"แล้วเจ้าล่ะมาทำอะไร?" ใครจะไปคิดว่าชายชราที่เดิมทีดูอ้างว้างคนนี้จะเงยหน้าย้อนถามนางกลับทันที ซ้ำยังมองพิจารณาตัวนางอีกด้วย"ข้ามาเก็บยาสมุนไพร" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว พูดออกมาตามตรง"เจ้าเมื่อครู่คิดจะลงไปดูว่าข้างต้นไม้บนผานั่นมียาสมุนไพรอยู่หรือไม่ใช่ไหม?"ชายชรารีบถลึงตามองนาง แล้วสั่งสอนขึ้นมาทันที "ข้าจะพูดว่าแม่หนูอย่างเจ้าน่ะจะกล้าหาญชาญชัยเกินไปไหม? ริมผาน้ำอันตรายเสียขนาดนั้น สูงเสียขนาดนั้น แต่เจ้าก็ยังยื่นมือเข้าไปสำรวจว่าจะคว้าจะจับอะไรได้อย่างนั้นหรือ? ถ้าไม่ระวังแล้วตกลงไป กระดูกกระเดี้ยวได้หักพังหมด!"ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันพูดอะไร ชายชราก็เอ่ยต่อมาทันที"ผาน้ำนั่นพอถึงช่วงโพล้เพล้จะมีลมพัดขึ้นมา ลมเองก็ประหลาดแล้วยังแรงมากอีกด้วย เจ้าตัวเล็กแค่นี้ แค่ลมวูบเดียวก็คงพัดเจ้าปลิวไปแล้ว!"มีลมพัดด้วยหรือ?ฟู่จาวหนิงไม่รู้จุดนี้เลยแต่นางก็มีความมั่นใจที่ตนเองจะไม่ตกลงไป ต่อให้ตกลงไป นางก็ยังคว้าต้นไม้นั่นได้ทันเวลาในอดีตเรื่องพวกนี้นางเองก็ทำไปไม่น้อยแต่ถึงแม้ชายชราพูดจาจะดูไม่น่าฟังนัก แต่ก็ยังมองออกว่าหวังดีกับนางจริงๆ ฟู่จาวหนิงจึงไม่พูดอะไร"เจ้าไม่ยอมหรือ เจ้านาย
ฟู่จาวหนิงปฏิเสธทันที"ท่านอย่าตามข้ามา"ตอนนี้จากที่เห็น ไม่ใช่แค่ในวัง แต่ยังมีคนอื่นที่คิดจะใช้โอกาสนี้เอาชีวิตนางอยู่อีกชายชราถ้าติดตามนางมาจะยิ่งอันตราย"ข้าเพิ่งจะพูดว่าเจ้ามีน้ำใจ แล้วทำไมตอนนี้มาเย็นชาใส่กันเสียแล้วล่ะ? หรือเจ้าจะใจจืดใจดำมองดูคนแก่ๆ อย่างข้าอยู่ในป่าลึกลำพังเพียงคนเดียว?"ชายชรากลืนหมั่นโถวลงไปจนหมด และเหมือนจะถอนใจโล่งออกมาฟู่จาวหนิงมองเขา "ท่านตามข้ามาไม่ปลอดภัย""เอ๊ะ? ทำไมล่ะ? เจ้าหาเรื่องเก่งหรือ? ไปหาเรื่องคนเลวหรือว่าหาเรื่องสัตว์ป่ามากัน? แล้วทำไมข้าตามเจ้าไปจึงไม่ปลอดภัย?"ชายชราก็เหมือนจะสนอกสนใจขึ้นมา ไล่บี้ถามนางนางไปยั่วเอาตาแก่พูดมากคนหนึ่งเข้าแล้วหรือ?ฟู่จาวหนิงจึงหยุดพูดลง เดินไปทางริมผาอย่างระมัดระวัง"แม่หนูอย่างเจ้าทำไมถึงไม่ฟังคำเตือนข้ากันนะ นี่ยังไม่ปล่อยวางอีก" ชายชราร้อนรนขึ้นมาแล้ว เรียกนางอีกครั้ง "สมุนไพรชุ่ยซินสือหูกอนั้นต้องรอกลางดึกถึงไปเด็ดมาได้!"สมุนไพรชุ่ยซินสือหู?สือหูอันที่จริงไม่ได้หายาก แต่ว่าชุ่ยซินสือหูกลับมีสรรพคุณทางยาแข็งแกร่งที่สุด หลังจากกลั่นให้บริสุทธิ์แล้วมูลค่าประโยชน์ทางยาก็จะสูงยิ่งขึ้น เพียง
