อิ๋นสั่วตัดสินใจออกมานางไม่อยากให้องค์หญิงใหญ่ของนางต้องมาเจ็บปวดแบบนี้ถ้าหากองค์หญิงใหญ่อยากจะแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนจริงๆ นางก็อยากจะหาวิธีแยกอ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงออกจากกัน"องค์หญิงใหญ่ ข้าน้อยเพิ่งพูดไป อ๋องเจวี้ยนตอนนี้ในใจมีแต่ฟู่จาวหนิง แต่ถ้าหากฟู่จาวหนิงกลายเป็นตัวตนฐานะอื่นล่ะ?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นใจเต้นผาง"นางยังจะมีตัวตนฐานะอื่นได้อีกหรือ?""ฝ่าบาทชอบหญิงสาวหน้าตาสะสวยและมีความสามารถมาแต่ไหนแต่ไร" อิ๋นสั่วกดเสียงต่อ คำพูดนี้พูดออกมาอย่างมีนัยยะแฝงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึง สายตาที่มองอิ๋นสั่วเริ่มสับสนขึ้นมา"อย่างนั้นไม่ได้นะ...""องค์หญิงใหญ่ ท่านมองออกไหมว่าแม่นางฟู่คนนั้นยังมีร่างกายที่บริสุทธิ์หรือเปล่า?"อิ๋นสั่วแม้จะเป็นหญิงสาวที่โตแล้ว แต่หลังจากนางถูกมองว่าเป็นคนข้างกายองค์หญิงใหญ่ก็ฝึกฝนตัวตนฐานะนางกำนัลอาวุโสมาแล้ว ตัวตนฐานะอย่างนางกับเฉินเซียง เรื่องที่เรียนรู้มามีมากมาย"อ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงตอนที่อยู่ด้วยกัน ร่างกายของทั้งสองคนไม่ได้ใกล้ชิดกันอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนคนที่เคยมีความสัมพันธ์อย่างหวานชื่น ตอนที่ฟู่จาวหนิงเดินเหินก็ยังเป็นท่าทางข
ตอนแรกที่นางแต่งงานกับเซียวหลันยวน ก็เป็นเช่นนี้จริงๆดังนั้นที่อิ๋นสั่ววิเคราะห์มานั้นถูกต้ององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกว่าอิ๋นสั่วพูดมามีเหตุผล"เพียงแต่ว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรข้าเลย""นั่นก็เป็นไปได้มากกว่าเพราะเขาเป็นคนที่รักษาคำสัญญา เขากับแม่นางฟู่มีการแลกเปลี่ยนกัน แน่นอนว่าต้องฟังแม่นางฟู่ ต้องเว้นระยะห่างกับหญิงสาวคนอื่น"อิ๋นสั่วพยายามเตือนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "แต่ถ้าหากแม่นางฟู่ผิดสัญญาการแลกเปลี่ยนของพวกเขาขึ้นก่อนล่ะ เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญาอีกต่อไป ถึงตอนนั้นองค์หญิงใหญ่ท่านก็เข้าไปปลอบโยนอ๋องเจวี้ยน เป็นไปได้มากกว่าอาจจะทำให้ใจเขาหวั่นไหวได้"ฟังนางพูดเช่นนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ไม่พูดอะไรต่อแล้วเพราะนางเข้าใจความหมายของอิ๋นสั่วถ้าส่งฟู่จาวหนิงเข้าวังได้ ส่งนางไปตรงหน้าองค์จักรพรรดิ ให้องค์จักรพรรดิเห็นฟู่จาวหนิงที่งามขนาดนั้น จากนั้นก็อวดอ้างวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิงให้ยิ่งวิเศษมหัศจรรย์ วิชาแพทย์บวกกับความงาม สิ่งนี้ทำต้องทำให้องค์จักรพรรดิสนใจอย่างมาก และไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ขอแค่ฟู่จาวหนิงเข้าตาองค์จักรพรรดิ อ๋องเจวี
