ฟู่จาวหนิงกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ บวกกับนางที่เดิมทีก็ทั้งเหนื่อยทั้งหิว เดินมาจนเมื่อยไปหมดแล้ว พอไม่ทันระวัง พอถูกเขาผลักเช่นนี้ก็ล้มลงไปนั่งบนพื้น"ฮะๆ" จือเอ๋อร์เดิมทีคิดจะเข้ามาฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พอเห็นฟู่จาวหนิงถูกผลักจนล้มจ้ำเบ้าก็หัวเราะขึ้นมาทันที"เจ้าเด้กสารเลวนี่ไม่ใช่คนดีเลย!"นางร้องเชอะ สายตาที่มองเฮ่อเหลียนเฟยเองก็รังเกียจเช่นกัน"พี่เฉินให้เจ้าดูอาการให้เขา แล้วเจ้าดูสิ ฟังนะ อย่าให้เขาตายไปก็พอแล้ว" จือเอ๋อร์เอ่ยขึ้นอีกฟู่จาวหนิงนั่งอยู่บนพื้น ไม่ได้รีบลุกขึ้นมานางมองเฮ่อเหลียนเฟยชายหนุ่มตอนที่ผลักนางเมื่อครู่ร้อนรนขึ้นมา ในดวงตาเผยอาการขอโทษ แต่ตอนที่นางมองเข้าไปเขาก็รีบก้มหน้าลงทันทีเขาควรจะเจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหวแล้ว สีหน้าซีดขาว ทั่วร่างชุ่มด้วยเหงื่อ ริมฝีปากถูกกัดจนเกือบไหลเขาบาดเจ็บหนักมาก ฟู่จาวหนิงต่อให้ไม่ตรวจสอบก็รู้แล้วว่าขาข้างนี้ถ้าไม่รีบจัดการอย่างทันท่วงที ต่อให้เขาจะแบกสังขารต่อไปไหว แต่ขาข้างนี้ภายหลังก็ใช้ไม่ได้แล้วการต้องเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกลายเป็นคนพิการขาเป๋ นางรับไม่ได้จริงๆชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้แย่เลย อย่างน้อยเขาก็ยังเตือนนางมา
ที่นี่ยังมีเฮ่อเหลียนเฟยอยู่นะ ซูเอ๋อร์พวกนางถึงแม้จะแต่งเป็นชาย แต่จะมองเป็นผู้ชายจริงๆ ก็ไม่ได้ทั้งสองคนถึงแม้จะอยากคอยจับตาดูฟู่จาวหนิงกับเฮ่อเหลียนเฟย แต่ท้องก็เอาแต่อาละวาด ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ร้อนรนจนหน้าเปลี่ยนสีไปแล้ว"สกัดจุดพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ก่อน!" ซูเอ๋อร์คิดวิธีออกแล้ว"ได้!"ซูเอ๋อร์เข้ามา ยื่นมือกดไปที่จุดชีพจรของฟู่จาวหนิงกับเฮ่อเหลียนเฟยแค่นี้พวกนางก็วางใจได้แ้ว"เร็วๆๆ"ทั้งสองคนกุมท้องพุ่งไปที่ป่าข้างๆเพราะท้องอาละวาดอย่างรุนแรง พวกนางเองก็กลัวจะเคลื่อนไหวมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่กล้าอยู่ใกล้นัก รีบวิ่งห่างออกไปหน่อย ถึงอย่างไรพอคิดว่ากดจุดชีพจรฟู่จาวหนิงเอาไว้แล้วก็ไม่ต้องกังวลตอนที่พวกนางวิ่งเข้าไปในป่า ฟู่จาวหนิงก็มองไปทางเฮ่อเหลียนเฟย"เจ้าคือคนจากเผ่าเฮ่อเหลียน แล้วมายังเมืองหลวงแคว้นเจาทำไมหรือ?"เฮ่อเหลียนเฟยเม้มปาก มองนางนิ่ง"ข้าไม่รุ้ว่าเชื่อใจท่านได้ไหม"เด็กคนนี้ฟู่จาวหนิงรู้สึกขบขัน ไม่รู้ว่าจะเชื่อใจนางได้ไหม ก็ตัดสินใจที่จะไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง แล้วเตือนให้นางอย่ามาช่วยชีวิตเขาส่งเดชแล้วหรือ?"เจ้าไม่พูดก็ไม่พูด แต่ว่า ข้าเตรีย
