การเดิมพันการพนันพ่ายแพ้จนบ้านล้มละลายได้เลยทีเดียว"ลุงฟางเองกว่าจะต่อสู้จนเป็นกิจการเช่นปัจจุบันนั้นไม่ง่ายเลย ข้าเคยได้ยินฟางซือฉิงพูดว่า ก่อนหน้านี้ลุงฟางเองทำไร่ทำนาด้วย แล้วยังขึ้นเหนือลงใต้ทำการค้า เจอกับการปล้นชิง ตกเขาลงน้ำลงห้วย ลำบากมากไม่น้อยจึงมีบ้านและที่ดินเช่นปัจจุบัน""ใช่ๆๆ""ดังนั้นต้องปกป้องกิจการที่บ้านให้ดี จะมาพ่ายแพ้ลงง่ายๆ ไม่ได้"เศรษฐีฟางฟังพลางพยักหน้าจะว่าไปก็แปลก ฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิงรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ตอนที่นางพูดเช่นนี้กับเขา เขาไม่ได้มองนางเป็นสาวน้อยคนหนึ่งเลย และไม่รู้สึกเลยว่าคำพูดที่นางอายุเพียงเท่านี้มาพูดกับเขาจะดูไร้สาระ แต่กลับรู้สึกว่ามีเหตุมีผล"จาวหนิง เจ้าพูดมาถูกต้อง ลุงฟางจะฟังเจ้านะ"เศรษฐีฟางรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเองก็มองตนเองเป็นครอบครัวแล้วจริงๆให้ลูกสาวเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกับฟู่จาวหนิง เขาวางใจมากยิ่งไปกว่าฟู่จาวหนิงยังมีนิสัยดีมากอีกด้วย นางไม่ได้เปลี่ยนท่าทีต่อซือฉิงหรือพวกเขาเพียงเพราะตนเองกลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้วเลย ไม่ได้ทำตัวสูงส่ง แต่นิสัยกลับยังดีขึ้นกว่าเดิมด้วย ใจกว้างและจริงใจขึ้นมากเศรษฐีฟางเลือกหิ
หินของเศรษฐีฟางเองก็เริ่มตัดแล้ว แต่เพราะหินก้อนนี้เป็นก้อนใหญ่ อาจจะใช้เวลาตัดค่อนข้างนาน ดังนั้นฟู่จาวหนิงจึงกลับไปกับฟางซือฉิงก่อนแล้วทิ้งให้เศรษฐีฟางคอยเฝ้าอย่างตึงเครียดอยู่ที่นั่นห้าร้อยตำลึง สำหรับเขาแล้วไม่ได้มากมายนัก แต่เรื่องนี้ก็แปลก พอมีผลลัพธ์ว่าจะราคาเพิ่มหรือลดแขวนรออยู่ ก็ทำเอาคนทั้งเฝ้ารอทั้งตึงเครียด"จาวหนิง หินที่เจ้าซื้อมาอีกสองก้อน ไม่ให้ผู้เฒ่ากู้ตัดแล้วหรือ?"หลังจากกลับไป ฟางซือฉิงเห็นฟู่จาวหนิงซื้อหินอีกสองก้อนก็รู้สึกแปลกๆคนทางนั้นเองก็ไม่มีอุปกรณ์ในการตัดหินนี่นา แล้วจาวหนิงไม่ตัดหินสองก้อนนี้ แล้วจะไปมีประโยชน์อย่างไร"ไม่ตัดแล้ว ข้าจู่ๆ ก็รู้สึกว่าซื้อหินไร่สักสองก้อนกลับไปวางไว้ที่บ้านเองก็ไม่เลว ถือว่าสะสมเงินเอาไว้เลยแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในหินแร่ที่ตนเองเลือกออกมาต้องมีหินหยกที่ดีมากอยู่ข้างในแน่ แต่นางอยู่ตัดที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้วถ้าเผื่อมีหินที่ดีออกมาได้จริงๆ ไม่มีรอยปริรอยแตก เช่นนั้นก็คงจะก่อให้เกิดความสงสัยจากผู้เฒ่ากู้และคนอื่นแล้วนางซื้อหินมาตัดสามก้อน ทุกก้อนล้วนตัดออกมาได้ดี ได้ราคาหมด นี่มันไม่แปลกหรือ?สองก้อนนี้ย้าย
