พันธมิตรโอสถใต้หล้าควบคุมการหมุนเวียนของวัตถุดิบยาถึงเกือบแปดส่วน ยิ่งไปกว่านั้น พันธมิตรโอสถใต้หล้ายังมีคนเปี่ยมความสามารถที่รู้จักวัตถุดิบยากและค้นหาวัตถุดิบยารวมถึงปรุงวัตถุดิบยาอยู่มากมายอีกด้วย ถ้าหากขาดยาอะไรไป สามารถไปหาพันธมิตรโอสถใต้หล้า พวกเขาจะจัดการหาให้เจ้าเองฃแน่นอน จำเป็นต้องมีเวลาและค่าตอบแทนด้วยผู้อาวุโสพันธมิตรโอสถใต้หล้าจี้ซินเว่ยก็คือคนที่รอบรู้เรื่องตัวยาและถนัดในการปรุงวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ ดังนั้นเขาจะไปยังแคว้นใดก็ล้วนได้รับการต้อนรับอย่างดี คนมากมายล้วนเคารพเขา ไม่กล้าผิดใจกับเขา กระทั่งหมอหลวงในราชวงศ์บางแคว้น เหล่าหมอเทวดา ก็ยังอยากจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเขาเลยถึงอย่างไร บางครั้งวิชาหมอสูงส่ง แต่ถ้าขาดวัตถุดิบยาไปก็ช่วยคนไม่ได้จี้ซินเว่ยชอบเขาไปหมกตัวอยู่แต่ในภูเขา หายาขุดยาปรุงยา หาตัวยากมากแต่วันนี้เขากลับปรากฎตัวที่นี่พวกรองขุนพลหลิวล้วนรู้สึกว่า ผู้อาวุโสจี้ไม่ได้มาหาฟู่จาวหนิงแน่นอน"หุบจันทร์ลับน่าจะมีวัตถุดิบยาอยู่ไม่น้อย ดังนั้นผู้อาวุโสจี้คงคิดจะขึ้นเขาไปเก็บยากระมัง"หมอเทวดาหลี่ร้องเชอะเย็นชา "อายุอานามขนาดนี้แล้ววันๆ ยังคิดแต่จะขึ้นเข
"อีกนิดเดียวแล้ว!""ฟู่จาวหนิงยังไม่กลับมา"รองขุนพลหลิวกับหมอเทวดาหลี่รอคนจนในใจลิงโลดมีคนมองไปทางอ๋องเจวี้ยน มีอยู่ไม่น้อยที่เห็นใจเขาคิดไม่ถึงว่างานแต่งงานใหญ่ที่กะทันหันของอ๋องเจวี้ยน ท้ายสุดจะไปไม่รอดฟู่จาวหนิงเป็นไปได้มากว่าจะตายอยู่ในเขาจันทร์ลับฟ้าแล้ว ต่อให้ยังไม่ตาย ออกมาก็คงไม่ทันอยู่ดี เดิมทีเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่ดีดี ตอนนี้กลายเป็นคว้าน้ำเหลวเสียแล้วคนทั้งหมดล้วนจ้องเขม็งไปที่ธูปที่เหลืออยู่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียว ก็จะไหม้หมดแล้วชิงอีเองก็กลั้นลมหายใจอย่างตึงเครียด จ้องเขม็งไปที่ถนนภูเขาทางเข้าอ๋องเจวี้ยนสายตาลึกทึมคนที่กล้ามาขวางรถม้ากลางถนนเพื่อจะมาเป็นพระชายาเขา มีฝีมือแค่นี้เองหรือ?"คึกคักขนาดนี้เลยหรือ? นี่มารอข้ากันหรือไร?"เสียงหญิงสาวใสกังวานจู่ๆ ก็ดังลอดมาจากต้นไม้ข้างๆ ทางเข้าภูเขาต้นหนึ่ง"ใครกัน?"คนทั้งหมดมองไปบนต้นไม้ ก็เห็นว่าบนงามไม้ขนาดใหญ่มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ ข้างๆ ยังมีตะกร้าหลังวางอยู่ใบหนึ่งนางเหมือนเพิ่งจะตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลอย่างไรอย่างนั้น นั่งตัวตรงขึ้นมา บิดขี้เกียจ"ฟู่จาวหนิง!"รองขุนพลหลิวร้องเสียงหลงขึ้นมา
