“ช่วงนี้พี่วีร์ไม่ว่างเลยหรือคะ” เธอเข้าไปกอดเขาจากทางด้านหลัง หลังจากเขาพึ่งอาบน้ำเสร็จ
“ขอโทษทีนะมัดหมี่ช่วงนี้พี่งานยุ่งนะ” เขาว่าแล้วจับมือของมัดหมี่ออก แล้วเดินไปแต่งตัวโดยไม่สนใจมัดหมี่เลยสักนิด ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขางานยุ่งมาก กลับบ้านดึก ๆ ทุกวัน แถมวันอาทิตย์ที่ไม่ต้องเข้าคลินิกถึงตอนเย็น เขาก็ยังกลับบ้านดึก อ้างว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้เธอก็ได้แต่กินของโปรดของตัวเอง กินได้โดยที่เขาไม่ได้มาสนใจแถมเสื้อผ้าที่เธอใส่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสนใจอีก เธอใส่เพียงเสื้อยืดตามตลาดธรรมดา ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตามแบรนด์แบบที่เขาต้องการให้ใส่
“วันอาทิตย์นี้เราไปเที่ยวกันไหมคะ” เธอเดินมาดักหน้าของเขา
“ช่วงนี้พี่ไม่ว่างจริง ๆ เอาไว้ว่างเมื่อไร พี่จะบอกนะมัดหมี่”
“ก็ได้ค่ะ งั้นเรามา...” เธอคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ หมายจะเอาปากไปประทับที่ริมฝีปากของเขาทว่าชายหนุ่มกับดันออก
“พี่หนาวนะมัดหมี่ พี่อยากจะแต่งตัว”
“อ้อ ได้ค่ะ” มัดหมี่ได้แต่ยืนตัวชาอยู่ตรงนั้น ตั้งแต่แต่งงานกันมา เขาไม่เคยมีท่าทางแบบนี้เลย เป็นครั้งแรกที่มัดหมี่รู้สึกว่าโดนเมิน
เขาใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปนอนบนเตียงเลย โดยที่เขาเล่นโทรศัพท์อยู่ตลอดไม่มีวาง พอได้วางไม่ถึงสามวินาทีเป็นต้องมองโทรศัพท์แล้วหยิบมากด ๆ ในโทรศัพท์ต่อไป สองสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอมักจะเห็นเขาติดโทรศัพท์เป็นแบบนี้มาตลอด แม้ว่าเขาจะทำท่าทางไม่สนใจ เธอก็พยายามจะให้เขาสนใจเธอให้ได้โดยการเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เป็นชุดนอนเดรสบางเบาสีฟ้าที่เธอพึ่งซื้อมาเอง เดินไปยืนต่อหน้าของเขา จนหมอวีร์ที่กดโทรศัพท์อยู่ต้องเงยหน้ามาสนใจ
หมอวีร์กลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นมัดหมี่ใส่ชุดเดรสสีฟ้าบางเบา มีซับด้านในเพียงซับในลายลวดไม้เท่านั้น โดยที่ชั้นบนและล่างไม่ได้สวมใส่อะไรเลยด้วยซ้ำ มีหรือที่คนที่ไม่ว่างเรื่องบนเตียงเลยสักวันจะไม่รู้สึกอะไร เขาทิ้งโทรศัพท์ในมือลงตอนไหนไม่รู้ ได้แต่จับจ้องความเซ็กซี่ของมัดหมี่ตาเป็นมัน
มัดหมี่ค่อย ๆ คลานมาทาบทับเขาเอาไว้ จนมานั่งบนตัวของเขาโน้มหน้าเข้าไปหาเขาที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ ชายหนุ่มมองรูปร่างของเธอโดยสายตาไม่กะพริบเลยสักนิด แถมมือของเขายังไปลูบตามขาเนียน ๆ ของเธอด้วย ก่อนที่เธอจะก้มหน้ามาประทับจูบที่ปากของเขาเอาไว้ สามเดือนกว่ามานี้ได้เขาเป็นครูฝึกที่ดี เธอจึงชำชองในการจูบเขาอย่างมาก จูบจนเขาก็เคลิบเคลิ้มตามเธอไปด้วย มือไม้ของเขาก็ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของเธอส่วนปากก็จูบโต้ตอบอย่างดูดดื่ม