คิดไม่ถึงว่าตาเฒ่าจี้จะจมูกไวเพียงนี้ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้จักหญ้าล้างประสาทอีกด้วย"เอาล่ะ ข้าตอนนี้ขอประกาศว่าเจ้าเป็นศิษย์ของข้าแล้ว ต่อต้านไปก็ไร้ผล" ตาเฒ่าจี้ทำทีเป็นที่พึ่งพาขึ้นมา "ศิษย์เอ๋ย ใครมาหาเรื่องเจ้าหรือ?"ฟู่จาวหนิงไม่ตอบในเมื่อตาเฒ่าจี้บอกว่าชุ่ยซินสือหูเก็บได้ตอนกลางคืน สิ่งนี้นางเชื่อ หญ้าสมุนไพรชนิดนี้พบได้ยากมาก ยิ่งไปกว่านั้นท่านปู่เองก็ยังได้ใช้ ดังนั้นนางจึงต้องได้มันมา พอเห็นว่าฟ้ากำลังจะมืด จึงเตรียมตัวที่จะเฝ้ารออยู่ที่นี่ฟู่จาวหนิงเดินห่างออกมาหน่อย เลือกจุดที่เป็นหินผาสามด้านเพื่อพักผ่อน หลังจากวางตะกร้าหลังลงก็ค้นหาฟืนแห้งมา เตรียมจะจุดไฟตาเฒ่าจี้ก็ตามมาคุยอยู่ตลอด ไม่หยุดพักปากเลยหลังจากไฟติดขึ้นมา ฟู่จาวหนิงก็จับพลั่วเหล็กเล็กจ้องมองเขา "ข้าจะออกไปล่าอะไรมากินเสียหน่อย ทางที่ดีท่านไม่ต้องตามข้ามาหรอก""ระวังตัวด้วย!"นางยังไม่ทันพูดจบ อันที่จริงก็สัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้แล้ว และตาเฒ่าจี้ทางนั้นตอนนี้ก็ล้วงอะไรบางอย่างออกมาจากหน้าอก แล้วโยนออกไปทางคนที่เข้ามา ขณะเดียวกันก็ตะคอกออกไปเสียงหนึ่งด้วย"คนที่เข้ามาต้องเป็นพวกเลวๆ แหง!"ไม่รู้ว่
ตาเฒ่าจี้เดินไปทางทิศที่เสียงดังลอดมา หันหน้ากลับมามองฟู่จาวหนิงที่ยังยืนอยู่ที่เดิม"เจ้าจะไม่ไปดูกับอาจารย์หรือ?""ท่านปู่จี้ ท่านไม่ใช่บอกว่าตัวเองเป็นแค่ตาแก่หรือไร? แล้วทำไมยังจะไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านเขาอีก?"ตาเฒ่าจี้ถลึงตาโต "ข้าจะบอกให้นะเสี่ยวหนิงจื่อ พวกเราแม้จะไม่ยุ่งเรื่องของชาวบ้านเขา แต่จะนิ่งดูดายต่อความเป็นความตายไม่ได้ แล้วก็ พวกเราลองเข้าไปดูๆ ก่อนว่าเป็นใครแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยก็ได้นี่"เขาหยุดไปพักหนึ่งแล้วพูดต่อ "ถ้าช่วยไม่ไหวพวกเราศิษย์อาจารย์โกยอ้าวออกมาก็จบ"ฟู่จาวหนิงมองสภาพชุดขาดวิ่นกับแผลเล็กๆ ของเขาแล้วก็ส่ายหัว เดินตามไป"ช่วยด้วย ใครก็ได้ รีบช่วยภรรยาของข้าที"พวกเขาเดินเข้าไปใกล้หน่อย ก้ได้ยินเสียงของชายหนุ่มที่มีอาการสั่นพร่า และยังได้ยินเสียงอึกอักของหญิงสาวอีกด้วยมีผู้หญิงด้วยหรือ?ฟู่จาวหนิงเพิ่มความเร็ว พุ่งตัวเข้าไปในป่าตาเฒ่าจี้มองแผ่นหลังนาง เอ่ยขึ้นกับตนเองอย่างพึงพอใจ "ทั้งลงมืออย่างโหดเหี้ยมได้ ทั้งจิตใจก็ยังอ่อนโยนอีก ศิษย์ข้าคนนี้ไม่เลวเลย"ในป่าเบื้องหน้า มีชายหนุ่มในชุดสีฟ้าคนหนึ่งกำลังถือกระบี่หันชี้ไปยังหมู่ป่า
ตาเฒ่าจี้จี้นั่งยองข้างตัวนางทำการจับชีพจรตรวจอาการให้แล้วจงเจี้ยนทหารจวนอ๋องเจวี้ยนก็พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงเสียรอบหนึ่ง พอเห็นว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บก็แอบถอนใจโล่งออกมา ส่งสัญญาณให้ทหารสองคนที่เหลือเข้ามารวมตัวกัน จากนั้นจึงมองไปยังคนอื่นๆ ในที่นี้ฟู่จาวหนิงเองก็รีบเดินตรงไปยังฮูหยินคนนั้น นางสลบไปแล้ว"ท่านปู่ ท่านรู้เรื่องหมอด้วยหรือ" นางถามตาเฒ่าจี้เก็บมือกลับ สีหน้าไม่ค่อยดีนัก"ตั้งครรภ์อยู่ราวสี่เดือน แต่สภาพไม่ค่อยดีนัก เกรงว่าจะรักษาไว้ไม่ได้"เขาดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด "ศิษย์เอ๋ย อาจารย์รู้เรื่องยา พอเล่นกับตัวยามากชนิดเข้า ก็เป็นวิชาหมอขึ้นมา""ผู้อาวุโสจี้?"