เหลียนเฮ่อเฟยส่ายหัว ดูมึนงง"รู้แค่นามสกุล ชายหรือหญิงก็ยังไม่รู้ อายุเท่าไรก็ไม่รู้ แล้วเจ้าจะหาคนหรือ?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกถูกเขาเล่นงานเสียแล้วอย่างนี้แล้วจะหาอย่างไร?"ท่านแม่ข้าบอกว่า คนที่มองเห็นข้าจะจำข้าได้เอง จะสัมผัสถึงได้""สัมผัสอะไร?"เฮ่อเหลียนเฟยส่ายหัวอีกครั้งฟู่จาวหนิงตบหน้าผาก ถ้าหาพบก็พระเจ้าแล้ว"ข้ารู้รูปร่างของตราหยก ข้าหาคนจากตระกูลฟู่ แล้วก็ถามว่าคนในบ้านพวกเขาเคยไปที่เผ่าเฮ่อเหลียนหรือไม่ จากนั้นค่อยถามบ้านพวกเขาว่าเคยเห็นตราหยกแบบนั้นบ้างไหมก็พอแล้ว"เฮ่อเหลียนเฟยหยิบกระดาษที่พับไว้อย่างละเอียดชิ้นหนึ่งออกมาจากเข็มขัด ส่งไปให้กับฟู่จาวหนิง"รูปร่างของตรายหกที่แม่ของข้าวาดออกมาเมื่อครั้งนั้น"ฟู่จางหนิงรับไป เปิดออกดูผาดหนึ่งบนกระดาษวาดรูปตราหยกไว้ชิ้นหนึ่ง น่าจะเป็นด้านหลัง มีอักษรฟู่อยู่"ข้าไม่เคยเห็น" ฟู่จาวหนิงหยิบกระดาษพับส่งกลับไปให้เขาเฮ่อเหลียนเฟยรู้สึกผิดหวัง "ข้ายังคิดว่าอาจจะเป็นสิ่งของจากบ้านพี่หญิงเสียอีก ข้ารู้สึกว่าพี่หญิงใจดีมาก"นี่ไม่ได้โกหกฟู่จาวหนิง ผาดแรกที่เห็นฟู่จาวหนิง เขาก็รู้สึกว่าสนิทชิดเชื้อมาก ในใจก็เกิดความคิดไม่อย
ช่วงกลางดึกไม่ใช่ว่าไม่มีอันตรายมีงูพิษ มีหมาป่าที่วิ่งมาตัวเดียวทางนี้ พวกแมลงก็ตรงเข้ามาใกล้พวกเขาด้วยเซียวหลันยวนนิ้วดีดยิงออกไป จัดการปัดเป่าอันตรายที่คืบคลานเข้ามาสลายไปอย่างไร้ซุ่มเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ให้โอกาสพวกมันมารบกวนฟู่จาวหนิงเลย"เจ้านี่หลับได้นิ่งดีเหลือเกิน"เขามองฟู่จาวหนิงที่อยู่ในอ้อมอก เอ่ยคำนี้ออกมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเซียวหลันยวนรู้สึกแปลกๆ ด้วยความเข้าใจของเขาต่อฟู่จาวหนิงก่อนหน้า หญิงสาวคนนี้ระแวดระวังอย่างมาก แค่ลมพัดใบหญ้าไว้ก็รู้สึกตัวขึ้นในพริบตาแล้วคิดไม่ถึงว่ายามราตรีกลางป่าจะหลับได้สนิทขนาดนี้ หรือว่าจะเหนื่อยมากจริงๆหรือก็คือ สัญชาตญาณที่แฝงอยู่ของนางเชื่อใจเขาขนาดนี้?คิดถึงความเป็นไปได้นี้ เซียวหลันยวนก็อดมุมปากยกขึ้นไม่ได้ จัดการโอบนางให้แน่นขึ้นอีกนิด หลับตาลงด้วยเช่นกันเสียงนกร้องช่วงเช้าตรู่แจ่มชัดอย่างมาก ปลุกฟู่จาวหนิงขึ้นมาพริบตาที่ลืมตาขึ้นนางยังรู้สึกมึนงงอยู่ ยังไม่ทันรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ยังเบลอๆ อยู่บ้างมีเฉพาะตอนที่นอนหลับอย่างดี ตอนที่นางตื่นขึ้นมาถึงจะมีความรู้สึกเช่นนี้หลังจากตั้งใจได้ฟู่จาวหนิงก็ตกตะลึงไปแล้ว เ
