Share

บทที่ 257

Penulis: จุ้ยหลิงซู
จู่ๆ นางก็รู้สึกว่า ถ้าคอมพิวเตอร์ยังสามารถเชื่อมไปยุคปัจจุบันได้ เช่นนั้นนางถ้าบันทึกข้อมูลเพิ่มเข้าไป ยุคปัจจุบันจะมีการอัพเดทไหม? จะมีคนอีกมากที่ได้เห็นวัตถุดิบยานี้ไหม?

ในคลังข้อมูลยังมีวัตถุดิบยาที่ขาดแคลนรูปภาพอยู่ อย่างยาเบญจมาศนี้ ด้านในไม่มีรูปที่เกี่ยวกับยาเบญจมาศเลย

ถ้าหลังจากนางบันทึกเพิ่มเติมทั้งหมดเข้าไป ไม่แน่ว่าหลังจากนี้อาจจะมีคนสามารถหายาเบญจมาศพบก็ได้

คิดถึงจุดนี้ฟู่จาวหนิงก็ตื่นเต้นขึ้นมา

ว่าแล้วก็รีบบันทึกภาพยาเบญจมาศเข้ไาปในคอมพิวเตอร์ทันที ขณะเดียวกันก็ยังถ่ายภาพของหญ้าเสินหนงที่ชัดเจนกว่าอีกหลายใบใส่เข้าไปด้วย

การอัพเดทคลังข้อมูลวัตถุดิบยา นางเหมือนทำเรื่องเรื่องหนึ่งสำเร็จไปได้ด้วยดี

แล้วก็วัตถุดิบยาเหล่านั้นในพิธีเดิมพันโอสถก่อนหน้า กลับไปถ้ามีเวลานางจะจัดการบันทึกเข้าไปทีละชนิดๆเลย

ออกมาจากห้องเภสัช ฟู่จาวหนิงเด็ดดอกไม้ต่อ จากนั้นก็ขุดหญ้าเสินหนงออกมาไม่น้อย

ในพื้นที่ยาเบญจมาศผืนนี้อาจจะเหมาะกับการเติบโตของหญ็าเสินหนง ขุดมาได้มากพอควรเลยจริงๆ

หลังจากเด็ดดอกไม้มาไม่น้อย นางยังเก็บหนังงูที่สมบูรณ์ออกมาจากในกองหญ้าได้อีกสองผืน สิ่งนี้ก็เอาไปทำยาได้ นางไ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 258

    ไม่รอฟู่จาวหนิงได้ทันวิเคราะห์ แสงไฟทางนั้นก็สว่างขึ้นมา คบไฟหลายคบก็ชูขึ้น ส่องสว่างคนทั้งหมดและส่องสะท้อนจนนางหลบไปไหนไม่ได้ด้วยอีกฝ่ายล้วนสวมชุดคล่องตัว พกกระบี่ยาวคนทีนำมาเป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองยี่สิบสาม หน้าตาไม่เลว เพียงแต่สายตาที่พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยดีนักและข้างกายพวกเขายังมีหญิงสาวอีกสองคน พวกนางสวมชุดผู้ชาย รวมผมสูง เพียงแต่หน้าอกนั่นกับเอวนั้นบอกคนอื่นว่าพวกนางเป็นหญิงสาวที่ร่างสะโอดสะองรอบด้านมีม้าหลายตัว บนม้าแบกเหยื่อล่าเอาไว้มากมายฟู่จาวหนิงยังเห็นเลียงผาอีกสองตัว และยังมีไก่ป่าที่มีขนยาวอีกตัว นอกจากนี้ยังมีกระต่ายป่าอีกหลายตัว"มานี่"ชายหนุ่มคนนั้นกระดิกนิ้วหาฟู่จาวหนิงราวกับกระดิกนิ้วเรียกสุนัขอย่างไรอย่างนั้นระหว่างฟู่จาวหนิงกับพวกเขายังมีพุ่มหนามพุ่มเล็กอยู่ น่าจะเพราะสาเหตุนี้ พวกเขาจึงยังไม่เข้ามาฟุ่จาวหนิงมองเห็นว่ามีคนง้างธนูมาทางนาง และรู้ว่านางยังหนีไม่ได้ชั่วคราว"พวกเจ้าเป็นโจรภูเขาที่สังหารคนแล้วชิงของมาหรือ?"นางจงใจถามขึ้นคำหนึ่งคนเหล่านั้นตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็มีคนหัวเราะร่าขึ้นมามีคนกลับโกรธขึ้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 259