"เอ๋? รองขุนพลหลิวท่านทำไมถึงมาสงสัยข้ากัน?"ฟู่จาวหนิงทำสีหน้าประหลาดใจ "ตอนข้ากลับมาฟ้ายังมืดอยู่เลยนะ กลางค่ำกลางคืน ข้ากลัวว่าจะทำพวกท่าตื่น แล้วก็ไม่รู้ว่าหลังจากออกมาตอนกลางคืนจะมีการตรวจสอบยาเลยไหม ยิ่งไปกว่านั้นข้าเองก็ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ดังนั้นเลยหาที่หลับนอนรอจนฟ้าสางแค่นั้นเอง""นี่ไม่ใช่แค่ว่านอนจนถึงตอนนี้ จนเกือบจะมาไม่ทันอยู่แล้วหรือไร แล้วท่านมาบอกว่าข้าจงใจได้อย่างไรกัน?"ท่าทีของฟู่จาวหนิง ทำเอารองขุนพลหลิวโมโหจนเข็ดฟันเขารู้สึกว่านางจงใจแน่ๆ แต่เขาก็ไม่มีหลักฐาน!"เอาล่ะ คนของพวกท่านก็มาครบแล้วใช่ไหม? เช่นนั้นตอนนี้ก็มาเริ่มตรวจสอบสมุนไพรที่ข้าขุดมาเลยดีไหม?"ฟู่จาวหนิงมาถึงข้างตัวอ๋องเจวี้ยนแล้วพอชำเลืองมอง ก็เห็นผู้อาวุโสจี้ที่อยู่ข้างๆ อ๋องเจวี้ยน นางตกตะลึงไป ตาเฒ่าจี้เปลี่ยนชุดแล้ว ดูแล้วอย่างกับผู้อาวุโสใหญ่ที่มีทั้งฐานะและตำแหน่งเลยผู้อาวุโสจี้ก็โบกมืออย่างดีใจให้นาง จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้วางที่ข้างปากทำท่าจุ๊ๆ ส่งสายตาให้นางศิษย์เอ๋ย ตอนนี้ยังไม่ต้องรู้จักกัน เดี๋ยวอาจารย์จะพูดแทนเจ้าเอง!เขาพาหมอมาไม่น้อยเลย"คุณหนูฟู่ขุดวัตถุดิบยามาครบสิบชนิดไห
ฟู่จาวหนิงพยักหน้า ปลดตะกร้าหลังวางลง เดินมาที่หน้าโต๊ะยาว นำเอาวัตถุดิบยาออกมาคนทั้งหมดล้วนเดินตามเข้ามายืนอยู่ข้างโต๊ะยาว ดวงตามองตามการเคลื่อนไหวของนางวัตถุดิบยาชนิดแรกที่ฟู่จาวหนิงหยิบออกมาเป็นพืชที่ดูคล้ายวัชพืชป่ากอหนึ่งชิงอีเองก็พุ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน อ๋องเจวี้ยนชะงักนิดหนึ่ง แต่ก็ยังลงจากรถม้าค่อยๆ เดินเข้ามา เขาเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง มองเจ้าช่อนั่น..."วัชพืชป่านี้เรียกว่าอะไร?"ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเขาผาดหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือผลักเขา"ท่านอย่าเข้ามาใกล้นัก"อ๋องเจวี้ยนตกตลึง นางผลักเขาหรือ?นางกล้าผลักเขา!คนอื่นพอเห็นการกระทำนี้ของฟู่จาวหนิงก็ถลึงตาโตขึ้นมาเช่นกัน"หญ้าสมุนไพรเหล่านี้มีบางส่วนมีพิษอยู่ ถ้ายังไม่ทำการปรุงสกัดจะส่งปราณพิษออกมา ท่านสุขภาพอ่อนแอห้ามเข้าใกล้"ฟู่จาวหนิงอธิบายขึ้นอย่างหวังดี"ถุด"หมอเทวดาหลี่ก็ประชดประชันขึ้นทันที "พูดอย่างกับเข้าใจอย่างนั้น ถ้าหากขุดเอาสมุนไพรพิษขึ้นมา เจ้ายังจะกลับมาได้อีกหรือ?"จะบอกว่านางรู้วิธีหลบเลี่ยงปราณพิษหรือไรกัน?หรือจะบอกว่านางเป็นพวกพิษร้ายแทรกไม่เข้า? ตลกตายล่ะ ขู่เก่งเสียจริง"ท่านทำไม่ได้ ไม่
