ฟู่จาวหนิงอธิบายกับพวกเขา "พวกท่านในเมื่อตอนนั้นเป็นคนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด แน่นอนว่าต้องเก็บพวกท่านไว้ข้างตัวก่อน แล้วค่อยถามให้แน่ชัด เพียงแต่ว่าพวกท่านตอนนี้ความทรงจำสับสน มีหลาจุดในอดีตที่จำได้ไม่ชัดเจน บางทีความทรงจำอาจจะผิดพลาดได้ ดังนั้นพวกเราจึงเตรียมรักษาให้พวกท่านก่อนแล้วค่อยสอบถาม"นางพูดเช่นนี้ ฟู่จิ้นเชินก็สามารถเข้าใจได้"แต่ในเมื่อพูดเช่นนี้ พวกเราไม่ใช่ว่าควรจะเป็นผู้ต้องสงสัยหรอกหรือ?" เสิ่นเชี่ยวถามอีกครั้ง "ข้าคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะขังพวกเราไว้เสียอีก ไม่ให้ข้าวให้น้ำ แล้วคอยไต่สวนทุกวี่วัน"อันที่จริง นางเองก็เตรียมใจที่จะถูกทรมานไต่สวนไว้แล้วด้วยพอดีกับพวกเขามาเกินไป พวกเขากลับรู้สึกอยู่ไม่สุขอย่างนั้นหรือ?ฟู่จาวหนิงก่อนหน้าที่จะรู้ว่าพวกเขาทำไมจึงลืมตนเองไป ก็จะทำเป็นไม่รู้จักพวกเขาดังนั้นนางไม่มีทางบอกตัวตนฐานะที่แท้จริงของตนเอง"พวกท่านไม่ใช่ว่ามีอาการป่วยติดตัวหรอกหรือ? ถ้าหากทำกับพวกท่านเช่นนั้น มันก็ไม่มีอะไรดีกับอาการป่วยพวกท่านนี่ อ๋องเจวี้ยนก็หวังให้พวกท่านหายวันหายคืน เขาจึงจะสอบถามความจริงในครั้งนั้นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นจึงไม่ทรมานพวกท่าน พ
เสิ่นเชี่ยวเองก็พูดขึ้นว่า "พวกเรารออยู่ในนั้นหลายวัน ประทังชีวิตด้วยบ่อน้ำนั่น พอห่างไปหน่อยก็เห็นบ้านหลังหนึ่งถูกถล่มทับพังไปมุมหนึ่ง แล้วยังเห็นรางหินที่เอาไว้ป้อนม้าหรือป้อนอะไรสักอย่าง ในอดีตน่าจะมีครอบครัวของใครพักอยู่""แล้วได้มองอย่างชัดเจนไหม?"ฟู่จาวหนิงได้ยินการบรรยายของพวกเขาเช่นนี้ ในใจก็อดรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อสถานที่นั้นขึ้นมาไม่ได้"เข้าไปดูอยู่นะ แต่ว่าในนั้นถึงอย่างไรก็ถูกทับไป บางจุดเต็มไปด้วยดิน แล้วยังมีหินก้อนใหญ่อยู่อีก บนหลังคาก็ถูกหน้าผาดินปิดทับไปหมดแล้ว ด้านล่างไม่มีแสง ยิ่งไปกว่านั้นคนยังยืดตัวตรงไม่ได้ ต้องงอตัวเดินเข้าไป"ฟู่จิ้นเชินคิดถึงสถานที่นั้น สายตาดูว่างเปล่า"ข้ารู้สึกว่าถ้ายิ่งเข้าไปหาด้านในก็จะพบเส้นทางอยู่ จากพื้นหินดำกับกำแพงหินเรียบก็พออนุมานได้ ต่อให้ทางนั้นจะเป็นแค่เมืองเล็กเมืองหนึ่ง ก่อนหน้าที่จะถูกปิดผนึกไป น่าจะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองอยู่พอสมควร"พวกเขาตอนนั้นอยู่ที่นั่นเพื่อหลบหนีการล่าสังหาร ใช้ชีวิตอยู่หลายวัน และยังหาของบางอย่างเจอด้วย"ข้าได้เอ็นมังกรหยกมาจากที่นั่น"ที่แท้ เอ็นมังกรหยกได้มาจากสถานที่ที่น่าจะเป็นแคว้นตงฉิงส