    ฟู่จาวหนิงในใจไม่ค่อยสบายใจ วิธีการเรียกสุนัขแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมือนเป็นสุนัขที่เขากำลังเลี้ยงไว้อย่างไรอย่างนั้น ทำเอานางขยะแขยงจริง"พวกท่านจะมาล่าหมาป่า ข้าก็จะไม่รบกวนพวกท่าน เข้าเข้ามาเก็บยาสมุนไพร ข้าขอตัวก่อนแล้วกัน" ฟู่จาวหนิงตบไปที่ตะกร้าหลังบนหลังนางใส่ยาเบญจมาศกับวัตถุดิบยาอื่นๆ เข้าไปในตะกร้าหลัง ไม่เช่นนั้นออกไปคงอธิบายยาก"เจ้ามาเก็บยาหรือ? เจ้าเป็นคนของพันธมิตรโอสถหรือว่าหมอกันล่ะ" ชายหนุ่มถามขึ้นอีกหญิงสาวที่ชื่อจือเอ๋อร์คนนั้นร้องหาขึ้นมาอย่างเกินจริง"พี่เฉิน นางอย่างมากก็มาจากบ้านที่จนมากๆ จนต้องมาขุดยาแล้วเอาไปแลกในเมืองนั่นล่ะ จะเป็นคนของพันธมิตรโอสถได้อย่างไร? และยิ่งไม่ใช่หมอเลยด้วย"หญิงสาวอีกคนหนึ่งพยักหน้า "ถูกต้อง มีหมอที่ไหนอายุน้อยแบบนี้บ้าง? แล้วก็หมอหญิงหรือ? แคว้นเจาของพวกเรามีหมอหญิงอยู่กี่คนกัน ล้วนกำลังไปรับใช้อยู่ในวังกันหมดแล้ว แล้วจะมาขุดยากลางป่าเขาได้อย่างไร?""เอาล่ะ พวกเจ้าพูดให้น้อยลงหน่อย"ฟู่จาวหนิงมองชายหนุ่มคนนี้ พวกเนางล้วนเรียกว่าพี่เฉิน เขาคงจะไม่ใช่จ้าวเฉินหรอกใช่ไหม?พี่ชายของจ้าวหรู?"เจ้ารู้จักข้าหรือ?" อีกฝ่ายถาม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 260

    "จือเอ๋อร์ เฟินเอ๋อร์ พวกเจ้าอยู่ที่นี่!"จ้าวเฉินเอ่ยกับหญิงสาวที่แต่งเป็นชายสองคนขึ้นเสียงหนึ่ง ชักกระบี่ออกมา จากนั้นก็พูดกับฟู่จาวหนิงว่า "เจ้ารักษาเขาไป อย่าให้เขาตายก็พอ! คนอื่นตามข้ามา พวกเราจะไปสังหารหมาป่ากัน!""สังหารหมาป่า!"ชายหนุ่มคนอื่นก็ล้วนตื่นเต้นขึ้นมา"พวกเราถ้าสามารถสังหารหมาป่ากลับไปได้ ครั้งนี้คงชนะแน่แล้ว!""ไม่ กลับไปแล้วยังต้องแย่งเจ้าหมีดำตัวเล็กนั่นของเจียงอวี้ด้วย"เจียงอวี้ทางนั้นได้เจ้าผู้ชายหน้ากากมาช่วย สังหารหมีดำมาได้ตัวหนึ่ง พวกเขาทางนี้อย่างน้อยต้องสังหารหมาป่าสักสิบตัวจึงจะชนะ"หมาป่ากับหมี ต้องได้มาทั้งหมด"จ้าวเฉินเอ่ยขึ้นอย่างอหังการ พุ่งออกไปข้างหน้าก่อน"จุดไฟ!จุดไฟให้หมด!"หมาป่ากลัวไฟ พวกเขาจะสังหารหมาป่า ต้องทำให้พวกมันกลัวเสียก่อนฟู่จาวหนิงได้ยินเสียงหมาป่าหอมาอีกสองครั้ง สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อยพวกของจ้าวเฉินกล้าขนาดนี้เลยหรือ? แล้วก็ยังไม่ทันจะฟังออกเลย ว่าที่มาอาจจะเป็นฝูงหมาป่าก็ได้? สัตว์อย่างหมาป่า ฝีมือต่อสู้แบบกลุ่มแข็งแกร่งมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังเจ้าคิดเจ้าแค้นด้วย!ถ้าหากพวกเขาสังหารหมาป่าไปแล้ว แต่ล้มจ่าฝูงไม่ได