เสียงหอนหมาป่าที่ห่างออกไปดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงหอนหมาป่าขึ้นลงสลับกัน ฟังแล้วเหมือนฝูงหมาป่าจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่น้อยอีกด้วย!"อ๊า!"มีเสียงกรีดร้องของผู้ชายลอยมาตามลมจือเอ๋อร์กับซูเอ๋อร์ถ่ายจนเบลอพอได้ยินเสียงร้องโหยหวนนี้ ทั้งสองคนก็สะดุ้งโหยงตกใจรีบหอบเสื้อผ้าแล้ววิ่งกลับมา"คนล่ะ?"ที่เดิมยังมีฟู่จาวหนิงกับเฮ่อเหลียนเฟยเสียที่ไหน?"อ๊า! รีบวิ่ง!"ด้านหน้ามีเสียงจ้าวเฉินร้องขึ้นมาจือเอ๋อร์กับซูเอ๋อร์หันหน้าไปมอง และเห็นคบเพลิงบินลอย มีคนชูคบเพลงแล้วกำลังวิ่งทะยานกลับมา เสียงหอหมาป่ากับเสียงร้องเวทนาดังควบกันขึ้น ในป่ามีม้าหลายตัวร้องขึ้นอย่างไม่ปลอดภัยในป่ามีเสียงนกตื่นบินออกมาด้วยความตกใจ เสียงใบไม้เซ็งแซ่ลมพัดเอากลิ่นคาวเลือดเข้มข้นเข้ามาด้วย"หมาป่า! หมาป่าเพียบเลย!"มีคนวิ่งกลับมา ร้องตกอกตกใจขึ้นแต่ไกลจือเอ๋อร์กับซูเอ๋อร์เองก็เห็นว่าห่างออกไปที่ถูกคบเพลิงส่องสว่าง มีเงาหมาป่าหลายตัวกระโจนไปมากำลังพุ่งตรงมาทางนี้พวกนางสองคนหน้าซีดไปแล้ว"รีบ รีบหนี!"พวกนางตอนนี้ขับถ่ายออกไปจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว พวกผู้ชายอย่างจ้าวเฉินยังทานฝูงหมาป่าไม่ไปว แล้วพว
"ตอนนี้ต้องล้างแผลกำจัดพิษก่อน จัดการเสร็จแล้วจะเชื่อมกระดูกให้เจ้า"ตอนที่ฟู่จาวหนิงพูดคำนี้น้ำยาล้างแผลในมือก็เทลงไปบนแผลของเฮ่อเหลียนเฟยแล้ว เขากัดฟันแน่นขึ้นทันทีหลังจากจัดการบาดแผลแล้ว ฟู่จาวหนิงก็เทผงยาลงไปอีกสองขวด"เจ้าทำไมถึงไปถูกจ้าวเฉินทุบเข้าล่ะ? เขามองเจ้าเป็นเหยื่อล่าหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้น การเคลื่อนไหวของมือก็ไม่หยุด"เขาอธิบายมาแบบนี้ ตอนนั้นข้าร่วงลงไปในหลุมจนสลบไป เดิมทีตอนนั้นเขากำลังทุ่มหินลงมา ข้าหลบออกมา ไม่เช่นนั้นหินคงได้ซัดเข้าที่หัวข้าแล้ว อ๊า!"เฮ่อเหลียนเฟยพูดถึงตอนท้ายจู่ๆ ก็ร้องลั่นขึ้นมาที่แท้ฟู่จาวหนิงก็ถือโอกาสตอนที่เขาไม่ทันระวัง ออกแรงหักกระดูกที่อยู่ผิดที่ให้กลับมาเข้าที่ฉับพลันปวดเสียจนเฮ่อเหลียนเฟยพูดไม่ออก เหงื่อแตกพลั่กไม่ห่างไปนัก เซียวหลันยวนที่ใช้กำลังภายในแฉลบผ่านไปก็ได้ยินเสียงกรีดร้องนี้พอดีเขาขมวดคิ้ว ตรงมาทางนี้ทันทีพอเห็นแสงไฟ เซียวหลันยวนเดิมทีคิดจะซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเพื่อดูก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ฟู่จาวหนิงกลับได้ยินการเคลื่อนไหว คว้าฟืนท่อนหนึ่งข้างออกไปทางนั้นทันที่"มีคนหรือ?" เฮ่อเหลียนเฟยตกตะลึงแสงไฟบินผ่านออกไป ส
