หลังจากแยกกับท่านประธานสุดหล่อที่ลากเธอไปตะลอนมาทั้งวันจนที่สุดท้ายก็เลยเวลาเลิกงานจนได้ หลังไปส่งภาสกฤตไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องส่วนตัวในออฟฟิศของเขาเพื่อจะไปงานเลี้ยงต่อช่วงหัวค่ำเสร็จ คุณเลขาสาวก็ได้เวลาเด้งออกจากออฟฟิศไปทำสวยเหมือนกัน
นานๆ ทีจะเลิกงานแล้วได้เห็นท้องฟ้าสีฟ้าในยามเย็น แทนที่จะเป็นสีดำมืดมิดเพราะเลยเวลาเลิกงานมาจนค่ำมืด ทำให้หญิงสาวค่อนข้างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
นพรดามองตัวเองในกระจกหลังจากแปลงโฉม ทำผมแต่งหน้า และเปลี่ยนชุดสวยเสร็จสรรพ วันนี้เธอสวมเดรสสีเงินเมทัลลิกเข้ารูปอวดงานผิว งานหุ่นที่อุตส่าห์เจียดเวลาที่เหลือจากการทำงานอันน้อยนิดไปปั้นมาจนเป๊ะปัง โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจอวบอิ่มที่โดดเด้งเตะตาสุดๆ แต่ไม่ค่อยได้อวดใครที่ออฟฟิศเพราะต้องแต่งตัวด้วยชุดสูทสีสุภาพแบบเรียบร้อยเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้เจ้านาย
ตอนเข้างานมาใหม่ ฝ่ายบุคคลมาแอบกระซิบบอกว่าเจ้านายของเธอนั้นไม่โปรดเลขาที่แต่งตัวจัดจ้านหรือโป๊เกินไป คนที่มาก่อนๆ เลยต้องคุมโทนเสื้อผ้าหน้าผมให้เป็นทางการให้เรียบร้อยแบบไม่มีที่ติ เธอเลยต้องปรับตัวแบบเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เรียบร้อยกว่านี้อีกนิดเธอคงไปสมัครเป็นชีได้
นานๆ ทีเลยได้ปล่อยผี ก็เลยต้องจัดเต็มกันหน่อย ดูเสื้อผ้าหน้าผม และดูเวลานัดที่เพื่อนจะมารับหน้าแล้วก็ยังพอมีเวลาเหลืออีกนิดหน่อยให้สำรวจตัวเองอีกครั้ง จนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์จากเพื่อนรักที่มารับ
“แม่เจ้าโว้ย! สวยเป๊ะปังสุดๆ เลยแก” พลอยพราวถึงกับร้องทักเมื่อเห็นแม่เพื่อนสาวถอดรูปจากลุคคุณเลขาสายแม่ชี กลายเป็นเสือสาวสุดเซ็กซี่
“แกก็ใช่ย่อยที่ไหน สวยแซ่บเหมือนกัน แล้วนี่ถอยรถใหม่อีกแล้วเหรอ”
“อืม คันเก่ามันเกเรบ่อย พอดีเพิ่งได้โบนัสมาเลยจัดซักคัน แกก็ควรถอยสักคันได้แล้วไหม เป็นถึงเลขาผู้บริหารใหญ่มาตั้งหลายปี มัวแต่โหนรถเมล์นั่งรถแท็กซี่ไปทำงานทุกวันทำไม เลขาที่อื่นเขามีรถประจำตำแหน่งให้ใช้ด้วยซ้ำ”
“ไม่มีก็เหมือนมีแหละแก ทุกวันนี้ถ้าคนขับรถของบอส ไม่ว่างก็ต้องเรียกฉันไปขับให้ทุกที” พลอยพราวค้อนใส่แม่คนโลกสวย
“นั่นเขาเรียกคนขับรถค่ะเพื่อน มีรถของตัวเองอยากไปไหนก็ไปได้ ซื้อความสบายให้ตัวเองบ้างเถอะ เอาไหม วันไหนว่างๆ แวะไปที่โชว์รูมฉัน เดี๋ยวแนะนำรุ่นใหม่ตัวท็อปให้”