คนตระกูลซุนจากแคว้นหมิ่นแน่นอนว่าพักกันอยู่ที่นี่และวันนี้ หมอเทวดาหลี่จากแคว้นเจาก็มาถึงแล้วนอกจากหมอเทวดาหลี่ หมอเทวดาอันที่มีชื่อเสียงวิชาแพทย์ลือกระฉ่อนทางเจียงหนานแคว้นเจาก็มาถึงด้วยเช่นกัน เขาทั้งสองคนเจอกันกลางทางจึงรวมกลุ่มมาด้วยกันอันที่จริงถึงอย่างไรก็ไปทางเดียวกัน ความเร็วในการเดินจึงใกล้เคียงกัน ไม่รวมกลุ่มก็เหมือนรวมกลุ่มอยู่ดีพอมาถึงเมืองจี้ หมอเทวดาหลี่และหมอเทวดาอันก็ล้วนเข้าไปพักในหอวัฒนธรรมเดิมทีหมอเทวดาหลี่เวลาอยู่ต่อหน้าหมอเทวดาอันก็มีท่าทีสูงส่งอยู่ ถึงอย่างไรเขาก็เข้าไปอยู่ถึงในเมืองหลวงได้ เป็นคนดังต่อหน้าองค์จักรพรรดิ ตอนเข้าออกวังจักรพรรดิ คนทีคบค้าด้วยก็ล้วนเป็นเหล่าราชวงศ์และขุนนางชั้นสูงก่อนหน้านี้หมอเทวดาหลี่ก็แอบเหยียบหน้าหมอเทวดาอันอยู่ไม่น้อยแต่ครั้งนี้พอเจอเข้ากับหมอเทวดาอัน ท่าทีของหมอเทวดาหลี่ก็กดลงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เวลาพูดจาก็เอาแต่เรียกท่านหลี่อย่างนั้นท่านหลี่อย่างนี้ ศิษย์น้องอย่างนั้นศิษย์น้องอย่างนี้ทำเอาหมอเทวดาหลี่ยังงงงันไปหมอเทวดาอันอยู่ที่เจียงหนาน ในบ้านเดิมทีก็ร่ำรวยอยู่แล้ว หลังจากชื่อเสียงของหมอเทวดาลือออกไป ก็มีขุนนางผ
"บ้านนั้นเป็นใครกันหรือ?" ฟู่จาวหนิงไม่รู้จักครอบครัวของหมอเทวดาอัน"อันฉิน หมอเทวดาแห่งหนานเจียง ข้างๆ เขาคือลูกชายอันหลี่ และยังมีหลานชายอันหราน" สืออีแนะนำให้นางเสียงต่ำในเมื่อเป็นคนแคว้นเจา แล้วยังมีชื่อเสียงอีก เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องเคยตรวจสอบไปแล้ว"นี่เป็นครอบครัวที่คนทั้งสามรุ่นล้วนเข้าร่วมงานประชุมหมอใหญ่"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินก็ตกใจดูแล้วน่าจะให้ความสำคัญกับงานประชุมหมอใหญ่จริงๆ"งานประชุมหมอใหญ่ครั้งนี้ตอนท้ายสุดจะจัดการประชุมครั้งหนึ่ง" ไป๋หู่พูดสิ่งที่เขาไปหาข้อมูลมา ก็น่าจะประมาณว่าคนที่มีชื่อที่สุดในวงการแพทย์นำเอารายชื่อคนที่อยากจะเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่ออกมาดูรอบหนึ่ง หารือกันว่าคนไหนสามารถเป็นสมาชิกใหม่ และคนกลุ่มไหนที่ไม่มีคุณสมบัติ"สืออีเอ่ยต่อมาอีก "แล้วก็ถ้ามีหมอจากสมาคมหมอใหญ่ ถ้าหากสองปีนี้ไปละเมิดเรื่องอะไรที่ผิดกฏของสมาคมหมอใหญ่ ก็จะหารือกันว่าควรจะเตะคนๆ นั้นออกไปไหม ปลดป้ายอนุญาตหมอออก"ฟู่จาวหนิงฟังเข้าใจแล้วก็ดูเหมือนกับการประชุมหมอนั่นล่ะดูเหมือนสมาคมหมอใหญ่จะมีรายชื่อสมาชิกอยู่ชุดหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นทุกรอบจัดยังสามารถรับสมาชิกใหม่มาได้"คุณหนู