มือของเธอก็ไปปลดเม็ดกระดุมชุดนอนของเขาอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เขาพลิกตัวของเธอให้มานอนราบโดยมีเขามาทาบทับเอาไว้บ้าง จูบปากของเธออย่างเร่าร้อน สูดดมไปตามซอกคอและตามร่างกายของเธอ มือของเขาก็ไปเลื่อนชุดนอนของเธอให้ถกขึ้นมาเพื่อที่เขาจะได้เข้าไปอยู่ระหว่างขาของเธอได้อย่างถนัดมากขึ้น
หมอวีร์ใช้นิ้วเกี่ยวไปที่ชุดกระโปรงเดรสส่ายเดี่ยวของเธอออกอย่างช้า ๆ โดยที่ปากของเขาก็ตามไปจูบสัมผัสตามเนื้อตัวของเธอไปทั่ว จนร่างกายของเธอสั่นเกร็งไปกับสัมผัสของเขา ยิ่งเขาจูบสัมผัสต่ำมากเท่าไร หญิงสาวยิ่งตัวเนื้อสั่นมากขึ้นเท่านั้น ชายหนุ่มได้ถอดกางเกงของตัวเองออกให้พ้นทางแล้ว ในตอนที่ความเป็นชายของเขาแข็งตัวเต็มที่ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาทว่าอารมณ์ที่ปรารถนาตัวของกันและกันมีมาก เขาถึงไม่ได้สนใจเสียงโทรศัพท์ที่มันดัง จนมันหยุดดังไปเอง
ทั้งสองมาต่อบทรักที่เร่าร้อนกันต่อแต่ก็ต้องมาหยุดชะงักที่เสียงโทรศัพท์ดังมาครั้งที่สอง เขาจึงหยุดการกระทำที่กำลังจะจดจอความใหญ่โตเข้าไป มาสนใจโทรศัพท์ที่หลุดมือของเขาไปในตอนแรก
“อย่าสนใจโทรศัพท์เลยค่ะพี่วีร์ เรามาต่อเรื่องของเราเถอะนะคะ” ในตอนนี้เธอไม่อาจให้เขาหยุดได้แล้วจริง ๆ ร่างกายของเธอมันต้องการเขามาปรนเปรอเป็นอย่างมาก ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจรูปร่างที่นอนเย้ายวนเขาเลยสักนิดกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
พอเห็นเบอร์โทรเข้ามาเขาก็จำได้ทันที แม้ว่าไม่ได้บันทึกเบอร์เอาไว้ ชายหนุ่มรีบใส่กางเกงแล้วรีบรับ เดินออกไปคุยนอกระเบียงทันที โดยที่ทิ้งมัดหมี่ไว้กลางอากาศแบบนั้น
“เป็นอะไรใจเย็น ๆ อย่าร้องไห้ ร้องไห้แบบนี้พี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย” ปลายสายยังร้องไห้ออกมาไม่หยุด หล่อนอยากจะพูดออกมาทว่ามันก็สะอึกสะอื้นจนหล่อนพูดไม่เป็นภาษา
“ฮือ...พี่วีร์ เจ็บ ฮึก เจ็บเหลือเกินค่ะ ฮือ เจ็บเหลือเกิน” หล่อนเอามือไปทุบที่หัวใจไปมาแรง ๆ หลายครั้ง มันเจ็บมันบีบหัวใจไปหมด
“เจ็บอะไรเจ็บตรงไหนหรือครับ นี่อยู่ไหนทำไมเสียงดังนัก” เขาถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ยิ่งปลายสายบอกว่าเจ็บเขาก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก ถ้ารู้ว่าหล่อนอยู่ที่ไหน เขาอยากจะเหาะไปหาเลยเดี๋ยวนี้ทว่าตอนนี้เขายังไม่รู้เพราะฟังหล่อนพูดไม่รู้เรื่อง แถมตอนนี้เสียงที่หล่อนอยู่ยังดังมากอีก
“ฮือ...พี่วีร์ ไม่ไหวแล้วค่ะ มันเจ็บมันเจ็บเหลือเกิน ไม่ไหวแล้วจริง ๆ” หล่อนร้องไห้ฟูมฟายออกมาบอกว่าเจ็บ ๆ หัวใจของเขาก็พาลเจ็บไปด้วย เมื่อได้ยินเสียงหล่อนบอกว่าเจ็บราวกับว่าจะขาดใจ
“ตอนนี้อยู่ไหน บอกพี่มาพี่จะไปหา” เขารู้สึกร้อนใจมาก อยากจะไปหาหล่อนตอนนี้ เขาทนฟังความเจ็บปวดของหล่อนไม่ได้อีกแล้ว พยายามถามซ้ำ ๆ ทว่าหล่อนท่าทางจะเมาหนักเลยได้แต่บอกว่าเจ็บ ๆ ไม่เลิก
“ฮือ...ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ค่ะ ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ฮือ...”