นางเดิมทีคิดจะไปหาอาจารย์ให้ไวที่สุด แต่ว่าตอนนี้พอเห็นท่าทีของฮูหยินฟาง หรือว่านางจะป่วยอะไร?"นั่นคือ ข้าเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร อาการนี้ของข้าบอกไปก็น่าอาย แล้วยังไปหาหมอไม่ได้ด้วย"ฮูหยินฟางถอนหายใจ "แต่ว่าอาการนี้ก็ทรมานคนเสียจริง แล้วยังทรมานมากด้วย""ป้าฟาง ท่านไม่สบายตรงไหนหรือ?"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นไปล้างมือ หลังจากใช้ผ้าเช็ดจนแห้งก็เดินมาอยู่ข้างๆ ฮูหยินฟาง "ท่านลองบอกอาการดู ข้าจะจับชีพจรให้ท่าน"ฮูหยินฟางใบหน้าแดงหน่อยๆนางมองลูกสาวอย่างขวยเขิน จากนั้นก็มองฟู่จาวหนิง "ข้ารู้สึกไม่ค่อยอยากให้ฟางซือฉิงได้ยิน แต่ก็กังวลว่าโรคของสตรีนี้อีกหน่อยนางอาจจะเป็นด้วย"นางพูดเช่นนี้ฟู่จาวหนิงก็เริ่มมีการคาดเดา คาดเดาว่าน่าจะเป็นโรคทางนรีเวชนี่ก็เป็นเรื่องที่พวกนางยากจะเอื้อนเอ่ยจริงๆ โดยเฉพาะตอนนี้ก็แทบจะไม่มีหมอผู้หญิงเลย แล้วโรคแบบนี้จะกล้าไปหาหมอผู้ชายได้อย่างไรกันนางก่อนหน้านี้ได้ยินว่า สมัยโบราณมีหญิงสาวบางส่วนบอกอาการโรคกับหมอก็ถูกสามีหย่าร้าง บอกว่านางไร้ยางอาย ไม่รักษาขนบธรรมเนียม"เช่นนั้นก็ให้ซือฉิงฟังด้วยแล้วกัน ไม่เป็นไรหรอก"ฟู่จาวหนิงเองก็ดูใจกว้าง ความเขินอา
ฟู่จาวหนิงดูอาการให้ฮูหยินฟางเรียบร้อย ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ จึงจ่ายรายการยาให้นางสองอย่าง"ป้าฟาง อันนี้คำรายการยากิน แล้วก็อันนี้สำหรับใช้ภายนอก วัตถุดิบยาหามาจนครบแล้วต้มเป็นน้ำ ปล่อยให้อุ่นแล้วนำมาล้างส่วนที่เป็นโรค แล้วก็เสื้อผ้าน้อยที่แนบกับร่างกายต้องต้มน้ำลวกเสียหน่อย เปลี่ยนทุกวัน ต้องระวังเรื่องความสะอาด ไม่กี่วันก็จะดีขึ้น"ฟู่จาวหนิงกำชับอย่างละเอียด "แต่ว่าต่อให้ไม่คันแล้ว ความสะอาดของแต่ละคนก็ยังต้องรักษาเอาว้ด้วย ตอนที่ระดูมาผ้าระดูก็ต้องเปลี่ยนอย่างระมัดระวังด้วย"ฮูหยินฟางพยักหน้าไม่หยุด"ซือฉิง เจ้าก็จำไว้ด้วยนะ ฟังคำพูดของจาวหนิงเอาไว้""แล้วก็ ไม่ใช่แค่ตนเองต้องดูแลเรื่องความสะอาด ท่านเองก็กำชับลุงฟางให้ระวังเรื่องความสะอาดของตนเองด้วย...""ทำไมล่ะ?" ฟางซือฉิงไม่ค่อยเข้าใจ ถามขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณฮูหยินฟางหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง"จาวหนิง เจ้าบอกมา บอกมาเร็ว"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเขินๆ นี่เป็นความเคยชินของหมอ ที่ต้องพูดอะไรที่ควรพูดออกมาให้หมดรอจนนางอธิบายกับฟางซือฉิง หน้าของฟางซือฉิงเองก็แดงจนเหมือนเลือดไหลซิบ"เรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับร่างกายตนเองอย่างใกล้ชิด ต้องรัก
