Share

ตอนที่ 2 : First Kiss

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-16 14:42:38

ติ๊ง!!

ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นหนึ่ง ชายหนุ่มหันไปมองทันที เมื่อได้ยินเสียง เขาหายใจเข้าแรงแล้วสะดุดไปในทันที เมื่อเห็นหญิงสาวเอวบางร่างน้อย นัยน์ตากลมโต ใบหน้าคมหวาน ผมดำยาวสลวยสยายเต็มหลัง สวมชุดแม็กซี่เดรสสีขาวปักฉลุลายดอกไม้ตัวยาวจนถึงข้อเท้า แขนยาวสามส่วนเลียนแบบชุดอาบายะห์ แต่จะออกไปในสไตล์ตะวันตกมากกว่า ซึ่งเข้ากันได้ดีกับรองเท้าผ้าหุ้มส้นพิมพ์ลายดอกไม้วินเทจสีเทา กำลังเดินเข็นกระเป๋าเดินทางออกมาจากลิฟต์ รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวโดดเด่นเสียจนดึงดูดสายตาของผู้คนทั้งชายและหญิง ที่นั่งอยู่ในล็อบบี้ให้มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ 

ดวงตาคมกริบล้ำลึกของชายหนุ่ม กำลังถูกตรึงจนไม่อาจถอนสายตาไปมองที่อื่นได้ พูดอะไรไม่ออกอยู่ชั่วครู่ราวกับวิญญาณของเขาก็กำลังถูกดูดกลืนหายไปด้วยเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะได้สติเมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ เขาจึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปทักทายด้วยหัวใจที่กำลังเต้นรัวแรง

“มิสนรากร?” เขาทักขึ้นก่อน เพื่อยืนยันว่าใช่คนที่กำลังรออยู่หรือเปล่า

นัยน์ตากลมโตมองชายหนุ่ม ที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราจนดูครึ้มไปหมด แต่กลับรู้สึกสะดุดที่นัยน์ตายาวรีคู่นั้น ถึงแม้จะดูคมกริบดุดันในนาทีแรก แต่สามารถเปลี่ยนเป็นหวานละมุนและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ขณะที่เขาเปิดปากยิ้มในนาทีต่อมา 

“ค่ะ ฉันเอง” หญิงสาวยิ้มรับเพียงเล็กน้อย แล้วส่งมือให้ 

ชายหนุ่มจับมือตอบเป็นการทักทาย แล้วกดเน้นปลายนิ้วชี้ลงบนฝ่ามือบอบบางด้านในเพื่อเป็นการส่งสัญญาณ หญิงสาวเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อย เขาพูดภาษาอังกฤษเสียงเบาที่ได้ยินเพียงแค่สองคน ในขณะที่ฉีกยิ้มไปด้วยจนแทบไม่เห็นว่ากำลังขยับริมฝีปาก 

“ผมอิฟราอิม จะคอยดูแลคุณที่นี่ และเพื่อความสมจริง เราควรจะแสดงออกว่าเป็นคู่รักต่างชาติ ที่เพิ่งจะได้พบกันเป็นครั้งแรก จะเป็นการดีต่อภารกิจของเราที่สุด คุณเห็นควรว่าอย่างไร?”

“เดี๋ยวนะคะ! ฉันคิดว่า..”

ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เขาก็สวมกอดเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว แขนแข็งแรงราวกับปลอกเหล็ก รัดรอบตัวเธอเอาไว้แน่น ไม่ให้ดันตัวออกมาได้ พร้อมกับกระซิบเบาๆ

“อยู่นิ่งๆ มีคนแอบดูอยู่ด้านนอก!”

พอได้ยินดังนั้น ริมฝีปากแดงก่ำก็คลี่ยิ้มหวานออกมา เป็นรอยยิ้มที่เรียกได้ว่า สามารถเขย่าหัวใจผู้ชายทั้งโลก ได้เลยทีเดียว แขนเรียวเล็กโอบไปรอบคอแข็งแรง ยื่นหน้าเข้าไปชิดเล็กน้อย จนปลายจมูกเฉียดแก้มเขาไปนิดหนึ่งแล้วถอยออก เขารู้สึกว่าเป็นการหว่านเสน่ห์ที่เย้ายวนอย่างร้ายกาจที่สุด

“คิดถึงคุณจังเลยค่ะ! ฉันรอเวลาที่เราจะได้พบกันแบบนี้มานานเหลือเกิน! อุ้บส์!” หญิงสาวตกใจที่เขาเล่นนอกบทเพื่อให้สมจริงโดยไม่บอกล่วงหน้า 

อิฟราอิมจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากครั้งหนึ่งแล้วถอนออก นัยน์ตามองนิ่งที่ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อคล้ายกำลังเผลอ ก่อนจะกดริมฝีปากให้หนักขึ้นอีกอย่างห้ามใจไม่อยู่

คนแอบดูบ้านญาตินายสิ!! นี่มันนอกบทชัดๆ!!

