วันนั้นพอกลับมาจากบ้านของคิริน ชายหนุ่มก็เดินทางไปหาแม่ของเขาทันที ที่บ้านของแม่กับพ่อ โดยที่ไม่มีความคิดที่จะสับสนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในหัวใจของเขานั้นรักใครกันแน่ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ ซึ่งสามารถตอบได้ทันทีเลยว่าเขารักมัดหมี่อย่างแน่นอนและจะไม่มีวันสับสนและลังเลอีก หมอวีร์จอดรถยนต์ได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านหาแม่ทันที
“แม่บ้านของมัดหมี่อยู่ที่ไหนหรือครับ” ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ถามแม่ทันทีโดยไม่รอช้า
“จะถามไปทำไม ต้องการไปลากมัดหมี่มาหย่าด้วยหรือไงกัน” วิไลลักษณ์ขึ้นเสียงใส่
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ” เขาว่าแล้วเข้าไปนั่งใกล้แม่ วิไลลักษณ์มองหน้าลูกชายอย่างจับผิด
“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วต้องการอะไร”
&n
เช้าวันต่อมาหมอวีร์เดินทางไปหาเพื่อนรักที่เป็นหมอเหมือนกันแต่รายนี้เป็นหมอกุมารแพทย์ เขาลงทุนถึงขนาดไม่ไปทำงานที่คลินิกที่ตนเองรัก ปล่อยให้หมออีกสองคนเข้าไปดูแลคลินิกแทนเพื่อที่เขาจะไปปรึกษาเพื่อนว่าตอนนี้เขากำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ เขารู้สึกไม่แน่ใจเอาเสียเลยว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร มันใช่เรียกว่ารักหรือเปล่า แต่อีกใจมันก็แย้งขึ้นมาว่าไม่ได้รักคนที่รักอย่างแท้จริงเป็นพิพิม เขาจึงสับสนในตัวเองไปหมดว่าตกลงเขารักใครกันแน่ ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ “พี่คินคะ พี่หมอวีร์มาหาค่ะ ตอนนี้รออยู่ในสวนข้างบ้านเราแล้ว” เพียงฝันภรรยาสาวสวยเดินเข้ามาบอกสามีในห้องนั่งเล่น “ไอ้วีร์มันมาทำไมของมัน นี่วันอาทิตย์นะ มันไม่เข้าคลินิกที่มันรักหรือไง” หมอคิรินได้แต่ครุ่นคิด “ท่าทางพี่หมอวีร์ดูร้อนใจมากเลยนะคะ พี่คินรีบออกไปสิคะ เดี๋ยวเพียงฝันจะเอาน้ำเอาขนมไปเสิร์ฟ”
สองคนแม่ลูกเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้นก็มาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย รถยนต์ที่เช่าเอาไว้ก็มาบริการเขาถึงที่ หมอวีร์รีบขับรถยนต์ไปที่บ้านไร่ธาราทันที โดยระหว่างทางเขากังวลเป็นอย่างมากลัวว่ามัดหมี่จะไม่ให้อภัยคนอย่างเขาที่ได้ทำผิดพลาดไปอย่างร้ายแรง ภายในครึ่งชั่วโมงเขาก็ขับรถยนต์มาถึงไร่ธาราที่มีพื้นที่เป็นพัน ๆ ไร่ตามที่แม่วิไลลักษณ์บอกเขาเอาไว้ พอมาถึงในไร่ทุกคนต่างตกใจที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อนแต่ก็ถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนบ้านไร่ธารา ยกเว้นมัดหมี่ที่ทำหน้าบึ้งแต่ยังต้องทนนั่งต้อนรับ ไม่แม้แต่จะมองหน้าสบตากับหมอวีร์เลยสักนิด ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกเหม็นขี้หน้าที่สุด แต่ชายหนุ่มก็ยังนั่งยิ้มแย้มแม้ว่ามัดหมี่จะทำหน้าไม่ค่อยต้อนรับเขาก็ตามทว่าคนในบ้านไร่ธาราก็ต้อนรับเขาอย่างดี ทั้งพ่อและแม่ ซึ่งชื่อไร่ธาราก็มาจากชื่อของพ่อมัดหมี่ที่เป็นคนก่อตั้งแห่งไร่นี้มา มัดหมี่มีพี่ชายชื่อมัดไม้แต่รายนี้แยกบ้านไปอยู่อีกหลังไม่ใ
