นางพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ไม่มีลังเลเลยแม้แต่น้อย"ฮ่าๆๆ! ดีมาก ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้มองผิด!" ตาเฒ่าจี้ยื่นมือออกมาตบลงบนบ่านาง "ได้ เช่นนั้นเจ้าก็หาสมุนไพรให้ดีดี อาจารย์จะลงเขาไปจัดการอุปสรรคให้เจ้าเอง! จะต้องมีคนคอยแกว่งมือแกว่งเท้าลับหลังเจ้าแน่ๆ ยกเรื่องนี้ให้ข้าเถิด"ตาเฒ่าจี้พูดพลางเดินตามคนอื่นลงจากเขาไปแล้วพวกเขาพอออกไป ที่นี่ก็เหลือแค่ฟู่จาวหนิงกับจงเจี้ยนจงเจี้ยนรู้สึกอยากถามนางว่ากลายเป็นศิษย์ผู้อาวุโสจี้ได้อย่างไร แต่ฟู่จาวหนิงก็มองสีท้องฟ้า ไม่คิดจะพูดกับเขาอีกนางจะไปขุดสมุนไพรชุ่ยซินสือหูออกมาจงเจี้ยนรู้ว่าตนเองช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงตามอยู่ข้างๆ เงียบๆฟู่จาวหนิงหยิบคบเพลิง ไปถึงผาน้ำอย่างรวดเร็ว ยื่นหัวมองลงไป ถึงเข้าใจที่ตาเฒ่าจี้บอกว่าต้องลงไปกลางดึกจึงจะขุดได้เพราะว่าตอนที่สีราตรีมืดทึม นางถึงมองเห็นว่ารอบๆ รูต้นไม้ต้นนั้นมีพืชที่เปล่งแสงออกมารางๆ อยู่ชั้นหนึ่งพืชชนิดนี้ดูคล้ายตะไคร่น้ำ ด้านบนมีของที่ดูเหมือนผงชั้นหนึ่งปกคลุมอยู่ และเจ้าผงชั้นนี้ก็กำลังเปล่งแสงอยู่ แสงสีน้ำเงินทึม จางมากถ้าหากสีท้องฟ้ายังมีแสงอยู่รับรองว่ามองไม่เห็นแน่นอน ตอนแรก
หน้าหลังซ้ายขวาไม่มีทางแล้ว!ตอนนี้ฟู่จาวหนิงยืนอยู่บนต้นไม้ที่ยื่นออกมากลางอากาศ หินก้อนนั้นใหญ่ขนาดเท่าลูกแตงโม ทุ่มลงมาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าจะเอาชีวิตนางฟู่จาวหนิงย้ายไปทางปลายกิ่งสองสามก้าว ใต้เท้ามีเสียงเป๊าะ ต้นไม้ต้นนี้ก็รับน้ำหนักอีกไม่ไหวแล้ว"ตึง!"ก้อนหินกระแทกบนต้นไม้หนักๆ ตรงจุดที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ พอกระแทกต้นไม้แล้วก็ร่วงลงไปไม้ลั่นเสียงดังกร๊อบอีกครั้ง โยกไหวไปมาฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตรงจุดรูต้นไม้นั้นใกล้จะหักแล้วลมวูบหนึ่งหมุนวนกวาดขึ้นมา จนเกือบจะพัดนางร่วงลงไปตอนนีเ้อง เงาร่างหนึ่งก็กระโจนลงมาจากผา ยื่นมือคว้าฟู่จาวหนิงไว้ "แม่นาง ข้าจะพาเจ้าขึ้นไป"ต้นไม้ใต้เท้าตอนนี้ก็รับน้ำหนักต่อไม่ไหวหักลงไป ในใจฟู่จาวหนิงรู้สึกเสียใจขึ้นมาเล็กๆ เพราะในห้องเภสัชของนางมีเชือกปีนเขาอยู่ สามารถยิงเข้ากำแพงผาได้แต่นางก็ไม่ได้นำมันออกมา ตอนนี้มีคนนอกอยู่จะเข้าไปหยิบก็ไม่ได้ผลลัพธ์คือเดิมทีนางมีโอกาสช่วยเหลือตนเอง ทว่าเวลานี้กลับต้องยื่นมือเข้าคว้าแขนของชายหนุ่มทันทีชายหนุ่มเดิมทีคิดว่าตนเองคว้ามือนางไว้แน่นแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะถูกนางดึงแขนไว้จนอยู่ แต่เขาก็ยังรีบพานา
