เซียวหลันยวนไม่ได้พูดโกหก เขาชอบความสงบมาโดยตลอด โดยเฉพาะในบ้าน ไม่ชอบคนเยอะๆ มาแต่ไหนแต่ไรเรือนของเขาห้องหนังสือของเขา นอกจากต้องคอยทำความสะอาดแล้ว หลักๆ คือห้ามคนเข้าไปส่งเดชหญิงสาวในเรือนหลังพอเพิ่มมากขึ้น จะต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ แน่นอน สาววันสองคนคงจะอาละวาดมาตรงหน้าเขาแน่ แล้วมันจะยังสงบอยู่ได้อย่างไร?ถึงแม้จะไม่พบกับฟู่จาวหนิง เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะรับภรรยาหลายคน ไม่ตต้องพูดที่ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงแล้วเลยฟู่จาวหนิงหยักหน้าในอ้อมกอดเขา หัวเราะขึ้นมา"อีกเดี๋ยวก็จะมีเหตุผลโยนพวกนางออกไปเอง ข้าไม่กังวลหรอก แต่ว่า ท่านเองก็ต้องเตรียมตัวด้วย ถึงอย่างไรขอแค่เป็นดอกไม้ที่ถูกส่งไปข้างกายท่าน ข้าก็จะไม่ปล่อยไว้ ถึงตอนนั้นท่านอย่าใจอ่อนก็แล้วกัน""ข้าใจอ่อนกับเจ้าเท่านั้น"หญิงสาวคนอื่นในสายตาเขาเป็นแค่ความยุ่งยาก"ถัดจากนี้ให้ข้าเป็นคนเปิดปากเองก็พอ เจ้าไม่ต้องทำอะไรแล้ว""ทำไม กลัวว่าข้าจะโหดร้ายเกินไปหรือ?""ไม่อยากให้คนอื่นเอาแต่มาพูดถึงเจ้า บอกว่าเจ้าขี้หึง" เซียวหลันยวนคิดจะลงมือเอง ก็เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์นางเป็นเพราะเขาไม่ยินยอม ไม่ใช่เพราะนางมาบีบ
"ฮ่าๆๆ ใช่ๆๆ เสียงไพเราะเสียจริง""สาวงามเอ๋ย ร้องเรียกออกมาอีก หูของพี่มันคันยุบยิบไปหมดแล้ว""และไม่รู้ว่าตอนที่ทับลงไปจะร้องแบบนี้หรือเปล่า คิกๆ"ในห้องขังด้านหน้ามีเสียงเหล่าพวกนักโทษโห่ก้องเข้ามา และยังมีเสียงหัวเราะโรคจิตของพวกเขาอีกด้วยอวิ๋นจูปิดปากตนเองแน่น ไม่กล้าตะโกนอีกแล้วน้ำตาของนางไหลพรากออกมาคนเหล่านี้ คนเหล่านี้ทำไมถึงน่ารังเกียจนัก?ชิวอวิ๋นกับซือหรูก็หน้าขาวซีดไปแล้ว คนเหล่านั้นเองก็ทำให้พวกนางรังเกียจด้วยพอคิดถึงตอนที่เดินเข้ามาก่อนหน้านี้ คนเหล่านั้นยังกล้าพุ่งมาที่ประตูลวนลามพวกนางต่อหน้าผู้คุม พวกนั่งก็ตัวสั่นขึ้นมานี่เพิ่งเข้ามาแค่ครู่เดียวเอง นี่ยังต้องอยู่ต่อไปอีกหรือ?คนพวกนั้นจะออกมาไหม?พอตกค่ำจะกลายเป็นอย่างไร?ข่าวในคุกใหญ่ส่งไปถึงในวังองค์จักรพรรดิโมโหจนตบโต๊ะ สิ่งของที่วางอยู่ด้านบนล้วนกระเด้งกันขึ้นมา ฝ่ามือเขาแดงไปหมดตนเองปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยวไป และรู้สึกชิงชังเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงขึ้นมาอีกอย่างอดไม่อยู่"นี่มัน นี่มัน..."เขาโมโหจนพูดอะไรไม่ออกแล้วฟู่จาวหนิงกล้าดีอย่างไร!นางทำไมจึงทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้? กล้าพาพวกอวิ๋นจู
