พอไปถึงที่หมายเธอก็รีบโทรหาภาสกฤต แต่กลับถูกตัดสาย โทรอีกก็ถูกตัดสายอีก จนครั้งสุดท้ายถึงกับปิดเครื่องไปดื้อๆ
“โวะ อะไรของเขาวะเนี่ย บอกให้มารับแล้วตัดสายทำไม” เลขาสาวบ่นอย่างหัวเสีย พลางเดินเตร่เข้าไปในคลับเลาจน์หรู แต่เธอไม่ได้เป็นเมมเบอร์ไม่มีบัตรผ่าน จึงเข้าไม่ได้
“อยู่ไหนของเขาเนี่ย”
ระหว่างที่เธอกำลังยืนหันรีหันขวางลังเลว่าจะเอายังไงต่อดีนั้น จู่ๆ หางตาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงสง่าคุ้นตาของใครบางคนเดินออกมาเสียก่อน
“บอส!”
ภาสกฤตไม่ได้มาคนเดียว แต่มีหญิงสาวหน้าแฉล้มแต่งตัวเซ็กซี่โชว์เนื้อหนังติดมือมาด้วย ทำให้คนเป็นเลขาถึงกับชะงักไปนิดๆ
มากับเด็กนี่หว่า แล้วจะเรียกเรามาทำไมเนี่ย หรือวันนี้อยากจะทรีซั่ม ไอ้เวรตะไลเอ๊ย!
หญิงสาวก่นด่าในใจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหา อย่างน้อยก็ให้เขาเห็นหน้าว่าเธอมาแล้ว จากนั้นจะไปไหนก็ไสหัวไปเถอะ ไม่ใช่ความผิดของเธอแล้ว
“บอสคะ”
คนถูกเรียกสะบัดศีรษะแรงๆ ทีหนึ่ง ก่อนหันมาตามเสียงเรียก ดวงตาคมจัดจ้องหน้าเธออย่างว่างเปล่า
“คุณเป็นใคร”
เกือบจะโบกคนถามด้วยกระเป๋าครัชใบงามในมือเสียแล้ว หากไม่บังเอิญหันไปเห็นตัวเองในกระจกด้านหน้าเสียก่อน ผู้หญิงที่วันนี้แต่งตัวเซ็กซี่ไม่แพ้แม่สาวที่เขาหิ้วมามองตอบกลับมาแบบเหวอๆ ก็ไม่แปลกที่อีตานี่จะถาม
“ก็คุณโทรตามใครให้มารับล่ะคะ” ดวงตาคมเข้มหรี่มองคนตรงหน้าก่อนส่ายหน้าไปมา
“ไม่ใช่คุณ...”
“นี่ใครกันคะที่รัก” แม่สาวสุดเอ็กซ์อึ๋มจีบปากถาม พลางจิกตาใส่คนมาใหม่อย่างเอาเรื่อง
แหวะ ที่รักเหรอ
“ปล่อยนะ...”
นพรดาเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเสียงห้าวห้วนหันไปสั่งหญิงสาวข้างตัว เพิ่งเห็นสีหน้าของเขาชัดๆ ว่าแดงก่ำ พยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมอย่างทุลักทุเล นี่ไปโดนตัวไหนมาล่ะท่าน ถึงได้เสียอาการหนักขนาดนี้ แต่ดูอีกทีอาการของเจ้านายสุดเฮี้ยบของเธอก็ดูแปลกๆ ไปจริงๆ นั่นแหละ
ตัวออกใหญ่ถ้าจะสลัดหญิงสาวข้างกายออกย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แต่นี่เขาทำเหมือนไร้เรี่ยวแรง หรือว่าเมาหนักก็ไม่น่าใช่อีก หมอนี่คอแข็งจะตายดื่มไวน์เป็นขวดๆ หรือเหล้านอกเป็นลังก็ยังไม่เมา ทำไมเธอจะไม่รู้ ก็ทำงานกับเขามาตั้งหลายปี
“เก้ามาขัดจังหวะบอสหรือเปล่าคะนี่”
“ไม่! พาผม...กลับที” ชายหนุ่มกัดฟันบอกด้วยสีหน้าทรมานเหมือนกำลังสะกดกลั้นอะไรบางอย่างในร่างกายสุดฤทธิ์
“ไม่ได้นะ ฉันไม่ให้ไป”
นพรดาหันไปมองหน้าแม่สาวข้างกายเจ้านายอย่างเห็นใจ ดูท่า คืนนี้แม่นี่จะตกกระป๋อง ไม่ผ่านคิวซีของอีตาบอสตัวร้ายแฮะ แต่นั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเลขาอย่างเธอ ตอนนี้คำสั่งจากปากเจ้านายที่จ่ายเงินเดือนให้ย่อมสำคัญเหนืออื่นใด
“ขอโทษนะคะ ถ้าคุณได้ยินที่เขาพูดแล้ว ก็ช่วยปล่อยมือด้วย”
พอขาดคำ คุณเลขาสาวก็จัดการแงะตัวบอสหนุ่มออกมาจากไฮยีน่าสาว แต่ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ยอมง่ายๆ รีบยื้อแขนอีกข้างของเขาไว้มั่น
“ไหนคุณว่าคืนนี้จะไปต่อกับฉันไงคะ”
ดวงตาคมกริบตวัดมองคนพูดอย่างเย็นชาจนนพรดาแอบผวาแทน ถ้าเป็นที่บริษัทล่ะก็ ใครโดนบอสใหญ่มองด้วยสายตาแบบนี้ใส่ คงช็อกตาตั้งน้ำลายฟูมปากไปแล้ว ขนาดเธอมีภูมิต้านทานความโหดของเขายังอดขนลุกขนพองไม่ได้
“ปล่อย-ผม”
เขาเน้นทีละคำอย่างแข็งกร้าว ก่อนกระชากแขนออกจากการเกาะกุม จนอีกฝ่ายเสียหลักเซเกือบจะล้มก้นจ้ำเบ้า มือใหญ่คว้าไหล่ของนพรดาเข้ามาโอบกอดไว้ จนเธอแอบนิ่วหน้าเพราะน้ำหนักที่เทลงมาจนเข่าแทบทรุด สมบทบาทไปไหมคุณเจ้านายขา
“แกเป็นใคร ผู้ชายคนนี้ฉันจองแล้วนะ”
“เธอเป็นเมียผม!” คำตอบอย่างเย็นชานั่นทำเอาเลขาสาวถึงกับเหวอ อ้าปากค้าง
ใครเป็นเมียคุณมิทราบ อีบอสนี่ต้องโดนตัวแรงไปแน่นอน
“เมียเหรอ ฉันไม่เชื่อ”
นี่ก็อีกคน เฮ้อ...หรือวันนี้ต้องได้ออกแรงก่อนไหมเนี่ย จะได้วอร์มมือรอ เลขาสารพัดประโยชน์คิดในใจ พลางคลี่ยิ้มหวานยั่วประสาทกลับไป เรื่องนี้เธอถนัดนัก ก็ลับฝีมือกับแม่พวกสาวๆ ของเจ้านายมากี่ครั้งแล้วล่ะ
“ไม่เชื่อแล้วไงใครแคร์ ไปค่ะที่รักขากลับบ้านเรากัน” ว่าพลางกอดแขนล่ำของสามีจอมปลอมเชิดใส่อีกฝ่าย ก่อนควงเขาเดินผละไปตามบทบาท