"ไม่ถูกสิ นี่ไม่ใช่หลินจือธรรมดา เห็นประกายแสงสีม่วงที่แผ่ออกมาจากตัวดอกหลินจือไหม? นี่เป็นไปได้มากว่าจะเป็นหลินจือม่วงที่งอกออกมาจากตอไม้ที่เป็นวัตถุดิบยา! หาได้ยากมาก ของดีเลยทีเดียวเชียว""นี่คือจื่อฉิน แล้วก็ยังมีเชียนมู่อิงอีก!"ฟู่จาวหนิงรู้ขึ้นมาจากในชื่อยาที่พวกเขาเรียก วัตถุดิบยาเหล่านี้มีชื่อบางส่วนที่แตกต่างกับโลกปัจจุบันแต่ว่าไม่ต้องเครียด นางล้วนรู้จักทั้งหมด และล้วรู้ว่ามีผลทางยาแบบใด ส่วนชื่อของวัตถุดิบยาเหล่านี้ในแคว้นเจา จะช้าเร็วนางก็ต้องรู้อยู่แล้วอ๋องเจวี้ยนมองพวกหมอกับหมอหลวงเหล่านี้ที่ดูคลั่งกันขึ้นมา จากนั้นก็โน้มตัวมองไปยังตะกร้าหลังของฟู่จาวหนิงแต่ว่าฟู่จาวหนิงครู่ต่อมาก็จับการเคลื่อนไหวของเขาได้ รีบซ่อนตะกร้าหลังไปไว้ด้านหลังทันที ไม่ยอมให้เขาดูอ๋องเจวี้ยน "..."กันเขาอย่างกับกันขโมยขโจรอย่างไรอย่างนั้น?"เป็นอย่างไร วัตถุดิบยาเหล่านี้ที่ข้าขุดมา ได้มาตรฐานหรือไม่?" ฟู่จาวหนิงถามนางมองไปทางหมอเทวดาหลี่ สีหน้าหมอเทวดาหลี่ดูขรึมลงอย่างขชัดเจน"ของเหล่านี้""เฮอะ!" ผู้อาวุโสจี้ตะคอกขึ้นมา "สกุลหลี่เอ๋ย คนใหญ่โตอย่างข้ายืนอยู่นี่ ถ้าเจ้าจะลืมตาพล่า
การทดสอบครั้งนี้ ตามกฎแล้วฟู่จาวหนิงต้องไปค้นหาวัตถุดิบยาคนเดียว แต่นางมีฝีมือขนาดนั้นไหม?ตาเฒ่าจี้ถลึงตามองไปทางรองขุนพลหลิว"นางไม่ใช่ออกมาคนเดียวหรือไรกัน?""ผู้อาวุโสจี้ นี่พิสูจน์ไม่ได้ว่าของพวกนี้นางขุดมาคนเดียวนะ" รองขุนพลหลิวผายมือออก"ในวังส่งพวกเจ้ามาคุ้มครองที่ทางเข้านี้ เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าไป แล้วพอไม่มีคนอื่นขึ้นภูเขา แล้วจะมีคนมาช่วยเหลือนางหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถามขึ้นมาอีกรองขุนพลหลิวมองไปทางอ๋องเจวี้ยน"เรื่องนี้ก็พูดยาก พวกเราแค่คุ้มกันทางเข้านี้ แต่คนบางส่วนก็สามารถลอบส่งคนเข้าไปทางอื่นก็ได้จริงไหม"อ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงเรียบ "ดังนั้น ตอนที่เจ้าพูดประโยคนี้แล้วมองข้า คือเจ้ากำลังสงสัยข้าสินะ?""ข้าน้อยมิกล้า"รองขุนพลหลิวถึงแม้จะพูดว่าไม่กล้า แต่สีหน้าของเขากลับพุ่งชี้มาที่เขาอย่างชัดเจนเขามั่นใจว่าตอนนี้อ๋องเจวี้ยนก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แต่พริบตาต่อมา กลับเห็นว่าเบื้องหน้ามีแสงเย็นสว่างวาบรองขุนพลหลิวตกตะลึง รีบร้อนคิดจะถอยหนี แต่ก็ไม่ทันแล้ว กระบี่เล่มหนึ่ง แทงเข้าไปที่ท้องของเขาเลือดทะลักออกมา"อ๊า!" คนที่ยืนอยู่ข้างๆ รองขุนพลหลิวตกใจจนหน้าถอดสี
