"ก่อนหน้านี้ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคุณหนูฟู่ไม่เรียนรู้ไม่มีความรู้ วันวันแบกแต่ตระกร้าหลังทำท่าทำทางออกไปขุดยา ผลลัพธ์คือแต่ละครั้งก็ขุดมาแต่กองหญ้าวัชพืชกลับมา"หมอหม่าตอนนี้เอ่ยขึ้นเสียงประหลาดหมอเฉียนเพียงไม่นานหัวเราะตามขึ้นมาและไม่รู้ว่าเถ้าแก่รองหูพวกนั้นก็มาถึงที่นี่แล้วเช่นกัน เขายังมองไม่เห็นว่าข้างหน้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้ยินแค่คำพูดนี้ของหมอหม่า จากนั้นก็มองไปตามสายตาของหมอหม่า จึงเห็นฟู่จาวหนิงนางอีกแล้วหรือ?ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงเอาแต่วิ่งเสนอหน้าในนี้ไปทั่วเลย?รองเถ้าแก่หูหัวเราะร่าขึ้นมาโดยไม่คิด"สที่แท้เจ้าก็คือคุณหนูตระกูลฟู่ที่ตกต่ำคนนั้นนี่เอง? ข้าได้ยินพวกในร้านคุยเรื่องของเจ้า มีครั้งหนึ่งเจ้าเอาผักโขมกอหนึ่งเข้ามาในโรงยาทงฝูของพวกเรา บอกว่าจะขายยา! ฮ่าๆๆ อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก โรงยาของพวกข้าเอาเรื่องนี้ไปคุยเป็นเรื่องตลกกันนานพอดูเลย"หมอเทวดาหลี่พอเห็นคนต่อคำเข้ามาเย้ยหยันฟู่จาวหนิง ก็อดภาคภูมิขึ้นมาไม่ได้ เขาถลึงตากว้าง ร้องเรียกขึ้นมา"ไม่ขนาดนั้นกระมัง? เห็นผักโขมเป็นยาสมุนไพรหรือ?""มีเรื่องเช่นนี้ด้วย!"เถ้าแก่รองหูดึงออกมาคนหนึ่ง "ให้หมออู๋ลองพู
อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปทางซือถูไป๋สายตาของซือถูไป๋ตกอยู่บนใบหน้าฟู่จาวหนิงตลอดเขามองเช่นนี้ สายตาของพวกเขาทั้งสองมองไกลๆ เหมือนปะทะกันกลางอากาศแล้ว ซ้ำยังเกาะอยู่ด้วยกันเสียด้วยในใจอ๋องเจวี้ยนไม่รู้ทำไมถึงไม่สบายใจเอาเสียเลยซือถูไป๋แค่เหลือบมองก็เห็นฟู่จาวหนิงอยู่ในกลุ่มคนแล้ว แม้ว่านางจะสวมใส่ชุดที่ไม่สะดุดตา และไม่ใส่เครื่องประดับใด แต่ยืนอยู่นี่นั้นก็ยังคงจับเอาสายตาเขาไปอยู่ดีเขายิ้มออกมา รีบก้าวเข้ามาทางนี้แต่ไม่ต้องรอให้เขาพูดกับฟู่จาวหนิง รองเถ้าแก่หูก็มองเห็นเขาแล้ว เขาถลึงตาโต ไม่อยากจะเชื่อ "คุณชาย?"ตระกูลซือถูคือเจ้านายของเขา โรงยาทงฝูก็ล้วนเป็นของตระกูลซือถูรองเถ้าแก่หูตอนนี้รู้สึกว่าที่พึ่งของตนเองมาถึงแล้ว เขายกมือขึ้นพุ่งไปเบื้องหน้าไป๋ซือถู ร้องห่มร้องไห้เรียกขึ้นมา "ข้าน้อยคารวะคุณชาย คุณชายท่านมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ซือถูไป๋เดิมทีจะเดินไปทางฟู่จาวหนิง จู่ๆ ก็ถูกคนขวางเอาไว้ เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา"เจ้าคือ?""คุณชายไป๋ ข้าน้อยคือรองเถ้าแก่หูร้านสาขาโรงยาทงฝูในเมืองหลวงแคว้นเจาขอรับ จ้าย้อนสกุลหู""โอ้" ซือถูไป๋พยักหน้า "ร้านสาขาทางนี้ก็ลำบ
