"ข้าจะพยายามรักษาพวกท่านให้สุดกำลัง แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกท่านก็คือต้องพักผ่อนให้ดีกินให้เพียงพอ เพราะสุขภาพของพวกท่านย่ำแย่มาก"ยิ่งไปกว่นั้นนางก่อนหน้านี้ยังเจาะเลือดออกมาตรวจสอบอีกตั้งหลายหลอด สองวันนี้ต้องให้พวกเขาพักผ่อนเพื่อฟื้นตัวให้ดี"ได้ พวกเราจะฟังท่าน""จริงด้วย" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นมาอีก "สถานที่ที่พวกท่านพบเอ็นมังกรหยกนั่นอยู่ที่ไหนหรือ? มีคนอื่นพบสถานที่นั้นไหม?"ฟู่จิ้นเชินส่ายหัว "น่าจะยังไม่มีคนอื่นพบเข้า ข้าตอนนั้นก็ไปเจอเข้าโดยไม่เจตนา ตอนนั้นพวกเราเข้าไปในเขาอวี้เหิง เขาอวี้เหิงมีถนนผ่านไปที่นั่น แค่ไกลหน่อย ถนนเองก็มีต้นไม้ใบหญ้าบดบังไว้"เป็นตงฉิงจริงๆ ด้วย!เพราะตงฉิงน่าจะอยู่ในทิศที่ผ่านเขาอวี้เหิงไป"ถึตอนนั้นให้ท่านนำทางไป ท่านจะยังจำเส้นทางได้ไหม?""น่าจะยังจำได้กระมัง ให้ไปถึงที่นั่นก่อน เดินไปด้วยคิดไปด้วยน่าจะคิดออกอยู่"ฟู่จิ้นเชินก็ยังไม่ค่อยจะมั่นใจต่อตนเองเท่าไรฟู่จาวหนิงกลับมาถึงห้องตนเอง เสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนกำลังดื่มชาสนทนากัน"ถามเรียบร้อยแล้วหรือ?""ถามเรียบร้อยแล้ว วัตถุดิบยาเป็นเขาที่จัดเตรียม""เช่นนั้นก็เก่งกาจมา
ค่ำวันนี้ ทั้งหมดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยฟู่จาวหนิงต้มยาไว้เรียบร้อย สกัดยาลูกกลอนไว้แล้ว ใช้กินและอาบภายนอก จัดการขจัดพิษที่คงค้างให้กับเซียวหลันยวนชิงอีหลานหรงคอยคุ้มกันอยู่ภายนอก ทั้งตื่นเต้นและตึงเครียดครั้งนี้ถ้าสามารถขจัดพิษคงค้างในตัวท่านอ๋องได้ เช่นนั้นหลังจากนี้ถ้าเจอกับศัตรูแข็งแกร่ง ท่านอ๋องก็สามารถเข้าต่อสู้ได้อย่างสุดกำลัง ไม่จำเป็นต้องมาคอยแบกภาระแล้วยังต้องกังวลว่าพิษจะกำเริบอยู่ตลอดเวลาอีกยิ่งไปกว่านั้น หลายปีนี้กำลังภายในของท่านอ๋องเองก็ต้องมาทรมานเพราะร่างกายพังๆ นี้อีกครั้งที่แล้วหลังจากแก้พิษไปกำลังภายในของเขาก็ทะลวงขั้น ตอนนี้พวกเขาอันที่จริงก็ล้วนคาดหวัง อยากให้ครั้งนี้ถอนพิษได้อย่างหมดจดจริง กำลังภายในของท่านอ๋องจะทะลวงขั้นไปได้มากขึ้นหรือไม่ถึงอย่างไร องค์จักรพรรดิเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วในตอนนี้ ใครจะรู้ว่าตอนไหนจะลงมือกับท่านอ๋องถ้าวรยุทธ์ของท่านอ๋องสูงขึ้นอีกหน่อย พวกเขาก็จะยิ่งวางใจฟู่จาวหนิงหยิบยา ใส่ยาลูกกลอนลงไปในยาน้ำกับน้ำยาที่ใช้อาบ"อีกเดี๋ยวท่านก็ลงไปแช่เสีย แล้วข้าจะใช้ยาน้ำมาล้างแผลเป็นพิษบนหน้าท่านเสียหน่อย บวกกับยาที่ท่านดื่มลง