และไม่รู้ว่านักโทษจากห้องไหน พอถึงตอนกลางคืนก็ร้องไห้โอดครวญ เสียงนั้นราวกับภูตผี พอรวมเข้ากับเสียงลม ฟังแล้วขนลุกมากเว้นออกไปไม่กี่ห้องขังยังมีนักโทษบดฟัน พูดอะไรงึมงำไม่ได้ศัพท์ในนี้บางครั้งยังได้ยินคะว่า "สาวงาม" ด้วยพวกของอวิ๋นจูนั่งอยู่บนกองฟาง เอามารวมกันเป็นก้อนๆ ทั้งกลัวทั้งหนาว ฟันสั่นกระทบระริกของว่างไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ก็กลืนลงไปพร้อมกับน้ำเย็น ตอนนี้ในกระเพาะจึงเย็นวาบไปหมดผู้คุมพวกนั้นรังแกกันเกินไปแล้ว เอาเงินพวกนางไปตั้งเยอะ ผ้าห่มที่ซื้อมาก็ยังบางอยู่ ด้านในมีแค่สำลีชั้นเดียว ในอากาศแบบนี้กันอะไรไม่ได้เลยยิ่งไปกว่านั้นพวกนางจะปูผ้านอนก็ไม่ได้ จึงทำได้แค่เบียดตัวกันแล้วห่มผ้าทับ กอดกันให้อบอุ่นได้เท่านั้น"ข้า ข้าอยากไปเข้าห้องน้ำ" อวิ๋นจูหน้าซีด บอกเสียงแผ่วกับสาวใช้ก่อนหน้านี้นางดื่มน้ำไปแล้ว บวกกับของว่างนั่นค่อนข้างฝืดคอ จึงดื่มน้ำเย็นลงไปครึ่งกา ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วสาวใช้คนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนตัวสั่น เดินไปที่ข้างลูกกรง พยายามมองออกไปด้านนอก ในระเบียงคุกว่างเปล่า นอกจากความมืดมิดก็ไม่มีคนเลยสักคนพอมองไปอีกด้าน ก็เหมือนมีปากที่น่ากลัว จ้องจะเขมือบพวกนา
อวิ๋นจูรู้สึกแย่มาก ออกแรงเการ่างกายของตนเองบนตัวนางคันจนไม่ไหวแล้วแต่ต่อนห้าคนมากขนาดนี้ โดยเฉพาะยังมีผู้คุมอีก นางที่เป็นหญิงสาวสูงศักดิ์มายืนเกาแบบนี้ มันดูเสียท่าทีไม่สุภาพเอาเสียเลยนางอยากจะทนไว้ แต่ว่า! มันทนไม่ไหวจริงๆ!คันมากเลย นางอยากจะแก้ผ้าตัวเองแล้วก็เกาๆ มันทั้งตัวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!แค่ถูๆ ใบหน้า ตอนนี้จุดแดงบนหน้านางก็ยิ่งลามเป็นตุ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"คุณหนู หน้าของท่าน..." สาวใช้นางเหลือบมองผาดหนึ่ง สายตาก็สะพรึงขึ้นมาอวิ๋นจูพอเห็นสายตาของนาง ก็รีบกุมหน้าไว้ "หน้าของข้ามันทำไม? เป็นอะไรไป?""ในห้องขังนี้มันจะสะอาดแค่ไหนกัน โอ้ ข้านึกออกแล้ว ก่อนหน้าห้องขังพวกนั้นเหมือนจะขังนักโทษที่เคยเป็นโรคติดต่อเพศสัมพันธ์อยู่คนสองคน แต่ลืมไปแล้วว่าห้องไหน" ผู้คุมคนหนึ่งเหลือบมองนางผาดหนึ่ง จากนั้นจึงถอยห่างออกมาหลายก้าวทำเหมือนนางเป็นสิ่งสกปรกอย่างไรอย่างนั้น"อะไรนะ?!"