“จะหายอดจองก็บอกสิ” คนฟังดักคออย่างรู้ทัน “โชว์รูมแกมีแต่ซุปเปอร์คาร์ราคาแพงหูฉี่ ใครจะไปซื้อไหว ฉันมนุษย์เงินเดือนนะยะไม่ใช่มหาเศรษฐี”
“เอาน่า ก็ถ้าวันนี้แกตกคุณบอสสุดหล่อของฉันไปได้ ไม่แน่นะอาจจะได้ส่วนลดถล่มทลาย ไม่ก็ได้รถฟรีแถมลูกชายเจ้าของโชว์รูมไปเลยก็ได้ รายนั้นทั้งโสดทั้งสายเปย์จะตายไป” คนพูดหัวเราะคิกคัก
“ดีขนาดนั้นแล้วทำไมแกไม่จีบซะเองล่ะยะ อุตส่าห์ได้อยู่บริษัทเดียวกันเห็นหน้ากันทุกวัน แกไม่ปิ๊งเขาบ้างเหรอ”
“จีบติดก็ดีสิ” คนพูดเบ้ปาก
“พูดเป็นเล่นไป ขนาดสวยแซ่บอย่างแกยังจีบไม่ติด เอาอะไรให้ฉันไปจีบติดกัน เดี๋ยวนะ พูดแบบนี้แสดงว่าเคยจีบ?”
“ก็นะ เผื่อฟลุกไงแก เอาน่า วันนี้ไม่ได้มีแค่บอสฉันนี่นา มีเพื่อนๆ เขาก็มาด้วย ไหนจะเพื่อนเซลล์หนุ่มๆ ที่บริษัทฉันอีก คืนนี้แกกับฉันต้องตกผู้ชายได้สักคนแหละน่า”
นพรดายิ้มขำเพื่อนสาว เธอไม่ได้คาดหวังเรื่องความสัมพันธ์ฉาบฉวย แต่อยากได้คนที่จะคบหาดูใจกันยาวๆ และมองอนาคตร่วมกันมากกว่าความสนุกเรื่องบนเตียงชั่วครั้งชั่วคราว ยอมรับว่าค่อนข้างหัวโบราณอยู่บ้าง แม้สมัยนี้จะเปิดกว้างเรื่องเซ็กซ์แล้วก็ตาม
กว่าจะถึงผับที่นัดหมายก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงกว่าเพราะเป็นวันศุกร์แห่งชาติที่รู้ๆ กันว่ารถติดหนัก เพียงสองสาวก้าวเข้าไปด้านในร้าน สายตาหลายคู่ก็มองมาที่พวกเธออย่างสนใจ
“อุ๊ย นั่นไงแก บอสฉันนั่งที่โต๊ะนั่น วันนี้หล่อเช็ดเลย ไปกันเถอะ”
นพรดาหันไปมองชายหนุ่มหน้าตาดีที่ออกจะดูตี๋ๆ ไปสักหน่อย แต่โดยรวมบอสของเพื่อนสาวก็หล่อสมคำล่ำลือ แม้ความหล่อเหลายังห่างชั้นกับภาสกฤตเจ้านายของเธอหลายขุม แต่กระนั้นก็ทำให้หญิงสาวอดจะประหม่าเขินอายไม่ได้เมื่อเห็นสายตาที่อีกฝ่ายมองตรงมาทอประกายระยิบระยับ
“นี่น่ะหรือครับ เพื่อนสนิทที่คุณพลอยเล่าให้ผมฟังบ่อยๆ ตัวจริงสวยกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีกนะ”
“แน่นอนสิคะ ยัยเก้าเขาเคยเป็นดาวคณะตอนอยู่มหาวิทยาลัยด้วยนะคะบอส” พลอยพราวรีบอวดสรรพคุณเพื่อนรัก
“แกก็พูดไปพลอย”
นพรดาอดเขินไม่ได้ ที่จริงเธอก็ลืมไปแล้วว่าเคยเป็นดาวคณะอะไรนั่น เพราะจริงๆ เธอไม่ได้สมัครเอง แต่เพื่อนๆ ยุแถมจัดการสมัครให้ทั้งนั้น ตั้งแต่ทำงานมาก็ไม่เคยบอกใครสักคน แม้จะมีหนุ่มๆ อยากจะเข้ามาแค่ไหน แต่อาศัยบารมีความโหดของเจ้านายเธอ ก็ไม่มีใครกล้าแหยมเข้ามาจีบแล้ว จนเธอเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้ ถ้าขืนไม่ทำอะไรสักอย่าง คงมีหวังได้จองคานทองแท้นิเวศน์ หรือไม่ก็คงหัวใจวายตายคาโต๊ะทำงานตามเลขาคนก่อนไปเป็นแน่