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 261

    ฟู่จาวหนิงกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ บวกกับนางที่เดิมทีก็ทั้งเหนื่อยทั้งหิว เดินมาจนเมื่อยไปหมดแล้ว พอไม่ทันระวัง พอถูกเขาผลักเช่นนี้ก็ล้มลงไปนั่งบนพื้น"ฮะๆ" จือเอ๋อร์เดิมทีคิดจะเข้ามาฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พอเห็นฟู่จาวหนิงถูกผลักจนล้มจ้ำเบ้าก็หัวเราะขึ้นมาทันที"เจ้าเด้กสารเลวนี่ไม่ใช่คนดีเลย!"นางร้องเชอะ สายตาที่มองเฮ่อเหลียนเฟยเองก็รังเกียจเช่นกัน"พี่เฉินให้เจ้าดูอาการให้เขา แล้วเจ้าดูสิ ฟังนะ อย่าให้เขาตายไปก็พอแล้ว" จือเอ๋อร์เอ่ยขึ้นอีกฟู่จาวหนิงนั่งอยู่บนพื้น ไม่ได้รีบลุกขึ้นมานางมองเฮ่อเหลียนเฟยชายหนุ่มตอนที่ผลักนางเมื่อครู่ร้อนรนขึ้นมา ในดวงตาเผยอาการขอโทษ แต่ตอนที่นางมองเข้าไปเขาก็รีบก้มหน้าลงทันทีเขาควรจะเจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหวแล้ว สีหน้าซีดขาว ทั่วร่างชุ่มด้วยเหงื่อ ริมฝีปากถูกกัดจนเกือบไหลเขาบาดเจ็บหนักมาก ฟู่จาวหนิงต่อให้ไม่ตรวจสอบก็รู้แล้วว่าขาข้างนี้ถ้าไม่รีบจัดการอย่างทันท่วงที ต่อให้เขาจะแบกสังขารต่อไปไหว แต่ขาข้างนี้ภายหลังก็ใช้ไม่ได้แล้วการต้องเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกลายเป็นคนพิการขาเป๋ นางรับไม่ได้จริงๆชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้แย่เลย อย่างน้อยเขาก็ยังเตือนนางมา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 262

