คนติดตามเปิดกระเป๋าหยิบสัญญาที่มีนับสิบแผ่นขึ้นมา ยื่นให้เหรินเหมย
ที่คว้าปากกามาจรดปากกาเซ็นสัญญาทันที
“ไม่อ่านก่อนหรือ”ถงไฉ่ถาม เหรินเหมยส่ายหน้า ยิ้มกว้างถงไฉ่รู้ดีว่าเหรินเหมยดีใจที่จะได้พาแม่ไปรักษาตัวจึงไม่ลังเลที่จะเซ็นสัญญา
เฉิงซีหยวนทำสีหน้าเรียบเฉย
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม สัญญานี้จะเก็บไว้ที่ฉันหนึ่งฉบับกับเธออีกหนึ่งฉบับ อยากจะอ่านเมื่อไหร่ค่อยมาอ่าน อ่อลืมถามไปเสียได้ ยังบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า แต่ความจริงไม่ถามก็น่าจะได้คำตอบใช่ไหม ผู้หญิงสมัยนี้ยิ่งสวยๆอย่างเธอ หาคนที่บริสุทธิ์สะอาดยาก แบบนี้ก็ดี ก็จะได้ไม่ต้องมามีปัญหากับตรงนั้นว่าทำให้ไม่ประทับใจของสามีตอนที่เข้าหอเพราะฉันอยากให้คลอดแบบวิธีธรรมชาติไม่มีการผ่าตัดเอาเด็กออกมาจากท้อง”
เหรินเหมยถอนหายใจยาวนี่ไปหาข้อมูลมาหมดเลยหรือเรื่องการคลอดลูก คนอะไรก่อน แล้วนอกจากเมียคงไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนในด้านดีดีแน่
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณนี่มันไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขแต่แรกอยู่แล้ว และฉันขอเปลี่ยนเงื่อนไขข้อนี้ฉันต้องการผ่าเอาเด็กออก ไม่อยากคลอดเองตามธรรมชาติเพราะอย่างที่คุณพูดฉันไม่อยากให้สามีที่ฉันรักหรือคนที่ฉันจะแต่งงานด้วยไม่ประทับใจในครั้งแรกที่ร่วมหอกัน”
บอกเป็นนัยๆ
เฉิงซีหยวนขมวดคิ้วกับคำพูดของเหรินเหมย
“จีเหรินเหมย ความจริงตอนคลอดฉันจะเย็บให้เธอก็ได้จะเอา…แคบเอาคับขนาดไหนก็ได้นะ อย่าห่วงเรื่องแบบนั้นเอาเรื่องสำคัญก่อน”ถงไฉ่พูดขัดขึ้นกล้วว่ากำลัง
จะเกิดสงครามย่อมๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ หยุดพูดเรื่องอะไรแบบนี้ได้แล้ว”หน้าแดงแป๊ด เฉิงซีหยวนถอนหายใจ
“แต่เอาจริงนะครับหมอว่า คุณเฉิงควรให้ผ่าตัดดีกว่านะครับ เพราะปลอดภัยและรับรองผลได้ดีกว่าว่าเด็กทั้งสองคนจะได้รับการช่วยเหลือทันท่วงทีหากว่ามีอาการผิดปกติตอนคลอด”ถงไฉ่พยายามอธิบาย
เหรินเหมยเอามืออุดหูไว้แน่น
“ก็ได้ถ้าคุณหมอพููดแบบนี้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ความจริงแล้วเรื่องนั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรในเมื่อเราจ่ายแพงมากและผมเองก็ไม่อยากให้ คนอุ้มท้องลูกของผมเครียดไปกว่านี้”หมอถงยิ้มเอามือดันหลังเหรินเหมย
“จริงด้วยได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว กินให้ตรงเวลาพักผ่อนให้พอลูกในท้องจึงจะแข็งแรง”
“อย่าเรียกว่าลูกในท้องนั่นมันคือลูกของผมกับซูจ่าย”หมอถงส่ายหน้าไปมา จีเหรินเหมยถอนหายเดินเข้าไปด้านในเลยไปเป็นโต๊ะอาหารสำหรับหมอถงที่เวลา ทำงานดึกไว้ได้สั่งอาหารเย็นมากินที่นี่เลย
“คุณหมอดูแลเรื่อง สุขอนามัยทุกอย่างให้พร้อมกันเลยทีเดียว ทั้งหมวดหมู่อาหารรวมทั้งของว่าง อ่อพรุ่งนี้ผมจะให้รถมารับคุณทั้งสองยังบ้านใหม่ที่ผมซื้อไว้ให้วันนี้คาดว่าจะตบแต่งเสร็จเรียบร้อยพอดี”
คนติดตามวางเอกสารลงบนโต๊ะ จีเหรินเหมยหันมาสบตากับหมอถงไฉ่ รู้สึกเหมือนตัวเองขึ้นไปนั่งบนหลังเสือแล้ว
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“เธอจะต้องใจเย็นๆอย่าเอาแต่อารมณ์คุณเฉิงเขาคนละเอียดรอบคอบไม่น้อยเธอก็ยอมๆเขาหน่อยอย่างน้อยก็คิดว่าคุณนายปิงปิงแม่ของเธอจะได้มีเงินสำหรับรักษาตัวอย่างสบายที่สุด หมอที่ดีที่สุด และการดูแลที่ดีที่สุดจนหายดี”เหรินเหมยถอนหายใจ
“ฉันสัญญาจะใจเย็นแล้วจะไม่ชวนหมอนั่นไม่สิคนฝากสเปริ์ม ทะเลาะ”