"ข้าจะพยายามรักษาพวกท่านให้สุดกำลัง แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกท่านก็คือต้องพักผ่อนให้ดีกินให้เพียงพอ เพราะสุขภาพของพวกท่านย่ำแย่มาก"ยิ่งไปกว่นั้นนางก่อนหน้านี้ยังเจาะเลือดออกมาตรวจสอบอีกตั้งหลายหลอด สองวันนี้ต้องให้พวกเขาพักผ่อนเพื่อฟื้นตัวให้ดี"ได้ พวกเราจะฟังท่าน""จริงด้วย" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นมาอีก "สถานที่ที่พวกท่านพบเอ็นมังกรหยกนั่นอยู่ที่ไหนหรือ? มีคนอื่นพบสถานที่นั้นไหม?"ฟู่จิ้นเชินส่ายหัว "น่าจะยังไม่มีคนอื่นพบเข้า ข้าตอนนั้นก็ไปเจอเข้าโดยไม่เจตนา ตอนนั้นพวกเราเข้าไปในเขาอวี้เหิง เขาอวี้เหิงมีถนนผ่านไปที่นั่น แค่ไกลหน่อย ถนนเองก็มีต้นไม้ใบหญ้าบดบังไว้"เป็นตงฉิงจริงๆ ด้วย!เพราะตงฉิงน่าจะอยู่ในทิศที่ผ่านเขาอวี้เหิงไป"ถึตอนนั้นให้ท่านนำทางไป ท่านจะยังจำเส้นทางได้ไหม?""น่าจะยังจำได้กระมัง ให้ไปถึงที่นั่นก่อน เดินไปด้วยคิดไปด้วยน่าจะคิดออกอยู่"ฟู่จิ้นเชินก็ยังไม่ค่อยจะมั่นใจต่อตนเองเท่าไรฟู่จาวหนิงกลับมาถึงห้องตนเอง เสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนกำลังดื่มชาสนทนากัน"ถามเรียบร้อยแล้วหรือ?""ถามเรียบร้อยแล้ว วัตถุดิบยาเป็นเขาที่จัดเตรียม""เช่นนั้นก็เก่งกาจมา
ค่ำวันนี้ ทั้งหมดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยฟู่จาวหนิงต้มยาไว้เรียบร้อย สกัดยาลูกกลอนไว้แล้ว ใช้กินและอาบภายนอก จัดการขจัดพิษที่คงค้างให้กับเซียวหลันยวนชิงอีหลานหรงคอยคุ้มกันอยู่ภายนอก ทั้งตื่นเต้นและตึงเครียดครั้งนี้ถ้าสามารถขจัดพิษคงค้างในตัวท่านอ๋องได้ เช่นนั้นหลังจากนี้ถ้าเจอกับศัตรูแข็งแกร่ง ท่านอ๋องก็สามารถเข้าต่อสู้ได้อย่างสุดกำลัง ไม่จำเป็นต้องมาคอยแบกภาระแล้วยังต้องกังวลว่าพิษจะกำเริบอยู่ตลอดเวลาอีกยิ่งไปกว่านั้น หลายปีนี้กำลังภายในของท่านอ๋องเองก็ต้องมาทรมานเพราะร่างกายพังๆ นี้อีกครั้งที่แล้วหลังจากแก้พิษไปกำลังภายในของเขาก็ทะลวงขั้น ตอนนี้พวกเขาอันที่จริงก็ล้วนคาดหวัง อยากให้ครั้งนี้ถอนพิษได้อย่างหมดจดจริง กำลังภายในของท่านอ๋องจะทะลวงขั้นไปได้มากขึ้นหรือไม่ถึงอย่างไร องค์จักรพรรดิเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วในตอนนี้ ใครจะรู้ว่าตอนไหนจะลงมือกับท่านอ๋องถ้าวรยุทธ์ของท่านอ๋องสูงขึ้นอีกหน่อย พวกเขาก็จะยิ่งวางใจฟู่จาวหนิงหยิบยา ใส่ยาลูกกลอนลงไปในยาน้ำกับน้ำยาที่ใช้อาบ"อีกเดี๋ยวท่านก็ลงไปแช่เสีย แล้วข้าจะใช้ยาน้ำมาล้างแผลเป็นพิษบนหน้าท่านเสียหน่อย บวกกับยาที่ท่านดื่มลง
