Share

บทที่ 1860

Penulis: จุ้ยหลิงซู
เกี่ยวข้องกับตงฉิง?

ตงฉิงอีกแล้วเหรอ?

ใต้หน้ากากเซียวหลันยวน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา

ทำไมช่วงนี้เรื่องหลายเรื่องก็เกี่ยวกับตงฉิงไปหมด? ทำให้เขาแอบรู้สึกเหมือนเป็นตาข่ายผืนใหญ่ กำลังกางมาทางเขา

และเขาก็อยู่ในกลางตาข่ายยักษ์นั่น

อันเหนียนมองเซียวหลันยวน เอ่ยถามหยวนอี้ขึ้นอย่างสงบ

"ตงฉิงไม่ใช่ว่าล่มสลายไปแล้วหรือ?"

"แต่ว่า สิ่งที่พวกท่านไม่รู้ก็คือ มีความลับหนึ่งเกี่ยวกับตงฉิง ตอนนั้นตงฉิงอันที่จริงมีกลไกการป้องกันตนเองอยู่ แม้จะบอกว่าล่มสลาย แต่อันที่จริงก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น กลไกใหญ่เมืองหลักในจุดต่างๆ พอสะสมพลังถึงระดับหนึ่ง ก็จะทำงานขึ้นมา"

"พอกลไกทำงาน อุโมงค์และถนนหลักจะเปิดระบบระบายน้ำดินตะกอน แล้วเมืองจักรพรรดิก็จะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง"

"หลังจากเมืองจักรพรรดิปรากฏขึ้นอีกครั้ง และตอนที่กลุ่มดาวบนท้องฟ้าเคลื่อนย้าย ดาวจักรพรรดิกลับสู่ตำแหน่งเดิม ภูมิประเทศกลับสู่ตำแหน่งที่แน่นอน คลังสมบัติจะปรากฏ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีภูเขาแร่ล้ำค่าอีกหลายลูกที่จะปรากฏด้วย"

พอได้ยินหยวนอี้พูดเช่นนี้ อันเหนียนก็อดตกตะลึงไม่ได้

"ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ พอถึงวันนั้น ตงฉิงที่แม้จะไม่มีคนอ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1861

    "แคว้นหมิ่นในเมื่อรู้ข่าวแล้วจะช้าเร็วก็คงส่งมาถึงต้าชื่อกับแคว้นเจา ก็สู้ส่งพวกเราออกมาเจรจาร่วมมือก่อนไปเลยดีกว่า"เซียวหลันยวนถามเสียงเรียบ "ดังนั้นพวกเจ้าจึงมาเจรจาร่วมมือ? ร่วมมือว่าจะแบ่งสันปันส่วนตงฉิงกันอย่างไรน่ะหรือ?""ถูกต้อง พวกเราเลือกแคว้นเจาก่อน เป็นการพิจารณาทุกด้าน เพราะแคว้นเจาอยู่ใกล้ตงฉิงหน่อย แคว้นเจายังมีตัวตนอย่างอ๋องเจวี้ยน ขณะเดียวกันก็ยังมี..."หยวนอี้พูดถึงจุดนี้แล้วชะงักไปแต่เซียวหลันยวนกลับเข้าใจความหมายเขาขึ้นมา "ยังมีพระชายาของข้าอยู่หรือ?"หยวนอี้ยอมรับอันเหนียนใจสะดุ้งโหยงคิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะเป็นส่วนหนึ่งที่แคว้นหมิ่นนำมาพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย"พวกเจ้าต้องการวิชาแพทย์ของนางหรือ?" เซียวหลันยวนถามเขาเองก็ไม่ได้เผยอารมณ์ของตนเองออกมามากนัก หลังจากได้ยินเรื่องเหล่านี้แล้วโกรธหรือไม่มีปฏิกิริยาใด ก็ไม่ให้หยวนอี้ได้มองออก"วิชาแพทย์ของแคว้นหมิ่นตอนนี้แทบจะอยู่ในกำมือของตระกูลซุน" หยวนอี้ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะให้พวกเขาได้รู้สถานการณ์ของแคว้นหมิ่น "ตระกูลซุนเป็นตระกูลหมอชั้นสูงที่มีชื่อที่สุดของแคว้นหมิ่น ด้วยเหตุนี้ มีหลายเรื่องที่พวกเขาเป็นคนตัด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1862