“พิพิมบอกพี่มาว่าอยู่ไหน...บอกพี่มา!” เขาขึ้นเสียงใส่หล่อน ถามหล่อนด้วยความร้อนใจ ยิ่งหล่อนบอกว่าไม่อยากจะอยู่แล้ว เขายิ่งอยากจะหายไปอยู่ต่อหน้าหล่อนเสียเดียวนี้
เขาเป็นห่วงปลายสายมาก อาการเขาแทบทุรนทุรายโดยไม่รู้เลยว่าความเป็นห่วงที่มีต่อปลายสายนั้นมันทำให้ใครอีกคนที่อยู่หลังประตูระเบียงยืนเจ็บปวดหัวใจเป็นที่สุด ทว่าก็ได้แต่ยืนกลั้นน้ำตาอยู่ตรงนั้น ทนยืนฟังด้วยหัวใจที่แสนเจ็บปวด ยิ่งคำที่เขาเรียกออกมาชัดเจนว่า...พิพิม หัวใจของเธอก็ยิ่งเจ็บปวดจนจะขาดใจตายให้ได้เลย
“พี่วีร์เจ็บ พิมเจ็บ พิมไม่อยากอยู่แล้ว” หล่อนทุบหัวใจของตัวเอง พร้อมกับกะดกเหล้าใส่ปากที่เดียวหมดแก้ว
“ใจเย็น ๆ นะพิพิม บอกพี่มาว่าตอนนี้อยู่ไหน พี่จะออกไปหา บอกพี่มานะพิพิม”
“ฮือ...ร้านประจำเราไงค่ะ” พิพิมบอกแค่นั้นก็นอนฟุบไปบนโต๊ะ ชายหนุ่มได้แต่ครุ่นคิดว่าร้านประจำแล้วเสียงดังมากขนาดนี้จะเป็นร้านอะไรกัน นึกไปนึกมาก็น่าจะเป็นผับที่ตอนคบหากันเขาสองคนชอบไป ชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้าห้องทันทีเมื่อคิดออก
“พี่วีร์มาต่อเรื่องเมื่อกี้กันเถอะนะคะ” พอเขาเดินเข้ามา เธอก็รีบเดินไปดักหน้าเขาทันทีเก็บซ่อนน้ำตาเอาไว้ ทำเป็นไม่รู้เรื่องที่เขาคุยเมื่อกี้
“ขอโทษนะมัดหมี่ พี่มีธุระด่วน” เขารีบเดินหนีเข้าไปในห้องแต่งตัว เมินเธอไปอย่างไร้เยื่อใย
เขาเดินเข้าไปแต่งตัวใหม่พร้อมกับฉีดน้ำหอม หอมฟุ้งไปหมด ภรรยาอย่างเธอเมื่อเห็นสามีแต่งตัวอย่างหล่อแถมยังฉีดน้ำหอมเสียหอมมากมายแบบนี้อีกก็รู้สึกใจคอไม่ดีไปมากกว่าเดิม ยิ่งรู้ว่าเขาจะแต่งตัวหล่อ ฉีดน้ำหอมหอมฟุ้งไปหาใคร หัวใจของเธอก็ยิ่งเจ็บช้ำทว่าทำเป็นว่าไม่เจ็บ
“ไปนานไหมคะพี่วีร์”
“พี่ก็ยังไม่รู้เลย มัดหมี่นอนก่อนเลยนะครับไม่ต้องรอ” เขาเข้ามาหอมหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบาก่อนที่เขาจะเดินออกไป แม้ว่าเขาจะทำอ่อนโยนก่อนออกไปทว่าในใจของเธอมันเจ็บเหลือเกิน ความอ่อนโยนของเขาไม่สามารถมาลบล้างความเจ็บปวดที่เธอมีอยู่ตอนนี้ได้เลย ยิ่งรู้ว่าตัวจริงของเขากลับมาแล้ว ตัวแทนอย่างเธอจะไปมีประโยชน์อะไร มัดหมี่เข่าอ่อนลงตรงนั้นทันที ได้แต่นั่งร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด ทั้งที่ได้แต่งงานเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็ได้แต่นอนกอดทะเบียนสมรส กอดร่างกายของเขา แต่หัวใจของเขาเธอไม่เคยได้มันมาครองครองเลยสักครั้งหนึ่ง
ชีวิตการแต่งงานของเธอเป็นได้แค่ตัวแทนแต่ไม่อาจเป็นตัวจริงได้สักที ยิ่งตัวจริงเขากลับมาแล้ว ความหวังจะเป็นตัวจริงของเธอก็ยิ่งไกลริบรี่ มัดหมี่ก็ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่เงียบ ๆ โดยไม่อาจบอกเขาได้ว่าเธอเองก็เสียใจ ก็เจ็บไม่แพ้คนเก่าของเขาเลยสักนิด
หลังจากเขาไปได้สิบห้านาทีแล้ว อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกคลื่นไส้มาก มันปั่นป่วนในท้องไปหมด จนเธอทนอีกต่อไปไม่ไหว จนต้องรีบวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำ มัดหมี่วิ่งเข้าไปอ้วกเข้า ๆ ออก ๆ อยู่แบบนี้ จนคิดว่าตัวเองไม่น่าจะไหวแล้ว จึงโทรไปหาหมอวีร์ให้กลับมาดูทว่าสายแรกที่โทรไปเขาก็ตัดสายทิ้งทันทีเลย ยิ่งสายที่สองโทรไปก็ไม่ติดแล้ว ปลายสายได้ปิดเครื่องไปเรียบร้อย เธอได้กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น มันเจ็บจนพูดไม่ออกเลยน้ำตาของเธอตอนนี้ไหลรินออกมาไม่หยุด แม้ไม่รู้ว่าเรื่องสำคัญที่เขาต้องรีบออกไปกลางดึกเพราะแฟนเก่าจะเป็นเรื่องอะไรทว่ามันทำให้เธอได้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาเป็นพิพิมไม่ใช่เธอ
