Share

บทที่ 1367

Author: จุ้ยหลิงซู
หงจั๋วไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนไปที่ไหน

"ท่านอ๋องไม่ได้บอกไว้เจ้าค่ะ แค่ให้ข้าน้อยมาแจ้งกับพระชายา บอกว่าพักผ่อนไวไว อย่าให้ตัวเย็นนัก"

พอมาถึงในห้อง เฝิ่นซิงก็ตรงเข้ามารับ ดวงตาเป็นประกาย

"พระชายา ท่านรู้ไหมว่าก่อนที่จะออกไปท่านอ๋องให้ข้าน้อยทำอะไร?"

ฟู่จาวหนิงหัวเราะ

"ทำอะไรหรือ?"

"ให้ข้าน้อยเอาหม้อร้อนหลายใบใส่ไว้ในผ้าห่ม ท่านอ๋องบอกว่าเช่นนี้พอพระชายาขึ้นบนเตียงก็จะอบอุ่นขึ้นมา"

ท่านอ๋องเอาใจใส่สุดๆ ไปเลย

ฟู่จาวหนิงใจอุ่นวาบขึ้นมา

เซียวหลันยวนจำได้ว่านางมีประจำเดือน กลัวว่านางจะหนาวสินะ

อันที่จริงตอนแรกเขาก็รู้สึกว่า เซียวหลันยวนคนนี้ ขอแค่เขายอมเท่านั้น เขาจะกลายเป็นคนที่เอาใจใส่อย่างละเอียดคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีคนให้เขาได้ใส่ใจนั่นเอง

ตอนนี้เขาเอาใจใส่มาไว้บนตัวนาง นางรู้สึกว่าโชคดีสุดๆ

"ข้าเพิ่งจะกินยังไม่อยากนอนน่ะ" ฟู่จาวหนิงเดินมานั่งลงที่แคร่นิ่ม "พวกเจ้าอยู่คุยกับข้าก่อน ลองเล่ามาหน่อยว่าครึ่งปีนี้ในเมืองหลวงกับจวนอ๋องมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง"

"พระชายาจะถามถึงชิวอวิ๋นพวกนั้นใช่ไหม?" หงจั๋วเอ่ยขึ้นทันที

"อื๋อ?"

ฟู่จาวหนิงเดิมทียังนึกไม่ถึงเรื่องชิวอวิ๋นด้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1368

    ฟู่จาวหนิงเองก็อดชมขึ้นมาคำหนึ่งไม่ได้...หญิงงามบานสะพรั่ง ระยิบระยับเจิดจ้าอวิ๋นจูงดงามมาก แต่สิ่งที่ดึงดูดคนยิ่งกว่าใบหน้านางคือผิวของนางถูกต้อง อวิ๋นจูขาวมากขาวจนเหมือนส่องแสงได้อย่างไรอย่างนั้นความขาวบดบังความไม่น่ามองทั้งมวล แล้วนางเองก็สวยอยู่แล้วด้วยฟู่จาวหนิงพอเห็นสาวงามที่ผิวขาวราวหยกคนนี้ก็อดถลึงตาโตไม่ได้ตอนนี้นางจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมหงจั๋วกับเฝิ่นซิงถึงบอกว่าคุณหนูอวิ๋นคนนี้งดงามกว่าคนมากมายในเมืองหลวงยังไม่ต้องพูดเรื่องใบหน้า เอาแค่ความขาวของผิวนางก็ชนะคนอื่นไปส่วนใหญ่แล้วหลังจากอวิ๋ฯจูคารวะให้นาง ก็เห็นนางไม่ตอบกลับ จึงเอ่ยซ้ำขึ้นมาคำหนึ่ง"อวิ๋นจูคารวะพี่หญิงพระชายา"ฟู่จาวหนิงได้ยินคำพูดนาง เพียงแต่สายตายังคงพิจารณาอยู่อันดับแรก คำเรียกอย่างพี่หญิงพระชายาทำเอานางรู้สึกขบขัน"เจ้าชื่ออวิ๋นจูหรือ?""ถูกต้อง สกุลอวิ๋น ชื่อจูคำเดียว" เสียงของอวิ๋นจูอ่อนช้อยมากนางสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน คลุมด้วยผ้าคลุมขนกระต่ายสีขาว บนตัวมีกลิ่นหอมจางๆ ตอนที่เพิ่งเข้าประตูมาด้านนอกก็มีลมพัดเอากลิ่นนี้เข้ามาพอดีกลิ่นหอมนี้พิเศษมาก หอมอ่อนโยนและสง่างาม แตกต่างกับความห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1369