จงเจี้ยนมองตาเฒ่าจี้อย่างตะลึงงัน ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่ด้วยผู้อาวุโสจี้เพียงแค่เหลือบตามองเขาไม่สนใจอะไร แต่กลับล้วงเข้าไปค้นในหน้าอก ควานขวดยาเล็กหลายใบออกมา เลือกใบหนึ่งจากในนี้ เปิดออกแล้วเทยาลูกกลอนสีดำออกมาเม็ดหนึ่ง "นี่เป็นยาลูกกลอนเพิ่มเลือด เอาให้นางกินได้"เขาเดิมทีคิดจะให้ฟู่จาวหนิงป้อนยาให้ฮูหยินสาวคนนี้ แต่ฟู่จาวหนิงใช้นิ้วขยี้ยาลูกกลอนเม็ดนั้นแล้วนำขึ้นมาดม กลับส่ายหัวค้านว่า"ยานี้นางห้ามก
"พระราชเสาวนีย์ฮองเฮา อ๋องเจวี้ยนขนาดหน้าก็ยังไม่ยอมโผล่ออกมาเลยหรือ?"ขันทีเอ่ยเสียงแหลมเล็กกับผู้ดูแลจวนอ๋องเจวี้ยน "ในวังถึงกับลดรั้วลงมา พวกเรานำป้ายมาโดยเฉพาะ นี่จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน""กงกง ท่านอ๋องของพวกเราสุขภาพไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงนอนพักไปนานแล้ว ข้าไม่ใช่พูดกับท่านไปแล้วหรือไรกัน? พระราชเสาวนีย์ของฮองเฮา กงกงบอกกับข้าก็พอ ท่านอ๋องให้อำนาจข้าไว้ระดับหนึ่ง ถ้าหากสิ่งที่จวนอ๋องเจวี้ยนของพวกเราทำได้ ข้าก็จะทำแทนท่านอ๋องเอง แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็รอพรุ่งนี้ให้ท่านอ๋องพวกเราลุกขึ้นมาก่อนแล้วค่อยจัดการก็ไม่สาย"ผู้ดูแลจงยังคงมีท่าทีเรียบสงบฮองเฮารู้สึกร้อนรนขึ้นมาเพราะท่านอ๋องแต่งงานรับพระชายาอย่างนั้นหรือ?ก่อนหน้านี้การปฏิบัติต่อจวนอ๋องเจวี้ยนก็ญังรักษาความเคารพและระยะห่างเอาไว้ ไม่กล้าวางมาดฮองเฮาของนางเข้ามาเลย แต่ตอนนี้ร้อนรนจนมือไม้อยู่ไม่สุข ถึงกับยกตัวตนฐานะของฮองเฮามากดดันจวนอ๋องเจวี้ยนเสียแล้ว"เจ้าก็แค่ผู้ดูแลเล็กๆ คนหนึ่ง"ขันทีพอโมโห เสียงก็ยิ่งเล็กแหลมลงไปอีก พอชี้ผู้ดูแลเพื่อจะวางมาด ทหารสองนายก็ตรงเข้ามา มือจับด้ามกระบี่ตั้งท่าชักเสียงชักกระบี่สองเสียงดังขึ้น ไฟโก
ชิงอีรินน้ำร้อนให้เขาแก้วหนึ่งพวกเขาเร่งกลับมาเมืองหลวงเวลานี้ หนึ่งก็เพื่อรับชายา เพื่อให้ได้รับสิ่งที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ให้ และสองก็เพื่อพิธีเดิมพันโอสถ"ที่เขาจันทร์ลับฟ้าได้ข่าวอะไรมาบ้าง?"