สองสัปดาห์ต่อมา ให้เป็นตัวแทนของแฟนเก่าเธอก็ทนได้ ถึงจะรู้ว่าหมอวีร์ไม่ได้รักเธอเลยก็ตาม แต่ขอเพียงมัดหมี่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาในแต่ล่ะวันถึงจะรู้สึกว่าเขาใจร้ายมาก ที่ไม่เคยให้โอกาสให้เธอได้เป็นตัวเองเลยสักครั้ง แต่เธอก็ยอมทนทุกอย่างเพราะว่าเธอรักเขา ถึงแม้ว่าการทนต่อไปก็ไม่สามารถได้หัวใจของเขามาเลยก็ตามทว่าความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลงเมื่อเขากำลังจะกลับไปหาคนรักเก่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง “นี่จัดบ้านอะไร” เขากลับบ้านมาถึงก็เริ่มโวยวายทันทีเพราะมัดหมี่ใช้บัตรเคดิตของเขารูดซื้อของใช้ต่าง ๆ มาตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหลังเลย จากที่เรียบหรูคุมโทนสีขาว ดำ เท่า ตอนนี้ทั้งบ้านเต็มไปด้วยสีสดใสทั้งนั้น “ทำไมคะ ทำไมหมี่จะจัดบ้านใหม่ไม่ได้ บ้านนี้ก็เป็นของหมี่ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน” เขาถอนหายใจออกมา “มัดหมี่เป็นอะไรครับ แล้วดูแต่งตัวอะไร” เธอกลับมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนขาสั้นธรรมดา เขาว่าจะไม่ทักเรื่องเสื้อผ้าแล้วทว่าวันนี้เขาสุดจะทนหลังจากเกือบเดือนที่ผ่านมาเธอเริ่มใส่ชุดที่เขาไม่ได้ซื้อให้ใส่ “ก็แต่งตัวเป็นมัดหม
ตั้งแต่คืนนั้นที่เขารีบร้อนออกไปแถมในคืนนั้นเธอก็อ้วกออกมาจนหมดเรี่ยวแรง โทรไปหาเขาแต่เขาไม่เลือกเธอ เขาเป็นฝ่ายเลือกแฟนเก่า มาวันนี้เธอก็ขอเป็นฝ่ายเลือกตัวเองและลูกให้อยู่กันแค่สองคนพอ เขาที่เป็นพ่อเธอไม่ต้องการอีกต่อไป และตั้งแต่วันเกิดเรื่องมัดหมี่รู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นแบบนี้เพราะตอนเช้าเขาบอกว่าจะชื้อของโปรดของเธอเข้ามาให้กิน ทั้งที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาหมอวีร์ไม่ได้มาใส่ใจว่าเธอจะกินอะไร จะแต่งตัวแบบไหน มัดหมี่เลยจัดการตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหมดโดยใช้บัตรเครดิตของเขารูดซื้อและเสื้อผ้าก็ใส่แบบที่เป็นตัวเอง แถมเธอยังโทรเรียกญาตาวีมาด้วยเพราะเธอรู้ว่าเธอจะต้องกินกุ้งที่เขาซื้อมา จนต้องแพ้เข้าโรงพยาบาลและเธอยังสั่งญาตาวีเรื่องลูกในท้องเอาไว้อย่าให้เขาได้รู้เรื่อง ตอนนี้มัดหมี่ได้ขอหย่ากับหมอวีร์เรียบร้อย เธอแจ้งเรื่องนี้ให้แม่วิไลลักษณ์แม่ของเขาให้รู้เรื่องด้วยทว่าแม่วิไลลักษณ์ขอเอาไว้ก่อน เธอกับเขาจึงยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มัดหมี่ไม่ได้อยู่กับเขาที่บ้านแล้ว เธอย้ายกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ แม่วิไลลักษณ์ทำงานมีหน้ามีตาเป็นถึงหัวหน้าผู้บริหา
วันนั้นพอกลับมาจากบ้านของคิริน ชายหนุ่มก็เดินทางไปหาแม่ของเขาทันที ที่บ้านของแม่กับพ่อ โดยที่ไม่มีความคิดที่จะสับสนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในหัวใจของเขานั้นรักใครกันแน่ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ ซึ่งสามารถตอบได้ทันทีเลยว่าเขารักมัดหมี่อย่างแน่นอนและจะไม่มีวันสับสนและลังเลอีก หมอวีร์จอดรถยนต์ได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านหาแม่ทันที “แม่บ้านของมัดหมี่อยู่ที่ไหนหรือครับ” ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ถามแม่ทันทีโดยไม่รอช้า “จะถามไปทำไม ต้องการไปลากมัดหมี่มาหย่าด้วยหรือไงกัน” วิไลลักษณ์ขึ้นเสียงใส่ “ไม่ใช่แบบนั้นครับ” เขาว่าแล้วเข้าไปนั่งใกล้แม่ วิไลลักษณ์มองหน้าลูกชายอย่างจับผิด “ไม่ใช่แบบนั้นแล้วต้องการอะไร” &n