“บอสคะ” กระซิบเรียกเพื่อดึงสติเมื่อเดินออกห่างจากแม่สาวปากแดงมาได้ แอบเห็นสายตาคนแถวนั้นที่มองมา มีบางคนเหมือนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพราะเริ่มจำหน้าเขาได้
“รีบออกไปจากที่นี่ก่อน”
ชายหนุ่มกัดฟันสั่งด้วยน้ำเสียงกร้าว ก่อนลากลู่ถูกังเธอออกไปแบบไม่เหลียวหลัง หูแว่วได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังตามหลังมาราวกับเปรตขอส่วนบุญไม่มีผิด
พอออกมาข้างนอกได้ อีกฝ่ายก็ยังทำตัวเป็นภาระไม่เลิก แทนที่จะเดินดีๆ ก็ทิ้งน้ำหนักมาที่ไหล่น้อยๆ ของเธอจนแทบเข่าทรุด นพรดากัดฟันแน่น
“คุณจอดรถไว้ที่ไหนคะ”
“ไม่รู้สิ” คำตอบนั้นทำให้คนฟังแอบฉุนกึก แต่พอเงยหน้ามองก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นอาการของอีกฝ่าย
ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้แดงเถือกยันหูมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพราวเกาะเต็มหน้า มือที่จับไหล่เธอไว้เกร็งแน่นจนรู้สึกได้ แถมท่ายืนก็แปลกไปจากที่เคยดูกระสับกระส่ายแปลกๆ จะว่าเมาก็ไม่น่าใช่อาการนี้ เธอต่างหากที่ตอนนี้เริ่มมึนๆ มากกว่าเขาเสียอีก
“บอสไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“ไม่รู้สิ ปวดหัวจัง”
“หรือดื่มหนักไป”
“ไม่ ผมดื่มไปแค่ไม่กี่แก้ว”
ตอนเธอออกมาจากออฟฟิศ เขาก็ยังดูดีอยู่นี่หว่า แล้วไหงถึงอยู่ในสภาพนี้ได้ หรือโดนมอมเหล้ามา
“งั้นเดี๋ยวเก้าโทรตามลุงชัยก่อนนะคะ” มือที่กำลังจะหยิบโทรศัพท์ต้องชะงัก เมื่อถูกมือหนาคว้าไว้เสียก่อน หางตาเขาเหลือบไปทางประตูเล็กน้อย ทำให้เธอต้องหันไปมองตาม“อย่ามอง! อย่าเพิ่งถามด้วย”เอ...ชักไม่ชอบมาพากลแฮะ“เรียกแท็กซี่เถอะ...”จังหวะนั้นก็บังเอิญมีแท็กซี่เลี้ยวเข้ามาจอดส่งผู้โดยสารพอดี นพรดาจึงรีบกัดฟันลากคนตัวโตขึ้นรถ แต่ตอนที่เธอจะไปนั่งข้างหน้า เขากลับฉุดตัวเธอลงมานั่งข้างๆ แทน ยังไม่ทันได้ถาม เสียงเข้มๆ ก็สั่งขึ้นเสียก่อน“รีบออกรถ”“แล้วคุณจะไปที่ไหนครับ” แท็กซี่หันมาถาม“ช่วยไปส่งที่เพนท์เฮ้าส์...ด้วยค่ะ” นพรดารีบตอบแทนเจ้านายที่ตอนนี้นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ตัวเกร็งร้อนผ่าว แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากตัวเธอเสียที“บอสคะ คุณไหวไหมคะ หรือเราจะแวะโรงพยาบาลก่อนดี”“ไม่! ไม่ต้อง ผมไหว” เขาเอ่ยลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงพร่าแปร่งหู“แต่ท่าทางคุณดูไม่ดีเลย เก้าว่า...อุ๊ย!”นพรดาอุทาน ตัวแข็งทื่อ เมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายก็ซบใบหน้าลงมาที่ซอกคอเธอเสียนี่อีบอสชีกอนี่ อยู่ๆ ก็คิดจะมาแต๊ะอั๋งกัน ไหนว่าสมภารไม่กินไก่วัดไงวะ“ร้อน...ผมร้อนจัง”ใช่! เธอก็เริ่มจะร้อนเหมือนกัน วันนี้ก่อนมาก็จัดไปหลายคาราเบลอย
