หลังจากที่ทั้งสองคุยกันเสร็จแล้วก็พากันล้างหน้าล้างตา ก่อนที่จะออกไปหาที่อยู่ใกล้กับที่ทำงานของญาตาวี ญาตาวีได้งานบัญชีในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอจึงหาที่พักใกล้ ๆ มาสองสามแห่งแล้ว ก่อนเข้าไปพักก็เลยต้องเข้ามาดูห้องจริงก่อน จึงจะตัดสินใจเข้าพักได้ ทว่าที่หามาสองสามที่ล่วงหน้าเอาไว้ก็ไม่ถูกใจญาตาวีเลยสักนิด ทั้งสองคนเลยต้องกลับมาตั้งหลักที่บ้านกันก่อนแต่ก่อนกลับก็แวะซื้อพิซซ่า เคเอฟซีเข้าบ้านมาด้วย
“พี่หมอวีร์กลับบ้านมาเร็วจัง นี่พึ่งจะห้าโมงเอง” ญาตาวีถามด้วยความสงสัย
“เมื่อเช้าหมี่บอกว่าญาจะมานะ สงสัยจะเตรียมของอร่อย ๆ ต้อนรับอยู่”
“อืม...พี่หมอวีร์ก็น่ารักนะเนี่ย หรือสามเดือนที่ผ่านมาจะตกหลุมรักหมี่แล้วจริง ๆ สงสัยญาต้องคิดใหม่เสียแล้ว” ญาตาวีเอ่ยชมและแซวเพื่อนไปด้วย มองเพื่อนสาวที่เอาแต่เขินหน้าแดง
“บ้าน่า ลงรถได้แล้ว” มัดหมี่ว่าแล้วก็เปิดประตูลงรถยนต์ก่อนที่ญาตาวีจะเดินตามลงมาและมาช่วยกันถือถุงพิซซ่าเคเอฟซี
“ทำอะไรกันอยู่หรือครับเห็นจอดนานแล้วไม่ยอมเดินลงมาเสียที” หมอวีร์ยืนรอต้อนรับหน้าบ้านนานแล้วเลยเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยนะคะพี่วีร์...ว่าแต่พี่วีร์กลับบ้านมาเร็วจังเลยนะคะ”
“ก็วันนี้เพื่อนมัดหมี่มาไม่ใช่เหรอ พี่ก็ซื้อของอร่อยมาเพียบเลย แต่ไม่รู้ว่าชอบอะไร พี่ก็เลยซื้อแต่ของที่มัดหมี่ชอบ” เขาว่าแล้วก็หันไปทางเพื่อนของมัดหมี่
“อ้อ ลืมแนะนำไปเลยค่ะ นี่พี่วีร์ ส่วนนี่ญาตาวีค่ะ” มัดหมี่แนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน
“สวัสดีค่ะพี่หมอวีร์ เรียกว่าญาก็ได้ค่ะ ที่จริงเคยเจอกันในงานแต่งงานแล้ว แต่ไม่ได้คุยกันค่ะ” ญาตาวียกมือไหว้หมอวีร์ ส่วนหมอวีร์ก็รับไหว้
“ครับ แล้วนี่ซื้ออะไรกันมา” หมอวีร์ชีไปที่ถุงที่ทั้งสองถือกันเข้ามา ญาตาวีได้แต่ทำหน้าสงสัยเพราะโลโก้ยี่ห้อก็บอกอยู่ ไม่น่าจะไม่รู้ว่าซื้ออะไรกันมา แต่ก็ยอมตอบ
“อ้อ ซื้อพิซซ่ากับเคเอฟซีค่ะพี่หมอวีร์”
“ปกติมัดหมี่ไม่ชอบกินของไม่มีประโยชน์แบบนี้นี่” หมอวีร์ถามพร้อมกับมองไปที่ถุงที่ทั้งสองกำลังถือกันอยู่
“อ้อ พอดีญาอยากกินนะพี่วีร์ หมี่ไม่ได้อยากกินของพวกนี้เลย”
“ก็ว่าอยู่ปกติมัดหมี่ไม่กินของพวกนี้อยู่แล้ว ไปเข้าไปล้างมือ นี่พี่จัดอาหารที่ซื้อเข้ามาใกล้เสร็จแล้ว” เขาทำเสียงดุปนอ่อนโยนไปด้วย
“ค่ะพี่วีร์เดี๋ยวหมี่ไปล้างไม้ล้างมือแล้วตามเข้าไปนะคะ” มัดหมี่รับคำผู้เป็นสามีอย่างว่าง่าย ส่วนเพื่อนของตนเองก็ยืนหน้าซีดอยู่ตรงนั้น
“มัดหมี่แกไม่ชอบกินของพวกนี้เหรอ” ญาตาวีถามอย่างสงสัยเท่าที่คบกันมาก็เคยเห็นกินของพวกนี้กันตลอด
“เออ ไม่ต้องพูดมาก เข้าไปล้างมือกันก่อน” มัดหมี่รีบดึงมือเพื่อนเข้าบ้าน ไปวางของกินตรงโต๊ะกลางหน้าโซฟาแล้วพากันไปล้างมือ มาช่วยหมอวีร์ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารรอยู่
“มาค่ะ เดี๋ยวหมี่ช่วยนะคะพี่วีร์”