ไม่ใช่แค่อวิ๋นจู กระทั่งชิวอวิ๋นกับซือหรูพวกนางก็ยังกระโดดเหยงขึ้นมาทันทีพอเห็นสภาพนี้ของอวิ๋นจู พวกนางก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้วอวิ๋นจูพังทลายไปแล้วนางร้องไห้ขึ้นมา "ข้าจะออกไป ข้าไม่อยากอยู่ท
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน
เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก
"จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ
อวิ๋นจูรู้สึกแย่มาก ออกแรงเการ่างกายของตนเองบนตัวนางคันจนไม่ไหวแล้วแต่ต่อนห้าคนมากขนาดนี้ โดยเฉพาะยังมีผู้คุมอีก นางที่เป็นหญิงสาวสูงศักดิ์มายืนเกาแบบนี้ มันดูเสียท่าทีไม่สุภาพเอาเสียเลยนางอยากจะทนไว้ แต่ว่า! มันทนไม่ไหวจริงๆ!คันมากเลย นางอยากจะแก้ผ้าตัวเองแล้วก็เกาๆ มันทั้งตัวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!แค่ถูๆ ใบหน้า ตอนนี้จุดแดงบนหน้านางก็ยิ่งลามเป็นตุ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"คุณหนู หน้าของท่าน..." สาวใช้นางเหลือบมองผาดหนึ่ง สายตาก็สะพรึงขึ้นมาอวิ๋นจูพอเห็นสายตาของนาง ก็รีบกุมหน้าไว้ "หน้าของข้ามันทำไม? เป็นอะไรไป?""ในห้องขังนี้มันจะสะอาดแค่ไหนกัน โอ้ ข้านึกออกแล้ว ก่อนหน้าห้องขังพวกนั้นเหมือนจะขังนักโทษที่เคยเป็นโรคติดต่อเพศสัมพันธ์อยู่คนสองคน แต่ลืมไปแล้วว่าห้องไหน" ผู้คุมคนหนึ่งเหลือบมองนางผาดหนึ่ง จากนั้นจึงถอยห่างออกมาหลายก้าวทำเหมือนนางเป็นสิ่งสกปรกอย่างไรอย่างนั้น"อะไรนะ?!"ไม่ใช่แค่อวิ๋นจู กระทั่งชิวอวิ๋นกับซือหรูพวกนางก็ยังกระโดดเหยงขึ้นมาทันทีพอเห็นสภาพนี้ของอวิ๋นจู พวกนางก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้วอวิ๋นจูพังทลายไปแล้วนางร้องไห้ขึ้นมา "ข้าจะออกไป ข้าไม่อยากอยู่ท
และไม่รู้ว่านักโทษจากห้องไหน พอถึงตอนกลางคืนก็ร้องไห้โอดครวญ เสียงนั้นราวกับภูตผี พอรวมเข้ากับเสียงลม ฟังแล้วขนลุกมากเว้นออกไปไม่กี่ห้องขังยังมีนักโทษบดฟัน พูดอะไรงึมงำไม่ได้ศัพท์ในนี้บางครั้งยังได้ยินคะว่า "สาวงาม" ด้วยพวกของอวิ๋นจูนั่งอยู่บนกองฟาง เอามารวมกันเป็นก้อนๆ ทั้งกลัวทั้งหนาว ฟันสั่นกระทบระริกของว่างไม่กี่ชิ้นก่อนหน้านี้ก็กลืนลงไปพร้อมกับน้ำเย็น ตอนนี้ในกระเพาะจึงเย็นวาบไปหมดผู้คุมพวกนั้นรังแกกันเกินไปแล้ว เอาเงินพวกนางไปตั้งเยอะ ผ้าห่มที่ซื้อมาก็ยังบางอยู่ ด้านในมีแค่สำลีชั้นเดียว ในอากาศแบบนี้กันอะไรไม่ได้เลยยิ่งไปกว่านั้นพวกนางจะปูผ้านอนก็ไม่ได้ จึงทำได้แค่เบียดตัวกันแล้วห่มผ้าทับ กอดกันให้อบอุ่นได้เท่านั้น"ข้า ข้าอยากไปเข้าห้องน้ำ" อวิ๋นจูหน้าซีด บอกเสียงแผ่วกับสาวใช้ก่อนหน้านี้นางดื่มน้ำไปแล้ว บวกกับของว่างนั่นค่อนข้างฝืดคอ จึงดื่มน้ำเย็นลงไปครึ่งกา ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วสาวใช้คนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนตัวสั่น เดินไปที่ข้างลูกกรง พยายามมองออกไปด้านนอก ในระเบียงคุกว่างเปล่า นอกจากความมืดมิดก็ไม่มีคนเลยสักคนพอมองไปอีกด้าน ก็เหมือนมีปากที่น่ากลัว จ้องจะเขมือบพวกนา
"ฮ่าๆๆ ใช่ๆๆ เสียงไพเราะเสียจริง""สาวงามเอ๋ย ร้องเรียกออกมาอีก หูของพี่มันคันยุบยิบไปหมดแล้ว""และไม่รู้ว่าตอนที่ทับลงไปจะร้องแบบนี้หรือเปล่า คิกๆ"ในห้องขังด้านหน้ามีเสียงเหล่าพวกนักโทษโห่ก้องเข้ามา และยังมีเสียงหัวเราะโรคจิตของพวกเขาอีกด้วยอวิ๋นจูปิดปากตนเองแน่น ไม่กล้าตะโกนอีกแล้วน้ำตาของนางไหลพรากออกมาคนเหล่านี้ คนเหล่านี้ทำไมถึงน่ารังเกียจนัก?ชิวอวิ๋นกับซือหรูก็หน้าขาวซีดไปแล้ว คนเหล่านั้นเองก็ทำให้พวกนางรังเกียจด้วยพอคิดถึงตอนที่เดินเข้ามาก่อนหน้านี้ คนเหล่านั้นยังกล้าพุ่งมาที่ประตูลวนลามพวกนางต่อหน้าผู้คุม พวกนั่งก็ตัวสั่นขึ้นมานี่เพิ่งเข้ามาแค่ครู่เดียวเอง นี่ยังต้องอยู่ต่อไปอีกหรือ?คนพวกนั้นจะออกมาไหม?พอตกค่ำจะกลายเป็นอย่างไร?ข่าวในคุกใหญ่ส่งไปถึงในวังองค์จักรพรรดิโมโหจนตบโต๊ะ สิ่งของที่วางอยู่ด้านบนล้วนกระเด้งกันขึ้นมา ฝ่ามือเขาแดงไปหมดตนเองปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยวไป และรู้สึกชิงชังเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงขึ้นมาอีกอย่างอดไม่อยู่"นี่มัน นี่มัน..."เขาโมโหจนพูดอะไรไม่ออกแล้วฟู่จาวหนิงกล้าดีอย่างไร!นางทำไมจึงทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้? กล้าพาพวกอวิ๋นจู
เซียวหลันยวนไม่ได้พูดโกหก เขาชอบความสงบมาโดยตลอด โดยเฉพาะในบ้าน ไม่ชอบคนเยอะๆ มาแต่ไหนแต่ไรเรือนของเขาห้องหนังสือของเขา นอกจากต้องคอยทำความสะอาดแล้ว หลักๆ คือห้ามคนเข้าไปส่งเดชหญิงสาวในเรือนหลังพอเพิ่มมากขึ้น จะต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ แน่นอน สาววันสองคนคงจะอาละวาดมาตรงหน้าเขาแน่ แล้วมันจะยังสงบอยู่ได้อย่างไร?