"เจ้าเลิกหัวเราะได้แล้ว มันแย่ลงจริงๆ หรือ?" เซียวหลันยวนวางใจลงไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่ว่าฟู่จาวหนิงจับมือเขาไว้ เขาก็อยากจะยื่นมือมาปิดหน้าตนเองเสียแล้ว"ไม่ใช่! ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลย ท่านทำไมถึงคิดมากขนาดนั้นล่ะ? ท่านเข้าใจผิดแล้ว ไม่ได้แย่ลง แต่กลับกันเลย มันดีขึ้นมากกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก เปลี่ยนไปในทางที่ดีสุดๆ!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกยินดีมากจริงๆนางรู้ว่ายาเหล่านั้นน่าจะใช้ได้ตรงจุด น่าจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะมีประสิทธิภาพดีขนาดนี้!เดิมทีนางใช้มีดผ่าตัดกำจัดเนื้อร้ายไปแล้ว แต่ว่า ตอนนี้แผลใหม่บนหน้าเซียวหลันยวนกลับตกสะเก็ดขึ้นอย่างชัดเจน ผิวของแผลก็หดลงไม่น้อย ประสิทธิภาพดีเอามากๆ!"จริงหรือ?""จริงสิจริงสิ ถ้าท่านไม่เชื่อข้าจะหยิบกระจกมาให้ท่านดู"ฟู่จาวหนิงเองก็อยากให้เขาดีใจขึ้นเหมือนกัน ให้เขาหลังจากที่เห็นแล้วมั่นใจขึ้นอีกหน่อย ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปหยิบกระจกเข้ามาให้เซียวหลันยวนค่อยๆยกกระจกมาตรงหน้า มองใบหน้าของตนเองโอ้ ตอนที่มองเห็นอันที่จริงก็ยังไม่กล้ามองตรงๆ จริงๆ มันน่าเวทนาจนทนมองไม่ไหว แต่ฝืนข่มจิตใจว่าไม่ต้องมองให้ละเอียดมาก เขาก็มองเห็นจุดต่างขึ้นมาจร
ในจวนองค์ชายสองพระชายาองค์ชายสองโมโหจนไม่ยอมกินอะไรไปหนึ่งวัน ตอนถึงช่วงค่ำก็รู้สึกว่าท้องน้อยห้อยลงมา รู้สึกทรมานมากนางร้อนรนจนทนไม่ไหว ให้องค์ชายสองไปเชิญหมอหลวงมาทันทีหมอหลวงหลังจากจับชีพจรนางแล้วก็กังวลเล็กน้อย"พระชายาองค์ชายสองช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้ดีดี ปล่อยให้อารมณ์ดีเสียหน่อย อย่าโกรธหรืออย่าฉุนเฉียว..."คำพูดของหมอหลวงยังไม่ทันพูดจบ พระชายาองค์ชายสองก็โมโหโบกมือ ถ้วยกาน้ำชาบนโต๊ะข้างๆ จนหล่นเครื่องเคลือบเหล่านั้นตกลงพื้นเสียงดังเพล้ง ลอยกระจายเป็นชิ้นๆมีเศษชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งกรีดไปบนข้อมือนาง ปาดจนนางเป็นแผลทันที"อ๊า!"ถึงแม้แผลนั้นจะตื้นมาก แต่พระชายาองค์ชายสองก็ตกตะลึงจนหน้าซีด"นี่ต้องเป็นลางร้าย! จะต้องเป็นลางร้ายแน่ๆ! ท้องข้าไม่ค่อยสบายขึ้นมาก่อน ตอนนี้ยังเลือดออกอีก นี่สวรรค์กำลังเตือนข้าใช่ไหม? ข้าโชคร้ายอยู่สินะ? ลูกของข้า ลูกของข้าจะเป็นอะไรหรือเปล่า?"พอเห็นนางตื่นเต้นหวาดกลัวขนาดนี้ หมอหลวงก็รีบเตือนขึ้นมา"พระชายา ท่านอย่าเพิ่งลนลานสิ ไม่เป็นไรมันไม่เป็นไร แต่ว่านี่เป็นแค่แผลต้นๆ ไม่ถือว่าเลือดออกด้วยซ้ำ...""เจ้าจะไปรู้อะไร!" พระชายาองค์ชายสองร้อง