“สาว ๆ นั่งรอกินกันเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง” หมอวีร์พูดเสียงอ่อนโยนแล้ว ไม่ได้ทำเสียงดุเหมือนตอนอยู่หน้าบ้าน
“งั้นญานั่งตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวหมี่จะไปยกน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ” เธอพูดแล้วยังไม่ทันรอฟังว่าเพื่อนจะพูกว่าอะไรก็หันหลังเดินเข้าห้องครัวไปเลย ญาตาวีที่ไม่ได้อยากอยู่เพียงลำพังกันแค่หมอวีร์ก็รีบออกปากไปช่วยเพื่อนด้วย แม้ว่าหมอวีร์จะดูใจดี น่ารักอบอุ่น ทว่าญาตาวีรู้สึกถึงพลังของความใจร้ายออกมา
“กินยาอะไรนะ...” ยังพูดไม่ทันจบ มัดหมี่ก็รีบทำเสียงจุ ๆ ทันทีเลยเพราะไม่อยากให้เสียงของญาตาวีดังออกไปข้างนอก จนญาตาวีจึงทำเสียงเบา ๆ เพื่อถาม “กินยาอะไรนะมัดหมี่”
“ยาแก้แพ้”
“ยาแก้แพ้ แพ้อะไรแพ้กุ้งเหรอ ไปแพ้ตอนไหน ไปหาหมอไหม” ญาตาวีถามด้วยความเป็นห่วง รีบหมุนตัวของเพื่อนเพื่อสำรวจร่างกายแต่ก็ไม่ได้มีผื่นตรงไหน
“ไม่ต้อง ๆ”
“หายใจปกติใช่ไหม” ญาตาวียังถามต่อ
“หายใจปกติ ยังไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแค่กินเผื่อเอาไว้แหละ ไป ๆ ออกไปกินข้าวกัน” มัดหมี่ว่าแล้วก็ยกแก้ว ยกน้ำนำญาตาวีออกไป
“บอกแล้วไงญาว่าไม่ต้องช่วย เป็นแขกก็ต้องนั่งรอเฉย ๆ สิ” พอออกมาข้างนอกครัวมัดหมี่ก็พูดขึ้นทันทีเพื่อไม่ให้เขาสงสัย
“ก็อยากจะช่วย” ญาตาวีก็หัวไวรีบโต้กลับไป
“นี่ญานั่งตรงนู้นเฉย ๆ เลย เดี๋ยวหมี่กับพี่วีร์จัดการเอง” เธอชี้ไปที่เก้าอี้ตรงข้าม ส่วนที่ประจำของหมอวีร์จะเป็นหัวโต๊ะ ซึ่งแปลว่ามัดหมี่และญาตาวีจะนั่งคนล่ะฝั่งกัน เธอฝั่งซ้ายญาตาวีฝั่งขวา
“พี่ว่ามัดหมี่ก็นั่งด้วยดีกว่านะเดี๋ยวพี่จัดการให้เองครับ” เขาเดินมาคว้าแก้วน้ำที่มัดหมี่กำลังจะเทใส่แก้ว เขาก็คว้าไปทำเอง เธอจึงยอมปล่อยแล้วให้เขาเป็นคนทำเองตามใจเพราะปกติที่เคยไปออกงานกับเขา หมอวีร์ก็เป็นคนชอบดูแลคนอื่น ๆ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ถ้ามีเวลาว่างหมอวีร์ก็จะเข้าครัวเอง เธอเลยชินชาที่จะให้เขาดูแลในทุก ๆ เรื่อง โดยไม่ขัดแย้งใด ๆ แม้ว่าบางเรื่องจะรู้ดีว่าเธอไม่ได้ชอบเลยก็ตาม
“ญาก็กินตามสบายเลยนะ อยากกินอะไรก็หยิบเอาเลย นี่พี่จัดพิซซ่ากับเคเอฟซีใส่จานให้แล้ว อยากกินก็ตามสบายเลยครับ”
ญาตาวีหันไปมองตามที่เขาบอก บนโต๊ะอาหารมีพิซซ่าและเคเอฟซีจัดใส่จานเอาไว้อยู่ ญาตาวีก็อดทำหน้าตาแปลกใจไม่ได้แต่ก็ขอบคุณไปเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นใครเอาพิซซ่ากับไก่เคเอฟซีออกจากกล่อง ใคร ๆ เขาก็ต้องหยิบกินออกจากในกล่องกันทั้งนั้น “ขอบคุณนะคะพี่หมอวีร์ ถึงว่านะสิมัดหมี่มันถึงรักพี่หมอวีร์มาก” ญาตาวีได้ทีรีบชงให้เพื่อนทันที หมอวีร์ก็ได้แต่หันไปยิ้มน้อย ๆ ให้กับมัดหมี่ภรรยาของเขา “พูดอะไรนะญา กินไปเลย” มัดหมี่ดึงพิซซ่าไปใส่ปากเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้าม โดยเอาอาหารข้ามหน้าอย่างไร้มารยาททำให้หมอวีร์ส่งสายตาดุมา แต่มัดหมี่ก็ทำเป็นมองไม่เห็นและแอบชิมพิซซ่าที่ติดนิ้วมือของตนเอง