อ๋องเจวี้ยนมองดูคู่ที่ยืนอยู่ตรงข้าม ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกขัดตา พอมองๆ ฟู่จาวหนิ่งยังยิ้่มให้ซือถูไป๋อีกด้วยยิ้มเสียเจิดจ้าเชียว?อ๋องเจวี้ยนยื่นมือกดบนต้นไม้ข้างๆ ใช้กำลังภายในออกมาอย่างไม่ทันระวัง ใบไม้ถูกสะเทือนจนทยอยร่วงลงมาแล้วชิงอีถลึงตาโต ลมฤดูใบไม้ร่วงแรงไปหรือ? ไม่นี่ ทำไมจู่ๆ ใบไม้จึงร่วงลงมากัน?"ข้ายอมให้นางเข้ามาดูอาการข้า"ตอนนี้เองฮูหยินที่อ่อนแอคนนั้นก็ส่งเสียงขึ้นฟู่จาวหนิงหมุนตัวเดินไปที่นาง"ท่านป้า ข้าจะดูอาการให้ท่านเอง ท่านผ่อนคลายไม่ต้องกังวล" ฟู่จาวหนิงดค้งตัวลงดูใบหน้านาง ยื่นมือไปกดเบาๆ บนใบหน้านาง"เจ็บไหม? มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง?""ไม่เจ็บไม่คันเลย เหมือนแต่ก่อน" ท่านป้ามองฟู่จาวหนิงใกล้เช่นนี้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา พระชายาอ๋องเจวี้ยนคนนี้หน้าตาดีเหลือเกิน"ตอนที่นอนหลับท่านชอบตะแคงนอนทางนี้ใช่ไหม? แล้วตอนที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า หน้าด้านนี้ก้ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม อย่างอาการชาอะไรพวกนี้"ฟู่จาวหนิงถามไปด้วยจับชีพจรไปด้วยฮูหยินรู้สึกว่านางอ่อนโยนมาก พูดจาเองก็แผ่วเบาละเมียดละไม อย่างกับคนละคนกับตอนที่ตบฉาดสองทีที่หน้าของรัฐทายาทเซียวเลยฟู่จาวห
"หมอเทวดาหลี่เองก็ไม่อดทนเอาเสียเลย สู้ไปหาสถานที่ฟังเพลงดื่มชาเสียดีกว่า อย่ามารออยู่ที่นี่เลย"ฟู่จาวหนิงเหล่มองหมอเทวดาหลี่ผาดหนึ่ง ประชดประชันกลับไป "เมื่อครู่ตัวเองก็พูดไร้สาระไปครึ่งค่อนวัน ตอนนี้ข้าจะใช้ชามเล็กมาพิสูจน์การพิจารณาของตนเอง หมอเทวดาหลี่ก็รอไม่ไหวเสียแล้วหรือ?"ใบหน้าหมอเทวดาหลี่ร้อนวูบวาบ แต่หลักๆ คือโทสะเขาโกรธฟู่จาวหนิงขึ้นแล้วจริงๆก็แค่หญิงสาวที่อายุน้อยกว่าเขาไม่ใช่แค่สองรอบคนหนึ่ง แต่พูดจาไม่เคารพเขาเลย!"ได้ เจ้าทำต่อไปสิ"เขาเองก็จะดูเสียหน่อยว่าจะดิ้นรนเอาผลลัพธ์อะไรออกมากันคนรอบๆ เองก็ดูอยากรู้อยากเห็นมาก ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงเอาชามเล็กออกมาเทน้ำลงไปครึ่งหนึ่งทำไม"นี่เป็นน้ำสะอาดใช่ไหม?" ฮูหยินเองก็ถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น"ไม่ใช่ นี่เป็นยาน้ำน่ะ" ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกอดทนต่อคนป่วยอยู่ "สิ่งนี้สามารถละลายวัตถุได้ ด้านในมีสีอะไรอยู่ก็จะปรากฎออกมา""เส้นผมจะมีสีอะไรได้อีกล่ะ? ไม่ใช่ว่าสีดำหรอกหรือ?" คนรอบๆ พูดออกมาคำหนึ่งส่วนซือถูไป๋กลับครุ่นคิด "เมื่อครู่ท่านป้าคนนี้บอกว่านางย้อมผมมา ที่ออกมาก็น่าจะเป็นสีของน้ำยาย้อมผมกระมัง?"ฟู่จาวหนิงส่