ได้สมุนไพรชุ่ยซินสือหูมาแล้ว นางต้องรีบออกจากที่นี้ไปค้นหาสมุนไพรที่อื่นต่อเดินออกมาพักหนึ่ง นางก็ยังได้ยินเสียงเคืองๆ ของอาเพียนดังลอดมา"คุณชายท่านดูสิ เป็นหญิงสาวที่เย็นชาเสียจริง ท่านช่วยชีวิตนางเอาไว้ แต่นางกลับหนีไปแบบนี้แล้ว! นางไม่ถามด้วยซ้ำว่าคุณชายอยู่ที่ไหน แล้วจากนี้ไปจะตอบแทนอย่างไร? ข้ามองว่านางเป็นคนอกตัญญู"จงเจี้ยนติดตามอยู่ด้านหลังฟู่จาวหนิง เอ่ยขอโทษเสียงต่ำ "คุณหนูฟู่ ข้าไม่ได้เรื่องจริงๆ ทำให้ท่านพบกับอันตราย""เจ้ารู้จักซือถูไป๋คนนั้นไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ไม่รู้จัก แต่เจียงเป่ยทางนั้นมีตระกูลซือถูอยู่ โด่งดังเรื่องขายยา ร้านขายยาตระกูลซือถูมีอยู่ทั่วใต้หล้า ร่ำรวยจนเป็นศัตรูกับแคว้นได้เลย และไม่รู้ว่าซือถูไป๋คนนี้จะใช้คนจากตระกูลซือถูหรือไม่""อืม"ฟู่จาวหนิงตอบกลับแค่คำเดียว ไม่พูดอะไรอีกนางก็ว่าอยู่ว่าเมื่อครู่ได้กลิ่นหอมของตัวยาที่พิเศษมากๆ จากตัวของซือถูไป๋ใช่หรือเปล่านะ?"ถ้าหากเขาเป็นคนจากตระกูลซือถูของเจียงเป่ยจริง ก็คงจะเข้ามาเพื่อพิธีเดิมพันโอสถเป็นแน่" จงเจี้ยนเอ่ยขึ้นอีกฟู่จาวหนิงได้ยินถึงพิธีเดิมพันโอสถมาสองครั้งแล้ว นางค้นข้อมูลเกี่ยวกับพิ
"ท่านอ๋อง เมื่อวานจนถึงตอนนี้ จงเจี้ยนยังไม่ได้ส่งข่าวกลับมาเลย"ชิงอีเอ่ยเสียงต่ำกับอ๋องเจวี้ยน วันก่อน จงเจี้ยนยังส่งข่าวลงมา บอกว่าคุณหนูฟูแม้จะเจอกับอุปสรรคบ้างในภูเขา แต่ทั้งหมดก็ยังราบรื่นดีแต่เมื่อวานหนึ่งวันจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีข่าวลงมาเลย"อืม รอไปก่อน" อ๋องเจวี้ยนตอบ"หลายวันนี้ พวกเราขวางคนเอาไว้สิบกว่ากลุ่ม" ชิงอีกังวลมาก "แต่ว่าเบื้องหลังคนที่พวกเราขวางไว้ก็คือคนพวกนั้น"คนพวกนั้น แน่นอนว่าหมายถึงพวกที่คุณสมบัติตัวตนฐานะเทียบได้กับอ๋องของพวกเขาเหล่านั้นคนเหล่านั้นไม่ยอมให้ฟู่จาวหนิงสำเร็จภารกิจลงจากภูเขาอย่างราบรื่นแน่นอน คนที่พวกเขาจะรับมือด้วยจริงๆ แล้วคืออ๋องเจวี้ยนแต่พวกคนเล็กๆ นั่น บางทีอาจจะมีความแค้นส่วนตัวกับฟู่จาวหนิงก็ได้ เรื่องนี้พวกเขาเองก็ไม่ชัดเจนนัก"ไม่ใช่ยังมีจงเจี้ยนอยู่หรือ?"ชิงอีอยากพูดว่า จงเจี้ยนคนเดียวอาจจะคุ้มครองคุณหนูฟู่ไม่ไหว แต่พอเห็นอ๋องเจวี้ยนไม่อยากพูดอะไรแล้ว เขาจึงปิดปากลงเสียงกีบม้าห้อเข้ามา มีคนมาอีกกลุ่มแล้วครั้งนี้คนที่มาล้วนสวมชุดผ้าไหมสีเลือดหมู ผ้าคาดเอวสีดำ บนตัวคาดกระบี่ ฝักกระบี่ทำเป็นรูปสัตว์ร้ายสีดำเหมือนกันหมด กำไ