เขาทำตาดุก็จริงทว่าไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ดุออกไป ไม่ใช่เพราะเพื่อนของเธอนั่งอยู่ด้วยทว่าท่าทางที่แอบดูดนิ้วของตัวเองเขาก็เห็นแต่ทำเป็นไม่เห็น ท่าทางดูดนิ้วแบบนั้นทำไมในหัวใจของเขารู้สึกเอ็นดู ทั้งที่เมื่อก่อนถ้าเห็นทำแบบนี้เขาจะดุทันทีโดยไม่สนว่าตรงนั้นจะมีใครอยู่ด้วยหรือไม่ “ทำเป็นเขิน” ญาตาวีแซวแล้วก็กัดพิซซ่าคำโตยั่วยวนมัดหมี่ที่ไม่ได้กินพิซซ่าแบบเธอ
“ช่วงนี้พี่วีร์ไม่ว่างเลยหรือคะ” เธอเข้าไปกอดเขาจากทางด้านหลัง หลังจากเขาพึ่งอาบน้ำเสร็จ “ขอโทษทีนะมัดหมี่ช่วงนี้พี่งานยุ่งนะ” เขาว่าแล้วจับมือของมัดหมี่ออก แล้วเดินไปแต่งตัวโดยไม่สนใจมัดหมี่เลยสักนิด ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขางานยุ่งมาก กลับบ้านดึก ๆ ทุกวัน แถมวันอาทิตย์ที่ไม่ต้องเข้าคลินิกถึงตอนเย็น เขาก็ยังกลับบ้านดึก อ้างว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้เธอก็ได้แต่กินของโปรดของตัวเอง กินได้โดยที่เขาไม่ได้มาสนใจแถมเสื้อผ้าที่เธอใส่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสนใจอีก เธอใส่เพียงเสื้อยืดตามตลาดธรรมดา ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตามแบรนด์แบบที่เขาต้องการให้ใส่ “วันอาทิตย์นี้เราไปเที่ยวกันไหมคะ” เธอเดินมาดักหน้าของเขา “ช่วงนี้พี่ไม่ว่างจริง ๆ เอาไว้ว่างเมื่อไร พี่จะบอกนะมัดหมี่”
สองสัปดาห์ต่อมา ให้เป็นตัวแทนของแฟนเก่าเธอก็ทนได้ ถึงจะรู้ว่าหมอวีร์ไม่ได้รักเธอเลยก็ตาม แต่ขอเพียงมัดหมี่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาในแต่ล่ะวันถึงจะรู้สึกว่าเขาใจร้ายมาก ที่ไม่เคยให้โอกาสให้เธอได้เป็นตัวเองเลยสักครั้ง แต่เธอก็ยอมทนทุกอย่างเพราะว่าเธอรักเขา ถึงแม้ว่าการทนต่อไปก็ไม่สามารถได้หัวใจของเขามาเลยก็ตามทว่าความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลงเมื่อเขากำลังจะกลับไปหาคนรักเก่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง “นี่จัดบ้านอะไร” เขากลับบ้านมาถึงก็เริ่มโวยวายทันทีเพราะมัดหมี่ใช้บัตรเคดิตของเขารูดซื้อของใช้ต่าง ๆ มาตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหลังเลย จากที่เรียบหรูคุมโทนสีขาว ดำ เท่า ตอนนี้ทั้งบ้านเต็มไปด้วยสีสดใสทั้งนั้น “ทำไมคะ ทำไมหมี่จะจัดบ้านใหม่ไม่ได้ บ้านนี้ก็เป็นของหมี่ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน” เขาถอนหายใจออกมา “มัดหมี่เป็นอะไรครับ แล้วดูแต่งตัวอะไร” เธอกลับมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนขาสั้นธรรมดา เขาว่าจะไม่ทักเรื่องเสื้อผ้าแล้วทว่าวันนี้เขาสุดจะทนหลังจากเกือบเดือนที่ผ่านมาเธอเริ่มใส่ชุดที่เขาไม่ได้ซื้อให้ใส่ “ก็แต่งตัวเป็นมัดหม