เช้าวันต่อมาหมอวีร์เดินทางไปหาเพื่อนรักที่เป็นหมอเหมือนกันแต่รายนี้เป็นหมอกุมารแพทย์ เขาลงทุนถึงขนาดไม่ไปทำงานที่คลินิกที่ตนเองรัก ปล่อยให้หมออีกสองคนเข้าไปดูแลคลินิกแทนเพื่อที่เขาจะไปปรึกษาเพื่อนว่าตอนนี้เขากำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ เขารู้สึกไม่แน่ใจเอาเสียเลยว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร มันใช่เรียกว่ารักหรือเปล่า แต่อีกใจมันก็แย้งขึ้นมาว่าไม่ได้รักคนที่รักอย่างแท้จริงเป็นพิพิม เขาจึงสับสนในตัวเองไปหมดว่าตกลงเขารักใครกันแน่ ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ “พี่คินคะ พี่หมอวีร์มาหาค่ะ ตอนนี้รออยู่ในสวนข้างบ้านเราแล้ว” เพียงฝันภรรยาสาวสวยเดินเข้ามาบอกสามีในห้องนั่งเล่น “ไอ้วีร์มันมาทำไมของมัน นี่วันอาทิตย์นะ มันไม่เข้าคลินิกที่มันรักหรือไง” หมอคิรินได้แต่ครุ่นคิด “ท่าทางพี่หมอวีร์ดูร้อนใจมากเลยนะคะ พี่คินรีบออกไปสิคะ เดี๋ยวเพียงฝันจะเอาน้ำเอาขนมไปเสิร์ฟ”
สองคนแม่ลูกเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้นก็มาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย รถยนต์ที่เช่าเอาไว้ก็มาบริการเขาถึงที่ หมอวีร์รีบขับรถยนต์ไปที่บ้านไร่ธาราทันที โดยระหว่างทางเขากังวลเป็นอย่างมากลัวว่ามัดหมี่จะไม่ให้อภัยคนอย่างเขาที่ได้ทำผิดพลาดไปอย่างร้ายแรง ภายในครึ่งชั่วโมงเขาก็ขับรถยนต์มาถึงไร่ธาราที่มีพื้นที่เป็นพัน ๆ ไร่ตามที่แม่วิไลลักษณ์บอกเขาเอาไว้ พอมาถึงในไร่ทุกคนต่างตกใจที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อนแต่ก็ถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนบ้านไร่ธารา ยกเว้นมัดหมี่ที่ทำหน้าบึ้งแต่ยังต้องทนนั่งต้อนรับ ไม่แม้แต่จะมองหน้าสบตากับหมอวีร์เลยสักนิด ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกเหม็นขี้หน้าที่สุด แต่ชายหนุ่มก็ยังนั่งยิ้มแย้มแม้ว่ามัดหมี่จะทำหน้าไม่ค่อยต้อนรับเขาก็ตามทว่าคนในบ้านไร่ธาราก็ต้อนรับเขาอย่างดี ทั้งพ่อและแม่ ซึ่งชื่อไร่ธาราก็มาจากชื่อของพ่อมัดหมี่ที่เป็นคนก่อตั้งแห่งไร่นี้มา มัดหมี่มีพี่ชายชื่อมัดไม้แต่รายนี้แยกบ้านไปอยู่อีกหลังไม่ใ
“ครับแม่” วีร์เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปหาเธอทันที โชคดีที่เธอท้องได้เกือบห้าเดือนแล้วเลยเดินไม่ค่อยเร็วมาก เขาเลยไปดันประตูห้องของเธอที่กำลังจะปิดลงได้ทัน “อย่ามาดันประตูนะ เอามือออกไป!” เธอตวาดเขาเสียงดัง “คุยกับพี่ก่อน” “ไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้ว ไว้เรื่องหย่าหมี่จะสั่งทนายให้จัดการให้” มัดหมี่ดันประตูออกแรงเต็มที่ทว่าก็สู้แรงเขาไม่ได้จนเขาเข้ามาอยู่ในห้องได้แล้ว “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” เธอชี้นิ้วไล่เขาออกจากห้อง “พี่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดพี่ผิด พี่ยอมรับผิดทั้งหมด มัดหมี่พี่ขอโทษยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขาพูดไปก็เอามือของเธอมากุมเอาไว้ด้วยแต่มัดหมี่สะบัดมือของเขาออกอย่างไร้เยื่อใย “พี่วีร์พูดง่ายดีเนอะ แค่ขอโทษแล้วมันก็จบเหรอ” “พี่รู้ว่า
“ทุกคนเอาแต่บอกว่าให้หมี่ให้อภัยยกโทษให้ แล้วใครเคยรู้บ้างว่ามัดหมี่โดนอะไรมานัก ดูสิ ดูคนในไลฟ์สิเอาแต่สงสารพี่วีร์ แล้วมีใครสงสารหมี่บ้างไหม ที่เป็นคนถูกกระทำ หรือจะบอกว่ามัดหมี่ไปรักพี่เขาเองอย่างนั้นเหรอ” “มัดหมี่ก็อย่าไปอ่านคอมเม้นสิลูก ดูที่ความจริงใจของพี่วีร์ ไม่ต้องไปสนใจคอมเม้นว่าใครจะพูดอะไร สนใจแค่คนที่ยืนบอกรักมัดหมี่ตรงนี้ดีกว่าไหม มัดหมี่ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นเลย สนใจแต่ผู้ชายคนนี้ สนใจแต่คนที่มัดหมี่รักดีกว่า” ธาราเป็นฝ่ายพูดสอนลูกสาวบ้างพร้อมกับชี้ให้ดูแต่ผู้ชายที่รักมัดหมี่เพียงคนเดียว โดยไม่ต้องไปสนใจคนอื่นว่าจะพูดอะไร “ใช่แม่ก็เห็นด้วยกับคำพูดพ่อของมัดหมี่ แม่ไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะไม่อยากให้มัดหมี่เห็นว่าแม่เข้าข้างลูกชายของตัวเอง แต่ครั้งนี้แม่ได้เห็นความจริงใจของวีร์จริง ๆ เห็นว่าในแววตาคู่นี้ของวีร์ลืมรักเก่าได้หมดสนิทแล้ว ตอ
