"ใช่ ใยผนึกลำคอ พบได้น้อยมาก แต่ว่าในเขาลึกแคว้นเจาของเราบางครั้งก็พบเห็นอยู่บ้าง"ผู้อาวุโสจี้ไม่ได้กังวลกับเรื่องแผลบนริมฝีปากพวกเขาอีกและมาเจอกับสิ่งที่ฟู่จาวหนิงรู้จักเข้าพอดี เขาจึงควรจะทำหน้าที่อาจารย์ขึ้นมาแล้ว"ข้าเองก็ไม่คิดว่าในภูเขาที่ใกล้เมืองหลวงขนาดนี้จะมีเจ้าสิ่งนี้อยู่ด้วย สิ่งนี้ไม่ใช่จะเกิดอยู่ตามต้นไม้พวกนี้ แต่เป็นเพราะพวกแมลงบินบางส่วนไปแตะพิษในจุดที่ใยผนึกลำคอเกิดอยู่ จากนั้นก็บินมาที่นี่ แล้วมาพักอยู่บนต้นไม้นี้เข้า""แมลงบินเหล่านี้สร้างรังอยู่บนต้นไม้ต้นนี้ พอใช้ชีวิตไปพักหนึ่ง ก็ทำให้พิษที่ติดมาแพร่ลงลงต้นไม้ต้นนี้ พอดินฟ้าอากาศเหมาะสมเข้า ก็จะมีใยผนึกลำคอนี้งอกออกมา""เมื่อครู่แมลงบินพวกนั้นกระพือปีกบินออกไป เจ้าใยผนึกลำคอนี่ก็สาดร่วงลงมาพอดี ข้าเห็นเป็นดอกเล็กๆ อยู่บนต้นไม้นี้ตั้งแต่ไกลแล้ว จู่ๆ ก็นึกออกถึงเจ้าสิ่งนี้พอดี กำลังจะเรียกให้เจ้าหลบไป ไม่คิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะนำหน้าไปก่อนแล้ว"พูดถึงจุดนี้ ผู้อาวุโสจี้ก็ยังผวาตามมา"เจ้าบอกมาหน่อยว่าคนที่คล่องแคล่วมากๆ อย่างเจ้าเมื่อครู่ทำไมจึงมึนงงเช่นนั้น?"เขาเดิมทีคิดว่าฟู่จาวหนิงจะสังเกตเห็นแมลงบินพวกน
"อันตราย?"เซียวหลันยวนกลับไม่เข้าใจความหมายของนางฟู่จาวหนิงคิดว่าเขาคงไม่ยอมรับ จึงแค่เหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "น่าเสียดาย เรื่องของซือถูไป๋เองก็เป็นเรื่องเมื่อห้าปีก่อน ห้าปีผ่านไปแล้ว ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้างพวกเราเองก็ไม่รู้""ศิษย์เอ๋ย มานี่ ข้าจะสอนเจ้าว่าเก็บใยผนึกลำคอเหล่านี้อย่างไร"ผู้อาวุโสจี้เองก็รีบเดินไปทางต้นไม้ต้นนั้นพอเป็นเช่นนี้เรื่องที่พวกเขาคุยกันจึงหยุดลงชั่วคราวฟู่จาวหนิงเดินออกไปผู้อาวุโสจี้ตรวจสอบบนกิ่งไม้ไปแล้ว ด้านบนยังมีใยผนึกลำคออยู่อีกหลายดอก เขามองไปทางเซียวหลันยวน "ต้องรบกวนอ๋องเจวี้ยนเขย่าที่เหลืออยู่บนนั้นลงมาด้วย"พอเขาพูดจบ เซียวหลันยวนแค่ยื่นมือออกมาตบ ลมจากฝ่ามือก็เขย่ากิ่งไม้ ใยหลายดอกด้านบนก็ลอยลงมาบนพื้นอย่างรวดเร็ว"จริงด้วย อ๋องเจวี้ยนรู้จักของเหล่านี้ได้อย่างไรหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถามเซียวหลันยวนขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็นปกติของพวกนี้มีคนรู้จักน้อยมากตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงก็เห็นว่ามุมปากเซียวหลันยวนจู่ๆ ก็เม้มแน่น กลิ่นอายทั้งตัวเขาก็ราวกับเย็นชาลงมาผู้อาวุโสจี้ไม่ทันสังเกต แต่นางสังเกตเห็นแล้วคำถามนี้ของผู้อาวุโสจี้ถามจี้ใจดำเซียวหล
ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกของฟู่จาวหนิงก็หาหินก้อนนั้นพบจริงๆหลักๆ คือหินก้อนนี้ขนาดไม่น้อยเลย เดินหาหน่อยเดี๋ยวก็พบบนหินยังมีเลือดติดอยู่เลย บนพื้นดินข้างๆ ยังมีรอยเลือดที่แห้งกรังจนเป็นสีดำแล้วด้วยจากหินตรงนี้มองขึ้นไป บนเนินก็ยังเห็นร่องรอยของคนกลิ้งตกลงมาผู้อาวุโสจี้ดีใจมาก "หาพบแล้ว! เช่นนั้นเถาขมเฝื่อนก็น่าจะอยู่ข้างบนนี้ พวกเรารีบขึ้นไปดูเถอะ"เขาพูดปาวๆ พอหันหน้ามาก็เห็นฟู่จาวหนิงยังนั่งยองอยู่ข้างหินก้อนนั้นดูอะไรอยู่ รอยเลือดที่อยู่บนหินนั่น น่าจะเป็นจุดที่ผู้เฒ่าหวางกระแทกลงมา ที่นั่นคมนิดหน่อย และมีส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างกลมลื่นยื่นออกมาเห็นแล้ว แต่ยังจะไปค้นคว้าอะไรอยู่อีก?เซียวหลันยวนยืนมองอยู่ข้างๆ"เข้าใจลักษณะคร่าวของหินก้อนนี้ จะช่วยให้ข้ารักษาได้แม่นยำขึ้น" ฟู่จาวหนิงอธิบายกับผู้อาวุโสจี้ขึ้นคำหนึ่งผู้อาวุโสจี้สีหน้าจริงจังขึ้นมา"จาวหนิง เจ้าเป็นหมอที่ดีจริงๆ"นางมีความรับผิดชอบมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ได้ตื่นเต้นที่หาเถาขมเฝื่อนพบจนลืมสิ่งที่ต้องทำด้วยคนเช่นนี้มาเป็นหมอ จิตใจไม่มีทางไม่หนักแน่นปกติคนเช่นนี้อย่างน้อยก็ต้องมีประสบการณ์มาหลายปี สำหรับหญิงสา
เซียวหลันยวนมองพวกเขาศิษย์อาจารย์สองคนนั่งยองหารือกันในกอหญ้าป่านี้อย่างออกรสออกชาติอยู่ข้างๆผู้อาวุโสจี้ตอนนี้ก็โยนเขาไปอยู่หลังสมองแล้วสมัยก่อนได้ยินคนบอกว่า ผู้อาวุโสจี้จากพันธมิตรโอสถใต้หล้าเป็นพวกบ้าสมุนไพร พอพูดถึงวัตถุดิบยาก็จะลืมไปหมดทุกสิ่งอย่าง มีคนไม่น้อยล้วนบอกว่าผู้อาวุโสจี้คนนี้น่าเบื่อสุดๆ เพราะสิ่งที่เขาพูดมามากที่สุดล้วนเป็นวัตถุดิบยาแต่ไม่ใช่คนทั้งหมดที่จะสนใจต่อวัตถุดิบยา ต่อให้ศิษย์ก่อนหน้าของเขาคนนั้นก็ยังรู้สึกอึดอัด เรียนรู้วัตถุดิบยาไปเองก็ไม่จบไม่สิ้นเสียทีแต่ว่าตอนนี้เขากลับพบว่าฟู่จาวหนิงนั้นฟังอย่างตั้งใจ กระทั่งบางครั้งที่ตามไม่ทันยังบอกให้ผู้อาวุโสจี้อธิบายอีกรอบด้วยคนหนึ่งสอนอย่างละเอียด อีกคนก็เรียนอย่างตั้งใจเซียวหลันยวนเองก็มองอยู่ข้างๆ จู่ๆ ที่หูก็กระดิกเล็กน้อย มีร่างแฉลบผ่านไปข้างกาย จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือลมฟาดคนหนึ่งลอยออกมาจากด้านหลังกอหญ้าอาวุธลับในมือคนผู้นั้นยังไม่ทันขว้างออกมา ร่างกายก็ร่วงลงไปบนพื้นแล้ว และรีบกระโจนกลับออกมาอย่างรวดเร็ว มองไปทางเซียวหลันยวนอย่างขุ่นเคือง"อ๋องเจวี้ยน ทำไมถึงมาหลอกหลอนไม่หยุดแบบนี้?"ไห่ฉางจวิ้น"
ผู้อาวุโสจี้ถลึงตามองนาง"เขายังหาไม่เจอ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ก็ไม่ได้มาขุดด้วยกันด้วย แล้วจะแบ่งให้เขาทำไมกัน? มีความจำเป็นอะไรที่ต้องแบ่ง? แล้วเขามีคุณสมบัติอะไรถึงจะได้รับการแบ่ง?"ถ้าหากหาเจอด้วยกัน ถ้าหากซือถูไป๋เข้ามาขุดด้วยกัน เช่นนั้นพวกเขาก็จำใจต้องหารือเรื่องแบ่งของอย่างเสียมิได้ ตอนนี้ซือถูไป๋ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ แล้วจะมาแบ่งอะไร?"อ๋องเจวี้ยน ท่านว่าจริงไหม?"