ตั้งแต่คืนนั้นที่เขารีบร้อนออกไปแถมในคืนนั้นเธอก็อ้วกออกมาจนหมดเรี่ยวแรง โทรไปหาเขาแต่เขาไม่เลือกเธอ เขาเป็นฝ่ายเลือกแฟนเก่า มาวันนี้เธอก็ขอเป็นฝ่ายเลือกตัวเองและลูกให้อยู่กันแค่สองคนพอ เขาที่เป็นพ่อเธอไม่ต้องการอีกต่อไป และตั้งแต่วันเกิดเรื่องมัดหมี่รู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นแบบนี้เพราะตอนเช้าเขาบอกว่าจะชื้อของโปรดของเธอเข้ามาให้กิน ทั้งที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาหมอวีร์ไม่ได้มาใส่ใจว่าเธอจะกินอะไร จะแต่งตัวแบบไหน มัดหมี่เลยจัดการตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหมดโดยใช้บัตรเครดิตของเขารูดซื้อและเสื้อผ้าก็ใส่แบบที่เป็นตัวเอง แถมเธอยังโทรเรียกญาตาวีมาด้วยเพราะเธอรู้ว่าเธอจะต้องกินกุ้งที่เขาซื้อมา จนต้องแพ้เข้าโรงพยาบาลและเธอยังสั่งญาตาวีเรื่องลูกในท้องเอาไว้อย่าให้เขาได้รู้เรื่อง ตอนนี้มัดหมี่ได้ขอหย่ากับหมอวีร์เรียบร้อย เธอแจ้งเรื่องนี้ให้แม่วิไลลักษณ์แม่ของเขาให้รู้เรื่องด้วยทว่าแม่วิไลลักษณ์ขอเอาไว้ก่อน เธอกับเขาจึงยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มัดหมี่ไม่ได้อยู่กับเขาที่บ้านแล้ว เธอย้ายกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ แม่วิไลลักษณ์ทำงานมีหน้ามีตาเป็นถึงหัวหน้าผู้บริหา
วันนั้นพอกลับมาจากบ้านของคิริน ชายหนุ่มก็เดินทางไปหาแม่ของเขาทันที ที่บ้านของแม่กับพ่อ โดยที่ไม่มีความคิดที่จะสับสนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในหัวใจของเขานั้นรักใครกันแน่ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ ซึ่งสามารถตอบได้ทันทีเลยว่าเขารักมัดหมี่อย่างแน่นอนและจะไม่มีวันสับสนและลังเลอีก หมอวีร์จอดรถยนต์ได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านหาแม่ทันที “แม่บ้านของมัดหมี่อยู่ที่ไหนหรือครับ” ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ถามแม่ทันทีโดยไม่รอช้า “จะถามไปทำไม ต้องการไปลากมัดหมี่มาหย่าด้วยหรือไงกัน” วิไลลักษณ์ขึ้นเสียงใส่ “ไม่ใช่แบบนั้นครับ” เขาว่าแล้วเข้าไปนั่งใกล้แม่ วิไลลักษณ์มองหน้าลูกชายอย่างจับผิด “ไม่ใช่แบบนั้นแล้วต้องการอะไร” &n
เช้าวันต่อมาหมอวีร์เดินทางไปหาเพื่อนรักที่เป็นหมอเหมือนกันแต่รายนี้เป็นหมอกุมารแพทย์ เขาลงทุนถึงขนาดไม่ไปทำงานที่คลินิกที่ตนเองรัก ปล่อยให้หมออีกสองคนเข้าไปดูแลคลินิกแทนเพื่อที่เขาจะไปปรึกษาเพื่อนว่าตอนนี้เขากำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ เขารู้สึกไม่แน่ใจเอาเสียเลยว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร มันใช่เรียกว่ารักหรือเปล่า แต่อีกใจมันก็แย้งขึ้นมาว่าไม่ได้รักคนที่รักอย่างแท้จริงเป็นพิพิม เขาจึงสับสนในตัวเองไปหมดว่าตกลงเขารักใครกันแน่ ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ “พี่คินคะ พี่หมอวีร์มาหาค่ะ ตอนนี้รออยู่ในสวนข้างบ้านเราแล้ว” เพียงฝันภรรยาสาวสวยเดินเข้ามาบอกสามีในห้องนั่งเล่น “ไอ้วีร์มันมาทำไมของมัน นี่วันอาทิตย์นะ มันไม่เข้าคลินิกที่มันรักหรือไง” หมอคิรินได้แต่ครุ่นคิด “ท่าทางพี่หมอวีร์ดูร้อนใจมากเลยนะคะ พี่คินรีบออกไปสิคะ เดี๋ยวเพียงฝันจะเอาน้ำเอาขนมไปเสิร์ฟ”