"เจ้าเลิกหัวเราะได้แล้ว มันแย่ลงจริงๆ หรือ?" เซียวหลันยวนวางใจลงไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ว่าฟู่จาวหนิงจับมือเขาไว้ เขาก็อยากจะยื่นมือมาปิดหน้าตนเองเสียแล้ว"ไม่ใช่! ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลย ท่านทำไมถึงคิดมากขนาดนั้นล่ะ? ท่านเข้าใจผิดแล้ว ไม่ได้แย่ลง แต่กลับกันเลย มันดีขึ้นมากกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก เปลี่ยนไปในทางที่ดีสุดๆ!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกยินดีมากจริงๆนางรู้ว่ายาเหล่านั้นน่าจะใช้ได้ตรงจุด น่าจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะมีประสิทธิภาพดีขนาดนี้!เดิมทีนางใช้มีดผ่าตัดกำจัดเนื้อร้ายไปแล้ว แต่ว่า ตอนนี้แผลใหม่บนหน้าเซียวหลันยวนกลับตกสะเก็ดขึ้นอย่างชัดเจน ผิวของแผลก็หดลงไม่น้อย ประสิทธิภาพดีเอามากๆ!"จริงหรือ?""จริงสิจริงสิ ถ้าท่านไม่เชื่อข้าจะหยิบกระจกมาให้ท่านดู"ฟู่จาวหนิงเองก็อยากให้เขาดีใจขึ้นเหมือนกัน ให้เขาหลังจากที่เห็นแล้วมั่นใจขึ้นอีกหน่อย ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปหยิบกระจกเข้ามาให้เซียวหลันยวนค่อยๆยกกระจกมาตรงหน้า มองใบหน้าของตนเองโอ้ ตอนที่มองเห็นอันที่จริงก็ยังไม่กล้ามองตรงๆ จริงๆ มันน่าเวทนาจนทนมองไม่ไหว แต่ฝืนข่มจิตใจว่าไม่ต้องมองให้ละเอียดมาก เขาก็มองเห็นจุดต่างขึ้นมาจร
ในจวนองค์ชายสองพระชายาองค์ชายสองโมโหจนไม่ยอมกินอะไรไปหนึ่งวัน ตอนถึงช่วงค่ำก็รู้สึกว่าท้องน้อยห้อยลงมา รู้สึกทรมานมากนางร้อนรนจนทนไม่ไหว ให้องค์ชายสองไปเชิญหมอหลวงมาทันทีหมอหลวงหลังจากจับชีพจรนางแล้วก็กังวลเล็กน้อย"พระชายาองค์ชายสองช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้ดีดี ปล่อยให้อารมณ์ดีเสียหน่อย อย่าโกรธหรืออย่าฉุนเฉียว..."คำพูดของหมอหลวงยังไม่ทันพูดจบ พระชายาองค์ชายสองก็โมโหโบกมือ ถ้วยกาน้ำชาบนโต๊ะข้างๆ จนหล่นเครื่องเคลือบเหล่านั้นตกลงพื้นเสียงดังเพล้ง ลอยกระจายเป็นชิ้นๆมีเศษชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งกรีดไปบนข้อมือนาง ปาดจนนางเป็นแผลทันที"อ๊า!"ถึงแม้แผลนั้นจะตื้นมาก แต่พระชายาองค์ชายสองก็ตกตะลึงจนหน้าซีด"นี่ต้องเป็นลางร้าย! จะต้องเป็นลางร้ายแน่ๆ! ท้องข้าไม่ค่อยสบายขึ้นมาก่อน ตอนนี้ยังเลือดออกอีก นี่สวรรค์กำลังเตือนข้าใช่ไหม? ข้าโชคร้ายอยู่สินะ? ลูกของข้า ลูกของข้าจะเป็นอะไรหรือเปล่า?"พอเห็นนางตื่นเต้นหวาดกลัวขนาดนี้ หมอหลวงก็รีบเตือนขึ้นมา"พระชายา ท่านอย่าเพิ่งลนลานสิ ไม่เป็นไรมันไม่เป็นไร แต่ว่านี่เป็นแค่แผลต้นๆ ไม่ถือว่าเลือดออกด้วยซ้ำ...""เจ้าจะไปรู้อะไร!" พระชายาองค์ชายสองร้อง