“ผมเรียกคุณเก้าได้ไหมครับ”“ได้สิคะ แล้วให้เก้าเรียกคุณว่าอะไรดี หรือให้เรียกบอสตามยัยพลอย”“โห ไม่เอาดีกว่า คำนั้นให้แค่พนักงานที่โชว์รูมเรียกพอแล้ว คุณเรียกผมว่าพี่เวย์ก็ได้ครับ ผมชื่อเวธิศ หรือว่าจะเรียก...ที่รัก ผมก็ไม่ติดนะ”อีกฝ่ายหยอดแบบทีเล่นทีจริง แต่เพราะหน้าตาเป็นมิตรหรือรอยยิ้มตารูปสระอิน่ารักนั่น เลยทำให้คนฟังไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจ“งั้นเก้าขอเรียกคุณเวย์แล้วกันนะคะ”“ตามสบายครับ ว่าแต่คุณเก้าจะดื่มอะไรดี”“อะไรกันคะบอส มาตั้งสองคน แต่ถามแค่ยัยเก้า ไม่แฟร์เลย” พลอยพราวแกล้งตัดพ้อ ก่อนหันไปขยิบตาให้เพื่อนสาวที่ดูท่าจะตกบอสเธอได้ตั้งแต่แรกพบ ส่วนเธอก็แอบเล็งเพื่อนคนหนึ่งของบอสที่นั่งใกล้ๆ เขาอยู่เหมือนกัน เรียกว่าต่างคนต่างปักหมุดเป้าหมายของตนไม่ทับไลน์กันยิ่งตกดึกบรรยากาศในผับก็ยิ่งคึกคัก เสียงเพลงจังหวะเร้าใจทำให้คนที่มาต่างออกไปวาดลวดลายโชว์สเต็ปกันอย่างสนุกสนาน นพรดาและพลอยพราวกลายเป็นดาวเด่นของฟลอร์ที่มีหนุ่มๆ แวะเวียนมาขอเต้นรำด้วยไม่ขาด โดยเฉพาะเวธิศที่คอยประกบสองสาวไม่ห่างราวกับเป็นบอดี้การ์ดนพรดาไม่ได้ออกมาเที่ยวกลางคืนแบบนี้นานมากแล้ว ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่บริษ
พอไปถึงที่หมายเธอก็รีบโทรหาภาสกฤต แต่กลับถูกตัดสาย โทรอีกก็ถูกตัดสายอีก จนครั้งสุดท้ายถึงกับปิดเครื่องไปดื้อๆ“โวะ อะไรของเขาวะเนี่ย บอกให้มารับแล้วตัดสายทำไม” เลขาสาวบ่นอย่างหัวเสีย พลางเดินเตร่เข้าไปในคลับเลาจน์หรู แต่เธอไม่ได้เป็นเมมเบอร์ไม่มีบัตรผ่าน จึงเข้าไม่ได้“อยู่ไหนของเขาเนี่ย”ระหว่างที่เธอกำลังยืนหันรีหันขวางลังเลว่าจะเอายังไงต่อดีนั้น จู่ๆ หางตาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงสง่าคุ้นตาของใครบางคนเดินออกมาเสียก่อน“บอส!”ภาสกฤตไม่ได้มาคนเดียว แต่มีหญิงสาวหน้าแฉล้มแต่งตัวเซ็กซี่โชว์เนื้อหนังติดมือมาด้วย ทำให้คนเป็นเลขาถึงกับชะงักไปนิดๆมากับเด็กนี่หว่า แล้วจะเรียกเรามาทำไมเนี่ย หรือวันนี้อยากจะทรีซั่ม ไอ้เวรตะไลเอ๊ย!หญิงสาวก่นด่าในใจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหา อย่างน้อยก็ให้เขาเห็นหน้าว่าเธอมาแล้ว จากนั้นจะไปไหนก็ไสหัวไปเถอะ ไม่ใช่ความผิดของเธอแล้ว“บอสคะ”คนถูกเรียกสะบัดศีรษะแรงๆ ทีหนึ่ง ก่อนหันมาตามเสียงเรียก ดวงตาคมจัดจ้องหน้าเธออย่างว่างเปล่า“คุณเป็นใคร”เกือบจะโบกคนถามด้วยกระเป๋าครัชใบงามในมือเสียแล้ว หากไม่บังเอิญหันไปเห็นตัวเองในกระจกด้านหน้าเสียก่อน ผู้หญิงที่วันนี้แ