หมอเทวดาหลี่รู้สึกโกรธขึ้นบ้างแล้วถ้าเป็นเช่นนีค้จริง เช่นนั้นตรวจไข้เมื่อครู่นี้ของเขาก็กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้วสิ?!"ข้าบอกแล้ว ข้าก็แค่พิสูจน์การพิจารณาของตนเอง ตอนนี้สีก็สอดคล้องกัน ข้าจะตรวจสอบอีกครั้ง" ฟู่จาวหนิงล้วงเข็มอีกหลายเล่มออกมา"ท่านอาจารย์ ต้องการไฟเทียนกับผ้าทำแผล" นางพูดกับผู้อาวุโสอีกครั้งผู้อาวุโสจี้ถีบคนข้างๆ อีกครั้ง "เร็ว ไปหยิบไฟเทียนกับผ้าทำแผลมาเร็ว""ศิษย์เอ๋ย เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ เจ้าเองก็เป้นหมอคนหนึ่ง ไม่มีกล่องยาได้อย่างไร? เดี๋ยวอาจารย์จะมอบให้เจ้าใบหนึ่งเอง" ผู้อาวุโสจี้พูดกับฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงคิดถึงกล่องยาน้อยใหญ่ในห้องเภสัชของตนเองขึ้นมานางไม่ใช่ว่าไม่มี กล่องยาของนางระดับสูงอยู่นะ หยิบออกมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ดูท่านางต้องเตรียมกล่องยาสำหรับทางนี้แล้วสักใบจริงๆ"ขอบคุณท่านอาจารย์"ซูถูไปตาเปล่งประกายกล่องยาหรือ? เขาเหมือนรู้แล้วว่าตนเองต้องมอบอะไรให้นางไฟเทียนจุดเสร็จแล้ว ฟู่จาวหนิงนำมาใช้เผาเข็มเงิน อันที่จริงเข็มเงินของนางเองก็ฆ่าเชื้อในห้องเภสัชมาแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังเคยชินที่จะทำอีกครั้ง อย่างน้อยก็ทำให้หมอคนอื่นหลังจากที่
ผู้อาวุโสจี้ตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว ผลักคนรอบข้างออกแล้วเบียดตัวเข้ามา เข้าไปมองใบหน้าของฮูหยิน"ท่านอาจารย์ อย่าใจร้อน"ฟู่จาวหนิงหยิบผ้าทำแผลเดินออกมาอย่างใจเย็น เช็ดหยดเลือดเหล่านั้นบนผ้าทำแผล สีม่วงสีเลือดพอย้อมปนกัน ก็มองเห็นชัดเจนเป็นพิเศษในขอบเขตเข็มหกเล่มที่แทงลงไป มีตำแหน่งเล็บนิ้วหนึ่ง สีม่วงแต่เดิมจางลงไปมาก เทียบกับข้างๆ แล้วจางลงไปหลายระดับอยู่"เป็นน้ำยาย้อมผมซึมเข้าไปจริงๆ ด้วย" ฟู่จาวหนิงหยิบผ้าทำแผลส่งให้ฮูหยินคนนั้นดู จากนั้นก็หันหน้าไปมองผู้อาวุโสจี้ "ท่านอาจารย์"ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้นทันที "จะเอากระจกทองแดงใช่ไหม? มีมีมี" เขาเตะไปที่คนข้างกายอีกทีกระจกทองแดงจึงถูกส่งออกมาทันที ฮูหยินรับไป และก็เห็นว่าส่วนหนึ่งบนใบหน้าสีจางลงไปมากแล้วจริงๆฟู่จาวหนิงเอ่ยต่อ "นี่เป็นเพราะน้ำยาย้อมผมซึมเข้าไปบนหน้าท่าน แต่ว่าเพราะอะไรจึงซึมไปแค่ครึ่งหน้า ก็ยังต้องตรวจอย่างละเอียดอีกที เอาไว้ท่านนำยาเหล่านั้นมาให้ข้าดูหน่อย หมอเองก็ต้องตรวจด้วย รวมถึงผมที่ย้อมไป ต้องบอกกับข้าอย่างละเอียด จึงจะสามารถรักษาให้หายดีได้"ฮูหยินร้องไห้โฮออกมา"ข้าไม่ได้ป่วย ข้าไม่ได้โชคร้าย ไม่ได้ไปแปดเป