“อื้อ...” หญิงสาวตาเหลือก มือทุบไหล่กว้างรัวๆ เพราะเธอกำลังขาดอากาศหายใจอยู่รอมร่อ จนสุดท้ายเขาจึงยอมถอนริมฝีปากออกเพื่อให้เธอตะครุบเอาออกซิเจนเข้าปอดเฮือกใหญ่ไม่ได้การแล้ว ขืนไม่ทำอะไรซักอย่าง เธอคงโดนปล้ำในแท็กซี่นี้แน่ มองออกไปนอกหน้าต่างรถก็เห็นว่าใกล้ถึงที่หมายเต็มที“พี่คะ เหยียบให้ไวสุดๆ เลยได้ไหม หนูไหว้ล่ะ”หญิงสาววิงวอนปากคอสั่น แต่มือต้องคอยปัดป้องริมฝีปากร้ายๆ ที่กำลังจะโน้มลงมาหาอีกรอบ แต่ไม่ได้ช่วยอะไรมาก สภาพเธอตอนนี้ใช่ว่าสติจะเต็มร้อย ก็จัดหนักมาไม่น้อยเหมือนกัน ถ้ารู้แบบนี้จะไม่ดื่มก่อนมา แต่คิดตอนนี้มีประโยชน์ที่ไหน ในเมื่ออีกฝ่ายรุกหนักจนเธอเริ่มจะหมดแรงต้าน จูบเมื่อกี้ก็ทำเอาใจเหลวไปหมดแล้วเนี่ยกว่ารถแท็กซี่จะมาจอดเทียบหน้าที่พักสุดหรูของบอสหนุ่ม นพรดาก็เกือบจะเสียผีให้เขาในรถโชว์หนังสดอวดคนขับเสียแล้ว ทั้งกอด ทั้งหอมแก้ม ทั้งจูบ ทั้งไซ้ จะโดดลงรถหนีก็กลัวเสียโฉมอีก“บอสคะ ถึงแล้วรีบลงไปสิคะ” กะว่าจะดีดเขาให้พ้นตัวแล้วชิ่งหนี แต่ฝ่ายนั้นก็ดันรู้ทันกระชากตัวเธอลงจากรถมาด้วยกันเสียนี่“เดี๋ยวค่ะบอส ค่าแท็กซี่ยังไม่ได้จ่าย”หญิงสาวละล่ำละลักบอก พลางหยิบโทรศัพท์มาแส
ติ๊ง!เสียงสัญญาณลิฟท์ดังขึ้น แต่ไม่ได้ขัดจังหวะในการนัวเนียของสองหนุ่มสาวที่ตอนนี้กำลังดุเดือดเข้มข้น จากจูบเดียวเริ่มลุกลาม นพรดาโอบรอบต้นคอแกร่งไว้มั่น เมื่อเขาผละจากริมฝีปากมาซุกไซ้ที่ต้นคอเธออย่างวาบหวาม จนอารมณ์สาวโสดเตลิดไปไกลมือหนาบีบเนื้อหนั่นแน่นที่บั้นท้ายของเธออย่างแรง ก่อนจะสอดเข้าไปภายในชุดเดรสเซ็กซี่เพื่อสำรวจเป้าหมายต่อไป“หืม?”คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆ เมื่อพบว่าภายใต้ชุดแนบเนื้อนั่นคือ...“จีสตริง!”มุมปากหยักกระตุกขึ้น ก่อนที่จะขบเม้มต้นคอและจูบข้างแก้มนวลหอมกรุ่นของแม่เลขาสาวที่ซ่อนความเร่าร้อนไว้ภายใน“บอสคะ!”นพรดาไหวตัว เมื่อรับรู้ถึงมือที่ป้วนเปี้ยนสำรวจร่างกายใต้ร่มผ้าของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต พอมองเห็นภาพอันเร่าร้อนที่สะท้อนจากกระจกในลิฟท์ตัวนั้น ใบหน้าสวยก็แดงวาบท่านี้ไม่ดีต่อใจเสียเลย เธอถูกเขาอุ้มกระเตงเหมือนลิงกำลังอุ้มแตง น่าหวาดเสียวเหลือเกิน หากใครมาเห็นเข้าล่ะก็ งามหน้าทั้งนายทั้งเลขาก็คราวนี้“ปะ ปล่อยก่อน ลิฟท์ถึงชั้นที่คุณอยู่แล้วค่ะ”“อืม...”อืมอะไรวะ อืมแล้วไม่ปล่อยคืออะไร ยังไม่ทันได้คำตอบ หญิงสาวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเปรี๊ยะ!คนมือบอ