ในห้องยังมีคนอยู่ส่วนหนึ่ง ผู้อาวุโสจี้นั่งอยู่ข้างโต๊ะ อีกด้านหนึ่งมีซือถูไป๋นั่งอยู่ อาเพียนยืนอยู่ข้างเขา กำลังเบ้ปากหน้าบูดบึ้ง น่าจะถูกใครทำให้เคืองมามุมกำแพงมีชายชรานั่งยองอยู่คนหนึ่ง ข้างกายชายชรายังมีป้าอีกคนหนึ่งอยู่ กำลังตำหนิเขาอยู่และบนเก้าอี้ตัวหนึ่งริมหน้าต่างมีชายขาวตัวอ้วนอีกคนหนึ่ง ขาวมาก และอ้วนมาก ผิวนั่นแทบจะเปล่งแสงคะนิ้งได้เลยอย่างไรอย่างนั้น ชั่วขณะหนึ่งถึงกับดูอายุของเขาไม่ออกเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงเห็นว่าผู้ดูแลเติ้งคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ ชายคนนี้ ก็รู้ว่านี่คือคนบนรถม้าคนนั้นรูปร่างนี้ของเขา สามารถเดินทางนับพันลี้มาเมืองหลวงเพื่อหายา ก็ถือว่าทรมานอยู่ไม่เบาฟู่จาวหนิงพอเข้ามา คนในห้องก็เห็นเข้าแล้วซือถูไป๋เห็นนางก่อน "คุณหนูฟู่?"ผู้อาวุโสจี้เองก็มองเข้ามา ตกตะลึงไปทันที "เจ้ามาได้อย่างไรกัน?"ชายขาวตัวอ้วนคนนั้นเองก็หันหน้ามองมา มองเขาหมุนคอ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าน่าจะหายใจหายคอลำบากอยู่ชายคนนี้แค่มาหายา หรือว่าจะเคยไปหาหมอแล้ว และรู้ว่าอาการป่วยนี้ของเขารักษาอย่างไร?นางเองก็ดูอยากรู้อยากเห็นมาก"ข้าได้ยินว่าพวกท่านอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงตามมาดูเสียห
ซือถูไป๋ตอนนี้เองก็ลุกขึ้นมาด้วย ให้ฟู่จาวหนิงนั่งลงเพราะในห้องไม่มีเก้าอี้ตัวอื่นแล้ว"ไม่ต้องหรอก ท่านนั่งเถิด" ฟู่จาวหนิงโบกไม้โบกมืออาเพียนเหลือบมองนาง ปากเหมือนจะขยับ แต่ก็ข่มไว้ไม่พูดจาผู้อาวุโสจี้ดึงฟู่จาวหนิง "เจ้าอยู่ห่างเขาหน่อย พวกเราเป็นแบ่งพรรคฝ่ายกัน ไม่ใช่พวกเดียวกัน เข้าใจไหม?"ซือถูไป๋พอได้ยินคำพูดนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างจำใจ "ผู้อาวุโสจี้ ข้าเองก็เคารพท่านมากนะ ความแค้นเก่าแก่ของพันธมิตรโอสถใต้หล้ากับโรงยาทงฝูของพวกข้า พวกเราวางเอาไว้ข้างๆ ก่อนได้หรือไม่?""วางไม่ลง" ผู้อาวุโสจี้ฮึดฮัด ดึงฟู่จาวหนิงมาอยู่อีกฝั่งเขามองไม่ออกเสียที่ไหน ซือถูไป๋เจ้าเด็กคนนี้ชอบจาวหนิงเข้าแล้วเจ้าเด็กคนนี้มีเจตนาไม่ดี รู้อยู่แล้วว่าจาวหนิงเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน แต่ยังแอบคิดไม่ซื่อหรือ? เขาบอกแล้วว่าตระกูลซือถูไม่ใช่พวกคนดีเด่อะไร ซือถูเฒ่าแต่ก่อนก็ทรยศพันธมิตรโอสถ ตอนนี้เสี่ยวถูน้อยก็ยังคิดจะแย่งพระชายาคนอื่นอีก"พวกเจ้ารีบไปเถอะ พวกเจ้าพูดจาเอะอะจนข้าปวดหัวหมดแล้ว"ผู้เฒ่าหวางยังไม่ทันจะพูดจา จู่ๆ หน้าก็เปลี่ยนสี จากนั้นก็พุ่งออกไปฉับพลัน สำรอกออกมาที่ลานบ้านยกใหญ่"อ๊อก!""ตา
"เอาล่ะ เจ้ามาเลย เบาๆ หน่อยนะ อย่าให้ตัวเขาโยก ท่านป้า เตียงอยู่ในห้องไหน?" ฟู่จาวหนิงพูดพลางยื่นมือไปกดจุดชีพจรบนมือผู้เฒ่าหวางเขาอาเจียนออกมาขนาดนี้ ตอนนี้เกือบจะอาเจียนไม่ออกอยู่แล้ว แต่ก็สติสัมปชัญญะยังไม่ฟื้นขึ้นมา"นี่ ที่นี่" ป้าหวังเช็ดน้ำตารีบพาพวกเขาเข้าไปในห้องคนอื่นก็คิดจะตามมาด้วย ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นโดยไม่หันหน้า "อย่ามาล้อมมุงดู!"