แผลพิษบนใบหน้าคันคะเยอขึ้นมาอีกครั้ง ความคันเช่นนี้คนธรรมดายากจะทนรับไหว แต่ถ้าไปแตะไปเกามันเข้า แผลพิษนี้ก็จะยิ่งลามกว้างออกไปสองมือของอ๋องเจวี้ยนกำผ้าห่มไว้แน่น สะกดกลั้นความคิดที่จะไปเกาไปจับมัน"ยังไม่มี""เมื่อไม่มีข่าวก็คือตัวคนยังไม่เป็นไร" อ๋องเจวี้ยนคิดถึงใบหน้าเล็กที่สดใสของฟู่จาวหนิงขึ้นมา "คิดไม่ถึงว่านางจะอดทนได้ขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงขึ้นเขาไปหาตัวยาครั้งนี้ พวกเขาล้วนเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าจะต้องมีอันตรายแน่นอน ตอนนี้ฟู่จาวหนิงเท่ากับผูกตัวอยู่ด้วยกันกับเขาแล้ว คนที่จะลงมือกับเขา คนที่ไม่อยากให้เขาได้รับสิ่งที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ ก็ล้วนจ้องจะเอาชีวิตฟู่จาวหนิงกันหมด"จงเจี้ยนน่าจะพบตัวคุณหนูฟู่แล้ว มีพวกของจงเจี้ยนคุ้มครองอยู่ คุณหนูฟู่น่าจะปลอดภัยกลับมา" ชิงอีเอ่ยขึ้น"ปลอดภัยกลับมาก็จบหรือ?"อ๋องเจวี้ยนหัวเราะไร้ซุ่มเสียงถ้านางหาตัวยาสิบชนิดไม่ได้ ตอนกลับมานางก็จะตกที่นั่งล
ฮูหยินฉีตั้งครรภ์ ฟู่จาวหนิงก็รู้จักปกป้องชีวิตน้อยๆ อีกด้วย มิเช่นนั้นนางคงไม่สนใจแล้วนางอันที่จริงก็อยากจะถามฉีอวิ๋นไห่มาก รู้ทั้งรู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ แล้วทำไมเวลานี้ยังจะไปวิ่งเล่นในภูเขาอีก? แต่เรื่องของคนอื่นนางก็ขี้เกียจจะไปถามให้มากความ"ให้พวกเขาส่งสามีภรรยาทั้งสองลงจากเขา มิเช่นนั้นเวลานี้พวกเขาลงเขาไปได้ก็อาจจะเข้าเมืองไม่ได้อยู่ดี"ประตูเมืองช่วงนี้ปิดไว แต่ถ้ามีป้ายเอวของจวนอ๋องเจวี้ยนก็ยังเข้าไปได้อยู่"แต่คุณหนูฟู่ให้ข้าอยู่ด้วยเถิด ข้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสมุนไพรเลย อยากจะช่วยก็คงช่วยไม่ได้อยู่ดี" จงเจี้ยนเอ่ยขึ้น"ส่งตาเฒ่าจี้ลงเขาไปด้วยเถอะ" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองตาเฒ่าจี้"ตา…เฒ่า...จี้..?"จงเจี้ยนเกือบจะกัดปลายลิ้นตัวเองไปแล้ว เขามองผู้อาุโสจี้ และก็รู้สึกพูดไม่ออกกับความซมซานของผู้อาวุโสจี้ตอนนี้พอควร"ผู้อาวุโสจี้ ท่านลงเขาไปด้วยกันเถิด ไม่สิ ผู้อาวุโสจี้ ขอเชิญท่านลงเขาไปก่อนดีกว่า"จงเจี้ยนจู่ๆ ก็คิดอะไรออกขึ้นมา"ข้าไม่ลงเขาหรอก ข้าจะมาเก็บสมุนไพร เดี๋ยวก็จะถึงพิธีเดิมพันโอสถแล้ว ปีนี้ข้าจะไม่แพ้แน่!" ตาเฒ่าจี้กลับอารมณ์เดือดขึ้นมา ถลึงตามองจงเจี
หลี่จื่อเหยานอนอยู่บนเตียง กระทั่งมือก็ไม่มีแรงจะขยับนางรู้สึกว่าปากของตนเองแอบจะแห้งแตกอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาดูนางเลยนางไม่รู้ว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงนานเท่าไรแล้ว อยากจะเรียกคนให้เข้ามา แต่ก็ทำได้แค่ส่งเสียงที่อ่อนแอไปเท่านั้น"น้ำ""ใครก็ได้..."