แต่ว่าพอได้ยินการเคลื่อนไหวเขาก็ยังไม่ตื่น ฟู่จาวหนิงกลัวว่าเขาจะเป็นไข้ จึงรีบเดินไปตรวจสอบ"เจ้าเรียกเขาว่าอะไรนะ?" เซียวหลันยวนตอนที่ได้ยินชื่อที่ฟู่จาวหนิงเรียนขึ้นมากลับหน้าเปลี่ยนสี "สกุลรองเขาคือเฮ่อเหลียนหรือ?"ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งคิดออกว่าเขาเองก็เป็นคนในราชวงศ์แคว้นเจา คงไม่ได้รังเกียจเผ่าเฮ่อเหลียนด้วยกระมัง?ว่าตามหลักการแล้ว ในฐานะคนจากแคว้นเจาก็คงจะไม่ชอบคนนอกที่มาเล่นตุกติกชิงเอาแผ่นดินของพวกเขาไปหรอก แต่ได้ยินว่าการเดิมพันตอนนั้นคือเป็นฮองเฮาที่โง่เองยิ่งไปกว่านั้นเผ่าเฮ่อเหลียนเองก็ไม่แน่ว่าทุกคนจะเป็นคนเลว ฟู่จาวหนิงไม่ได้ปฏิเสธคนเผ่าเฮ่อเหลียนทั้งหมดเพราะเรื่องนี้หรอกแต่เซียวหลันยวนนั้นไม่แน่"ถูกต้อง ข้าพูดว่าเขาคือคนจากเผ่าเฮ่อเหลียน มาเมืองหลวงแคว้นเจาเพื่อหาคน"ฟู่จาวหนิงใช้หลังมืออังที่หน้าผากของเฮ่อเหลียนเฟย เขาเป็นไข้หน่อยๆ จริงๆ แต่ยังดีที่ไม่ใช่ไข้สูง ดูท่ายาของนางจะมีประสิทธิภาพดีมากไม่ใช่ไข้สูงปัญหาก็ไม่ใหญ่มากเขาอาจจะเหนื่อยเกินไปกระมัง"คนจากเผ่าเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว เอ่ยกับนางว่า "เจ้าจะเข้าไปยุ่งเรื่องของเขาหรือ?""อะไรคือยุ่งเรื
"จำเอาไว้ด้วยล่ะ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่เกรงใจเลย"กินยานี่เสีย" ฟู่จาวหนิงหยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งส่งให้เฮ่อเหลียนเฟย ขณะเดียวกันก็ถลึงตามองเซียนหลันยวนผาดหนึ่ง คิดเล็กคิดน้อยเสียจริงเฮ่อเหลียนเฟยไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับยาลูกกลอนไปแล้วกลืนทันที"เวลายังเช้าอยู่ ยังรีบตามไปได้" ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ไม่แน่ว่ายังอาจจะไล่ตามทัน"ตามอะไรทัน?เซียวหลันยวนไม่มีปฏิกิริยากลับมา ฟู่จาวหนิงก็เตรียมประคองเฮ่อเหลียนเฟยขึ้นมา จะประคองเขาไปที่หลังม้า โชคดีที่เมื่อคืนนี้นางเอาม้าตัวหนึ่งมาจากจ้าวเฉิน ไม่เช่นนั้น คิดจะพาเฮ่อเหลียนเฟยออกจากเขาคงลำบากพอควรแต่ว่ามือของนางยังไม่ทันแตกเฮ่อเหลียนเฟย เซียวหลันยวนก็เดินเข้ามาแล้ว มือหนึ่งประคองเฮ่อเหลียนเฟย ยกเขาสะบัดขึ้นไปบนหลังม้าอย่างง่ายดายเฮ่อเหลียนเฟยเกือบจะสำลักยาลูกกลอนที่เพิ่งกลืนไปออกมา"ท่าน"เขากลืนคำพูดกลับไปชายคนนี้เมื่อคืนถือว่าช่วยชีวิตเขาแล้วฟู่จาวหนิงมองเขา รู้สึกว่าเด็กคนนี้นิสัยก็ไม่เลวนักนางเองก็ตรงไปเก็บหมาป่าที่ตายแล้วขึ้นมา ผูกไว้บนหลังม้าเซียวหลันยวนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง "เก็บหมาป่าตายแล้วตัวนั้นมาทำไม? เจ้าคิดจะชิ