“ครับแม่” วีร์เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปหาเธอทันที โชคดีที่เธอท้องได้เกือบห้าเดือนแล้วเลยเดินไม่ค่อยเร็วมาก เขาเลยไปดันประตูห้องของเธอที่กำลังจะปิดลงได้ทัน “อย่ามาดันประตูนะ เอามือออกไป!” เธอตวาดเขาเสียงดัง “คุยกับพี่ก่อน” “ไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้ว ไว้เรื่องหย่าหมี่จะสั่งทนายให้จัดการให้” มัดหมี่ดันประตูออกแรงเต็มที่ทว่าก็สู้แรงเขาไม่ได้จนเขาเข้ามาอยู่ในห้องได้แล้ว “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” เธอชี้นิ้วไล่เขาออกจากห้อง “พี่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดพี่ผิด พี่ยอมรับผิดทั้งหมด มัดหมี่พี่ขอโทษยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขาพูดไปก็เอามือของเธอมากุมเอาไว้ด้วยแต่มัดหมี่สะบัดมือของเขาออกอย่างไร้เยื่อใย “พี่วีร์พูดง่ายดีเนอะ แค่ขอโทษแล้วมันก็จบเหรอ” “พี่รู้ว่า
“ทุกคนเอาแต่บอกว่าให้หมี่ให้อภัยยกโทษให้ แล้วใครเคยรู้บ้างว่ามัดหมี่โดนอะไรมานัก ดูสิ ดูคนในไลฟ์สิเอาแต่สงสารพี่วีร์ แล้วมีใครสงสารหมี่บ้างไหม ที่เป็นคนถูกกระทำ หรือจะบอกว่ามัดหมี่ไปรักพี่เขาเองอย่างนั้นเหรอ” “มัดหมี่ก็อย่าไปอ่านคอมเม้นสิลูก ดูที่ความจริงใจของพี่วีร์ ไม่ต้องไปสนใจคอมเม้นว่าใครจะพูดอะไร สนใจแค่คนที่ยืนบอกรักมัดหมี่ตรงนี้ดีกว่าไหม มัดหมี่ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นเลย สนใจแต่ผู้ชายคนนี้ สนใจแต่คนที่มัดหมี่รักดีกว่า” ธาราเป็นฝ่ายพูดสอนลูกสาวบ้างพร้อมกับชี้ให้ดูแต่ผู้ชายที่รักมัดหมี่เพียงคนเดียว โดยไม่ต้องไปสนใจคนอื่นว่าจะพูดอะไร “ใช่แม่ก็เห็นด้วยกับคำพูดพ่อของมัดหมี่ แม่ไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะไม่อยากให้มัดหมี่เห็นว่าแม่เข้าข้างลูกชายของตัวเอง แต่ครั้งนี้แม่ได้เห็นความจริงใจของวีร์จริง ๆ เห็นว่าในแววตาคู่นี้ของวีร์ลืมรักเก่าได้หมดสนิทแล้ว ตอ