นางก็กลัวว่าในห้องจะแคบไป คนตั้งมากมายถ้าเบียดเข้ามา ตอนนั้นอากาศคงไม่ปลอดโปร่งพอดีเสียงของนางเพิ่งออกไป ผู้อาวุโสจี้ก็ไปยืนอีกด้าน ยื่นมือขวางคนอื่นๆ"ได้ยินแล้วนี่ ศิษย์ของข้าบอกว่าห้ามเข้าไป"ซือถูไป๋ยืนนิ่งไปแล้วชายอ้วนผิวขาวมองอยู่ที่ประตูห้องโถง เอ่ยขึ้นเสียงต่ำกับผู้ดูแลเติ้ง ผู้ดูแลเติ้งรีบเข้ามาถามผู้อาวุโสจี้"ผู้อาวุโสจี้ เมื่อครู่แม่นางคนนั้นคือศิษย์ของท่านหรือ? นางเป็นหมอหรือ?"ผู้อาวุโสจี้เหลือบมองชายอ้วนผิวขาว พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ"ใช่แล้ว"ผุ้ดูแลเติ้งดวงตาเป็นประกาย จากนั้นก็วิ่งไปข้างกายชายอ้วนผิวขาว "นายท่าน แม่นางคนนี้เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสจี้จริง และเป็นหมอจริงๆ"ชายอ้วนผิวขาวพยักหน้าไม่ขยับเขยื้อน เนื้อหลา
"พระชายา ข้าน้อยมาช่วย"ตอนที่เสียงเล็กของหงจั๋วพูดกับฟู่จาหนิง ป้าหวางเองก็ตึงเครียดหวาดกลัวจนมึนไปแล้ว ยังฟังไม่ออกถึงคำพูดของหงจั๋ว ไม่เช่นนั้นนางก็เหมือนได้ยินคำเรียกว่าพระชายา"ได้ เจ้าประคองตัวป้าหวางไปเตรียมน้ำร้อนเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่เงยหน้าขึ้น "แล้วก็ช่วยดูให้หน่อยว่ามีสุราแรงๆ ไหม ถ้าในบ้านพวกเขาไม่มี เจ้าก็ให้เฉินซษนไปเอาที่บ้านตระกูลฟางมาไหหนึ่ง""เจ้าค่ะ"หงจั๋วเห็นฟู่จาวหนิงไม่พูดอะไร จึงกำชับเรื่องที่ตนเองต้องทำ ในใจกลับยิ่งดีใจขึ้นมานางรีบประคองป้าหวังออกไปทำงานหลัจากพวกนางออกไป ฟู่จาวหนิงก็เปิดผ้าของผู้เฒ่าหวางออกเพื่อตรวจดูบาดแผลเขา นางพบว่าบาดแผลอันที่จริงไม่ลึกมาก แต่ว่าริมบาดแผลมีอาการบวมขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นยังม่วงคล้ำไปแล้วด้วยผู้เฒ่าหวางตอนนี้แม้จะไม่อาเจียนแล้ว แต่กำลังวังชาก็ยังไม่มี หัวมึนๆ งงๆ แรงที่จะลืมตามองนางให้ชัดก็ยังไม่มี"ท่าน ท่านหมอ ข้าจะตายไหม?"ผู้เฒ่าหวางเอ่ยถามฟู่จาวหนิงอย่างอ่อนแรง เมื่อครู่เขาอาเจียนจนฟ้าหมุนไปขนาดนั้น ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองนอนอยู่บนกระดานที่ลอยได้ ถูกน้ำพัดไหลหมุนไปเวียนมา ทรมานสุดๆเขาเองก็ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงเ
พวกของอวิ๋นจูถูกทำร้ายจิตใจอีกครั้งหนึ่งหมายความว่าอย่างไร? รับพวกนางไว้คือทำให้ตนเองสกปรกหรือ? พวกนางเป็นสิ่งสกปรกหรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงกระแอมออกมาสองที "ขัดราชโองการมันก็ไม่ดีจริงๆ นั่นล่ะ ให้พวกนางอยู่ปรนนิบัติท่านอ๋องที่นี่แล้วกัน ไหนๆ ก็มากันแล้ว"เซียวหลันยวนหรี่ตาลง บีบมือฟู่จาวหนิงทำไมจึงเป็นเช่นนี้?เขาแสดงท่าทีเด็ดขาดไปแล้ว ว่าจะไม่รับหญิงสาวเหล่านี้เด็ดขาด จาวหนิงกลับไม่เชื่อเขาหรือ?ฟู่จาวหนิงตั้งใจจะจัดการคนพวกนี้อยู่แล้ว จะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไรก่อนหน้านี้ไม่ใช่มาเชิดหน้าชูตาเลือกเรือนต่อหน้าข้าหรือ? ตอนนี้นางจะให้พวกนางเลือกให้พอเลยนางไม่สนใจเซียวหลันยวน แต่มองไปทางหัวหน้าคุก"พวกเรามาอยู่ด้วยกันกับท่านอ๋อง ห้องนี้ข้ากับท่านอ๋องอยู่ ให้พวกนางไปอยู่ห้องตรงข้ามกับข้างๆ ก็แล้วกัน พวกนางอยากจะอยู่ใกล้ๆ ท่านอ๋องข้าหน่อยน่ะ"นางดึงเซียวหลันยวนเดินตรงไปห้งอขังที่สะอาดที่สุดตรงหน้า เปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้าน "เปิดประตูห้องขังสิ ยืนงงอะไรอยู่? ท่านอ๋องข้าตอนนี้กำลังติดคุกอยู่นะ พวกเจ้ายังไม่รีบให้เขาเข้าไปอีก"ผุ้คนคุมหนึ่งฟังคำสั่งนางอย่างงงๆ เดินเข้ามาเปิดประตูฟ
