังไม่ทำการปรุงสกัดจะส่งปราณพิษออกมา ท่านสุขภาพอ่อนแอห้ามเข้าใกล้"ฟู่จาวหนิงอธิบายขึ้นอย่างหวังดี"ถุด"หมอเทวดาหลี่ก็ประชดประชันขึ้นทันที "พูดอย่างกับเข้าใจอย่างนั้น ถ้าหากขุดเอาสมุนไพรพิษขึ้นมา เจ้ายังจะกลับมาได้อีกหรือ?"จะบอกว่านางรู้วิธีหลบเลี่ยงปราณพิษหรือไรกัน?หรือจะบอกว่านางเป็นพวกพิษร้ายแทรกไม่เข้า? ตลกตายล่ะ ขู่เก่งเสียจริง"ท่านทำไม่ได้ ไม่
"ไม่ถูกสิ นี่ไม่ใช่หลินจือธรรมดา เห็นประกายแสงสีม่วงที่แผ่ออกมาจากตัวดอกหลินจือไหม? นี่เป็นไปได้มากว่าจะเป็นหลินจือม่วงที่งอกออกมาจากตอไม้ที่เป็นวัตถุดิบยา! หาได้ยากมาก ของดีเลยทีเดียวเชียว""นี่คือจื่อฉิน แล้วก็ยังมีเชียนมู่อิงอีก!"ฟู่จาวหนิงรู้ขึ้นมาจากในชื่อยาที่พวกเขาเรียก วัตถุดิบยาเหล่านี้มีชื่อบางส่วนที่แตกต่างกับโลกปัจจุบันแต่ว่าไม่ต้องเครียด นางล้วนรู้จักทั้งหมด และล้วรู้ว่ามีผลทางยาแบบใด ส่วนชื่อของวัตถุดิบยาเหล่านี้ในแคว้นเจา จะช้าเร็วนางก็ต้องรู้อยู่แล้วอ๋องเจวี้ยนมองพวกหมอกับหมอหลวงเหล่านี้ที่ดูคลั่งกันขึ้นมา จากนั้นก็โน้มตัวมองไปยังตะกร้าหลังของฟู่จาวหนิงแต่ว่าฟู่จาวหนิงครู่ต่อมาก็จับการเคลื่อนไหวของเขาได้ รีบซ่อนตะกร้าหลังไปไว้ด้านหลังทันที ไม่ยอมให้เขาดูอ๋องเจวี้ยน "..."กันเขาอย่างกับกันขโมยขโจรอย่างไรอย่างนั้น?"เป็นอย่างไร วัตถุดิบยาเหล่านี้ที่ข้าขุดมา ได้มาตรฐานหรือไม่?" ฟู่จาวหนิงถามนางมองไปทางหมอเทวดาหลี่ สีหน้าหมอเทวดาหลี่ดูขรึมลงอย่างขชัดเจน"ของเหล่านี้""เฮอะ!" ผู้อาวุโสจี้ตะคอกขึ้นมา "สกุลหลี่เอ๋ย คนใหญ่โตอย่างข้ายืนอยู่นี่ ถ้าเจ้าจะลืมตาพล่า
การทดสอบครั้งนี้ ตามกฎแล้วฟู่จาวหนิงต้องไปค้นหาวัตถุดิบยาคนเดียว แต่นางมีฝีมือขนาดนั้นไหม?ตาเฒ่าจี้ถลึงตามองไปทางรองขุนพลหลิว"นางไม่ใช่ออกมาคนเดียวหรือไรกัน?""ผู้อาวุโสจี้ นี่พิสูจน์ไม่ได้ว่าของพวกนี้นางขุดมาคนเดียวนะ" รองขุนพลหลิวผายมือออก"ในวังส่งพวกเจ้ามาคุ้มครองที่ทางเข้านี้ เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าไป แล้วพอไม่มีคนอื่นขึ้นภูเขา แล้วจะมีคนมาช่วยเหลือนางหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถามขึ้นมาอีกรองขุนพลหลิวมองไปทางอ๋องเจวี้ยน"เรื่องนี้ก็พูดยาก พวกเราแค่คุ้มกันทางเข้านี้ แต่คนบางส่วนก็สามารถลอบส่งคนเข้าไปทางอื่นก็ได้จริงไหม"อ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงเรียบ "ดังนั้น ตอนที่เจ้าพูดประโยคนี้แล้วมองข้า คือเจ้ากำลังสงสัยข้าสินะ?""