หลังจากบอกรักท่ามกลางสักขีพยานมากมาย ทุกคนก็พากันกลับไปกินข้าวที่ร้านอาหารฉลองที่ทั้งสองกับมาคืนดีกันและฉลองให้กับที่พวกเขาจะมีหลาน ยิ่งรู้ว่าจะมีหลานชายเป็นคนแรกด้วยแล้ว ทั้งตายายทั้งผู้เป็นย่ายิ่งตื่นเต้น ตื่นเต้นเสียจนลูกคนแรกยังไม่ทันจะคลอดลูกออกมาเลย พวกท่านก็วางแผนให้เธอมีคนที่สองต่อเลยแถมยังขอคนที่สองเป็นผู้หญิงเสียด้วย การให้โอกาสเขาคราวนี้ หมอวีร์ใส่ใจเธอมากขึ้น คอยถามว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรและคอยถามอีกว่าเธอแพ้อะไรอีกไหมนอกจากกุ้งแม่น้ำเพราะเขากลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ครั้งนี้เขาจึงถามและใส่ใจทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับเธอ คราวนี้เขาจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองแน่ ในคืนนี้เธอกับเขาก็กลับมาปรับความเข้าใจกันอีกเยอะ นอนคุยกันยาวในทุก ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องที่เขารู้สึกสับสนจนแทบจะเป็นบ้า จนได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าเขาขาดมัดหมี่ไปไม่ได้อีกแล้ว
มัดหมี่แต่งงานเข้ามาเป็นภรรยาของหมอวีร์ หมอศัลยกรรมแพทย์อันดับหนึ่งของเมืองไทยได้สามเดือนแล้ว แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความรักของคนทั้งสองคน ถึงแม้ว่าจะแต่งงานเพราะแม่ของหมอวีร์บังคับเขา แต่หมอวีร์ก็ยอมแต่งงานกับมัดหมี่ด้วยความเต็มใจและดูแลเธอเป็นอย่างดีหลังแต่งงาน ให้เกียรติและยกย่องเธอเป็นภรรยาออกหน้าออกตา เสื้อผ้า การแต่งกาย การกินการนอน หมอวีร์ดูแลใส่ใจมัดหมี่ดีทุกอย่าง เลือกของทุกชิ้นให้มัดหมี่ด้วยตัวเองอย่างดี แม้ว่างานของตัวเองก็วุ่น มีทั้งงานที่โรงพยาบาลและคลินิกที่เขาเปิดเอง แต่หมอวีร์ก็หาเวลาว่างมาดูแลใส่ใจเธอเป็นอย่างดี ทำหน้าที่สามีที่ดีให้เธอทุกระเบียบนิ้ว ไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้แต่เรื่องบนเตียงเขาก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอทุกวัน ตั้งแต่ที่แต่งงานมาคืนแรก จนตอนนี้หมอวีร์กับมัดหมี่แต่งงานมาได้สามเดือนแล้ว เขาก็ไม่เคยเว้นว่างเรื่องบนเตียงเลยสักครั้ง แม้แต่คืนนี้หมอวีร์ก็ปรนเปรอให้เธออย่างมีความสุข “อ๊าส์ พี่วีร์” เธอนอนส่ายหน้าไปมาบนหมอน ผมของเธอก็ปลิวสยายออก ส่วนปากของมัดหมี่ก็ครวญครางไม่หยุดปาก เมื่อเขา
“พี่หมอวีร์นี่แต่งบ้านได้เรียบหรูดูแพงมากเลย แต่งบ้านได้เก่งสุด ๆ” “อืม ขึ้นไปดูห้องที่ญาตาวีจะนอนกันเถอะ” มัดหมี่ชวนเพื่อนขึ้นไปบนบ้าน “เดี๋ยวสิ ญาอยากเดินดูรอบ ๆ ก่อน” “เดี๋ยวค่อยมาดูก็ได้ เอาของขึ้นไปเก็บกันก่อน” “จ้า ๆ” ญาตาวีเลิกตื่นตาแล้วหันมาที่เพื่อนสาวอีกครั้ง จนสังเกตเสื้อผ้าที่เพื่อนใส่ “โอ้โฮ...” “อะไรญาตาวี เสียงดังอะไร” มัดหมี่พาลตกใจไปด้วย ญาตาวีทำเสียงจุ ๆ “ก็ดูเสื้อผ้าที่มัดหมี่ใส่สิ ชุดแบรนด์เนมเลยนะนั้น เรียบหรูดูแพงมาก ใส่เสื้อผ้าเหมาะสมกับอยู่บ้านหลังนี้เลย” “อืม พี่วีร์เลือกให้ทั้งหมดนะ ทั้งเสื้อผ้าใส่อยู่บ้าน ออกงาน พี่วีร์เลือกให้หมดเลย” “ถึงว่านะสิ ดูไม่เป็นมัดหมี่เลยนะ” ญาตาวีทำท่าทางครุ่นคิด “ทำไมไม่สวยเหรอ” “สวยนะมันสวย แต่บางทีมันดูไม่ใช่ ดูไม่เป็นมัดหมี่ยังไงไม่รู้” เพียงแค่ญาตาวีเห็นเผิน ๆ เท่านั้น แต่ก็รู้สึกว่ามัดหมี่ดูไม่ได้เป็นตัวเอง