ถึงแม้จะไม่พบกับฟู่จาวหนิง เขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะรับภรรยาหลายคน ไม่ตต้องพูดที่ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงแล้วเลยฟู่จาวหนิงหยักหน้าในอ้อมกอดเขา หัวเราะขึ้นมา"อีกเดี๋ยวก็จะมีเหตุผลโยนพวกนางออกไปเอง ข้าไม่กังวลหรอก แต่ว่า ท่านเองก็ต้องเตรียมตัวด้วย ถึงอย่างไรขอแค่เป็นดอกไม้ที่ถูกส่งไปข้างกายท่าน ข้าก็จะไม่ปล่อยไว้ ถึงตอนนั้นท่านอย่าใจอ่อนก็แล้วกัน""ข้าใจอ่อนกับเจ้าเท่านั้น"หญิงสาวคนอื่นในสายตาเขาเป็นแค่ความยุ่งยาก"ถัดจากนี้ให้ข้าเป็นคนเปิดปากเองก็พอ เจ้าไม่ต้องทำอะไรแล้ว""ทำไม กลัวว่าข้าจะโหดร้ายเกินไปหรือ?""ไม่อยากให้คนอื่นเอาแต่มาพูดถึงเจ้า บอกว่าเจ้าขี้หึง" เซียวหลันยวนคิดจะลงมือเอง ก็เพราะไม่อยากให้คนอื่นมาวิพากษ์วิจารณ์นางเป็นเพราะเขาไม่ยินยอม ไม่ใช่เพราะนางมาบีบ
ผ้าห่มถูกโยนเข้ามา จนฝุ่นคลุ้งแล้วยังมีกลิ่นอีกอวิ๋นจูอดร้องขึ้นมาไม่ได้ "นี่มันใช่ผ้าห่มสำหรับคนห่มไหม?"สกปรก เหม็นด้วย!ซือหรูกับชิวอวิ๋นทางนั้นก็ได้ผ้าห่มสองผืน แต่พอซือหรูยื่นมือเข้าไปคว้าก็ได้ยินเสียงแคว่ก ผ้าห่มนั้นถูกฉีกขาดเป็นรู ฝ้ายที่อยู่ด้านในล้วนดำสกปรกไปหมดแล้ว!เขาโยนลงพื้นทันที"ผ้าห่มนี้ใช้มากี่ปีแล้วกัน?"ทั้งสกปรกทั้งขาด! มองออกว่า ฝ้ายในนั้นจับตัวเป็นก้อนหมดแล้ว จะต้องห่มไม่อุ่นแน่"เอาไป เอาออกไป นี่มันเอามาห่มได้เสียที่ไหน? พวกเราต้องการของใหม่" ชิวอวิ๋นร้องขึ้นหน้าขาวซีด"พวกเราที่นี่มีแค่เตียงเดียวมันไม่พอ! ไม่สิ พวกเราต้องการของใหม่ เจ้าสิ่งนี้ขนาดขอทานยังไม่ห่มเลย!" อวิ๋นจูแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วถึงแม้นางจะเป็นลูกนอกสมรส แต่เพราะอ๋องฉยงก็รักนางมาก อันที่จริงนอกจากชื่อเสียงกับการหลบเลี่ยงจากพระชายาอ๋องฉยงแล้ว นางเองก็ถูกเลี้ยงดูอย่างมาอย่างดีตั้งแต่เล็กเช่นกันดูจากผิวขาวเหมือนหิมะของนางก็รู้แล้ว"แม่นางทั้งหลายเลิกอาละวาดได้แล้ว ที่นี่มันคุกใหญ่นะ ไม่ใช่โรงเตี๊ยมเสียหน่อย!" ผู้คลุมเดินหน้าดำเข้ามาที่ขังไว้ในคุกใหญ่ล้วนเป็นพวกนักโทษทั้งนั้น พวกเข