หลังจากบอกรักท่ามกลางสักขีพยานมากมาย ทุกคนก็พากันกลับไปกินข้าวที่ร้านอาหารฉลองที่ทั้งสองกับมาคืนดีกันและฉลองให้กับที่พวกเขาจะมีหลาน ยิ่งรู้ว่าจะมีหลานชายเป็นคนแรกด้วยแล้ว ทั้งตายายทั้งผู้เป็นย่ายิ่งตื่นเต้น ตื่นเต้นเสียจนลูกคนแรกยังไม่ทันจะคลอดลูกออกมาเลย พวกท่านก็วางแผนให้เธอมีคนที่สองต่อเลยแถมยังขอคนที่สองเป็นผู้หญิงเสียด้วย การให้โอกาสเขาคราวนี้ หมอวีร์ใส่ใจเธอมากขึ้น คอยถามว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรและคอยถามอีกว่าเธอแพ้อะไรอีกไหมนอกจากกุ้งแม่น้ำเพราะเขากลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ครั้งนี้เขาจึงถามและใส่ใจทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับเธอ คราวนี้เขาจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองแน่ ในคืนนี้เธอกับเขาก็กลับมาปรับความเข้าใจกันอีกเยอะ นอนคุยกันยาวในทุก ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องที่เขารู้สึกสับสนจนแทบจะเป็นบ้า จนได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าเขาขาดมัดหมี่ไปไม่ได้อีกแล้ว
หลังจากบอกรักท่ามกลางสักขีพยานมากมาย ทุกคนก็พากันกลับไปกินข้าวที่ร้านอาหารฉลองที่ทั้งสองกับมาคืนดีกันและฉลองให้กับที่พวกเขาจะมีหลาน ยิ่งรู้ว่าจะมีหลานชายเป็นคนแรกด้วยแล้ว ทั้งตายายทั้งผู้เป็นย่ายิ่งตื่นเต้น ตื่นเต้นเสียจนลูกคนแรกยังไม่ทันจะคลอดลูกออกมาเลย พวกท่านก็วางแผนให้เธอมีคนที่สองต่อเลยแถมยังขอคนที่สองเป็นผู้หญิงเสียด้วย การให้โอกาสเขาคราวนี้ หมอวีร์ใส่ใจเธอมากขึ้น คอยถามว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรและคอยถามอีกว่าเธอแพ้อะไรอีกไหมนอกจากกุ้งแม่น้ำเพราะเขากลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ครั้งนี้เขาจึงถามและใส่ใจทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับเธอ คราวนี้เขาจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองแน่ ในคืนนี้เธอกับเขาก็กลับมาปรับความเข้าใจกันอีกเยอะ นอนคุยกันยาวในทุก ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องที่เขารู้สึกสับสนจนแทบจะเป็นบ้า จนได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าเขาขาดมัดหมี่ไปไม่ได้อีกแล้ว
“ทุกคนเอาแต่บอกว่าให้หมี่ให้อภัยยกโทษให้ แล้วใครเคยรู้บ้างว่ามัดหมี่โดนอะไรมานัก ดูสิ ดูคนในไลฟ์สิเอาแต่สงสารพี่วีร์ แล้วมีใครสงสารหมี่บ้างไหม ที่เป็นคนถูกกระทำ หรือจะบอกว่ามัดหมี่ไปรักพี่เขาเองอย่างนั้นเหรอ” “มัดหมี่ก็อย่าไปอ่านคอมเม้นสิลูก ดูที่ความจริงใจของพี่วีร์ ไม่ต้องไปสนใจคอมเม้นว่าใครจะพูดอะไร สนใจแค่คนที่ยืนบอกรักมัดหมี่ตรงนี้ดีกว่าไหม มัดหมี่ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นเลย สนใจแต่ผู้ชายคนนี้ สนใจแต่คนที่มัดหมี่รักดีกว่า” ธาราเป็นฝ่ายพูดสอนลูกสาวบ้างพร้อมกับชี้ให้ดูแต่ผู้ชายที่รักมัดหมี่เพียงคนเดียว โดยไม่ต้องไปสนใจคนอื่นว่าจะพูดอะไร “ใช่แม่ก็เห็นด้วยกับคำพูดพ่อของมัดหมี่ แม่ไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะไม่อยากให้มัดหมี่เห็นว่าแม่เข้าข้างลูกชายของตัวเอง แต่ครั้งนี้แม่ได้เห็นความจริงใจของวีร์จริง ๆ เห็นว่าในแววตาคู่นี้ของวีร์ลืมรักเก่าได้หมดสนิทแล้ว ตอ
