Share

บทที่ 145

Author: จุ้ยหลิงซู
นางกระพริบตาปริบ มองไปทางไป๋ซวง "เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าก็เปิดประตูไสหัวไปได้แล้ว"

ไป๋ซวงตาแดงเถือกมองเซียวหลันยวน

เซียวหลันยวนได้สติกลับมา สีหน้าเคร่งขรึม "พระชายาให้เจ้าไสหัวไป ไม่ได้ยินหรือ?"

ไป๋ซวงร้องไห้ลุกขึ้นมา หมุนตัววิ่งออกไปด้านนอก

"รอจงเจี้ยนกลับมาแล้วจงไปรับการโบยเสียสิบที" พอเสียงของเซียวหลันยวนลอดถึงหูนาง เท้านางก็ลื่นจนเกือบจะล้มลงพื้น

ไป๋ซวงร้องไห้เจียนตายอยู่แล้ว

ท่านอ๋องถึงกับลงโทษนาง แล้วยังโหดเหี้ยมขนาดจะลงโทษโบยนางถึงสิบทีด้วย!

ถ้าโบยลงมาสิบที บนตัวนางจะยังขาวสะอาดผุดผ่องอีกไหม?

ไป๋ซวงร้องไห้วิ่งออกไป

ฟู่จาวหนิงผลักกล่องส่งไปเบื้องหน้าเซียวหลันยวน "ให้ท่าน หลังจากนี้ถ้ามันยังบินหนีอีก ข้าไม่รับผิดชอบจับให้แล้วนะ"

"เอาไว้กับเจ้าก่อนเถอะ" เซียวหลันยวนลูบจมูก "ช่วยรักษาให้ข้าไว้ก่อนได้ไหม?"

"ฝากหรือ?" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว "ก็ไม่ใช่จะไม่ได้ จะฝากไว้นานแค่ไหน?"

"จนกว่าพิธีเดิมพันโอสถจะเสร็จสิ้น"

"หนึ่งวันค่าฝากสิบตำลึง" ฟู่จาวหนิงยื่นมือออกมา

เซียวหลันยวนตะลึงงัน

ค่าฝาก?

"พวกเราเดิมทีก็เกี่ยวข้องกันด้วยความร่วมมือกับการแลกเปลี่ยนนี่ ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะต้องช่วยท่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 146

    สองวันนี้ในเมืองหลวงมีคนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมีคนจากด้านนอกเข้ามามากมายในกระแสคนที่เดินทางบนถนน คนที่แต่งตัวด้วยชุดเครื่องประดับต่างๆ ก็มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นโรงเตี๊ยมต่างๆ ก็แทบจะพักกันเต็ม โรงเตี๊ญมที่ตำแหน่งดีหน่อย สองวันก่อนก็แขวนป้ายว่าที่พักเต็มไปนานแล้วโรงแรมโรงน้ำชาก็ล้วนมีแขกมาพักกันเต็มร้านรวงบนถนนก็มีหัวการค้ากัน ล้วนเติมสินค้าเพิ่มเข้าไป และมีคนมากมายที่แบกตะกร้าออกมาขายกินทานเล่นบางส่วนกันด้วยฟู่จาวหนิงหาตาเฒ่าจี้อยู่สองวันกว่าจะเจอยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นจงเจี้ยนที่ช่วงนางหาจนเจอตาเฒ่าจี้พักอยู่ในเรือนที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ตอนที่ฟู่จาวหนิงมาถึง ด้านในก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นอย่างกับกำลังรื้อบ้านฟู่จาวหนิงในมือหิ้วขนมข้าวเหนียวถั่วแดงกับแตงน้ำตาลที่เพิ่งซื้อมาจากข้างทาง เดินเข้าไปเคาะประตูคนด้านในเหมือนจะได้ยินเสียงเคาะประตู แต่กลับมีเสียงร้อนรนเสียงหนึ่งดังลอดออกมาจากร่องประตู"คนของโรงหมอเมตตาหน้าไม่อายเสียจริง! โรงหมอเมตตาเวลานี้เปลี่ยนไปเสียแล้ว ไม่ใช่โรงหมอเมตตาเหมือนอดีตอีกแล้ว! พวกเขาตอนนี้ลืมความตั้งใจเดิมตอนสถาปนาโรงหมอเมตตาเสียแล้วหรือ? พันธมิตร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 147