"พวกเราไม่มีผ้าห่ม!" เสียงของอวิ๋นจูถึงกับสั่นระริกขึ้นมาตอนนี้นางก็ไม่แน่ใจว่าตนเองกลัวหรือว่าโมโห"เรื่องนี้ก็ต้องยัดเงินกันหน่อยแหละ ให้ผู้คุมเขาเตรียมให้สิ?" ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่บนเตียง มองเซียวหลันยวนกินของว่าง พูดกับพวกนางอย่างสงบเยือกเย็น ฟังแล้วดูเหมือนกำลังคุยเล่นๆ กับพวกนางอย่างไรอย่างนั้น"มีผ้าห่มไหม?"ตอนนี้ผู้คุมเองก็จะไม่ตอบก็ไม่ได้แล้ว "มี มีอยู่""เช่นนั้นก็ไปเอามาหน่อยสิ เดี๋ยวพอฟ้ามืดคงจะหนาวมากแน่ๆ ใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองหน้าต่างเล็กของห้องขังห้องนี้ ตอนนี้ยังมีแสงตะวันส่องอยู่ ส่องมาบนเตียงเล็กพอดีอย่าดูถูกแสงตะวันเล็กๆ ผืนนี้ ส่องในช่วงกลางวันไว้ทั้งวัน เตียงนี้จนถึงค่ำอย่างน้อยก็จะไม่หนาวมากแต่ว่าห้องขังอื่นที่ไม่เห็นท้องฟ้าดวงตะวันก็แตกต่างออกไปยิ่งผ่านไปนานเข้า ที่นอนนั่นจะต้องมีความชื้นอยู่ พอฟ้าเย็นลงแล้วนอนหลับอยู่บนนั้นจะต้องหนาวจนตัวสั่นแน่ๆดังนั้นห้องขังห้องนี้จะต้องเป็นเซียวหลันยวนให้คนเตรียมไว้แน่นอนเซียวหลันยวนกินของว่างอย่างไม่รีบไม่ร้อน และเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ในดวงตามีรอยยิ้มเขาจัดการที่นี่ไม่ได้บอกกับฟู่จาวหนิง แต่นางกลับเลือก
ฟู่จาวหนิงติดของมาไม่น้อยเลยจริงๆ ยังมีกล่องไม้ไผ่ใบเล็กอีกใบด้วย พอเปิดออก ก็หยิบหนังสือออกมาสองเล่ม และยังมีหมอนใบเล็ก แถมด้วยแจกันดอกไม้ใบเล็กปักกิ่งไผ่ไว้สองกิ่งนางเก็บของที่เหลืออื่นๆ ในกล่องเก็บเข้ามา กล่องไม้ไผ่ใบนี้วางไว้ที่มุมเตียง วางแจกันกิ่งไผ่ไว้ด้านบนชิวอวิ๋นกับซือหรูที่อยู่ห้องตรงข้ามเยื้องกันก็มองท่าทางเหล่านี้ของนางด้วยอาการถลึงตาอ้าปากค้าง รู้สึกเหมือนตาพร่าไปหมด"นี่ไม่ใช่ติดคุกหรือไรกัน? นางคิดว่ามาทำอะไรน่ะ?"ซือหรูเองก็เอ่ยขึ้นอย่างงงงัน "นางทำไมจึงดูไม่ลนลานเลยกันนะ?"คนที่พวกนางพึ่งพาไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน ถึงอย่างไรก็ถูกคนอื่นยัดเข้ามาในจวนอ๋อง พวกนางขอแค่ทำภารกิจของนายท่านให้สำเร็จก็พอเดิมทีอ๋องเจวี้ยนถูกขังเข้าคุกใหญ่ พวกนางแค่อยู่แต่ในจวนอ๋องก็พอแล้วไม่แน่ อาจจะสืบค้นอะไรพบแต่ใครจะรู้ว่าฟู่จาวหนิงจะยัดพวกนางเข้ามาในคุกใหญ่ พวกนางไม่มีความผิดอะไร แต่กลับต้องมาติดอยู่ในคุก! ประสบการณ์เช่นนี้พวกนางไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการทั้งนั้นเดิมทีคิดว่าฟู่จาวหนิงเข้ามาดูอ๋องเจวี้ยน เลยคิดจะเล่นละครเข้ามาเป็นเพื่อนเสียหน่อย ใครจะรู้ว่านางจะย้ายของมามากขนาดนี้!ของพว
