พรวดหัวหน้าคุกกับเหล่าผู้คุมแทบจะสำลักพรวดออกมาในคุกใหญ่เช่นนี้ ท่าทีของบ้านใหญ่ก็วางออกมาสุดลิ่มทิ่มประตู! แต่พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้ เหมือนจะดูมีเหตุผลอยู่เหมือนกัน!พวกของอวิ๋นจูแทบจะโมโหจนเป็นลม"พูดจาดีดีหน่อย อนุภรรยาอะไรกัน?" เซียวหลันยวนกดมือข้างหนึ่งบนบ่าฟู่จาวหนิง "ข้าไม่ยอมรับหรอก ขัดราชโองการไปเลยดีกว่า""ท่านพูดได้ถูกต้อง"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "ยังไม่ได้เข้าประตูจวนอ๋อง จะเรียกเป็นอนุก็ยังไม่ได้ พวกนางตอนนี้เป็นแค่สิ่งของที่มาแปะติดอยู่ สลัดเท่าไรก็ไม่หลุด""อืม พวกเรามาคิดหาวิธีสลัดพวกนางออกไปก็พอนี่" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น"ก่อนที่จะหาทางแก้ได้ พวกนางก็อยู่ห้องข้างๆ ไปก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรก็เป็นราชโองการ พวกเราจะบีบให้พวกเจ้าขัดราชโองการก็ไม่ได้ถูกไหม?"ถึงอย่างไร ฟู่จาวหนิงก็จะดึงพวกนางมาในคุกใหญ่นี้"ก็จริง ไม่ใช่ว่าใครจะกล้าหายมาขัดราชโองการกับข้าเสียหน่อย เช่นน้้นก็ให้พวกนางอยู่กันก่อน พอข้าสบัดพวกนางออกไปแล้วค่อยว่ากัน" เซียวหลันยวนพยักหน้าพวกของอวิ๋นจูอับอายโกรธแค้นจนอยากตายกระทั่งชื่ออนุภรรยาก็ยังไม่คิดจะให้พวกนางได้แตะต้อง!แล้วยังเปรียบพวกนางเป็นเหมื
ฟู่จาวหนิงติดของมาไม่น้อยเลยจริงๆ ยังมีกล่องไม้ไผ่ใบเล็กอีกใบด้วย พอเปิดออก ก็หยิบหนังสือออกมาสองเล่ม และยังมีหมอนใบเล็ก แถมด้วยแจกันดอกไม้ใบเล็กปักกิ่งไผ่ไว้สองกิ่งนางเก็บของที่เหลืออื่นๆ ในกล่องเก็บเข้ามา กล่องไม้ไผ่ใบนี้วางไว้ที่มุมเตียง วางแจกันกิ่งไผ่ไว้ด้านบนชิวอวิ๋นกับซือหรูที่อยู่ห้องตรงข้ามเยื้องกันก็มองท่าทางเหล่านี้ของนางด้วยอาการถลึงตาอ้าปากค้าง รู้สึกเหมือนตาพร่าไปหมด"นี่ไม่ใช่ติดคุกหรือไรกัน? นางคิดว่ามาทำอะไรน่ะ?"ซือหรูเองก็เอ่ยขึ้นอย่างงงงัน "นางทำไมจึงดูไม่ลนลานเลยกันนะ?"คนที่พวกนางพึ่งพาไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน ถึงอย่างไรก็ถูกคนอื่นยัดเข้ามาในจวนอ๋อง พวกนางขอแค่ทำภารกิจของนายท่านให้สำเร็จก็พอเดิมทีอ๋องเจวี้ยนถูกขังเข้าคุกใหญ่ พวกนางแค่อยู่แต่ในจวนอ๋องก็พอแล้วไม่แน่ อาจจะสืบค้นอะไรพบแต่ใครจะรู้ว่าฟู่จาวหนิงจะยัดพวกนางเข้ามาในคุกใหญ่ พวกนางไม่มีความผิดอะไร แต่กลับต้องมาติดอยู่ในคุก! ประสบการณ์เช่นนี้พวกนางไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการทั้งนั้นเดิมทีคิดว่าฟู่จาวหนิงเข้ามาดูอ๋องเจวี้ยน เลยคิดจะเล่นละครเข้ามาเป็นเพื่อนเสียหน่อย ใครจะรู้ว่านางจะย้ายของมามากขนาดนี้!ของพว