ตัวนางเองยังรู้สึกว่าเสียงของตัวเองเหมือนเสียงยุงร้อง สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกนั่นไม่ได้ยินเลยหลายวันนี้พวกนางยิ่งขี้เกียจขึ้นไปอีก ถึงแม้ตอนแรกนางมักจะดุด่าพวกนั้น ไม่ยอมให้พวกนางเข้ามาวุ่นวายกับนาง นางอยากจะนอนมันทั้งวันแต่หลายวันนี้นางรู้สึกว่านอนจนผิดปกติไปแล้ว แต่พวกนางก็ยังไม่พบอาหารเย็นเมื่อวานพวกนางส่งเข้ามาแล้ว มาส่งที่ข้างเตียงนางเหมือนก่อนหน้า นางก็ลุกขึ้นมากินอย่างเกียจคร้าน พอกินเสร็จก็โยนตะเกียบไปบนโต๊ะ พอสาวใช้เหล่านั้นว่างก็เข้ามาเก็บไปแต่ชามตะเกียบของเมื่อวาน พวกนางจนตอนนี้ก็ยังไม่เข้ามาเก็บ ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่มีคนเข้ามารินน้ำให้นางด้วยข้าวเช้าข้าวเที่ยงวันนี้ ก็ไม่มีใครส่งเข้ามาเพราะนางไม่ได้เรียกให้ส่งข้าวหรือ?แต่นางก็พูดไม่ออกแล้วหลี่จื่อเหยารู้สึกว่าหัวของตนเองมึนตื้อ นางอยากจะด่าคน อยากจะเรียกสา
ที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุดคือ กระทั่งคนเทขยะก็ยังไม่กล้าเข้ามา บอกว่าขยะของจวนชินอ๋องเซียวก็ไม่แน่ว่าจะไม่มีพิษ แค่สูดดมก็อาจจะติดเชื้อได้"เดิมทีในจวนอ๋องยังมีคนงานอยู่บางส่วน บ้านอยู่ภายนอก ตอนนี้คนเหล่านั้นก็ยังไม่กล้ามา คนในอุทยานเอง กระทั่งประตูเมืองก็ยังไม่เข้ามา ของกินของดื่มในจวนอ๋องทุกวันก็ไม่มีใครส่งเข้ามา ตนเองจะออกไปซื้อก็ไม่ได้""หมายความว่าอย่างไร?" เซียวเหยียนจิ่งคิดว่าตนเองฟังผิด กระทั่งออกไปซื้อของก็ยังไม่ได้เนี่ยนะ?"รัฐทายาท คนที่ขายเนื้อขายผักด้านนอก ล้วนกลัวคนในจวนเรากันหมด ดังนั้นจึงไม่ขายของให้พวกเราชั่วคราว! บอกว่าเรื่องนี้ต่อให้ไปพูดต่อหน้าองค์จักรพรรดิก็ยังถือว่าถูกต้อง ถึงอย่างไร องค์จักรรพรรดิก็ออกราชโองการมาแล้ว ว่าห้ามท่านอ๋อนเข้าเมืองหลวง""องค์จักรพรรดิรู้ว่าท่านพ่ออยู่ที่อุทยานด้านนอกหรือ?" เซียวเหยียนจิ่งหน้าขรึมลงมา"ขอรับ รู้กันทั่วทั้งเมืองแล้ว ผู้เช่าทำนาทั้งหมดในอุทยานก็ไม่ให้เข้าเมืองแล้ว เสบียงที่ผลิตในอุทยาทก็ไม่อนุญาตให้ส่งมาเมืองหลวง ดังนั้นพวกเราจะเอากลับไปกินที่จวนอ๋องก็ยังไม่ได้""มีเหตุผลแบบนี้ด้วยรึ! พวกเขาคิดจะให้จวนชินอ๋องเซียวอดตายก
สาเหตุที่เซียวเหยียนจิ่งมารับหมอเทวดาหลี่กลางทาง ก็เพราะอาการป่วยของชินอ๋องเซียวเขาถามหมอหลายคนในเมืองหลวงไปแล้ว ล้วนเป็นหมอที่มีวิชาแพทย์ดีมากทั้งนั้น ผลคือไม่มีใครรักษาได้สักคนกระทั่งยังไม่แน่ใจว่าติดโรคระบาดมาได้อย่างไรด้วยซ้ำองครักษ์ที่ไปหาคนป่วยคนนั้นไม่เป็นอะไรกันเลย แต่คนที่ไม่ได้ไปสัมผัสคนป่วยคนนั้นอย่างชินอ๋องเซียวกลับติดมาเสียได้ นี่จะอธิบายกันอย่างไรล่ะ?