"ใครก็ได้ มาช่วยกันเร็ว!""ให้ตายเถอะ แม่นางหลี่จริงๆ"ตอนนี้คนของหอจันทร์หยาดล้วนรู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง น่าจะเกิดเรื่องอะไรผิดพลาดขึ้นแล้วพวกเขารีบเก็บกวาดกันมือไม้เป็นระวิง แต่ว่าคนที่ยังไม่ใส่เสื้อผ้าสองคนกลับยังล่อนจ้อนอยู่คนที่นำคนกลุ่มแรกเข้ามาเป็นหญิงสาวที่สวยงามมากคนหนึ่ง และนี่คือเจ้าของหอจันทร์หยาดนั่นเอง ฮูหยินหรงเยว่"อ๋องเจวี้ยน!"นางรีบเดินเข้ามาเบื้องหน้าเซียวหลันยวน คิดจะพูดอะไร แต่เซียวหลันยวนก็ไม่มองนางตรงๆ เลย"อ๋องเจวี้ยน ท่านเอาองครักษ์เงามังกรมาล้อมหอจันทร์หยาดของข้าอย่างไม่มีเหตุผล นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?"เมื่อครู่นี้ เพิ่งจะส่งสัญญาณออกไปครู่เดียว องครักษ์ที่เคร่งขรึมกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาปิดล้อมหอจันทร์หยาดเอาไว้แล้ว"ค้นหาให้ข้า!"เซียวหลันยวนสั่งการออกไป! องครักษ์เงามังกรเหล่านั้นก็พุ่งออกไปทันที ค้นหาในหอจันทร์หยาดขึ้นอย่างรวดเร็ว"อ๋องเจวี้ยน ข้าทางนี้ก็ต้องทำการค้า พิธีพิถันเรื่องความปลอดภัย เงียบสงบ ตอนนี้ในหอยังมีแขกคนสำคัญอีกตั้งมากมาย แล้วท่านทำเช่นนี้จะให้ข้าไปอธิบายกับเหล่าแขกลูกค้าสำคัญอย่างไรกัน?"ฮูหยินหรงเยว่ในใจก็ร้อนรนขึ
เซียวหลัยยวนเชื่อมั่นองครักษ์เงามังกร พวกเขาในเมื่อค้นหาละเอียดแล้ว เว้นเสียแต่จะมีสถานที่ลับมากๆ อยู่ตรงไหนสักที่แต่ว่าเวลาแค่นี้ ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กินเนื้อสัตว์นี่นา จากที่เขาเข้าใจนาง นางไม่ใช่คนที่อ่อนแอ เป็นไม่ได้ที่จะถูกจับไปขังในช่วงเวลาแค่นี้ดังนั้นตอนนี้ที่หาไม่เจอก็น่าจะไม่ใช่ฮูหยินหรงเยว่เอาตัวนางไปและองครักษ์ที่เขาส่งมาเพื่อจับตาหอจันทร์หยาดตนเองก็เชื่อมั่นมากด้วย ฟู่จาวหนิงถ้าออกไปล่ะก็จะต้องมีคนพบแล้ว คงไม่ถึงกับไม่เห็นตัวแบบนี้ดังนั้น ตอนนี้ฟู่จาวหนิงไปอยู่ที่ไหนกัน?ไม่ใช่แค่เซียวหลันยวนที่รู้สึกแปลกๆ ฮูหยินหรงเยว่เองก็รู้สึกประหลาด นางเองก็ส่งคนมาดูไว้ ก่อนหน้านี้ฟู่จาวหนิงเข้ามาในเรือนนี้แล้วจริงๆตอนที่พวกของซ่งอวิ๋นเหยาออกไปยังส่งสัญญาณมือให้นางอยู่เลย ให้พวกนางเล่นตามแผนการณ์ต่อและตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาพวกนางออกไปก็เห็นว่าฟู่จาวหนิงติดกับแล้ว ยืนยันว่าอยู่ในศาลานี้แล้วตอนนี้คนไปไหน?"ก่อนหน้านี้ใครอยู่ที่นี่?" เซียวหลันยวนถามฮูหยินหรงเยว่ฮูหยินหรงเยว่เดิมทีคิดจะปิดบัง "ก็แขกก่อนหน้านี้น่ะสิ หลังจากแขกออกไปพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เข้ามา จากนั้นคร