นางช่วยชีวิตเขา แล้วยังรักษาขาเขาอีกเขามองฟู่จาวหนิง ดวงตาร้อนวูบวาบ น้ำตารื้นไหลออกมา ตลอดทางนับพันลี้ที่มายังเมืองหลวงแคว้นเจา เจอเรื่องลำบากมามากมาย มีหลายครั้งที่ต้องแบกรับความตกตะลึงความกลัว แล้วยังผ่านความสิ้นหวังของการเฉียดตายเช่นนี้มาแล้ว เขารู้สึกเสียอกเสียดายความอบอุ่นที่ฟู่จาวหนิงมอบให้เขาในตอนนี้"เป็นผู้ชายอกสามศอกมาร้องไห้ได้อย่างไรกัน?" ฟู่จาวหนิงยิ้มๆ ล้มนั่งลงกับพื้น บิดหมุนข้อมือนางคิดจะบีบนวดขา เพราะขาตอนนี้ปวดไปหมดแล้วแต่เพราะมีชายสองคนมองมาทางนี้ นางจึงทนเอาไว้เฮ่อเหลียนเฟยยังไม่ทันตอบ เซียวหลันยวนก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ผู้ชายอกสามศอกหรือ? มองไม่ออกเลย"เฮ่อเหลียนเฟยยกมือขึ้นออกแรงเช็ดน้ำตาทันทีเซียวหลันยวนดึงฟู่จาวหนิง "มานี่""ทำอะไร?"ฟู่จาวหนิงคิดจะสะบัดมือเขาออก แต่เพราะเหนื่อยเกินไปแล้ว จึงสะบัดไม่หลุด แล้วยังล้มลงไปที่อกของเขา"ท่านปล่อยนางเสีย"เฮ่อเหลียนเฟยร้อนรนขึ้นมา ยื่นมือคิดจะคว้าชายชุดคลุมของเซียวหลันยวนแต่เซียวหลันยวนก็เหมือนมีตาอีกคู่งอกขึ้นมา สลับเท้าเล็กน้อย ชุดคลุมก็ลูบผ่านนิ้วของเขาไป ทำให้ผ้าสักผืนหนึ่งก็จับไม่ได้เซียวหลั
เขาเดิมทีพอล่อคนพวกนั้นออกไปก็จะออกจากป่าแล้ว เหยื่อล่าที่เขาล่าไว้เดิมทีก็ให้คนขนออกไปก่อนแล้วแต่ขนาดชิงอีเขาก็ยังทิ้งไว้เลย เพราะรู้สึกว่าความเร็วของชิงอีตามเขาไม่ทัน ตนเองที่เข้ามาในภูเขาลึกใหม่ก็เพื่อมาหานาง แต่ผลลัพธ์นางตอนนี้กลับบอกว่าไม่ต้องเป็นสนใจนางหรือ?"วันนี้ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ตอนนี้ไม่อยากจะเดินในทางภูเขาตอนกลางคืนแล้ว" ฟู่จาวหนิงพูดพลางถอยหลังออกสองก้าว "ท่านกลับไปแย่งที่หนึ่งเลยก็ได้นะ"เขาที่อยากได้ที่หนึ่งนั่นเพื่ออะไรล่ะ?ไม่ใช่เพื่อให้พวกเหล่าคุณหนูคุณชายในเมืองหลวงได้รู้จักเขา หลังจากนี้เวลาพบนาง พอรู้ว่านางคือคนของเขา ก็จะไม่กล้ารุ่มร่ามทำอะไรหรอกหรือ?ตอนนี้พอได้ยินนางพูดว่าไม่ต้องสนใจนาง เซียวหลันยวนจู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองน่าขันเหลือเกินเมื่อไรกันที่เขาต้องใช้วิธีเช่นนี้เพื่อให้คนอื่นได้รู้จักตนเอง?เขาเดิมทีก็เป็นพวกนิสัยไม่ทำตัวกระโตกกระตากอยู่แล้ว เดิมทีไม่ได้สนใจเรื่องแข่งขันพวกนี้เลย แล้วนี่เขาเป็นอะไรไป? หัวถึงได้ร้อนมาเข้าร่วมขึ้นมา?"เจ้าคิดจะอยู่ตามลำพังกับเด็กคนนั้นในป่านี้ตอนกลางคืนหรือ?" เซียวหลันยวนหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกองไฟ
เหลียนเฮ่อเฟยส่ายหัว ดูมึนงง"รู้แค่นามสกุล ชายหรือหญิงก็ยังไม่รู้ อายุเท่าไรก็ไม่รู้ แล้วเจ้าจะหาคนหรือ?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกถูกเขาเล่นงานเสียแล้วอย่างนี้แล้วจะหาอย่างไร?"ท่านแม่ข้าบอกว่า คนที่มองเห็นข้าจะจำข้าได้เอง จะสัมผัสถึงได้""สัมผัสอะไร?"เฮ่อเหลียนเฟยส่ายหัวอีกครั้งฟู่จาวหนิงตบหน้าผาก ถ้าหาพบก็พระเจ้าแล้ว"ข้ารู้รูปร่างของตราหยก ข้าหาคนจากตระกูลฟู่ แล้วก็ถามว่าคนในบ้านพวกเขาเคยไปที่เผ่าเฮ่อเหลียนหรือไม่ จากนั้นค่อยถามบ้านพวกเขาว่าเคยเห็นตราหยกแบบนั้นบ้างไหมก็พอแล้ว"เฮ่อเหลียนเฟยหยิบกระดาษที่พับไว้อย่างละเอียดชิ้นหนึ่งออกมาจากเข็มขัด ส่งไปให้กับฟู่จาวหนิง"รูปร่างของตรายหกที่แม่ของข้าวาดออกมาเมื่อครั้งนั้น"ฟู่จางหนิงรับไป เปิดออกดูผาดหนึ่งบนกระดาษวาดรูปตราหยกไว้ชิ้นหนึ่ง น่าจะเป็นด้านหลัง มีอักษรฟู่อยู่"ข้าไม่เคยเห็น" ฟู่จาวหนิงหยิบกระดาษพับส่งกลับไปให้เขาเฮ่อเหลียนเฟยรู้สึกผิดหวัง "ข้ายังคิดว่าอาจจะเป็นสิ่งของจากบ้านพี่หญิงเสียอีก ข้ารู้สึกว่าพี่หญิงใจดีมาก"นี่ไม่ได้โกหกฟู่จาวหนิง ผาดแรกที่เห็นฟู่จาวหนิง เขาก็รู้สึกว่าสนิทชิดเชื้อมาก ในใจก็เกิดความคิดไม่อย
ช่วงกลางดึกไม่ใช่ว่าไม่มีอันตรายมีงูพิษ มีหมาป่าที่วิ่งมาตัวเดียวทางนี้ พวกแมลงก็ตรงเข้ามาใกล้พวกเขาด้วยเซียวหลันยวนนิ้วดีดยิงออกไป จัดการปัดเป่าอันตรายที่คืบคลานเข้ามาสลายไปอย่างไร้ซุ่มเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ให้โอกาสพวกมันมารบกวนฟู่จาวหนิงเลย"เจ้านี่หลับได้นิ่งดีเหลือเกิน"เขามองฟู่จาวหนิงที่อยู่ในอ้อมอก เอ่ยคำนี้ออกมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเซียวหลันยวนรู้สึกแปลกๆ ด้วยความเข้าใจของเขาต่อฟู่จาวหนิงก่อนหน้า หญิงสาวคนนี้ระแวดระวังอย่างมาก แค่ลมพัดใบหญ้าไว้ก็รู้สึกตัวขึ้นในพริบตาแล้วคิดไม่ถึงว่ายามราตรีกลางป่าจะหลับได้สนิทขนาดนี้ หรือว่าจะเหนื่อยมากจริงๆหรือก็คือ สัญชาตญาณที่แฝงอยู่ของนางเชื่อใจเขาขนาดนี้?คิดถึงความเป็นไปได้นี้ เซียวหลันยวนก็อดมุมปากยกขึ้นไม่ได้ จัดการโอบนางให้แน่นขึ้นอีกนิด หลับตาลงด้วยเช่นกันเสียงนกร้องช่วงเช้าตรู่แจ่มชัดอย่างมาก ปลุกฟู่จาวหนิงขึ้นมาพริบตาที่ลืมตาขึ้นนางยังรู้สึกมึนงงอยู่ ยังไม่ทันรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ยังเบลอๆ อยู่บ้างมีเฉพาะตอนที่นอนหลับอย่างดี ตอนที่นางตื่นขึ้นมาถึงจะมีความรู้สึกเช่นนี้หลังจากตั้งใจได้ฟู่จาวหนิงก็ตกตะลึงไปแล้ว เ