พันธมิตรโอสถใต้หล้าควบคุมการหมุนเวียนของวัตถุดิบยาถึงเกือบแปดส่วน ยิ่งไปกว่านั้น พันธมิตรโอสถใต้หล้ายังมีคนเปี่ยมความสามารถที่รู้จักวัตถุดิบยากและค้นหาวัตถุดิบยารวมถึงปรุงวัตถุดิบยาอยู่มากมายอีกด้วย ถ้าหากขาดยาอะไรไป สามารถไปหาพันธมิตรโอสถใต้หล้า พวกเขาจะจัดการหาให้เจ้าเองฃแน่นอน จำเป็นต้องมีเวลาและค่าตอบแทนด้วยผู้อาวุโสพันธมิตรโอสถใต้หล้าจี้ซินเว่ยก็คือคนที่รอบรู้เรื่องตัวยาและถนัดในการปรุงวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ ดังนั้นเขาจะไปยังแคว้นใดก็ล้วนได้รับการต้อนรับอย่างดี คนมากมายล้วนเคารพเขา ไม่กล้าผิดใจกับเขา กระทั่งหมอหลวงในราชวงศ์บางแคว้น เหล่าหมอเทวดา ก็ยังอยากจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเขาเลยถึงอย่างไร บางครั้งวิชาหมอสูงส่ง แต่ถ้าขาดวัตถุดิบยาไปก็ช่วยคนไม่ได้จี้ซินเว่ยชอบเขาไปหมกตัวอยู่แต่ในภูเขา หายาขุดยาปรุงยา หาตัวยากมากแต่วันนี้เขากลับปรากฎตัวที่นี่พวกรองขุนพลหลิวล้วนรู้สึกว่า ผู้อาวุโสจี้ไม่ได้มาหาฟู่จาวหนิงแน่นอน"หุบจันทร์ลับน่าจะมีวัตถุดิบยาอยู่ไม่น้อย ดังนั้นผู้อาวุโสจี้คงคิดจะขึ้นเขาไปเก็บยากระมัง"หมอเทวดาหลี่ร้องเชอะเย็นชา "อายุอานามขนาดนี้แล้ววันๆ ยังคิดแต่จะขึ้นเข
"อีกนิดเดียวแล้ว!""ฟู่จาวหนิงยังไม่กลับมา"รองขุนพลหลิวกับหมอเทวดาหลี่รอคนจนในใจลิงโลดมีคนมองไปทางอ๋องเจวี้ยน มีอยู่ไม่น้อยที่เห็นใจเขาคิดไม่ถึงว่างานแต่งงานใหญ่ที่กะทันหันของอ๋องเจวี้ยน ท้ายสุดจะไปไม่รอดฟู่จาวหนิงเป็นไปได้มากว่าจะตายอยู่ในเขาจันทร์ลับฟ้าแล้ว ต่อให้ยังไม่ตาย ออกมาก็คงไม่ทันอยู่ดี เดิมทีเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่ดีดี ตอนนี้กลายเป็นคว้าน้ำเหลวเสียแล้วคนทั้งหมดล้วนจ้องเขม็งไปที่ธูปที่เหลืออยู่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียว ก็จะไหม้หมดแล้วชิงอีเองก็กลั้นลมหายใจอย่างตึงเครียด จ้องเขม็งไปที่ถนนภูเขาทางเข้าอ๋องเจวี้ยนสายตาลึกทึมคนที่กล้ามาขวางรถม้ากลางถนนเพื่อจะมาเป็นพระชายาเขา มีฝีมือแค่นี้เองหรือ?"คึกคักขนาดนี้เลยหรือ? นี่มารอข้ากันหรือไร?"เสียงหญิงสาวใสกังวานจู่ๆ ก็ดังลอดมาจากต้นไม้ข้างๆ ทางเข้าภูเขาต้นหนึ่ง"ใครกัน?"คนทั้งหมดมองไปบนต้นไม้ ก็เห็นว่าบนงามไม้ขนาดใหญ่มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ ข้างๆ ยังมีตะกร้าหลังวางอยู่ใบหนึ่งนางเหมือนเพิ่งจะตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลอย่างไรอย่างนั้น นั่งตัวตรงขึ้นมา บิดขี้เกียจ"ฟู่จาวหนิง!"รองขุนพลหลิวร้องเสียงหลงขึ้นมา