สองคนแม่ลูกเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้นก็มาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย รถยนต์ที่เช่าเอาไว้ก็มาบริการเขาถึงที่ หมอวีร์รีบขับรถยนต์ไปที่บ้านไร่ธาราทันที โดยระหว่างทางเขากังวลเป็นอย่างมากลัวว่ามัดหมี่จะไม่ให้อภัยคนอย่างเขาที่ได้ทำผิดพลาดไปอย่างร้ายแรง ภายในครึ่งชั่วโมงเขาก็ขับรถยนต์มาถึงไร่ธาราที่มีพื้นที่เป็นพัน ๆ ไร่ตามที่แม่วิไลลักษณ์บอกเขาเอาไว้ พอมาถึงในไร่ทุกคนต่างตกใจที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อนแต่ก็ถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนบ้านไร่ธารา ยกเว้นมัดหมี่ที่ทำหน้าบึ้งแต่ยังต้องทนนั่งต้อนรับ ไม่แม้แต่จะมองหน้าสบตากับหมอวีร์เลยสักนิด ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกเหม็นขี้หน้าที่สุด แต่ชายหนุ่มก็ยังนั่งยิ้มแย้มแม้ว่ามัดหมี่จะทำหน้าไม่ค่อยต้อนรับเขาก็ตามทว่าคนในบ้านไร่ธาราก็ต้อนรับเขาอย่างดี ทั้งพ่อและแม่ ซึ่งชื่อไร่ธาราก็มาจากชื่อของพ่อมัดหมี่ที่เป็นคนก่อตั้งแห่งไร่นี้มา มัดหมี่มีพี่ชายชื่อมัดไม้แต่รายนี้แยกบ้านไปอยู่อีกหลังไม่ใ
“ครับแม่” วีร์เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปหาเธอทันที โชคดีที่เธอท้องได้เกือบห้าเดือนแล้วเลยเดินไม่ค่อยเร็วมาก เขาเลยไปดันประตูห้องของเธอที่กำลังจะปิดลงได้ทัน “อย่ามาดันประตูนะ เอามือออกไป!” เธอตวาดเขาเสียงดัง “คุยกับพี่ก่อน” “ไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้ว ไว้เรื่องหย่าหมี่จะสั่งทนายให้จัดการให้” มัดหมี่ดันประตูออกแรงเต็มที่ทว่าก็สู้แรงเขาไม่ได้จนเขาเข้ามาอยู่ในห้องได้แล้ว “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” เธอชี้นิ้วไล่เขาออกจากห้อง “พี่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดพี่ผิด พี่ยอมรับผิดทั้งหมด มัดหมี่พี่ขอโทษยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขาพูดไปก็เอามือของเธอมากุมเอาไว้ด้วยแต่มัดหมี่สะบัดมือของเขาออกอย่างไร้เยื่อใย “พี่วีร์พูดง่ายดีเนอะ แค่ขอโทษแล้วมันก็จบเหรอ” “พี่รู้ว่า
หลังจากบอกรักท่ามกลางสักขีพยานมากมาย ทุกคนก็พากันกลับไปกินข้าวที่ร้านอาหารฉลองที่ทั้งสองกับมาคืนดีกันและฉลองให้กับที่พวกเขาจะมีหลาน ยิ่งรู้ว่าจะมีหลานชายเป็นคนแรกด้วยแล้ว ทั้งตายายทั้งผู้เป็นย่ายิ่งตื่นเต้น ตื่นเต้นเสียจนลูกคนแรกยังไม่ทันจะคลอดลูกออกมาเลย พวกท่านก็วางแผนให้เธอมีคนที่สองต่อเลยแถมยังขอคนที่สองเป็นผู้หญิงเสียด้วย การให้โอกาสเขาคราวนี้ หมอวีร์ใส่ใจเธอมากขึ้น คอยถามว่าเธอชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรและคอยถามอีกว่าเธอแพ้อะไรอีกไหมนอกจากกุ้งแม่น้ำเพราะเขากลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ครั้งนี้เขาจึงถามและใส่ใจทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับเธอ คราวนี้เขาจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองแน่ ในคืนนี้เธอกับเขาก็กลับมาปรับความเข้าใจกันอีกเยอะ นอนคุยกันยาวในทุก ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องที่เขารู้สึกสับสนจนแทบจะเป็นบ้า จนได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าเขาขาดมัดหมี่ไปไม่ได้อีกแล้ว