    นางยื่นมือมากดจุดชีพจรที่หน้าอกของตาเฒ่าจี้ ถ้าคุมแรงได้พอดี จะช่วยให้เขาหายใจได้คล่องขึ้นบ้างรอจนมีคนรินน้ำเข้ามา ฟู่จาวหนิงก็ยิบเอาผงยาถุงเล็กใบหนึ่งออกมาเทเข้าไปในน้ำ เขย่าๆ เตรียมจะป้อนให้กับตาเฒ่าจี้นี่คือยาที่นางสกัดขึ้นเอง เพิ่มกำลังวังชาคอยปกป้องหัวใจ ก่อนหน้านี้มีลูกพี่หลายคนเข้ามาจองเพื่อจะซื้อกับนางด้วย"ช้าก่อน นี่มันยาอะไรของเจ้าน่ะ?"ข้างๆ มีชายหนุ่มกลางคนคนหนึ่งรีบเข้ามาขวางนางไว้ ให้นางดูอาการยังพอว่า แต่ให้นางป้อนยากับผู้อาวุโสจี้ พวกเขารู้สึกน่ากังวลใครจะรู้ว่านี่มันยาอะไร?"เป็นยาที่เพิ่มกำลังวังชาและปกป้องหัวใจ" ฟู่จาวหนิงยื่นแก้วไปด้านหน้าเขา "เจ้าจะลองดื่มดูก่อนไหม?"ชายหนุ่มชะงักยานี่ลองดื่มกันด้วยหรือ?"เจ้าเป็นใครพวกเราก็ยังไม่รู้ ถ้าเจ้าให้ผู้อาวุโสจี้ดื่มอะไรมั่วซั่วลงไปล่ะ"ผู้อาวุโสจี้เองก็ฟื้นขึ้นมาตอนนี้พอดี ค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นกับฟู่จาวหนิง ดวงตาเขาเพ่งสมาธิ จากนั้นก็ลิงโลดขึ้นทันที "ศิษย์ของข้า?"ศิษย์?นี่คือศิษย์ที่ผู้อาวุโสจี้เพิ่งรับมาเช่นนั้นหรือ?คนเหล่านี้ตกตะลึงขึ้นทันที"ดื่มนี่ลงไปเสีย" ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกเล็กๆ ประคองตัวเขาข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 148

    ฟู่จาวหนิงได้ป้ายตราแล้วป้ายตราทำมาจากไม้ ด้านหน้ามีสลักคำว่ายาเอาไว้ ด้านหลังมีหมายเลข ป้ายทั้งชิ้นมีประกายแสงเทียน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกลิ่นยาอยู่จางๆ อีกด้วย มีกลิ่นหอมของไม้อยู่เล็กน้อย"เจ้ามาหาอาจารย์เช่นนี้ ข้าดีใจเสียจริงๆ นี่ยังกลัวว่าเจ้าไปรับป้ายตราจากโรงหมอเมตตามา ข้าคงได้โมโหจนบ้าแน่"คนอื่นพอเห็นพวกเข้าพูดคุยกัน จึงขอตัวออกมาแล้วลุงสือรินชาให้ฟู่จาวหนิง ยืนรออยู่ข้างๆ พิจารณาตัวฟู่จาวหนิงอย่างอยากรู้อยากเห็น"ท่านไม่ใช่จะมาเป็นอาจารย์ข้าหรอกหรือ? ชาฝากตัวเป็นศิษย์ข้าก็ยังไม่ได้ประเคนให้เลย อาจารย์คนนี้จะยังรับข้าเป็นศิษย์อยู่ไหมเนี่ย? วันนี้ข้าหิ้วของขวัญฝากตัวเป็นศิษย์มาหใ้ท่านด้วย"ฟู่จาวหนิงมองไปยังของที่วางอยู่บนโต๊ะด้านนอกตาเฒ่าจี้พอได้ยินก็ลิงโลด จนเกือบจะกระโดดเหยงขึ้นทันที"เจ้าคิดจะฝากตัวเป็นศิษย์กับข้าจริงๆ หรือ?""หรือว่าท่านพูดโกหกกัน?" ฟู่จาวหนิงย้อนถามนางสองวันนี้ไปร้านขายยามาหลายแห่ง เห็นร้านขายยาของพวกเขามาบ้าง และพบว่าชื่อกับวิธีการใช้ของวัตถุดิบยาไม่น้อยแตกต่างจากที่นางรู้มาก่อนหน้านี้ แต่ว่าของอย่างวัตถุดิบยาเหล่านี้ถ้ารู้หลักก็จะเข้าใจหมด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 149