“เขาก็มีชื่อไปเรียกเขาอะไรแบบนั้น”
“ทีเขายังเรียกฉันว่าคนอุ้มท้องเลย”ถงไฉ่ยิ้ม
“เอาจริงนะ เธอกับเขานี่ไม่น่ามาร่วมงานกันเลยคนหนึ่งรวยและหยิ่งยะโสอีกคนจนแต่หยิ่ง”
“ก็ได้ฉันสัญญาจะอดทนให้มากเพื่อคุณแม่ ได้รับการรักษาที่ดีที่สุดเงินมันซื้อได้ทุกอย่างทั้งการรักษาที่ดีและความเกลียดที่เขาใช้เงินซื้อจากฉันไป”หมอถงยิ้มบางๆ
“นั่นล่ะคือสิ่งที่เธอจะต้องทำ มันจะสำคัญอะไรมันก็แค่งานเราจะชอบมันหรือไม่ทางเดียวที่ทำได้ก็คือตั้งใจทำมันให้ออกมาเที่สุดแล้วรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากงานที่ทำให้เรามีชีวิตรอดต่อไปเพราะการทำงาน แค่เก้าเดือนเพื่อแม่และเงินสำหรับตั้งตัวเพื่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม”จีเหรินเหมยยิ้มพยักหน้าขึ้นลง
จีเหรินเหมย ย่อกายลงข้างๆคุณปิงปิง
“คุณแม่ขาอีกแค่เก้าเดือนก็พบกันแล้วค่ะ หนูอยู่ทางนี้จะดูแลตัวเองคุณแม่ก็อย่าดื้อคุณหมอนะคะ รักษาตัวให้หายใจแล้วเหมยเหมยจะพาคุณแม่ไปเที่ยวด้วยกันเราจะกลับมาเป็นคู่หูกันเหมือนเดิม”ซ่อนน้ำตาเสียกลัวมาคุณปิงปิงจะเห็นมัน
“หนูจะไปไหนไม่ไปกับแม่หรือ”
“ไม่ได้ค่ะ อยู่ที่นั้นค่าใช้จ่ายเยอะมากอยุ่ทางนี้หนูยังพอทำงานหาเงินตอนนี้หนูได้งานดีดีแล้วนะ ถงไฉ่เขาหางานให้หนู พอทำงานมีเงินก็ส่งเงินไปเป็นค่ารักษาคุณแม่อย่างไรเล่าค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะงานสบายทีเดียวค่ะแค่หนูจะต้องอยู่ทำงานที่นี่ แล้วพอคุณแม่หายหนูจะลาออกจากงานคอยดูแลคุณแม่ตอนฟักฟื้นดีไหมคะ”
คุณปิงปิงยกมือซีดขึ้นหยิบปอยผมที่ระใบหน้าขาวสะอาดไร้การแต่งแต้มทว่ากลับมองว่าน่ารักน่าเอ็นดูที่สุด
“หนูทำงานหนักเพื่อแม่ ความจริงแล้ว..”เหรินเหมยยกนิ้วชี้ขึ้นปิดปากคุณปิงปิงเสียไม่ให้พูด
“เรามีกันแค่สองคนหนูอดทนเพื่อหาเงินคุณแม่ก็ต้องอดทน เพื่อรักษาตัวเองอย่าท้อนะคะเพื่ออยู่ต่อเป็นกำลังใจให้หนูถ้าไม่มีคุณแม่หนูก็ไม่มีทางอยากจะอดทนต่อเรื่องแย่ๆในแต่ละวันแน่ๆ เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้องเห็นแก่หนูอยู่กับหนูต่อไปรักษาตัวให้หายดีแล้วกลับมาเป็นกำลังใจของหนู”ยกมือซีดมาลูบที่แก้มเนียน
เฉิงซีหยวนยืนเอามือไพล่หลังมองลงมาจากศูนย์อำนวยการของโรงพยาบาล
“เหรินเหมยเขาเอาเงินที่ได้ไปทุ่มกับการรักษาคุณแม่ที่ป่วย คุณยอมให้เธอทำงานจึงถือว่าทำบุญ”เฉิงซีหยวนไม่ได้พูดว่าอะไรถงไฉ่ถอนหายใจยาวหนักใจไม่น้อยกับความสัมพันธ์ปรามเหรินเหมยว่าให้ยอมๆคุณเฉิงเขาหน่อยเพราเขาก็เท่ากับนายจ้าง เหรินเหมยรับปากมั่นเหมาะแต่ถงไฉ่รู้ดีว่าเหรินเหมยเป็นคนที่ชอบความยุติธรรมไม่เคยเอาเปรียบใคร แต่ถ้าอะไรไม่ถูกไม่ควรเหรินเหมยไม่มีทางยอม เดินตามเฉิงซีหยวนไปติดๆเหรินเหมยโบกมือลาแม่หยอยๆเขาอนุญาตให้มาส่งได้แค่นี้เพราห่วงความปลอดภัยของครรภ์ที่ยังไม่แข็งแรง กลัวว่าจะแท้ง เพราะเป็นการฝังตัวอ่อนด้วยมือหมอไม่ได้ใช้วิธีธรรมชาติที่ถงไฉ่ใช้คำว่าเด็กจะหัวแข็งกว่าวิธีที่หมอทำ ฉะนั้นจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจคนอุ้มท้องให้ดี“ไปกันได้แล้ว”เสียงสั่งเบาๆข้างหลัง เหรินเหมยรีบปาดน้ำตา“หยุดร้องได้แล้วนะ คนอุ้มท้องถ้าเอาแต่เศร้าโศก จะทำให้ลูกของผมในท้องกลายเป็นเด็กที่ร้องไห้โยเยและไม่ร่าเริง”จีเหรินเหมยสูดลมหายใจเข้าลึกๆยิ้มกว้างสดใส“ตกลงค่ะ”ถือกระเป๋าก้าวเดินนำแต่คนติดตามคุณเฉิงคนนั้นรีบมาแย่งกระเป๋าในมือไปถือเสียเอง“คราวหลังจำไว้ห้ามใช้แรง คุณหมอถงต้งอาศัยคุณช่วยอธิบายกับคนอ