ข้าน้อยมิกล้า"รองขุนพลหลิวถึงแม้จะพูดว่าไม่กล้า แต่สีหน้าของเขากลับพุ่งชี้มาที่เขาอย่างชัดเจนเขามั่นใจว่าตอนนี้อ๋องเจวี้ยนก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แต่พริบตาต่อมา กลับเห็นว่าเบื้องหน้ามีแสงเย็นสว่างวาบรองขุนพลหลิวตกตะลึง รีบร้อนคิดจะถอยหนี แต่ก็ไม่ทันแล้ว กระบี่เล่มหนึ่ง แทงเข้าไปที่ท้องของเขาเลือดทะลักออกมา"อ๊า!" คนที่ยืนอยู่ข้างๆ รองขุนพลหลิวตกใจจนหน้าถอดสี
คนทั้งหมดถูกการกระทำของนางทำให้ตกตะลึงอีกแล้ว ทุกคนล้วนอ้าปากค้างในดวงตาอ๋องเจวี้ยนเองก็อดมีรอยยิ้มขึ้นไม่ได้ป่าเถื่อนขนาดนี้เชียว?"ฟู่จาวหนิง!" รองขุนพลหลิวเดิมทีก็เจ็บจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว พอลมล้มพื้นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าเลือดในบาดแผลเหมือนจะไหลออกมาหนักกว่าเดิมแล้วฟู่จาวหนิงมองสูงลงต่ำ เอ่ยขึ้นเย็นชา "ถ้าอยากรอดก็หุบปากเสีย"รองขุนพลหลิวงงงันจนไม่พูดอะไรอีก"ตาเฒ่าจี้มาช่วยหน่อย" ฟู่จาวหนิงมองอ๋องเจวี้ยน จากนั้นจึงหาอีกรอบมองไปทางผู้อาวุโสจี้ "ช่วยฉีกเสื้อผ้าตรงแผลเขาหน่อย""ได้เลยได้เลย!"ผู้อาวุโสจี้กุลีกุจอตรงเข้ามา ยื่นมือคว้ากรรไกลเล็กจากถุงหนังจากเอวออกมาด้ามหนึ่ง จัดการตัดเสื้อผ้าของรองขุนพลหลิวออกพอตัดออก กองยาในมือฟู่จาวหนิงก็ "แผละ" ลงไปบนแผลของเขา จากนั้นก็ใช้มือกดเอาไว้ครู่หนึ่งรองขุนพลหลิวแทบจะเจ็บเจียนตายหญิงสาวคนนี้ป่าเถื่อนเสียจริง!แต่ว่า เลือดก็หยุดลงอย่างรวดเร็วจริงๆ"เลือดหยุดแล้วจริงๆ""ผลของยาดีมาก ระดับของวัตถุดิบยาเหล่านี้ล้วนดีมากจริงๆ"หมอเหล่านั้นล้วนตื่นเต้นจนวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา จนลืมความตกตะลึงพรั่นพรึงที่อ๋องเจวี้ยนแทงกระบี่ใส่คนอ
หมอเทวดาหลี่กับหมอหลวงคนอื่นสบตากันอย่างจับใจผาดหนึ่ง ทำได้เพียงยอมรับผลสรุปนี้"ถือว่าคุณหนูฟู่ผ่านแล้ว""ยินดีด้วยคุณหนูฟู่"ตาเฒ่าจี้เองก็หัวเราะร่า เหล่มองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่ง "ไม่ถูกสิ ตอนนี้ต้องเรียกพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้วไม่ใช่หรือ?"หึ ถึงแม้เขารู้สึกว่าศิษย์ของตนเองไปจับคู่กับอ๋องเจวี้ยนจะดูน่าเสียดายหน่อย แต่แต่งก็แต่งไปแล้ว คารวะฟ้าดินไปแล้วด้วย เช่นนั้นก็ต้องทำตำแหน่งพระชายานี้ให้มั่นคงเสียหน่อย!"ยินดีด้วยกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน"คนทั้งหมดล้วนเปลี่ยนคำเรียกกันเสียงแผ่วฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนโดยสัญชาตญาณอ๋องเจวี้ยนไม่พูดอะไรชิงอีกลับหน้าชื่นตาบาน ตะโกนไปทางฟู่จาวหนิงอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ยินดีด้วยพระชายา!"