ผู้อาวุโสจี้ถามเซียวหลันยวน"ผู้อาวุโสจี้พูดไว้ถูกต้อง" เซียวหลันยวนพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด"ดูสิ อ๋องเจวี้ยนเองก็ยังเห็นด้วยกับข้า เอาล่ะเอาล่ะ เจ้ารีบขุดเข้า ระวังมือของเจ้าด้วย" ผู้อาวุโสจี้เร่งรัดฟู่จาวหนิงเขาไม่เพียงแต่ไม่อยากจะแบ่งวัตถุดิบยาให้ซือถูไป๋ แต่ยังกลัวว่าตอนนี้เขาจะเข้ามาด้วย"หญิงสาวอย่างเจ้าอะไรก็ดีไปหมด แต่บางครั้งจะใจอ่อนไปหรือไม่?"ผู้อาวุโสจี้นั่งบ่นกระปอดกระแปดอยู่ข้างๆ "อย่างที่รักษาอาการให้ผู้เฒ่าหวางนั่นด้วย เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย และจะต้องเสียเวลาอย่างมากอีก แต่เจ้ากลับไม่เก็บเงินสักแดงเดียว เจ้าเป็นเช่นนี้ หลังจากนี้อาชีพหมอคงจะเลี้ยงตนเองไม่ไหว""อาจารย์" ฟู
"แต่ว่าคุณชายถ้าออกไปหาดีดีก็คงจะหาพวกเขาพบนี่นา ถ้าแค่คุณชายไปขุดเถาขมเฝื่อนด้วยกัน ผู้อาวุโสจี้จะแย่งไปทั้งหมดได้หรือ?"อาเพียนมองซือถูไป๋อย่างกังวลเล็กๆ "คุณชาย คุณชายถังเอาแต่จ้องตำแหน่งนายน้อยของท่านเขม็ง เขาได้รับการช่วยเหลือจากต้าชื่อแล้วด้วย แล้วยังเอาใจนายท่านอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่อีก ถ้าท่านมาเมืองหลวงรอบนี้แล้วรวบรวมตัวยามหัศจรรย์ไปไม่ครบ นายท่านคงจะผิดหวังมากแน่ๆ "ถึงตอนนั้นคุณชายถังถ้ายืนยันได้ว่าเป็นสายเลือดของนายท่าน ประคองตัวตนฐานะตนเองอย่างมั่นคงแล้ว ตำแหน่งของคุณชายจะรักษาไว้ไม่ได้เอานะนายท่านเดิมทีไม่ค่อยจะชัดเจนกับแม่ของคุณชายถังอยู่แล้ว คุณชายถังเองอาจจะเป็นลูกชายของนายท่านก็ได้"ไม่เป็นไร ไม่มีเถาขมเฝื่อนก็ยังหาอย่างอื่นได้""คุณชาย""เอาล่ะ อาเพียน เจ้าตอนนี้เริ่มพูดมากแล้วนะ"อาเพียนถูกตำหนิไปคำหนึ่ง ก็ปิดปากลงด้วยความรู้สึกน้อยใจฟู่จาวหนิงกลับมาถึงบ้านตระกูลฟู่ นำหินก้อนนั้นวางกลับไปที่เดิมของมัน จากนั้นก็เอาหินหยาบมรกตที่ซือมาจากผู้เฒ่ากู้สองก้อนวางไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ปลูกโกฐเหลืองที่ขุดกลับมาจากในภูเขาเอาไว้ข้างๆครั้งนี้ได้รับของกลับมาจากบนภูเข
"ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ไม่ต้องร้อนรน"พอเห็นเสี่ยวเถาร้อนรนจนร้องไห้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าประคองนาง"แต่ว่าคุณหนูเองก็ดมกลิ่นไม่ออกแล้วนี่" เสี่ยวเถารู้สึกแปลกหน่อยๆ "เอ๋ ไม่ใช่สิ คุณหนู แล้วทำไมตอนนี้ข้าถึงได้กลิ่นหอมของเทียบเชิญนั่นแล้วล่ะ?""เพราะไม่ใช่ว่าประสาทรับกลิ่นจะหายไปทั้งหมด เพียงแต่จะไม่ได้ไวเหมือนเมื่อก่อน ไม่ค่อยปกติเท่านั้น เจ้าตอนนี้ที่ได้กลิ่นหอมของเทียบเชิญไม่ได้หนักหน่วงเหมือนเมื่อวานใช่ไหม? นี่ก็เพราะประสาทรับกลิ่นเริ่มกลับมาแล้ว""ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง ข้าคิดว่าวางทิ้งไว้สักวันกลิ่นหอมก็จะจางไป""ในนี้น่าจะยังมีตัวยาที่ทำให้กลิ่นคงไว้อยู่ ดังนั้นกลิ่มหอมจึงไม่จางหายไปไวนัก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "เจ้าอย่าลืมว่าคุณหนูของบ้านเจ้าทำอะไร พิษแค่นี้ข้าแก้ไขได้อยู่"ฟู่จาวหนิงให้นางรอก่อน ตนเองเข้าไปในห้อง เพียงไม่นานก็หยิบยาลูกกลอนที่ปั้นลวกๆ ออกมาเม็ดหนึ่ง"กินลงไปก็พอแล้ว"เสี่ยวเถารับยาลูกกลอนเม็ดนี้ ยัดลงไปในปากทันที"เจ้าเชื่อใจข้าขนาดนั้นเลยหรือ?""