หลังจากที่ทั้งสองคุยกันเสร็จแล้วก็พากันล้างหน้าล้างตา ก่อนที่จะออกไปหาที่อยู่ใกล้กับที่ทำงานของญาตาวี ญาตาวีได้งานบัญชีในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอจึงหาที่พักใกล้ ๆ มาสองสามแห่งแล้ว ก่อนเข้าไปพักก็เลยต้องเข้ามาดูห้องจริงก่อน จึงจะตัดสินใจเข้าพักได้ ทว่าที่หามาสองสามที่ล่วงหน้าเอาไว้ก็ไม่ถูกใจญาตาวีเลยสักนิด ทั้งสองคนเลยต้องกลับมาตั้งหลักที่บ้านกันก่อนแต่ก่อนกลับก็แวะซื้อพิซซ่า เคเอฟซีเข้าบ้านมาด้วย “พี่หมอวีร์กลับบ้านมาเร็วจัง นี่พึ่งจะห้าโมงเอง” ญาตาวีถามด้วยความสงสัย “เมื่อเช้าหมี่บอกว่าญาจะมานะ สงสัยจะเตรียมของอร่อย ๆ ต้อนรับอยู่” “อืม...พี่หมอวีร์ก็น่ารักนะเนี่ย หรือสามเดือนที่ผ่านมาจะตกหลุมรักหมี่แล้วจริง ๆ สงสัยญาต้องคิดใหม่เสียแล้ว” ญาตาวีเอ่ยชมและแซวเพื่อนไปด้วย มองเพื่อนสาวที่เอาแต่เขินหน้าแดง “บ้าน่า ลงรถได้แล้ว” มัดหมี่ว่าแล้วก็เปิดประตูลงรถยนต์ก่อนที่ญาตาวีจะเดินตามลงมาและมาช่วยกันถือถุงพิซซ่าเคเอฟซี “ทำอะไรกันอยู่หรือครับเห็นจอดนานแล้วไม่ยอมเดินลงมาเสียที” หมอวีร์ยืนรอต
หลังจากบอกรักท่ามกลางสักขีพยานมากมาย ทุกคนก็พากันกลับไปกินข้าวที่ร้านอาหารฉลองที่ทั้งสองกับมาคืนดีกันและฉลองให้กับที่พวกเขาจะมีหลาน ยิ่งรู้ว่าจะมีหลานชายเป็นคนแรกด้วยแล้ว ทั้งตายายทั้งผู้เป็นย่ายิ่งตื่นเต้น ตื่นเต้นเสียจนลูกคนแรกยังไม่ทันจะคลอดลูกออกมาเลย พวกท่านก็วางแผนให้เธอมีคนที่สองต่อเลยแถมยังขอคนที่สองเป็นผู้หญิงเสียด้วย การให้โอกาสเขาคราวนี้ หมอวีร์ใส่ใจเธอมากขึ้น คอยถามว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรและคอยถามอีกว่าเธอแพ้อะไรอีกไหมนอกจากกุ้งแม่น้ำเพราะเขากลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ครั้งนี้เขาจึงถามและใส่ใจทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับเธอ คราวนี้เขาจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองแน่ ในคืนนี้เธอกับเขาก็กลับมาปรับความเข้าใจกันอีกเยอะ นอนคุยกันยาวในทุก ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องที่เขารู้สึกสับสนจนแทบจะเป็นบ้า จนได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าเขาขาดมัดหมี่ไปไม่ได้อีกแล้ว