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับ โค้งตัวลงแบกตะกร้าหลัง "ขึ้นไปบนรถม้าได้ไหม?"นางอยากรีบกลับบ้านตระกูลฟู่แล้วนางสกัดยาลูกกลอนมาขวดนึงบนภูเขา จะกลับไปให้ท่านปู่กินก่อนอ๋องเจวี้ยนยังไม่เอ่ยปาก ตาเฒ่าจี้ก็เรียกขึ้นอย่างเบิกบาน "มานั่งของข้า มานั่งของข้านี่! พวกเรามาคุยเรื่องวัตถุดิบยากันบนรถม้า""ได้เลย"ฟู่จาวหนิงไม่ลังเล เดินไปทางรถม้าของเขาทันทีตาเฒ่า
ฮูหยินเฉิงถึงอย่างไรก็ไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงจริงๆนี่เป็นหญิงสาวที่เกินความเข้าใจที่นางเคยรู้จักมาจริงๆ กิริยาท่าทางก็ตรงไปตรงมา ชอบก้าวเท้ายาวๆ เหมือนสายลม เวลาหัวเราะก็เห็นฟัน เสียงหัวเราะก็ไม่มีปิดบังตอนที่กินก็ไม่มีการยับยั้งควบคุม ปริมาณการกินของฟู่จาวหนิงยังมากกว่านางและองค์หญิงใหญ่รวมเข้าด้วยกันอีก บางครั้งกระทั่งแอบใช้มือขโมยกินด้วย พอถูกเซียวหลันยวนจับได้ก็ทำหน้าทะเล้นใส่ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างทางพอเห็นอะไรที่นางสนใจก็จะหยุดลง บางครั้งก็หายเข้าไปในป่าครึ่งค่อนวันไม่รู้ไปทำอะไรทั้งที่บอกว่าจะเร่งเดินทาง แต่กลับถูกนางถ่วงเอาไว้หลายวันเซียวหลันยวนเองก็ยังตามใจนาง"ไม่รู้ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนเคยเห็นของทะเลพวกนั้นจริงไหม"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อครู่ตอนได้กลิ่นคาวทะเล นางยังรู้สึกรับไม่ค่อยได้เลยของที่เหม็นขนาดนั้นจะเอาเข้าปากได้อย่างไรกัน?นางรู้สึกคาดหวังให้อ๋องเจวี้ยนเห็นฟู่จาวหนิงตอนที่ทำของเหล่านี้ แล้วเกิดความรังเกียจและตกใจขึ้นมาฮูหยินเฉิงระหว่างทางก็ดูไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงมาก แต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด
"แม่นาง เจ้าอยากจะซื้ออาหารทำเลหรือ? เจ้าพวกนี้ไม่เหมือนกับปลาในแม่น้ำที่พวกเรากินกันปกตินะ เจ้าอาจจะปรุงมันไม่เป็นด้วยซ้ำ" มีคนพิจารณาฟู่จาวหนิงกับเสี่ยวเยว่"เมื่อครู่เหมือนจะเห็นว่าฮูหยินเฉิงกลับมาแล้ว?" มีคนกลับสังเกตเห็นถึงจุดนี้"ฮูหยินเฉิงกลับมาแล้วหรือ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็นัดเหล่าว่านได้แล้วใช่ไหม? งั้นก็ซื้อไว้หน่อย ให้เหล่าว่านช่วยเราจัดการปลาปูให้หน่อย!"