"ข้ารู้ว่าท่านคือแม่นางฟู่ศิษย์น้องหญิงของลุงต่ง แต่ว่า แต่ว่าไม่ทราบคุณชายท่านนี้..."เฉินฮ่าวจูทำใจมาตลอดทาง พอเห็นโถงอาหารอยู่ไม่ไกลแล้ว นางจึงทนไม่ไหวอีก หมุนตัวกลับมายืนนิ่ง เหลือบมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นมาตรงๆ"เขาหรือ" ฟู่จาวหนิงยิ้ม "สามีของข้าเอง""อ๋า?"เฉินฮ่าวจูแม้จะเดาได้ว่านี่คือสามีของนาง แต่พอเจอการยืนยันเข้าจริง ในใจนางก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้างนางมาช้าไปหรรือ?"เช่นนั้นฮ่าวจูควรจะเรียกอย่างไร?"พูดมาแล้วว่าเป็นสามีของนาง แล้วยังจะเรียกอีกหรือ? แม่นางคนนี้กล้าหาญดีจริงๆฟู่จาวหนิงเม้มปาก รู้สึกอยากจะหัวเราะออกมา"ท่านเซียวหก"ท่านเซียวหก?คำเรียกนี้มัน...เซียวหลันยวนดึงนางเข้ามาใกล้อย่างจนใจ เดินผ่านข้างตัวเฉินฮ่าวจู พูดมาคำหนึ่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "หากมีธุระ ก็บอกฮูหยินของข้า ไม่จำเป็นต้องพูดกับข้าหรอก"เขาไม่มีใจที่จะมารับมือกับแม่นางน้อยแบบนี้เลยจริงๆพอเห็นว่าผู้อาวุโสจี้กับต่งฮ่วนจือมาแล้ว พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องให้เฉินฮ่าวจูนำทางอีก เดนิตรงเข้าไปทันทีในห้องอาหารมีโต๊ะตัวใหญ่ นั่งได้ถึงสิบสองคน"จาวหนิง รีบมาเร็ว ศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าวันนี้เต็มใจย
ต่งฮ่วนจืออุ้มไหสุราเข้ามา ด้านหลังมีฮูหยินเฉินตามมาด้วยฮูหยินเฉินพอเข้ามา ลมก็พัดเข้ามาจากด้านนอก นำกลิ่นหอมจรุงบนตัวนางเข้ามาด้วยความหอมนี้ไม่ใช่พวกถุงหอม แต่เป็นกลิ่นหอมชั้นสูงมากเฉินฮ่าวจูอยู่ข้างกายนางฟู่จาวหนิงพิจารณาตัวฮูหยินเฉินฮูหยินเฉินคนนี้หน้าตาสะสวย หลักๆ คือบุคลิกภาพและรูปร่างดีมาก เฉินฮ่าวจูคิ้วตาดูคล้ายกับนาง แค่มองก็รู้ว่าเป็นแม่ลูกกันและกระโปรงของนางก็ปักดอกไม้สีเงินเอาไว้ผืนหนึ่ง ดูเป็นเอกลักษณ์มาก ระหว่างที่เดินก็เหมือนมีคลื่นน้ำกำลังกระเพื่อม ทำเอาคนต้องจ้องกันไม่วางตาผู้อาวุโสจี้พอเห็นสองแม่ลูกเข้ามา ก็อดมองไปทางต่งฮ่วนจือไม่ได้ตอนกลางวันก็บอกไปแล้ว พอรับสองแม่ลูกนี้มาก็รับมาเสียสี่ปี ตอนนี้ทำไมยังพามาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงด้วย?"ข้าขอแนะนำสักนิด คนผู้นี้คือฮูหยินเฉินกับลูกสาวของนางฮ่าวจู งานเลี้ยงคืนนี้ เป็นฮูหยินเฉินที่เชิญพ่อครัวของเมืองจี้เพื่อมาจัดเลี้ยงต้อนรับท่านอาจารย์และศิษย์น้องหญิงเป็นพิเศษ"ต่งฮ่วนจือไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะควร ฮูหยินเฉินเป็นคนที่ทำตัวดีไม่สร้างปัญหามาโดย ตลอดยิ่งไปกว่านั้นตัคนเองก็ยังอ่อนโยนและจิตใ