หญิงสาวไล้นิ้วเรียวจากลำคอ เสยเข้าไปในกลุ่มผมบริเวณท้ายทอย แล้วจิกเล็บเรียวแหลมลงบนหนังศีรษะของเขาอย่างไร้ซึ่งความสงสาร พร้อมๆ กัดไปที่ริมฝีปากล่างของเขา ไม่แรงแต่ก็ไม่เบาเช่นกัน

“อึ้บ!!” หนุ่มนักแสดงได้สติถอนริมฝีปากออกเกือบจะทันที เหลือบสายตามองมาอย่างตัดพ้อ แต่กลับทำให้ดวงตาดูเป็นประกายมีเสน่ห์ชวนหลงไหลอย่างน่าประหลาด หญิงสาวไล้ปลายนิ้วไปที่ริมฝีปากบางเย็นของเขา แล้วยิ้มหวานเคลือบความสะใจเอาไว้เล็กน้อย

“ที่รัก! อย่าวู่วามสิคะ ที่นี่มันที่สาธารณะ เวลาฉันเขินมือไม้มักจะกระตุก ควบคุมตัวเองได้ไม่ดี ว่าแต่ตอนนี้..เราจะไปกันได้หรือยังคะ?” 

เขาไม่พูดอะไร ยกนิ้วโป้งไล้บริเวณที่ถูกกัด ในดวงตามีประกายชื่นชมวาบผ่าน  ในขณะที่ปล่อยร่างเล็กออกจากอ้อมแขน แต่ก็ยังโอบเอวไว้ข้างหนึ่ง อีกมือลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปด้วยราวกับไร้น้ำหนัก แล้วพาออกเดินจากโรงแรม

“น่าจะเป็นคู่รักกันจริงๆ ไม่ใช่คนที่เราสงสัยหรอก” เสียงหนึ่งที่ซุ่มดูอยู่ในรถหน้าโรงแรมพูดขึ้นมา

“อีกเดี๋ยวก็รู้!” อีกเสียงหนึ่งพูด แล้วสตาร์ทรถ ขับตามรถคันหน้าไปอย่างระแวดระวัง

…………………….

หลังจากที่โดนขโมยจูบอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็หมายหัวผู้ชายคนนี้ทันทีว่าเป็นบุคคลอันตราย ปากว่ามือถึง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรอยู่ใกล้ๆ จะดีที่สุด ซึ่งคล้ายๆ กับความคิดของชายหนุ่ม เขาแกล้งโยนสถานการณ์ใส่หน้า เพื่อรอดูปฏิกิริยาและไหวพริบในการแก้ไขปัญหา ไม่เพียงเอาตัวรอดได้ดี ยังมีเขี้ยวเล็บรอบตัวเป็นเกราะป้องกัน ไม่ใช่กุหลาบไร้หนามอย่างที่เขาคิดไว้แต่แรก 

ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองว่า รู้สึกติดใจริมฝีปากอวบอิ่มนั่นอยู่ไม่น้อย กลิ่นที่หอมอ่อนๆ จากกายหญิงสาวมันทำให้อารมณ์ของเขาปั่นป่วนอยู่ภายใน จนเกือบลืมตัวว่าอยู่ท่ามกลางที่สาธารณะ เห็นควรว่าต้องอยู่ให้ห่างไว้เป็นดีที่สุด จะได้ไม่เสียงาน

เมื่อรถจอดติดสัญญาณไฟแดง ต่างคนต่างหันออกไปมองนอกรถ ไม่มีใครคิดอยากจะสื่อสาร หรือพูดอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการทำลายความเงียบสงัดจนดูเป็นวังเวงนี้เลยสักคน

เขาชะลอความเร็ว และขับช้าเกือบเป็นคลาน เธอจึงหันมามองตรง เลยเห็นว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเป็นจำนวนมากอยู่หน้าสถานทูตเปเรซ เธออ่านตามป้ายข้อความที่เขียนเป็นภาษาอาหรับเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเขียนร้องขอไม่ให้มีสงคราม

มีด่านตรวจอยู่ข้างหน้า ชายหนุ่มหันมาจ้องตาเธอนิ่งอยู่ชั่วครู่แต่ไม่พูดอะไร จากนั้นก็หมุนกระจกทักทายเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านนอก

“อัสลามุอะลัยกุม” เขากล่าวทักทาย ความหมายของประโยคนี้ก็คือ ขอความสันติสุข หรือความสุขจงมีแด่ท่าน

“วะอะลัยกุมมุสลาม ขออนุญาต ดูเอกสารประจำตัวด้วยครับ”

อิฟราอิมยกตัวขึ้นเล็กน้อย หยิบกระเป๋าหนังใบเล็ก สีน้ำตาล ออกมาจากกระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ แล้วหยิบการ์ดใบเล็กส่งให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังจ้องมองนิ่ง มาที่คนนั่งข้างคนขับอย่างไม่วางตา

“สุภาพสตรีต่างชาติท่านนี้เป็นอะไรกับคุณครับ?”