    ฟู่จาวหนิงมองไปทางหงจั๋วเฝิ่นซิงอีกครั้งราชวงศ์แคว้นเจาคือสกุลเซียวอ๋องฉยงไม่ใช่เป็นญาติกับองค์จักรพรรดิหรอกหรือ?อวิ๋นจูในเมื่อเป็นลูกสาวของเขา เช่นนั้นทำไมจึงไม่ใช่สกุลเซียว แต่เป็นสกิลอวิ๋น?เฝิ่นซิงกดเสียงต่ำ เข้ามาป้องข้างหูนาง "คุณหนูอวิ๋นใช้นามสกิลตามมารดาเจ้าค่ะ"ดังนั้น อ๋องฉยงจึงสกุลเซียวสินะ"ใช้สกุลอวิ๋นหรือ?"หาได้ยากจริงๆ จะพูดอย่างไรก็ถือว่าเป็นสายเลือดของราชวงศ์นะ แล้วอ๋องฉยงกลับให้ลูกสาวใช้สกุลตามมารดาหรือ?อวิ๋นจูดวงตาแดงรื้นขึ้นมาอีกสามส่วน ดูแล้วน่าสงสารเอามากๆนางกัดริมฝีปากล่าง กำลังเตรียมจะพูดอะไร ฟู่จาวหนิงก็เดินเข้ามาก่อน "ในเมื่อเจ้าเป็นลูกสาวของอ๋องฉยง เช่นนั้นมาพักอยู่ในเรือนอ๋องเจวี้ยนจึงไม่เหมาะสม ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไปวังราชนิเวศน์ก็แล้วกัน"พูดจบนางก็ร้องเรียกขึ้นมา "สืออี"อวิ๋นจูนั่งไม่ติดแล้ว นางลุกขึ้นยืน ทำท่าเหมือนจะล้ม "น้องหญิงพระชายา...""เฮอะ"สีหน้าฟู่จาวหนิงขรึมลงไปอีก สีหน้ามีแววประชดประชันขึ้นมา"ได้ ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังไม่ดึกข้ายังไม่อยากนอน จะให้เวลาเจ้าได้สาธยายเสียหน่อย มาๆๆ เจ้าลองอธิบายกับข้าหน่อยสิ ว่าพี่หญิงน้องหญิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1370

    เซียวหลันยวนกลับมาตอนใกล้จะเช้าหนาวเย็นไปทั้งตัว จึงไม่อยากกลับไปทำให้ฟู่จาวหนิงต้องเย็นไปด้วย ดังนั้นจึงไปยังห้องหนังสือผู้ดูแลนำน้ำแกงมาประทังท้องและไล่ความหนาวให้กับเขา พูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้"แค่ไม่กี่คำก็ทำเอาสลบไปเลยหรือ?"เซียวหลันยวนหลังจากได้ยินสีหน้าก็ไม่ค่อยสู้ดีนักชั่วขณะหนึ่ง ผู้ดูแลจงยังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าท่านอ๋องโมโหที่พระชายาทำให้อวิ๋นจูโกรธจนเป็นลมหรือว่าเรื่องอะไรเซียวหลันยวนรู้เรื่องที่อวิ๋นจูมาอยู่ในจวนไม่ได้ไวไปกว่าฟู่จาวหนิงหนักตอนที่หงจั๋วกับเฝิ่นซิงพูดถึงเรื่องในจวนกับฟู่จาวหนิงกันสามคนนั้น ผู้ดูแลก็เพิ่งจะบอกเขาเพียงแต่เขาตอนนั้นมีเรื่องที่ต้องออกไปจัดการ จึงไม่ได้สนใจไปชั่วคราวคิดไม่ถึงว่าพอกลับมากลางดึกจะได้ยินเรื่องเช่นนี้"ท่านอ๋อง คุณหนูอวิ๋นหลังจากสลบไปก็ถูกส่งไปที่เรือนแขกแล้ว เพียงไม่นานก็ตื่นขึ้นมา น่าจะไม่ได้เป็นอะไรมาก พระชายาเองก็คงไม่ได้ตั้งใจ นางไม่รู้เรื่องของอ๋องฉยงเลย ดังนั้นพูดจาจึงค่อนข้างตรงไปตรงมา..."ผู้ดูแลจงเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมาอย่างระมัดระวังเซียวหลันยวนเหล่มองเขาผาดหนึ่ง "เจ้ากำลังพูดแทนพระชายาหรือ?"นี่คิดจะมาขอขม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1371