ฟู่จาวหนิงพอเห็นทุกคนได้ยินชื่ออันฉินก็รู้จักกัน จึงเข้าใจที่ก่อนหน้านี้เซียวหลันยวนพูดว่าชื่อเสียงของเขายังไม่โด่งดังนั้นหมายถึงอะไรก็คือยังไม่ได้โด่งดังไปทั้งใต้หล้า น่าจะมีชื่อแค่ในวงแคบๆ เท่านั้นไม่เหมือนกับหมอเทวดาอัน ที่ห่างไกลนับพันลี้ตั้งแต่เจียงหนานแคว้นเจาจนมาถึงเมืองจี้ในต้าชื่อ แค่พูดชื่อก็มีคนรู้จักแต่พอมองหน้าตาของหมอเทวดาอันที่มีเคราขาว นางก็ยอมรับแล้วคนเขาอายุตั้งขนาดนี้แล้ว ดูมีท่าทางแบบเซียนผู้วิเศษด้วย พอบอกว่าเป็นหมอเทวดา ยังดูมีแรงกล่อมมากกว่าแม่นางที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบอย่างนางเสียด้วยซ้ำยิ่งไปกว่านั้นเขาอาจจะเป็นหมอมากว่าครึ่งชีวิตแล้วด้วยนางเองก็ไม่ใช่คนที่อิจฉาริษยาต่อชื่อเสียง ก็แค่รู้สึกขึ้นนิดหน่อยเท่านั้นดูท่าต้องรอให้นางมีชื่อเสียงโด่งดังเสียก่อน ตอนที่เดินไปไหนแล้วมีแต่คนรู้จัก พวกคนทรงอำนาจถึงจะเคารพนางอย่างจริงใจ และไม่กล้ามากดขี่รังแกอีกถึงตอนนั้นนางถึงจะถือว่าตนเองมีเส้นสายตอนนี้ยังเร็วเกินไปฟู่จาวหนิงไม่เคยคิดจะพึ่งพาเซียวหลันยวนมาก่อน ตัวตนฐานะอย่างพระชายาอ๋องเจวี้ยน จะมีความสัมพันธ์แค่สามีภรรยาไม่ได้แล้ว ไม่มีประโยชน์อะไร ท้ายสุ
เขาไม่ได้มองฟู่จาวหนิง เพราะความสนใจอยู่บนตัวชายชราคนนั้น"นายท่านเจิ้งกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า?" ข้างๆ มีคนคาดเดาขึ้นเสียงแผ่วหมอเทวดาหลี่พอได้ยินคำว่านายท่านเจิ้ง ดวงตาก็เปล่งประกายก่อนที่จะมาเขาหาข่าวไว้แล้ว ตระกูลเจิ้งของเมืองจี้ มีความสัมพันธ์ทางการแต่งงานกับขุนพลแข็งแกร่งที่ประจำการในชายแดนทางเหนือของแคว้นเจาอยู่ฮูหยินรองของขุนพลใหญ่คนนั้น คือลูกสาวของตระกูลเจิ้งเมืองจี้ตระกูลเจิ้ง เป็นเศรษฐีต้นๆ ของเมืองจี้ถ้าเขาสามารถเกาะตระกูลเจิ้งได้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินดื่มแล้ว ตระกูลเจิ้งแค่ปลายเล็บร่วงลงมาก็ทำให้เขากินดีอยู่ดีได้แล้วยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกข้อดีหนึ่ง เขาก็จะได้รับการคุ้มครองจากขุนพลคนนั้นด้วยถึงอย่างไรเขาก็แทบจะอยู่ในเมืองหลวงไมม่ได้แล้ว ครั้งนี้ที่ออกมา หมอเทวดาหลี่ก็คิดจะเลือกสถานที่ใหม่แล้วลงหลักปักฐาน หลังจากนี้ค่อยสะสมชื่อเสียงเงินทองขึ้นมาใหม่ถ้าสามารถเชื่อมสัมพันธ์กับนายท่านเจิ้งได้ ก็อยู่ในเมืองจี้ได้ หากได้รับสิ่งยืนยันจากเขา จะไปเข้าหากับแม่ทัพลูกเขยรองของตระกูลเจิ้งที่ทางเหนือก็ยังได้ชั่วขณะนี้ หมอเทวดาหลี่คิดไปไม่น้อยเลย ในใจตัดสินใจแล้ว จ