“เอ่อ..จะเรียกว่าแฟนก็ได้ เราคุยกันผ่านแอปพลิเคชันกันมาเป็นปีๆ ก่อนที่จะได้พบตัวจริงกันครั้งแรกวันนี้”

“มีหลักฐานการคุยเพื่อยืนยันสถานะไหมครับคุณผู้หญิง?” เจ้าหน้าที่พูดกับเธอเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าเป็นคนต่างชาติที่ไม่รู้ภาษาเขา ก็จะไม่รู้ว่าบทสนทนาก่อนหน้านี้ได้คุยอะไรกัน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าต้องการจริงๆ เธอก็ไม่มีจะให้

“หลักฐานอะไรคะ? ราอิมคะ! ช่วยอธิบายหน่อย ฉันไม่เข้าใจภาษาของคุณ!” หญิงสาวตีเนียนเรียกชื่อชายหนุ่มคนข้างๆ อย่างสนิทสนม โดยไม่ได้ขออนุญาต

เขาไม่ตอบ แต่หยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ตรงคอนโซลมาเปิดหาแอปพลิเคชันที่อ้างถึง แล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ได้ดู ทางนั้นรับไปแล้วสไลด์เลื่อนอยู่สี่ถึงห้าครั้งจึงส่งคืน

“ขอดูพาสปอร์ตด้วยครับ” เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษ ขอตรวจสอบเพิ่มเติมอีกอย่างไม่ไว้ใจ หญิงสาวเลยเปิดกระเป๋าถือ แล้วยื่นส่งให้

“มาจากประเทศทีแลนด์ มาทำอะไรที่นี่ครับ?”

“แน่นอนว่าต้องการพบแฟนฉันคนนี้” 

หญิงสาวเอื้อมมือไปทาบบนหลังมือ ชายที่อ้างว่าเป็นคนรัก มือใหญ่ที่กำลังจับเกียร์อยู่ก็พลิกฝ่ามือหงายขึ้นมากอบกุมมือเธอไว้กระชับ พร้อมกับส่งยิ้มและนัยน์ตาหวานมาให้ หญิงสาวยิ้มตอบ

“ฉันเป็นยูทูปเบอร์ด้วยค่ะ และเพื่อให้ทริปนี้เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าและเป็นความทรงจำที่ดี ก็เลยคิดจะทำคอนเทนท์ประชาสัมพันธ์ประเทศเปเรซไปด้วยในตัว”

“ญาซากัลลอฮ์ ขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับประเทศของเรา หวังว่าแฟนของคุณจะแนะนำสถานที่ที่พวกเราภาคภูมิใจให้กับคุณ เพื่อที่จะทำคอนเทนต์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นนามบัตร หากคุณต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเปเรซ อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา และขอโทษที่ทำให้ต้องเสียเวลาด้วยครับ เชิญ” เขาผายมือเล็กน้อย เพื่อให้ผ่านไปได้

“ญาซากัลลอฮ์ ค็อยร็อน” อิฟราอิม กล่าวขอบคุณตอบ

หญิงสาวเหลือบตามองคนข้างๆ แต่เขากำลังมองที่กระจกมองหลัง เธอจึงเอี้ยวตัวมองบ้าง เห็นเจ้าหน้าที่คนนั้นเดินไปคุยกับคนในรถคุ้นตาที่จอดอยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มหันมามองอากัปกิริยาอยากรู้อยากเห็นของคนที่นั่งข้าง ทำให้มุมปากบางเชิดขึ้นเล็กน้อย

“เรามาทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการอีกสักครั้งดีไหม? ผมพันเอกอิฟราอิม อัลอิสมาอิล ผู้ร่วมงานในภารกิจครั้งนี้”

หญิงสาวหันหน้ามามองเขา เอ่ยกล่าวมาเสียงเรียบไม่บอกความรู้สึก

“พริมโรส นรากรค่ะ รับหน้าที่หน่วยไซเบอร์ ยินดีที่ได้ร่วมงาน”

“คุณทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองรัฐบาล หรือเป็นสายลับทหาร?”

“รัฐบาลค่ะ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่จริงๆ แล้วหน้าที่ไม่แตกต่าง สามารถทำงานร่วมกันได้ เพียงแต่หน่วยฉันจะเน้นไปทางการก่อการร้ายทางไซเบอร์ ให้ข้อมูลการติดตาม และรายงานตำแหน่งของผู้ก่อการร้ายให้กับทุกหน่วยงาน”

“คุณมีเวลาพักแค่คืนนี้ ก่อนจะเริ่มงานอย่างจริงจังในวันรุ่งขึ้น ไหวไหมทหาร?” เขาพูดล้อ

“เซอร์ เยส เซอร์!” หญิงสาวตอบรับมุกเขา พร้อมแตะสองนิ้วที่ปลายคิ้ว ทำให้เขายกยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ

“คุณทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้ แฟนคุณเขาไม่เป็นห่วงบ้างหรือไง?”