สวบ! อึก!นพรดากัดฟันแน่น เพียงแค่ส่วนปลายผ่านเข้าไปได้นิดเดียวก็ทำเธอจุกแน่น เสียววาบไปทั้งท้องน้อย“โอ๊ก! เจ็บสัส!” เสียงอุทธรณ์นั่นทำให้บอสหนุ่มถึงกับชะงัก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันใด“นี่เธอยัง...ซิงเหรอ!” ภาสกฤตสบถหนักๆ เมื่อพบว่าช่องทางตรงหน้าไม่อาจบุกทะลวงเข้าไปได้ง่ายๆ“โธ่เว้ย ทำไมไม่บอกว่าไม่เคย”“บอกทันที่ไหนล่ะ คุณเล่นสวบไม่ถามนี่ ฮือ...”คน ‘ไม่เคยโดนสวบ’ สวนกลับ น้ำตาคลอเบ้าจนทำให้บอส หนุ่มใจอ่อนยวบ เมื่อเห็นน้ำตาผู้หญิงตรงหน้า ครั้นจะให้เขาถอยทัพก็ไม่ได้เพราะตอนนี้ร่างกายมันร้อนระอุจนไฟแทบลุก หากไม่ได้รับการปลดปล่อยหรือบรรเทาความปวดร้าวตอนนี้คงแย่“ผมถอยห่างตอนนี้ไม่ได้แล้ว งั้นคุณลองถ่างเอาหน่อยแล้วกัน”“ถ่าง...ถ่างอะไร” คนถูกสั่งเลิ่กลั่ก หน้าแดง ในหัวคิดดีไม่ได้เลย“ขาไง...ถ่างกว้างๆ หน่อย จะได้เข้าง่ายๆ ลึกๆ”“อ๋อ...เฮ้ย!”มันใช่เหรอวะ ยังไม่ทันหายงง คุณบอสตัวร้ายก็จัดการถ่างขาเธอออกเสียเองจนได้“คุณเจ็บมากไหม”“เจ็บสิคะ ถามได้”หญิงสาวพยักหน้าถี่ๆ ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ จากอาการเกร็งตัวด้วยความกลัวเจ็บชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงโน้มตัวลงพรมจูบที่แผ่นหลังขาวเนียนตา และหัวไห
นพรดาไม่รู้เลยว่าภาพตัดไปตั้งแต่ตอนไหน และจำไม่ได้ด้วยว่าคืนที่ผ่านมาเธอแตะขอบสวรรค์ไปกี่รอบ หรือเสร็จไปกี่หน สำนึกสุดท้ายก่อนที่ภาพจะตัดไปจำได้เพียงว่าตัวเองถูกจับให้นอนคว่ำหน้า ยกสะโพกสูงอวดความอวบเด้งในยามที่โดนเขากระแทกกระทั้นความแข็งแกร่งดุดันเข้าหาจากด้านหลังนับครั้งไม่ถ้วนจนเธอหัวสั่นหัวคลอนยกนั้นมันส์สะใจมาก แต่ก็ร้าวไปทั้งตัวมากเหมือนกันโดยเฉพาะที่จุดเกิดเหตุตรงใจกลางกุหลาบสาวสดสวยที่เธอแสนจะหวงแหนนั่น ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้สภาพจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะอีตาบอส แกเล่นถลุงใส่กันยับ ไม่พัก ไม่แผ่ว แรงดีราวกับช้างตกมัน แถมขนาดตรงส่วนนั้นมันไม่ธรรมดาจบงานนี้เธอควรขอเบิกงบจากบริษัทเขาไปทำรีแพร์ใหม่ได้ไหมนะ“อูย...”เพียงขยับลืมตา ความร้าวระบมก็จู่โจมกระแทกแสกหน้าทันใดความรู้สึกคล้ายๆ โดนตึกถล่มใส่บวกกับรถบรรทุกพุ่งชนแล้วเหยียบซ้ำก็ไม่ปาน ต้องโทษเจ้านายตัวร้ายที่ไม่รู้ไปเอาแรงช้างแรงม้านั่นมาจากไหนกันนักหนา จะว่าอดอยากปากแห้งก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอเห็นเขาควงสาวๆ ไม่ซ้ำหน้าตลอด คนที่จัดการโทรนัดแม่สาวพวกนั้นให้ก็เธอนี่ไงจะใครล่ะโดนเองคราวนี้ซึ้งไปอีกนานพอลืมตาขึ้นก็รับรู้ถึงน้ำหนักที่กอบ