"จริงหรือ?"พระชายาองค์ชายสองดวงตาเป็นประกาย ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ก็ถือว่าไม่เลวอยู่นะ ถือเป็นหลักประกันไปด้วยตอนนี้นางก็กังวลอยู่ตลอด กลัวว่าจู่ๆ จะไม่สบายตรงไหน กว่าจะเชิญหมอหลวงมาจะไม่ทันการเอา ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้งบางจุดที่ไม่สบายก็บอกหมอหลวงไม่ได้ อย่างเช่นตอนนี้ตรงนั้นของนางรู้สึกคันหน่อยๆ พอตอนเช้าตรู่ก็ทนแทบไม่ไหว"มีหมอเทวดาหญิงด้วยหรือ?""มีสิ ก็คนที่หออันดับหนึ่งคนนั้นไง ก่อนหน้านี้ข้าเล่าให้เจ้าฟังแล้วนี่?""ที่ท่านบอกว่าเป็นคนช่วยพ่อครัวใหญ่ ฝีมือมีดร้ายกาย ใช้มีดฉับๆ ไม่กี่ทีก็ฝานเห็ดเชียนเสวี่ยจนเรียบร้อยคนนั้นน่ะหรือ?"ก่อนหน้านางได้ยินองค์ชายสองบรรยายไว้เช่นนี้ ในหัวสมองมีภาพของหญิงสาวกลางคนนิ้วด้านรอบเอวหนาคนหนึ่งผุดขึ้นมาเหมือนกับกำลังพูดถึงแม่ครัว"ใช่ นางคนนั้นเลย"ในสมององค์ชายสองผุดภาพหน้าฟู่จาวหนิงขึ้นมาหลายวันนี้หาไม่เจอเลย เขาฝันก็ยังฝันเห็นฟู่จาวหนิงเลย นี่น่าจะเป็นยิ่งคิดถึงมากก็เก็บไปฝันถึงสินะ"แล้วคุณพานางมาก็ได้""ได้ เจ้าเองก็ทำตามที่หมอหลวงบอก พักผ่อนให้ดี ข้าจะรีบไปหาตัวมา"องค์ชายสองปลอมพระชายาองค์ชายเสร็จ ก็ส่งคนออกไปค้นหาฟู่จาวหนิงต่
สถานที่ที่เสิ่นเสวียนพัก คนนอกน่าจะไม่รู้พวกเขาล้วนไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงถูกเปิดโปงเสิ่นเสวียนเองก็ได้ยินข่าวที่ชิ่งอวิ๋นเซียวส่งเข้ามา รู้ว่าฟู่จาวหนิงน่าจะไม่รู้เรื่องในบ้านของผิงเหอกง จึงเข้ามาบอกนางก่อน"ผิงเหอกงเป็นราชบุตรเขยองค์หญิงใหญ่ เพียงแต่ตอนนั้นองค์หญิงใหญ่ถือว่าแต่งออกไป บอกกับผิงเหอกงชัดเจนว่าไม่ได้รับเขามาเป็นราชบุตรเขย แต่นางแต่งออกไปเหมือนหญิงสาวธรรมดา นางเองก็คอยปรนนิบัติพ่อแม่สามี ไม่ให้คนนอกเรียกผิงเหอกงว่าราชบุตรเขย แต่ก็ยังเหลือยศผิงเหอกงไว้ให้เขาต่อ ส่วนนางเองก็เป็นฮูหยินผิงเหอกง""รักแท้หรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ในตอนนั้นเหมือนจะใช่อยู่ ทั้งสองคนฮือฮาหวือหวาน่าดู มีเรื่องดีดีลือกันออกมาตั้งหลายปี""หาได้ยาก"เสิ่นเสวียนส่ายหัว "แต่ต่อมาองค์หญิงใหญ่ก็คลอดลูกสาวติดกันถึงสามคน ผิงเหอกงทนการกดดันต่อการสืบเชื้อวงศ์ตระกูลไม่ไหว จึงรับภรรยาผู้น้อยมาอีกหลายคน ในบ้านทะเลาะกันหนักหน่วง องค์หญิงใหญ่เองก็ฝีมือร้ายกาจ ไม่ยอมให้ภรรยาผู้น้อยเหล่านั้นได้ให้กำเนิดลูกชายเลยแม้แต่คนเดียว"ฟู่จาวหนิงถลึงตาอ้าปากค้างคิดว่าเป็นเรื่องราวรักที่สวยงามเสียอีก ใครจะไปคิดว่าตอนจบจะน