สองวันนี้ในเมืองหลวงมีคนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมีคนจากด้านนอกเข้ามามากมายในกระแสคนที่เดินทางบนถนน คนที่แต่งตัวด้วยชุดเครื่องประดับต่างๆ ก็มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นโรงเตี๊ยมต่างๆ ก็แทบจะพักกันเต็ม โรงเตี๊ญมที่ตำแหน่งดีหน่อย สองวันก่อนก็แขวนป้ายว่าที่พักเต็มไปนานแล้วโรงแรมโรงน้ำชาก็ล้วนมีแขกมาพักกันเต็มร้านรวงบนถนนก็มีหัวการค้ากัน ล้วนเติมสินค้าเพิ่มเข้าไป และมีคนมากมายที่แบกตะกร้าออกมาขายกินทานเล่นบางส่วนกันด้วยฟู่จาวหนิงหาตาเฒ่าจี้อยู่สองวันกว่าจะเจอยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นจงเจี้ยนที่ช่วงนางหาจนเจอตาเฒ่าจี้พักอยู่ในเรือนที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ตอนที่ฟู่จาวหนิงมาถึง ด้านในก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นอย่างกับกำลังรื้อบ้านฟู่จาวหนิงในมือหิ้วขนมข้าวเหนียวถั่วแดงกับแตงน้ำตาลที่เพิ่งซื้อมาจากข้างทาง เดินเข้าไปเคาะประตูคนด้านในเหมือนจะได้ยินเสียงเคาะประตู แต่กลับมีเสียงร้อนรนเสียงหนึ่งดังลอดออกมาจากร่องประตู"คนของโรงหมอเมตตาหน้าไม่อายเสียจริง! โรงหมอเมตตาเวลานี้เปลี่ยนไปเสียแล้ว ไม่ใช่โรงหมอเมตตาเหมือนอดีตอีกแล้ว! พวกเขาตอนนี้ลืมความตั้งใจเดิมตอนสถาปนาโรงหมอเมตตาเสียแล้วหรือ? พันธมิตร
นางยื่นมือมากดจุดชีพจรที่หน้าอกของตาเฒ่าจี้ ถ้าคุมแรงได้พอดี จะช่วยให้เขาหายใจได้คล่องขึ้นบ้างรอจนมีคนรินน้ำเข้ามา ฟู่จาวหนิงก็ยิบเอาผงยาถุงเล็กใบหนึ่งออกมาเทเข้าไปในน้ำ เขย่าๆ เตรียมจะป้อนให้กับตาเฒ่าจี้นี่คือยาที่นางสกัดขึ้นเอง เพิ่มกำลังวังชาคอยปกป้องหัวใจ ก่อนหน้านี้มีลูกพี่หลายคนเข้ามาจองเพื่อจะซื้อกับนางด้วย"ช้าก่อน นี่มันยาอะไรของเจ้าน่ะ?"ข้างๆ มีชายหนุ่มกลางคนคนหนึ่งรีบเข้ามาขวางนางไว้ ให้นางดูอาการยังพอว่า แต่ให้นางป้อนยากับผู้อาวุโสจี้ พวกเขารู้สึกน่ากังวลใครจะรู้ว่านี่มันยาอะไร?"เป็นยาที่เพิ่มกำลังวังชาและปกป้องหัวใจ" ฟู่จาวหนิงยื่นแก้วไปด้านหน้าเขา "เจ้าจะลองดื่มดูก่อนไหม?"ชายหนุ่มชะงักยานี่ลองดื่มกันด้วยหรือ?"เจ้าเป็นใครพวกเราก็ยังไม่รู้ ถ้าเจ้าให้ผู้อาวุโสจี้ดื่มอะไรมั่วซั่วลงไปล่ะ"ผู้อาวุโสจี้เองก็ฟื้นขึ้นมาตอนนี้พอดี ค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นกับฟู่จาวหนิง ดวงตาเขาเพ่งสมาธิ จากนั้นก็ลิงโลดขึ้นทันที "ศิษย์ของข้า?"ศิษย์?นี่คือศิษย์ที่ผู้อาวุโสจี้เพิ่งรับมาเช่นนั้นหรือ?คนเหล่านี้ตกตะลึงขึ้นทันที"ดื่มนี่ลงไปเสีย" ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกเล็กๆ ประคองตัวเขาข