"จริงหรือ?"พระชายาองค์ชายสองดวงตาเป็นประกาย ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ก็ถือว่าไม่เลวอยู่นะ ถือเป็นหลักประกันไปด้วยตอนนี้นางก็กังวลอยู่ตลอด กลัวว่าจู่ๆ จะไม่สบายตรงไหน กว่าจะเชิญหมอหลวงมาจะไม่ทันการเอา ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้งบางจุดที่ไม่สบายก็บอกหมอหลวงไม่ได้ อย่างเช่นตอนนี้ตรงนั้นของนางรู้สึกคันหน่อยๆ พอตอนเช้าตรู่ก็ทนแทบไม่ไหว"มีหมอเทวดาหญิงด้วยหรือ?""มีสิ ก็คนที่หออันดับหนึ่งคนนั้นไง ก่อนหน้านี้ข้าเล่าให้เจ้าฟังแล้วนี่?""ที่ท่านบอกว่าเป็นคนช่วยพ่อครัวใหญ่ ฝีมือมีดร้ายกาย ใช้มีดฉับๆ ไม่กี่ทีก็ฝานเห็ดเชียนเสวี่ยจนเรียบร้อยคนนั้นน่ะหรือ?"ก่อนหน้านางได้ยินองค์ชายสองบรรยายไว้เช่นนี้ ในหัวสมองมีภาพของหญิงสาวกลางคนนิ้วด้านรอบเอวหนาคนหนึ่งผุดขึ้นมาเหมือนกับกำลังพูดถึงแม่ครัว"ใช่ นางคนนั้นเลย"ในสมององค์ชายสองผุดภาพหน้าฟู่จาวหนิงขึ้นมาหลายวันนี้หาไม่เจอเลย เขาฝันก็ยังฝันเห็นฟู่จาวหนิงเลย นี่น่าจะเป็นยิ่งคิดถึงมากก็เก็บไปฝันถึงสินะ"แล้วคุณพานางมาก็ได้""ได้ เจ้าเองก็ทำตามที่หมอหลวงบอก พักผ่อนให้ดี ข้าจะรีบไปหาตัวมา"องค์ชายสองปลอมพระชายาองค์ชายเสร็จ ก็ส่งคนออกไปค้นหาฟู่จาวหนิงต่
สถานที่ที่เสิ่นเสวียนพัก คนนอกน่าจะไม่รู้พวกเขาล้วนไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงถูกเปิดโปงเสิ่นเสวียนเองก็ได้ยินข่าวที่ชิ่งอวิ๋นเซียวส่งเข้ามา รู้ว่าฟู่จาวหนิงน่าจะไม่รู้เรื่องในบ้านของผิงเหอกง จึงเข้ามาบอกนางก่อน"ผิงเหอกงเป็นราชบุตรเขยองค์หญิงใหญ่ เพียงแต่ตอนนั้นองค์หญิงใหญ่ถือว่าแต่งออกไป บอกกับผิงเหอกงชัดเจนว่าไม่ได้รับเขามาเป็นราชบุตรเขย แต่นางแต่งออกไปเหมือนหญิงสาวธรรมดา นางเองก็คอยปรนนิบัติพ่อแม่สามี ไม่ให้คนนอกเรียกผิงเหอกงว่าราชบุตรเขย แต่ก็ยังเหลือยศผิงเหอกงไว้ให้เขาต่อ ส่วนนางเองก็เป็นฮูหยินผิงเหอกง""รักแท้หรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ในตอนนั้นเหมือนจะใช่อยู่ ทั้งสองคนฮือฮาหวือหวาน่าดู มีเรื่องดีดีลือกันออกมาตั้งหลายปี""หาได้ยาก"เสิ่นเสวียนส่ายหัว "แต่ต่อมาองค์หญิงใหญ่ก็คลอดลูกสาวติดกันถึงสามคน ผิงเหอกงทนการกดดันต่อการสืบเชื้อวงศ์ตระกูลไม่ไหว จึงรับภรรยาผู้น้อยมาอีกหลายคน ในบ้านทะเลาะกันหนักหน่วง องค์หญิงใหญ่เองก็ฝีมือร้ายกาจ ไม่ยอมให้ภรรยาผู้น้อยเหล่านั้นได้ให้กำเนิดลูกชายเลยแม้แต่คนเดียว"ฟู่จาวหนิงถลึงตาอ้าปากค้างคิดว่าเป็นเรื่องราวรักที่สวยงามเสียอีก ใครจะไปคิดว่าตอนจบจะน