"กลับไปก่อน"เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ฟู่จาวหนิงยังเอาแต่จะพูดกับพวกลู่ทง ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา สีหน้าจึงขรึมลง หมุนตัวขึ้นหลังม้า ควบม้ากลับไปยังเรือนรับรองตะวันออกพอได้ยินเสียงกีบม้า ฟู่จาวหนิงก็มองออกไป และเห็นแผ่นหลังเซียวหลันยวนขี่ม้าออกไปนางเม้มริมฝีปากเขาก็รีบจะไปงานแข่งขันล่าสัตว์นี่นะ แล้วยังไม่ยอมรับอีก!พอมาถึงที่นี่ก็ร้อนเป็นไฟ ขนาดจะบอกนางว่าขอตัวไปก่อนสักคำก็ไม่มี!คุณหนูที่เขาต้องตาคนนั้น ชื่ออะไรนะ?คุณหนูจากตระกูลหลิน?"ลูกพี่หนิง พวกเราเมื่อวานนี้ก็ล่าหมูป่ามาได้ตัวหนึ่งกับกระต่ายอีกสามตัว พอบวกกับเลียงผาตัวนี้ของท่าน ก็คงไม่ได้แพ้จนย่อยยับนัก" ลู่ทงมองสิ่งของที่ฟู่จาวหนิงแบกกลับมาบนหลังม้าตัวนี้แล้วยินดีปรีดา "แล้วยังมี คนหรือ?"เอ๋ ทำไมถึงมีคนอยู่ด้วย?"ของพวกเจ้าเอาออกไปได้เลย" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ทำไมจึงอารมณ์ดิ่งวูบลงมา พอจัดการเหยื่อล่าเสร็จ ขณะเตรียมจะลากม้าพาเฮ่อเหลียนเฟยออกไป ก็เห็นเฉินซานกับเสี่ยวเถาวิ่งเข้ามา"คุณหนู!"พวกเขาสามวันนี้ร้อนรนจะแย่อยู่แล้ว และไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงอยู่ในภูเขาเป็นอย่างไรบ้าง จะบาดเจ็บหรือไม่เสี่ยวเถาเอ
"เกิดเรื่องหรือ?"ฟู่จาวหนิงรู้ว่าพวกของจ้าวเฉินไปพบกับฝูงหมาป่าดุร้าย แต่นางหนีออกมาก่อนแล้ว แน่นอนจึงไม่รู้ว่าตอนสุดท้ายเป็นอย่างไรฟางซือฉิงหลังคุยกับนาง นางจึงรู้ว่าพวกจ้าวเฉินเหล่าานั้นสักบักสะบอมพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้นยังตายไปสองคนอีกด้วย สามคนบาดเจ็บไม่เบาเลย"แล้วจ้าวเฉินล่ะ?"ฟู่จาวหนิงอยากรู้ว่าจ้าวเฉินเป็นอย่างไร"เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ"ฟางซือฉิงกลัวหน่อยๆ "แต่ได้ยินว่าจ้าวเฉินหลังจากกลับมาก็นิ่งงัน แล้วยังบอกอีกว่าจะกลับมาคิดบัญชีกับใครสักคนด้วย"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว ในใจคิดว่าไม่หรอกมั๊ง? จ้าวเฉินคงไม่คิดจะเอาเรื่องที่ไปเจอกับฝูงหมาป่ามาลงที่ตัวนางหรอกนะ?"จ้าวหรูรอพี่ชายนางกลับมาตลอดเลย ไม่คิดว่าที่ได้มาจะเป็นผลเช่นนี้ วันนี้ข้าแอบออกไปมองดู นางโกรธจนเหวี่ยงพังของในห้องทั้งหมดเลย"ฟางซือฉิงร้องเชอะ "ข้าว่านางจะต้องอยากให้จ้าวเฉินกลับมมาช่วยนางระบายโกรธแน่ ทำอย่าไงรดี จาวหนิง เจ้าคิดวิธีแล้วหรือยัง? นางจะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่"ผู้เฒ่าซุนเองก็กังวลเรื่องนี้มาโดยตลอด พอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงกลับมาแล้ว เขาก็รีบวิ่งตรงมาถามคำถามนี้กับฟู่จาวหนิงเหมือนกันคิดหาวิธีได้หรือย
นางถูกพวกหูจูหลอกให้มาเดิมทีไม่รู้ว่าจะมาที่นี่ รอจนรถม้าออกจากเมือง นางก็พบว่าไม่ถูกต้อง พอคิดจะลงจากรถเพื่อกลับ พวกของหูจูก็รั้งนางเอาไว้รถม้าของนางพังไปแล้ว เดิทีคิดว่าพวกหูจูหวังดีให้นางยืมรถม้า แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าหูจูจะมายังเขาเมฆอรุณ?