“บ้าเอ๊ย!”หญิงสาวสะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินเสียงเข้มสบถลั่นห้อง นั่นเขาด่าใครบ้า เธอหรือ?“บอสจำได้แล้วใช่ไหมคะว่าเมื่อคืนก่อวีรกรรมอะไรไว้บ้าง”เสียงนั้นทำให้ชายหนุ่มตวัดสายตามองใบหน้าสวยแปลกตาไปจากเดิม ด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง“คุณมาได้ไงเนี่ย”“ก็บอสนั่นแหละที่ลากเก้ามาเอง สั่งให้ไปรับที่คลับนั่นแล้วก็ลากมา เอ่อ...จบลงที่นี่”“เวรเอ๊ย! แล้วทำไมคุณไม่ห้ามผม” เขาสบถเสียงเข้ม“ห้ามยังไงก่อน มาถึงก็ฟัดเอาฟัดเอา แรงเยอะอย่างกับควายเปลี่ยว...” หญิงสาวรีบแก้เมื่อเห็นสายตาดุเข้มที่ตวัดมองมา “เอ๊ย! ช้างตกมัน”ปากตอบแต่สายตาเจ้ากรรมดันเลื่อนไปมองเรือนร่างบุรุษอันเปลือยเปล่าตรงหน้า ซิกซ์แพกอย่างแน่น เอวสอบวีเชฟ ก่อนมาหยุดที่จุดศูนย์กลางความโอฬารที่เล่นงานเธอจนสะบักสะบอมทั้งคืนนั่น ก่อนเมินหนีกลัวติดใจ เอ๊ย! กลัวตาเป็นกุ้งยิง“มองอะไรของคุณน่ะ”“ปะ...เปล่าค่ะ” คนถูกจับได้รีบเมินหน้าหนี ปากตอบตะกุกตะกักเสียงสั่น หูแว่วได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ก่อนที่ผ้าห่มผืนเดิมจะถูกโยนมาคลุมหัวเธอ พร้อมกับที่เตียงอีกฝั่งยุบยวบ และผ้าห่มอีกครึ่งถูกดึงไปคลุมร่างของเขา“หันมาได้แล้ว” ไม่อยากจะทำตามคำสั่ง แต่ก็ขัดไม่ได้“เฮ
“ผมก็ไม่ได้พูดเล่น” นพรดามองสบตาคมเข้มวาววามที่เหมือนมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ในดวงตาคู่นั้น“ผมอยากได้คุณจริงๆ อยากมาก...” หญิงสาวถึงกับสะดุดลมหายใจ กลืนน้ำลายฝืดคอเมื่อเห็นความอยากที่ว่าแผ่ซ่านออกมาจากคนพูดชัดเจน“แต่ฉันไม่อยาก...อ๊ะ!”คำปฏิเสธนั่นถูกกลืนลงคอแล้วแทนที่ด้วยเรียวปากร้อนผ่าวที่ทาบทับลงมาอย่างอุกอาจ นพรดาตัวแข็งทื่อเมื่อโดนขโมยจูบอย่างเร่าร้อนและดูดดื่มจากบอสตัวร้ายตรงหน้าเธอพยายามจะขัดขืน และทุบตีให้เขาหยุดการกระทำห่ามๆ ที่ชวนใจหวิวนี่ลงเสียก่อนที่จะถลำลึกไปให้เขาคิดว่าเธอเป็นของเล่นของตายเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่ทว่าจูบของเขามันช่างร้ายกาจเกินต้าน และน่าหลงใหลในเวลาเดียวกันเพียงไม่นานก็ทำเธอตัวอ่อนระทวยเป็นเทียนโดนไฟลนจนใจละลาย จากที่คิดต่อต้าน กลับกลายเป็นตอบโต้กลับตามที่ได้ลักจำมาจากเขาเมื่อคืน แถมความหัวไวอันเป็นคุณสมบัติของเลขามืออาชีพทำให้รู้ใจคนเป็นเจ้านายไปหมดว่าเขาชอบแบบไหน ต้องการอะไร รวมถึงต้องตอบสนองอย่างไรให้เขาพึงพอใจสูงสุดภาสกฤตครางกระหึ่มในลำคอเมื่ออีกฝ่ายสู้ลิ้นของเขากลับด้วยปลายลิ้นนุ่มหวานซุกซนไม่ยอมให้เขาจูบฝ่ายเดียวง่ายๆ เสียด้วย ยิ่งจูบก็ยิ่งติดใจ ยิ่ง