อ๋องเจวี้ยนที่ไม่สวมหน้ากาก!องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนแล้ว!ตอนนี้นางเห็นแค่แผ่นเล็กๆ แปะอยู่บนหน้าเท่านั้น แทบไม่ส่งผลกระทบกับใบหน้าของเขาเลยพอมองเช่นนี้ ความหล่อเหลานั่นก็ยิ่งทำให้จิตใจคนเคลิบเคลิ้มเมามายนางรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่เล่าลือกัน บอกว่าหน้าเหมือนผีทำเอาเด็กน้อยร้องไห้อะไรนั่น โกหกทั้งเพ!นางมีโชคติดตัวจริงๆ คืนนี้เดิมทีไม่ได้ตั้งใจจะมาพันธมิตรโอสถ นางกับซือถูไป๋เตรียมจะไปหอสุราเพื่อทานอาหารเย็น แต่ก็ไม่รู้ทำไมพอผ่านพันธมิตรโอสถ นางก็เกิดสนใจขึ้นมา ร้องให้หยุดรถม้า ในใจเกิดความอยากจะลงจากรถม้าแล้วเข้าไปทันทีและตามคาด ถ้าไม่เข้ามากะทันหัน นางจะได้เห็นใบหน้าแท้จริงของอ๋องเจวี้ยนหรือ?ตอนนั้นยังเอาแต่คิดว่าใบหน้าแท้จริงของอ๋องเจวี้ยนคงพังไปแล้ว และน่าจะน่ากลัวเอามากๆเซียวหลันยวนถูกสายตาร้อนแรงของนางจ้องมองจนต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยอาหารมื้อนี้เขารู้สึกเหมือนกินไม่ลงแล้วแต่เมื่อครู่เห็นท่าทีของฟู่จาวหนิง นางดูจะสนใจกับอาหารเหล่านี้มาก ดังนั้นเขาจึงต้องทนไปก่อน"คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะมาเมืองจี้ด้วย รีบนั่งเถิด" ต่งฮ่วนจือ
อ๋องเจวี้ยนแห่งแคว้นเจา!ท่านอ๋องที่สูงส่ง! สายตาของนางยอดเยี่ยมจริงๆ ชายหนุ่มที่ตกหลุมรักครั้งแรกเป็นถึงอ๋องเจวี้ยน!หลังจากรู้ตัวตนฐานะของอ๋องเจวี้ยน นางก็ยิ่งไม่อยากยอมแพ้แล้ว!เช่นนั้นฟู่จาวหนิงก็เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน"ท่านแม่ ข้า..."เฉินฮ่าวจูก้มหน้าต่ำ ดึงชายเสื้อของฮูหยินเฉิน"มีอะไรหรือ?"ฮูหยินเฉินยังคิดว่านางได้พบกับองค์หญิงใหญ่และท่านอ๋องจนรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเฉินฮ่าวจูเดิมทีอยากจะถามออกไปคำหนึ่ง ว่านางไปเป็นสนมได้ไหม สนมของท่านอ๋อง น่าจะแตกต่างกับสนมทั่วไปกระมัง?แต่ลุงต่งก็นั่งอยู่ข้างๆ นางกลัวว่าจะถูกได้ยินเข้า จึงเม้มปากไม่พูดออกมาทว่าทางนั้น หลังจากที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นชูถ้วยสุราเอ่ยประโยคนั้นกับเซียวหลันยวน บรรยากาศบนโต๊ะก็แข็งทื่อไปในพริบตา ทุกคนล้วนตะลึงสงสัยสลับกันไปมา ไม่รู้ควรพูดอะไรดีเซียวหลันยวนมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนางเองก็ยังชูถ้วยสุราไม่ขยับ ราวกับว่าถ้าเขาไม่มีปฏิกิริยา นางก็จะชูถ้วยเอาไว้อย่างนั้นตลอด"เขาตอนนี้ไม่เหมาะจะดื่มสุราน่ะ ถ้าองค์หญิงใหญ่อยากดื่ม ข้าจะดื่มกับท่านสักถ้วยเอง"ฟู่จาวหนิงชูถ้วยสุราขึ้น จากนั้นก็ดื่มลงไปจนหมด