“ทุกคนเอาแต่บอกว่าให้หมี่ให้อภัยยกโทษให้ แล้วใครเคยรู้บ้างว่ามัดหมี่โดนอะไรมานัก ดูสิ ดูคนในไลฟ์สิเอาแต่สงสารพี่วีร์ แล้วมีใครสงสารหมี่บ้างไหม ที่เป็นคนถูกกระทำ หรือจะบอกว่ามัดหมี่ไปรักพี่เขาเองอย่างนั้นเหรอ” “มัดหมี่ก็อย่าไปอ่านคอมเม้นสิลูก ดูที่ความจริงใจของพี่วีร์ ไม่ต้องไปสนใจคอมเม้นว่าใครจะพูดอะไร สนใจแค่คนที่ยืนบอกรักมัดหมี่ตรงนี้ดีกว่าไหม มัดหมี่ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นเลย สนใจแต่ผู้ชายคนนี้ สนใจแต่คนที่มัดหมี่รักดีกว่า” ธาราเป็นฝ่ายพูดสอนลูกสาวบ้างพร้อมกับชี้ให้ดูแต่ผู้ชายที่รักมัดหมี่เพียงคนเดียว โดยไม่ต้องไปสนใจคนอื่นว่าจะพูดอะไร “ใช่แม่ก็เห็นด้วยกับคำพูดพ่อของมัดหมี่ แม่ไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะไม่อยากให้มัดหมี่เห็นว่าแม่เข้าข้างลูกชายของตัวเอง แต่ครั้งนี้แม่ได้เห็นความจริงใจของวีร์จริง ๆ เห็นว่าในแววตาคู่นี้ของวีร์ลืมรักเก่าได้หมดสนิทแล้ว ตอ
“ครับแม่” วีร์เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปหาเธอทันที โชคดีที่เธอท้องได้เกือบห้าเดือนแล้วเลยเดินไม่ค่อยเร็วมาก เขาเลยไปดันประตูห้องของเธอที่กำลังจะปิดลงได้ทัน “อย่ามาดันประตูนะ เอามือออกไป!” เธอตวาดเขาเสียงดัง “คุยกับพี่ก่อน” “ไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้ว ไว้เรื่องหย่าหมี่จะสั่งทนายให้จัดการให้” มัดหมี่ดันประตูออกแรงเต็มที่ทว่าก็สู้แรงเขาไม่ได้จนเขาเข้ามาอยู่ในห้องได้แล้ว “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” เธอชี้นิ้วไล่เขาออกจากห้อง “พี่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดพี่ผิด พี่ยอมรับผิดทั้งหมด มัดหมี่พี่ขอโทษยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขาพูดไปก็เอามือของเธอมากุมเอาไว้ด้วยแต่มัดหมี่สะบัดมือของเขาออกอย่างไร้เยื่อใย “พี่วีร์พูดง่ายดีเนอะ แค่ขอโทษแล้วมันก็จบเหรอ” “พี่รู้ว่า
สองคนแม่ลูกเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้นก็มาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย รถยนต์ที่เช่าเอาไว้ก็มาบริการเขาถึงที่ หมอวีร์รีบขับรถยนต์ไปที่บ้านไร่ธาราทันที โดยระหว่างทางเขากังวลเป็นอย่างมากลัวว่ามัดหมี่จะไม่ให้อภัยคนอย่างเขาที่ได้ทำผิดพลาดไปอย่างร้ายแรง ภายในครึ่งชั่วโมงเขาก็ขับรถยนต์มาถึงไร่ธาราที่มีพื้นที่เป็นพัน ๆ ไร่ตามที่แม่วิไลลักษณ์บอกเขาเอาไว้ พอมาถึงในไร่ทุกคนต่างตกใจที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อนแต่ก็ถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนบ้านไร่ธารา ยกเว้นมัดหมี่ที่ทำหน้าบึ้งแต่ยังต้องทนนั่งต้อนรับ ไม่แม้แต่จะมองหน้าสบตากับหมอวีร์เลยสักนิด ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกเหม็นขี้หน้าที่สุด แต่ชายหนุ่มก็ยังนั่งยิ้มแย้มแม้ว่ามัดหมี่จะทำหน้าไม่ค่อยต้อนรับเขาก็ตามทว่าคนในบ้านไร่ธาราก็ต้อนรับเขาอย่างดี ทั้งพ่อและแม่ ซึ่งชื่อไร่ธาราก็มาจากชื่อของพ่อมัดหมี่ที่เป็นคนก่อตั้งแห่งไร่นี้มา มัดหมี่มีพี่ชายชื่อมัดไม้แต่รายนี้แยกบ้านไปอยู่อีกหลังไม่ใ