    "ไปเอาน้ำร้อนมาหน่อย ใส่หยาดหิมะลงไปด้วย ข้าจะเอามาประคบ"หยาดหิมะเป็นยาน้ำที่พวกเขาติดมา ปกติผิวของนางเป็นแผลได้ง่ายมาก จึงต้องประคบร้อนอยู่บ่อยๆ"่เจ้าค่ะ"ซิ่งเอ๋อร์รีบไปเตรียมผ้าขนหนูร้อนๆ หอมๆ ประคบอยู่บนดวงตา อวิ๋นจูจึงถอนใจออกมา "ข้าหิวแล้ว เจ้าไปนำข้าวเช้ามาหน่อย"ซิ่งเอ๋อร์พอได้ยิน ก็กัดริมฝีปากล่างขึ้นมา"คุณหนู เมื่อครู่ข้าไปที่ห้องครัวแล้ว ทางนั้นบอกว่าวันนี้ไม่มีอาหารสำหรับพวกเรา""หมายความว่าอย่างไร?" อวิ๋นจูเอาผ้าขนหนูที่ประคบดวงตาอยู่ลงมาทันที มองซิ่งเอ๋อร์อย่างตกตะลึง"พวกเขาบอกว่า นี่เป็นความเห็นจากอ๋องเจวี้ยน บอกว่าคุณหนูทำผิดเอาไว้ จึงลงโทษไม่ให้กินข้าวหนึ่งวัน ถ้าอยากจะกินก็ออกจากจวนอ๋องเจวี้ยนแล้วไปหากินเอาเอง"พอได้ยินคำนี้ อวิ๋นจูก็งงงันไป"นี่เป็นไปไม่ได้ ท่านพี่อ๋องเจวี้ยนทำไมถึงเป็นคนใจร้ายเช่นนี้? พระชายาไปพูดอะไรให้ร้ายข้ากับเขาหรือเปล่า?"ซิ่งเอ๋อร์ออกแรงพยักหน้า "ข้าว่าต้องใช่แน่ๆ นางจะต้องใส่ร้ายคุณหนู""เมื่อคืนข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วข้าเองก็ไม่ได้ทำอะไรนางด้วย แค่คิดว่านางกลับมาแล้ว นางเองก็เป็นนายหญิงของจวนอ๋อง ข้าควรจะเข้าไปคารวะนางเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1372