คนที่ร้องขึ้นมาอย่างลิงโลดนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากกินมาตลอด"คุณหนู ท่านคงไม่ได้คิดจะซื้อพวกนี้หรอกกระมัง?" เสี่ยวเยว่เห็นฟู่จาวหนิงมองปูในตะกร้าไม้ไผ่ นางเหมือนรู้ว่านี่คือปู แต่ไม่เหมือนกับปูแม่น้ำที่เคยเห็นมา ก้ามใหญ่กว่ากันมาก ยิ่งไปกว่านั้นบนตัวยังเป็นสีฟ้าอีกเปลือกของเจ้านี่ดูเหมือนจะแข็งเอามากๆ นางเองก็จัดการไม่เป็น ถึงอย่างไรก็ไม่เคยเห็นมาก่อน"สิ่งนี้ อร่อยมากเลยนะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ิคดว่าจะมาเห็นปูทะเลที่นี่ ข้างๆ ยังมีกุ้งมังกรตัวใหญ่อีกด้วยเจ้าพวกนี้ไปเอามาจากไหนกันเนี่ย?ในทะเลแคว้นเจามีเจ้าพวกนี้ด้วยหรือ?แต่หลังจากได้เห็นนางก็น้ำลายสอเสียแล้วแล้วยังมีหอยทะเลอีกด้วย เอามาทำพริกเกลือนี่อร่อยจัดๆ เลย
เมืองเล็กที่ชื่อจื่อซวีแห่งนี้มีลักษณะกระจายตัวเป็นอักษร 品ด้านหน้าส่วนใหญ่เป็นร้านค้าและตลาด และยังมีคนที่คอยดูแลรถม้าให้อาหารม้าโดยเฉพาะอีกด้วย พื้นที่ก็ไม่เล็กเลย ค่อนข้างคึกคักทีเดียว พอเห็นรถม้าหลากหลายรูปแบบและผู้คนที่เดินไปเดินมา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็รู้สึกว่าแปลกใหม่ดี"ท่านน้าเฉิง ระหว่างทางท่านบอกอยู่ตลอดว่าเป็นเมืองเล็กๆ ข้าก็คิดว่าจะเล็กมากๆ คิดไม่ถึงว่าจะคึกคักขนาดนี้"โดยเฉพาะฮูหยินเฉิงยังบอกนางอีกว่า ตลาดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเมืองเล็กนี้ ส่วนที่พักของคนยังอยู่ด้านหลัง"สถานที่นี้เดิมทีก็ไม่ได้คึกคักขนาดนี้ หลายสิบปีมานี้ ยอดเขาโยวชิงค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้น คนก็แวะมามากขึ้น นอกจากนี้ ถนนที่ลอดใต้ยอดเขาโยวชิงเองก็ถูกขยายออกมาแล้ว คนที่สัญจรไปมาก็มากขึ้น พอมาถึงจื่อซวีก็เป็นจุดพักที่เหมาะเหม็งพอดี""ลอดยอดเขาโยวชิงออกไปที่ใดหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถามฮูหยินเฉิงยิ้มๆ ตอบว่า "ไปถึงสถานที่หนึ่งที่ชื่อว่าโป๋ไห่ โป๋ไห่ทางนั้นหลายปีนี้ก็คึกคักขึ้นมาเช่นกัน มีการซื้อขายของทะเลบางอย่างที่นั่น ดังนั้นพวกนักชิมบางคนจึงไปที่เมืองโป๋ไห่ ที่นั่นสามารถได้กินอาหารทะเลที่สถานที่อื่
แต่ไม่ว่าฮูหยินเฉิงจะมีความเห็นแค่ไหน เส้นทางถัดจากนี้ โอกาสที่พวกนางจะได้คุยกับเซียวหลันยวนก็มีน้อยถึงน้อยมากบางครั้งขบวนเพิ่งสั่งพัก ตอนที่พวกนางลงจากรถม้า ก็รู้ว่าเซียวหลันยวนพาฟู่จาวหนิงไปหาน้ำใกล้ๆ แล้วบอกว่าหาน้ำ อันที่จริงคือสองสามีภรรยาแค่เลี่ยงคนมากๆ หนีออกไปเที่ยวเล่นต่างหากบางครั้งพวกเขาจะเอาผลไม้ป่ากลับมาหลายพวง บางครั้งก็หอบดอกไม้ป่ากลับมาช่อหนึ่ง บางครั้งยังหิ้วปลากลับมาอีกหลายตัวถึงอย่างไรคนอื่นอาจไม่รู้ แต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองออกว่าฟู่จาวหนิงดีอกดีใจมาก เพราะทุกครั้งที่กลับมานางก็จะยิ้มละไม ดวงตาเป็นประกายนั่นคือหญิงสาวที่ถูกรักคนหนึ่งแล้วมีอยู่สองครั้ง ที่นางกระทั่งถูกเซียวหลันยวนแบกกลับมาบอกว่าไปนั่งตกแดดอยู่บนหินใหญ่ก้อนหนึ่งแล้วง่วงจนหลับไป เซียวหลันยวนไม่อยากปลุกนาง ดังนั้นจึงแบกนางกลับมาพอเข้าเมือง ตอนเข้าพักในโรงเตี๊ยม ห้องของสองสามีภรรยาก็อยู่ห่างจากพวกเขาไปไกลลิบ พอเข้าห้องก็ไม่ออกมาอีกเลยแต่ว่า มีอสองครั้งที่พวกเขาออกไปเดินเที่ยวบนถนนยามค่ำคืน ตอนที่กลับมาก็หอบของกินเล่นกลับมาหลายห่อองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะอย่างไรก็กินไม่ค่อยลง แต่พวกเสี่ยวเ
หลายหมื่นตำลึงก่อนหน้านี้ที่จ่ายแทนฮูหยินเฉิง ฟู่จาวหนิงก็กลัวว่าเขาจะไม่มีเงินแล้วแต่เขาก็ไม่ได้จนขนาดนั้น"ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้หนิงหนิงไม่เป็นหมอ แค่จะดูแลเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกินนั้นไม่มีปัญหาอยู่""เช่นนั้นก็ดี ของพวกนี้ข้าก็ส่งให้พ่อข้าแล้วกันนะ แต่ว่า ข้าเองก็หาเงินได้นะ หากท่านต้องการเงินจริงๆ ข้าก็หาให้ได้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ข้ากล้าดูถูกหมอเทวดาเสียที่ไหน? เจ้ารู้ไหมว่ายาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจของเจ้า เม็ดนึงมันขายได้ตั้งเท่าไร?"เซียวหลันยวนเองก็ไม่เคยรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงขัดสนด้วยวิชาแพทย์ของนาง ทั้งชาตินี้นางไม่มีวันขัดสนแน่นอนดังนั้น สามีภรรยาทั้งสองอย่างพวกเขาก็เป็นเศรษฐีต่อไปเถอะฮูหยินเฉิงกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนั่งอยู่ข้างๆ ส่งสายตาเข้ามาเป็นระยะพอเห็นว่าเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงตอนที่กินยังตัวชิดติดกันขนาดนั้น เอาแต่กระซิบกระซาบกันไม่หยุด ทั้งสองคนรู้สึกขัดหูขัดตามาก"อายวน ลมแรงขึ้นมาแล้ว รีบกินเถอะ กินเสร็จจะได้รีบเดินทาง" ฮูหยินเฉิงเอ่ยขึ้นอย่างทนไม่ไหว"ท่านน้าเฉิงกินเสร็จแล้วหรือ?" เซียวหลันยวนเห็นว่านางวางชามลงแล้วลวี่กั่วที่อยู่ข้างๆ ยังกินอยู่เลย