แน่นอนสิเจ้าคะ ท่านเป็นคุณหนูของข้านะ ยิ่งไปกว่านั้นวิชาแพทย์ของคุณหนูก็ยังยอดเยี่ยมมากด้วย" เสี่ยวเถากลืนยาลูกกลอนเม
"คุณหนู ท่านอย่าไปเชียว" เสี่ยวเถาเอ่ยเตือนนางอย่างกังวล"ข้าขอดูก่อน"ผลลัพธ์ผ่านไปไม่นานนัก ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าอีกฝ่ายทำไมจึงมั่นใจว่าตนเองจะไปยังหอจันทร์หยาด เพราะว่า มีคนส่งจดหมายเข้ามาอีก บอกว่าหลินอันห่าวไปตกอกตกใจอะไรอยู่ที่นั่น เอาแต่ร้องห่มร้องไห้หลินอันห่าวเป็นลูกสาวของพี่สะใภ้รองฟู่หลินซื่อ หรือก็คือน้าสะใภ้รองของฟู่จาวหนิงก่อนหน้าพิธีเดิมพันโอสถครั้งที่แล้วมีหมอสกุลเฉียนคิดจะให้นางเป็นคนไข้ตัวอย่างจึงยิงเข็มพิษใส่นาง ฟู่จาวหนิงรักษาอาการให้นางแล้วน้าสะใภ้รองเซี่ยซื่อเป็นเพียงคนเดียวในตระกูลหลินที่เคยช่วยเหลือผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิงเอาไว้ ตอนนี้พูดได้ว่าเป็นญาติที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมที่เหลืออยู่ของบ้านพวกนางแล้วฟู่จาวหนิงคิดถึงสภาพหวาดผวาของหลินอันห่าว ไฟโกรธก็แทบจะปะทุเผาไหม้ขึ้นมาเหนือหัวทันทีหลินอันห่าวเป็นเด็กที่มีปัญหาในสมอง อายุสิบสองสิบสามปี ตอนนี้สติปัญญาก็น่าจะแค่สี่ห้าขวบ ยิ่งไปกว่านั้นปฏิกิริยาเองก็ยังใสซื่ออย่างมาก ตอนนี้ทำไมจึงไปยังหอจันทร์หยาดเพียงคนเดียวล่ะ?ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังเพื่อจะล่อลวงนางไปหอจันทร์หยาดแล้วใช้หลินอันห่าวมาเป็นเครื่องมือ เช่
พวกของอวิ๋นจูถูกทำร้ายจิตใจอีกครั้งหนึ่งหมายความว่าอย่างไร? รับพวกนางไว้คือทำให้ตนเองสกปรกหรือ? พวกนางเป็นสิ่งสกปรกหรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงกระแอมออกมาสองที "ขัดราชโองการมันก็ไม่ดีจริงๆ นั่นล่ะ ให้พวกนางอยู่ปรนนิบัติท่านอ๋องที่นี่แล้วกัน ไหนๆ ก็มากันแล้ว"เซียวหลันยวนหรี่ตาลง บีบมือฟู่จาวหนิงทำไมจึงเป็นเช่นนี้?เขาแสดงท่าทีเด็ดขาดไปแล้ว ว่าจะไม่รับหญิงสาวเหล่านี้เด็ดขาด จาวหนิงกลับไม่เชื่อเขาหรือ?ฟู่จาวหนิงตั้งใจจะจัดการคนพวกนี้อยู่แล้ว จะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไรก่อนหน้านี้ไม่ใช่มาเชิดหน้าชูตาเลือกเรือนต่อหน้าข้าหรือ? ตอนนี้นางจะให้พวกนางเลือกให้พอเลยนางไม่สนใจเซียวหลันยวน แต่มองไปทางหัวหน้าคุก"พวกเรามาอยู่ด้วยกันกับท่านอ๋อง ห้องนี้ข้ากับท่านอ๋องอยู่ ให้พวกนางไปอยู่ห้องตรงข้ามกับข้างๆ ก็แล้วกัน พวกนางอยากจะอยู่ใกล้ๆ ท่านอ๋องข้าหน่อยน่ะ"นางดึงเซียวหลันยวนเดินตรงไปห้งอขังที่สะอาดที่สุดตรงหน้า เปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้าน "เปิดประตูห้องขังสิ ยืนงงอะไรอยู่? ท่านอ๋องข้าตอนนี้กำลังติดคุกอยู่นะ พวกเจ้ายังไม่รีบให้เขาเข้าไปอีก"ผุ้คนคุมหนึ่งฟังคำสั่งนางอย่างงงๆ เดินเข้ามาเปิดประตูฟ