“งั้นเดี๋ยวเก้าโทรตามลุงชัยก่อนนะคะ” มือที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์ต้องชะงัก เมื่อถูกมือหนาคว้าไว้เสียก่อน หางตาเขาเหลือบไปทางประตูเล็กน้อย ทำให้เธอต้องหันไปมองตาม“อย่ามอง! อย่าเพิ่งถามด้วย”เอ...ชักไม่ชอบมาพากลแฮะ“เรียกแท็กซี่เถอะ...”จังหวะนั้นก็บังเอิญมีแท็กซี่เลี้ยวเข้ามาจอดส่งผู้โดยสารพอดี นพรดาจึงรีบกัดฟันลากคนตัวโตขึ้นรถ แต่ตอนที่เธอจะไปนั่งข้างหน้า เขากลับฉุดตัวเธอลงมานั่งข้างๆ แทน ยังไม่ทันได้ถาม เสียงเข้มๆ ก็สั่งขึ้นเสียก่อน“รีบออกรถ”“แล้วคุณจะไปที่ไหนครับ” แท็กซี่หันมาถาม“ช่วยไปส่งที่เพนท์เฮ้าส์...ด้วยค่ะ” นพรดารีบตอบแทนเจ้านายที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ตัวเกร็งร้อนผ่าว แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากตัวเธอเสียที“บอสคะ คุณไหวไหมคะ หรือเราจะแวะโรงพยาบาลก่อนดี”“ไม่! ไม่ต้อง ผมไหว” เขาเอ่ยลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงพร่าแปร่งหู“แต่ท่าทางคุณดูไม่ดีเลย เก้าว่า...อุ๊ย!”นพรดาอุทาน ตัวแข็งทื่อ เมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายก็ซบใบหน้าลงมาที่ซอกคอเธอเสียนี่อีบอสชีกอนี่ อยู่ๆ ก็คิดจะมาแต๊ะอั๋งกัน ไหนว่าสมภารไม่กินไก่วัดไงวะ“ร้อน...ผมร้อนจัง”ใช่! เธอก็เริ่มจะร้อนเหมือนกัน วันนี้ก่อนมาก็จัดไปหลายคาราเบลอย
“อื้อ...” หญิงสาวตาเหลือก มือทุบไหล่กว้างรัวๆ เพราะเธอกำลังขาดอากาศหายใจอยู่รอมร่อ จนสุดท้ายเขาจึงยอมถอนริมฝีปากออกเพื่อให้เธอตะครุบเอาออกซิเจนเข้าปอดเฮือกใหญ่ไม่ได้การแล้ว ขืนไม่ทำอะไรซักอย่าง เธอคงโดนปล้ำในแท็กซี่นี้แน่ มองออกไปนอกหน้าต่างรถก็เห็นว่าใกล้ถึงที่หมายเต็มที“พี่คะ เหยียบให้ไวสุดๆ เลยได้ไหม หนูไหว้ล่ะ”หญิงสาววิงวอนปากคอสั่น แต่มือต้องคอยปัดป้องริมฝีปากร้ายๆ ที่กำลังจะโน้มลงมาหาอีกรอบ แต่ไม่ได้ช่วยอะไรมาก สภาพเธอตอนนี้ใช่ว่าสติจะเต็มร้อย ก็จัดหนักมาไม่น้อยเหมือนกัน ถ้ารู้แบบนี้จะไม่ดื่มก่อนมา แต่คิดตอนนี้มีประโยชน์ที่ไหน