“บอสเลียเก่งจัง เก้าชอบ อา...”แม้จะกระดากปาก แต่เธอก็ชมออกไป พลางส่งเสียงครางออกมาให้เขารู้ว่าเธอพอใจกับสิ่งที่เขาทำให้แค่ไหน เธอเคยดูรายการในยูทูปมาว่าเซ็กซ์ที่ดีต้องสื่อสารให้อีกฝ่ายรู้ถึงสิ่งที่เราชอบหรือไม่ชอบ“แรงอีกได้ไหม เก้าไม่...ไม่เจ็บแล้ว” เลขาสาวข่มความอายบอกพลางสูดปากราวกับกินของเผ็ดร้อนภาสกฤตกระตุกยิ้มร้าย เหลือบมองใบหน้าหวานที่แดงซ่านบ่งบอกอารมณ์หวามไหวของเธอ ก่อนจะกระชากปลายลิ้นออกจากช่องทางรักแสนหวานอย่างฉับพลัน และฉกพุ่งเข้าใส่ระรัว พร้อมกับส่งปลายนิ้วยาวเข้าร่วมบดขยี้ติ่งเกสรของเธอแบบเนื้อๆ เน้นๆ“อ๊ายยย...”ร่างอรชรถึงกลับสะท้านเฮือก และยกสะโพกถอยร่นหนี มือและปากอันช่ำชองนั่น แต่เขาไม่ยอมให้เธอหนีได้ง่ายๆไม่มีใครหนีพ้น หากเขาต้องการ นพรดาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แม้ที่ผ่านมาเขาจะปล่อยผ่านไม่เคยคิดแตะต้องเธอตามกฎที่ตัวเองตั้งไว้ว่าจะไม่กินลูกน้องที่บริษัทตัวเอง อีกทั้งเธอไม่ใช่สเปกสาวที่ชอบแต่เมื่อเขาได้ลองชิมไก่วัดแสนอร่อยตัวนี้แล้ว เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ จนกว่าเขาจะกินจนเบื่อ
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ
“นี่คุณแจน ภรรยาของผม แจนครับ นี่คือคุณเมลดา เขาเป็น ‘อดีตคนเคยรู้จัก’...” เมลดาชะงักกึก“แค่คนรู้จักเท่านั้นเองหรือคะ แต่เท่าที่เมจำได้ตอนนั้นเรารักกันมาก มากเสียจนคุณเคยบอกว่าอยากแต่งงานกับเมด้วยซ้ำนะคะ”จารุพัชรถึงกับสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ พอหันไปมองสามีก็เห็นสีหน้านิ่ง แต่แววตาดุขึ้ง ดูท่าเรื่องที่ว่าคงมีมูลอยู่มากทีเดียว“เมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เมคิดถึงธิมมากเลยนะคะ”หืม...คิดจะเปิดเกมส์บุกกันแบบนี้เลยเหรอแม่คุณ“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเมลดา” จารุพัชรส่งยิ้มให้ ราวกับไม่ถือสา แต่ตามองคนตรงหน้าอย่างประเมินผลเงียบๆผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสวยทั้งรูปร่างดีราวกับดารานางแบบ การแต่งกาย หรือบุคลิกภาพก็ไม่ได้ต่ำทรามอะไร ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับธิเบศไม่น้อย ยกเว้นก็แต่แววตาของเจ้าหล่อนที่เผยความปรารถนาออกมาชัดเจนโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ทุกอย่างไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนข้างกายเธอต่างหากที่คิดอย่างไร ยังอาวรณ์กับอดีต หรือไม่คิดอะไรด้วยแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญ และเท่