    ตอนที่รถม้าออกจากเมืองเจ้อได้ครึ่งชั่วยาม ฟู่จาวหนิงเพิ่งวุ่นไปได้ช่วงหนึ่ง จากนั้นจึงเพิ่งพบว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับเฉินเซียงหายไปนางไปหาเซียวหลันยวน เซียวหลันยวนกลับไม่รู้สึกเกินคาด"ข้าหลับตาข้างหนึ่งปล่อยพวกนางออกไป"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดว่าจะหลบองครักษ์ของเขาพ้น"ทำไมล่ะ?"ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจทำไมถึงอยากจะปล่อยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหนีไป?"ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าอาการของนางดีขึ้นมากแล้ว""ท่านให้ข้าให้ยานางดีดีในช่วงสุดท้ายนี้"ดังนั้น นางจึงฉีดยาพิเศษให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น อาการป่วยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วจริงๆ โอกาสจะระบาดน้อยมากแล้วนางยังคิดว่าเซียวหลันยวนรู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะมาตายที่นี่ไม่ได้เสียอีก ดังนั้นจึงพยายามรักษานางอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ดูท่า เขาจะรู้อยู่แล้วว่านางจะออกไป แล้วยังปล่อยให้นางออกไปด้วย?"องครักษ์ลับของฝ่าบาทต้าชื่อมาถึงแล้ว ข้าไม่อยากให้พวกเขาลอบเข้ามาในเมืองเจ้อ ดังนั้นจึงพยายามส่งคนออกไป"เซียวหลันยวนไม่ใช่คนที่ใจดีนัก "หลังจากออกไป จะหนีการจับกุมฝ่าบาทต้าชื่อได้หรือเปล่า ก็ต้องดูโชคของนางแล้ว แล้วก็..."เซียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1863

    หยวนอี้ท้ายสุดก็ยังบาดเจ็บตามไปด้วย ที่เอวถูกอาวุธลับยิงเข้ามา เกือบจะเอาตัวไม่รอดหลังจากกลับถึงเมืองหลวง ทั้งสองคนก็สลบไปและในช่วงสิบวันนี้ คนป่วยในเมืองเจ้อก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาล ตายไปอีกชุดใหญ่ในช่วงที่ตึงเครียดที่สุด ยาของฟู่จาวหนิงในที่สุดก็สกัดออกมา ผ่านการใช้ยาไปหลายวัน ก็หยุดยั้งการคุมไม่อยู่ของโรคไว้ได้คนที่ป่วยตายเกือบร้อยคน แต่ว่า ท้ายสุดโรคก็ถูกควบคุมไว้ได้แล้วคนทั้งหมดล้วนถอนใจยาวโล่งอกแต่ตอนนี้เอง คำสั่งลับขององค์จักรพรรดิก็ส่งมาถึงเมืองเจ้อและที่มาด้วยกันยังมีทหารชั้นดีอีกห้าพันนายคืนนี้ ทหารชั้นดีล้อมเมืองเอาไว้ ในมือมีคบเพลิง ยังมีคนง้างธนูเพลิงเล็งมาที่เมืองเจ้อด้วยแสงไฟนอกเมืองเหล่านี้ แน่นอนว่าถูกเหล่าทหารคุ้มครองเมืองพบเข้าพวกเขารีบมารายงานผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอย่างเร่งด่วนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอได้ยิน เส้นที่ตึงในใจมาหลายวันนี้ก็แทบจะขาดออกจากกัน"มาแล้ว มาจริงๆ แล้ว!"องค์จักรพรรดิคิดจะทิ้งเมืองเจ้อจริงๆ! แล้วนี่จะทำอย่างไรกัน?จะเผาเมืองไหม?"รีบไปเชิญอ๋องเจวี้ยนมา!"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเอ่ยขึ้น ส่วนตนเองก็รีบพุ่งไปที่หอเมืองยืนบนหอเม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1864