“ทุกคนเอาแต่บอกว่าให้หมี่ให้อภัยยกโทษให้ แล้วใครเคยรู้บ้างว่ามัดหมี่โดนอะไรมานัก ดูสิ ดูคนในไลฟ์สิเอาแต่สงสารพี่วีร์ แล้วมีใครสงสารหมี่บ้างไหม ที่เป็นคนถูกกระทำ หรือจะบอกว่ามัดหมี่ไปรักพี่เขาเองอย่างนั้นเหรอ” “มัดหมี่ก็อย่าไปอ่านคอมเม้นสิลูก ดูที่ความจริงใจของพี่วีร์ ไม่ต้องไปสนใจคอมเม้นว่าใครจะพูดอะไร สนใจแค่คนที่ยืนบอกรักมัดหมี่ตรงนี้ดีกว่าไหม มัดหมี่ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นเลย สนใจแต่ผู้ชายคนนี้ สนใจแต่คนที่มัดหมี่รักดีกว่า” ธาราเป็นฝ่ายพูดสอนลูกสาวบ้างพร้อมกับชี้ให้ดูแต่ผู้ชายที่รักมัดหมี่เพียงคนเดียว โดยไม่ต้องไปสนใจคนอื่นว่าจะพูดอะไร “ใช่แม่ก็เห็นด้วยกับคำพูดพ่อของมัดหมี่ แม่ไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะไม่อยากให้มัดหมี่เห็นว่าแม่เข้าข้างลูกชายของตัวเอง แต่ครั้งนี้แม่ได้เห็นความจริงใจของวีร์จริง ๆ เห็นว่าในแววตาคู่นี้ของวีร์ลืมรักเก่าได้หมดสนิทแล้ว ตอ
“ครับแม่” วีร์เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปหาเธอทันที โชคดีที่เธอท้องได้เกือบห้าเดือนแล้วเลยเดินไม่ค่อยเร็วมาก เขาเลยไปดันประตูห้องของเธอที่กำลังจะปิดลงได้ทัน “อย่ามาดันประตูนะ เอามือออกไป!” เธอตวาดเขาเสียงดัง “คุยกับพี่ก่อน” “ไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้ว ไว้เรื่องหย่าหมี่จะสั่งทนายให้จัดการให้” มัดหมี่ดันประตูออกแรงเต็มที่ทว่าก็สู้แรงเขาไม่ได้จนเขาเข้ามาอยู่ในห้องได้แล้ว “ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” เธอชี้นิ้วไล่เขาออกจากห้อง “พี่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดพี่ผิด พี่ยอมรับผิดทั้งหมด มัดหมี่พี่ขอโทษยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขาพูดไปก็เอามือของเธอมากุมเอาไว้ด้วยแต่มัดหมี่สะบัดมือของเขาออกอย่างไร้เยื่อใย “พี่วีร์พูดง่ายดีเนอะ แค่ขอโทษแล้วมันก็จบเหรอ” “พี่รู้ว่า
สองคนแม่ลูกเดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าเท่านั้นก็มาถึงเชียงใหม่อย่างปลอดภัย รถยนต์ที่เช่าเอาไว้ก็มาบริการเขาถึงที่ หมอวีร์รีบขับรถยนต์ไปที่บ้านไร่ธาราทันที โดยระหว่างทางเขากังวลเป็นอย่างมากลัวว่ามัดหมี่จะไม่ให้อภัยคนอย่างเขาที่ได้ทำผิดพลาดไปอย่างร้ายแรง ภายในครึ่งชั่วโมงเขาก็ขับรถยนต์มาถึงไร่ธาราที่มีพื้นที่เป็นพัน ๆ ไร่ตามที่แม่วิไลลักษณ์บอกเขาเอาไว้ พอมาถึงในไร่ทุกคนต่างตกใจที่มาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อนแต่ก็ถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนบ้านไร่ธารา