ในเมื่ออีกฝ่ายรุกหนักจนเธอเริ่มจะหมดแรงต้าน จูบเมื่อกี้ก็ทำเอาใจเหลวไปหมดแล้วเนี่ยกว่ารถแท็กซี่จะมาจอดเทียบหน้าที่พักสุดหรูของบอสหนุ่ม นพรดาก็เกือบจะเสียผีให้เขาในรถโชว์หนังสดอวดคนขับเสียแล้ว ทั้งกอด ทั้งหอมแก้ม ทั้งจูบ ทั้งไซ้ จะโดดลงรถหนีก็กลัวเสียโฉมอีก“บอสคะ ถึงแล้วรีบลงไปสิคะ” กะว่าจะดีดเขาให้พ้นตัวแล้วชิ่งหนี แต่ฝ่ายนั้นก็ดันรู้ทันกระชากตัวเธอลงจากรถมาด้วยกันเสียนี่“เดี๋ยวค่ะบอส ค่าแท็กซี่ยังไม่ได้จ่าย”หญิงสาวละล่ำละลักบอก พลางหยิบโทรศัพท์มาแส
ติ๊ง!เสียงสัญญาณลิฟท์ดังขึ้น แต่ไม่ได้ขัดจังหวะในการนัวเนียของสองหนุ่มสาวที่ตอนนี้กำลังดุเดือดเข้มข้น จากจูบเดียวเริ่มลุกลาม นพรดาโอบรอบต้นคอแกร่งไว้มั่น เมื่อเขาผละจากริมฝีปากมาซุกไซ้ที่ต้นคอเธออย่างวาบหวาม จนอารมณ์สาวโสดเตลิดไปไกลมือหนาบีบเนื้อหนั่นแน่นที่บั้นท้ายของเธออย่างแรง ก่อนจะสอดเข้าไปภายในชุดเดรสเซ็กซี่เพื่อสำรวจเป้าหมายต่อไป“หืม?”คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆ เมื่อพบว่าภายใต้ชุดแนบเนื้อนั่นคือ...“จีสตริง!”มุมปากหยักกระตุกขึ้น ก่อนที่จะขบเม้มต้นคอและจูบข้างแก้มนวลหอมกรุ่นของแม่เลขาสาวที่ซ่อนความเร่าร้อนไว้ภายใน“บอสคะ!”นพรดาไหวตัว เมื่อรับรู้ถึงมือที่ป้วนเปี้ยนสำรวจร่างกายใต้ร่มผ้าของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต พอมองเห็นภาพอันเร่าร้อนที่สะท้อนจากกระจกในลิฟท์ตัวนั้น ใบหน้าสวยก็แดงวาบท่านี้ไม่ดีต่อใจเสียเลย เธอถูกเขาอุ้มกระเตงเหมือนลิงกำลังอุ้มแตง น่าหวาดเสียวเหลือเกิน หากใครมาเห็นเข้าล่ะก็ งามหน้าทั้งนายทั้งเลขาก็คราวนี้“ปะ ปล่อยก่อน ลิฟท์ถึงชั้นที่คุณอยู่แล้วค่ะ”“อืม...”อืมอะไรวะ อืมแล้วไม่ปล่อยคืออะไร ยังไม่ทันได้คำตอบ หญิงสาวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเปรี๊ยะ!คนมือบอ
สวบ! อึก!นพรดากัดฟันแน่น เพียงแค่ส่วนปลายผ่านเข้าไปได้นิดเดียวก็ทำเธอจุกแน่น เสียววาบไปทั้งท้องน้อย“โอ๊ก! เจ็บสัส!” เสียงอุทธรณ์นั่นทำให้บอสหนุ่มถึงกับชะงัก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันใด“นี่เธอยัง...ซิงเหรอ!” ภาสกฤตสบถหนักๆ เมื่อพบว่าช่องทางตรงหน้าไม่อาจบุกทะลวงเข้าไปได้ง่ายๆ“โธ่เว้ย ทำไมไม่บอกว่าไม่เคย”“บอกทันที่ไหนล่ะ คุณเล่นสวบไม่ถามนี่ ฮือ...”