    อันเหนียนเองก็โกรธจนเส้นเลือดแทบจะแตกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าองค์จักรพรรดิจะทำแบบนี้!เมืองเจ้อใหญ่ขนาดนี้ คิดจะทอดทิ้งก็ทิ้งเลยรึ!"รีบประคองข้าไปที่หอเมือง" อันเหนียนเองก็ตามไปด้วย เขาจะอยู่แต่ในนี้ไม่ได้เซียวหลันยวนมาถึงบนหอเมืองแล้ว ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรีบเข้ามารับ "ท่านอ๋อง!""สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?""ทหารห้าพันนาย! พวกเขาเข็นปืนใหญ่มาด้วย!" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวโกรธจัดจริงๆเมืองเจ้อส่งส่วยให้ทุกปีไม่เคยขาด ส่งเข้าคลังหลวงตรงเวลามาตลอด ตำแหน่งภูมิศาสตร์นี้ ก็ถือได้ว่าคอยคุ้มกันแทนเมืองหลวงอยู่ ส่งเส้นเลือดชีพจรเข้าไปให้ องค์จักรพรรดิต่อให้ใช้หัวเข่ามาคิด ก็จะทิ้งเมืองเจ้อไม่ได้!ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?เซียวหลันยวนยืนอยู่บนกำแพงเมืองลมพัดหวิว เขามองฝั่งตรงข้ามใต้กำแพงเมือง แม่ทัพที่นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างองอาจ"โจวติ้งเจิน"โจวติ้งเจิน เป็นแม่ทัพที่ดุดันคนหนึ่ง แล้วยังเป็นพวกค่อนข้างป่าเถื่อน มนุษยสัมพันธ์ในราชสำนักแย่มาก แต่เพราะเขาจงรักภักดีสุดๆ กับองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิมีเจตนาไหน ไม่ว่าจะไร้เหตุผลเพียงใด โจวติ้งเจินก็สามารถทำตามราชโองการได้อย่างเคร่งครัดตรงไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1865

    สายตาเขาแหลมคม แผ่แสงเย็นวาบ ตอนที่มองคนก็ทำให้รู้สึกว่าเขาชักกระบี่ออกมาสังหารได้ตลอดเวลาว่ากันว่าคนมากมายล้วนหวาดกลัวโจวติ้งเจิน ตอนนี้พอเห็นสภาพเขา ก็ดูจะมีพลังที่ทำให้คนหวาดกลัวอยู่จริงๆผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเดิมทีไม่ได้กลัวโจวติ้งเจินในอดีตแม้พวกเขาจะไม่ลงรอยกันในราชสำนัก ต่างฝ่ายต่างไม่เห็นด้วยกับอีกฝ่าย แต่ก็ไม่ได้มีผลประโยชน์ที่ขัดแย้งอะไรกัน ถึงอย่างไรคนหนึ่งก็บู๊คนหนึ่งก็บุ๋น ห่างกันพอควรแต่ตอนนี้เบื้องหลังของเขา มีประชาชนและครอบครัวของเมืองเจ้อทั้งเมืองผู้บริหารท้องถิ่นโหยวจึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาพอควรมีจุดอ่อน ก็จะเกิดความกลัวได้"ขุนพลโจว ท่านนำทหารตั้งมากมายมาเมืองเจ้อด้วยเจตนาอะไร?" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเอ่ยถามขึ้นก่อน"องค์จักรพรรดิรู้ว่าประชาชนเมืองเจ้อติดโรคร้าย ระบาดรุนแรง แพร่กระจายทั่วเมือง ไม่มียารักษา"โจวติ้งเจินเสียงกังวาน ฟังแล้วมีการบีบคั้นเขาจ้องผู้บริหารท้องถิ่นโหยว เอ่ยถามต่อว่า "เรื่องนี้ เป็นจริงหรือไม่? ทำไมเจ้าจึงไม่เขียนรายงานองค์จักรพรรดิทันที""ข้าเขียนหนังสือราชการส่งไปวังหลวงแล้วสี่ครั้ง! ตอนนี้ในเมืองหลวงมีคนป่วยจริง แต่ว่า..."