พวกของอวิ๋นจูตะลึงงันไปก่อนหน้านี้ยังสั่งคนมาไล่พวกนางออกจากจวนอ๋องแท้ๆ ตอนนี้กลับลืมไปแล้วว่าพวกนางเป็นใคร?เซียวหลันยวนไม่สนใจพวกนาง เขามองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมา"องค์จักรพรรดิประกาศราชโองการลงมา บอกจะให้พวกนางอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยน หลังจากนี้ให้คอยปรนนิบัติท่านให้ดี พยายามมีทายาทสืบสกุลให้กับจวนอ๋องเจวี้ยน"เซียวหลันยวนสันหลังวาบ เขากุมมือนางแน่นทันที และพานางถอยห่างออกมาอีกหลายก้าวเจ้าจักรพรรดิสุนัขนี่ ถ้าหนิงหนิงโกรธเขาขึ้นมาเพราเรื่องนี้ เขาจะไม่ทนแล้วนะ"เมื่อครู่หลังจากวพกนางรับราชโองการแล้ว ก็เริ่มเลือกเรือนในจวนอ๋องเจวี้ยนกันแล้วนะ อย่างคนนี้ แม่นางอวิ๋นจู นางบอกจะเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อย หลังจากนี้ทุกคืนถ้าท่านจะไปหานาง จะได้ไม่ต้องตากลมหนาวเยอะ"ฟู่จาวหนิงเอาคำพูดก่อนหน้านี้พูดออกมาจนหมดนางเอียงตามองเซียวหลันยวน น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมา "ท่านอ๋อง ดีใจมากเลยใช่ไหม?""ไร้สาระ ข้าจะเอาเจ้าพวกนี้มาทำไมกัน" เซียวหลันยวนไม่มองพวกนางด้วยซ้ำเจ้าพวกนี้: ..."ข้าคิดแบบนี้นะ ในเมื่อองค์จักรพรรดิออกราชโองการให้พวกนางมาปรนนิบัติท่านแล้ว เช่นน
ฟู่จาวหนิงมองซือหรูผาดหนึ่งซือหรูดูเหมือนอายุจะมากกว่าหลายปีมองแล้วดูเป็นคนอ่อนโยนมาก นางเหมือนจะเข้าสู่บทบาทอนุภรรยาของอ๋องเจวี้ยนแล้ว เหมือนกำลังคิดแทนอ๋องเจวี้ยนกับนางแล้วอย่างไรอย่างนั้น"ในเมื่อพวกเราต้องอยู่ที่นี่กับท่านอ๋อง ที่นี่ทั้งมืดและเย็น พวกเราก็ต้องกลับไปเตรียมผ้าห่มหนาๆ หน่อยใช่ไหม แล้วก็นำเตาถ่านมาด้วย ไหนจะกาน้ำอีก ถึงเวลาท่านอ๋องจะได้ดื่มน้ำร้อนได้ตลอดเวลา"ซือหรูเลิกคิ้วเล็กน้อย ดูกังวลหน่อยๆ "พระชายา ท่านอ๋องจำเป็นต้องดื่มยาไหม? พวกเราจำเป็นต้องบอกกับผู้คุมให้เตรียมกรอกยาเข้ามาไหม?"ชิวอวิ๋นมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ สะกิดนางเบาๆ"เจ้าคิดจะอยู่ในคุกนี่จริงๆ หรือ?"นี่พูดบ้าอะไรกัน!"ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรได้?" ซือหรูผายสองมือออกชิวอวิ๋นชะงักไป ไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี นางพูดไม่ได้ว่าลองไปขอร้องพระชายาเยว่ดูไหม?พระชายาเยว่เองก็น่าจะคิดรับมือกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ ภารกิจของนางคือติดตามพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรียนรู้วิชาแพทย์ทฤษฏียาจากนาง นางเดิมทีไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในคุกใหญ่เพื่อลำบากไปด้วยกัน"ข้าจะไปขอให้ท่านพ่อช่วย!" อวิ๋นจูเห็นอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา ก็ยกเสียงขึ้น