พวกของอวิ๋นจูตะลึงงันไปก่อนหน้านี้ยังสั่งคนมาไล่พวกนางออกจากจวนอ๋องแท้ๆ ตอนนี้กลับลืมไปแล้วว่าพวกนางเป็นใคร?เซียวหลันยวนไม่สนใจพวกนาง เขามองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมา"องค์จักรพรรดิประกาศราชโองการลงมา บอกจะให้พวกนางอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน หลังจากนี้ให้คอยปรนนิบัติท่านให้ดี พยายามมีทายาทสืบสกุลให้กับจวนอ๋องเจวี้ยน"เซียวหลันยวนสันหลังวาบ เขากุมมือนางแน่นทันที และพานางถอยห่างออกมาอีกหลายก้าวเจ้าจักรพรรดิสุนัขนี่ ถ้าหนิงหนิงโกรธเขาขึ้นมาเพราเรื่องนี้ เขาจะไม่ทนแล้วนะ"เมื่อครู่หลังจากวพกนางรับราชโองการแล้ว ก็เริ่มเลือกเรือนในจวนอ๋องเจวี้ยนกันแล้วนะ อย่างคนนี้ แม่นางอวิ๋นจู นางบอกจะเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อย หลังจากนี้ทุกคืนถ้าท่านจะไปหานาง จะได้ไม่ต้องตากลมหนาวเยอะ"ฟู่จาวหนิงเอาคำพูดก่อนหน้านี้พูดออกมาจนหมดนางเอียงตามองเซียวหลันยวน น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมา "ท่านอ๋อง ดีใจมากเลยใช่ไหม?""ไร้สาระ ข้าจะเอาเจ้าพวกนี้มาทำไมกัน" เซียวหลันยวนไม่มองพวกนางด้วยซ้ำเจ้าพวกนี้: ..."ข้าคิดแบบนี้นะ ในเมื่อองค์จักรพรรดิออกราชโองการให้พวกนางมาปรนนิบัติท่านแล้ว เช่นน
ฟู่จาวหนิงมองซือหรูผาดหนึ่งซือหรูดูเหมือนอายุจะมากกว่าหลายปีมองแล้วดูเป็นคนอ่อนโยนมาก นางเหมือนจะเข้าสู่บทบาทอนุภรรยาของอ๋องเจวี้ยนแล้ว เหมือนกำลังคิดแทนอ๋องเจวี้ยนกับนางแล้วอย่างไรอย่างนั้น"ในเมื่อพวกเราต้องอยู่ที่นี่กับท่านอ๋อง ที่นี่ทั้งมืดและเย็น พวกเราก็ต้องกลับไปเตรียมผ้าห่มหนาๆ หน่อยใช่ไหม แล้วก็นำเตาถ่านมาด้วย ไหนจะกาน้ำอีก ถึงเวลาท่านอ๋องจะได้ดื่มน้ำร้อนได้ตลอดเวลา"ซือหรูเลิกคิ้วเล็กน้อย ดูกังวลหน่อยๆ "พระชายา ท่านอ๋องจำเป็นต้องดื่มยาไหม? พวกเราจำเป็นต้องบอกกับผู้คุมให้เตรียมกรอกยาเข้ามาไหม?"ชิวอวิ๋นมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ สะกิดนางเบาๆ"เจ้าคิดจะอยู่ในคุกนี่จริงๆ หรือ?"นี่พูดบ้าอะไรกัน!"ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรได้?" ซือหรูผายสองมือออกชิวอวิ๋นชะงักไป ไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี นางพูดไม่ได้ว่าลองไปขอร้องพระชายาเยว่ดูไหม?พระชายาเยว่เองก็น่าจะคิดรับมือกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ ภารกิจของนางคือติดตามพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรียนรู้วิชาแพทย์ทฤษฏียาจากนาง นางเดิมทีไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในคุกใหญ่เพื่อลำบากไปด้วยกัน"ข้าจะไปขอให้ท่านพ่อช่วย!" อวิ๋นจูเห็นอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา ก็ยกเสียงขึ้น