แกะมือเฉิงซีหยวนออกจากเอวรู้สึกร้อนๆหนาวๆรถแล่นยาว ไม่จอดพัก จีเหรินเหมยสลึมสะลือก่อนจะเอนกายหลับไปบนเบาะรถยนต์ ตื่นขึ้ันมาอีกทีก็มีหมอนมารองที่ต้นคอให้ หันมองเฉิงซีหยวนที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาแล้วก็เลยหลับตาลงอีกทีจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเฉิงซีหยวน เขาบอกว่าตอนท้อเราเกลียดคนไหนลูกเราจะมีใบหน้าเหมือนคนนั้น แบบนี้จีเหรินเหมยคงต้องพูดเรื่องนี้กับหมอถงจริงจัง คิดอะไรเพลินๆจนเผลอหลับไปอีกที หยงซือขับรถด้วยความระมัดระวังมาตลอดทางจนถึงเนินเขาเตี้ยๆนอกตัวเมืองห่างไกล “ตื่นได้แล้ว”เสียงดังประกาศิต จีเหรินเหมยลืมตาขึ้นช้าๆ คุณเฉิงคนนั้นยังนั่งกอดอกนิ่งด้านหลังรถของคนสนิทคนเมื่อวานที่จีเหรินเหมยเพิ่งจะได้ยิมหมอถงบอกว่าเขาแซ่หลี่ขับตามมาติดๆ ในรถมีพยาบาลที่ชื่อคุณเหวินพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระ จีเหรินเหมยกลับคิดว่าคนรวยนี่เขาทำอะไรให้วุ่นวายไปเสียทุกเรื่องทุ่มเงินมากมายเกินความจำเป็น รถคันหรูเลี้ยวขึ้นเนินเขาไปยังจนสุดเนินเขามีบ้านหลังใหญ่ที่รายล้อมด้วยดอกไม้และต้นดอกเหมยสีชมพูที่ถนนทอดยาวสู่ตัวบ้านหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดี คนสวนผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันกับหญิงกลางคนคนเมื่อกี้และเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับ
บ้านเฉิง “ซูจ๋าย นอนพักอยู่ชั้นบนลูกควรจะหาเวลาพักผ่อนบ้าง ซูจ๋ายก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรซูจ๋ายนอนพักก็ดีแล้วแต่คนที่ควรพักจริงๆควรเป็นลูกนะเฉิงซีหยวน”เฉิงซีหยวนยิ้มเศร้าๆ“ขอบคุณครับที่เป็นห่วงผม”“วันนี้กลับมาก็ต้องเข้าไปคอยเอาใจซูจ๋ายคอยป้อนข้าวป้อนนำลูกไม่อยู่เธอก็ไม่ยอมกินยา เด็กรับใช้ในบ้านมากมายหาที่รู้ใจซูจ๋ายสักคนคอยป้อนข้าวป้อนยา ลำพังกิจการของอวิ๋นเฉิงกรุ๊ปก็หัวหมุนพอแล้ว”“ผมค่ไม่อยากให้ซูจ๋ายรู้สึกว่าผมไม่ใส่ใจเขาเรื่องแบบนี้เป็นผมที่ทำให้เขาจะดีกว่าให้คนอื่นทำ”คุณเสวียเต่อส่ายหน้าไปมา“แล้วเรื่องฝากไข่ไปถึงไหนแล้วแน่ใจหรือว่าพอมีลูกอาการของซูจ๋ายจะดีขึ้น แม่ว่าจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่คนป่วยอย่างไรจะเลี้ยงดูทารกได้”“ครับ ผมตั้งใจเซอร์ไฟรส์ซูจ๋ายสองสามอาทิตย์ก่อนพาเขาไปพบคุณหมอ และจัดการหลายเรื่องเรียบร้อยไปแล้วครับ เรื่องเลี้ยงทารกคงต้องหาทางออกอีกที”“ยินดีด้วย แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้หรืออาจจะเป็นสวรรค์กำหนดไว้แล้วซูจ๋ายร้่างกายไม่ค้่อยแข็งแรงดีที่ยังตกไข่ให้มีทายาท”เฉิงซีหยวนยิ้ม“คุณหมอถงเก่งครับ หากงานนี้สำเร้จตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลของอวิ๋นเฉิงคงต้องยกให้คุณหมอถงอย่างเสี
“ซูจ๋ายเองก็กำลังจะเป็นแม่คน เรากำลังจะมีลูกแฝด ทุกอย่างกำลังจะลงตัวคุณจะต้องเข้มแข็งกินยาพักผ่อน พอหาคนอุ้มท้องได้ อีกไม่นานซูจ๋ายกับเฉิงซีหยวนตัวน้อยจะมาวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้านตระกูลเฉิง”ซูจ๋ายกระชับอ้อมกอดน้ำตาไหลพราก อีกคนพร่ำจูบซับน้ตาให้อย่างอ่อนโยน“ความจริงแล้วซูจิงก็เหมาะที่จะอุ้มท้องลูกของเรา”เฉิงซีหยวนยิ้มบางๆ“คุณคิดอย่างนั้นหรือ”“อย่างไรก็ดีกว่าต้องพึ่งพาคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องซูจิงเขาเองก็ภูมิใจในตัวพี่เขยไม่น้อย ตอนนี้เขาดูแลซูจ๋ายดีมากหากจะเป็นใครสักคน