พรวดหัวหน้าคุกกับเหล่าผู้คุมแทบจะสำลักพรวดออกมาในคุกใหญ่เช่นนี้ ท่าทีของบ้านใหญ่ก็วางออกมาสุดลิ่มทิ่มประตู! แต่พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้ เหมือนจะดูมีเหตุผลอยู่เหมือนกัน!พวกของอวิ๋นจูแทบจะโมโหจนเป็นลม"พูดจาดีดีหน่อย อนุภรรยาอะไรกัน?" เซียวหลันยวนกดมือข้างหนึ่งบนบ่าฟู่จาวหนิง "ข้าไม่ยอมรับหรอก ขัดราชโองการไปเลยดีกว่า""ท่านพูดได้ถูกต้อง"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "ยังไม่ได้เข้าประตูจวนอ๋อง จะเรียกเป็นอนุก็ยังไม่ได้ พวกนางตอนนี้เป็นแค่สิ่งของที่มาแปะติดอยู่ สลัดเท่าไรก็ไม่หลุด""อืม พวกเรามาคิดหาวิธีสลัดพวกนางออกไปก็พอนี่" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น"ก่อนที่จะหาทางแก้ได้ พวกนางก็อยู่ห้องข้างๆ ไปก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรก็เป็นราชโองการ พวกเราจะบีบให้พวกเจ้าขัดราชโองการก็ไม่ได้ถูกไหม?"ถึงอย่างไร ฟู่จาวหนิงก็จะดึงพวกนางมาในคุกใหญ่นี้"ก็จริง ไม่ใช่ว่าใครจะกล้าหายมาขัดราชโองการกับข้าเสียหน่อย เช่นน้้นก็ให้พวกนางอยู่กันก่อน พอข้าสบัดพวกนางออกไปแล้วค่อยว่ากัน" เซียวหลันยวนพยักหน้าพวกของอวิ๋นจูอับอายโกรธแค้นจนอยากตายกระทั่งชื่ออนุภรรยาก็ยังไม่คิดจะให้พวกนางได้แตะต้อง!แล้วยังเปรียบพวกนางเป็นเหมื
พวกของอวิ๋นจูถูกทำร้ายจิตใจอีกครั้งหนึ่งหมายความว่าอย่างไร? รับพวกนางไว้คือทำให้ตนเองสกปรกหรือ? พวกนางเป็นสิ่งสกปรกหรือไรกัน?ฟู่จาวหนิงกระแอมออกมาสองที "ขัดราชโองการมันก็ไม่ดีจริงๆ นั่นล่ะ ให้พวกนางอยู่ปรนนิบัติท่านอ๋องที่นี่แล้วกัน ไหนๆ ก็มากันแล้ว"เซียวหลันยวนหรี่ตาลง บีบมือฟู่จาวหนิงทำไมจึงเป็นเช่นนี้?เขาแสดงท่าทีเด็ดขาดไปแล้ว ว่าจะไม่รับหญิงสาวเหล่านี้เด็ดขาด จาวหนิงกลับไม่เชื่อเขาหรือ?ฟู่จาวหนิงตั้งใจจะจัดการคนพวกนี้อยู่แล้ว จะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไรก่อนหน้านี้ไม่ใช่มาเชิดหน้าชูตาเลือกเรือนต่อหน้าข้าหรือ? ตอนนี้นางจะให้พวกนางเลือกให้พอเลยนางไม่สนใจเซียวหลันยวน แต่มองไปทางหัวหน้าคุก"พวกเรามาอยู่ด้วยกันกับท่านอ๋อง ห้องนี้ข้ากับท่านอ๋องอยู่ ให้พวกนางไปอยู่ห้องตรงข้ามกับข้างๆ ก็แล้วกัน พวกนางอยากจะอยู่ใกล้ๆ ท่านอ๋องข้าหน่อยน่ะ"นางดึงเซียวหลันยวนเดินตรงไปห้งอขังที่สะอาดที่สุดตรงหน้า เปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้าน "เปิดประตูห้องขังสิ ยืนงงอะไรอยู่? ท่านอ๋องข้าตอนนี้กำลังติดคุกอยู่นะ พวกเจ้ายังไม่รีบให้เขาเข้าไปอีก"ผุ้คนคุมหนึ่งฟังคำสั่งนางอย่างงงๆ เดินเข้ามาเปิดประตูฟ