ห้องขังด้านบนก็ถือว่าเย็นมากแล้ว ในคุกใต้ดินด้านล่างคงจะยิ่งหนาวแทงเข้าไปถึงกระดูกถ้าบวกความชื้นเข้าไปอีก ตอนกลางคืนที่นี่จะต้องเย็นจนคนอยู่ไม่ได้แน่คนที่อยู่เบื้องหลังคิดเอาไว้เช่นนี้ แค่ให้อ๋องเจวี้ยนขังอยู่ในคุกใต้ดินสักสองสามวัน เขาก็น่าจะป่วยหนักแล้วใครจะคิดว่านี่ยังไม่ทันถึงวันเลยเซียวหลันยวนยืนอยู่ในห้องขัง หลับตา ราวกับเสาต้นหนึ่งหัวหน้าคุกเห็นสภาพเช่นนี้ของเขา ก็อดมองไปยังกองฟางที่มุมนั่นไม่ได้ ฟางกองนั้นก็ชื้นไปหน่อยๆ แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังดูสกปรกมาก ดูท่าอ๋องเจวี้ยนแค่จะนั่งก็คงยังไม่กล้านั่งด้วยซ้ำถ้าจะขังเขาไว้ในคุกใต้ดินจริง เขาไม่ต้องยืนอยู่ตลอดแบบนี้หรือ?"เปิดประตู"เซียวหลันยวนพอได้ยินเสียง ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นพอเห็นหัวหน้าคุกเข้ามา เขากลับรู้สึกเกินคาดหลังจากถูกขังเข้ามาก็มีผู้คุมสองคนมาคุยแค่คำสองคำ ความหมายคือตอนนี้ในคุกเหลืออยู่แค่ห้องขังนี้ที่ว่าง ด้านบนมีพวกนักโทษคดีอุกฉกรรจ์เข้ามาอีกบางส่วน อ๋องเจวี้ยนถ้าจะอยู่กับพวกเขา เกรงว่าจะมีอันตรายบอกว่าที่ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินเป็นเรื่องจนใจเขาเองก็ลองบอกให้เรียกหัวหน้าคุกมาแล้ว แต่ผู้คุมก็บอกว่าหัวหน้า
พอได้ยินว่าคุกใต้ดินน้ำรั่ว หัวหน้าคุกก็ปวดหัวขึ้นมาเลยทีเดียวทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงน้ำรั่วเข้ามากัน?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สาวงามเหล่านี้เป็นคนจากที่ไหน เขาเองก็รู้อยู่ถึงอย่างไรคนเหล่านั้นก็ถูกยัดเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ไม่มีทางที่จะมีใจปฏิพัทธ์กับอ๋องเจวี้ยนแต่ถ้าตอนนี้ให้พวกนางต้องมาเห็นว่าคุกอ๋องที่ขังอ๋องเจวี้ยนไว้เป็นเช่นไร คงจะยากที่พวกนางจะไม่พูดกันออกไปองค์จักรพรรดิแค่บอกว่าจะขังอ๋องเจวี้ยนสองเดือนให้เขาได้ไปนั่งทบทวนตนเอง แต่ไม่ได้บอกว่าอ๋องเจวี้ยนจะต้องถูกทรมานอยู่ในคุกเช่นนั้นองค์จักรพรรดิคงไม่เหลือหน้าอยู่เป็นแน่แท้"คุกใต้ดิน?"ฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "พวกเราเมื่อครู่ดูห้องขังพวกนี้แล้วแต่ไม่เจอท่านอ๋องของข้าเลย เจ้าคงไม่ได้ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินกระมัง? คุกใต้ดินที่น้ำรั่ว?"ยังไม่ทันที่หัวหน้าคุกจะพูดอะไร นางก็อุทานตกใจขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! สุขภาพท่านอ๋องของพวกเรายังไม่หายดีนะ ห้องขังปกติตรงนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วทำไมถึงเอาเขาไปขังไว้คุกใต้ดินกัน? สวรรค์โปรดพระโพธิสัตว์กวนอินเอ๋ย หรือความหมายขององค์จักรพรรดิ จะไม่ใช่ให้ท่านอ๋องไปคิดทบทวน แต่จะทรมานเขาอยู