ฟู่จาวหนิงได้ป้ายตราแล้วป้ายตราทำมาจากไม้ ด้านหน้ามีสลักคำว่ายาเอาไว้ ด้านหลังมีหมายเลข ป้ายทั้งชิ้นมีประกายแสงเทียน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกลิ่นยาอยู่จางๆ อีกด้วย มีกลิ่นหอมของไม้อยู่เล็กน้อย"เจ้ามาหาอาจารย์เช่นนี้ ข้าดีใจเสียจริงๆ นี่ยังกลัวว่าเจ้าไปรับป้ายตราจากโรงหมอเมตตามา ข้าคงได้โมโหจนบ้าแน่"คนอื่นพอเห็นพวกเข้าพูดคุยกัน จึงขอตัวออกมาแล้วลุงสือรินชาให้ฟู่จาวหนิง ยืนรออยู่ข้างๆ พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงอย่างอยากรู้อยากเห็น"ท่านไม่ใช่จะมาเป็นอาจารย์ข้าหรอกหรือ? ชาฝากตัวเป็นศิษย์ข้าก็ยังไม่ได้ประเคนให้เลย อาจารย์คนนี้จะยังรับข้าเป็นศิษย์อยู่ไหมเนี่ย? วันนี้ข้าหิ้วของขวัญฝากตัวเป็นศิษย์มาหใ้ท่านด้วย"ฟู่จาวหนิงมองไปยังของที่วางอยู่บนโต๊ะด้านนอกตาเฒ่าจี้พอได้ยินก็ลิงโลด จนเกือบจะกระโดดเหยงขึ้นทันที"เจ้าคิดจะฝากตัวเป็นศิษย์กับข้าจริงๆ หรือ?""หรือว่าท่านพูดโกหกกัน?" ฟู่จาวหนิงย้อนถามนางสองวันนี้ไปร้านขายยามาหลายแห่ง เห็นร้านขายยาของพวกเขามาบ้าง และพบว่าชื่อกับวิธีการใช้ของวัตถุดิบยาไม่น้อยแตกต่างจากที่นางรู้มาก่อนหน้านี้ แต่ว่าของอย่างวัตถุดิบยาเหล่านี้ถ้ารู้หลักก็จะเข้าใจหมด
ของเช่นนี้ คนที่อายุมากขึ้นล้วนต้องการทั้งนั้น! ถ้าหากใบสั่งยาดี ส่วนประกอบยาดี ยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจเม็ดหนึ่งในช่วงเวลาฉุกเฉินสามารถช่วยชีวิตกลับมาได้ดังนั้นยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจแต่ไหนแต่ไรก็ราคาแพงมากอยู่แล้วเขาเองก็มียาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจอยู่บางส่วน แต่ว่าพอดมดูก็จะรู้ ว่าผลของยาไม่มีทางสู้ของฟู่จาวหนิงขวดนี้ได้!"นี่เจ้าสกัดออกมาเองหรือ?""ใช่" ฟู่จาวหนิงตอบ "ถ้าหากรู้สึกหัวใจเต้นไม่ถูกต้อง อัตราเต้นผิดปกติ หายใจลำบาก หรือว่าอึดอัดหน้าอกหายใจไม่ออก สามารถอมเม็ดหนึ่งไว้ใต้ลิ้นได้""ยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจของเจ้า ผลลัพธ์ดีมากเลยหรือ?" ตาเฒ่าจี้พอดมยานี้ก็รู้แล้วว่าด้านในไม่ใช่วัตถุดิบยาธรรมดา"แน่นอน" ฟู่จาวหนิงไม่เคยถ่อมตัวในด้านการสกัดยา "น่าจะดีกว่ายาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจในตลาดอยู่นิดหน่อย"ไม่สิ นี่ยังถ่อมตัวอยู่ อันที่จริงผลลัพธ์ไม่ใช่แค่นิดหน่อยเท่านั้น"ดี! ดี! ดี!" ตาเฒ่าจี้ตื่นเต้นจนร้องคำว่าดีออกมาถึงสามครั้ง "ที่เจ้าเข้าร่วมพิธีเดิมพันโอสถ ไม่ใช่แค่เพื่อหาความรู้เท่านั้นสินะ?""แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าจะไปแลกวัตถุดิบยา ไปเดิมพันยา เดิมพันหมอด้วย" ฟู่จาวหนิงหลายวันนี
ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งรู้ ว่าที่เซียวหลันยวนสามารถมอบป้ายตราสีม่วงให้นางได้ชิ้นหนึ่งคือไม่ง่ายเลย"อ๋องเจวี้ยนให้คนในโรงหมอเมตตามอบให้น่ะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นพอได้ยินคำนี้ ผู้อาวุโสจี้ก็ตะลึงไป "เจ้าไปบรรเทาความไม่สบายใจของเขามาใช่ไหม""ใช่""เช่นนั้นก็ไม่แปลก!"ผู้อาวุโสจี้เห็นว่าตานางกำลังเปล่งแสง "ศิษย์เอ๋ย วิชาแพทย์ของเจ้าจะต้องร้ายกาจมากแน่ๆ! เจ้าเองไม่ต้องกังวลว่าป้ายตราสีม่วงที่อ๋องเจวี้ยนให้จะได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ เจ้ารู้ไหมว่าเพราะอะไร? เพราะคนเหล่านั้นจากโรงหมอเมตตาก็ต้องยกมือยอมแพ้ให้กับอาการป่วยของอ๋องเจวี้ยนมาหลายปี""อื๋อ?""รวมถึงพวกหมอหลวงในวังพวกนั้นด้วย ครั้งนั้นอ๋องเจวี้ยนสุขภาพแย่มาก ประเดี๋ญวก็ปวดหัววิงเวียน และทั้งตัวก็ยังเย็นเฉียบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ผลลัพธ์คือโรงหมอเมตตาก็รวบรวมพวกหมอที่ถึงป้ายแดงป้ายม่วงมาร่วมกันตรวจรักษา ไม่มีสักคนที่มองออกถึงปัญหาเลย"ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจ ราวกับรู้สึกว่าที่อ๋องเจวี้ยนมีชีวิตมาได้ถึงปัจจุบันนี้ไม่ง่ายเลย"ตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนที่อายุยังน้อยพูดกับพวกเขาว่า ในเมื่อพวกเจ้ารักษาข้าไม่ได้ เช่นนั้นถ้าต่อมาปรากฎหมอคนหนึ่งที่ทำ
ฟู่จาวหนิงกลับบ้าน ในบ้านกลับมีแขกมาหาเสี่ยวเถาเข้ามารับ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วกับนางว่า "คุณหนู ฮูหยินจากตระกูลหลินแวะเข้ามา""ใครหรือ?"ฟู่จาวหนิงผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีนึกออกว่าฮูหยินจากตระกูลหลินคือใคร พี่สะใภ้รองของฟู่หลินซื่อ น้าสะใภ้รองของนาง"ญาติที่สิบกว่าปีไม่เคยจะแวะเวียน ตอนนี้กลับโผล่ออกมาแล้ว"ฟู่จาวหนิงรู้สึกน่าขันเหลือเกิน"แต่ว่า ท่านผู้เฒ่าดีใจมาก" เสี่ยวเถารู้สึกลำบากใจ กลัวว่านางจะเข้าไปแล้วด่ากราดไล่แขกฟู่จาวหนิงชะงักไปครู่หนึ่ง "ข้าเข้าไปดูหน่อย"ผู้เฒ่าฟู่ยังลุกออกไปไหนไม่ได้ จึงทำได้เพียงถูกประคองลงจากเตียง นั่งอยู่บนแคร่อ่อนด้านนอกข้างโต๊ะแปดเซียนตรงข้ามเขามีหญิงสาวอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งนั่งอยู่ นี่คือน้าสะใภ้รองหลิน เซี่ยซื่อฟู่จาวหนิงลืมไปแล้วว่าน้าสะใภ้รองหน้าตาเป็นอย่างไร เดิมทีคิดว่านางจะหน้าตาชอบเหน็บแนม คิดไม่ถึงว่าจะเกินคาดเช่นนี้ เซี่ยซื่อมีหน้าตาที่อบอุ่นและอิ่มเอิบดีงามเสียด้วยซ้ำเซี่ยซื่อแต่งกายก็ดูธรรมดาๆ เหมาะสมดี มองแล้วไม่ฉูดฉาดหรูหรานางนั่งอยู่ที่นั่นพูดคุยเสียงแผ่วเบากับผู้เฒ่าฟู่ บนโต๊ะยังวางกล่องขนมที่ผูกไว้ด้วยเชือกสีแดงใบหนึ่งด้ว