คนทั้งหมดถูกการกระทำของนางทำให้ตกตะลึงอีกแล้ว ทุกคนล้วนอ้าปากค้างในดวงตาอ๋องเจวี้ยนเองก็อดมีรอยยิ้มขึ้นไม่ได้ป่าเถื่อนขนาดนี้เชียว?"ฟู่จาวหนิง!" รองขุนพลหลิวเดิมทีก็เจ็บจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว พอลมล้มพื้นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าเลือดในบาดแผลเหมือนจะไหลออกมาหนักกว่าเดิมแล้วฟู่จาวหนิงมองสูงลงต่ำ เอ่ยขึ้นเย็นชา "ถ้าอยากรอดก็หุบปากเสีย"รองขุนพลหลิวงงงันจนไม่พูดอะไรอีก"ตาเฒ่าจี้มาช่วยหน่อย" ฟู่จาวหนิงมองอ๋องเจวี้ยน จากนั้นจึงหาอีกรอบมองไปทางผู้อาวุโสจี้ "ช่วยฉีกเสื้อผ้าตรงแผลเขาหน่อย""ได้เลยได้เลย!"ผู้อาวุโสจี้กุลีกุจอตรงเข้ามา ยื่นมือคว้ากรรไกลเล็กจากถุงหนังจากเอวออกมาด้ามหนึ่ง จัดการตัดเสื้อผ้าของรองขุนพลหลิวออกพอตัดออก กองยาในมือฟู่จาวหนิงก็ "แผละ" ลงไปบนแผลของเขา จากนั้นก็ใช้มือกดเอาไว้ครู่หนึ่งรองขุนพลหลิวแทบจะเจ็บเจียนตายหญิงสาวคนนี้ป่าเถื่อนเสียจริง!แต่ว่า เลือดก็หยุดลงอย่างรวดเร็วจริงๆ"เลือดหยุดแล้วจริงๆ""ผลของยาดีมาก ระดับของวัตถุดิบยาเหล่านี้ล้วนดีมากจริงๆ"หมอเหล่านั้นล้วนตื่นเต้นจนวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา จนลืมความตกตะลึงพรั่นพรึงที่อ๋องเจวี้ยนแทงกระบี่ใส่คนอ
หมอเทวดาหลี่กับหมอหลวงคนอื่นสบตากันอย่างจับใจผาดหนึ่ง ทำได้เพียงยอมรับผลสรุปนี้"ถือว่าคุณหนูฟู่ผ่านแล้ว""ยินดีด้วยคุณหนูฟู่"ตาเฒ่าจี้เองก็หัวเราะร่า เหล่มองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่ง "ไม่ถูกสิ ตอนนี้ต้องเรียกพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้วไม่ใช่หรือ?"หึ ถึงแม้เขารู้สึกว่าศิษย์ของตนเองไปจับคู่กับอ๋องเจวี้ยนจะดูน่าเสียดายหน่อย แต่แต่งก็แต่งไปแล้ว คารวะฟ้าดินไปแล้วด้วย เช่นนั้นก็ต้องทำตำแหน่งพระชายานี้ให้มั่นคงเสียหน่อย!"ยินดีด้วยกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน"คนทั้งหมดล้วนเปลี่ยนคำเรียกกันเสียงแผ่วฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนโดยสัญชาตญาณอ๋องเจวี้ยนไม่พูดอะไรชิงอีกลับหน้าชื่นตาบาน ตะโกนไปทางฟู่จาวหนิงอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ยินดีด้วยพระชายา!"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับ โค้งตัวลงแบกตะกร้าหลัง "ขึ้นไปบนรถม้าได้ไหม?"นางอยากรีบกลับบ้านตระกูลฟู่แล้วนางสกัดยาลูกกลอนมาขวดนึงบนภูเขา จะกลับไปให้ท่านปู่กินก่อนอ๋องเจวี้ยนยังไม่เอ่ยปาก ตาเฒ่าจี้ก็เรียกขึ้นอย่างเบิกบาน "มานั่งของข้า มานั่งของข้านี่! พวกเรามาคุยเรื่องวัตถุดิบยากันบนรถม้า""ได้เลย"ฟู่จาวหนิงไม่ลังเล เดินไปทางรถม้าของเขาทันทีตาเฒ่า
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ
เรียนได้เท่าไรก็เรียนเท่านั้น"ข้าไม่กลัวเหนื่อยหรอก เอาจริงๆ สมัยก่อนข้าเองก็มาจากครอบครัวที่ยากจนด้วย หลายปีมานี้ครอบครัวดีขึ้นมาก แต่ทุกวันข้าก็ยังปลูกผักอยู่ในเรือน แล้วยังฝึกมวยทุกวัน สุขภาพก็ดีมาก""มองออกเลยว่าสุขภาพของหมอหลินดีมาก นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่หมอฟู่พาท่านมาในวันแรก แล้วก็ให้ท่านมาคอยเฝ้าที่นี่นั่นล่ะ"อาเหอรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้แม้ฟู่จาวหนิงจะไม่พูดออกมา แต่ในความเป็นจริงพอคนมาถึงนางก็สังเกตไปแล้ว การที่นางพาหมอหลินมา จะต้องเป็นการคัดเลือกของนางแน่นอน"จริงหรือ? ถ้าพูดเช่นนี้ พระชายาก็ถือว่ามีสายตาเฉียบคมอยู่นะ ฮ่าๆ" หมอหลินแสดงสีหน้าภาคภูมิใจฟู่จาวหนิงกลับไปพร้อมเซียวหลันยวนมีคนถือตะเกียงนำหน้าให้เมืองเจ้อยามนี้ เงียนงันไปหมด ฟ้าดำมืดมีดวงดาวไม่มากบนถนนมีแค่เสียงเท้าของพวกเขา เบามากพอคิด ก็รู้สึกเหมือนเป็นคืนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่ในใจพวกเขาเข้าใจดี สำหรับเมืองเจ้อแล้ว นี่เหมือนถูกกดทับด้วยลมพายุไว้"อาเหอคนนี้ ดูแล้วไม่เลวเลย" เซียวหลันยวนตัดบทความคิดของฟู่จาวหนิง"อืม เป็นผู้ประสบภัย แต่เป็นคนฉลาด เรียนรู้เร็ว แล้วก็ซื่อสัตย์ด้วย" ความฉ
หมอหลินพอได้ยินคำพูดของอาเหอ ก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะใจร้ายน่าดู ทำไมเขาถึงไม่คิดจุดนี้กันนะ?แล้วคิดจะจะให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนที่เป็นหญิงสาวมาอยู่ดูแลที่นี่อีก ขนาดอ๋องเจวี้ยนตามมาแล้วแท้ๆ หรือคิดจะให้อ๋องเจวี้ยนต้องอยู่ดูแลคนป่วยที่นี่ด้วยกัน?ไอ๊หยา ต้องโทษพระชายาที่รับผิดชอบและตั้งใจมากเกินไป พอถูกนางทำให้ยุ่งขนาดนี้ เขาก็เลยลืมตัวตนฐานะของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปเสียแล้ว"ใช่ๆๆ ข้าคิดไม่รอบคอบเอง อาเหอพูดถูกต้อง พระชายาท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าดูแลที่นี่ให้"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง"หมอหลิน ยังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไป ท่านลืมแล้วหรือ?"พวกเขาลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่ายังมีบ้านประชาชนอีกแห่งหนึ่งที่รับผู้ป่วยเข้ามาหลายคนอ๊ะ นางตอนนี้จึงยิ้มออกมาได้ ถือเป็นความสุขที่ได้จากความทุกข์หมอหลินตอนนี้จึงนึกออก เขาตบหน้าผาก "ใช่ๆๆ แล้วทางนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?""นี่ถึงได้เชิญหมอหลินให้มาดูแลที่นี่ ส่วนอาเหอจะไปดูทางนั้นให้ มีเรื่องอะไรพวกท่านก็ให้ข้าราชการด้านนอกมาหาข้าก็พอ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พรุ่งนี้จะมีคนมาแทนพวกท่าน""เอาตามที่พระชายาว่าเลย"พวกเขาไปในบ้านประชาชนอีกหลังหนึ่ง คน
"มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เสียที่ไหน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถลึงตาโต"องครักษ์พวกนั้นเจอกับหัวขโมย พอเห็นว่าเขาผิดปกติจึงเข้าไปจับกุม นี่ถือว่าเป็นการทำความดีกับประชาชนเมืองเจ้อมิใช่หรือ? จะว่าไป ทุกคนก็รู้ว่าโชคอขงองค์หญิงใหญ่นั้นดีมาก ดังนั้นจึงทำให้ท่านเจอกับเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกตรงไหนกัน?""แต่ว่า แต่ว่า" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย "เป็นแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลกระมัง?""มีอะไรไม่สมเหตุสมผลกัน ยืนกรานเสียอย่าง พวกเขาจะไม่สงสัยหรก องค์หญิงใหญ่ท่านเป็นคนที่สูงส่งนะ แล้วจะไปทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?""ไม่ค่อยดีนะแบบนี้?""ไอ๊หยา องค์หญิงใหญ่ท่านฟังข้าเถอะ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนไปแล้วจริงๆ พวกเรายังต้องอยู่ในเมืองเจ้ออีกนานแค่ไหน""พวกเราตอนนี้ได้ของแล้ว ไปเมืองหลวงกันเองก้ได้""องค์หญิงใหญ่ พวกเราป่วยโรคนี้อยู่นะ หมอเทวดาฟู่ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับใต้เท้าอันไม่มีทางยอมให้พวกเราไปหรอก ยิ่งไม่ยอมให้เราไปที่เมืองหลวงด้วย เว้นเสียแต่อ๋องเจวี้ยนจะพาพวกเราไป พวกเขาไม่กล้าขวางอ๋องเจวี้ยน"เฉินเซียงตอนนี้มองออกถ้าหากครั้งนี้ไม่ไปด้วยกันกับอ๋องเจวี้ยน ถ้าพวกนางยังต้อง
"องค์หญิงใหญ่ ในกล่องใบนี้มันคืออะไรกันแน่?"เฉินเซียงเองก็อยากรู้อยากเห็นมาก จุดเทียนสว่าง แล้วยกเชิงเทียนเดินเข้ามาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกเครียดอยู่ตอลด ตอนนี้พอนั่งลงมา ก็รีบเทน้ำลงดื่ม เพียงแต่น้ำเย็นไปแล้ว พอดื่มไปนางก็สะดุ้งโหยง"ข้าจะจุดเตาให้ องค์หญิงใหญ่อย่าเพิ่งดื่มน้ำเย็นเลย"เฉินเซียงถึงแม้จะอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไร แต่ก็ยังเป็นสาวใช้วังที่ทุ่มเทอยู่ พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นต้องมาดื่มน้ำเย็นจึงรู้สึกปวดใจตอนที่นางไปวุ่นอยู่นั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็นั่งมองกล่องใบนั้นอยู่ตรงนั้นกล่องไม้ใบหนึ่ง ดูแล้วก็ไม่ได้มหัศจรรย์อะไร แล้วนางก็มองไม่ออกว่าต้องเปิดจากตรงไหนด้วยจนตอนที่เฉินเซียงเทน้ำร้อนเข้ามา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เล่นกับกล่องนั้นอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าจะเปิดมันอย่างไร"ทำไมถึงเปิดไม่ออก""เปิดไม่ออกหรือ? เพราะด้านในมันขัดกันอยู่หรือเปล่า?"เฉินเซียงเองก็หยิบกล่องนั่นเข้ามาสำรวจ รู้สึกประหลาดใจมาก ไม่มีจุดที่เปิดได้เลยจริงๆ"นี่มันอะไรกัน? หรือจะเป็นไม้ท่อนนึง สลักออกมาเป็นกล่องแบบนี้หรือ? "เฉินเซียงมึนงง"ไม่หรอก ด้านในมีของใส่ไว้" องค์หญ