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับซ่งอวิ๋นเหยาชิงอีมองเซียวหลันยวนอย่างกังวลแล้วจะทำอย่างไรดี?ซ่งอวิ๋นเหยากับท่านอ๋องเคยมีมิตรภาพวัยเด็กด้วยกันนี่นา ท่านอ๋องยังจำความอบอุ่นที่ซ่งอวิ๋นเหยามอบให้เขาเมื่อครั้งอดีตได้อยู่ก่อนหน้านี้ในเมืองหลวงมีคนนำซ่งอวิ๋นเหยากับท่านอ๋องมาพูดล้อเล่น เข้าใจมาตลอดว่าซ่งอวิ๋นเหยาจะกลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านอ๋องเองก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรแต่ตอนนี้ซ่งอวิ๋นเหยากลับเกี่ยวข้องกับเรื่องที่พระชายาหายตัวไป ท่านอ๋องจะทำอย่างไรกัน?"ให้คนจับตาดูไว้""หาคนไปถามเซี่ยซื่อที่บ้านตระกูลหลิน""ขอรับ""คุณหนู"เฉินซานขับรถเข้ามาแล้ว รถเพิ่งจะจอด เสี่ยวเถาก็กระโดดลงมาจากรถม้า สืออีมาประคองตัวนางทันทีถ้าไม่ประคองไว้ ดูท่าเสี่ยวเถาคงได้ขาพลิกแน่สืออีพอเห็นเซียวหลันยวน ก็คารวะทันที"ข้าน้อยสืออี คารวะท่านอ๋อง!"สีหน้าเขาเปลี่ยนไปแล้ว นี่เกิดอะไรขึ้น?เขาปกป้องเสี่ยวเถากับหลินอันห่าวกลับไปหาเซี่ยซื่อ พอกลับมาก็เป็นเช่นนี้ไปแล้วหรือ?สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปบนตัวเขาถูกเขาเหลือบมองมาเช่นนี้ สืออีก็สั่นสะท้านวาบไปทั้งร่าง เขาคุกเข่าลงทันที"ข้าน้อยผิดไปแล้ว! ท่านอ๋องโป
หลังจากที่เซียวหลันยวนเข้ามาก็เดินตรงไปยังศาลาผ่านไปนาน ควันไฟในนี้มอดดับไปแล้ว เขาเข้าไปเดินวนรอบหนึ่งก็ถอยออกมาทันทีฟู่จาวหนิงมองท่าทางของเขา ก็สงสัยว่าเขาน่าจะสังเกตเห็นแล้วว่าในศาลามียาอยู่ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้ตอนที่เดินเข้ามาในศาลแล้วจะถอยออกไปกะทันหันทำไมกัน?ไร้สีไร้กลิ่น เขาสัมผัสได้นี่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมอยู่ น่าจะเพราะเขาป่วยมานาน ติดพิษมาแล้วหลายครั้ง จนทำให้เขารู้สึกไวต่อสิ่งเหล่านี้เดิมทีฟู่จาวหนิงยังคิด ถ้าเข้ารออยู่แต่ในศาลานั่น ถึงตอนนั้นนางต้องมานั่งแก้พิษให้เขาอีกร่างกายอ่อนแออย่างเซียวหลันยวน จริงๆ คือห้ามติดพิษอะไรอีกแล้ว ทำร้ายต่อร่างกายเขาอย่างมากยังดีที่ตัวเขารู้สึกถึง แค่เข้ามาเดินวนรอบหนึ่งก็ออกไปแล้ว เขาเหมือนกับเข้ามาเพื่อยืนยันอะไรสักอย่างเขายังไปค้นหาที่ต่างๆ ในเรือนต่ออีกรอบหนึ่งจากนั้นจึงถอยออกไปฟู่จาวหนิงอดคิดขึ้นไม่ได้ เขาคงไม่ได้เข้ามาหาตัวนางหรอกกระมัง?เป็นห่วงนางขนาดนี้เลยหรือ?นางรีบออกจากห้องเภสัช รีบวิ่งออกจากเรือนนี้ พอคิดๆ ก็ยังไม่เตรียมออกไปทางประตูใหญ่ประตูใหญ่ทางนั้นจะต้องมีคนเฝ้าอยู่แน่ ในเมื่อเซียวหลันยวนยังเข้ามาเลย ตอน