นางคิดหาวิธีจะให้คนส่งจดหมายให้หน่อย ส่งจดหมายกลับไปสามฉบับแต่ก็ไม่มีข่าวกลับเลยอันชิงสงสัยว่าจดหมายของนางน่าจะถูกขวางเอาไว้ข้างกายนางเดิมทีมีสาวใช้อยู่สองคน แต่สองวันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สาวใช้คนหนึ่งถูกลวกที่เท้าจนบาดเจ็บ อีกคนหนึ่งก็ถูกลมจนไข้ขึ้นลุกไม่ไหวอันชิงเดิมทีไม่อยากเข้าร่วมการประชันกลอนนี้ แต่โหวอาวุโสน้อยอี้ก็พัวพันอยู่อยู่ตลอด นางรู้สึกว่าจะเอาแต่หลบก้ไม่ใช่เรื่อง จึงเข้าร่วมวาดภาพไปเลยพอได้ที่หนึ่งมา คนตั้งมากมายล้วนมองมาที่นาง อยู่ต่อหน้าคนขนาดนี้ โหวอาวุโสน้อยอี้คงไม่กล้ารุ่มร่ามใส่กระมัง?พอคิดเช่นนี้ อันชิงก็ลุกขึ้นคิดจะเดินหนี"ข้ากับท่านไม่มีอะไรต้องคุยกัน รบกวนหลีกทางด้วย"ที่นี่มีคนอยู่มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเพราะภาพของอันชิงได้ที่หนึ่ง เข้าคู่กับกลอนของจอหงวนด้วย ตอนนี้คนมากมายจึงมองมาทางนี้โหวอาวุโสอี้น
ลู่ทงกับเจิ้งหยางล้วนได้ยินคำพูดของจ้าวหรู สีหน้าเปลี่ยนไปทำไม เรื่องนี้ถึงดึงลูกพี่หนิงของพวกเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย?"จ้าวหรู เจ้าพูดไร้สาระอะไรน่ะ?"ลู่ทงเองก็โมโหถ้าบอกว่าเขาก่อนหน้านี้ยังหวาดกลัวนายท่านจ้าว จนไม่กล้าฉีกหน้าคนตระกูลจ้าวส่งเดช ดังนั้นก่อนหน้านี้ในภูเขาเยื่อที่ล่าจึงถูกพวกจ้าวเฉินแย่งไป เขากับเจิ้งหยางเองก็สะกดไฟโกรธเอาไว้อย่างเต็มที่ หนีออกมาหัวซุกหัวซุนนายท่านจ้าวเป็นคนที่ใจดำโหดเหี้ยม แล้วยังคอยปกปอ้งลูกสาวกับลูกชายด้วย ไร้เหตุผลเป็นพิเศษ พ่อแม่ของพวกเขาเหล่านี้ก็ล้วนยอมถอยให้เขาระดับหนึ่งดังนั้น เหล่าผู้อาวุโสก่อนหน้านี้จึงกำชับพวกเขามา ในเมืองหลวงไม่ว่าพวกเขาจะอาละวาดแค่ไหน จะไปยั่วโมโหใครตนเองก็วิเคราะห์ให้ดี อย่าสร้างความลำบากให้คนในบ้านแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินจ้าวหรูพูดถึงฟู่จาวหนิงเช่นนี้ ลู่ทงเองก็ทนไม่ไหวแล้วคำพูดนี้พูดออกมาได้น่าขันเหลือเกิน!ลูกพี่หนิงล่อฝูงหมาป่าได้ด้วยหรือ?"ลู่ทง เจ้าพูดจาอย่างไรกันนี่?" ดวงตาจ้าวเฉินมองลู่ทงขรึมๆ สายตาเขียนแรงคุกคามไว้เต็มที่กล้าเสียเหลือเกิน นี่กล้าพูดเช่นนี้กับน้องสาวของเขาหรือ?"ข้าก็จะพูดอย่างนี้นั่นล่
"นายท่าน ที่ประตูไม่รู้ทำไมจึงมีนักดนตรีมาร้องเพลงอยู่กลุ่มหนึ่ง..."ผู้ดูแลหน้าดำกลับมารายงานสถานการณ์กับหมอเทวดาหลี่ แต่ว่าเขาพูดไม่ออกว่าพวกเขาร้องเพลงอะไร เพียงแต่เมื่อครู่ที่เปิดประตูใหญ่ ยังไม่ทันได้ปิด ลมด้านนอกก็พัดเข้ามา นำเสียงเพลงที่เด็กสาวร้องเข้ามาด้วยนั่งอยู่ที่โถงหน้านี้ หมอเทวดาหลี่ก็ยังได้ยินประโยคครึ่งประโยคนั่น"วันดีอะไรกัน?" เขาถามขึ้นอย่างงงงันไม่ทันที่ผู้ดูแลจะตอบ เขาก็รู้สึกว่าตนเองต้องออกไปดูเสียหน่อย เพราะเมื่อครู่โดนผลกระทบไปรุนแรงมาก เขายังไม่รู้ว่าควรจะไปบอกอย่างไรกับลูกสาว ถึงเรื่องที่นางถูกเซียวเหยียนจิ่งขอหย่าสมองนี่ยังตื้ออยู่ จึงคิดจะออกไปขยับเนื้อขยับตัวเสียหน่อย ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"นายท่าน..."