ฮูหยินเฉิงไม่ค่อยเข้าใจพฤติกรรมนี้นักโดยเฉพาะที่ฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ยังพูดว่า คนยังอยู่ระหว่างเดินทาง อยู่กลางทาง ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึน กินข้าวได้ก็รีบๆ กินไปก่อนเสียผลลัพธ์คือตอนที่นางพูดให้รีบกินข้าว เซียวหลันยวนที่เป็นถึงท่านอ๋องกลับไปเด็ดดอกไม้มาให้นางอยู่ช่อดอกไม้ป่านั่น วางไว้บนรถม้าจะได้สักกี่วัน? จะว่าไป ข้างทางก็ยังมีดอกไม้ป่าอีกตั้งมากมายนี่? แค่มองก็พอแล้ว ต้องเด็ดมาแบบนี้ด้วยว่างกันเสียจริง"ไม่เป็นไร ข้ายังไม่ค่อยหิวมาก"ชิงอีตักน้ำมาให้เขาล้างมือ จากนั้นก็ไปตักข้าวต้มให้เขาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเสี่ยวเยว่เอาดอกไม้ช่อนั้นไปที่รถม้า ไม่นานนักก็หยิบแจกันใบหนึ่งออกมาใส่น้ำ ความอิจฉาในดวงตาแทบจะทะลักออกมาแล้วนางอิจฉามากจริงๆ!ฮูหยินเฉิงอาจจะไม่มีอารมณ์ชวนฝันแบบนี้ แต่นางมีนี่นาก่อนหน้านี้เรื่องราวมากมายที่ได้ยินหรือเห็นมา ก็รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนดีกับฟู่จาวหนิงแค่ไหน แม้ว่านางจะอิจฉา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับสะเทือนใจขนาดนั้นแต่เมื่อครู่ที่เห็นอ๋องเจวี้ยนส่งดอกไม้ช่อนี้ให้ฟู่จาวหนิงกับมือ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาอย่างสิ้นเชิงชายหนุ่มสูงส่งเย็
"แล้วมันไม่ควรหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำท่าทางเหมือนสับสนมากมองออกว่านางรู้สึกจริงๆ ว่าต้องรอเซียวหลันยวนกลับมากินด้วยกันจึงจะถูก"ความเร็วในการกินข้าวของพวกท่าน ไม่เหมือนกับเขา ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังอยู่กลางป่ากลางเขาด้วย อยู่ระหว่างเดินทาง ของที่ต้มเสร็จแล้วก็ต้องรีบกิน ไม่มีความจำเป็นต้องมารอให้ครบคน ใครก็ไม่รุ้ทั้งนั้นว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้น" ฟู่จาวหนิงอธิบายออกมาอย่างอดทนถึงอย่างไรก็ตัดสินใจเดินทางมาด้วยกันแล้ว ยังต้องเดินทางด้วยกันอีกระยะหนึ่ง พูดให้ชัดเจนไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งพูดทุกวันหลังจากนี้"แต่ว่า...""ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น กินไปเถอะ" ฟู่จาวหนิงตัดบทองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอธิบายรอบเดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าต้องมาอธิบายตลอด นางเองก็ทำไม่ได้หรอกถึงอย่างไรนางก็ยกชามขึ้นกินอย่างเอร็ดอร่อยแล้ว"ท่านน้าเฉิง..."องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นฟู่จาวหนิงกินอย่างไม่ทุกข์ร้อน ก็อดมองไปทางฮูหยินเฉิงไม่ได้"พวกเรารอก่อน" ฮูหยินเฉิงเอ่ยขึ้นในฐานะที่นางเป็นผู้อาวุโส เรื่องจะกินก่อนที่เซียวหลันยวนจะกลับมานางยิ่งทำไม่ได้เลยถ้าเผื่ออีกเดี๋ยวเซียวหลันยวนไม่พอกิน นางก็ย