    "หนิงหนิง"เซียวหลันยวนเข้ามาพอดี"คารวะท่านอ๋อง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงรีบทำความเคารพ"ไปเตรียมข้าวเช้าเถอะ จะไปกินกันที่เรือนหนิงโยว" เซียวหลันยวนโบกมือให้พวกนาง"่เจ้าค่ะ"สองสาวใช้รีบถอยออกไปฟู่จาวหนิงหมุนตัวเข้ามา มองไปทางเซียวหลันยวนเขายังคงสวมหน้ากากอยู่ดูเหมือนก่อนหน้าที่จะรู้แผนการขององค์จักรพรรดิเขายังไม่คิดจะเปิดเผยใบหน้าแท้จริงออกมาตอนนี้เขาสวมหน้ากากครึ่งหน้าไว้ จะดื่มน้ำหรือกินข้าวก็ไม่เป็นอุปสรรค เหมือนกับเขาสมัยก่อนเขาอยู่ในชุดคลุมผ้าไหมสีม่วงเข้มเหมือนเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ฟู่จาวหนิงจึงถามขึ้น "ไปพบอวิ๋นจูที่เรือนแขกมาหรือ?"ไม่เช่นนั้นจะไปลงโทษคนเขาไม่ทำตามกฎเกณฑ์ได้อย่างไรกัน?เซียวหลันยวนงงงันเขาสังเกตเห็นในพริบตาว่าอารมณ์ของฟู่จาวหนิงนั้นไม่ดีนัก"ข้ากับมาจากด้านนอก ทำไมต้องไปพบน้องอวิ๋นด้วยล่ะ?""ข้าได้ยินว่า ท่านอ๋องลงโทษห้ามนางกินข้าวหนึ่งวัน สาเหตุคือนางไม่ทำตามกฎระเบียบ เข้าไปในเรือนโยวหนิงโดยพลการ" ฟู่จาวหนิงเดินมาตรงหน้าเขา มือข้างหนึ่งทาบไปเบาๆ ที่หน้าอกเขา เงยหน้ามองเขา น้ำเสียงอ่อนนุ่ม "ข้าอยากจะถาม ว่ากฎระเบียบของจวนอ๋องนี้คืออะไรกัน? บอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1373

    นางใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าอกเขา "อวิ๋นจูคนนั้นท่านไปพบมาแล้วหรือยัง? ทั้งขาวทั้งสวยแล้วก็น่าเอ็นดูด้วยนะ เมื่อคืนนี้ข้าเจอนางครั้งหนึ่งก็ทำเอานางโมโหจนสลบไปเลย ท่านคิดว่าข้าใจดำไปหน่อยไหม?""แล้วเจ้าถูกยั่วโมโหหรือเปล่า? ถ้าเจ้าถูกยั่วโมโหล่ะก็ ก็ไปอัดนางระบายโกรธเสียหน่อย" เซียวหลันยวนกุมมือนาง ดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดตน ก้มหน้าลงจูบบนริมฝีปากนางครู่หนึ่ง "ใครให้เจ้าหน้าตาแบบนี้ล่ะ? ในใจข้า ไม่มีใครเทียบหนิงหนิงได้อยู่แล้ว"พูดจบ เขาก็จูบอย่างดูดดื่มยิ่งขึ้นฟู่จาวหนิงถูกเขาจูบจนตัวเริ่มอ่อนยวบ"ท่านอ๋อง..."หงจั๋วจะเข้ามาเชิญพวกเขาไปกินข้าวเช้าด้านนอก ผลคือพอเข้ามาก็เห็นทั้งสองคนกอดกันกลม จึงรีบถอยออกไปทันที ใบหน้าแดงก่ำท่านอ๋องกับพระชายานี่รักกันดีจริงๆก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ใช่แบบนี้นี่นา ดูท่าหลังจากนี้นางคงจะเดินเข้าไปก่อนอย่างเคยชินไม่ได้แล้ว ต้องส่งเสียงก่อนด้วยฟู่จาวหนิงยื่นมือไปจิ้มเอวเซียวหลันยวนนางเองก็ไม่ใช่ว่าด้วยกำลังภายในของเขาจะไม่ได้ยินว่าหงจั๋วเดินเข้ามา แต่นี่ดันไม่ยอมปล่อยนางก่อนเสียอย่างนั้นเซียวหลันยวนจูบนางเสร็จ จึงปล่อยนางออกอย่างอาลัยอาวรณ์ ใช้ปลายนิ้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1374