ผู้ดูแลคิดจะห้ามเขา แต่ก็ห้ามไม่อยู่ คิดๆ แล้วจึงทำได้แค่เดินตามออกไปเขาไม่รู้เลยว่านายท่านหลังจากออกไป ถ้าได้ยินเนื้อร้องของอีกฝ่ายแล้วจะโมโหจนตายเลยไหม"ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว ร้องให้ถึงใจอีกหน่อย!"เฉินซานพอเห็นหมอเทวดาหลี่ ก็รีบเตือนเสียงกระซิบกับแม่นางน้อยทันที "หัวเราะ หัวเราะให้มันเบิกบานไปเลย"แม่นางน้อยก็ระเบิดเสียงหัวเราะร่าออกมาทันที
ฟู่จิ้นเชินหัวเราะขึ้นมา จากนั้นจึงกวักมือเรียกเฉินซาน กำชับกับเขาสองสามคำเฉินซานหลังจากฟังแล้วดวงตาก็เปล่งประกาย พยักหน้าออกไปจัดการผู้เฒ่าฟู่มองลูกชาย จากนั้นก็มองหลานชาย แล้วก็มองไปยังภรรยาลูกชายที่ไม่มีความเห็นอะไร ถามขึ้นมาว่า "จิ้นเชินเอ๋ย เจ้าให้เฉินซานไปทำอะไรล่ะนั่น?""ท่านพ่อ ไม่ใช่ว่าต้องฉลองหรือ? ก็แค่ไปเตรียมการฉลองน่ะ" ฟู่จิ้นเชินตอบผู้เฒ่าฟู่ชะงักไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยต่อว่า "การถูกหย่าร้างสำหรับหญิงสาวแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเวทนามากนะ พวกเราไปทับถมคนอื่นแบบนี้ มันดูไม่ค่อยดีหรือเปล่า?"เขาคิดว่าทำเรื่องแบบนี้แล้วจะดูโหดเหี้ยมเกินไป"ท่านพ่อ ข้าได้ยินเสี่ยวเฟยบอกว่า หลี่จื่อเหยาคนนี้ วันที่จาวหนิงของพวกเราแต่งงาน เข้ามาขวางเกี้ยวเจ้าสาวของนาง คิดจะดึงนางในเกี้ยวออกมาแล้วยังรังแกนางอีกนะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยปากขึ้นบ้างแล้วหลังจากที่นางกลับเมืองหลวงก็หาคนไปสอบถามเรื่องวันนั้นอย่างละเอียดคนที่บอกกับนางมากที่สุดคือเซี่ยซื่อเซี่ยซื่อตอนนั้นแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่หลังจากเกิดเรื่อง นางก็ได้ยินคนไม่น้อยพูดกัน ยิ่งไปกว่านั้น นางยังไปถามคนที่เห็นมากับตาอีกด้วยเสียงของเ
หลังจากทั้งสองคนถอยออกมา ก็นึกออกขึ้นพร้อมกัน ว่าชินอ๋องเซียวตายแล้ว และตรงหน้าคนนี้ ก็ถูกชินอ๋องเซียวระบาดมาใส่!นั่นก็เท่ากับว่า นางอาจจะตายเร็วๆ นี้หรือ?นี่มันเป็นโรคที่พรากชีวิตไปได้รวดเร็วเหลือเกิน!พวกเขาตัวสั่นพังพาบ!หลี่จื่อเหยามองสายตาตกตะลึงพรั่นพรึงของพวกเขา ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาเช่นกัน และพอตอบสนองขึ้นมา นางก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดออก"พูดอะไรน่ะ? พูดอะไรกันแน่? พ่อสามีของข้าตายได้อย่างไรกัน?" เสียงของนางสั่นพร่าขึ้นมา"ป่วยขอรับ ป่วยตายขอรับ ไม่ได้ถูกลอบสังหาร..." เสียงของผู้ดูแลก็สั่นพร่าขึ้นมาหลี่จื่อเหยาหน้ามืด สลบลงไป"เหยาเอ๋อร์" หมอเทวดาหลี่ตกใจสะดุ้งโหยง"ตึง!"