"พวกเราไม่มีผ้าห่ม!" เสียงของอวิ๋นจูถึงกับสั่นระริกขึ้นมาตอนนี้นางก็ไม่แน่ใจว่าตนเองกลัวหรือว่าโมโห"เรื่องนี้ก็ต้องยัดเงินกันหน่อยแหละ ให้ผู้คุมเขาเตรียมให้สิ?" ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่บนเตียง มองเซียวหลันยวนกินของว่าง พูดกับพวกนางอย่างสงบเยือกเย็น ฟังแล้วดูเหมือนกำลังคุยเล่นๆ กับพวกนางอย่างไรอย่างนั้น"มีผ้าห่มไหม?"ตอนนี้ผู้คุมเองก็จะไม่ตอบก็ไม่ได้แล้ว "มี มีอยู่""เช่นนั้นก็ไปเอามาหน่อยสิ เดี๋ยวพอฟ้ามืดคงจะหนาวมากแน่ๆ ใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองหน้าต่างเล็กของห้องขังห้องนี้ ตอนนี้ยังมีแสงตะวันส่องอยู่ ส่องมาบนเตียงเล็กพอดีอย่าดูถูกแสงตะวันเล็กๆ ผืนนี้ ส่องในช่วงกลางวันไว้ทั้งวัน เตียงนี้จนถึงค่ำอย่างน้อยก็จะไม่หนาวมากแต่ว่าห้องขังอื่นที่ไม่เห็นท้องฟ้าดวงตะวันก็แตกต่างออกไปยิ่งผ่านไปนานเข้า ที่นอนนั่นจะต้องมีความชื้นอยู่ พอฟ้าเย็นลงแล้วนอนหลับอยู่บนนั้นจะต้องหนาวจนตัวสั่นแน่ๆดังนั้นห้องขังห้องนี้จะต้องเป็นเซียวหลันยวนให้คนเตรียมไว้แน่นอนเซียวหลันยวนกินของว่างอย่างไม่รีบไม่ร้อน และเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ในดวงตามีรอยยิ้มเขาจัดการที่นี่ไม่ได้บอกกับฟู่จาวหนิง แต่นางกลับเลือก
ผ้าห่มถูกโยนเข้ามา จนฝุ่นคลุ้งแล้วยังมีกลิ่นอีกอวิ๋นจูอดร้องขึ้นมาไม่ได้ "นี่มันใช่ผ้าห่มสำหรับคนห่มไหม?"สกปรก เหม็นด้วย!ซือหรูกับชิวอวิ๋นทางนั้นก็ได้ผ้าห่มสองผืน แต่พอซือหรูยื่นมือเข้าไปคว้าก็ได้ยินเสียงแคว่ก ผ้าห่มนั้นถูกฉีกขาดเป็นรู ฝ้ายที่อยู่ด้านในล้วนดำสกปรกไปหมดแล้ว!เขาโยนลงพื้นทันที"ผ้าห่มนี้ใช้มากี่ปีแล้วกัน?"ทั้งสกปรกทั้งขาด! มองออกว่า ฝ้ายในนั้นจับตัวเป็นก้อนหมดแล้ว จะต้องห่มไม่อุ่นแน่"เอาไป เอาออกไป นี่มันเอามาห่มได้เสียที่ไหน? พวกเราต้องการของใหม่" ชิวอวิ๋นร้องขึ้นหน้าขาวซีด"พวกเราที่นี่มีแค่เตียงเดียวมันไม่พอ! ไม่สิ พวกเราต้องการของใหม่ เจ้าสิ่งนี้ขนาดขอทานยังไม่ห่มเลย!" อวิ๋นจูแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วถึงแม้นางจะเป็นลูกนอกสมรส แต่เพราะอ๋องฉยงก็รักนางมาก อันที่จริงนอกจากชื่อเสียงกับการหลบเลี่ยงจากพระชายาอ๋องฉยงแล้ว นางเองก็ถูกเลี้ยงดูอย่างมาอย่างดีตั้งแต่เล็กเช่นกันดูจากผิวขาวเหมือนหิมะของนางก็รู้แล้ว"แม่นางทั้งหลายเลิกอาละวาดได้แล้ว ที่นี่มันคุกใหญ่นะ ไม่ใช่โรงเตี๊ยมเสียหน่อย!" ผู้คลุมเดินหน้าดำเข้ามาที่ขังไว้ในคุกใหญ่ล้วนเป็นพวกนักโทษทั้งนั้น พวกเข