เซียวหลันยวนพอเห็นสีหน้าซือถูไป๋ชะงักไป ก็เหลือบมองดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผาดหนึ่ง น้ำเสียงยิ่งจืดจางไปอีก"พระชายาของข้ามีจิตใจงาม ไม่คิดจะทำให้ใครเสียหน้าจึงหาเหตุผลมาอ้าง แต่ถ้าอยากให้ข้าพูดตรงๆ มันก็คือไม่อยากจะดื่มกับคนอื่นไม่ใช่หรือ?"พอเขาพูดออกมา สีหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เปลี่ยนไปแล้วต่งฮ่วนจือในใจก็อดขมขื่นขึ้นไม่ได้อ๋องเจวี้ยนไม่ไว้หน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลยจริงๆคนอื่นเห็นสภาพจะร้องไห้ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแล้ว ก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้จริงๆตอนนี้เอง เฉินฮ่าวจูก็ชูถ้วยสุรายืนขึ้นมาฮูหยินเฉินคิดไม่ถึงว่านางจะทำเช่นนี้ ดังนั้นจึงยั้งไว้ไม่ทันนางทำได้แค่มองลูกสาวอย่างร้อนรน ไม่รู้ว่านางจะทำอะไรเฉินฮ่าวจูสูดลมหายใจลึก นางไม่อยากให้อ๋องเจวี้ยนผิดใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นี่คือต้าชื่อนะ ถ้าหากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นโกรธขึ้นมาจริงๆ อ๋องเจวี้ยนอาจจะตกอยู่ในอันตราย นางจะช่วยอ๋องเจวี้ยนเองเขาผิดใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น จะต้องเป็นเพราะฟู่จาวหนิงหึงหวงแน่ๆ หึงหวงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ดังนั้นแค่สุราก็ยังไม่ยอมให้อ๋องเจวี้ยนได้ดื่มไม่รู้กาลเทศะนี่คือการประเมินต่อตัวฟู่จาวหน
"พวกท่านกินอิ่มแล้วหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตะลึงงันไป"ใช่ พวกเราขอตัวก่อน""พระชายาอ๋องเจวี้ยน...""องค์หญิงใหญ่ลองชิมอาหารนี้ดู นี่เป็นรสชาติของเมืองจี้เลยนะ เมืองหลวงจักรพรรดิทางนั้นไม่มีหรอก ไม่รู้ว่าท่านเลยกินแล้วหรือยัง"ผู้อาวุโสจี้เข้าขวางบทสนทนาของนางทันที ส่งสัญญาณให้สาวใช้วังของนางมาตักแบ่งสำรับ จากนั้นก็จงใจใช้คำพูดรังเกียจหน่อยๆ "ศิษย์น้องเล็กของข้าคนนี้กินข้าวไว ไม่ค่อยพิถีพิถัน อะไรที่ถูกปากก็จะกินอย่างอิ่มหนำสำราญ"แต่ตอนที่พูดคำพูดนี้น้ำเสียงของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูกินอย่างอิ่มหนำสำราญมีอะไรผิดกัน? หรือว่ามันเทียบกับพวกเขาที่กินกันอย่างมีพิธีรีตองแบบนั้น?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็อิจฉามาก นางเองก็อยากจะมีอิสระอย่างเต็มทีแบบฟู่จาวหนิงเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายก็ยังมีอ๋องเจวี้ยนคอยคีบอาหารให้นางอยู่ตลอดอีกแต่นางนั้นไม่มีเลยคำพูดนี้ของผู้อาวุโสจี้เหมือนกำลังกระตุ้นนางถึงอย่างไรนางก็ถูกขวางไว้เช่นนี้แล้ว ก็ทำได้แค่มองเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงออกจากห้องอาหารไปเฉินฮ่าวจูเองก็มองแผ่นหลังพวกเขาตาแป๋วนางรวบรวมความกล้า แต่งหน้าอย่างตั้งใจ เดิมทีคิดว