"อ๊า!" อวิ๋นจูถูกทำให้ตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา หลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว จนไปกระแทกกับชิวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ นางชิวอวิ๋นถูกกระแทกจนไปโดนประตูห้องขังอีกห้อง เสียงดังปึงนางกำลังจะกรีดร้อง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่ข้างหูมีลมหายใจคาวๆ พ่นมาที่ต้นคอ ตกใจจนนางสะดุ้งโหยง ขนลุกชูชันไปทั้งตัวนางหันหน้าคอแข็งมองไป ก็เห็นว่าด้านหลังประตูห้องขังมีผู้เฒ่าคนหนึ่งประชิดเข้ามาอยู่ข้างตัวนาง สูดลมหายใจอย่างเคลิบเคลิ้ม"หญิงสาวนี่ตัวหอมจริง...""อ๊า!"พริบตาเดียว ชิวอวิ๋นก็กรีดร้องแหลมขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดีดตัวออกห่างอย่างรวดเร็วผู้คุมพุ่งเข้ามา กระบองในมือก็ออกแรงฟาดไปที่ประตูห้องขัง"ถอยออกไป!""ทำอะไรน่ะ? ทำอะไร? อยากตายหรือไรกัน?"นักโทษเหล่านั้นล้วนถอยกลับไปในมุมของห้องขัง แต่ก็ยังมีคนที่จับจ้องมายังหญิงสาวเหล่านี้ ในดวงตามีประกายเหมือนหมาป่าชั่วร้ายอย่างไรอย่างนั้นขังอยู่ในนี้นานเกินไปแล้ว พวกเขาไม่เห็นหญิงสาวมาตั้งนาน แล้วยังเป็นหญิงสาวแรกแย้มที่สวยขนาดนี้อีกพวกของอวิ๋นจูถูกสายตาเช่นนี้จับจ้องจนตัวสั่น รู้สึกแย่ไปทั้งตัวแล้วพวกนางมองไปทางฟู่จาวหนิง แต่กลับเห็นฟู่จาวหนิงที่ไม่รู้ว่าสวมหน้
"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?" ผู้คุมถลึงตาโต สงสัยว่าหูของตนเองคงจะฝาดไป"ข้าแจ้นมาที่นี่เพื่อมาล้อเล่นอย่างนั้นหรือ?" ฟู่จาวหนิงสีหน้าแข็งขัน "ทำตามราชโองการ พวกเราก็รีบเข้ามาปรนนิบัติอ่องเจวี้ยนนี่อย่างไร อ๋องเจวี้ยนถ้าต้องอยู่ที่นี่สองเดือน พวกเราจะไปกเินดีอยู่ดีในจวนได้อย่างไรกัน? แน่นอนว่าต้องมาร่วมกันลำบากที่นี่ด้วยสิ""แต่ แต่ว่า..."ผู้คุมทั้งหมดล้วนเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร แต่ละคนใบ้กินกันไปหมดอ๋องเจวี้ยนอยู่ในคุกใต้ดินนะ แล้วยังเป็นคุกใต้ดินที่สิ่งแวดล้อมแย่ที่สุดห้องนั้นด้วย"พวกเจ้าไม่เชื่อก็ไปถามองค์จักรพรรดิเอา สายสวยพวกนี้ฝ่าบาทส่งมา บอกให้พวกนางดูแลอ๋องเจวี้ยนให้ดี ข้าจะให้พวกนางขัดราชโองการได้อย่างไรกัน?"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก แสดงออกว่าตนเองเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังต่อราชโองการ"นี่นี่นี่ พวกนางควรจะรออยู่ที่จวนอ๋องเจวี้ยนถึงจะถูกสิ...""เช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋องพวกเราต้องอยู่ในคุกตั้งสองเดือนเชียวนะ นี่เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้วด้วย พวกเราจะปล่อยให้เขาติดคุกอยู่คนเดียว แต่ตนเองไปเสวยสุขอยู่ในจวนได้อย่างไ