ซูจ๋ายยินดีให้เป็นน้อง”บ้านบนเขา“ไม่มีอะไรน่าห่วง ธรรมดาก็กินได้ทุกอย่างนะคนท้องมักจะหิวบ่อยและเวลาหิวก็จะหิวมากกว่าคนอื่นจึงมองหาแต่ของกินนู่นนี่นั่น คุณก็ต้องพยายามปรับตัว เสี่ยวจี้กับเสี่ยวหยูเขาคอยรับคำสั่งของคุณอยู่แล้วนี่อยากจะกินอะไร เขาก็มีหน้าที่หามาให้คุณ”พยาบาลกู้ พูดขึ้นหลังจากที่ตรวจจับชีพจรและตรวจครรภ์ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ในปัสาวะ เหรินเหมยพยักหน้า“ต้องรออีกหนึ่งสัปดาห์ คุณจะมีอาการแพ้ท้องหรืออาจไจะไม่แพ้ท้องเลยก็ได้ แต่เราจะอัลตร้าซาวด์ หมุนตัวหน่อย”คุณพยาบาลกู้จับตัวเหรินเหมยหมุนไปมา“อืมมม ค
“ได้ยินแล้วกำลังจะรีบไป”เฉิงซีหยวนรับโทรศัพท์พร้อมกับรอยยิ้ม“หลี่ตงเอารถออก”สาวเท้ายาวๆพร้อมกับออกคำสั่ง ใบหน้าแย้มยิ้มจนหลี่ตงอดสงสัยไม่ได้ ซูจ๋ายที่มองร่างสูงท่าทีเร่งรีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งข้างคนขับแล้วรถก็พุ่งตัวออกจากคฤหาสน์บ้านเฉิงอย่างรวดเร็ว“พี่เขยเขารีบไปไหนค่ะพี่สาว”ซูจิงถามยิ้มๆ“คงมีงานด่วนหรืออาจกำลังมีโปรเจคใหม่จึงทำเขาดีใจขนาดนี้”“ดีจังนะคะมีสามีที่เอาใจใส่ดีขนาดนี้แล้วยังขยันทำงานเพื่อให้พี่อยู่สบาย”ซูจ๋ายยิ้มน้อยๆ“ทุกอย่างต้องมีต้นทุนกว่าพี่จะมีวันนี้ได้กว่าจะรักกันได้ขนาดนี้ไม่ได้อาศัยโชคหากแต่สิ่งที่ทำให้กับซีหยวนเป็นความริงใจทั้งสิ้นเขาเองก็รับรู้ได้เราสองคนจึงนับว่าโชคดี ที่มีใจตรงกันและซีหยวนไม่เคยมีคนอื่นหรือนอกใจ”ซูจิงห่มผ้าให้ซูจ๋ายนั่งลงหยิบ โทรศัพท์ขึ้นลมาเลื่อนดูข่าวสารในโซเซียล“พี่เขยเขาได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งของผู้ชายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตอนนี้แล้วยังอยู่อันดับหนึ่งของผู้ชายในฝัน มีแต่คนอิจฉาพี่นะคะทำไมไม่ออกสื่อให้คนได้เห็นหน้าให้คนเขารู้ว่าพี่เขยมีเจ้าของแล้ว”“แค่นี้หลายคนก็รู้แล้วไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ และซีหยวนเขาก็ให้เกียรติพี่เสมอม
“ครับ”หมอถงรับคำกล่าวตามเฉิงซีหยวนออกมาข้างนอก“ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยให้ความฝันของผมกับซูจ๋ายเป็นความจริงเสียที”หมอถงเลิกคิ้วสูงคิดไม่ถึงว่าท่านประธานอวิ๋นเฉิงกรุ๊ปจะกล่าวคำขอบคุณออกมา“ครับ ไม่เป็นไรครับ คุณจ่ายผมมาไม่น้อยเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องตั้งใจอย่างที่สุดเพื่อความสำเร็จ ดีใจที่คุณสมหวังสักทีครับ”หมอถงยื่นมือจับมือเฉิงซีหยวนแสดงความยินดีเสี่ยวหยูที่เดินเข้ามาพร้อมกับสับปะรดปอกสีเหลืองฉ่ำอีกจาน“ได้แต่ผลไม้ครับระหว่างนี้แต่ไม่ต้องกังวลผลไม้ที่มีน้ำมากจะทำให้อาการแพ้ท้องลดลงความเครียดก็มีส่วนเหรินเหรินเป็นคุณแม่มือใหม่ และการตั้งครรภ์ก็มาจากมือหมอ ก็จะกังวลแลยทำให้อาการแพ้ท้องรุนแรงกว่าคนทั่วไปตอนนี้กินอะไรได้ก็ควรจะปล่อยไปก่อนครับใช้วิตามินและแคลเซียมช่วยเสริม พอหายจากอาการแพ้ท้องค่อยบำรุงกันอีกที”เฉิงซีหยวนพยักหน้าขึ้นลง“คุณจี ผมหมายถึงคนอุ้มท้องก็คงลำบากไม่น้อยทั้งรับมือกับอาการแพ้ท้องและผลกระทบหลายๆอย่างฝากคุณหมออีกทีระหว่านี้ต้องการอะไรให้บอกผมได้ผมยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้คุณจีแข็งแรง”“ครับพอเริ่มเข้าสัปาห์ที่5-6 อาการอาจดีขึ้นครับ ตอนนี้ผมกับทุกๆคนก็ช่วยกันดูแลจีเหรินเหมยอ
เฉิงซีหยวนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาที่แขนพาดเสื้อนอกสีเข้ม ก้าวเดินเข้าปในห้องของซูจ๋ายที่นอนเอนตัวมองกระต่ายน้อยเกือบสิบตัวกินแครอทเหมือนทุกๆวัน“คุณมาแล้วหรือ”เฉิงซีหยิวนโน้มตัวลงกดริมฝีปากกับแก้มและหน้าผากซีดขาวซูจ๋ายยิ้มเศร้าๆ“วันนี้จะค้างที่นั่น แล้วพรุ่งนี้เช้าจะมาที่นี่มาค้างกับคุณ ตกลงไหม”ยิ้มบางๆ“ไปแต่เช้าเลยหรือค่ะนี่เพิ่งจะหกโมงเช้า”ยิ้มสดใสเพื่อกลบเกลื่อนเมื่อคืนเขานอนไม่หลับเพราะกังวลว่าเหรินเหมยจะเป็นอะไรหรือเปล่าหญิงสาวที่อายุไม่เท่าไหร่จะอดทนต่ออาการแพ้ท้องได้นานแค่ไหนกัน“พอดีมีงานด่วน มีปัญหานิดหน่อยเลยกลัวว่าถ้ารอเวลาจะยิ่งเกิดปัญหาใหญ่ตามมา”“คุณลำบากจะต้องวิ่งไปกลับ ความจริงแล้วซูจ๋ายอยู่ที่บ้านนี้กับคุณแม่คุณแล้วก็ซูจิง ไมไ่ด้ลำบากอะไรคุณค้างที่นั่นหลายๆวันหน่อยจะได้ไม่ต้องลำบากวิ่งไปวิ่งกลับ”“ไม่ ผมสัญญาจะต้องมาราตรีสวัสดิ์คุณวันเว้นวัน และจะต้องตื่นนอนมาพบหน้าคุณวันว้นวัน ไม่นานหรอกซูจ๋ายแค่ไม่กี่เดือนรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยผมจะอยู่ที่นี่กับคุณทุกวันทุกคืน”ซูจ๋ายยิ้มเศร้าๆ“ไว้ซูจ๋ายดีขึ้นจะไปที่นั่นกับคุณดีไหมค่ะ”เฉิงซีหยวนยิ้ม“คุณอยากจะได้อะไรที่นั่นไหม
เฉิงซีหยวนยืนนิ่งพิงประตูห้อง ใจเขาเองก็เต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนกันร่างอวบขาวกับหยดน้ำพร่างพราวหอมกลิ่นสบู่อ่อนๆ เมื่อไหร่กันที่เขาไม่รู้สึกใจเต้นตึกตักกับหญิงสาวหรือเพราะเขาไม่เคยเข้าใกล้ใครตั้งแต่มีซูจ๋ายสินะ“อ้าวนายท่าน เอ่อ คุณจีเธอกำลังอาบน้ำค่ะแต่ว่าช้าเหลือเกินเสี่ยวจี้เลยขึ้นมาดูกลัวว่าจะเกิดอันตรายในห้องน้ำ”เสี่ยวจี้ที่ไม่รู้อะไรเดินเข้ามาทัก เฉิงซีหยวน“ฉันรู้แล้วกำลังจะลงไปให้คุณจีของเธอรีบหน่อยเลยเวลาอาหารมาห้านาทีแล้วเดี๋ยวลูกฉันจะหิว”เสี่ยวจี้ยิ้ม ยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆเฉิงซีหยวนรีบออกจากตรงนั้นบนโต๊ะอาหารที่จัดขึ้นแบบลวกๆเฉิงซีหยวนนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอ้ เสี่ยวหยูกับเป่าเอ่อทยอยยกอาหารเช้ามาวาง เฉิงซีหยวนพลิกนาฬิกาข้อมือดูเวลาซ้ำแล้วซ้ำอีกเหรินเหมยเดินออกจากบ้านตามหลังด้วยเสี่ยวจี้“ช้าไปอีกสิบนาที”เสี่ยวจี้ยิ้มเจื่อนๆน้ำเสียงเย็นชา เหรินเหมยรีบก้มหน้าหลบตาอายที่เขาเห็นเหรินเหมยในสภาพนั้น หน้าแดงระเรื่อ“พอดีว่า คุณพยาบาลกู้กำชับว่าให้สวมใส่เสื้อผ้าที่สบายๆและพอดีว่าทางนายท่านเฉิงยังไม่ได้ให้คนจัดหาเสื้อผ้าแบบนั้นมาเลยมีแต่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างอึดอัดและที่สำคัญคุณพยาบาลก
“ดินเนอร์กันไหมค่ะ” ซูจิงพูดขึ้นหลังจากที่ถ่ายแบบพรีเวดดิ้งเรียบร้อยไปแล้ว“วันนี้ไม่ว่าง” เดินออกจากตรงนั้นมุ่งหน้าไปที่รถของหลี่ตงที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว“ไว้พบกันพรุ่งนี้อีกทีค่ะคุณ” จือหรานมาส่งซูจิงที่ยืนหันหน้าหันหลัง“กลับอย่างไรคะคุณซูจิงให้ฉันเรียกรถให้ดีไหมคะ” จือหรานอดห่วงไม่ได้“ไม่เป็นไรค่ะตั้งใจแวะเดินเล่นก่อนกลับ คุณจอหรานไปด้วยกันไหม” จือหรายยิ้มแบบเกรงใจ“วันนี้ฉันมีนัดอะค่ะ” ป้องปาก ซูจิงพยักหน้ายิ้มๆ“ไม่กวนแล้วค่ะรถที่รักมาแล้วค่ะ” เดินไปรถที่เรัยกให้มารับจือหรานส่ายหน้าไปมา“พี่ครับ แบบนี้จะอยู่กันยืดไหม ไอ้แบบนี้ผู้ชายก็รวยแล้วยังไม่สนใจใน ความรู้สึกอีกคน”“เรื่องของเขาหรือเปล่าไปกินเหล้ากันดีกว่า ฉันละเปรี้ยวปากเหนื่อยมาทั้งวันแล้วไปพักผ่อนกันฉันเลี้ยงเอง” จือหรานยมือกอดรอบไหล่ของรุ่นน้องในจีคอเปอเรชั่นยิ้มกว้างพาเดินออกจากตึก“จุนแม่ฮับบบบบ” เชียวอู่วิ่งเข้ามากอดเหรินเหมยอันอันเดินเข้ามาเมียงมองเหรินเหมยรีบอ้าแขนออกโอบรอบตัวของทั้งสองคน“จุนลุงบอกว่าจะพาไปกินไอศกรีม แต่เพื่อนๆ ของเชียวอู่บอกว่าคนที่พาไปกินไอกรีมจะต้องเป็นคุณพ่อ” ชาไช้ยิ้ม นั่งลงพูดกับเชียวอู่“คุณ