เซียวหลันยวนดึงนางไว้ ใช้กำลังภายในพานางกระโจนออกจากกำแพงเรือน ออกจากหอจันทร์หยาดไป ในนี้เขารู้สึกว่ามันสกปรก ดังนั้นจึงไม่อยากจะให้นางเอาแต่อยู่ในนี้พอคนด้านนอกเห็นพวกเขาออกมา ก็ล้วนเข้ามารรับอย่างยินดีปรีดา"ท่านอ๋อง พระชายา!""พระชายาท่านกลับมาแล้วหรือ?""คุณหนู!" เสี่ยวเถาเองก็รีบโถมตัวเข้ามา แต่พอวิ่งมาถึงด้านหน้าตอนที่เห็นมือของฟู่จาวหนิงถูกอ๋องเจวี้ยนจูงไว้นางก็รีบหยุดเท้าตัวโก่ง ไม่กล้าโถมเข้าไปแล้ว"เอ่อ ข้าไม่เป็นไร"พอเห็นพวกเขาเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกเขินหน่อยๆนางยังเห็นสืออีที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วย สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กๆ "สืออี เจ้าทำอะไรน่ะ?""คุณหนู สืออีบกพร่องในหน้าที่ ทำให้ท่านตกอยู่ในอันตราย สืออีรู้ผิดแล้ว"สืออีคุกเข่าอยู่นานแล้ว ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลย"ลุกขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเรียกให้เขาลุกขึ้น แต่สืออียังคงคุกเข่าอยู่"เจ้าบกพร่องในหน้าที่ตรงไหนกัน? เป็นข้าที่ให้เจ้าคุ้มกันน้องสาวข้าออกไป เจ้าก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น เจ้าทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว เจ้าบกพร่องในหน้าที่ตรงไหนกัน?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะลงโทษสืออีเช่นนี้ พอเห็นว่าเขายังนั่งนิ่
วันนี้วุ่นวายมาทั้งวัน พอมาถึงจวนอ๋องเจวี้ยน หงจั๋วเฝิ่นซิงทั้งสองคนก็ดีอกดีใจวุ่นวายกันขึ้นมา เตรียมน้ำให้นางอาบ เช็ดผมให้นาง จากนั้นก็เตรียมอาหารค่ำให้พวกเขารอจนฟู่จาวหนิงสวมเสื้อผ้าใหม่กินอาหารค่ำเลิศรสแล้ว ก็ถูกหงจั๋วคลุมเสื้อคลุมตัวหนึ่งลงมาให้"พระชายา อ๋องเจวี้ยนอยู่ในเรือนรอท่านอยู่""รอข้าทำไมกัน?""ไปเดินเล่นย่อยอาหารกระมัง" หงจั๋วเม้มปากยิ้มขึ้นมา "สมัยก่อนท่านอ๋องล้วนเดินอยู่คนเดียว ตอนนี้พระชายาไปเดินเป็นเพื่อนท่านอ๋องด้วยกันได้แล้ว"ไม่สิ หน้าตามีความสุขของเด็กคนนี้มันอะไรกัน?นางแม้จะรู้ว่าการเดินหลังจากกินนั้นดีมาก แต่ว่านางวันนี้เหนื่อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นจะดูด้วยว่ารีบกลับไปบ้านตระกูลฟู่เพื่อถามเสี่ยวเถาเสียหน่อย ว่าวันนี้หลินอันห่าวกลับไปแล้วเป็นอย่างไรบ้างเซี่ยซื่อจะให้อันห่าวออกมาคนเดียวได้อย่างไรกัน?วันนี้ดูท่าเซี่ยซื่อคงตกอกตกใจมากกระมังแต่ว่านางก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกหงจั๋วผลักออกมาจากเรือนแล้วหลังออกมาก็เห็นเซียวหลันยวนคลุมผ้าคลุมผืนหนึ่ง กำลังยืนอยู่ด้านนอก ท่าทางเหมือนกำลังรอนางอยู่จริงๆนางหันหน้ากลับมองหงจั๋วผาดหนึ่ง หงจั๋วเองก็ส่งสัญญาณม