ไม่มีคนเข้าไปประคองหลี่จื่อเหยา นางจึงล้มลงไปกับพื้นทั้งอย่างนั้นดูแล้วแสนเวทนา แต่หมอเทวดาหลี่ก็ไม่กล้าเข้าไปประคองนางจริงๆเขาดีดตัวร้องเรียกขึ้นมา "ใครก็ได้ ใครก้ได้!"สาวใช้ตัวสั่นพังพาบวิ่งเข้ามา พวกนางปรนนิบัติหลี่จื่อเหยามาหลายวันแล้ว ไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่ไปประคองหลี่จื่อเหยาส่งกลับไปที่เตียง"เร็ว ไปถามรัฐทายาทเซียวให้ชัดเจน" หมอเทวดาหลี่เอ่ยขึ้นและตอนที่คนของเขาส่งไปหาข่าวยั
หลี่จื่อเหยาถือว่าเป็น "คู่มือ" กับฟู่จาวหนิงมาหลายปีแล้ว คนที่นางกับฟู่จาวหนิงแย่งกันมาหลายปีก็คือเซียวเหยียนจิ่งตอนนี้นางคือภรรยาของเซียวเหยียนจิ่ง ฟู่จาวหนิงเป็นแค่คนที่ถูกถอนหมั้นวันนั้น แล้วไม่มีทางเลือกจึงหันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน จึงไม่ควรมีชีวิตดีกว่านาง"อ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่อยู่ได้ไม่กี่ปีแล้วแท้ๆ แล้วนางก็จะเป็นม่ายเร็วขึ้น! ถึงอย่างไร ข้าก็ยังดีกว่านาง!"หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม "ท่านพ่อ ท่านต้องรักษาข้าให้ได้ ท่านจะให้ข้ากินยาตอนไหน? หน้าของข้าจะต้องดีขึ้น ไม่ ท่านต้องช่วยข้าทำยาบำรุงผิว ข้าจะสวยขึ้น ข้าจะออกไปหาฟู่จาวหนิง ข้าจะไปดูหน้าอ๋องเจวี้ยนให้ชัดๆ!""เจ้าสงบลงหน่อยเถอะ ตอนนี้ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าป่วยเป็นอะไรกันแน่ แล้วจะไปหายามาจากไหน!"หมอเทวดาหลี่ได้ยินนางร้องเสียงดังขนาดนี้ ก็รู้สึกปวดหัวหน่อยๆ"ท่านยังไม่ได้เข้ามาจับชีพจรให้ข้าเลย! ไม่ใช้ต้องมาดูฟังสอบถามจับชีพจรใกล้ๆ หรือ? ท่านพ่อ ท่านเอาแต่ยืนอยู่ด้านนอก แค่เข้ามาดูข้าสักหน่อยก็ไม่มี แล้วท่านจะทำยาอะไรออกมาได้กัน?"หลี่จื่อเหยาพูดประโยคหนึ่งสะกิดเข้ากลางใจ "ท่านพ่อ หรือว่าท่านจะกลัว? ขนาดท่านยังกลัวว
เขามองนาง ราวกับมองคนโง่คนหนึ่ง"เหยาเอ๋อร์ ตอนนี้เจ้ายังคิดจะชิงดีชิงเด่นกับฟู่จาวหนิงอยู่อีกหรือ?""อะไรคือข้าไปชิงดีชิงเด่นกับนางกัน? เดิมทีข้าก็เก่งกว่านางอยู่แล้ว คู่หมั้นของนางข้าบอกจะแย่งก็แย่งมาได้ นางไล่ตามเซียวเหยียนจิ่ง อ้อนวอนอยู่หลายปี ผลลัพธ์ก็ยังแพ้ให้ข้านี่?""นางไม่ต้องการเซียวเหยียนจิ่งตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนปฏิบัติกับนางราวกับจันทร์ส่องแสง!""แล้วมันทำไมกัน? ท่านพ่อ ท่านออกจากบ้านไปตั้งนาน ยังไม่ได้ยินข่าวหรือ? ครึ่งปีก่อน มีคนเห็นใบหน้าของอ่องเจวี้ยน หน้ากากของเขาถูกกระชากออก เผยให้เห็นใบหน้าแท้จริง น่ากลัวขนาดไหนท่านรู้ไหม?"หลี่จื่อเหยาถูกขังอยู่ในเรือนหลังไม่ได้รับข่าวอะไรมาตลอด ข่าวจึงล่าช้าไปตั้งไม่รู้นานเท่าไรแล้วแต่ว่าพูดถึงเรื่องนี้ก็ยังขึ้นมาก็ค่อนข้างจะตื่นเต้นอยู่ "ท่านพ่อ ท่านยังไม่รู้กระมัง? คนในเมืองหลวงล้วนกำลังพูดกันว่า อ๋องเจวี้ยนมีหน้าเหมือนผีเลย! แล้วยังมีเด็กเ,้กตั้งหลายคนพอได้ยินชื่อของเขาก็ตกใจจนร้องไห้จ้า! เขาตอนนี้ออกจากบ้านก็ยังต้องใส่นห้ากากอยู่ใช่ไหมล่ะ? ท่านคิดว่า ฟู่จาวหนิงจะชอบเขาได้หรือ?""นาง