เขาเองก็ไปหาฟู่จาวหนิงมไ่ได้ ยิ่งไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงรู้ว่าพ่อของตนเองติดโรคระบาดนั้นด้วย ดังนั้นจึงทำได้แค่รีบไปรับหมอเทวดาหลี่เท่านั้นไม่ว่าจะพูดอย่างไร หมอเทวดาหลี่อย่างน้อยก็เป็นพ่อตาเขานะถึงแม้พวกเราก่อนหน้านี้จะทะเลาะกันบ่อย จนแทบจะเป็นศัตรูกันอยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่จื่อเหยาที่อยู่ในจวนชินอ๋องเซียวก็แทบจะไม่มีตัวตนอยู่แล้วไม่ว่านางจะอาละวาดแค่ไหน เซียวเหยียนจิ่งก็ไม่สนใจนาง ไม่พบนางด้วยซ้ำ เขาส่งหญิงรับใช้ที่ตัวใหญ่แรงเยอะไปให้หลี่จื่อเหยาหลายคน กระทั่งสาวใช้ก็ยังมีพละกำลังอย่างมากด้วย คอยจับตานางดูไว้ทุกวันกระทั่งยังวางยาพิษออกฤทธิ์ช้ากับหลี่จื่อเหยาอีก พิษนั่นเซียวเหยียนจิ่งหามาอย่างยากลำบาก เขาเคยทดลองแล
"ข้าเดาว่าอีกไม่นานนางน่าจะจัดงานเลี้ยงอะไรอีก ถึงตอนนั้นเกรงว่าคงจะมาเชิญอันชิงด้วย"ฟู่จาวหนิงคิดถึงนิสัยเฉินฮ่าวปิง รู้สึกว่านางได้แต่งตั้งเป็นท่านหญิง จะต้องเคลื่อนไหวอะไรแน่ เป็นไปไม่ได้ที่จะเงียบไปเช่นนี้ จะบอกไม่จดจำอันชิง ก็ดูจะเป็นไปได้อยู่"แล้วไม่ไปได้ไหม?" องค์หญิงหนานฉือขมวดคิ้ว"ไม่ไปก็ได้อยู่" เซียวหลันยวนพูดขึ้นมาอันเหนียนถอนหายใจ "ท่านอ๋อง ท่านน่ะได้ พวกเราที่เป็นขุนนางตัวเล็กตัวน้อย ปฏิเสธคนส่งเดชไม่ได้นี่สิ"เซียวหลันยวนเหลือบมองเขาพูดซะน่าอดสูแบบนี้ นี่ใช้อันเหนียนไหมเนี่ย?ความคิดของอันเหนียนคนนี้ ไม่เคยจะเรียบง่ายมาแต่ไหนแต่ไรฟู่จาวหนิงไม่ได้คิดจะอ้อมค้อมเหมือนพวกเขาสองคน พอได้ยินอันเหนียนพูดเช่นนี้ นางก็ตอบรับมาตรงๆ"อันชิงเองก็ถือว่าไปผิดใจกับเฉินฮ่าวปิงเพราะข้าเหมือนกัน ถ้าหากเฉินฮ่าวปิงมาหาเรื่องนาง พวกท่านก็มาบอกข้าเลย"ในตาอันเหนียนมีรอยยิ้ม "เช่นนั้นข้าก็ขอขอบคุณพระชายาแทนชิงชิงด้วย"เป้าหมายใหญ่สุดที่เขามาที่นี่ ก็เพื่อประโยคนี้ไม่ใช่หรือ? ฟู่จาวหนิงถ้ายอมปกป้องอันชิงหน่อย เขาก็ไม่ต้องกังวลมากแล้ว"เฮอะ" เซียวหลันยวนเหลือบมองเขาอย่างหมดคำจะพูด "เจ้านี่ม
อันเหนียนแปลงโฉมเป็นชายกลางคนคนหนึ่ง พาสาวใช้คนหนึ่งเข้ามาในจวนอ๋องเจวี้ยนฟู่จาวหนิงสายตาตกอยู่บนตัวสาวใช้คนนั้น หัวเราะพรวดออกมา"องค์หญิงแปลงโฉมใช้ได้นี่นา หน้าย่นลงมาแล้วนั่น"สาวใช้ที่ดูลับๆ ล่อๆ คนนึ้นยืดตัวตรง เงยหน้าขึ้นทันที ท่าทางเปลี่ยนไปในพริบตานางมองฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างประหลาด "ข้าแต่งแบบนี้แล้ว เจ้ายังปราดเดียวก็รู้เลยหรือ?""ใบหู คางกับคอขององค์หญิงไม่ได้เปลี่ยนไปเลย" ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่ช่องโหว่เหล่านั้นหงจั๋วกับเฝิ่นซิงยืนอยู่ข้างๆนาง ทั้งสองคนล้วนมององค์หญิงหนานฉืออย่างสนอกสนใจขนาดพระชายาชี้ช่องโหว่พวกนี้ออกมาแล้ว แต่พวกนางก็ยังมองไม่ออก ดูท่าสายตาของพระชายาจะแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามากเลยองค์หญิงหนานฉือเบ้ปาก "ตอนที่ข้าออกมาก็ส่องกระจกตั้งหลายรอบแล้วนา ขนาดข้าเองยังมองไม่ออกเลย"คอใบหูและมือของนาง ทาจนดำไว้ชั้นหนึ่ง มีช่องโหว่ตรงไหนกันอันเหนียนเอ่ยขึ้นว่า "พระชายาอ๋องเจวี้ยนเรียนวิชาแพทย์มานะ ต้องมองคนได้เฉียบคมกว่าพวกเราอยู่แล้ว""นี่เกี่ยวกับเรียนแพทย์ตรงไหนกัน" องค์หญิงหนานฉือไม่ค่อยเข้าใจฟู่จาวหนิงพยักหน้าให้อันเหนียน แสดงท่าทีชื่นชม "ผู้ตรวจการอันพูดถูกต้อง