หมอเทวดาหลี่กระแทกไหล่ สะบัดมือของเขาออก"ผู้อาวุโสจี้ หางของเจ้าชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้วหรือไร? เป็นคนก็อย่าได้หยิ่งทะนงนัก ศิษย์ของเจ้าอายุเท่าไรกันเชียว? จะเติบโตต่อไปได้หรือไม่ก็ยังไม่แน่หรอก!""หมอเทวดาหลี่คำพูดนี้เหมือนคุกคามกันนะ" ซือถูไป๋ที่อยู่ข้างๆ เอ่ยประโยคที่ดูไม่ค่อยจะอบอุ่นขึ้นอย่างอบอุ่น "ข้ารู้สึกว่าคุณหนูฟู่ฉลาดเฉลียวเช่นนี้ เส้นทางหลังจากนี้ยังยาวไกลเสียเหลือเกิน""คุณชาย ท่านปกป้องนางทำไมกัน" อาเพียนเอ่ยค้านขึ้นเสียงแผ่วฟู่จาวหนิงเมื่อครู่ไม่เห็นโรงหมอทงฝูในสายตา แม้เขาจะไม่ชอบรองเถ้าแก่หู แต่ว่ารองเถ้าแก่หูก็ถือเป็นคนของตนเอง เขาถูกคนของฟู่จาวหนิงหักนิ้ว เขาแน่นอนว่าต้องไม่ชอบฟู่จาวหนิงหมอเทวดาหลี่ฟังความหมายของซือถูไป๋ออกและชิงอีเองก็ฟังออกแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองท่านอ๋องบนต้นไม้ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านอ๋อง ซือถูไป๋แสดงออกว่าปกป้องพระชายาแล้วใช่ไหม?"ใช่ไหม?นี่เป็นการแสดงออกต่อหน้าหมอเทวดาหลี่เลย ว่าหลังจากนี้เขาจะยืนอยู่ฝั่งฟู่จาวหนิง หมอเทวดาหลี่ถ้าจะคุกคามก็ต้องคิดหนักหน่อยท่านอ๋องหลบมองอยู่ห่างๆ มาตลอด และไม่ยอมออกไปช่วยพระชายาด้วย ทั้งที่เป็นที่พึ่งข
ฟู่จาวหนิงยังคิดอยู่ ว่าวันนี้ไห่ฉางจวิ้นทำไมถึงไม่โผล่มาเสียทีครั้งที่แล้วก่อนที่นางจะออกไปทิ้งคำพูดไว้ แล้วก็ไม่โผล่ออกมาเลย ฟู่จาวหนิงก็นึกอยู่ว่าเรื่องอะไรที่ยังทำไม่เสร็จตอนนี้พอเห็นไห่ฉางจวิ้นมาแล้ว ฟู่จาวหนิงก็วางใจขึ้นมาไห่ฉางจวิ้นพอมาถึง ซือถูไป๋ก็ขยับตัวเข้ามาขวางสายตาที่นางจ้องเขม็งฟู่จาวหนิงไว้ด้วยสัญชาตญาณ"คุณชายซือถู?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา แต่พอเห็นว่าเขาคิดจะมาปกป้องฟู่จาวหนิง ไฟโกรธของนางก็ปะทุขึ้นมาแล้ว"ฟู่จาวหนิง ถ้าเจ้ามีความสามารถก็ยืนขึ้นมา หลบอยู่ด้านหลังคุณชายซือถูทำไมกัน?" ไห่ฉางจวิ้นเอ่ยขึ้นเย็นชาฟู่จาวหนิงเก็บของเสร็จเรียบร้อย เดินออกมาจากศาลาฮูหยินคนนั้นเองก็กำลังขอบคุณนางจากนั้นก็รีบกลับบ้านไป นางจะรีบไปบอกข่าวดีกับคนที่บ้านส่วนคนอื่นก็ล้วนพาคนไข้เข้ามา แล้วยังมีคนนำวัตถุดิบยาที่อยู่ในกล่อง วิธีเดิมพันต่างๆ ก็เริ่มขึ้นมา หมอคนอื่นเองก็กำลังวุ่นวายขึ้นพวกเขาอยากจะจับตาดูฟู่จาวหนิงต่อ แต่อะไรก็ไม่ได้สำคัญกว่าการเดิมพันหมอการรู้จักยาของพวกเขารอบๆ มีเสียงจอแจขึ้นมา ฟู่จาวหนิงเก็บของเดินออกมาอีกด้านหนึ่ง ห่างออกจากกลุ่มคนหน่
"พระชายา เอาข้าวเช้ากับน้ำร้อนมาให้แล้วขอรับ"เสียงของสืออีดังลอดเข้าาฟู่จาวหนิงเดินออกไป "วางไว้ตรงนั้นเลย เจ้าอย่าเข้ามานะ"พอเหลือบมองไป นางยังเห็นฟู่จิ้นเชินด้วย พวกเขาคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อน คนหนึ่งถืออาหารเช้า"จาวหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟู่จิ้นเชินยืนนิ่ง ถึงแม้อยากจะเดินเข้ามา แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไม่ให้เขาเข้าไป"ข้าไม่เป็นไร คนป่วยข้างนอกพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงถามถึงสองพี่น้องเสี่ยวเฟิงเสี่ยวยา พอรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นไร นางจึงวางใจลงได้ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่หญิงสาวคนนี้มาถึงหลังจากที่พวกเขาทำงานไปแล้วหลายวัน ตอนนี้คนอื่นๆ ปรับตัวได้แล้ว ทำงานกันได้สมเหตุสมผลหมดแล้ว รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน พอนางออกห่าง คนป่ววยพวกนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงจะวุ่นวายกันไปหมดแน่"ผู้ช่วยหมอสามคนที่ใต้เท้าอันหามาก็เพิ่งมาถึง ข้าให้เสี่ยวเยว่นำพวกเขาไปแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเขาเองก็มือไม้คล่องแคล่วทำงานได้ดีอยู่ เจ้าไม่ต้องกังวล""ได้ สืออี ไปดูทหารขุนพลบัญชาการกับผู้ประสบภัยคนอื่นที่สัมผัสกับป้าคนนี้หน่อย ระวังด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"่ขอรับ"สืออี
อย่างในเวลานี้ คนเราจะลนลานหวาดกลัวกัน ถึงอย่างไรครอบครัวหญิงสาวคนนั้นก็ป่วยตายกันไปห้าคนแล้วนะ โอกาสตายสูงขนาดนี้ ใครจะไม่กล้วบ้าง?ถ้าเผื่อติดโรคแล้วต้องตายล่ะ..."เช่นนั้นศิษย์น้องหญิงรักษาโรคนี้ได้จริงไหม?" ต่งฮ่วนจือก็ตึงเครียดขึ้นมาแล้ว"เรื่องนี้นางยังไม่ได้บอก เพราะไม่ให้ใครเข้าไปเลย พวกเราตอนี้ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร นางแค่บอกว่าไม่ต้องกังวล"แล้วจะไม่กังวลกันได้อย่างไร?ถึงแม้ฟู่จาวหนิงท้ายสุดจะรักษาโรคนี้ได้ แต่หลังจากระบาดไปจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากช่วงหนึ่งแน่"เมืองเจ้อที่นี่เดิมทีก็น่าจะมีหมออยู่ไหม? พวกเขาไม่เข้ามาช่วยเลยหรือ?" ต่งฮ่วนจือถามรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงแค่คนเดียวมันเหนื่อยเกินไปอันเหนียนเล่าสถานการณ์ของหมอที่นี่กับเขาอันที่จริงสองวันนี้เขาก็หาตัวลูกศิษย์ที่อยู่ในโรงหมอแต่เดิมมาได้สามคนแล้ว ให้พวกเขาเก็บข้าวของแล้วมาช่วยกันที่นี่มีฟู่จาวหนิงคอยนำพวกเขา สำหรับพวกเขาถือเป็นโอกาสในการเรียนที่สุดยอดมาก"พรุ่งนี้เช้าจะมีผู้ช่วยหมอสามคนเข้ามา พวกเขาจะมากน้อยก็มีพื้นฐานอยู่บ้าง ถึงตอนนั้นยังสามารถช่วยเหลือได้""เป็นแค่ผู้ช่วยหมอ ศิษย์น้องหญิงค
"พระชายา" สืออีกังวลมาก มองฟู่จาวหนิงที่นั่งอยู่บนเตียงหลัวฮั่นข้างหน้าต่าง "ท่านจะทำอย่างไร?"หรือว่านางจะอยู่เฝ้าที่นี่ตลอดกัน?ในเมื่อโรคนี้อันตรายขนาดนี้ พระชายาต่างหากถึงจำเป็นต้องมีการคุ้มครองมากที่สุด"อีกเดี๋ยวข้าจะไปห้องข้างๆ ไม่ได้อยู่ที่นี่เฝ้าทั้งคืนหรอก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "ไม่ต้องกังวล"ตอนกลางคืนที่นางอยู่คนเดียวก็เข้าไปในห้องเภสัช หลายวันช่วงนี้นางล้วนนอนอยู่ในห้องเภสัช ถึงอย่างไรก็เป็นสถานที่ของตนเอง ต้องดีกว่าห้องรับแขกที่จัดขึ้นชั่วคราวมากอยู่แล้วตอนนี้มีโรคที่ระบาดได้ นางมานอนอยู่ในมิติของตนเองประสิทธิภาพในการกักกันก็ยิ่งดีกว่า"แล้วพระชายากินข้าวหรือยัง?" สืออีถาม"อีกเดี๋ยวจะกิน""ข้าจะไปนำอาหารมาให้ จะเอามาเยอะหน่อย พระชายาจะได้กินให้มากอีกนิด""ดีเลย"สืออีออกไปแล้ว พอเห็นสือซานที่อยู่ข้างๆ ประตูวงกลม "ให้คนมาเปลี่ยนกับเจ้าคืนนี้""ไม่ ข้าเฝ้าเองยังวางใจกว่า" สือซานกลับไม่ยอมฟู่จาวหนิงให้เขาเฝ้าที่นี่ไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป ใจเขาก็ไม่ค่อยสงบแล้ว ว่ามีโรคร้ายอะไรที่ทำให้พระชายาต้องระมัดระวังขนาดนี้?นางไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ แล้วตัวนางเองล่ะ?สืออีเองก
ไข้หวัดปกติก็สามารถระบาดได้ แต่นางไม่ได้ให้คนทำการกักกันดังนั้นตอนนี้พอได้ยินว่าไปที่ห้องผู้ป่วยนั้น อันเหนียนก็เข้าใจความหมายขึ้นมาทันที"นางอยู่ที่นั่นคนดียวหรือ? น้ำเสียงเขาเครียดขึ้นมา"และการเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ของอันเหนียน ต่งฮ่วนจือก็สัมผัสได้แล้วอย่างชัดเจนเขามองอันเหนียน จากนั้นก็มองฟู่จิ้นเชิน "เกิดอะไรขึ้นหรือ? ห้องผู้ป่วยนั่นมีอะไรผิดปกติไหม?""ก่อนหน้านี้มีไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่ส่งคนไปที่นั่น ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงอยู่คนเดียว" ฟู่จิ้นเชินไม่ได้ตอบคำถามต่งฮ่วนจือแต่ต่งฮ่วนจือก็มองออก ว่าในสายตาเขามีความกังวลขึ้นมาเต็มที่เพียงแต่ชายหนุ่มสองคนนี้ล้วนเป็นพวกไม่ค่อยเผยอารมณ์ออกมาเท่าไรนัก เป็นคนที่หนักแน่นใจเย็นมาก ดังนั้นเขาเองก็พิจารณาถึงความหนักหนาได้ลำบากอันเหนียนยกเท้าไปทางนั้นทันที"ใต้เท้าอัน"ฟู่จิ้นเชินจับแขนเขาไว้ สายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงเองก็กดลงมาอันเหนียนได้สติกลับมาในพริบตา ยืนนิ่งไปแล้ว"นางกำชับอะไรไว้ไหม? ทำตามที่นางว่าเลย" เสียงอันเหนียนเรียบสงบแต่ว่า ฟู่จิ้นเชินมองเขาลึกๆรู้อยู่แท้ๆ ว่าห้องผู้ป่วยนั้นเป็นตัวแทนของอะไร ขนาดตัวเขาฟู่จาวหนิง
อันเหนียนวันนี้พอวุ่นเสร็จ ก็พาคนหนึ่งมาที่โรงหมอฟู่จิ้นเชินเห็นคนที่เข้ามาก็รู้สึกเกินคาด"ผู้จัดการใหญ่ต่ง?"ต่งฮ่วนจือมาแล้ว"คุณชายฟู่"หลังจากต่งฮ่วนจือเข้ามา ด้านหลังก็ยังมีคนอีกหลายคน แบกวัตถุดิบยาเข้ามาหลายหามใหญ่ย่ิงไปกว่านั้นหลังจากพวกเขาวางลง ก็ออกไปแบกรอบที่สอง"นี่คือ?"อันเหนียนเอ่ยต่อให้ "ผู้จัดการใหญ่ต่งขนวัตถุดิบยาเข้ามาให้โดยเฉพาะ พระชายาสองวันก่อนไม่ใช่ว่าเข้าไปหาผู้ดูแลทางนี้มาหรอกหรือ? บอกวัตถุดิบยาที่ขาดกับผู้ดูแลพันธมิตรโอสถไป บอกว่าจะควักเงินจ่ายเอง ให้เขาคิดหาวิธีหน่อย""ไวขนาดนี้ ผู้จัดการใหญ่ต่งก็ได้รับข่าวแล้วหรือ?"เพิ่งจะสองวันเอง เป็นไปได้อย่างไรกัน?จากเมืองหลวงมานี่ยังต้องใข้ตั้งหลายวันพอคำนวณเวลา ต่งฮ่วนจือพอพวกเขาออกเดินทางได้สองวันก็คงจัดการแล้ว"อันที่จริงผู้ดูแลทางนี้ก็เขียนจดหมายถึงข้านานแล้ว บอกสถานการณ์ของทางนี้ ดังนั้นพวกเราจึงจัดการโยกวัตถุดิบยาจากที่อื่นเข้ามาก่อน แค่ยังไม่รู้ว่าต้องส่งไปที่ไหน แค่เตรียมการไว้ก่อน"ต่งฮ่วนจือก็เร่งเดินทางมาหลายวัน สีหน้าอ่อนล้า แต่ก็ยังอธิบายออกมา"ข้าเคยบอกกับศิษย์น้องหญิงแล้ว วัตถุดิบยาสำห
ฟู่จาวหนิงรีบพูดออกมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบเข็มออกมา รีบปักเข็มสกัดไอให้หญิงสาวไปหลายเข็มทางเดินหายใจ ปอด นางเรียนวิชาเข็มที่สามารถหยุดชะงักการไอได้ชั่วคราว ได้ใช้เสียทีหญิงสาวที่เดิมทีไอจนจะเป็นจะตายก็พบว่าตนเองหยุดไอแล้วนางมองฟู่จาวหนิง รู้สึกเหมือนได้เจอกับพระโพธิสัตว์ตัวเป็นๆ"เจ้านอนดีดี ข้าจะจับชีพจรให้ แล้วจะถามคำถามเจ้า เจ้าผ่อนคลายหน่อย""ได้ ได้"หญิงสาวเมื่อครู่ไอจนแทบไม่ไหวแล้วจริงๆ ตอนนี้แม้จะหยุดไอแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ฟู่จาวหนิงจับชีพจรให้นางอย่างละเอียด ใจดำดิ่งเป็นไข้หวัดใหญ่รุนแรงจริงๆ ด้วยที่นี่ยังไม่มีแยกชนิดเอหรือบี แต่ว่าชีพจรของหญิงสาวก็ไม่ค่อยจะเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ของผู้ป่วยทั่วไปที่รักษาไปช่วงนี้ แตกต่างอยู่หน่อยๆนางหยิบปืนวัดไข้ ปิดตาหญิงสาวไว้ แล้ววัดที่หน้าผากนางอย่างรวดเร็ว มองตัวเลขจากนั้นจึงรีบเก็บเข้าไปนคลังสกัดยามีของบางอย่างที่ใช้ได้รวดเร็ว นางเองก็ไม่ได้ยึดติดว่าห้ามใช้เด็ดขาดสี่สิบองศามีไข้ถึงสี่สิบองศาเชียวดวงตาของหญิงสาวแดงหน่อยๆ ริมฝีปากเองก็แดงผิดปกติ"เจ้าเข้าเมืองมาตอนไหน?" ฟู่จาวหนิงถาม"เข้าเมืองมาวันนี้ตอนกลางว
ยาต้มหกประสาทเอาไว้ป้องกันไข้หวัดรุนแรงฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เจอักบคนป่วยคนหนึ่ง จากที่เขาบรรยาย ระหว่างทางที่หนีภัยพิบัติเจอเข้ากับครอบครัวหนึ่ง ล้วนเป็นหวัดกันหมด ไออย่างรุนแรง เดิมทีเดินทางด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผลลัพธ์คือครอบครัวนั้นแค่ไม่กี่วันก็ทยอยกันล้มตายไปล้วสามคนเดิมทีพวกเขายังคิดว่าเป็นแค่หวัด ทนเอาเสียหน่อย ต้มน้ำร้อนกินก็น่าจะไหว ครอบครัวนั่นบอกว่าระหว่างทางยังขุดหาสมุนไพรมากิน แต่ก็ทนกันไม่ไหวคนป่วยนี้บอกว่าเขาเห็นสถานการณ์นี้แล้วก็หวั่นขึ้นในใจ ไม่กล้าอยู่ใกล้พวกเขานัก แม้จะไปทางเดียวกัน แต่ก็ยังเว้นระยะห่างไว้ค่อนข้างมากครอบครัวนั้นสุดท้ายก็รั้งท้ายอยู่ไกล ไม่รู้ว่าเข้าเมืองแล้วหรือยังตอนนี้มองเห็นรองเท้าที่เก่าขาดบนเท้าของหญิงสาวคนนี้ แล้วบนหัวยังมีผ้าขาวผืนเล็กผืนหนึ่งผูกไว้ นางก็ไม่รู้เพราะอะไรจึงนึกถึงครอบครัวนั้นขึ้นมา"ให้สืออีไปถาม ว่าหญิงสาวคนนี้มาจากทางไหน แล้วก็ถามด้วยว่านางสัมผัสกับใครบ้าง จัดการเอาคนเหล่านี้แยกตัวออกมาก่อน"ฟู่จาวหนิงเปิดกล่องยาพลางถอยออกมาบอกกับไป๋หู่"อ้อ แล้วก็ให้สืออีป้องกันก่อนแล้วค่อยไป หาอยู่กับคนเหล่านั้นใกล้นัก จำเรื่องที่