ยกเว้นมัดหมี่ที่ทำหน้าบึ้งแต่ยังต้องทนนั่งต้อนรับ ไม่แม้แต่จะมองหน้าสบตากับหมอวีร์เลยสักนิด ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรู้สึกเหม็นขี้หน้าที่สุด แต่ชายหนุ่มก็ยังนั่งยิ้มแย้มแม้ว่ามัดหมี่จะทำหน้าไม่ค่อยต้อนรับเขาก็ตามทว่าคนในบ้านไร่ธาราก็ต้อนรับเขาอย่างดี ทั้งพ่อและแม่ ซึ่งชื่อไร่ธาราก็มาจากชื่อของพ่อมัดหมี่ที่เป็นคนก่อตั้งแห่งไร่นี้มา มัดหมี่มีพี่ชายชื่อมัดไม้แต่รายนี้แยกบ้านไปอยู่อีกหลังไม่ใ
เช้าวันต่อมาหมอวีร์เดินทางไปหาเพื่อนรักที่เป็นหมอเหมือนกันแต่รายนี้เป็นหมอกุมารแพทย์ เขาลงทุนถึงขนาดไม่ไปทำงานที่คลินิกที่ตนเองรัก ปล่อยให้หมออีกสองคนเข้าไปดูแลคลินิกแทนเพื่อที่เขาจะไปปรึกษาเพื่อนว่าตอนนี้เขากำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ เขารู้สึกไม่แน่ใจเอาเสียเลยว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร มันใช่เรียกว่ารักหรือเปล่า แต่อีกใจมันก็แย้งขึ้นมาว่าไม่ได้รักคนที่รักอย่างแท้จริงเป็นพิพิม เขาจึงสับสนในตัวเองไปหมดว่าตกลงเขารักใครกันแน่ ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ “พี่คินคะ พี่หมอวีร์มาหาค่ะ ตอนนี้รออยู่ในสวนข้างบ้านเราแล้ว” เพียงฝันภรรยาสาวสวยเดินเข้ามาบอกสามีในห้องนั่งเล่น “ไอ้วีร์มันมาทำไมของมัน นี่วันอาทิตย์นะ มันไม่เข้าคลินิกที่มันรักหรือไง” หมอคิรินได้แต่ครุ่นคิด “ท่าทางพี่หมอวีร์ดูร้อนใจมากเลยนะคะ พี่คินรีบออกไปสิคะ เดี๋ยวเพียงฝันจะเอาน้ำเอาขนมไปเสิร์ฟ”
วันนั้นพอกลับมาจากบ้านของคิริน ชายหนุ่มก็เดินทางไปหาแม่ของเขาทันที ที่บ้านของแม่กับพ่อ โดยที่ไม่มีความคิดที่จะสับสนอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในหัวใจของเขานั้นรักใครกันแน่ระหว่างพิพิมกับมัดหมี่ ซึ่งสามารถตอบได้ทันทีเลยว่าเขารักมัดหมี่อย่างแน่นอนและจะไม่มีวันสับสนและลังเลอีก หมอวีร์จอดรถยนต์ได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านหาแม่ทันที “แม่บ้านของมัดหมี่อยู่ที่ไหนหรือครับ” ชายหนุ่มเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็ถามแม่ทันทีโดยไม่รอช้า “จะถามไปทำไม ต้องการไปลากมัดหมี่มาหย่าด้วยหรือไงกัน” วิไลลักษณ์ขึ้นเสียงใส่ “ไม่ใช่แบบนั้นครับ” เขาว่าแล้วเข้าไปนั่งใกล้แม่ วิไลลักษณ์มองหน้าลูกชายอย่างจับผิด “ไม่ใช่แบบนั้นแล้วต้องการอะไร” &n
ตั้งแต่คืนนั้นที่เขารีบร้อนออกไปแถมในคืนนั้นเธอก็อ้วกออกมาจนหมดเรี่ยวแรง โทรไปหาเขาแต่เขาไม่เลือกเธอ เขาเป็นฝ่ายเลือกแฟนเก่า มาวันนี้เธอก็ขอเป็นฝ่ายเลือกตัวเองและลูกให้อยู่กันแค่สองคนพอ เขาที่เป็นพ่อเธอไม่ต้องการอีกต่อไป และตั้งแต่วันเกิดเรื่องมัดหมี่รู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นแบบนี้เพราะตอนเช้าเขาบอกว่าจะชื้อของโปรดของเธอเข้ามาให้กิน ทั้งที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาหมอวีร์ไม่ได้มาใส่ใจว่าเธอจะกินอะไร จะแต่งตัวแบบไหน