พริมโรสนิ่ง เพราะรู้ว่าเขาแกล้งถามเรื่องส่วนตัวจึงเลือกไม่ตอบ เขาหันมามองนิดหนึ่งเห็นหญิงสาวมองตรงไปข้างหน้า ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ปล่อยให้บรรยากาศเดทแอร์ไปเสียอย่างนั้น

“คุณส่งอะไรให้เจ้าหน้าที่เขาดู?” จู่ๆ หญิงสาวก็ถามขึ้นมา 

“ก็แชทที่คุยกับสาวๆ พร้อมกับภาพส่วนตัวนิดหน่อย” หญิงสาวหน้าแดง เพราะคิดลึกไปกับคำว่าส่วนตัวของเขา ถ้าเกิดเจ้าหน้าที่นั่นต้องการให้พิสูจน์ความสัมพันธ์ตามแชทส่วนตัวที่ว่านั่น ไม่อยากจะเดาเลยว่า หมอนี่จะลังเลหรือเปล่า

“ขอโทษที่ฉันเรียกชื่อคุณเฉยๆ พอดีว่าสถานการณ์มันบังคับ”

“ผมไม่ถือ เราควรจะมีชื่อเรียกที่แสดงให้เห็นว่าเป็นคู่ที่รักกันอย่างมาก คุณมีชื่ออื่นสำหรับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวเรียกกันไหม?”

“พริมค่ะ พ่อฉันเรียกว่าพริม”

“แล้วแฟนล่ะ เรียกคุณว่าอะไร?” หญิงสาวมองหน้า เพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกเขาต้อนมามุมเดิมอีกแล้ว

“ฉันก็มีอยู่ชื่อเดียว เขาจะเรียกอะไรก็แล้วแต่” หญิงสาวพูดเป็นกลางๆ ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็ยกยิ้มที่มุมปาก

“งั้นผมจะเรียกคุณว่าอัลบีดีไหม?” พริมโรสหน้าแดง หันมองออกนอกหน้าต่างด้านข้าง กลัวเขาจะรู้ว่าเธอรู้ความหมายของคำนั้น คำที่มีความหมายว่าที่รักในภาษาอาหรับจะมีหลายคำ อัลบีก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอรู้สึกเอือมกับความหน้ามึนของเขา ที่สามารถดึงบทสนทนาให้เข้าข้างตัวเองได้อยู่ตลอด

“บ้านโฮสต์นี่เป็นคนของคุณด้วยหรือเปล่าคะ?” พริมโรสเปลี่ยนเรื่องคุย

“ใช่ เขาทำงานอยู่หน่วยข่าวกรองทั้งคู่ คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองได้สบายโดยไม่ต้องระแวดระวัง”

“นอกจากคุณกับทีมของฉันแล้ว ยังมีคนอื่นอีกไหมคะ?”

“ไม่น่าจะมี ผมสั่งให้เขาปิดรับไปแล้ว เสียงคุณดูเนือยๆ นะ ง่วงหรือเปล่า? จะนอนก็ได้นะ ถึงแล้วผมจะปลุก”

“เกรงใจคุณจัง เมื่อวานพอมาถึงที่พัก ก็เขียนคอนเทนต์ต่ออีกจนดึก เลยออกจะเพลียๆ”

“นอนเถอะ ปรับเบาะลงเลย จะได้สบายตัว”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวไม่ค้านอีก รีบปรับเบาะตามคำแนะนำ แล้วหลับไปเกือบจะทันทีที่เปลือกตาหลุบลง

“คุณ! ตื่นเถอะ ถึงแล้ว!”   ชายหนุ่มเรียก   จับไหล่บอบบางเขย่าเบาๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าหญิงสาวจะรู้สึกตัว

เขาเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วเดินอ้อมไปฝั่งตรงข้าม กำลังจะเปิดประตูก็มีเสียงทักเสียก่อน

“ผู้พันมาเสียมืดเลย มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”

“เจอด่านตรวจน่ะ เลยรถติดยาว”

“เรามีปัญหาอย่างหนึ่งคือ.. มีเซิร์ฟจองเข้ามาก่อนที่เราจะปิดรับ พยายามขอยกเลิกแล้ว แต่เขาไม่ยินยอม ผมกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เลยจำเป็นต้องตอบรับ”

“ไม่เป็นไร แต่จะทำอะไรก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน”

“ครับผม” เขารับคำแล้วเดินไปท้ายรถ ขนกระเป๋าออกมาวางที่พื้น สายตาเหลือบมองชายหนุ่ม ที่กำลังอุ้มหญิงสาวร่างเล็กเดินเข้าไปในตัวบ้าน

อิฟราอิมเกรงว่าหญิงสาว จะตื่นขึ้นมาแล้วตกใจ ที่เห็นเขาอุ้มเธออยู่ในอ้อมแขน จึงประคองอย่างระวัง แต่หญิงสาวกลับทำตรงกันข้ามกับความคิด เธอขยับตัวเล็กน้อยซุกเบียดไปกับอกกว้างเพื่อให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้นแล้วครางออกมาเบาๆ อย่างพึงพอใจ เขามองใบหน้าหวานนวลเนียน แล้วยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะเดินตรงไปยังห้องพัก