เซียวหลันยวนไม่ได้พูดโกหก เขาชอบความสงบมาโดยตลอด โดยเฉพาะในบ้าน ไม่ชอบคนเยอะๆ มาแต่ไหนแต่ไรเรือนของเขาห้องหนังสือของเขา นอกจากต้องคอยทำความสะอาดแล้ว หลักๆ คือห้ามคนเข้าไปส่งเดชหญิงสาวในเรือนหลังพอเพิ่มมากขึ้น จะต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ แน่นอน สาววันสองคนคงจะอาละวาดมาตรงหน้าเขาแน่ แล้วมันจะยังสงบอยู่ได้อย่างไร?ถึงแม้จะไม่พบกับฟู่จาวหนิง เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะรับภรรยาหลายคน ไม่ตต้องพูดที่ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงแล้วเลยฟู่จาวหนิงหยักหน้าในอ้อมกอดเขา หัวเราะขึ้นมา"อีกเดี๋ยวก็จะมีเหตุผลโยนพวกนางออกไปเอง ข้าไม่กังวลหรอก แต่ว่า ท่านเองก็ต้องเตรียมตัวด้วย ถึงอย่างไรขอแค่เป็นดอกไม้ที่ถูกส่งไปข้างกายท่าน ข้าก็จะไม่ปล่อยไว้ ถึงตอนนั้นท่านอย่าใจอ่อนก็แล้วกัน""ข้าใจอ่อนกับเจ้าเท่านั้น"หญิงสาวคนอื่นในสายตาเขาเป็นแค่ความยุ่งยาก"ถัดจากนี้ให้ข้าเป็นคนเปิดปากเองก็พอ เจ้าไม่ต้องทำอะไรแล้ว""ทำไม กลัวว่าข้าจะโหดร้ายเกินไปหรือ?""ไม่อยากให้คนอื่นเอาแต่มาพูดถึงเจ้า บอกว่าเจ้าขี้หึง" เซียวหลันยวนคิดจะลงมือเอง ก็เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์นางเป็นเพราะเขาไม่ยินยอม ไม่ใช่เพราะนางมาบีบ
"ฮ่าๆๆ ใช่ๆๆ เสียงไพเราะเสียจริง""สาวงามเอ๋ย ร้องเรียกออกมาอีก หูของพี่มันคันยุบยิบไปหมดแล้ว""และไม่รู้ว่าตอนที่ทับลงไปจะร้องแบบนี้หรือเปล่า คิกๆ"ในห้องขังด้านหน้ามีเสียงเหล่าพวกนักโทษโห่ก้องเข้ามา และยังมีเสียงหัวเราะโรคจิตของพวกเขาอีกด้วยอวิ๋นจูปิดปากตนเองแน่น ไม่กล้าตะโกนอีกแล้วน้ำตาของนางไหลพรากออกมาคนเหล่านี้ คนเหล่านี้ทำไมถึงน่ารังเกียจนัก?ชิวอวิ๋นกับซือหรูก็หน้าขาวซีดไปแล้ว คนเหล่านั้นเองก็ทำให้พวกนางรังเกียจด้วยพอคิดถึงตอนที่เดินเข้ามาก่อนหน้านี้ คนเหล่านั้นยังกล้าพุ่งมาที่ประตูลวนลามพวกนางต่อหน้าผู้คุม พวกนั่งก็ตัวสั่นขึ้นมานี่เพิ่งเข้ามาแค่ครู่เดียวเอง นี่ยังต้องอยู่ต่อไปอีกหรือ?คนพวกนั้นจะออกมาไหม?พอตกค่ำจะกลายเป็นอย่างไร?ข่าวในคุกใหญ่ส่งไปถึงในวังองค์จักรพรรดิโมโหจนตบโต๊ะ สิ่งของที่วางอยู่ด้านบนล้วนกระเด้งกันขึ้นมา ฝ่ามือเขาแดงไปหมดตนเองปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยวไป และรู้สึกชิงชังเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงขึ้นมาอีกอย่างอดไม่อยู่"นี่มัน นี่มัน..."เขาโมโหจนพูดอะไรไม่ออกแล้วฟู่จาวหนิงกล้าดีอย่างไร!นางทำไมจึงทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้? กล้าพาพวกอวิ๋นจู