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1866

    โจวติ้งเจินจ้องมองผู้บริหารท้องถิ่นโหยว สายตากวาดผ่านสือลิ่วสือชีแต่เขาก็ไม่ได้บอกอะไรสือลิ่วสือชี แต่ส่งเสียงเย็นชาออกมาอีก "ผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ตอนนี้คนป่วยในเมืองมีเท่าไร? เจ้าในฐานะข้าราชการดูแลเมืองเจ้อ ก็น่าจะมีทำสถิติไว้สิ?"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ยังคงหวังลมๆ แล้งๆ อยู่ "ตอนนี้ประชาชนกับผู้ประสบภัยที่ติดโรคระบาดมีแค่สามพันคน...""สามพันคน!"โจวติ้งเจินถามต่อ "นอกจากสามพันคนนี้ ประชาชนที่เหลือไม่ได้ติดโรคจริงหรือ?""ถูกตรวจรักษาไปแล้ว และมีการกักตัวแยกออกจากคนอื่นแล้ว แต่ว่าตอนนี้หมอฟู่ค้นคว้า....""เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะแจ้งราชโองการของฝ่าบาท ใต้เท้าโหยว ภายในหนึ่งชั่วยาม จงไล่สามพันคนนั้นไปที่หุบเขา!" โจวติ้งเจินตัดบทเขาอีกครั้งผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใจสั่นกึก"ขุนพลโจว พวกเขาล้วนป่วยกัน จะไล่ไปที่หุบเขาทำไม? ที่นั่นไม่มีกินมีดื่ม แล้วก็ไม่มียา แล้วยังหนาวเย็นอีก...""นี่ไม่ใช่เรื่องที่ใต้เท้าโหยวต้องมากังวล! ใต้เท้าโหยวจัดการมาเกือบเดือน กลับทำให้คนป่วยมีมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ป่วยตายก็มากขึ้นเรื่อยๆ! เจ้าควรจะคิดได้แล้วว่าจะไปรับโทษกับฝ่าบาทอย่างไร! ตอนนี้เอาสามพันคนนั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1867

    อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอยู่ในเมืองเจ้อกับผู้ป่วยเหล่านี้มานานมาก พวกเขาก็ไม่ต้องหวังว่าจะกลับเมืองหลวงได้เลยองค์จักรพรรดิไม่มีทางให้พวกเขากลับไปอ๋องเจวี้ยนจะถูกขังอยู่ในเมืองเจ้อ ต่อให้ไม่ตายก็ต้องขังเขาไว้ให้ตาย"ท่านขุนพลฉลาดยิ่งนัก""ประจบประแจงน้อยๆ หน่อย ไฟกับน้ำมันทางหุบเขานั่นเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?""เตรียมพร้อมแล้วขอรับ!" ขุนพลน้อยเอ่ยขึ้น มุมปากกระตุกอย่างอดไม่อยู่ พอคิดถึงเรื่องที่จะเกิดหลังจากนี้ เขาก็อดใจสั่นวาบไม่ได้"องค์จักรพรรดิมีราชโองการ ประชาชนที่ติดโรคร้ายพวกนั้นจะปล่อยไว้ไม่ได้ นี่เป็นการคิดเพื่อประชาชนที่มากกว่า เสียสละส่วนน้อยเพื่อปกป้องส่วนมาก นี่จึงจะเป็นจักรพรรดิที่ชาญฉลาด""ขอรับ ฝ่าบาทชาญฉลาดนัก"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกลับมาถึงหอเมือง อันเหนียนเองก็เข้ามาแล้ว"โจวติ้งเจินพูดอะไรบ้าง? คงไม่ใช่เรื่องดีแน่สินะ?" อันเหนียนถามผู้บริหารท้องถิ่นโหยวมือสั่นระริก"เขาจะให้ข้าส่งคนป่วยทั้งหมดออกจากเมืองเจ้อ ไปให้เขาจัดการทิ้ง""เขาจะจัดการอย่างไร"ในใจอันเหนียนรู้สึกไม่ค่อยดี ตอนที่เขามาถึงก็เพิ่งได้เห็นบัญชี มีทั้งหมดสามพันหนึ่งร้อยคนคนมากขนาดนี้ จะจั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1868