ห้องขังด้านบนก็ถือว่าเย็นมากแล้ว ในคุกใต้ดินด้านล่างคงจะยิ่งหนาวแทงเข้าไปถึงกระดูกถ้าบวกความชื้นเข้าไปอีก ตอนกลางคืนที่นี่จะต้องเย็นจนคนอยู่ไม่ได้แน่คนที่อยู่เบื้องหลังคิดเอาไว้เช่นนี้ แค่ให้อ๋องเจวี้ยนขังอยู่ในคุกใต้ดินสักสองสามวัน เขาก็น่าจะป่วยหนักแล้วใครจะคิดว่านี่ยังไม่ทันถึงวันเลยเซียวหลันยวนยืนอยู่ในห้องขัง หลับตา ราวกับเสาต้นหนึ่งหัวหน้าคุกเห็นสภาพเช่นนี้ของเขา ก็อดมองไปยังกองฟางที่มุมนั่นไม่ได้ ฟางกองนั้นก็ชื้นไปหน่อยๆ แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังดูสกปรกมาก ดูท่าอ๋องเจวี้ยนแค่จะนั่งก็คงยังไม่กล้านั่งด้วยซ้ำถ้าจะขังเขาไว้ในคุกใต้ดินจริง เขาไม่ต้องยืนอยู่ตลอดแบบนี้หรือ?"เปิดประตู"เซียวหลันยวนพอได้ยินเสียง ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นพอเห็นหัวหน้าคุกเข้ามา เขากลับรู้สึกเกินคาดหลังจากถูกขังเข้ามาก็มีผู้คุมสองคนมาคุยแค่คำสองคำ ความหมายคือตอนนี้ในคุกเหลืออยู่แค่ห้องขังนี้ที่ว่าง ด้านบนมีพวกนักโทษคดีอุกฉกรรจ์เข้ามาอีกบางส่วน อ๋องเจวี้ยนถ้าจะอยู่กับพวกเขา เกรงว่าจะมีอันตรายบอกว่าที่ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินเป็นเรื่องจนใจเขาเองก็ลองบอกให้เรียกหัวหน้าคุกมาแล้ว แต่ผู้คุมก็บอกว่าหัวหน้า
พอได้ยินว่าคุกใต้ดินน้ำรั่ว หัวหน้าคุกก็ปวดหัวขึ้นมาเลยทีเดียวทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงน้ำรั่วเข้ามากัน?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สาวงามเหล่านี้เป็นคนจากที่ไหน เขาเองก็รู้อยู่ถึงอย่างไรคนเหล่านั้นก็ถูกยัดเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ไม่มีทางที่จะมีใจปฏิพัทธ์กับอ๋องเจวี้ยนแต่ถ้าตอนนี้ให้พวกนางต้องมาเห็นว่าคุกอ๋องที่ขังอ๋องเจวี้ยนไว้เป็นเช่นไร คงจะยากที่พวกนางจะไม่พูดกันออกไปองค์จักรพรรดิแค่บอกว่าจะขังอ๋องเจวี้ยนสองเดือนให้เขาได้ไปนั่งทบทวนตนเอง แต่ไม่ได้บอกว่าอ๋องเจวี้ยนจะต้องถูกทรมานอยู่ในคุกเช่นนั้นองค์จักรพรรดิคงไม่เหลือหน้าอยู่เป็นแน่แท้"คุกใต้ดิน?"ฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "พวกเราเมื่อครู่ดูห้องขังพวกนี้แล้วแต่ไม่เจอท่านอ๋องของข้าเลย เจ้าคงไม่ได้ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินกระมัง? คุกใต้ดินที่น้ำรั่ว?"ยังไม่ทันที่หัวหน้าคุกจะพูดอะไร นางก็อุทานตกใจขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! สุขภาพท่านอ๋องของพวกเรายังไม่หายดีนะ ห้องขังปกติตรงนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วทำไมถึงเอาเขาไปขังไว้คุกใต้ดินกัน? สวรรค์โปรดพระโพธิสัตว์กวนอินเอ๋ย หรือความหมายขององค์จักรพรรดิ จะไม่ใช่ให้ท่านอ๋องไปคิดทบทวน แต่จะทรมานเขาอยู