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่าไปยึดติดอะไรมากเลยค่ะ นั่นลูกหลับแล้ว” ธิเบศหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่เอียงคอซบไหล่พ่อหลับปุ๋ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“ถ้าถึงวันนั้น วันที่ผมไม่ได้เป็นดาราชื่อดัง ไม่ใช่ธิม-ธิเบศที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่กลายเป็นนายธิเบศผู้ชายธรรมดา คุณจะว่าไง”“จะไปว่าอะไร ก็แค่หาสามีใหม่สิคะ” คำนั้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับ“ว่าไงนะ”“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ” จารุพัชรหัวเราะคิก ก่อนที่จะหันไปมองสบตาเขา“คุณจะเป็นดาราดัง หรือเป็นคนธรรมดาแล้วไง ตราบใดที่คุณเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีที่ดีของแจนแบบนี้ ก็พอแล้วนี่คะ”“ไดอะล็อกนี้คุ้นๆ จัง แต่ผมชอบแฮะ”“แจนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่มีคุณกับลูก แจนก็มีความสุขแล้ว” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขาอย่างจริงใจ ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตแสนหวานของสามีที่โน้มลงมาทาบทับอย่างนุ่มนวลชวนฝันสองหนุ่มสาวและลูกน้อยโอบกอดกันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบ
“ไงธิม...ที่พักโอเคไหม”เสียงทักทายมาตามสายของผู้จัดการคู่ใจทำให้พระเอกหนุ่มที่กำลังทอดสายตามองไปที่ชายหาดซึ่งมีร่างเพรียวบางนั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดราวกับแป้ง ข้างกายมีลูกสาวตัวน้อยนั่งจุมปุ๊ก ทั้งสองกำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะใสๆ คลอกับเสียงคลื่นทะเลทำให้เขาพลอยเพลิดเพลินไปด้วย“ธิม...ฟังพี่อยู่หรือเปล่า”“ครับ ฟังอยู่ครับ”“แล้วเรื่องละครเรื่องใหม่ที่พี่ส่งไปธิมจะว่ายังไงรับหรือเปล่า บทพระเอกพ่อลูกอ่อนน่ะ”ธิเบศยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินคำนั้น“ถ้าพี่บีอ่านแล้วโอเค ก็ตอบรับไปได้เลยครับ อ้อ! แจ้งทางกองไปด้วยว่า...”“ไม่จูบจริงทุกกรณี เลิฟซีนต้องไม่ถึงเนื้อถึงตัวมาก” ศุภกรดักคอพระเอกในสังกัดอย่างรู้แกว เพราะหลังๆ ชายหนุ่มค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก จะบทไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น หากตกลง เขาก็รับเล่น“เท่านี้ใช่ไหมครับ”“เดี๋ยวๆ จะรีบไปไหนกัน พี่ยังพูดไม่จบ มีอีกงานเพิ่งเข้ามาวันนี้ เป็นงานถ่ายโฆษณาสินค้าพวกสเปรย์