ฟู่จาวหนิงเองก็กำลังคิดถึงปัญหานี้"แต่ว่าตงฉิงล่มสลายหายไปนานแล้ว" นางเอ่ยขึ้นทั้งสองคนนิ่งต่อไปครู่หนึ่งและเพราะล่มสลายไปแล้วจริงๆ ตอนนี้พูดเรื่องนี้ก็ไม่มีความหมายเท่าไรแล้วที่ฟู่จาวหนิงไม่ได้พูดก็คือ เซียวหลันยวนส่งหลานหรงไปค้นหาคนกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงมาตลอด แล้วยังไปที่ซากปรักหักพังเก่าของตงฉิงมาแล้วด้วยมีฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวที่เคยไปแล้วคอยชี้ทาง บางทีไม่นานนัก พวกเขาก็น่าจะพบอะไรบ้าง"เรื่องนี้ ข้ากลับไปจะบอกท่าน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยตอบ"ทูตแคว้นหมิ่นมาแคว้นเจาครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร แต่ข้าก็รู็สึกว่าน่าจะมาอย่างไม่เป็นมิตร"มาอย่างไม่เป็นมิตร?ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แคว้นหมิ่นส่งของมากมายเข้ามา ฟู่จิ้นเชินกลับบอกว่าพวกเขามาอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรหรือ?แต่นางเองก็ไม่ค่อยสันทัดกับเรื่องพวกนี้ ถึงอย่างไรนางก็เก่งในการรับมือปัญหาเฉพาะหน้ามาตลอดทั้งสองคนยังจะพูดอะไรต่อ แต่เสี่ยวยาก็วิ่งเข้ามา ร้องเรียกนางอย่างร้อนรน"พี่ฟู่ มีป้าคนหนึ่งเป็นล้มที่ประตู เสี่ยวยาประคองนางไม่ไหว!"พี่น้องเสี่ยวยาทั้งสองคนหลายวันนี้พักฟื้นอยู่ที่นี่ หลังจากแผลบนห
"ต้นผลอายุวัฒนะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะมีของแบบนี้อยู่จริงๆ?"ต้นผลอายุวัฒนะอะไร?" ฟู่จิ้นเชินเดินเข้ามาฟู่จาวหนิงส่งจดหมายให้เขา ครั้งนี้จดหมายของเซียวหลันยวนเขียนถึงสี่หน้า หน้าสุดท้ายคือคำรักที่เขาให้คนอื่นเห็นไม่ได้ แต่สามหน้าด้านหน้า ฟู่จาวหนิงไม่ติดใจที่จะให้ฟู่จิ้นเชินเห็นและเพราะในช่วงหลายวันนี้นางคุยกับคนป่วยมาก วันๆ วุ่นจนไม่ได้ดื่มน้ำ คอเองก็ปวดขึ้นมาหน่อยๆ กล่องเสียงก็แหบพร่า ตอนนี้พูดได้น้อยเท่าไรก็จะยิ่งดีอธิบายขึ้นมาต้องพูดหลายประโยคฟู่จิ้นเชินลิงโลดในใจถึงอย่างไรฟู่จาวหนิงก็ไม่เลี่ยงเขาแล้ว ยังเอาจดหมายของเซียวหลันยวนมาคุยกับเขาได้ น่าจะอธิบายได้ว่านางเองก็เริ่มเชื่อใจเขาขึ้นมาแล้วไม่เสียแรงที่ตามนางมาถึงเมืองเจ้อเพียงแต่ว่า ฟู่จาวหนิงกลับคิดไม่ถึง ว่าเขาอ่านจดหมายถเสร็จก็ให้คำตอบยืนยันกับนางมา"ผลอายุวัฒนะ มีอยู่จริงๆ มีบทบาทการบำรุงและการรักษามาก"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง "ท่านรู้จักหรือ?"ยืนยันมาได้ขนาดนี้ เขาคงไม่ได้เคยเห็นมาก่อนหรอกนะ?"เจ้าจำเรื่องที่ข้ากับแม่เจ้าไปที่ตงฉิงมาก่อนได้ไหม?""อืม"พวกเราเดิมทีไม่ได้จะตรงไ