“ครับแม่” วีร์เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปหาเธอทันที โชคดีที่เธอท้องได้เกือบห้าเดือนแล้วเลยเดินไม่ค่อยเร็วมาก เขาเลยไปดันประตูห้องของเธอที่กำลังจะปิดลงได้ทัน “อย่ามาดันประตูนะ เอามือออกไป!” เธอตวาดเขาเสียงดัง “คุยกับพี่ก่อน” “ไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้ว ไว้เรื่องหย่าหมี่จะสั่งทนายให้จัดการให้” มัดหมี่ดันประตูออกแรงเต็มที่ทว่าก็สู้แรงเขาไม่ได้จนเขาเข้ามาอยู่ในห้องได้แล้ว “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” เธอชี้นิ้วไล่เขาออกจากห้อง “พี่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดพี่ผิด พี่ยอมรับผิดทั้งหมด มัดหมี่พี่ขอโทษยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขาพูดไปก็เอามือของเธอมากุมเอาไว้ด้วยแต่มัดหมี่สะบัดมือของเขาออกอย่างไร้เยื่อใย “พี่วีร์พูดง่ายดีเนอะ แค่ขอโทษแล้วมันก็จบเหรอ” “พี่รู้ว่า
สองคนแม่ลูกเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้นก็มาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย รถยนต์ที่เช่าเอาไว้ก็มาบริการเขาถึงที่ หมอวีร์รีบขับรถยนต์ไปที่บ้านไร่ธาราทันที โดยระหว่างทางเขากังวลเป็นอย่างมากลัวว่ามัดหมี่จะไม่ให้อภัยคนอย่างเขาที่ได้ทำผิดพลาดไปอย่างร้ายแรง ภายในครึ่งชั่วโมงเขาก็ขับรถยนต์มาถึงไร่ธาราที่มีพื้นที่เป็นพัน ๆ ไร่ตามที่แม่วิไลลักษณ์บอกเขาเอาไว้ พอมาถึงในไร่ทุกคนต่างตกใจที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อนแต่ก็ถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนบ้านไร่ธารา ยกเว้นมัดหมี่ที่ทำหน้าบึ้งแต่ยังต้องทนนั่งต้อนรับ ไม่แม้แต่จะมองหน้าสบตากับหมอวีร์เลยสักนิด ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกเหม็นขี้หน้าที่สุด แต่ชายหนุ่มก็ยังนั่งยิ้มแย้มแม้ว่ามัดหมี่จะทำหน้าไม่ค่อยต้อนรับเขาก็ตามทว่าคนในบ้านไร่ธาราก็ต้อนรับเขาอย่างดี ทั้งพ่อและแม่ ซึ่งชื่อไร่ธาราก็มาจากชื่อของพ่อมัดหมี่ที่เป็นคนก่อตั้งแห่งไร่นี้มา มัดหมี่มีพี่ชายชื่อมัดไม้แต่รายนี้แยกบ้านไปอยู่อีกหลังไม่ใ
เช้าวันต่อมาหมอวีร์เดินทางไปหาเพื่อนรักที่เป็นหมอเหมือนกันแต่รายนี้เป็นหมอกุมารแพทย์ เขาลงทุนถึงขนาดไม่ไปทำงานที่คลินิกที่ตนเองรัก ปล่อยให้หมออีกสองคนเข้าไปดูแลคลินิกแทนเพื่อที่เขาจะไปปรึกษาเพื่อนว่าตอนนี้เขากำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ เขารู้สึกไม่แน่ใจเอาเสียเลยว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร มันใช่เรียกว่ารักหรือเปล่า แต่อีกใจมันก็แย้งขึ้นมาว่าไม่ได้รักคนที่รักอย่างแท้จริงเป็นพิพิม เขาจึงสับสนในตัวเองไปหมดว่าตกลงเขารักใครกันแน่ ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ “พี่คินคะ พี่หมอวีร์มาหาค่ะ ตอนนี้รออยู่ในสวนข้างบ้านเราแล้ว” เพียงฝันภรรยาสาวสวยเดินเข้ามาบอกสามีในห้องนั่งเล่น “ไอ้วีร์มันมาทำไมของมัน นี่วันอาทิตย์นะ มันไม่เข้าคลินิกที่มันรักหรือไง” หมอคิรินได้แต่ครุ่นคิด “ท่าทางพี่หมอวีร์ดูร้อนใจมากเลยนะคะ พี่คินรีบออกไปสิคะ เดี๋ยวเพียงฝันจะเอาน้ำเอาขนมไปเสิร์ฟ”
วันนั้นพอกลับมาจากบ้านของคิริน ชายหนุ่มก็เดินทางไปหาแม่ของเขาทันที ที่บ้านของแม่กับพ่อ โดยที่ไม่มีความคิดที่จะสับสนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในหัวใจของเขานั้นรักใครกันแน่ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ ซึ่งสามารถตอบได้ทันทีเลยว่าเขารักมัดหมี่อย่างแน่นอนและจะไม่มีวันสับสนและลังเลอีก หมอวีร์จอดรถยนต์ได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านหาแม่ทันที “แม่บ้านของมัดหมี่อยู่ที่ไหนหรือครับ” ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ถามแม่ทันทีโดยไม่รอช้า “จะถามไปทำไม ต้องการไปลากมัดหมี่มาหย่าด้วยหรือไงกัน” วิไลลักษณ์ขึ้นเสียงใส่ “ไม่ใช่แบบนั้นครับ” เขาว่าแล้วเข้าไปนั่งใกล้แม่ วิไลลักษณ์มองหน้าลูกชายอย่างจับผิด “ไม่ใช่แบบนั้นแล้วต้องการอะไร” &n