    ของเช่นนี้ คนที่อายุมากขึ้นล้วนต้องการทั้งนั้น! ถ้าหากใบสั่งยาดี ส่วนประกอบยาดี ยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจเม็ดหนึ่งในช่วงเวลาฉุกเฉินสามารถช่วยชีวิตกลับมาได้ดังนั้นยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจแต่ไหนแต่ไรก็ราคาแพงมากอยู่แล้วเขาเองก็มียาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจอยู่บางส่วน แต่ว่าพอดมดูก็จะรู้ ว่าผลของยาไม่มีทางสู้ของฟู่จาวหนิงขวดนี้ได้!"นี่เจ้าสกัดออกมาเองหรือ?""ใช่" ฟู่จาวหนิงตอบ "ถ้าหากรู้สึกหัวใจเต้นไม่ถูกต้อง อัตราเต้นผิดปกติ หายใจลำบาก หรือว่าอึดอัดหน้าอกหายใจไม่ออก สามารถอมเม็ดหนึ่งไว้ใต้ลิ้นได้""ยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจของเจ้า ผลลัพธ์ดีมากเลยหรือ?" ตาเฒ่าจี้พอดมยานี้ก็รู้แล้วว่าด้านในไม่ใช่วัตถุดิบยาธรรมดา"แน่นอน" ฟู่จาวหนิงไม่เคยถ่อมตัวในด้านการสกัดยา "น่าจะดีกว่ายาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจในตลาดอยู่นิดหน่อย"ไม่สิ นี่ยังถ่อมตัวอยู่ อันที่จริงผลลัพธ์ไม่ใช่แค่นิดหน่อยเท่านั้น"ดี! ดี! ดี!" ตาเฒ่าจี้ตื่นเต้นจนร้องคำว่าดีออกมาถึงสามครั้ง "ที่เจ้าเข้าร่วมพิธีเดิมพันโอสถ ไม่ใช่แค่เพื่อหาความรู้เท่านั้นสินะ?""แน่นอนว่าไม่ใช่ ข้าจะไปแลกวัตถุดิบยา ไปเดิมพันยา เดิมพันหมอด้วย" ฟู่จาวหนิงหลายวันนี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 150

    ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งรู้ ว่าที่เซียวหลันยวนสามารถมอบป้ายตราสีม่วงให้นางได้ชิ้นหนึ่งคือไม่ง่ายเลย"อ๋องเจวี้ยนให้คนในโรงหมอเมตตามอบให้น่ะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นพอได้ยินคำนี้ ผู้อาวุโสจี้ก็ตะลึงไป "เจ้าไปบรรเทาความไม่สบายใจของเขามาใช่ไหม""ใช่""เช่นนั้นก็ไม่แปลก!"ผู้อาวุโสจี้เห็นว่าตานางกำลังเปล่งแสง "ศิษย์เอ๋ย วิชาแพทย์ของเจ้าจะต้องร้ายกาจมากแน่ๆ! เจ้าเองไม่ต้องกังวลว่าป้ายตราสีม่วงที่อ๋องเจวี้ยนให้จะได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ เจ้ารู้ไหมว่าเพราะอะไร? เพราะคนเหล่านั้นจากโรงหมอเมตตาก็ต้องยกมือยอมแพ้ให้กับอาการป่วยของอ๋องเจวี้ยนมาหลายปี""อื๋อ?""รวมถึงพวกหมอหลวงในวังพวกนั้นด้วย ครั้งนั้นอ๋องเจวี้ยนสุขภาพแย่มาก ประเดี๋ญวก็ปวดหัววิงเวียน และทั้งตัวก็ยังเย็นเฉียบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ผลลัพธ์คือโรงหมอเมตตาก็รวบรวมพวกหมอที่ถึงป้ายแดงป้ายม่วงมาร่วมกันตรวจรักษา ไม่มีสักคนที่มองออกถึงปัญหาเลย"ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจ ราวกับรู้สึกว่าที่อ๋องเจวี้ยนมีชีวิตมาได้ถึงปัจจุบันนี้ไม่ง่ายเลย"ตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนที่อายุยังน้อยพูดกับพวกเขาว่า ในเมื่อพวกเจ้ารักษาข้าไม่ได้ เช่นนั้นถ้าต่อมาปรากฎหมอคนหนึ่งที่ทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 151

    ฟู่จาวหนิงกลับบ้าน ในบ้านกลับมีแขกมาหาเสี่ยวเถาเข้ามารับ เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วกับนางว่า "คุณหนู ฮูหยินจากตระกูลหลินแวะเข้ามา""ใครหรือ?"ฟู่จาวหนิงผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีนึกออกว่าฮูหยินจากตระกูลหลินคือใคร พี่สะใภ้รองของฟู่หลินซื่อ น้าสะใภ้รองของนาง"ญาติที่สิบกว่าปีไม่เคยจะแวะเวียน ตอนนี้กลับโผล่ออกมาแล้ว"ฟู่จาวหนิงรู้สึกน่าขันเหลือเกิน"แต่ว่า ท่านผู้เฒ่าดีใจมาก" เสี่ยวเถารู้สึกลำบากใจ กลัวว่านางจะเข้าไปแล้วด่ากราดไล่แขกฟู่จาวหนิงชะงักไปครู่หนึ่ง "ข้าเข้าไปดูหน่อย"ผู้เฒ่าฟู่ยังลุกออกไปไหนไม่ได้ จึงทำได้เพียงถูกประคองลงจากเตียง นั่งอยู่บนแคร่อ่อนด้านนอกข้างโต๊ะแปดเซียนตรงข้ามเขามีหญิงสาวอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งนั่งอยู่ นี่คือน้าสะใภ้รองหลิน เซี่ยซื่อฟู่จาวหนิงลืมไปแล้วว่าน้าสะใภ้รองหน้าตาเป็นอย่างไร เดิมทีคิดว่านางจะหน้าตาชอบเหน็บแนม คิดไม่ถึงว่าจะเกินคาดเช่นนี้ เซี่ยซื่อมีหน้าตาที่อบอุ่นและอิ่มเอิบดีงามเสียด้วยซ้ำเซี่ยซื่อแต่งกายก็ดูธรรมดาๆ เหมาะสมดี มองแล้วไม่ฉูดฉาดหรูหรานางนั่งอยู่ที่นั่นพูดคุยเสียงแผ่วเบากับผู้เฒ่าฟู่ บนโต๊ะยังวางกล่องขนมที่ผูกไว้ด้วยเชือกสีแดงใบหนึ่งด้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 152