"สถานที่นี้ หลายปีก่อนหน้าก็ไม่ได้ปิดบังเขา เขาต้องเคยไปจะต้องไปหาที่บ้านหลังอื่นาาแล้วแน่ๆ ถึงได้มาที่นี่"ตอนนั้นเขาป่วยจนไม่ไหวแล้ว จึงไม่อยากจะปิดบังท่านอารอง เพราะตอนนั้นเขายังรู้สึกว่าถ้าตนเองป่วยตาย พอแม่กับบ้านตระกูลเสิ่นจากสามารถไหว้วานให้บ้านสอง ให้พวกเขาช่วยคิดหาวิธี ไม่ปล่อยวางเรื่องที่จะช่วยพี่ใหญ่กลับมาแต่ตอนนี้..."จาวหนิงปลอมโฉมเสีย อย่าให้คนจำได้ก็พอ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ถ้าอย่างนั้นให้ข้าพานางหลบไปก่อน""กลัวแค่ว่า..." จะไม่มีประโยชน์ยังไม่ทันพูดว่าไม่มีประโยชน์ ด้านนอกก็มีเสียงเอะอะลอดเข้ามาแล้ว มีคนรีบตรงเข้ามาทางนี้"อาเสวียน! แม่นางฟู่!"เสียงท่านอารองเสิ่นดังลอดเข้ามา เขายังดูร้อนรนมากด้วย จังหวะก้าวทั้งหนักทั้งเร่ง"ท่านผู้เฒ่ารองท่านเข้าไปไม่ได้..." เสียงของไป๋รื่อดังลอดเข้ามาด้านนอก แล้วยังมีเสียงคนอีกหลายคนเตือนขึ้นมา"เขามาถึงแล้ว" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นท่านอารองเสิ่นนางรู้จัก อายุก็มากแล้ว ร่างกายก็ผอมโซ สีหน้าเองก็ดูไม่ค่อยดี ดูท่าองครักษ์ด้านนอกพอเห็นเขาก็คงไม่กล้าจะขวางจริงๆ หรอกถ้าเผื่อไปกระแทกตรงนั้นตรงนี้เข้าจะทำอย่างไรกัน?ดังนั้นพอความ
"อาเสวียน เจ้าพูดอะไรออกมากัน? ไม่เข้าใจความพยายามของข้าเลยหรือ?"ท่านอารองเสิ่นถอนใจเสียงหนัก ทำท่าเตรียมจะพูดคุยดีดีกับพวกเขา"ท่านมีอะไรต้องพยายามกัน?"คำพูดนี้ของเสิ่นเสวียนดูประชดประชันหน่อยๆ แต่ว่าท่านอารองเสิ่นก็ฟังไม่ออก เสิ่นเสวียนยังไม่อยากจะแยกตระกูลเสิ่นออก หลักๆ คือเวลายังไม่เหมาะสม ตอนนี้ถ้ามาตัดขาดทางใครทางมัน เกรงว่าพวกเขาจะทำตัวเป็นสุนัขจนตรอกกันเขาเองยังมีบางเรื่องที่ทำไม่เสร็จ จึงคิดจะให้คนเหล่านี้อยู่กันนิ่งๆ ก่อนแต่ตอนนี้พวกเขากลับทำตัวเหมือนหมาจนตรอกขึ้นเสียแล้ว คิดจะลงไม้ลงมือกับฟู่จาวหนิง"ตระกูลเสิ่นของพวกเราตอนนี้มีสถานการณ์เช่นไรห เจ้าเองก็รู้ สวนตระกูลเสิ่นตอนแรกก็จะส่งให้พวกข้า แล้วป้ายชื่อคำว่าสวนตระกูลเสิ่นนั่นองค์จักรพรรดิรุ่นก่อนก็ทรงเขียนให้ด้วยตนเอง ตอนนั้นคนทั้งต้าชื่อล้วนกำลังคิด ว่าใครเองก็ไม่โดดเด่นเท่านั้นบ้านตระกูลเสิ่นของพวกเรา"ท่านอารองเสิ่นถอนหายใจเคร่งขรึมออกมา"องค์จักรพรรดิรุ่นที่แล้วยังมีรับสั่ง ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร ก็ห้ามบุกรุกเข้ามายังสวนตระกูลเสิ่นค้นบ้านจับคน สวนตระกูลเสิ่นเป็นสิ่งที่เหล่าประชาชนต้าชื่อรู้สึกว่ายอดเยี่ยมมาโ
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