ฮูหยินเฉินกลับมาในบ้านของต่งฮ่วนจือตอนที่สายัณห์กำลังมาถึง เฉินฮ่าวปิงก็กลับมาแล้ว"ท่านแม่!"ฮูหยินเฉินได้ยินเสียงของนาง ก็ลุกพรวดขึ้นมา จากนั้นนางก็เห็นเฉินฮ่าวปิงพาสาวใช้หน้าตาสะสวยสองคนเดินเข้ามาถึงอย่างไรก็เป็นคนที่เข้าใจลูกสาวดีที่สุด พอเห็นสีหน้าของเฉินฮ่าวปิง ฮูหยินเฉินก็รู้ว่านางคงจะได้เป็นท่านหญิงไปแล้วใจของนางดิ่งวูบทันที"ท่านแม่ รีบเก็บของเร็วเข้า พวกเรากลับบ้านกัน!" เฉินฮ่าวปิงเชิดคาง ดูภูมิใจมาก"ปิงเอ๋อร์ พวกเรามีบ้านที่ไหนกัน?""พระชายาเยว่ให้บ้านพวกเรามา อยู่ในซอยกุ้ยเซียงข้างหน้านี่ บ้านสองตอน หลังจากนี้พวกเราก็มีบ้านของตัวเองในเมืองหลวงแล้ว"เฉินฮ่าวปิงเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ "แล้วก็ สาวใช้สองคนนี้พระชายาเยว่ก็ยกมาให้ข้า ชิวอวิ๋น ชิวเยว่ นี่แม่ของข้า"ชิวอวิ๋นชิวเยว่ขึ้นมาคารวะ "คารวะฮูหยิน"ฮูหยินเฉินสีหน้ายิ่งแข็งขึ้นไปอีก"ท่านแม่ ท่านทำไมถึงไม่ดีใจเลย? ท่านพ่อยังเป็นธุระ ให้องค์จักรพรรดิจัดหามามาอบรมมารยาทให้ข้าด้วย พรุ่งนี้จะเริ่มอบรมมารยาทในวังให้ข้า หลังจากนี้ข้าเองก็จะเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่สง่างามได้แล้ว"เฉินฮ่าวปิงเข้ามาใกล้แม่ของนาง เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า "องค์จักรพร
ได้ยินว่าตระกูลของพระชายาอ๋องฉยงมีบารมีมากในเมืองฉยงโจว อ๋องฉยงไปที่นั่นเหมือนไปเกาะนางกินอย่างไรอย่างนั้น เขาตอนนี้ถ้าไปตบหน้าพระชายาอ๋องฉยงแบบนั้นอีก คือคิดจะไม่กลับไปเมืองฉยงโจวแล้วหรือ?เขาน่าจะรับปาก ถึงอย่างไรตอนนี้ก็เริ่มบ้าไปแล้ว" ส่งเขาเข้าคุกได้ ให้ไท่เฮาอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนอย่ากลับวัง เรื่องเหล่านี้ยังทำออกมาได้ องค์จักรพรรดิบ้าไปหน่อยแล้วจริงๆ"ดังนั้น เจ้าความลับที่ฮูหยินเฉินกอดเอาไว้มันคืออะไรกันแน่?"มูลค่าสูงขนาดที่ ทำให้องค์จักรพรรดิต้องถอยให้ก้าวหนึ่งเลยหรือ"เรื่องเกี่ยวกับตงฉิง..." เสียงของเซียวหลันยวนเย็นชาลงเล็กน้อย "ตอนนี้ดูท่า การล่มสลายของตงฉิงครั้งนั้นเหมือนไม่ใช่ภัยธรรมชาติเสียแล้ว"ฟู่จาวหนิงมองเขา ดูกังวลขึ้นมา"ถ้าหากการล่มสลายของตงฉิงมีแผนร้ายอื่นอยู่ คนที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่อยากให้ความจริงถูกเปิดเผยต่อใต้หล้าแน่ ถึงตอนนั้นตัวตนฐานะของท่านถ้าเปิดเผยออกมา จุดสนใจทั้งหมดก็จะพุ่งไปบนตัวท่านสิ"ถ้าหากมีแผนร้ายจริง คนที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่ปล่อยเซียวหลันยวนแน่นอนกระมัง?ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนในราชวงศ์ตงฉิงหนึ่งเดียวที่ยังอยู่บนโลกนี้ เป็นสายเลือดเซียวหลันยวนนิ่