"อ๊า!" อวิ๋นจูถูกทำให้ตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา หลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว จนไปกระแทกกับชิวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ นางชิวอวิ๋นถูกกระแทกจนไปโดนประตูห้องขังอีกห้อง เสียงดังปึงนางกำลังจะกรีดร้อง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่ข้างหูมีลมหายใจคาวๆ พ่นมาที่ต้นคอ ตกใจจนนางสะดุ้งโหยง ขนลุกชูชันไปทั้งตัวนางหันหน้าคอแข็งมองไป ก็เห็นว่าด้านหลังประตูห้องขังมีผู้เฒ่าคนหนึ่งประชิดเข้ามาอยู่ข้างตัวนาง สูดลมหายใจอย่างเคลิบเคลิ้ม"หญิงสาวนี่ตัวหอมจริง...""อ๊า!"พริบตาเดียว ชิวอวิ๋นก็กรีดร้องแหลมขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดีดตัวออกห่างอย่างรวดเร็วผู้คุมพุ่งเข้ามา กระบองในมือก็ออกแรงฟาดไปที่ประตูห้องขัง"ถอยออกไป!""ทำอะไรน่ะ? ทำอะไร? อยากตายหรือไรกัน?"นักโทษเหล่านั้นล้วนถอยกลับไปในมุมของห้องขัง แต่ก็ยังมีคนที่จับจ้องมายังหญิงสาวเหล่านี้ ในดวงตามีประกายเหมือนหมาป่าชั่วร้ายอย่างไรอย่างนั้นขังอยู่ในนี้นานเกินไปแล้ว พวกเขาไม่เห็นหญิงสาวมาตั้งนาน แล้วยังเป็นหญิงสาวแรกแย้มที่สวยขนาดนี้อีกพวกของอวิ๋นจูถูกสายตาเช่นนี้จับจ้องจนตัวสั่น รู้สึกแย่ไปทั้งตัวแล้วพวกนางมองไปทางฟู่จาวหนิง แต่กลับเห็นฟู่จาวหนิงที่ไม่รู้ว่าสวมหน้
"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?" ผู้คุมถลึงตาโต สงสัยว่าหูของตนเองคงจะฝาดไป"ข้าแจ้นมาที่นี่เพื่อมาล้อเล่นอย่างนั้นหรือ?" ฟู่จาวหนิงสีหน้าแข็งขัน "ทำตามราชโองการ พวกเราก็รีบเข้ามาปรนนิบัติอ่องเจวี้ยนนี่อย่างไร อ๋องเจวี้ยนถ้าต้องอยู่ที่นี่สองเดือน พวกเราจะไปกเินดีอยู่ดีในจวนได้อย่างไรกัน? แน่นอนว่าต้องมาร่วมกันลำบากที่นี่ด้วยสิ""แต่ แต่ว่า..."ผู้คุมทั้งหมดล้วนเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร แต่ละคนใบ้กินกันไปหมดอ๋องเจวี้ยนอยู่ในคุกใต้ดินนะ แล้วยังเป็นคุกใต้ดินที่สิ่งแวดล้อมแย่ที่สุดห้องนั้นด้วย"พวกเจ้าไม่เชื่อก็ไปถามองค์จักรพรรดิเอา สายสวยพวกนี้ฝ่าบาทส่งมา บอกให้พวกนางดูแลอ๋องเจวี้ยนให้ดี ข้าจะให้พวกนางขัดราชโองการได้อย่างไรกัน?"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก แสดงออกว่าตนเองเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังต่อราชโองการ"นี่นี่นี่ พวกนางควรจะรออยู่ที่จวนอ๋องเจวี้ยนถึงจะถูกสิ...""เช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋องพวกเราต้องอยู่ในคุกตั้งสองเดือนเชียวนะ นี่เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้วด้วย พวกเราจะปล่อยให้เขาติดคุกอยู่คนเดียว แต่ตนเองไปเสวยสุขอยู่ในจวนได้อย่างไ