คน ‘ไม่เคยโดนสวบ’ สวนกลับ น้ำตาคลอเบ้าจนทำให้บอส หนุ่มใจอ่อนยวบ เมื่อเห็นน้ำตาผู้หญิงตรงหน้า ครั้นจะให้เขาถอยทัพก็ไม่ได้เพราะตอนนี้ร่างกายมันร้อนระอุจนไฟแทบลุก หากไม่ได้รับการปลดปล่อยหรือบรรเทาความปวดร้าวตอนนี้คงแย่“ผมถอยห่างตอนนี้ไม่ได้แล้ว งั้นคุณลองถ่างเอาหน่อยแล้วกัน”“ถ่าง...ถ่างอะไร” คนถูกสั่งเลิ่กลั่ก หน้าแดง ในหัวคิดดีไม่ได้เลย“ขาไง...ถ่างกว้างๆ หน่อย จะได้เข้าง่ายๆ ลึกๆ”“อ๋อ...เฮ้ย!”มันใช่เหรอวะ ยังไม่ทันหายงง คุณบอสตัวร้ายก็จัดการถ่างขาเธอออกเสียเองจนได้“คุณเจ็บมากไหม”“เจ็บสิคะ ถามได้”หญิงสาวพยักหน้าถี่ๆ ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ จากอาการเกร็งตัวด้วยความกลัวเจ็บชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงโน้มตัวลงพรมจูบที่แผ่นหลังขาวเนียนตา และหัวไห
นพรดาไม่รู้เลยว่าภาพตัดไปตั้งแต่ตอนไหน และจำไม่ได้ด้วยว่าคืนที่ผ่านมาเธอแตะขอบสวรรค์ไปกี่รอบ หรือเสร็จไปกี่หน สำนึกสุดท้ายก่อนที่ภาพจะตัดไปจำได้เพียงว่าตัวเองถูกจับให้นอนคว่ำหน้า ยกสะโพกสูงอวดความอวบเด้งในยามที่โดนเขากระแทกกระทั้นความแข็งแกร่งดุดันเข้าหาจากด้านหลังนับครั้งไม่ถ้วนจนเธอหัวสั่นหัวคลอนยกนั้นมันส์สะใจมาก แต่ก็ร้าวไปทั้งตัวมากเหมือนกันโดยเฉพาะที่จุดเกิดเหตุตรงใจกลางกุหลาบสาวสดสวยที่เธอแสนจะหวงแหนนั่น ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้สภาพจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะอีตาบอส แกเล่นถลุงใส่กันยับ ไม่พัก ไม่แผ่ว แรงดีราวกับช้างตกมัน แถมขนาดตรงส่วนนั้นมันไม่ธรรมดาจบงานนี้เธอควรขอเบิกงบจากบริษัทเขาไปทำรีแพร์ใหม่ได้ไหมนะ“อูย...”เพียงขยับลืมตา ความร้าวระบมก็จู่โจมกระแทกแสกหน้าทันใดความรู้สึกคล้ายๆ โดนตึกถล่มใส่บวกกับรถบรรทุกพุ่งชนแล้วเหยียบซ้ำก็ไม่ปาน ต้องโทษเจ้านายตัวร้ายที่ไม่รู้ไปเอาแรงช้างแรงม้านั่นมาจากไหนกันนักหนา จะว่าอดอยากปากแห้งก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอเห็นเขาควงสาวๆ ไม่ซ้ำหน้าตลอด คนที่จัดการโทรนัดแม่สาวพวกนั้นให้ก็เธอนี่ไงจะใครล่ะโดนเองคราวนี้ซึ้งไปอีกนานพอลืมตาขึ้นก็รับรู้ถึงน้ำหนักที่กอบ
“บ้าเอ๊ย!”หญิงสาวสะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินเสียงเข้มสบถลั่นห้อง นั่นเขาด่าใครบ้า เธอหรือ?“บอสจำได้แล้วใช่ไหมคะว่าเมื่อคืนก่อวีรกรรมอะไรไว้บ้าง”เสียงนั้นทำให้ชายหนุ่มตวัดสายตามองใบหน้าสวยแปลกตาไปจากเดิม ด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง“คุณมาได้ไงเนี่ย”“ก็บอสนั่นแหละที่ลากเก้ามาเอง สั่งให้ไปรับที่คลับนั่นแล้วก็ลากมา เอ่อ...