“ผู้พัน! มิสนรากรเป็นอะไรคะ ทำไมคุณต้องอุ้มเธอเข้ามาอย่างนั้น?” อัลวานีภรรยาเจ้าของบ้านทักถามขึ้นมาอย่างตกใจ

“เพลียน่ะ! ปลุกไม่ตื่น เลยต้องอุ้มเข้ามาแบบนี้ล่ะ”

“อ๋อ! โล่งอก! ห้องของมิสทางนี้ค่ะ” อัลวานีรีบเดินนำขึ้นบันไดไปก่อน แล้วเปิดประตูทางขวามือ หลบทางหนึ่งเพื่อให้ชายหนุ่มเดินเข้าไป “ห้องของคุณอยู่ตรงข้าม สามีฉันบอกแล้วใช่ไหมคะว่าเราจะมีเซิร์ฟมาพักด้วยอีกคน”

“บอกแล้ว ห้องนี้พักกี่คน?”

“เราจัดให้มิสนอนคนเดียวค่ะ ส่วนของคุณพักร่วมกับอีกสองคน สะดวกไหมคะ”

“ไม่สะดวก! ผมกับมิสนรากรจะต้องแสดงเป็นคู่รักกัน ถ้าแยกกันคนละห้องอาจจะเป็นที่สงสัย แล้วคนที่จะมาใหม่ล่ะ?”

“ให้พักห้องข้างล่างค่ะ อยู่ตรงข้ามห้องฉันเลย จะได้คอยจับตาดูด้วย”

“อืม”

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้บาซิม เอากระเป๋ามาไว้ห้องนี้ คุณทานอะไรมาหรือยัง? เราทำอาหารเตรียมไว้ให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกคุณจะมาถึงกันกี่โมง”

“เอาสิ! กำลังหิวเลย” ชายหนุ่มตอบรับ อัลวานียิ้มแล้วเดินออกไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 3

    พริมโรสรู้สึกหิวน้ำ จึงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย พยายามตั้งสติอยู่ชั่วครู่ โฟกัสไปรอบๆ ห้อง คิดอยู่ในใจว่าน่าจะเป็นบ้านของโฮสต์เลยคลายความระวังตัว ลุกขึ้นเดินจะไปเปิดประตู แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อสายตาไปปะทะกับร่างสูงที่นอนหลับสนิทเหยียดยาวอยู่บนโซฟาหญิงสาวระงับความไม่พอใจเอาไว้ หลังจากได้คิดว่าคงเป็นการแสดงบทบาทให้สมจริงของเขาอีกแล้ว เพื่อให้ข้อมูลสอดคล้องกันตั้งแต่เริ่มแรก เธอมองเขาด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนที่จะเปิดประตูออกไปข้างนอก“มิสนรากร สวัสดีตอนเช้าค่ะ” พริมโรสคิดในใจว่าผู้หญิงหน้าตาเป็นมิตรคนนี้คงจะเป็นภรรยาเจ้าของบ้าน จึงยิ้มตอบอย่างอบอุ่น“สวัสดีตอนเช้าค่ะ มิสซิสซัลมาใช่ไหมคะ?”“ค่ะ ฉันชื่ออัลวานี ส่วนสามีฉันบาซิม” บาซิมซึ่งอยู่ไม่ไกล หันมายิ้มอย่างสุภาพ พริมโรสยิ้มตอบ แล้วผงกศีรษะนิดหนึ่ง“เรียกฉันว่าพริมก็ได้ค่ะ เอ่อ..พอดีหิวน้ำ อยากจะหาน้ำดื่มสักแก้ว”“อ๋อ ได้สิคะ น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นดีคะ?” อัลวานีกุลีกุจอหยิบแก้วใสทรงดอกทิวลิปมาวางตรงหน้าพร้อมจานรอง“อะไรก็ได้ค่ะ”“งั้นแนะนำให้เป็นชาดีกว่า ชาวเปเรซชอบดื่มชาค่ะ จะมีติดบ้านไว้เสมอ”“ได้ค่ะ ขอบคุณ” อัลวานีเดินกระฉับกระเฉงไป