"อันห่าว!"เซี่ยซื่อตกใจอย่างมาก ร้องตะโกนวิ่งไปหานาง จังหวะที่ผ่านธรณีประตูขาก็อ่อนจนสะดุด เกือบจะพุ่งตัวล้มลงไปถ้าล้มลงที่นี่ หน้าจะฟาดเข้ากับกระดานหินด้านนอก ไม่แน่อาจจะล้มตกบันไดลงไปอีก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย"ฮูหยิน!" สาวใช้ของนางตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีฟู่จาวหนิงพุ่งออกไปราวลูกธนู โอบประคองนางไว้อย่างฉับไวรวดเร็วเซี่ยซื่อรู้สึกแค่มือที่ประคองนางไว้มีแรงเยอะมาก พยุงนางไว้จนมั่นคง แต่ตอนนี้เองในใจนางก็คิดถึงลูกสาวขึ้น ประโยคต่อมาจึงรีบวิ่งลงไป"อันห่าว อันห่าวเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"ฟู่จาวหนิงมองผู้เฒ่าฟู่ และเห็นว่าเขาก็ร้อนรนเช่นกัน "ท่านปู่ ท่านไม่ต้องกังวล เดี๋ยวข้าไปดูเอง""รีบไปรีบไป"ผู้เฒ่าฟู่อยากจะรีบออกไปดูด้วยตนเองเสียจริงเซี่ยซื่อไม่ได้มาบ้านตระกูลฟู่เสียหลายปี นี่พอมาแล้วกลับเกิดเรื่องขึ้น เซี่ยซื่อมองลูกสาวสำคัญยิ่งกว่าดวงตาของตนเอง ถ้าหากหลินอันห่าวเกิดเรื่องขึ้นที่นี่ เขาเองก็รู้สึกแย่มากๆเซี่ยซื่อพาหลินอันห่าวประคองขึ้นมาแล้วหลินอันห่าวกลับชักเกร็งไปทั้งตัว หูตาจมูกปากบิดเบี้ยว ดูแล้วเหมือนควบคุมไม่ได้"อันห่าว!"เซี่ยซื่อเองก็ร้อนรนจนสั่นระริก ล้วงเอาขว
อันห่าวถลึงตามอง นอนอยู่ตรงนั้นอย่างว่าง่าย มองดูเซี่ยซื่อ จากนั้นก็มองฟู่จาวหนิง นิ้วของนางเกี่ยวนิ้วของฟู่จาวหนิงเอาไว้"จาวหนิง" เสียงของเซี่ยซื่อสั่นเล็กน้อย ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก "อันห่าวนางไม่กลัวเจ้า นางชอบเจ้า"อันห่าวใสซื่อบริสุทธิ์ ความชอบก็ตรงไปตรงมา น้อยมากที่จะมีคนเข้าใกล้นางได้เช่นนี้ตั้งแต่พบกันครั้งแรก และยอมเข้าหาตัวตนเอง ดังนั้นพอเห็นท่าทางของอันห่าว เซี่ยซื่อจึงดีใจมาก"พี่สาวเป็นหมอ สามารถไล่โรคร้ายบนตัวอันห่าวออกไปได้" ฟู่จาวหนิงยิ้มให้หลินอันห่าวดวงตาสุกใสของหลินอันห่าวเต็มไปด้วยความเชื่อใจ นางพยักหน้าฟู่จาวหนิงปักลงไปอีกหลายเข็ม หลินอันห่าวหนังตาค่อยๆ ปิดลง หลับไหลไปแล้ว"จาวหนิง อันห่าวหลับไปแล้วหรือ?" เซี่ยซื่อถามขึ้นเสียงแผ่ว"ถูกต้อง ข้าแทงจุดชีพจรช่วยให้หลับนอนแก่นาง นางต้องพักผ่อนสักครู่ แล้วข้าจะตรวจนางให้อย่างละเอียด" ฟู่จาวหนิงเก็บเข็มลงมา จับชีพจรให้กับหลินอันห่าว แลพบว่าร่างกายของนางไม่เลวนัก แต่มีเลือดลมหลายแห่งไหลเวียนไม่ดีนางยืนขึ้นมา เดินออกประตูไป ตรงไปด้านหน้าคนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่ ยกเท้าขึ้นถีบหน้าอกเขาคนรับใช้นั่นถูกนางพัดจนหน้าหงาย