ตั้งแต่คืนนั้นที่เขารีบร้อนออกไปแถมในคืนนั้นเธอก็อ้วกออกมาจนหมดเรี่ยวแรง โทรไปหาเขาแต่เขาไม่เลือกเธอ เขาเป็นฝ่ายเลือกแฟนเก่า มาวันนี้เธอก็ขอเป็นฝ่ายเลือกตัวเองและลูกให้อยู่กันแค่สองคนพอ เขาที่เป็นพ่อเธอไม่ต้องการอีกต่อไป และตั้งแต่วันเกิดเรื่องมัดหมี่รู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นแบบนี้เพราะตอนเช้าเขาบอกว่าจะชื้อของโปรดของเธอเข้ามาให้กิน ทั้งที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาหมอวีร์ไม่ได้มาใส่ใจว่าเธอจะกินอะไร จะแต่งตัวแบบไหน มัดหมี่เลยจัดการตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหมดโดยใช้บัตรเครดิตของเขารูดซื้อและเสื้อผ้าก็ใส่แบบที่เป็นตัวเอง แถมเธอยังโทรเรียกญาตาวีมาด้วยเพราะเธอรู้ว่าเธอจะต้องกินกุ้งที่เขาซื้อมา จนต้องแพ้เข้าโรงพยาบาลและเธอยังสั่งญาตาวีเรื่องลูกในท้องเอาไว้อย่าให้เขาได้รู้เรื่อง ตอนนี้มัดหมี่ได้ขอหย่ากับหมอวีร์เรียบร้อย เธอแจ้งเรื่องนี้ให้แม่วิไลลักษณ์แม่ของเขาให้รู้เรื่องด้วยทว่าแม่วิไลลักษณ์ขอเอาไว้ก่อน เธอกับเขาจึงยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มัดหมี่ไม่ได้อยู่กับเขาที่บ้านแล้ว เธอย้ายกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ แม่วิไลลักษณ์ทำงานมีหน้ามีตาเป็นถึงหัวหน้าผู้บริหา
สองสัปดาห์ต่อมา ให้เป็นตัวแทนของแฟนเก่าเธอก็ทนได้ ถึงจะรู้ว่าหมอวีร์ไม่ได้รักเธอเลยก็ตาม แต่ขอเพียงมัดหมี่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาในแต่ล่ะวันถึงจะรู้สึกว่าเขาใจร้ายมาก ที่ไม่เคยให้โอกาสให้เธอได้เป็นตัวเองเลยสักครั้ง แต่เธอก็ยอมทนทุกอย่างเพราะว่าเธอรักเขา ถึงแม้ว่าการทนต่อไปก็ไม่สามารถได้หัวใจของเขามาเลยก็ตามทว่าความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลงเมื่อเขากำลังจะกลับไปหาคนรักเก่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง “นี่จัดบ้านอะไร” เขากลับบ้านมาถึงก็เริ่มโวยวายทันทีเพราะมัดหมี่ใช้บัตรเคดิตของเขารูดซื้อของใช้ต่าง ๆ มาตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหลังเลย จากที่เรียบหรูคุมโทนสีขาว ดำ เท่า ตอนนี้ทั้งบ้านเต็มไปด้วยสีสดใสทั้งนั้น “ทำไมคะ ทำไมหมี่จะจัดบ้านใหม่ไม่ได้ บ้านนี้ก็เป็นของหมี่ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน” เขาถอนหายใจออกมา “มัดหมี่เป็นอะไรครับ แล้วดูแต่งตัวอะไร” เธอกลับมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนขาสั้นธรรมดา เขาว่าจะไม่ทักเรื่องเสื้อผ้าแล้วทว่าวันนี้เขาสุดจะทนหลังจากเกือบเดือนที่ผ่านมาเธอเริ่มใส่ชุดที่เขาไม่ได้ซื้อให้ใส่ “ก็แต่งตัวเป็นมัดหม
“ช่วงนี้พี่วีร์ไม่ว่างเลยหรือคะ” เธอเข้าไปกอดเขาจากทางด้านหลัง หลังจากเขาพึ่งอาบน้ำเสร็จ “ขอโทษทีนะมัดหมี่ช่วงนี้พี่งานยุ่งนะ” เขาว่าแล้วจับมือของมัดหมี่ออก แล้วเดินไปแต่งตัวโดยไม่สนใจมัดหมี่เลยสักนิด ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขางานยุ่งมาก กลับบ้านดึก ๆ ทุกวัน แถมวันอาทิตย์ที่ไม่ต้องเข้าคลินิกถึงตอนเย็น เขาก็ยังกลับบ้านดึก อ้างว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้เธอก็ได้แต่กินของโปรดของตัวเอง กินได้โดยที่เขาไม่ได้มาสนใจแถมเสื้อผ้าที่เธอใส่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสนใจอีก เธอใส่เพียงเสื้อยืดตามตลาดธรรมดา ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตามแบรนด์แบบที่เขาต้องการให้ใส่ “วันอาทิตย์นี้เราไปเที่ยวกันไหมคะ” เธอเดินมาดักหน้าของเขา “ช่วงนี้พี่ไม่ว่างจริง ๆ เอาไว้ว่างเมื่อไร พี่จะบอกนะมัดหมี่”