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 4 : Second Kiss

    พริมโรสนอนหอบหายใจแรงอยู่กับพื้น ในขณะที่มือทั้งสองข้างถูกเขากดไว้ข้างตัว ขาทั้งสองข้างถูกทับไว้ด้วยขาของเขาจนยกแทบไม่ขึ้น“จะยอมได้หรือยัง? พยศเป็นม้าบ้าเลยนี่!”“คุณมันชอบเอาชนะผู้หญิง! หาความเป็นสุภาพบุรุษไม่มี!” หญิงสาวตะโกนตอบโต้ทั้งๆ ที่ยังหายใจหอบ“แล้วสุภาพสตรีที่ไหน เขาเล่นแรงกันแบบนี้ล่ะ! ถ้าสู้ไม่ได้อาจถึงขั้นพิการได้เลยนะ!”“ใครใช้ให้คุณมาทำรุ่มร่ามกับฉันล่ะ! คุณมันทุเรศ! ไอ้คนบ้า! ไอ้หน้ารังแกผู้หญิง!”“ถ้าไม่เลิกสบถใส่ผม คุณโดนดีแน่!”“กล้าดีก็ลองดู! ฉันจะอัดไอ้หนูคุณให้น่วมจนพิการเลย! ไอ้คน.. อื๊อ!”พริมโรสตกใจเพราะเขากดจุมพิตหนักหน่วงลงมาทั้งๆ ที่ยังพูดไม่จบ เป็นจุมพิตที่ต้องการจะลงโทษ มากกว่าจะอยู่ในอารมณ์พิศวาสเธอพยายามจะดิ้นหนี แต่ก็สู้แรงที่แข็งดังหินของเขาไม่ได้ จึงทำได้เพียงเบี่ยงศีรษะออก เป็นผลให้เขาไถลจุมพิตลงมาที่ข้างแก้ม แล้วไล้เลยมาถึงซอกคอ จู่ๆ แรงจุมพิตของเขาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วนเวียนซุกไซ้ไปมาอย่างหลงไหล เธอดิ้นขลุกขลักอยู่เป็นครู่ ทำได้แค่ดึงขาออกจากการพันธนาการได้เท่านั้นขณะที่เขากำลังไล้จุมพิตมาถึงแอ่งหลังใบหู ประตูห้องก็เปิดออก ทั้งสี่ชีวิตย

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 5

    “ยังไม่หายโกรธผมอีกรึ?” อิฟราอิมเดินตามมาทัน จึงรั้งแขนไว้ แล้วจับไหล่ให้หันมาเผชิญหน้า แต่หญิงสาวเบี่ยงตัวออก“ฉันดูลักษณะเหมือนคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนั้นหรือ?” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย ไร้ความรู้สึก“ไม่เอาน่า! เราเป็นทีมเดียวกันไม่ใช่หรือไง? โกรธกันข้ามวันมันไม่ดีต่อความสัมพันธ์นะ”“ผู้พันคะ! ฉันคิดว่าคุณจะอินกับบทบาทมากเกินไปหน่อยแล้ว ฉันจะขอบคุณมาก..ถ้าเราจะทำให้สถานที่นี้ปลอดจากยุงที่เกิดมาจากบทละครน้ำเน่าของคุณ! แค่นี้ฉันก็เบื่อจนถึงรังไข่แล้ว…อึ๊!”หญิงสาวตกใจไม่ทันป้องกันตัว เมื่อเขาดันตัวเธอติดผนัง จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอยกขึ้น แล้วรวบไว้ด้วยมือข้างเดียว ใช้มืออีกข้างปิดปากที่กำลังพร่ำบ่นไม่หยุด “ผมจะเลี้ยงอาหารที่แพงที่สุดในเมืองนี้เพื่อเป็นการไถ่โทษดีไหม?” ชายหนุ่มพยายามต่อรองพริมโรสได้ยินดังนั้นก็ชะงักขาที่กำลังจะยกตั้งขึ้นเพื่อทำการใหญ่ เขาปล่อยมือที่ปิดปากออก แต่ยังคงจับข้อมือสองข้างรั้งไว้“ก็..ก็ยุติธรรมดี แต่ไม่ใช่ว่าคนอย่างฉันจะเห็นแก่กิน หรือติดสินบนอะไรได้ง่ายๆ หรอกนะ อย่าเข้าใจผิด! แค่อยากเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมอาหารการกินของคนที่นี่ก็แค่นั้น!” อิฟราอิมเบ้ป

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 6

    “ผู้พันคะ!” หญิงสาวทัก เมื่อเห็นเขานั่งชันศอกข้างหนึ่งค้ำประตู ปลายนิ้วเขี่ยริมฝีปากล่างไปมาอย่างใช้ความคิด เธอสังเกตเขามาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ออกรถมาจนถึงตอนนี้ “หืม?” เขาทำเสียงตอบในลำคอ แต่ไม่ได้หันมา ยังคงมองตรงทางข้างหน้านิ่งเธอมั่นใจว่าไม่ได้ไปขัดใจอะไรเขา จะให้ปลอมเป็นคู่หมั้นก็รับปาก ชุดนี้ก็เป็นเขาเองที่บอกว่าดีแล้ว แต่ก็มานิ่งเงียบแบบนี้ จนทำให้เธอเริ่มวิตก“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” “เปล่า! ไม่ได้เป็นอะไร! ผมกำลังคิดอะไรเพลินไปหน่อย คุณถามอะไรแล้วผมไม่ได้ตอบกลับหรือเปล่า?” หญิงสาวถอนใจ บางทีเขาอาจไม่สะดวกใจอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ เลยคิดจะเปลี่ยนเรื่องคุย“คุณได้ข้อมูลเรื่องพิกัดหรือยังคะ?”“เราจะไม่คุยเรื่องงานกันตอนนี้ที่รัก” พริมโรสเลิกคิ้ว เริ่มหงุดหงิดนิดๆ โน่นก็ไม่ได้! นี่ก็ไม่ได้! หมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่!! เอาใจยากชะมัด!!เธอเริ่มไม่พอใจ จึงหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถ ยกแขนขึ้นกอดอก ยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างอย่างเจ้าอารมณ์เต็มที่ ทำให้ขอบซับในร่นลงมามากกว่าเดิม เผยให้เห็นท่อนขาเรียวสวยขาวนวลเนียนอยู่ภายใต้เนื้อผ้ารำไร ชายหนุ่มเห็นการเคลื่อนไหวอยู่ปลายหางตา จึงเหลือบมองอย่า