    ที่นี่ยังมีเฮ่อเหลียนเฟยอยู่นะ ซูเอ๋อร์พวกนางถึงแม้จะแต่งเป็นชาย แต่จะมองเป็นผู้ชายจริงๆ ก็ไม่ได้ทั้งสองคนถึงแม้จะอยากคอยจับตาดูฟู่จาวหนิงกับเฮ่อเหลียนเฟย แต่ท้องก็เอาแต่อาละวาด ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ร้อนรนจนหน้าเปลี่ยนสีไปแล้ว"สกัดจุดพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ก่อน!" ซูเอ๋อร์คิดวิธีออกแล้ว"ได้!"ซูเอ๋อร์เข้ามา ยื่นมือกดไปที่จุดชีพจรของฟู่จาวหนิงกับเฮ่อเหลียนเฟยแค่นี้พวกนางก็วางใจได้แ้ว"เร็วๆๆ"ทั้งสองคนกุมท้องพุ่งไปที่ป่าข้างๆเพราะท้องอาละวาดอย่างรุนแรง พวกนางเองก็กลัวจะเคลื่อนไหวมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่กล้าอยู่ใกล้นัก รีบวิ่งห่างออกไปหน่อย ถึงอย่างไรพอคิดว่ากดจุดชีพจรฟู่จาวหนิงเอาไว้แล้วก็ไม่ต้องกังวลตอนที่พวกนางวิ่งเข้าไปในป่า ฟู่จาวหนิงก็มองไปทางเฮ่อเหลียนเฟย"เจ้าคือคนจากเผ่าเฮ่อเหลียน แล้วมายังเมืองหลวงแคว้นเจาทำไมหรือ?"เฮ่อเหลียนเฟยเม้มปาก มองนางนิ่ง"ข้าไม่รุ้ว่าเชื่อใจท่านได้ไหม"เด็กคนนี้ฟู่จาวหนิงรู้สึกขบขัน ไม่รู้ว่าจะเชื่อใจนางได้ไหม ก็ตัดสินใจที่จะไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง แล้วเตือนให้นางอย่ามาช่วยชีวิตเขาส่งเดชแล้วหรือ?"เจ้าไม่พูดก็ไม่พูด แต่ว่า ข้าเตรีย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 263

    เสียงหอนหมาป่าที่ห่างออกไปดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงหอนหมาป่าขึ้นลงสลับกัน ฟังแล้วเหมือนฝูงหมาป่าจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่น้อยอีกด้วย!"อ๊า!"มีเสียงกรีดร้องของผู้ชายลอยมาตามลมจือเอ๋อร์กับซูเอ๋อร์ถ่ายจนเบลอพอได้ยินเสียงร้องโหยหวนนี้ ทั้งสองคนก็สะดุ้งโหยงตกใจรีบหอบเสื้อผ้าแล้ววิ่งกลับมา"คนล่ะ?"ที่เดิมยังมีฟู่จาวหนิงกับเฮ่อเหลียนเฟยเสียที่ไหน?"อ๊า! รีบวิ่ง!"ด้านหน้ามีเสียงจ้าวเฉินร้องขึ้นมาจือเอ๋อร์กับซูเอ๋อร์หันหน้าไปมอง และเห็นคบเพลิงบินลอย มีคนชูคบเพลงแล้วกำลังวิ่งทะยานกลับมา เสียงหอหมาป่ากับเสียงร้องเวทนาดังควบกันขึ้น ในป่ามีม้าหลายตัวร้องขึ้นอย่างไม่ปลอดภัยในป่ามีเสียงนกตื่นบินออกมาด้วยความตกใจ เสียงใบไม้เซ็งแซ่ลมพัดเอากลิ่นคาวเลือดเข้มข้นเข้ามาด้วย"หมาป่า! หมาป่าเพียบเลย!"มีคนวิ่งกลับมา ร้องตกอกตกใจขึ้นแต่ไกลจือเอ๋อร์กับซูเอ๋อร์เองก็เห็นว่าห่างออกไปที่ถูกคบเพลิงส่องสว่าง มีเงาหมาป่าหลายตัวกระโจนไปมากำลังพุ่งตรงมาทางนี้พวกนางสองคนหน้าซีดไปแล้ว"รีบ รีบหนี!"พวกนางตอนนี้ขับถ่ายออกไปจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว พวกผู้ชายอย่างจ้าวเฉินยังทานฝูงหมาป่าไม่ไปว แล้วพว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 264