จบลงที่นี่”“เวรเอ๊ย! แล้วทำไมคุณไม่ห้ามผม” เขาสบถเสียงเข้ม“ห้ามยังไงก่อน มาถึงก็ฟัดเอาฟัดเอา แรงเยอะอย่างกับควายเปลี่ยว...” หญิงสาวรีบแก้เมื่อเห็นสายตาดุเข้มที่ตวัดมองมา “เอ๊ย! ช้างตกมัน”ปากตอบแต่สายตาเจ้ากรรมดันเลื่อนไปมองเรือนร่างบุรุษอันเปลือยเปล่าตรงหน้า ซิกซ์แพกอย่างแน่น เอวสอบวีเชฟ ก่อนมาหยุดที่จุดศูนย์กลางความโอฬารที่เล่นงานเธอจนสะบักสะบอมทั้งคืนนั่น ก่อนเมินหนีกลัวติดใจ เอ๊ย! กลัวตาเป็นกุ้งยิง“มองอะไรของคุณน่ะ”“ปะ...เปล่าค่ะ” คนถูกจับได้รีบเมินหน้าหนี ปากตอบตะกุกตะกักเสียงสั่น หูแว่วได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ก่อนที่ผ้าห่มผืนเดิมจะถูกโยนมาคลุมหัวเธอ พร้อมกับที่เตียงอีกฝั่งยุบยวบ และผ้าห่มอีกครึ่งถูกดึงไปคลุมร่างของเขา“หันมาได้แล้ว” ไม่อยากจะทำตามคำสั่ง แต่ก็ขัดไม่ได้“เฮ
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ
“นี่คุณแจน ภรรยาของผม แจนครับ นี่คือคุณเมลดา เขาเป็น ‘อดีตคนเคยรู้จัก’...” เมลดาชะงักกึก“แค่คนรู้จักเท่านั้นเองหรือคะ แต่เท่าที่เมจำได้ตอนนั้นเรารักกันมาก มากเสียจนคุณเคยบอกว่าอยากแต่งงานกับเมด้วยซ้ำนะคะ”จารุพัชรถึงกับสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ พอหันไปมองสามีก็เห็นสีหน้านิ่ง แต่แววตาดุขึ้ง ดูท่าเรื่องที่ว่าคงมีมูลอยู่มากทีเดียว“เมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เมคิดถึงธิมมากเลยนะคะ”หืม...คิดจะเปิดเกมส์บุกกันแบบนี้เลยเหรอแม่คุณ“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเมลดา” จารุพัชรส่งยิ้มให้ ราวกับไม่ถือสา แต่ตามองคนตรงหน้าอย่างประเมินผลเงียบๆผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสวยทั้งรูปร่างดีราวกับดารานางแบบ การแต่งกาย หรือบุคลิกภาพก็ไม่ได้ต่ำทรามอะไร ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับธิเบศไม่น้อย ยกเว้นก็แต่แววตาของเจ้าหล่อนที่เผยความปรารถนาออกมาชัดเจนโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ทุกอย่างไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนข้างกายเธอต่างหากที่คิดอย่างไร ยังอาวรณ์กับอดีต หรือไม่คิดอะไรด้วยแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญ และเท่