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 7

    “อะไรนะ! เชคฮ์ อิสราร์ มาที่วังตะวันออกอย่างนั้นรึ? ทำไมไม่มีใครบอกฉันเลยสักคน!”“อะไรกันเนญ่า! การข่าวของตระกูลเธอรวดเร็วฉับไวที่สุดในพระราชวังไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้รู้เป็นตระกูลสุดท้ายล่ะ!” แล้วสาวๆ ประมาณสามสิบกว่าคน ที่กำลังเลือกลวดลายและสีสันของเนื้อผ้าอยู่ในห้องโถงใหญ่ ต่างก็หัวเราะออกมาอย่างครึกครื้นสาวๆ กลุ่มนี้เป็นญาติพี่น้องที่ร่วมสกุลเดียวกันทั้งหมด บางคนพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ บางคนพ่อแม่เดียวกันแต่มีลูกสาวหลายคน ซึ่งก็มีความอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันตามธรรมดาของผู้หญิง ถึงแม้จะเป็นญาติพี่น้อง แต่ก็ไม่มีใครอยากให้ใครมีความความดีโดดเด่นเกินหน้าเกินตาไปกว่าใคร ฉะนั้นถ้ามีคนใดสะดุดล้ม หรือทำในสิ่งที่ผิดพลาด แม้เพียงเล็กน้อย ที่เหลือก็จะช่วยกันซ้ำเติมทันทีอย่างไม่ลังเล“นี่! ฉันยังได้ข่าวมาว่าไม่ได้เสด็จมาเพียงลำพังอีกด้วยนะ”“ใช่ๆ ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน เขาพูดกันว่ามากับผู้หญิงคนหนึ่ง สวยราวกับมิสยูนิเวิร์สเลยนะ!”“อ๊ะ! แล้วเชคฮ์พาผู้หญิงมาทำไมล่ะ?”“เขาปิดกันให้แซ่ดว่า พาลูกสะใภ้ในอนาคตมาแนะนำกับพระมารดาไงล่ะ!”“ตายจริง! คลับคล้ายคลับคลาว่าพระชายาในอนาคตจะอยู่แถวนี้นะ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 8 : Eye Contact

    หลังจากชายหนุ่มโทรศัพท์สั่งงานเสร็จเรียบร้อย ก็เดินกลับเข้ามาข้างใน เขาคิดว่าหญิงสาวคงกำลังมัวแต่ทำงานจนลืมหิว เลยว่าจะมาถามเรื่องมื้อเย็น แต่กลับเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่กับพื้น ตัวเอียงฟุบหลับกับโต๊ะ ทั้งๆ ที่อีกมือยังคงจับเมาส์อยู่ เขายกยิ้มมุมปากข้างหนึ่งอย่างเอ็นดู เดินเข้ามานั่งข้างๆ ยื่นมือข้างหนึ่งแตะไปที่ผมดำสลวย ไล้มาจนสุดความยาวแล้วจับปอยหนึ่งยกขึ้นประทับที่ริมฝีปาก จากนั้นก็ช้อนร่างบอบบางเข้ามาในวงแขนช่วงที่เขายกตัวอุ้มขึ้น มือเรียวที่จับเมาส์อยู่จึงปัดไปกระแทกกับโน้ตบุ๊ก แรงกระทบแม้จะไม่รุนแรง แต่ก็สามารถปลุกคนที่กำลังจะดำดิ่งเข้าสู่โหมดนิทราให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างง่วงซึมและงุนงงชายหนุ่มเองก็ชะงักค้าง เพราะไม่คิดว่าเธอจะตื่น เลยมองนิ่งรอดูปฏิกิริยาสะท้อนกลับ จนเธอได้สติว่าไม่ได้อยู่ที่พื้น“นี่! คนฉวยโอกาส ปล่อยฉันลงนะ!” แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด จึงได้ปล่อยมือทันทีตามที่เธอร้องขอ“ว้าย!!” หญิงสาวตกใจ เพราะคิดว่าจะร่วงลงพื้นแข็งด้านล่าง แต่กลับหล่นลงบนโซฟาในระยะที่ไม่สูงมาก ทำให้เธอตวัดตามองค้อนเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก “เมื่อคืนก็นอนเร็ว ทำไมยังไม่หายเพลียอีก?”“เจ็ทแลค!