    "อันห่าว!"เซี่ยซื่อตกใจอย่างมาก ร้องตะโกนวิ่งไปหานาง จังหวะที่ผ่านธรณีประตูขาก็อ่อนจนสะดุด เกือบจะพุ่งตัวล้มลงไปถ้าล้มลงที่นี่ หน้าจะฟาดเข้ากับกระดานหินด้านนอก ไม่แน่อาจจะล้มตกบันไดลงไปอีก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย"ฮูหยิน!" สาวใช้ของนางตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีฟู่จาวหนิงพุ่งออกไปราวลูกธนู โอบประคองนางไว้อย่างฉับไวรวดเร็วเซี่ยซื่อรู้สึกแค่มือที่ประคองนางไว้มีแรงเยอะมาก พยุงนางไว้จนมั่นคง แต่ตอนนี้เองในใจนางก็คิดถึงลูกสาวขึ้น ประโยคต่อมาจึงรีบวิ่งลงไป"อันห่าว อันห่าวเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"ฟู่จาวหนิงมองผู้เฒ่าฟู่ และเห็นว่าเขาก็ร้อนรนเช่นกัน "ท่านปู่ ท่านไม่ต้องกังวล เดี๋ยวข้าไปดูเอง""รีบไปรีบไป"ผู้เฒ่าฟู่อยากจะรีบออกไปดูด้วยตนเองเสียจริงเซี่ยซื่อไม่ได้มาบ้านตระกูลฟู่เสียหลายปี นี่พอมาแล้วกลับเกิดเรื่องขึ้น เซี่ยซื่อมองลูกสาวสำคัญยิ่งกว่าดวงตาของตนเอง ถ้าหากหลินอันห่าวเกิดเรื่องขึ้นที่นี่ เขาเองก็รู้สึกแย่มากๆเซี่ยซื่อพาหลินอันห่าวประคองขึ้นมาแล้วหลินอันห่าวกลับชักเกร็งไปทั้งตัว หูตาจมูกปากบิดเบี้ยว ดูแล้วเหมือนควบคุมไม่ได้"อันห่าว!"เซี่ยซื่อเองก็ร้อนรนจนสั่นระริก ล้วงเอาขว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 153

    อันห่าวถลึงตามอง นอนอยู่ตรงนั้นอย่างว่าง่าย มองดูเซี่ยซื่อ จากนั้นก็มองฟู่จาวหนิง นิ้วของนางเกี่ยวนิ้วของฟู่จาวหนิงเอาไว้"จาวหนิง" เสียงของเซี่ยซื่อสั่นเล็กน้อย ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก "อันห่าวนางไม่กลัวเจ้า นางชอบเจ้า"อันห่าวใสซื่อบริสุทธิ์ ความชอบก็ตรงไปตรงมา น้อยมากที่จะมีคนเข้าใกล้นางได้เช่นนี้ตั้งแต่พบกันครั้งแรก และยอมเข้าหาตัวตนเอง ดังนั้นพอเห็นท่าทางของอันห่าว เซี่ยซื่อจึงดีใจมาก"พี่สาวเป็นหมอ สามารถไล่โรคร้ายบนตัวอันห่าวออกไปได้" ฟู่จาวหนิงยิ้มให้หลินอันห่าวดวงตาสุกใสของหลินอันห่าวเต็มไปด้วยความเชื่อใจ นางพยักหน้าฟู่จาวหนิงปักลงไปอีกหลายเข็ม หลินอันห่าวหนังตาค่อยๆ ปิดลง หลับไหลไปแล้ว"จาวหนิง อันห่าวหลับไปแล้วหรือ?" เซี่ยซื่อถามขึ้นเสียงแผ่ว"ถูกต้อง ข้าแทงจุดชีพจรช่วยให้หลับนอนแก่นาง นางต้องพักผ่อนสักครู่ แล้วข้าจะตรวจนางให้อย่างละเอียด" ฟู่จาวหนิงเก็บเข็มลงมา จับชีพจรให้กับหลินอันห่าว แลพบว่าร่างกายของนางไม่เลวนัก แต่มีเลือดลมหลายแห่งไหลเวียนไม่ดีนางยืนขึ้นมา เดินออกประตูไป ตรงไปด้านหน้าคนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่ ยกเท้าขึ้นถีบหน้าอกเขาคนรับใช้นั่นถูกนางพัดจนหน้าหงาย

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status