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่าไปยึดติดอะไรมากเลยค่ะ นั่นลูกหลับแล้ว” ธิเบศหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่เอียงคอซบไหล่พ่อหลับปุ๋ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“ถ้าถึงวันนั้น วันที่ผมไม่ได้เป็นดาราชื่อดัง ไม่ใช่ธิม-ธิเบศที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่กลายเป็นนายธิเบศผู้ชายธรรมดา คุณจะว่าไง”“จะไปว่าอะไร ก็แค่หาสามีใหม่สิคะ” คำนั้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับ“ว่าไงนะ”“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ” จารุพัชรหัวเราะคิก ก่อนที่จะหันไปมองสบตาเขา“คุณจะเป็นดาราดัง หรือเป็นคนธรรมดาแล้วไง ตราบใดที่คุณเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีที่ดีของแจนแบบนี้ ก็พอแล้วนี่คะ”“ไดอะล็อกนี้คุ้นๆ จัง แต่ผมชอบแฮะ”“แจนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่มีคุณกับลูก แจนก็มีความสุขแล้ว” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขาอย่างจริงใจ ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตแสนหวานของสามีที่โน้มลงมาทาบทับอย่างนุ่มนวลชวนฝันสองหนุ่มสาวและลูกน้อยโอบกอดกันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบ
“ไงธิม...ที่พักโอเคไหม”เสียงทักทายมาตามสายของผู้จัดการคู่ใจทำให้พระเอกหนุ่มที่กำลังทอดสายตามองไปที่ชายหาดซึ่งมีร่างเพรียวบางนั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดราวกับแป้ง ข้างกายมีลูกสาวตัวน้อยนั่งจุมปุ๊ก ทั้งสองกำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะใสๆ คลอกับเสียงคลื่นทะเลทำให้เขาพลอยเพลิดเพลินไปด้วย“ธิม...ฟังพี่อยู่หรือเปล่า”“ครับ ฟังอยู่ครับ”“แล้วเรื่องละครเรื่องใหม่ที่พี่ส่งไปธิมจะว่ายังไงรับหรือเปล่า บทพระเอกพ่อลูกอ่อนน่ะ”ธิเบศยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินคำนั้น“ถ้าพี่บีอ่านแล้วโอเค ก็ตอบรับไปได้เลยครับ อ้อ! แจ้งทางกองไปด้วยว่า...”“ไม่จูบจริงทุกกรณี เลิฟซีนต้องไม่ถึงเนื้อถึงตัวมาก” ศุภกรดักคอพระเอกในสังกัดอย่างรู้แกว เพราะหลังๆ ชายหนุ่มค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก จะบทไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น หากตกลง เขาก็รับเล่น“เท่านี้ใช่ไหมครับ”“เดี๋ยวๆ จะรีบไปไหนกัน พี่ยังพูดไม่จบ มีอีกงานเพิ่งเข้ามาวันนี้ เป็นงานถ่ายโฆษณาสินค้าพวกสเปรย์