    เซียวหลันยวนเหมือนไม่เคยเรียกองค์จักรพรรดิฮองเฮาไทเฮาอย่างจริงจังเลยฟู่จาวหนิงถูกเขาพูดมาเช่นนี้จึงไม่มีคำจะต่อแล้ว"ไม่ใช่ว่าใครก็จะมาเรียกข้าว่าพี่ชายได้" เซียวหลันยวนถึงอย่างไรก็เป็นคนที่นิสัยโดดเดี่ยวมากตอนเขายังเล็กมากก็ถูกวางยาพิษจนเกือบตาย คนข้างกายเขาเหล่านั้นก็ไม่จริงใจกับเขา ต่อให้พวกคนในวังที่มารับใช้ข้างกายเขาตอนที่ยังเล็กส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ขั้วอำนาจต่างๆ ส่งเข้ามาคอยจับจ้องเขาทั้งนั้น คิดหาวิธีเล่นงานเขาให้ตาย ทรมานเขา คนแบบไหนก็มีทั้งนั้นพวกพี่น้องหรือเหล่าองค์หญิงก็ล้วนเอาแต่แย่งชิงความโปรดปรานกันหมดตอนเขายังเล็กถูกพากลับเข้าวัง หลังจากที่ไท่ซ่างหวงปฏิบัติกับเขาเป็นพิเศษ พวกพี่น้องเหล่านั้นก็เข้าหาเขาด้วยเป้าหมายต่างๆ นานาเคยมีองค์หญิงเล็กคนหนึ่งทำดีกับเขา แต่ต่อมาเขาก็รู้ว่า นั่นเป็นเพราะน้องสาวคนนั้นรู้สึกว่าไท่ซ่างหวงเอ็นดูเขา ถ้ามีความสัมพันธ์อันดีกับเขาหน่อย ไท่ซ่างหวงก็อาจจะเอ็นดูตามไปด้วยแม่นางคนนั้นแต่ก่อนก็เรียกเขาว่าพี่ชายพี่ชาย แต่หลังจากที่รู้เป้าหมายของนางที่ยังเล็กแล้ว เซียวหลันยวนก็ตีตัวออกห่าง และไม่ยอมให้ใครเรียกตนเองว่าพี่ชายอีกเลยถึงอย่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1375

    ลากเวลามาได้นานขนาดนี้ องค์หญิงหนานฉือก็ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วยังอยู่ในเมืองหลวงมาได้ตลอดรอดฝั่งอีกคนที่แคว้นหนานฉือกู่ก็ไม่ได้เร่งรัดนาง องค์จักรพรรดิเลยปล่อยให้นางกินข้าวสบายอยู่ที่นี่หรือ?ยิ่งไปกว่านั้นเพราะอะไรองค์หญิงหนานฉือจึงมากับอันเหนียนล่ะ?เซียวหลันยวนให้ผู้ดูแลไปเชิญคนเข้ามาที่โถงหน้าเขากับฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าเสร็จจึงค่อยเดินออกไปพอเห็นคนที่นั่งอยู่ที่โถงหน้า สายตาของฟู่จาวหนิงืก็ย้ายจากตัวอันเหนียนไปที่ตัวองค์หญิงหนานฉือ จากนั้นก็หันมามองหน้าอันเหนียนอีก"สองคนนี้มีอะไรกันหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมถึงอยู่ด้วยกันบ่อยจัง?"ฟู่จาวหนิงถามเซียวหลันยวนเสียงแผ่วแต่ว่า เซียวหลันยวนก็ไม่ตอบ นางมองออกถึงความผิดปกติขององค์หญิงหนานฉือ "ไม่ถูกสิ องค์หญิงหนานฉือทำไมถึงผอมลงไปขนาดนี้?"ใบหน้าก็เล็กลง เดิมทีเป็นสาวสวยคนหนึ่ง ตอนนี้พอหน้าเล็กลง ดวงตาจึงดูใหญ่ขึ้น สีหน้าขาวซีด ดูแล้วเหมือนอ่อนแอลงไปอย่างไรอย่างนั้นพอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามา องค์หญิงหนานฉือก็ลุกขึ้นยืนทันที"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านกลับมาได้เสียที!"นางพูดคำนี้ออกมา แล้วรีบพุ่งโถมไปหาฟู่จาวหนิงนี่ราวกับเป็นเพื่อนเก่