เขาควรจะเขียนจดหมายบอกนายท่านหน่อยดีไหม ว่าจวนอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ถูกยัดหญิงสาวเข้ามาถึงสามคน? ถ้ารับสามคนนี้เข้ามา หลังจากนี้ก็คงจะมีคนที่สี่ห้าหกเจ็ดอีกถ้าหากหญิงสาวเหล่านี้วันวันเอาแต่ลอยชายอยู่ข้างกายคุณหนูกับอาเขย ร้อยเล่ห์มารยา จะช้าเร็วคงได้ส่งผลกระทบกับความรักของคุณหนูกับอาเขยแน่ๆผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยก็ได้ข่าวนี้แล้ว ปู่หลานทั้งสองคนก็รีบตรงเข้ามาและได้ยินคำพูดที่อวิ๋นจูกำลังเลือกเรือนกับฟู่จาวหนิงอยู่"พระชายา ข้าได้ยินว่าท่านอยู่ในเรือนเจียนเจีย เรือนนั้นห่างจากเรือนโยวหนิงไปหน่อย ข้าอยู่เรือนไหนถึงจะดีล่ะ? หรือให้ข้าเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อยดี? อีกหน่อยท่านอ๋องถ้าจะไปหาข้าก็ไม่ต้องเดินทางไกลแล้ว"นิ้วมืออวิ๋นจูกำชายเสื้อตนเองไว้ ก้มหน้าต่ำนิดหน่อย ดูอ่อนโยนอ่อนแอ ทำให้คนอยากเข้ามาปกป้อง"ร่างกายของท่านอ๋องไม่ใช่เพิ่งดีขึ้นหรือ? หลังจากนี้หากจะต้องมาหาตอนกลางคืน ถ้าเดินไหกลมากคงไม่ดีกับสุขภาพเขาเท่าไร""หญิงสาวอย่างเจ้าไม่หน้าด้านไร้ยางอายไปหน่อยหรือ?!"ฟู่จาวเฟยพอได้ยินคำพูดนี้ก็ด่าลั่นออกมาอย่างโกรธเคืองยังไม่มีตัวตนฐานะอะไรกันเลย นี่คิดจะมาบีบคั้
ฟู่จาวหนิงดึงสติกลับมาที่นี่ยังไม่มีความคิดเรื่องที่ว่าเครือญาติแต่งงานกันไม่ได้สินะแล้วเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกันก็มีอยู่มากมายจริงๆเซียวหลันยวนกับอวิ๋นจูเองก็ไม่ถือว่าเป็นญาติใกล้ๆ กันแล้ว จากที่พวกเขาเห็นก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร"ท่านถามข้าว่าทำไมไม่เรียกเขาพี่ชาย ไม่ใช่คิดจะหยามหมิ่นข้าหรอกหรือ?" อวิ๋นจูเข้ามาใกล้นาง กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นว่า "แม่ของข้าเป็นเมียน้อยที่ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ราชวงศ์ไม่ยอมรับตัวตนฐานะของข้า พ่อของข้าก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนข้าแล้วพาข้าไปพบเหล่าพี่น้องในราชวงศ์พวกนั้นอย่างผ่าเผย แล้วอ๋องเจวี้ยน จะมองข้าเป็นน้องสาวได้อย่างไรกัน?""ดังนั้นข้าจึงไม่คิดจะใช้ความสัมพันธ์ในชั้นนี้เข้าใกล้เขาตั้งแต่แรก"อวิ๋นจูดูแล้วเหมือนจะภูมิใจขึ้นมาหน่อย แต่พอฟังน้ำเสียงนางก็ยังมีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่เหมือนกันคนแม่เป็นเมียน้อย เป็นความเจ็บปวดในใจนางมาโดยตลอด"ข้าเชื่อว่า ด้วยตัวของข้า ข้าเองก็สามารารถทำให้อ๋องเจวี้ยนเอียงตามองข้าต่างออกไปได้"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองพิจารณานางผาดหนึ่งท่ามกลางสายตาพิจารณาของนาง อวิ๋นจูก็ยืดอกขึ้นนางมั่นใจกับรูปร่างภายนอกของ