มัดหมี่เลยจัดการตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหมดโดยใช้บัตรเครดิตของเขารูดซื้อและเสื้อผ้าก็ใส่แบบที่เป็นตัวเอง แถมเธอยังโทรเรียกญาตาวีมาด้วยเพราะเธอรู้ว่าเธอจะต้องกินกุ้งที่เขาซื้อมา จนต้องแพ้เข้าโรงพยาบาลและเธอยังสั่งญาตาวีเรื่องลูกในท้องเอาไว้อย่าให้เขาได้รู้เรื่อง ตอนนี้มัดหมี่ได้ขอหย่ากับหมอวีร์เรียบร้อย เธอแจ้งเรื่องนี้ให้แม่วิไลลักษณ์แม่ของเขาให้รู้เรื่องด้วยทว่าแม่วิไลลักษณ์ขอเอาไว้ก่อน เธอกับเขาจึงยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้มัดหมี่ไม่ได้อยู่กับเขาที่บ้านแล้ว เธอย้ายกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ แม่วิไลลักษณ์ทำงานมีหน้ามีตาเป็นถึงหัวหน้าผู้บริหา
สองสัปดาห์ต่อมา ให้เป็นตัวแทนของแฟนเก่าเธอก็ทนได้ ถึงจะรู้ว่าหมอวีร์ไม่ได้รักเธอเลยก็ตาม แต่ขอเพียงมัดหมี่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาในแต่ล่ะวันถึงจะรู้สึกว่าเขาใจร้ายมาก ที่ไม่เคยให้โอกาสให้เธอได้เป็นตัวเองเลยสักครั้ง แต่เธอก็ยอมทนทุกอย่างเพราะว่าเธอรักเขา ถึงแม้ว่าการทนต่อไปก็ไม่สามารถได้หัวใจของเขามาเลยก็ตามทว่าความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลงเมื่อเขากำลังจะกลับไปหาคนรักเก่าของเขาอีกครั้งหนึ่ง “นี่จัดบ้านอะไร” เขากลับบ้านมาถึงก็เริ่มโวยวายทันทีเพราะมัดหมี่ใช้บัตรเคดิตของเขารูดซื้อของใช้ต่าง ๆ มาตบแต่งบ้านใหม่ทั้งหลังเลย จากที่เรียบหรูคุมโทนสีขาว ดำ เท่า ตอนนี้ทั้งบ้านเต็มไปด้วยสีสดใสทั้งนั้น “ทำไมคะ ทำไมหมี่จะจัดบ้านใหม่ไม่ได้ บ้านนี้ก็เป็นของหมี่ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน” เขาถอนหายใจออกมา “มัดหมี่เป็นอะไรครับ แล้วดูแต่งตัวอะไร” เธอกลับมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนขาสั้นธรรมดา เขาว่าจะไม่ทักเรื่องเสื้อผ้าแล้วทว่าวันนี้เขาสุดจะทนหลังจากเกือบเดือนที่ผ่านมาเธอเริ่มใส่ชุดที่เขาไม่ได้ซื้อให้ใส่ “ก็แต่งตัวเป็นมัดหม
“ช่วงนี้พี่วีร์ไม่ว่างเลยหรือคะ” เธอเข้าไปกอดเขาจากทางด้านหลัง หลังจากเขาพึ่งอาบน้ำเสร็จ “ขอโทษทีนะมัดหมี่ช่วงนี้พี่งานยุ่งนะ” เขาว่าแล้วจับมือของมัดหมี่ออก แล้วเดินไปแต่งตัวโดยไม่สนใจมัดหมี่เลยสักนิด ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขางานยุ่งมาก กลับบ้านดึก ๆ ทุกวัน แถมวันอาทิตย์ที่ไม่ต้องเข้าคลินิกถึงตอนเย็น เขาก็ยังกลับบ้านดึก อ้างว่างานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ช่วงนี้เธอก็ได้แต่กินของโปรดของตัวเอง กินได้โดยที่เขาไม่ได้มาสนใจแถมเสื้อผ้าที่เธอใส่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้มาสนใจอีก เธอใส่เพียงเสื้อยืดตามตลาดธรรมดา ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าตามแบรนด์แบบที่เขาต้องการให้ใส่ “วันอาทิตย์นี้เราไปเที่ยวกันไหมคะ” เธอเดินมาดักหน้าของเขา “ช่วงนี้พี่ไม่ว่างจริง ๆ เอาไว้ว่างเมื่อไร พี่จะบอกนะมัดหมี่”