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1888

    "ดูการเคลื่อนไหวของทูตแคว้นหมิ่นอีกหน่อย"เซียวหลันยวนรู้สึกว่าตอนนี้ยังออกไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ดูก่อนว่าทูตของแคว้นหมิ่นเจรจากับองค์จักรพรรดิได้หรือไม่ฟู่จาวหนิงดึงเขานั่งลง อ้อมไปอยู่ด้านหลังแล้วนวดหัวให้เขาหลายวันนี้เขาเองก็ยุ่งเหลือเกิน ต้องจัดการเรื่องตั้งมากมาย นางเหนื่อย เขาเองก็ไม่ได้สบายเท่าไรนัก"แคว้นหมิ่นต้องการตงฉิง เรื่องนี้ท่านคิดอย่างไรบ้างล่ะ?"ตงฉิง ถึงอย่างไรก็เป็นของเขาเขาตอนนี้คงผู้สืบทอดหนึ่งเดียวของตงฉิงตงฉิงตอนนี้ต่อให้ยังไม่เห็นท้องฟ้าเห็นตะวัน แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีเจ้าของถ้าหากแคว้นหมิ่นต้องการคลังสมบัติกับเหมืองแร่ของตงฉิง ก็เท่ากับต้องการสิ่งของของเซียวหลันยวน จากความเข้าใจต่อเซียวหลันยวนของฟู่จาวหนิง เขาจะไม่ทนดูของของตนเองถูกแบ่งออกไปแน่เซียวหลันยวนสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายและสบายที่นิ้วของนางนำมา"ตงฉิง ข้าไม่ยอมยกให้อยู่แล้ว"ตงฉิง เขามีจุดประสงค์อื่นอยู่แล้วของที่เป็นของเขา เขาไม่มีทางยอมให้เปล่าๆ แบบนี้ไหนจะเรื่องนี้ แม้เขาเป็นคนแคว้นเจา แต่ตอนที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตงฉิงครั้งนั้น แคว้นเจารู้แต่ก็ไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ในอดีตเคยรับบุ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1887

    ฟู่จาวหนิงเห็นเขาเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่"รู้สึกว่าเขาไม่ควรโง่ขนาดนี้"เซียวหลันยวนคิดถึงท่วงท่าสง่าผ่าเผยสมัยที่จักรพรรดิยังวัยหนุ่ม คิดถึงตอนที่เขายังเด็ก ตอนที่องค์จักรพรรดิยิ้มแย้มทักทายเขา แต่พอหันกลับก็วางแผนเกือบทำเขาจมบ่อน้ำตายครั้งนั้น เขามองไม่ออกถึงแผนการที่องค์จักรพรรดิสร้างขึ้นมาจริงๆต่อมาให้คนไปตรวจสอบก็ยังตรวจสอบอะไรไม่ได้ หลักฐานทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเชื่อมั่นสัญชาตญาณตนเองเกินไป เขาก็คงถูกหลอกผ่านไปแล้วแต่ว่าตอนนี้องค์จักรพรรดิกลับโง่แบบนี้ไปแล้วหรือ?"ก่อนหน้านี้ที่ข้าจับชีพจรให้องค์จักรพรรดิ ก็ไม่พบว่าเขาโดนยาพิษอะไร" ฟู่จาวหนิงนึกย้อนกลับไปตอนที่จับชีพจรให้องค์จักรพรรดิ "แต่ว่า จับชีพจรเองก็ไม่ได้แม่นยำไปเสียทั้งหมด ถ้าหากโดนพิษที่ออกฤทธิ์ช้ามาหลายปีจนทำร้ายสมองเข้า ก็ไม่แน่ว่าจะตรวจหาพบ"ฟู่จาวหนิงมองเขา "ท่านสงสัยเรื่องนี้หรือ?"เขาน่าจะสงสัยว่าองค์จักรพรรดิถูกวางยาพิษ พอสะสมนานวันเข้าจึงกระทบไปถึงสมองจะว่าไปก็ไม่แน่ว่าจะเป็นไปไม่ได้"เป็นไปได้ แต่ในเมื่อเจ้าตรวจไม่เจอ ก็อธิบายว่าต่อให้ถูกว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1886