เช้าวันต่อมาหมอวีร์เดินทางไปหาเพื่อนรักที่เป็นหมอเหมือนกันแต่รายนี้เป็นหมอกุมารแพทย์ เขาลงทุนถึงขนาดไม่ไปทำงานที่คลินิกที่ตนเองรัก ปล่อยให้หมออีกสองคนเข้าไปดูแลคลินิกแทนเพื่อที่เขาจะไปปรึกษาเพื่อนว่าตอนนี้เขากำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ เขารู้สึกไม่แน่ใจเอาเสียเลยว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร มันใช่เรียกว่ารักหรือเปล่า แต่อีกใจมันก็แย้งขึ้นมาว่าไม่ได้รักคนที่รักอย่างแท้จริงเป็นพิพิม เขาจึงสับสนในตัวเองไปหมดว่าตกลงเขารักใครกันแน่ ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ “พี่คินคะ พี่หมอวีร์มาหาค่ะ ตอนนี้รออยู่ในสวนข้างบ้านเราแล้ว” เพียงฝันภรรยาสาวสวยเดินเข้ามาบอกสามีในห้องนั่งเล่น “ไอ้วีร์มันมาทำไมของมัน นี่วันอาทิตย์นะ มันไม่เข้าคลินิกที่มันรักหรือไง” หมอคิรินได้แต่ครุ่นคิด “ท่าทางพี่หมอวีร์ดูร้อนใจมากเลยนะคะ พี่คินรีบออกไปสิคะ เดี๋ยวเพียงฝันจะเอาน้ำเอาขนมไปเสิร์ฟ”
วันนั้นพอกลับมาจากบ้านของคิริน ชายหนุ่มก็เดินทางไปหาแม่ของเขาทันที ที่บ้านของแม่กับพ่อ โดยที่ไม่มีความคิดที่จะสับสนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในหัวใจของเขานั้นรักใครกันแน่ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ ซึ่งสามารถตอบได้ทันทีเลยว่าเขารักมัดหมี่อย่างแน่นอนและจะไม่มีวันสับสนและลังเลอีก หมอวีร์จอดรถยนต์ได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านหาแม่ทันที “แม่บ้านของมัดหมี่อยู่ที่ไหนหรือครับ” ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ถามแม่ทันทีโดยไม่รอช้า “จะถามไปทำไม ต้องการไปลากมัดหมี่มาหย่าด้วยหรือไงกัน” วิไลลักษณ์ขึ้นเสียงใส่ “ไม่ใช่แบบนั้นครับ” เขาว่าแล้วเข้าไปนั่งใกล้แม่ วิไลลักษณ์มองหน้าลูกชายอย่างจับผิด “ไม่ใช่แบบนั้นแล้วต้องการอะไร” &n
ตั้งแต่คืนนั้นที่เขารีบร้อนออกไปแถมในคืนนั้นเธอก็อ้วกออกมาจนหมดเรี่ยวแรง โทรไปหาเขาแต่เขาไม่เลือกเธอ เขาเป็นฝ่ายเลือกแฟนเก่า มาวันนี้เธอก็ขอเป็นฝ่ายเลือกตัวเองและลูกให้อยู่กันแค่สองคนพอ เขาที่เป็นพ่อเธอไม่ต้องการอีกต่อไป และตั้งแต่วันเกิดเรื่องมัดหมี่รู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นแบบนี้เพราะตอนเช้าเขาบอกว่าจะชื้อของโปรดของเธอเข้ามาให้กิน ทั้งที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาหมอวีร์ไม่ได้มาใส่ใจว่าเธอจะกินอะไร จะแต่งตัวแบบไหน มัดหมี่เลยจัดการตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหมดโดยใช้บัตรเครดิตของเขารูดซื้อและเสื้อผ้าก็ใส่แบบที่เป็นตัวเอง แถมเธอยังโทรเรียกญาตาวีมาด้วยเพราะเธอรู้ว่าเธอจะต้องกินกุ้งที่เขาซื้อมา