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวได้ยินคำพูดอันเหนียน ชั่วขณะหนึ่งก็พูดไม่ออกอันที่จริงในใจเขาชัดเจนดี ต่อให้จะไล่คนป่วยในเมืองเจ้อเหล่านี้ออกไปตายข้างนอก พวกเขาที่อยู่ที่นี่ ก็ไม่มีทางกลับไปเมืองหลวงได้เช่นกันต่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก็ยังต้องให้เมืองเจ้อยังคงอยู่ต่อไปอีกพักหนึ่ง เพื่อยืนยันวาไม่มีโรคระบาดแล้วอันเหนียนอยู่ที่นี่มานาน ต่อให้จะกลับไปได้ องค์จักรพรรดิก็คงหาวิธีไล่เขาออกจากเมืองหลวง แล้วไปหารังที่อื่นให้เขาอยู่จะยอมให้เขาอยู่ในราชสำนักต่อได้อย่างไร? อยู่ใกล้จักรพรรดิขนาดนี้ จักรพรรดิกลัวจะตายพอคิดถึงจุดนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวก็รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา"ศิษย์พี่คิดหาวิธีดีกว่า คนป่วยสามพันคนนั้น จะต้องส่งออกไปจริงไหม"อันเหนียนเห็นสีหน้าท้อแท้สิ้นหวังของผู้บริหารท้องถิ่นโหยว ก็รู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมาแต่พวกเขาก็อยู่ในสถานการณ์นี้ด้วยผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับอันเหนียนหันไปมองเซียวหลันยวนพร้อมกันเซียวหลันยวนมองไปนอกเมืองเงียบๆ โจวติ้งเจินยังคงนั่งอยู่บนหลังม้า มองมาทางนี้อย่างชัดเจนมองกันจากระยะไกล เซียวหลันยวนรู้สึกได้ถึงการประชดประชันของโจวติ้งเจินโจวติ้งเจินเองก็น่าจะก

Bab terbaru

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2059

    สายตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเซียวหลันยวนดูซับซ้อนมาก ดูลังเล กำลังตัดสินใจและดูเจ็บปวดทรมานมากแต่หลังจากนี้นางกลับละทิ้งเรื่องที่จะกลับเมืองหลวงหาคนอื่นหรือกระทั่งเรื่องไปแคว้นหมิ่น แล้วิคดจะอยู่ข้างกายเจ้าอารามแทนหรือ?นี่มัน...ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนความคิดกะทันหันของนางมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตอนนี้นางกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อวัดคะเนดารานี้เสียแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสัมผัสได้ถึงอะไรกันนะ?"องค์หญิงใหญ่พักอยู่ที่นี่สองสามวันก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยว่ากัน"เจ้าอารามเหลือบมองกระจกทรงมุมที่แสงดับไปแล้วผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แอบถอนหายใจในใจเขาเองก็ทำไม่สำเร็จ บิดชะตาฝูอวิ้นกลับมาไม่ได้ชั่วคราวผิดพลาดตรงไหนกันแน่นะ?เจ้าอารามมองต่อไปทางฟู่จาวหนิง จากการทำนายส่วนตัวของเขา ทำนายไปทำนายมา ต้นกำเนิดตัวแปรทั้งหมดก็คือฟู่จาวหนิงดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับฟู่จาวหนิง เขาต้องมาขบคิดให้ดีจริงจัง""เจ้าอารามรับข้าไว้เถอะ แม้ข้าจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็ยังเรียนรู้ได้ ข้าเรียนรู้ทำกับข้าว จริงด้วย ข้าเป็นแแม่สื่อได้ด้วยนะ หลังจากนี้ชายเส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2058

    บนพื้นมีสามจุดเปล่งแสงขึ้นรางๆ ปรากฏรูปร่างสามแบบคือ แปดเหลี่ยม ทรงกลม ทรงมุมฟู่จาวหนิงเดินเข้าไปสองก้าว จึงพบว่านั่นเป็นกระจกหลากสีเรียบลื่นสามชิ้นสลักฝังอยู่บนพื้น ใต้กระจกน่าจะเป็นหินหยกผิวเรียบ และระหว่างหยกกับกระจกมีของเหลวสีแดงเจือสีเงินไหลเอื่อยๆ อยู่ยิ่งไปกว่านั้น เพียงไม่นาน ด้านบนยังมีแสงระยิบเหมือนดวงดาว ราวกับจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวออกมาเจ้าอารามเดินเข้าไปใกล้ กวักมือให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"มานี่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ค่อนข้างว่าง่าย เดินเข้าไปทันทีเจ้าอารามส่งลูกปัดหยกสีดำเม็ดหนึ่งให้นาง"นั่งขัดสมาธิ กำลูกปัดเม็ดนี้ไว้ สัมผัสดูว่ามันนำเจ้าไปยังมิติดาราไหน แล้วจงชี้ออกมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามที่เขาบอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น สองมือกุมลูกปัดนั้น ตั้งสมาธิสัมผัสผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงหันหลังอย่างลังเลไปทางทรงมุมนั้น"ทางนี้"ฟู่จาวหนิงยืนมองอยู่ข้างๆจากที่นางเห็น เจ้าอารามเหมือนคนที่กำลังเล่นละครหลอกคนอย่างไรอย่างนั้น เรื่องแบบนี้จะทำนายดวงชะตาออกมาได้อย่างไร?กำลูกปัดลูกหนึ่งไว้ ก็สามารถชักนำให้ตนเองเลือกกระจกหลากสีแผ่นไหนแบ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2057