"เอ๋? รองขุนพลหลิวท่านทำไมถึงมาสงสัยข้ากัน?"ฟู่จาวหนิงทำสีหน้าประหลาดใจ "ตอนข้ากลับมาฟ้ายังมืดอยู่เลยนะ กลางค่ำกลางคืน ข้ากลัวว่าจะทำพวกท่าตื่น แล้วก็ไม่รู้ว่าหลังจากออกมาตอนกลางคืนจะมีการตรวจสอบยาเลยไหม ยิ่งไปกว่านั้นข้าเองก็ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ดังนั้นเลยหาที่หลับนอนรอจนฟ้าสางแค่นั้นเอง""นี่ไม่ใช่แค่ว่านอนจนถึงตอนนี้ จนเกือบจะมาไม่ทันอยู่แล้วหรือไร แล้วท่านมาบอกว่าข้าจงใจได้อย่างไรกัน?"ท่าทีของฟู่จาวหนิง ทำเอารองขุนพลหลิวโมโหจนเข็ดฟันเขารู้สึกว่านางจงใจแน่ๆ แต่เขาก็ไม่มีหลักฐาน!"เอาล่ะ คนของพวกท่านก็มาครบแล้วใช่ไหม? เช่นนั้นตอนนี้ก็มาเริ่มตรวจสอบสมุนไพรที่ข้าขุดมาเลยดีไหม?"ฟู่จาวหนิงมาถึงข้างตัวอ๋องเจวี้ยนแล้วพอชำเลืองมอง ก็เห็นผู้อาวุโสจี้ที่อยู่ข้างๆ อ๋องเจวี้ยน นางตกตะลึงไป ตาเฒ่าจี้เปลี่ยนชุดแล้ว ดูแล้วอย่างกับผู้อาวุโสใหญ่ที่มีทั้งฐานะและตำแหน่งเลยผู้อาวุโสจี้ก็โบกมืออย่างดีใจให้นาง จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้วางที่ข้างปากทำท่าจุ๊ๆ ส่งสายตาให้นางศิษย์เอ๋ย ตอนนี้ยังไม่ต้องรู้จักกัน เดี๋ยวอาจารย์จะพูดแทนเจ้าเอง!เขาพาหมอมาไม่น้อยเลย"คุณหนูฟู่ขุดวัตถุดิบยามาครบสิบชนิดไห
ฟู่จาวหนิงพยักหน้า ปลดตะกร้าหลังวางลง เดินมาที่หน้าโต๊ะยาว นำเอาวัตถุดิบยาออกมาคนทั้งหมดล้วนเดินตามเข้ามายืนอยู่ข้างโต๊ะยาว ดวงตามองตามการเคลื่อนไหวของนางวัตถุดิบยาชนิดแรกที่ฟู่จาวหนิงหยิบออกมาเป็นพืชที่ดูคล้ายวัชพืชป่ากอหนึ่งชิงอีเองก็พุ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน อ๋องเจวี้ยนชะงักนิดหนึ่ง แต่ก็ยังลงจากรถม้าค่อยๆ เดินเข้ามา เขาเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง มองเจ้าช่อนั่น..."วัชพืชป่านี้เรียกว่าอะไร?"ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองเขาผาดหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือผลักเขา"ท่านอย่าเข้ามาใกล้นัก"อ๋องเจวี้ยนตกตลึง นางผลักเขาหรือ?นางกล้าผลักเขา!คนอื่นพอเห็นการกระทำนี้ของฟู่จาวหนิงก็ถลึงตาโตขึ้นมาเช่นกัน"หญ้าสมุนไพรเหล่านี้มีบางส่วนมีพิษอยู่ ถ้ายังไม่ทำการปรุงสกัดจะส่งปราณพิษออกมา ท่านสุขภาพอ่อนแอห้ามเข้าใกล้"ฟู่จาวหนิงอธิบายขึ้นอย่างหวังดี"ถุด"หมอเทวดาหลี่ก็ประชดประชันขึ้นทันที "พูดอย่างกับเข้าใจอย่างนั้น ถ้าหากขุดเอาสมุนไพรพิษขึ้นมา เจ้ายังจะกลับมาได้อีกหรือ?"จะบอกว่านางรู้วิธีหลบเลี่ยงปราณพิษหรือไรกัน?หรือจะบอกว่านางเป็นพวกพิษร้ายแทรกไม่เข้า? ตลกตายล่ะ ขู่เก่งเสียจริง"ท่านทำไม่ได้ ไม่
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ
เรียนได้เท่าไรก็เรียนเท่านั้น"ข้าไม่กลัวเหนื่อยหรอก เอาจริงๆ สมัยก่อนข้าเองก็มาจากครอบครัวที่ยากจนด้วย หลายปีมานี้ครอบครัวดีขึ้นมาก แต่ทุกวันข้าก็ยังปลูกผักอยู่ในเรือน แล้วยังฝึกมวยทุกวัน สุขภาพก็ดีมาก""มองออกเลยว่าสุขภาพของหมอหลินดีมาก นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่หมอฟู่พาท่านมาในวันแรก แล้วก็ให้ท่านมาคอยเฝ้าที่นี่นั่นล่ะ"อาเหอรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้แม้ฟู่จาวหนิงจะไม่พูดออกมา แต่ในความเป็นจริงพอคนมาถึงนางก็สังเกตไปแล้ว การที่นางพาหมอหลินมา จะต้องเป็นการคัดเลือกของนางแน่นอน"จริงหรือ? ถ้าพูดเช่นนี้ พระชายาก็ถือว่ามีสายตาเฉียบคมอยู่นะ ฮ่าๆ" หมอหลินแสดงสีหน้าภาคภูมิใจฟู่จาวหนิงกลับไปพร้อมเซียวหลันยวนมีคนถือตะเกียงนำหน้าให้เมืองเจ้อยามนี้ เงียนงันไปหมด ฟ้าดำมืดมีดวงดาวไม่มากบนถนนมีแค่เสียงเท้าของพวกเขา เบามากพอคิด ก็รู้สึกเหมือนเป็นคืนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่ในใจพวกเขาเข้าใจดี สำหรับเมืองเจ้อแล้ว นี่เหมือนถูกกดทับด้วยลมพายุไว้"อาเหอคนนี้ ดูแล้วไม่เลวเลย" เซียวหลันยวนตัดบทความคิดของฟู่จาวหนิง"อืม เป็นผู้ประสบภัย แต่เป็นคนฉลาด เรียนรู้เร็ว แล้วก็ซื่อสัตย์ด้วย" ความฉ
หมอหลินพอได้ยินคำพูดของอาเหอ ก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะใจร้ายน่าดู ทำไมเขาถึงไม่คิดจุดนี้กันนะ?แล้วคิดจะจะให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนที่เป็นหญิงสาวมาอยู่ดูแลที่นี่อีก ขนาดอ๋องเจวี้ยนตามมาแล้วแท้ๆ หรือคิดจะให้อ๋องเจวี้ยนต้องอยู่ดูแลคนป่วยที่นี่ด้วยกัน?ไอ๊หยา ต้องโทษพระชายาที่รับผิดชอบและตั้งใจมากเกินไป พอถูกนางทำให้ยุ่งขนาดนี้ เขาก็เลยลืมตัวตนฐานะของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปเสียแล้ว"ใช่ๆๆ ข้าคิดไม่รอบคอบเอง อาเหอพูดถูกต้อง พระชายาท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าดูแลที่นี่ให้"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง"หมอหลิน ยังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไป ท่านลืมแล้วหรือ?"พวกเขาลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่ายังมีบ้านประชาชนอีกแห่งหนึ่งที่รับผู้ป่วยเข้ามาหลายคนอ๊ะ นางตอนนี้จึงยิ้มออกมาได้ ถือเป็นความสุขที่ได้จากความทุกข์หมอหลินตอนนี้จึงนึกออก เขาตบหน้าผาก "ใช่ๆๆ แล้วทางนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?""นี่ถึงได้เชิญหมอหลินให้มาดูแลที่นี่ ส่วนอาเหอจะไปดูทางนั้นให้ มีเรื่องอะไรพวกท่านก็ให้ข้าราชการด้านนอกมาหาข้าก็พอ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พรุ่งนี้จะมีคนมาแทนพวกท่าน""เอาตามที่พระชายาว่าเลย"พวกเขาไปในบ้านประชาชนอีกหลังหนึ่ง คน
"มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เสียที่ไหน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถลึงตาโต"องครักษ์พวกนั้นเจอกับหัวขโมย พอเห็นว่าเขาผิดปกติจึงเข้าไปจับกุม นี่ถือว่าเป็นการทำความดีกับประชาชนเมืองเจ้อมิใช่หรือ? จะว่าไป ทุกคนก็รู้ว่าโชคอขงองค์หญิงใหญ่นั้นดีมาก ดังนั้นจึงทำให้ท่านเจอกับเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกตรงไหนกัน?""แต่ว่า แต่ว่า" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย "เป็นแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลกระมัง?""มีอะไรไม่สมเหตุสมผลกัน ยืนกรานเสียอย่าง พวกเขาจะไม่สงสัยหรก องค์หญิงใหญ่ท่านเป็นคนที่สูงส่งนะ แล้วจะไปทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?""ไม่ค่อยดีนะแบบนี้?""ไอ๊หยา องค์หญิงใหญ่ท่านฟังข้าเถอะ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนไปแล้วจริงๆ พวกเรายังต้องอยู่ในเมืองเจ้ออีกนานแค่ไหน""พวกเราตอนนี้ได้ของแล้ว ไปเมืองหลวงกันเองก้ได้""องค์หญิงใหญ่ พวกเราป่วยโรคนี้อยู่นะ หมอเทวดาฟู่ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับใต้เท้าอันไม่มีทางยอมให้พวกเราไปหรอก ยิ่งไม่ยอมให้เราไปที่เมืองหลวงด้วย เว้นเสียแต่อ๋องเจวี้ยนจะพาพวกเราไป พวกเขาไม่กล้าขวางอ๋องเจวี้ยน"เฉินเซียงตอนนี้มองออกถ้าหากครั้งนี้ไม่ไปด้วยกันกับอ๋องเจวี้ยน ถ้าพวกนางยังต้อง
"องค์หญิงใหญ่ ในกล่องใบนี้มันคืออะไรกันแน่?"เฉินเซียงเองก็อยากรู้อยากเห็นมาก จุดเทียนสว่าง แล้วยกเชิงเทียนเดินเข้ามาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกเครียดอยู่ตอลด ตอนนี้พอนั่งลงมา ก็รีบเทน้ำลงดื่ม เพียงแต่น้ำเย็นไปแล้ว พอดื่มไปนางก็สะดุ้งโหยง"ข้าจะจุดเตาให้ องค์หญิงใหญ่อย่าเพิ่งดื่มน้ำเย็นเลย"เฉินเซียงถึงแม้จะอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไร แต่ก็ยังเป็นสาวใช้วังที่ทุ่มเทอยู่ พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นต้องมาดื่มน้ำเย็นจึงรู้สึกปวดใจตอนที่นางไปวุ่นอยู่นั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็นั่งมองกล่องใบนั้นอยู่ตรงนั้นกล่องไม้ใบหนึ่ง ดูแล้วก็ไม่ได้มหัศจรรย์อะไร แล้วนางก็มองไม่ออกว่าต้องเปิดจากตรงไหนด้วยจนตอนที่เฉินเซียงเทน้ำร้อนเข้ามา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เล่นกับกล่องนั้นอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าจะเปิดมันอย่างไร"ทำไมถึงเปิดไม่ออก""เปิดไม่ออกหรือ? เพราะด้านในมันขัดกันอยู่หรือเปล่า?"เฉินเซียงเองก็หยิบกล่องนั่นเข้ามาสำรวจ รู้สึกประหลาดใจมาก ไม่มีจุดที่เปิดได้เลยจริงๆ"นี่มันอะไรกัน? หรือจะเป็นไม้ท่อนนึง สลักออกมาเป็นกล่องแบบนี้หรือ? "เฉินเซียงมึนงง"ไม่หรอก ด้านในมีของใส่ไว้" องค์หญ