หมอเทวดาหลี่สองวันนี้ก็เอาแต่ค้นคว้าว่าจะรักษาโรคนี้อย่างไรอยู่ตลอดอันที่จริงมันก็โรคเพศสัมพันธ์นี่นะ เขารู้สึกว่าไม่ใช่จะรักษาไม่ได้แต่ปัญหาคือ ชนิดนี้ดูจะแตกต่างกับโรคเพศสัมพันธ์ที่เขาเคยพบสมัยก่อนยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่น..."ให้ตายเถอะ ทำไมพอติดโรคนี้แล้วถึงเน่าขึ้นมานะ?"นี่เป็นจุดที่เขาคิดไม่ตก ต่อให้เป็นโรคเพศสัมพันธ์จริงก็ไม่ได้รวดเร็วขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้นยังแค่สองวันเอง บนหน้าหลี่จื่อเหยาก็เน่าไปรุนแรงขนาดนี้แล้ว เห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยเดิมทีคิดว่าแค่บนหน้าเท่านั้น ถ้าหากต้องไปพบคนทาแป้งหนาหน่อย ก็ยังปกปิดไว้ได้แต่ตอนนี้ผ่านไปสองวัน จุดที่เน่าเผื่อยก็ขยายกว้างขึ้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเน่าอย่างรุนแรงด้วย พอเห็นแล้วก็น่ากลัวมาก!"นายท่าน พระชายารัฐทายาทกำลังเขวี้ยงข้าวของแล้ว ทำอย่างไรดี?" สาวใช้เข้ามารายงานหมอเทวดาหลี่พอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดไปหมด"นางทำอะไรอีกล่ะ?""นางส่องกระจก พอเห็นหน้าตัวเอง" คงจะรับไม่ได้ ดังนั้นเลยโมโหขึ้นมาสาวใช้ไม่ได้พูดครึ่งหลังหมอเทวดาหลี่รีบไปที่เรือนหลังประตูเปิดอยู่ แต่เขาก็ยืนที่ประตูไม่ได้เข้าไปพอเหลือบมองเข้าไปก็เห็
ฟู่จาวหนิงตอนไปถึงที่พักของซุนจู้ ข่าวหนึ่งก็ส่งมาถึงมือของเซียวหลันยวนชินอ๋องเซียว ตายแล้ว"ตายแล้วหรือ?"พริบตาที่เซียวหลันยวนได้รับข่าวนี้รู้สึกงงงันไป"ขอรับ เรือนที่ชินอ๋องเซียวพักอยู่นั่น ชาวนาที่คอยปรนนิบัติเขาอยู่ไม่ได้เข้าไปในห้องเขาสองวันแล้ว คนอขงพวกเราเห็นว่าวันนี้เข้าปิดปากปิดจมูกผลักประตูเข้าไป แต่พอประตูเปิดออกแล้วเห็นสภาพในห้อง ก็กรีดร้องวิ่งถอยออกมาแล้ว"ชินอ๋องเซียวน่าจะไม่มีคนสนใจ คิดจะลุกขึ้นมาดื่มน้ำ แต่ว่าพลัดตกลงมาจากเตียงแล้วไม่มีแรงปีนขึ้นไปแล้วก็ตายไปด้วยท่าทางประหลาดพังพาบอยู่ข้างเตียงพอประตูนั่นเปิดออก ตอนที่ลมพัดมาทางนั้นก็นำกลิ่นเน่าเหม็นชวนอาเจียนตามมาด้วย"ข่าวส่งไปถึงเซียวเหยียนจิ่งหรือยัง?""ส่งออกไปแล้วขอรับ เซียวเหยียนจิ่งน่าจะใกล้ได้ข่าวแล้ว""ส่งข่าวนี้ไปที่วังด้วย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเขาจะไม่ให้โอกาสเซียวเหยียนจิ่งได้ลุกขึ้นมาอีกพวกเขาตอนแรกคิดจะใช้สิ่งนี้เล่นงานเขา ตอนนี้ก็รับกรรมตัวเองไป เขาเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก แน่นอนว่าไม่มีการเห็นใจแม้แต่น้อย"่ขอรับ""ท่านอ๋อง เฝิ่นซิงมีเรื่องมารายงาน""นางไม่ใช่ไปกับพระชายาหรือ? ให้นาง