    เสิ่นเชี่ยวยืนยันว่าไม่ได้ยินเรื่องขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลยจริงๆพอเซียวหลันยวนกลับมา ฟู่จาวหนิงจึงถามขึ้นเซียวหลันยวนก็มีแหล่งข่าวของตนเองอยู่"นางกับหยวนอี้อยู่ด้วยกัน ทั้งสองคนบาดเจ็บ หยวนอี้หนักหน่อย ตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแต่งตัวเป็นสาวใช้วัง พักฟื้นอยู่ด้วยกันในวังราชนิเวศน์ ทั้งสองคนไม่ออกไปไหนเลย"เซียวหลันยวนหลังจากกลับมาก็พักผ่อนไปหนึ่งวัน จากนั้นก็เริ่มจัดการธุระเรื่องต่างๆองค์จักรพรรดิยังไม่เรียกเขาเข้าวัง ตอนนี้น่าจะยังกลัวอยู่หน่อยๆ กลัวเขาที่เพิ่งกลับมาจากเมืองเจ้อ จะถูกติดโรคระบาดมาหรือเปล่าเรื่องครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกความขี้ขลาดกลัวตายขององค์จักรพรรดิ เขาเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้รู้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเมืองเจ้อ องค์จักรพรรดิขี้เกียจจะไปถาม เพราะถ้าจะถามขึ้นมาจริงๆ เป็นไปได้มากว่าจะถูกเขาพูดไปถึงช่วงหลัง แล้วถามหาความรับผิดชอบเรื่องวัตถุดิบยากับเสบียงเหล่านั้นระดับความขี้เหนียวขนาดนั้นขององค์จักรพรรดิ จะยอมออกมาได้อย่างไร?ดังนั้นเรื่องนี้เกรงว่าคงมีแต่จะยื้อออกไปเรื่อยๆ ลากไปจนกว่าโหยวจางเหวินจะเข้าวังเซียวหลันยวนตอนนี้ก็ขี้เกียจไปคิดเล็กคิดน้อยกับอง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1885

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวมองจูเฉียนเฉี่ยน"คนทั้งหมดล้วนกำลังยุ่งกับเรื่องสำคัญ ยุ่งกันจนหัวหมุน ใครมีเวลามาสนใจเรื่องไร้สาระของเจ้ากัน? อย่าคิดว่าทุกคนเขาจะเอาแต่คิดเรื่องความรักที่ไม่เหมาะสมนี้! หมอฟู่เองก็ไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรเจ้า แค่ไม่อยากให้เจ้าทำเรื่องเสียต่างหาก""ข้าไปทำเรื่องเสียตอนไหนกัน? ข้าก็ช่วยอยู่ที่นั่นตลอด ข้าเองก็ช่วยไปตั้งเยอะไม่ใช่หรือไง?" จูเฉียนเฉี่ยนน้อยใจ"เช่นนั้นเจ้าก็ทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้เรอะ? ยังคิดจะตามไปเมืองหลวงอีก?""ท่านลุง หรือข้าจะต้องเป็นยายแก่ที่ไม่ได้แต่งงานไปตลอดชีวิตกัน? พ่อกับแม่ข้าจะไม่วางใจเอานะ!" จูเฉียนเฉี่ยนตาแดงรื้นขึ้นมานางมองไปยังรถม้าที่แล่นห่างออกไป รู้ว่าตอนนี้ตนเองตามไปไม่ทันแล้ว เสียใจจนอยากจะร้องไห้"ใครไม่ให้เจ้าแต่งงานกัน? ข้าจะให้ป้าของเจ้าหาคู่ครองที่เหมาะสมให้เจ้เาอง""ชีวิตของข้าไม่เหมาะกับคนธรรมดา!" จูเฉียนเฉี่ยนร้องขึ้นมาอีกนางแต่งงานส่งเดชไม่ได้"เช่นนั้นก็หาคนที่เหมาะก็จบแล้วนี่!" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวตะคอกเสียงขรึมถึงอย่างไรถ้าเขาทำให้จูเฉียนเฉี่ยนไประรานตระกูลฟู่ ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีหน้าไปพบหมอฟู่แล้วจูเฉียนเฉ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status