อิ๋นสั่วตัดสินใจออกมานางไม่อยากให้องค์หญิงใหญ่ของนางต้องมาเจ็บปวดแบบนี้ถ้าหากองค์หญิงใหญ่อยากจะแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนจริงๆ นางก็อยากจะหาวิธีแยกอ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงออกจากกัน"องค์หญิงใหญ่ ข้าน้อยเพิ่งพูดไป อ๋องเจวี้ยนตอนนี้ในใจมีแต่ฟู่จาวหนิง แต่ถ้าหากฟู่จาวหนิงกลายเป็นตัวตนฐานะอื่นล่ะ?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นใจเต้นผาง"นางยังจะมีตัวตนฐานะอื่นได้อีกหรือ?""ฝ่าบาทชอบหญิงสาวหน้าตาสะสวยและมีความสามารถมาแต่ไหนแต่ไร" อิ๋นสั่วกดเสียงต่อ คำพูดนี้พูดออกมาอย่างมีนัยยะแฝงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึง สายตาที่มองอิ๋นสั่วเริ่มสับสนขึ้นมา"อย่างนั้นไม่ได้นะ...""องค์หญิงใหญ่ ท่านมองออกไหมว่าแม่นางฟู่คนนั้นยังมีร่างกายที่บริสุทธิ์หรือเปล่า?"อิ๋นสั่วแม้จะเป็นหญิงสาวที่โตแล้ว แต่หลังจากนางถูกมองว่าเป็นคนข้างกายองค์หญิงใหญ่ก็ฝึกฝนตัวตนฐานะนางกำนัลอาวุโสมาแล้ว ตัวตนฐานะอย่างนางกับเฉินเซียง เรื่องที่เรียนรู้มามีมากมาย"อ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงตอนที่อยู่ด้วยกัน ร่างกายของทั้งสองคนไม่ได้ใกล้ชิดกันอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนคนที่เคยมีความสัมพันธ์อย่างหวานชื่น ตอนที่ฟู่จาวหนิงเดินเหินก็ยังเป็นท่าทางข
ตอนแรกที่นางแต่งงานกับเซียวหลันยวน ก็เป็นเช่นนี้จริงๆดังนั้นที่อิ๋นสั่ววิเคราะห์มานั้นถูกต้ององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกว่าอิ๋นสั่วพูดมามีเหตุผล"เพียงแต่ว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรข้าเลย""นั่นก็เป็นไปได้มากกว่าเพราะเขาเป็นคนที่รักษาคำสัญญา เขากับแม่นางฟู่มีการแลกเปลี่ยนกัน แน่นอนว่าต้องฟังแม่นางฟู่ ต้องเว้นระยะห่างกับหญิงสาวคนอื่น"อิ๋นสั่วพยายามเตือนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "แต่ถ้าหากแม่นางฟู่ผิดสัญญาการแลกเปลี่ยนของพวกเขาขึ้นก่อนล่ะ เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาอีกต่อไป ถึงตอนนั้นองค์หญิงใหญ่ท่านก็เข้าไปปลอบโยนอ๋องเจวี้ยน เป็นไปได้มากกว่าอาจจะทำให้ใจเขาหวั่นไหวได้"ฟังนางพูดเช่นนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ไม่พูดอะไรต่อแล้วเพราะนางเข้าใจความหมายของอิ๋นสั่วถ้าส่งฟู่จาวหนิงเข้าวังได้ ส่งนางไปตรงหน้าองค์จักรพรรดิ ให้องค์จักรพรรดิเห็นฟู่จาวหนิงที่งามขนาดนั้น จากนั้นก็อวดอ้างวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิงให้ยิ่งวิเศษมหัศจรรย์ วิชาแพทย์บวกกับความงาม สิ่งนี้ทำต้องทำให้องค์จักรพรรดิสนใจอย่างมาก และไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ขอแค่ฟู่จาวหนิงเข้าตาองค์จักรพรรดิ อ๋องเจวี