เขาควรจะเขียนจดหมายบอกนายท่านหน่อยดีไหม ว่าจวนอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ถูกยัดหญิงสาวเข้ามาถึงสามคน? ถ้ารับสามคนนี้เข้ามา หลังจากนี้ก็คงจะมีคนที่สี่ห้าหกเจ็ดอีกถ้าหากหญิงสาวเหล่านี้วันวันเอาแต่ลอยชายอยู่ข้างกายคุณหนูกับอาเขย ร้อยเล่ห์มารยา จะช้าเร็วคงได้ส่งผลกระทบกับความรักของคุณหนูกับอาเขยแน่ๆผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยก็ได้ข่าวนี้แล้ว ปู่หลานทั้งสองคนก็รีบตรงเข้ามาและได้ยินคำพูดที่อวิ๋นจูกำลังเลือกเรือนกับฟู่จาวหนิงอยู่"พระชายา ข้าได้ยินว่าท่านอยู่ในเรือนเจียนเจีย เรือนนั้นห่างจากเรือนโยวหนิงไปหน่อย ข้าอยู่เรือนไหนถึงจะดีล่ะ? หรือให้ข้าเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อยดี? อีกหน่อยท่านอ๋องถ้าจะไปหาข้าก็ไม่ต้องเดินทางไกลแล้ว"นิ้วมืออวิ๋นจูกำชายเสื้อตนเองไว้ ก้มหน้าต่ำนิดหน่อย ดูอ่อนโยนอ่อนแอ ทำให้คนอยากเข้ามาปกป้อง"ร่างกายของท่านอ๋องไม่ใช่เพิ่งดีขึ้นหรือ? หลังจากนี้หากจะต้องมาหาตอนกลางคืน ถ้าเดินไหกลมากคงไม่ดีกับสุขภาพเขาเท่าไร""หญิงสาวอย่างเจ้าไม่หน้าด้านไร้ยางอายไปหน่อยหรือ?!"ฟู่จาวเฟยพอได้ยินคำพูดนี้ก็ด่าลั่นออกมาอย่างโกรธเคืองยังไม่มีตัวตนฐานะอะไรกันเลย นี่คิดจะมาบีบคั้
ฟู่จาวหนิงดึงสติกลับมาที่นี่ยังไม่มีความคิดเรื่องที่ว่าเครือญาติแต่งงานกันไม่ได้สินะแล้วเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกันก็มีอยู่มากมายจริงๆเซียวหลันยวนกับอวิ๋นจูเองก็ไม่ถือว่าเป็นญาติใกล้ๆ กันแล้ว จากที่พวกเขาเห็นก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร"ท่านถามข้าว่าทำไมไม่เรียกเขาพี่ชาย ไม่ใช่คิดจะหยามหมิ่นข้าหรอกหรือ?" อวิ๋นจูเข้ามาใกล้นาง กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นว่า "แม่ของข้าเป็นเมียน้อยที่ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ราชวงศ์ไม่ยอมรับตัวตนฐานะของข้า พ่อของข้าก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนข้าแล้วพาข้าไปพบเหล่าพี่น้องในราชวงศ์พวกนั้นอย่างผ่าเผย แล้วอ๋องเจวี้ยน จะมองข้าเป็นน้องสาวได้อย่างไรกัน?""ดังนั้นข้าจึงไม่คิดจะใช้ความสัมพันธ์ในชั้นนี้เข้าใกล้เขาตั้งแต่แรก"อวิ๋นจูดูแล้วเหมือนจะภูมิใจขึ้นมาหน่อย แต่พอฟังน้ำเสียงนางก็ยังมีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่เหมือนกันคนแม่เป็นเมียน้อย เป็นความเจ็บปวดในใจนางมาโดยตลอด"ข้าเชื่อว่า ด้วยตัวของข้า ข้าเองก็สามารารถทำให้อ๋องเจวี้ยนเอียงตามองข้าต่างออกไปได้"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองพิจารณานางผาดหนึ่งท่ามกลางสายตาพิจารณาของนาง อวิ๋นจูก็ยืดอกขึ้นนางมั่นใจกับรูปร่างภายนอกของ