จนต้องแพ้เข้าโรงพยาบาลและเธอยังสั่งญาตาวีเรื่องลูกในท้องเอาไว้อย่าให้เขาได้รู้เรื่อง ตอนนี้มัดหมี่ได้ขอหย่ากับหมอวีร์เรียบร้อย เธอแจ้งเรื่องนี้ให้แม่วิไลลักษณ์แม่ของเขาให้รู้เรื่องด้วยทว่าแม่วิไลลักษณ์ขอเอาไว้ก่อน เธอกับเขาจึงยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มัดหมี่ไม่ได้อยู่กับเขาที่บ้านแล้ว เธอย้ายกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ แม่วิไลลักษณ์ทำงานมีหน้ามีตาเป็นถึงหัวหน้าผู้บริหา
สองสัปดาห์ต่อมา ให้เป็นตัวแทนของแฟนเก่าเธอก็ทนได้ ถึงจะรู้ว่าหมอวีร์ไม่ได้รักเธอเลยก็ตาม แต่ขอเพียงมัดหมี่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาในแต่ล่ะวันถึงจะรู้สึกว่าเขาใจร้ายมาก ที่ไม่เคยให้โอกาสให้เธอได้เป็นตัวเองเลยสักครั้ง แต่เธอก็ยอมทนทุกอย่างเพราะว่าเธอรักเขา ถึงแม้ว่าการทนต่อไปก็ไม่สามารถได้หัวใจของเขามาเลยก็ตามทว่าความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลงเมื่อเขากำลังจะกลับไปหาคนรักเก่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง “นี่จัดบ้านอะไร” เขากลับบ้านมาถึงก็เริ่มโวยวายทันทีเพราะมัดหมี่ใช้บัตรเคดิตของเขารูดซื้อของใช้ต่าง ๆ มาตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหลังเลย จากที่เรียบหรูคุมโทนสีขาว ดำ เท่า ตอนนี้ทั้งบ้านเต็มไปด้วยสีสดใสทั้งนั้น “ทำไมคะ ทำไมหมี่จะจัดบ้านใหม่ไม่ได้ บ้านนี้ก็เป็นของหมี่ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน” เขาถอนหายใจออกมา “มัดหมี่เป็นอะไรครับ แล้วดูแต่งตัวอะไร” เธอกลับมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนขาสั้นธรรมดา เขาว่าจะไม่ทักเรื่องเสื้อผ้าแล้วทว่าวันนี้เขาสุดจะทนหลังจากเกือบเดือนที่ผ่านมาเธอเริ่มใส่ชุดที่เขาไม่ได้ซื้อให้ใส่ “ก็แต่งตัวเป็นมัดหม
“ช่วงนี้พี่วีร์ไม่ว่างเลยหรือคะ” เธอเข้าไปกอดเขาจากทางด้านหลัง หลังจากเขาพึ่งอาบน้ำเสร็จ “ขอโทษทีนะมัดหมี่ช่วงนี้พี่งานยุ่งนะ” เขาว่าแล้วจับมือของมัดหมี่ออก แล้วเดินไปแต่งตัวโดยไม่สนใจมัดหมี่เลยสักนิด ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขางานยุ่งมาก กลับบ้านดึก ๆ ทุกวัน แถมวันอาทิตย์ที่ไม่ต้องเข้าคลินิกถึงตอนเย็น เขาก็ยังกลับบ้านดึก อ้างว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้เธอก็ได้แต่กินของโปรดของตัวเอง กินได้โดยที่เขาไม่ได้มาสนใจแถมเสื้อผ้าที่เธอใส่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสนใจอีก เธอใส่เพียงเสื้อยืดตามตลาดธรรมดา ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตามแบรนด์แบบที่เขาต้องการให้ใส่ “วันอาทิตย์นี้เราไปเที่ยวกันไหมคะ” เธอเดินมาดักหน้าของเขา “ช่วงนี้พี่ไม่ว่างจริง ๆ เอาไว้ว่างเมื่อไร พี่จะบอกนะมัดหมี่”