“ปล่อยนะ” เหรินเหมยผลักร่างสูงที่ไม่ทันระวังเซถลาไปกระทบผนังอีกด้านจือหรานถือวิสาสะเปิดม่านพุ่งเข้ามาข้างใน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก“เอ่อเกิดอะไรขึ้นในนี้คะ” เฉิงซีหยวนถอนหายใจ“ออกไปให้หมดไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น” เหรินเหมยถอนหายใจจือหรานรีบดึงมือเหรินเหมยออกจากห้องเปลี่ยนชุด“คุณจีเขาทำอะไรคุณจีไหม” เหรินเหมยส่ายหน้าเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง“ไม่” โกหก“อยู่ห่างๆ เขาดีกว่าค่ะดูเขาจะเป็นไบโพล่านะคะน่ากลัวเชียว แล้วไอ้ที่เห็นก็ไม่ได้รักเจ้าสาวสักนิดดูเหมือนทำอะไรก็ขัดใจไปเสียหมดแบบนี้จะแต่งกันทำไม”“อย่านินทาเขาคนอื่นที่มาไม่เห็นว่าจือหรานจะนินทาใคร”“ก็เขาไม่มีอะไรให้นินทานี่คะมีแต่ทำให้อิจฉา รักกันหวานฉ่ำทุกคู่ยกเว้นคู่นี้” เหรินเหมยยิ้มน้อยๆ“ทำงาน ทำงาน”เหรินเหมยแกล้งปรบมือรัวๆกระตุ้นจือหรานเฉิงซีหยวนเดินออกมาในชุดกี่เพ้าของผู้ชายที่ติดกระดุมไม่หมดเหลือไว้สองสามเม็ดซูจิงออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดมองซีหยวนเพียงแวบเดียวแล้วรีบเดินตรงเข้ามาติดกระดุมให้ทันที เหรินเหมยรีบเบือนหน้าหนีเสีย“ฝากด้วยนะจือหราน ฉันต้องไปรับลูกที่โรงเรียน แล้วจะเข้าบ้านเลยมีอะไรโทรมาได้เลยนะบางทีฉันอาจกลับ
“ปล่อยนะ” จีเหรินเหมยเค้นเสียงพูด อีกคนปล่อยมือออกจากเอวส่งผลทำให้เหรินเหมยร่วงลงไปกองกับพื้น“อุ๊ป” ช่างภาพรีบมาประคองเหรินเหมยที่มีสีหน้าเหยเก เฉิงซีหยวนปัดมือเบาๆ ยิ้มหยันที่เหรินเหมยยอมให้ช่างภาพแตะตัว แม่เลี้ยงเดี่ยวที่เนื้อหอมสินะ“สำออยถอยไปได้แล้วฉันจะถ่ายแบบแล้ว” จือหรานขมวดคิ้วจีเหรินเหมยรีบเดินหลบออกมาลูบที่ศอกของตัวเองปอยๆ“พี่เขยคุณพบกับคุณจีครั้งแรกคุณก็ ทำร้ายเธอเลยหรือ มีปมอะไรหรือเปล่า” ซูจิงถามมืออยู่ในท่าโพสน์เตรียมถ่ายแบบ“ไม่นี่คิดว่าต้องมีด้วยหรือเธอคิดมากไปเองฉันก็แค่รู้สึกว่าเขาไม่ให้เกียรติเราเลยแกล้งเขานิดหน่อย” ซูจิงพยักหน้าขึ้นลง“คุณจีเธอน่ารักนะคะพี่ไม่ชอบคนน่ารักหรือ เธอเหมือนพี่ซูจ๋ายตอนที่ยังวัยรุ่นตอนยังไม่ป่วย” เฉิงซีหยวนชะงักงัน“พร้อมหรือยังครับ” ช่างภาพตะโกนถามดังๆ จือหรานวิ่งไปหยิบยานวดบรรเทาปวดมานวดที่ข้อศอกให้กับเหรินเหมย“พร้อมนะครับหนึ่ง..สอง…สาม ดีครับสวยครับ ผ่านแล้วครับ” ซูจิงยิ้มหันมองเหรินเหมยที่จือหรานกำลังทายาให้“พี่ซีหยวนพี่จะไม่ขอโทษคุณจีเขาหน่อยหรือ” อีกคนยิ้มยียวน“ไม่จำเป็น เขารู้ดีว่าไม่จำเป็น” ซูจิงถอนหายใจ“ปกติพี่ชอบผู้หญิ
เปิดประตูเข้าไปในสตูดิโอ“นี่เธอใช่ไหมคนประสานงานจือหรานยิ้มกว้าง“จือหรานค่ะ”“อ่อ ไม่ต้องบอกชื่อฉันแค่สงสัยว่าซูจิงเขาจ่ายเงินมหาศาลเพื่อมาถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูดิโอเนี๊ยะนะ”“เอ่อคือความจริงเราคุยกันแล้วค่ะเราเซ็ทฉากขึ้นมาทั้งหมดอยู่แล้วสถานที่จริงไม่มีตรงไหนตรงประเด็นที่คุณซูจิงอยากได้ และคุณซูจิงก็บอกกับทางเราว่าไม่อยากให้ผิวโดนแดดเพราะแต่งงานในอีกไม่กี่วันอุตส่าห์บำรุงผิวมาทั้งเดือน” อยากจะพูดต่อว่าค่าเซ็ทฉากก็เป็นเงินไม่น้อยแล้วจะเอาแบบไหนอีก เฉิงซีหยวนถอนหายใจซูจิงเดินเข้ามาอีกคนจือหรานยิ้มแก้มป่องตัวช่วยมาแล้ว“มาช้าสิบนาที” ซูจิงฝืนยิ้ม“พอดี ยุ่งกับหน้าที่เลขาของพี่นั่นแหละเอาเข้าจริงๆ ฉันก็ชอบงานนี้นะได้ใส่ใจพี่และได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับพี่ซีหยวนที่ทำงาน” ไม่กล้าบอกว่า ชาไช้รั้งไว้ด้วยคำพูดหยามเหยียด“เริ่มเลยไหมค่ะจะได้เรียบร้อยเสียทีตากล้องรอนานแล้ว”“วิสกี้ออนเดอะร็อคของฉันเล่า”“เอ่อ สักครู่นะคะฝ่ายบริการกำลังจัดหามาให้ค่ะคุณสองคนเปลี่ยนชุดแล้วก็แต่งหน้าให้เรียบร้อยก่อนดีไหม” ซูจิงพยักหน้าขึ้นลงยิ้มๆ“ไม่ ให้ได้ดื่มก่อนจึงจะเริ่ม ตั้งแต่มายังไม่เห็นเจ้าของ จีออแกไนท์…