เฉินฮ่าวปิงบิดมือออกจากแขนของฮูหยินเฉินทันที"ท่านแม่ ข้าจะเข้าวังไปกับท่านพ่อ ถ้าท่านไม่ไป ข้าเข้าไปฟังองค์จักรพรรดิดูว่าเขาจะพูดอะไร กลับมาแล้วจะเล่าให้ท่านฟัง""ปิงเอ๋อร์! เจ้าห้ามไป!""ไป" อ๋องฉยงลุกขึ้นมา เดินนำไปก่อน เฉินฮ่าวปิงรีบตามขึ้นไป กลัวฮูหยินเฉินจะดึงเอาไว้ฮูหยินเฉินพอเห็นนางตามออกไปแล้ว ก็รีบร้อนตามขึ้นไป"ปิงเอ๋อร์ กลับมา!"พวกเขากว่าจะหลุดพ้นจากการไล่สังหารของพระชายาอ๋องฉยง ตอนนี้จะต้องกลับไปอยู่ในวังวนนั้นอีกแล้วหรือ? อ๋องฉยงคนนี้พึ่งพาไม่ได้!แต่ว่าเฉินฮ่าวปิงก็คิดแต่อยากจะให้ตนเองมีตัวตนฐานะดี นางไม่อยากเป็นลูกกำพร้าที่ไม่มีพ่อไม่มีชาติตระกูล แล้วทำได้แค่พึ่งพาการช่วยเหลือปกป้องจากต่งฮ่วนจือพ่อแท้ๆ ไม่ใช่ว่าดีกว่าคนอื่นหรือ?เป็นลูกสาวของอ๋อง ไม่ใช่ว่าดีกว่าอาศัยอยู่ในบ้านคนอื่นหรือ?"กลับไปแล้วก็เตือนแม่เจ้าหน่อย ว่าอย่าดื้อรั้นนัก" พอขึ้นรถม้า หลังจากที่รถม้าแล่นห่างออกจากร้านงานปัก อ๋องฉยงจึงพูดขึ้นมาคำหนึ่งกับเฉินฮ่าวปิงเฉินฮ่าวปิงพยักหน้านางถอนใจโล่ง ที่ท่านแม่ไม่ไล่ตามมา"ท่านพ่อ ข้าจะเตือนนางแน่ แต่ว่า ท่านทำไมถึงไม่ต้องการข้ากับท่านแม่ล่ะ?" เฉินฮ่าวปิงถ
"ถ้าเล็ดลอดออกไป พวกนางแม่ลูกน่าจะมีอันตรายถึงตัว นางยังถือว่าฉลาดอยู่" เซียวหลันยวนอันที่จริงในใจก็คาดเดาไว้บ้างแล้ว"แล้วตอนนั้นที่นางไปหาอ๋องฉยง เป็นเพราะจะยืมอำนาจของอ๋องฉยงหรือ?""ก็เป็นไปได้"และตอนนี้ที่ชั้นสองของร้านงานปักฝั่งตรงข้าม เฉินฮ่าวปิงกำลังถลึงตาอ้าปากค้างทุกคนพูดที่อ๋องฉยงพูดกับแม่นางฟังออกทั้งหมด แต่พอรวมเข้าด้วยกันทำไมนางถึงฟังไม่เข้าใจเลย?อะไรคือแคว้นเจาอยู่ต่อไม่ได้พวกเขาก็ยังหาทางอื่นได้?คิดจะกบฏต่อแคว้นหรือ?อะไรคือถ้าหากสามารถหาดินแดนผืนนั้นเจอ พวกเขาบางทีอาจจะเป็นอ๋องได้?เขาตอนนี้ไม่ใช่เป็นอ๋องอยู่แล้วหรือ? เขาไม่ใจว่ามีเมืองฉยงโจวอยู่แล้วหรือ? ยังคิดจะไปเป็นอ๋องที่ไหนอีก?อะไรคือตระกูลเฉินในครั้งนั้นติดต่อศัตรูเพื่อทรยศแคว้น?ฮูหยินเฉินตอนนี้สภาพดูไม่ดีเอาเลยหลายปีก่อนถูกพระชายาฮูหยินไล่สังหาร ตอนที่ชีวิตมีวิกฤตก็ไม่เคยคิดจะให้อ๋องฉยงช่วย เพราะรู้สึกว่าอ๋องฉยง่าจะรู้ความลับของนางเข้ามาแต่ความลับนั่นนางไม่อยากจะบอกอ๋องฉยงตอนแรกนางเคยคิดไว้แล้ว ดังนั้นจึงยอมตัวเองให้กับอ๋องฉยง แต่พออยู่กับเขาแล้ว นางพบว่าอ๋องฉยงยังไม่พอที่จะแบกเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้ เขายั