"แต่ว่า เขาปฏิเสธหรือ?"เซียวหลันยวนพยักหน้า "ใช่ เขาปฏิเสธแล้ว""ฮองเฮาขายหน้าจนหมดจดต่อหน้าฮูหยินหรงเยว่ เพราะนางคิดว่าเรื่องนี้ถ้านางเอ่ยปากเองคือมั่นใจไปเก้าส่วนแล้ว ผลลัพธ์คือทำให้ฮูหยินหรงเยว่ก็ถูกฟู่จิ้นเชินปฏิเสธอีกครั้ง นางตอนนั้นก็อับอายจนแทบจะไปโขกเสาอยู่แล้ว""นี่มันอ่อนแอเสียจริง"และเพราะชายหนุ่มที่อยากออกเรือนด้วยไม่ยินยอมรับนางเป็นภรรยา ดังนั้นเลยอยากจะตายหรือ?แต่ดูฮูหยินหรงเยว่ก็ไม่เหมือนพวกที่จะยอมเป็นยอมตายง่ายแบบนั้นเลยนี่นา"ตอนนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายจนจัดการไม่ไหว องค์รัชทายาทก็น่าจะอณุญาตอะไรบางอย่างให้กับฮู่หยินหรงเยว่ ดังนั้นตอนที่องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ หลังจากที่นางขึ้นเป็นฮองเฮา จึงให้ประโยชน์บางอย่างกับฮูหยินหรงเยว่ กลายมาเป็นเบื้องหลังของนาง"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้"แต่ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะไม่ได้ง่ายดายเช่นนี้? แค่เพื่อหน้าตาเท่านั้นหรือ?""พวกเขาต่อมาจะต้องมีแผนชั่วอะไรอยู่แน่ๆ อย่างเช่นหอจันทร์หยาดของฮูหยินหรงเยว่นี้ อันที่จริงมีเงินของฮองเฮาอยู่ด้วย นี่อาจจะเป็นลู่ทางหาเงินให้ตนเองของฮองเฮาอีกทางก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นฮองเฮามีเรื่องอะ
ทั้งสองคนล้วนดิ่งสู่ความเงียบงันหลังจากคำพูดนี้ของเซียวหลันยวนและไม่รู้เพราะอะไรถึงรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองอย่างประหลาดเซียวหลันยวนคิดถึงความรู้สึกในใจที่ควบคุมไม่ได้อย่างหนัก ตอนที่พบว่าคนในศาลาทำเรื่องเช่นนั้นในวันนี้ช่วงบ่าย"ท่านกลัวว่าเป้าหมายที่แต่งงานกับข้ายังไม่สำเร็จ แล้วข้าเกิดเรื่องขึ้นมาก่อนสินะ" ฟู่จาวหนิงถามถึงอย่างไรเขาก็คิดจะรอให้พวกของฟู่หลินซื่อกลับมาอยู่แล้ว ตอนนี้ฟู่หลินซื่อยังไม่กลับมา ถ้าหากนางเกิดเรื่องอะไรขึ้นจนทำให้เขาจำใจต้องหย่าร้างกับนาง เช่นนั้นการแต่งงานนี้ก็จะสูญเปล่าสินะ?ถึงตอนนั้นยังทำให้เขาต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก อับอายขายขี้หน้า"ก่อนหน้านี้เจ้าก็ชอบไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งมายังหอจันทร์หยาด แล้วครั้งนี้เซียวเหยียนจิ่งนัดเจ้าออกมาหรือ?"เซียวหลันยวนพอพูดถึงเรื่องนี้ ในใจก็เจ็บจี๊ดเขามีความรู้สึกเช่นนี้เป็นครั้งแรก ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"เรื่องนี้น่ะ มันเกิดขึ้นเพราะตัวท่านเลยเถอะ!"เขาไม่พูดยังพอว่า แต่พอพูดออกมา ฟู่จาวหนิงก็เดือดดาล"ข้า?" เซียวหลันยวนชี้ตนเอง"ท่านนั่นล่ะ คนที่นัดข้าออกมาคือซ่งอวิ๋นเหยา ข้าไม่เชื่
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่