ถงซือพูดเปรยๆ ขณะขับรถกลับจากไปส่งเหรินเหมยและลูกๆ ที่บ้านของเย็นวันนั้น“คุณว่า เฉิงซีหยวนจะปล่อยมือหรือยัง” กู้เหวินถอนหายใจ“ฉันได้ข่าวว่าเขากำลังจะแต่งงานกับอดีตน้องเมียน้องสาวคุณซูจ๋ายอาจจะไม่มีอะไรเลวร้ายตั้งห้าถ้าเขาจะจัดการกับพวกเราหรือทำอะไรลงไปก็คงทำไปแล้ว”“ไม่กล้วว่าเขาจะแย่งเอาลูกของเหรินเหมยไปหรือ แบบนั้นคนที่เจ็บปวดที่สุดคือเหรินเหมยที่ไม่มีปัญญาอะไรไปต่อกรกับเขาศาลจะอ้างทันทีเพราะเฉิงซีหยวนเขารวยล้นฟ้า”“อาจแค่บังเอิญเพราะเจ้าสาวคงไม่รุ้ว่านี่คืแม่อุ้มท้องลุกของคุณเฉิงซีหยวนและจีคอเปอเรชั่นพักหลังๆ มาก็ไปได้ดีไม่น้อยเป็นที่พูดถึงในวงการออแกไนท์ หมอถงพยักหน้าขึ้นลง“เฉิงซีหยวนจะไม่ทำอะไรโง่ๆ อย่างเช่นการประกาศว่าเป็นพ่อของเด็กใช่ไหมในเมื่อเขากำลังจะแต่งงาน” กู้เหวินยิ้ม“มันควรจะเป็นแบบนั้นหากเขาเกรงใจว่าที่ภรรยาของเขา บางทีคุณอาจแค่ห่วงเหรินเหมยมากไป” หมอถงพยักหน้าขึ้นลง จริงสินะถ้าเลี่ยงไม่พบกันเสียก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความสนุกสนานและวันของครอบครัวผ่านไปแล้ววันนี้สองแฝดต้องไปโรงเรียนอีกแล้ว รถรับส่งวิ่งมาจอดหน้าบ้านอันอันโบกมือให้กับเหรินเหมยหยอยๆ เชียวอู่ทำทีเหมือนตั
“อย่างไงนายร้อนตัวหรือว่าอย่างไรบอกว่าไม่ได้เป็นสามีแล้วร้อนตัวทำไม เชอะหลอกฉันซ้ำซากนี่ก็หลอกว่าเป็นเมียนาย ทำให้ฉันไม่กล้าทำอะไร” ชาไช้ถอนหายใจ“แล้วพี่จะทำอะไรคุณจีเขาดีนะที่เขาไหวตัวทันเอาตัวรอดได้ พี่กำลังจะทำอะไรอย่าบอกนะว่าอยากจนไม่เลือกคน เงินก็มากมายซื้อกินก็ได้แล้วอีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานกับน้องเมียเก่าแสนสวยแล้ว พี่จะสร้างตราบาปให้เขาทำไม” เฉิงซีหยวน ยิ้มหยัน“หวงก้างสินะ เขาก็ไม่ได้ชอบนายไม่ได้เป็นเมียนายแล้วทำไมถึงต้องปกป้องเขาด้วย”“พี่รู้ไหมจีเหรินเหมยเขาต้องบากบั่นเลี้ยงดูอันอันกับเชียวอู่มาคนเดียวตลอดห้าปีถึงผมจะพูดว่าจะช่วยออกค่าใช้จ่ายหรืออะไรที่เขาขัดสนเขาก็ไม่ยอม พี่ซีหยวนพี่คิดดูดีดีผมอยู่ใกล้เขามา5ปีแม้แต่มือเขายังไม่ให้ผมจับแต่พี่พาเขาเข้าห้องตั้งใจรังแกเขาทั้งที่เขาเมาแค่นี้เขาก็เกลียดพี่จะตายอยู่แล้วผมไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่คบกับผมเพราะพี่ เพราะเขากลัวว่าจะต้องมาข้องแวะกับพี่”“ดีพูดได้ดีฉันจะทำให้เขารู้ว่าเกลียดแบบไหนได้แบบนั้น” ซูจิงที่ยืนนิ่งแอบฟังสองพี่น้องคุยกันทั้งที่ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงใครแต่ในใจเจ็บจี๊ด“พอได้แล้วครับผมขอร้อง” ซีหยวนเดินมาจ้องหน้าชาไช้เห