    ดาวสองดวงนั้นประกายจ้ามาก แล้วยังอยู่ใกล้มากด้วย ส่องประกายให้กันและกัน เหมือนขานรับกันและกันไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นดาวสองดวงนี้ ฟู่จาวหนิงรู้สึกมีความสุขขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านเห็นดาวดวงไหนหรือ?"เซียวหลันยวนไม่ตอบ แต่กุมมือนางมัน จับนิ้วนางชี้ออกไป"เอ๋?"ที่เซียวหลันยวนชี้ก็คือดาวสองดวงนั้น!หรือพวกเขาจะมองเห็นแบบเดียวกัน?แน่นอนว่าอาจจะเพราะดาวสองดวงนั้นสว่างไสวมากที่สุด คนอื่นเองก็อาจจะมองเห็นพวกมันด้วยฟู่จาวหนิงคิดเช่นนี้ เลยมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่กลับเห็นนางมองไปทางอื่นนางมองไล่ตามสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไป ตรงนั้นมีดาวดวงหนึ่ง สว่างอยู่เหมือนกัน แต่ดาวที่อยู่รอบๆ เล็กเอามากๆ จึงส่องระยับอยู่เพียงดวงเดียวที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองอยู่น่าจะเป็นดวงนั้นกระมัง?ตอนที่นางจะเก็บสายตาก็กวาดไปเห็นซางจื่อพอดี และเห็นซางจื่อก็กำลังมองท้องฟ้า แต่สายตาของเขาดูสับสน สีหน้าเองก็ตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงคิดๆ ถอยหลังสองก้าวไปอยู่ข้างๆ ซางจื่อซางจื่อเก็บสายตากลับ มองไปทางนาง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ นางก็มาอยู่ข้างๆ"ซางจื่อ เจ้าชอบดาวดวงไหน?"ซา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2056

    "แต่ก่อนท่านเคยเห็นเขาระบำมาก่อนไหม?""ไม่มีเคยเลย"ตอนที่พวกเขาหยุดเท้ายืนมอง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงข้างกายพวกเขานางเองก็มองการร่ายรำบนแท่นชมดาว สายตาดูเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ"ข้าได้ยินว่า แต่ก่อนตงฉิงก็มีระบำทำนายดวงดาวอยู่ประเภทหนึ่ง คิดค้นขึ้นมาโดยตระกูลราชครูตงฉิง นี่เป็นระบำที่ลึกลับมาก จังหวะก้าวเท้าทุกก้าวล้วนพิถีพิถัน นำมาซึ่งพลังแห่งดวงดาว ทำให้ผู้ทำนายดวงดาวมีพลังที่ลึกลับมากขึ้น ผลลัพธ์การทำนายเองก็แม่นยำขึ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ลืมสิ่งที่เซียวหลันยวนพูดไว้เมื่อครู่ เรื่องที่ไม่ให้นางเข้ามาใกล้นัก แต่มายืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดเรื่องที่ตนเองรู้มาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ตระกูลราชครูของตงฉิง?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้ยินองค์จักรพรรดิของข้าบอกมา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นว่านางยอมพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติจนประหลาดใจขึ้นมา "ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิข้าค้นหาตระกูลราชครูตงฉิงอยู่ตลอด ว่ากันว่า ตระกูลราชครูนั้นรู้ความลับมากมายของตงฉิง สามารถช่วยให้อาณาจักรมั่นคงได้ด้วย"เซียวหลันยวนร้องเฮอะขึ้นมาต้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status