"พระชายา ข้าน้อยจะตามท่านไปด้วย""ฟังคำสั่ง"ฟู่จาวหนิงไม่ให้นางต้องปฏิเสธอีก ให้นางกลับไปที่จวนอ๋องก่อนตอนที่ต่งฮ่วนจือเข้ามาเฝิ่นซิงก็กำลังจะออกไป เขาหลีกทางให้ หันหน้ามองไปยังซุนจู้ที่ถูกมัดอยู่พอเห็นรอยเน่าเปื่อยบนใบหน้าซุนจู้ ใจของเขาก็ขรึมลงมา"ศิษย์น้องหญิง คนคนนี้...""อืม ตรวจอาการแล้ว ศิษย์พี่รองอย่าเข้ามาใกล้เขา""แล้วตอนนี้จะจัดการอย่างไร? ส่งเขาให้กับจวนทางการหรือ?" ต่งฮ่วนจือก็ไม่เดินเข้ามาใกล้จริงๆ"พวกท่านส่งข้าให้จวนทางการไม่ได้นะ ข้าจะพาไป ข้าจะพาพวกท่านไปจับแม่นางเฉี่ยวทั้งสองคน" ซุนจู้ร้องขึ้นมา"เจ้าหุบปากเถอะ"ฟู่จาวหนิงไม่รู้สึกดีด้วยกับซุนจู้คนนี้เลยผู้ชายที่ไร้น้ำใจไร้ความซื่อสัตย์และไร้คุณธรรม"แม่นางเฉี่ยวทั้งสองคนคือใครอีกล่ะนั่น?" ต่งฮ่วนจือมองฟู่จาวหนิง "เจ้าจะให้เขาพาไปไหน? ศิษย์น้องหญิง เขาเป็นคนป่วย แต่เจ้าก็ยังจะไปกับเขาหรือ?""เขาคือคนป่วย ข้าคือหมอ""แล้วเจ้าก็ยังเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนด้วย ศิษย์น้องหญิง มีคนป่วยบางคนไม่คู่ควรให้เจ้าไปรักษาอยู่นะ ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้เจ้าจะเป็นหมอ แต่สำคัญที่สุดคือต้องดูแลความปลอดภัยของตนเองก่อน"ไม่อ
"ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังไม่ป่วยหนัก เขายังนอนอยู่กับเขาตั้งหลายวัน อาบน้ำด้วยกัน แต่หลังจากเขาป่วยก็จะให้ข้ามาคอยปรนนิบัติรับใช้ ข้าก็ไม่ชอบใจ เลยไปหางานทำที่แถวริมแม่น้ำ ออกไปหลายวันอยู่""ต่อมาพอใกล้จะสิ้นปี ข้าก็กลับเมืองหลวงมาหาเขา กลับพบว่าในบ้านเขาไม่มีคนแล้ว เดิมทีเขาเป็นพวกที่ชอบไปเตร่ตามบ่อนพนันอยู่ทุกวัน เพื่อนบ้านล้วนรังเกียจเขา หลีกห่างจากเขา ดังนั้นเขาหายตัวไปหลายวันจึงไม่มีใครรู้""ตอนที่ข้าเข้าไปอยู่ก็ไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน หาตัวอยู่สองวันก็ไม่เจอ ข้าเองก็ไม่สนใจแล้ว จึงพักอยู่ที่บ้านเขาไปเลย ตอนปีใหม่มีคนมาที่บ้านเขา พูดจาน่าสงสารแล้วยังไม่มีที่ไปอีก ข้า ข้าเลยให้อยู่ที่บ้าน ถือว่าทำดี"ซุนจู้พูดถึงตรงนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผิดปกติขึ้นมา จึงถามไปคำหนึ่ง "ใครกัน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?"ซุนจู้เดิมทีก็ไม่อยากตอบ แต่ชีวิตเขาตอนนี้อยู่ในกำมือฟู่จาวหนิงแล้ว ไม่กล้าที่จะไม่ตอบเหมือนกัน"ผู้ ผู้หญิง เป็นแม่ลูกคู่หนึ่ง ก่อนหน้านี้น้องชายญาติข้าก็ดูแลพวกนางอยู่บ่อยๆ ดังนั้นข้าจึงยอม...""พวกนางทำอาชีพนั้นหรือ?""ใช่ คนแม่ชื่อแม่นางเฉี่ยว อายุสี่สิบกว่า ลูกสาวอายุยี่สิบต้นๆ หน้าต