พูดว่าปล่อยอีกคนยิ่งกดริมฝีปากปิดปากเสีย ขาสองข้างตรึงจีเหรินเหมยไว้ใต้ตัวเขาไม่ให้ขยับ มือสองข้าถูกตรึงด้วยมือของเฉิงซีหยวนที่เหนือศีรษะของเหรินเหมยถึงไม่ทำอย่างนั้นคนเมาก็ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ริมฝีปากนุ่มลื่นซอกซอนจนเหรินเหมยร้อนๆ หนาวๆ อ่าาายิ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้บทรักหวาบหวามยิ่งขึ้น“ปล่อยนะฮือออออ อย่าทำแบบนี้ฉะฉะฉันเป็นเมียน้องชายคุณนะ” เฉิงซีหยวนปล่อยมือที่ตรึงมือเหรินหมยไว้ “สกปรก” เหรินเหมยน้ำตาร่วงกราว“ปล่อยฉันไปสิ”“เมาจนเดินแทบไม่ไหว ไปให้พ้นจากห้องของฉัน” เหรินเหมยทั้งอายทั้งเจ็บใจคลานจากที่นอนโซซัดโซเซ“ฉันจะโทรตามชาไช้ให้เอง เธอจะได้ไปให้พ้นๆ จากห้องฉันเสียที” เหรินเหมยถอนหายใตจโล่งอกแทบเอาชีวิตไม่รอดคนอะไร ช่างร้ายกาจเหลือเกินร้อยวันพันปีไม่เคยพบไม่เคยได้เจอกันมาวันนี้ต้องหนักใจเรื่องที่ต้องจัดงานแต่งงานให้เขากับซุจิงแล้วดันมาเจอเขาเข้าอย่างจังอีก สาปส่งไปแล้วทำไมยังเจอกันอีกโลกมันกลมหรือว่าเหริยนเหมยพลาดไปเองวางโทรศัพท์จากชาไช้แต่กดไปหาหลี่ตง“หาผู้หญิงให้ฉันสักคนให้ขึ้นมาได้เลย” เหรินเหมยยกมือขึ้นกุมขมับ ปวดหัวมึนหัวแต่รู้สึกว่าโลกทั้งใบหมุนติ้วไม่
หลี่ตงถอนหายใจ“คุณจะไม่ปล่อยคุณจีไปหรือครับ เขา…เอ่อไม่เหมาะกับเรื่องแบบนี้ คุณจีเธอน่ารักนะครับเธอ เหมาะที่จะเป็นคุณแม่แล้วก็เป็นคุณแม่ของลูกของคุณ”“หุบปากยุ่งเสียจริง ทำไมพูดมากแบบนี้ฉันไม่เห็นว่านายจะสนใจอะไร ผู้หญิงคนอื่นก็ผู้หญิง ผู้หญิงคนนี้ก็ผู้หญิง คนอื่นนายไม่เป็นจะสนใจว่าฉันจะทำกับคนพวกนั้นแบบไหน แล้วทำไมต้องมาสนใจจีเหรินเหมยคนนี้ด้วย” หลี่ตงก้มหน้า“ขับรถไปแล้วไม่ต้องออกความเห็นอะไรฉันตัดสินใจฉันเองได้ถ้าผู้หญิงคนนี้ดีจริงเขาจะรวมหัวกันหลอกฉันทำไมอย่างไรพวกเขาก็ผิดดีแค่ไหนแล้วฉันไม่แจ้งความเรื่องนี้” หลี่ตงหุบปากนิ่งแต่มในใจกลับเถียงไม่หยุดดีที่ไม่แจ้งความแต่ก็ไม่ให้โอกาสทั้งเหรินเหมยและหมอถงเฉิงซีหยวนอุ้มคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนพาเดินขึ้นลิฟต์แบบสบายๆ โดยมีหลี่ตงอำนวยความสะดวกให้ เมื่อถึงห้องเขาก็หันมาพูดกับหลี่ตง“นายกลับไปพักผ่อนที่ห้องนานเสียพรุ่งนี้เช้าค่อยมาที่นี่” หลี่ตงถอนหายใจหวั่นใจกับความปลอดภัยของเหรินเมหยไม่น้อย เฉิงซีหยวนถ้าเป็นเฉิงซีหยวนเมื่อห้าปีที่แล้วตอนที่ซูจ๋ายยังอยู่ก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่แต่นี่เฉิงซีหยวนคนนี้ จะมีผู้หญิงกี่คนที่รอดไปได้ ยิ่งเมาๆ แบบนี้ด้
“คุณจะทำร้ายเธอหรือครับ”“นี่นายคิดว่าคนอย่างฉันทำร้ายผู้หญิงหรือ ฉันนะใจดีจะตายเบาะๆก็แค่สั่งสอนให้รู้ว่าไม่ควรดื่มในเมื่อเป็นแม่ของลูกฉัน” แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งที่ตัวเองกำลังจะแต่งงาน แล้วมีสิทธิ์อะไรมาแสดงความเป็นเจ้าของทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน“ถ้าเป็นเมื่อก่อน…ไม่แน่ครับแต่ตอนนี้ผมว่าคุณปล่อยคุณจีไปเถอะครับเธอน่าสงสารปากกัดตีนถีบเพื่อหาเลี้ยงลูกถึงสองคน”“นั่นสินะแต่ก็ไม่ควรมานั่งดื่มสบายใจแบบนี้ลูกฉันรอแม่กลับบ้านเป็นแม่ภาษาอะไร คงมาดื่มจนชินสินะถึงดื่มเก่งขนาดนั้น”เหรินเหมยกระดกเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ลงคออีกอึกใหญ่ จือหรานดึงแก้วในมือมาดื่มเสียเอง“พอแล้วค่ะคุณจีคุณไม่ควรดื่ม เร็วขนาดนี้การดื่มเร็วๆ แบบนี้ทำให้เมาง่าย แล้วยิ่งคุณไม่เคยดื่ม”ความเครียดแม้จะสะกดกลั้นไว้ภายในได้แต่ภายนอกก็ต้องแสดงออกจีเหรินเหมยคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรจึงจะบอกยกเลิกการเป็นผู้จัดการงานแต่งงานของเฉิงซีหยวนได้เอาจริงๆ ไม่อยากได้ยินชื่อของเขาด้วยซ้ำไป“ฮะฮะไม่เมาหรอกน่าคุณซูจิงตามสบายเลยนะคะ วันนี้เหรินเหมยเลี้ยงเอง อ๋อแล้วเรื่องธีมของงานตามที่อยากจะคุยกันก็คุยมาได้เลยค่ะทางเราตามใจเจ้าสาวเสมอเพ