    "ตอนนี้ต้องล้างแผลกำจัดพิษก่อน จัดการเสร็จแล้วจะเชื่อมกระดูกให้เจ้า"ตอนที่ฟู่จาวหนิงพูดคำนี้น้ำยาล้างแผลในมือก็เทลงไปบนแผลของเฮ่อเหลียนเฟยแล้ว เขากัดฟันแน่นขึ้นทันทีหลังจากจัดการบาดแผลแล้ว ฟู่จาวหนิงก็เทผงยาลงไปอีกสองขวด"เจ้าทำไมถึงไปถูกจ้าวเฉินทุบเข้าล่ะ? เขามองเจ้าเป็นเหยื่อล่าหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้น การเคลื่อนไหวของมือก็ไม่หยุด"เขาอธิบายมาแบบนี้ ตอนนั้นข้าร่วงลงไปในหลุมจนสลบไป เดิมทีตอนนั้นเขากำลังทุ่มหินลงมา ข้าหลบออกมา ไม่เช่นนั้นหินคงได้ซัดเข้าที่หัวข้าแล้ว อ๊า!"เฮ่อเหลียนเฟยพูดถึงตอนท้ายจู่ๆ ก็ร้องลั่นขึ้นมาที่แท้ฟู่จาวหนิงก็ถือโอกาสตอนที่เขาไม่ทันระวัง ออกแรงหักกระดูกที่อยู่ผิดที่ให้กลับมาเข้าที่ฉับพลันปวดเสียจนเฮ่อเหลียนเฟยพูดไม่ออก เหงื่อแตกพลั่กไม่ห่างไปนัก เซียวหลันยวนที่ใช้กำลังภายในแฉลบผ่านไปก็ได้ยินเสียงกรีดร้องนี้พอดีเขาขมวดคิ้ว ตรงมาทางนี้ทันทีพอเห็นแสงไฟ เซียวหลันยวนเดิมทีคิดจะซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเพื่อดูก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ฟู่จาวหนิงกลับได้ยินการเคลื่อนไหว คว้าฟืนท่อนหนึ่งข้างออกไปทางนั้นทันที่"มีคนหรือ?" เฮ่อเหลียนเฟยตกตะลึงแสงไฟบินผ่านออกไป ส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 265

    นางช่วยชีวิตเขา แล้วยังรักษาขาเขาอีกเขามองฟู่จาวหนิง ดวงตาร้อนวูบวาบ น้ำตารื้นไหลออกมา ตลอดทางนับพันลี้ที่มายังเมืองหลวงแคว้นเจา เจอเรื่องลำบากมามากมาย มีหลายครั้งที่ต้องแบกรับความตกตะลึงความกลัว แล้วยังผ่านความสิ้นหวังของการเฉียดตายเช่นนี้มาแล้ว เขารู้สึกเสียอกเสียดายความอบอุ่นที่ฟู่จาวหนิงมอบให้เขาในตอนนี้"เป็นผู้ชายอกสามศอกมาร้องไห้ได้อย่างไรกัน?" ฟู่จาวหนิงยิ้มๆ ล้มนั่งลงกับพื้น บิดหมุนข้อมือนางคิดจะบีบนวดขา เพราะขาตอนนี้ปวดไปหมดแล้วแต่เพราะมีชายสองคนมองมาทางนี้ นางจึงทนเอาไว้เฮ่อเหลียนเฟยยังไม่ทันตอบ เซียวหลันยวนก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ผู้ชายอกสามศอกหรือ? มองไม่ออกเลย"เฮ่อเหลียนเฟยยกมือขึ้นออกแรงเช็ดน้ำตาทันทีเซียวหลันยวนดึงฟู่จาวหนิง "มานี่""ทำอะไร?"ฟู่จาวหนิงคิดจะสะบัดมือเขาออก แต่เพราะเหนื่อยเกินไปแล้ว จึงสะบัดไม่หลุด แล้วยังล้มลงไปที่อกของเขา"ท่านปล่อยนางเสีย"เฮ่อเหลียนเฟยร้อนรนขึ้นมา ยื่นมือคิดจะคว้าชายชุดคลุมของเซียวหลันยวนแต่เซียวหลันยวนก็เหมือนมีตาอีกคู่งอกขึ้นมา สลับเท้าเล็กน้อย ชุดคลุมก็ลูบผ่านนิ้วของเขาไป ทำให้ผ้าสักผืนหนึ่งก็จับไม่ได้เซียวหลั

Bab terbaru

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status