และไม่รู้ว่านักโทษจากห้องไหน พอถึงตอนกลางคืนก็ร้องไห้โอดครวญ เสียงนั้นราวกับภูตผี พอรวมเข้ากับเสียงลม ฟังแล้วขนลุกมากเว้นออกไปไม่กี่ห้องขังยังมีนักโทษบดฟัน พูดอะไรงึมงำไม่ได้ศัพท์ในนี้บางครั้งยังได้ยินคะว่า "สาวงาม" ด้วยพวกของอวิ๋นจูนั่งอยู่บนกองฟาง เอามารวมกันเป็นก้อนๆ ทั้งกลัวทั้งหนาว ฟันสั่นกระทบระริกของว่างไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ก็กลืนลงไปพร้อมกับน้ำเย็น ตอนนี้ในกระเพาะจึงเย็นวาบไปหมดผู้คุมพวกนั้นรังแกกันเกินไปแล้ว เอาเงินพวกนางไปตั้งเยอะ ผ้าห่มที่ซื้อมาก็ยังบางอยู่ ด้านในมีแค่สำลีชั้นเดียว ในอากาศแบบนี้กันอะไรไม่ได้เลยยิ่งไปกว่านั้นพวกนางจะปูผ้านอนก็ไม่ได้ จึงทำได้แค่เบียดตัวกันแล้วห่มผ้าทับ กอดกันให้อบอุ่นได้เท่านั้น"ข้า ข้าอยากไปเข้าห้องน้ำ" อวิ๋นจูหน้าซีด บอกเสียงแผ่วกับสาวใช้ก่อนหน้านี้นางดื่มน้ำไปแล้ว บวกกับของว่างนั่นค่อนข้างฝืดคอ จึงดื่มน้ำเย็นลงไปครึ่งกา ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วสาวใช้คนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนตัวสั่น เดินไปที่ข้างลูกกรง พยายามมองออกไปด้านนอก ในระเบียงคุกว่างเปล่า นอกจากความมืดมิดก็ไม่มีคนเลยสักคนพอมองไปอีกด้าน ก็เหมือนมีปากที่น่ากลัว จ้องจะเขมือบพวกนา
อวิ๋นจูรู้สึกแย่มาก ออกแรงเการ่างกายของตนเองบนตัวนางคันจนไม่ไหวแล้วแต่ต่อนห้าคนมากขนาดนี้ โดยเฉพาะยังมีผู้คุมอีก นางที่เป็นหญิงสาวสูงศักดิ์มายืนเกาแบบนี้ มันดูเสียท่าทีไม่สุภาพเอาเสียเลยนางอยากจะทนไว้ แต่ว่า! มันทนไม่ไหวจริงๆ!คันมากเลย นางอยากจะแก้ผ้าตัวเองแล้วก็เกาๆ มันทั้งตัวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!แค่ถูๆ ใบหน้า ตอนนี้จุดแดงบนหน้านางก็ยิ่งลามเป็นตุ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"คุณหนู หน้าของท่าน..." สาวใช้นางเหลือบมองผาดหนึ่ง สายตาก็สะพรึงขึ้นมาอวิ๋นจูพอเห็นสายตาของนาง ก็รีบกุมหน้าไว้ "หน้าของข้ามันทำไม? เป็นอะไรไป?""ในห้องขังนี้มันจะสะอาดแค่ไหนกัน โอ้ ข้านึกออกแล้ว ก่อนหน้าห้องขังพวกนั้นเหมือนจะขังนักโทษที่เคยเป็นโรคติดต่อเพศสัมพันธ์อยู่คนสองคน แต่ลืมไปแล้วว่าห้องไหน" ผู้คุมคนหนึ่งเหลือบมองนางผาดหนึ่ง จากนั้นจึงถอยห่างออกมาหลายก้าวทำเหมือนนางเป็นสิ่งสกปรกอย่างไรอย่างนั้น"อะไรนะ?!"ไม่ใช่แค่อวิ๋นจู กระทั่งชิวอวิ๋นกับซือหรูพวกนางก็ยังกระโดดเหยงขึ้นมาทันทีพอเห็นสภาพนี้ของอวิ๋นจู พวกนางก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้วอวิ๋นจูพังทลายไปแล้วนางร้องไห้ขึ้นมา "ข้าจะออกไป ข้าไม่อยากอยู่ท
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