ยังมีท่าทางสง่างามของอ๋องเจวี้ยนอยู่เสียที่ไหนกัน?"ศัตรูหัวใจ?"เซียวหลันยวนครุ่นคิดถึงคำนี้ จากนั้นก็หัวเราะเฮอะขึ้นมา ไม่ชอบใจเอามากๆ"เขาเป็นไม่ไหวหรอก"ถ้ามาคิดอย่างละเอียด ต่อให้ไม่มีเขา ฟู่จาวหนิงก็อาจจะไม่เลือกซือถูไป๋ก็ได้เพราะอะไรกัน?แน่นอนว่าเพราะซือถูไป๋ไม่ได้เด็ดขาดเหมือนเขา กับองค์จักรพรรดิเอง เขาก็ยังกำเริบเสิบสานได้ขนาดนี้ แต่ซือถูไป๋ล่ะ? ขนาดผู้นำตระกูลซือถูเองก็ยังมาคอยกำหนดเรื่องสำคัญในชีวิตของเขาได้"หนิงหนิง ข้าจะบอกเจ้าให้ คนอย่างซือถูไป๋ที่อายุยี่สิบกว่าแต่ก็ยังเป็นนายตัวเองไม่ได้ ไม่มีอนาคตหรอก"เขาบอกกับฟู่จาวหนิงอย่างตั้งใจ"เชอะ ท่านเองก็พอได้แล้ว เรื่องแค่นี้ก็ตัดสินอนาคตคนอื่นไปเสียแล้ว"อะไรคือไม่มีอนาคตกัน?อายุยี่สิบกว่า ยังหนุ่มอยู่มาก อนาคตยังอีกกว้างไกลไร้ขีดจำกัดเถอะฟู่จาวหนิงไม่ใช่คนที่ตัดสินคนง่ายๆแต่เหมือนอ๋องเจวี้ยนจะไม่ได้ใจกว้างแบบนั้น"ท่านอ๋อง พระชายา มากินข้าวกลางวันกันไหม?" ก็ได้ยินเสียงชิงอีตะโกนเข้ามาตามลม"กินสิ หิวแล้ว ไปกินข้าวกัน" ฟู่จาวหนิงพูดแล้วก็เดนินำกลับไปก่อน"ไปเดี๋ยวนี้"เซียวหลันยวนยังไม่ขยับฟู่จาวหนิง
ฟู่จาวหนิงสงสัย ซือถูไป๋เดิมทีก็อยู่ระหว่างทางมาเมืองหลวงอยู่แล้ว"พูดถึงเรื่องนี้ ข้าเองก็ได้ยินมาแล้ว ยินดีด้วยคุณชายซือถู" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นไม่ว่าหยวนอี้มีเหตุผลอะไรถึงส่งสิ่งนี้ให้ซือถูไป๋ ที่คนนอกมองเห็นคือการตบฉาดเข้าที่หน้าของพันธมิตรโอสถใต้หล้า ถือว่าโรงยาทงฝูชนะไปก้าวหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ยังทำให้ซือถูไป๋ได้รับการให้ความสำคัญจากผู้นำตระกูลด้วยสำหรับซือถูไป๋ก็ถือเป็นเรื่องดีจริงๆ ดังนั้นที่ฟู่จาวหนิงยินดีกับเขาก็เป็นเรื่องปกติแต่พอได้ยินฟู่จาวหนิงยินดีกับซือถูไป๋ เซียวหลันยวนกลับรู้สึกหึงหวงหน่อยๆซือถูไป๋ปีที่แล้วยังคิดไม่ซื่อกับฟู่จาวหนิงอยู่เลย เขามักรู้สึกว่าถ้าแค่ตนเองเผลอนิดเดียว ซือถูไป๋ก็จะฉวยโอกาสทันทีทำให้ฟู่จาวหนิงยินดีกับซือถูไป๋ได้ นี่มันก็อธิบายว่าซือถูไปจะมากน้อยก็ถือว่ามีความได้เปรียบ หรือมีเรื่องน่ายินดี ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ก็ดึงดูดความสนใจของฟู่จาวหนิงมาได้เหมือนกันความสนใจจุดนี้ ทำให้ในใจเซียวหลันยวนขุ่นเคืองขึ้นมา"ขอบคุณพระชายา"ซือถูไป๋เหลือบมองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่ง เป็นชายหนุ่มเหมือนกัน แม้จะมองไม่เห็นสีหน้าของอ๋องเจวี้ยน แต่เขาจะไม่