เข็มในมือหมอเทวดาหลี่กำลังจะปักลงไปที่หน้าอกนายท่านเจิ้งเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา "ข้าคิดว่าตอนนี้ทางที่ดีให้นายท่านเจิ้งอาเจียนออกมาให้หมดดีกว่า"เสียงกังวาล แจ่มชัดอย่างมากเอ๋? คำพูดนี้พูดได้ถูกต้อง!หมอเทวดาอันประหลาดใจ หันมองไปทางที่มาของเสียงทันทีจานั้นเขาจึงเห็นหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยไร้เทียมทานคนหนึ่งคำพูดนี้นางเป็นคนพูดหรือ?หมอเทวดาหลี่มือแข็งไป เขาฟังเสียงนี้แล้วคุ้นหูมาก!ไม่หรอกมั๊งไม่ใช่หรอก? เขาจะซวยขนาดนี้เลยหรือ ถึงต้องมามาเจอกับเจ้าเด็กเมื่อวานซืนอย่างฟู่จาวหนิงเวลานี้?!"ใช่ๆๆ แม่นางคนนี้พูดถูก สหายหลี่ ให้นายท่านเจิ้งอาเจียนออกมาให้หมดจะดีกว่า"หมอเทวดาอันไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เดิมทีเขาก็จะพูดประโยคนี้ออกมา ตอนนี้มีคนพูดแทนเขาแล้ว เขาเองก็ลิงโลดขึ้นมา รีบพยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วยคนตระกูลเจิ้งพอได้ยินคำนี้ จึงมองไปทางฟู่จาวหนิงหน้าตาของฟู่จาวหนิง บางครั้งก็ทำให้คนรู้สึกถูกความสวยเข้าคุกคาม ดังนั้นพวกเขาจึงตะลึงงันไปแล้ว"นายท่านเจิ้งคนนี้เหมือนกินอะไรผิดสำแดงเข้าไป ถ้าสามารถให้ทำให้อาเจียนออกมาให้หมดจะดีที่สุด" ฟู่จาวหนิงเดินออกมาก้าวหนึ่ง เดินข้ามาจากในกลุ
หมอเทวดาหลี่อยู่ที่นี่ นางกับหมอเทวดาหลี่ไม่ลงรอยกัน พูดได้ว่ามีความแค้นกันอยู่ แต่ถ้าจะต้องไปหาเรื่องหมอเทวดาหลี่ นางเองก็ขี้เกียจ แต่ในเมื่อมาเจอกันแล้ว ก็ถือโอกาสเล่นงานเขาเสียหน่อยแล้วกันและก็มีคนคนหนึ่งกำลังจะขึ้นชั้นบน แล้วเจอกับเรื่องน่าสนุกนี้พอดี จึงหยุดเท้าลงมา"ผู้เฒ่ารอง ดูท่าจะมีคนป่วยนะ""นั่นมันหมอเทวดาอันกับหมอเทวดาหลี่นี่ สองคนนี้มาจากแคว้นเจา"ซุนฉงหมิงเองก็เห็นคนเหล่านั้นแล้ว แต่เพียงไม่นานก็หมุนสายตากลับ ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก"ขึ้นไปเถอะ คนป่วยที่มาจากเมืองหมานทางนั้นถึงจะเป็นสิ่งที่พวกเราต้องค้นคว้า อย่าลืมเป้าหมายที่พวกเรามาที่นี่"ซุนฉงหมิงพากลุ่มคนขึ้นชั้นบนไปและพวกของฟู่จาวหนิงก็ตามคนของตระกูลเจิ้งไปยังห้องหนึ่งที่เรือนหลังนายท่านเจิ้งเองก็ถูกจัดการจนสะอาดเรียบร้อยแล้ว"ขอเชิญหมอเทวดาทั้งสามตรวจอาการนายท่านของพวกเราอย่างละเอียดอีกครั้งด้วย" คนจากตระกูลเจิ้งมองฟู่จาวหนิง และก็เชิญนางเข้าไปด้วยหมอเทวดาหลี่เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง อดร้องเชอะเย็นชาขึ้นมาไม่ได้"ในเมื่อพวกเจ้าขนาดหญิงสาวขนเหลืองแบบนี้ก็ยังมองเป็นหมอเทวดา เช่นนั้นก็ให้นางรักษาให้นายท่