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 9 : 3rd Kiss

    “คือว่า.. | คือว่า..” ทั้งสองคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน จึงทำให้ชะงักไปทั้งคู่“คุณ.. | ผม..” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ติดขัด ต่างคนต่างมองหน้ากันอยู่ รอโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดก่อน“เอ่อ..ฉันจะถามว่า..”“โอ้โห! นี่มันยิ่งกว่าคฤหาสน์ด้วยซ้ำ อย่างกับพระราชวัง!” เสียงคุ้นหูดังมาจากหน้าประตูด้านนอก พริมโรสได้ยินก็หันไปทางที่มาของเสียง เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอิฟราอิมทำมือให้เธอเดินออกไปข้างนอกด้วยกัน “แหม! มาถึงก็ส่งเสียงดังคับที่เลยนะ!”“ด้วยความเคารพครับคุณผู้หญิง นอกจากจะไม่ขอบคุณที่กระผมช่วยขนย้ายข้าวของแล้ว ยังมาใช้วาจาประชดเสียดสีใส่กันอีก คุณธรรมในใจน่ะมีบ้างหรือเปล่า?”“งั้นฉันจะขอบคุณด้วยการคืนเงินดีไหมนะ?”“โอ๊ะ! เจ๊ประณามผมได้เต็มที่เลย จะย่ำยีไปพร้อมกันเลยก็ได้ แต่ขอคืนเต็มจำนวนเลยนะ!” เขายิ้มอย่างประจบ“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน! ดูเหมือนท่านเจ้าของบ้านมีอะไรจะพูดกับพวกคุณแหน่ะ!”“เจ้าของบ้าน? คุณเป็นเจ้าของบ้านนี้หรือครับ?” เตวิช เบิกตาโตกว้าง หันไปถามชายหนุ่มร่างสูงเชื้อสายอาหรับ“ครับ! ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผมพันเอกอิฟราอิม อัล อิสมาอิล สังกัดกองทัพบก”“โว๊ะ!” เตวิชตกใจ แต่จอมทัพมีสติดีก

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 10

    "โอ๊ย!!" แล้วหญิงสาวก็ร้องออกมาอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจงใจกัดที่ริมฝีปากล่างอย่างแรง ทำให้เธอได้สติรีบผลักเขาออกห่างผู้ชายจิตใจคับแคบ!! นี่กำลังคิดจะเอาคืนใช่ไหม แต่ฉันไม่ได้กัดนายรุนแรงแบบนี้นี่!!หญิงสาวตวัดสายตาคมกริบมองเขม็งอย่างโมโห สีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด เม้มริมฝีปากล่างที่กำลังเจ็บ แล้วไล้ลิ้นเลียด้านในเบาๆ “เจ็บไหม? ถือซะว่า..หายกัน!” เขาถามคล้ายไม่สำนึก เธอเลยกำหมัดทุบไปที่อกและไหล่ของเขาเสียหลายที แต่เขากลับเอาแต่หัวเราะ แล้วจับข้อมือเธอไว้ชายหนุ่มมองใบหน้าหวาน ที่ถึงแม้จะโกรธแต่ก็ยังคงดูน่ารัก กำลังส่งประกายตาคมกริบราวกับมีดมองเขม็งมาที่เขา เพียงแค่มองก็ทำให้รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทงไปแล้วเป็นร้อยๆ แผล เขายกยิ้มมุมปากข้างหนึ่งอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตาพราวระยับเต็มไปด้วยรอยหัวเราะ เห็นเป็นเรื่องสนุกไปเสียอย่างนั้นพริมโรสรู้สึกว่า เธอประเมินระดับความชั่วร้ายของเขาต่ำเกินไปเสียแล้วแต่ยังไม่ทันที่เธอจะสบถความในใจออกมา ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบเสียก่อนก๊อกๆ!! ก๊อกๆ!!“คุณพริมโรสคะ! คุณพริม!” หญิงสาวสะดุ้ง หันขวับไปยังทิศทางของเสียงชายหนุ่มมองใบหน้าระเรื

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16

Bab terbaru

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (3) : อิดรีส / ไลลา

    ค่ำคืนแห่งพระเกียรติ ถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ณ พระราชวังขององค์สุลต่าน งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพถูกเนรมิตขึ้น อย่างวิจิตรตระการตา ทุกซอกทุกมุมของพระราชวังส่องประกายด้วยโคมไฟแก้วเจียระไนระยิบระยับ พรมแดงทอดยาวจากบันไดสู่โถงต้อนรับ โต๊ะอาหารเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ พร้อมเครื่องเงินแท้ที่ขัดเงาจนแวววาว เมนูรสเลิศจากเชฟมิชลิน ถูกเสิร์ฟแบบคอร์ส เคียงคู่กับเครื่องดื่มชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลก ขับกล่อมด้วยเสียงดนตรีออร์เคสตร้า ที่บรรเลงอย่างไพเราะ ทำให้ค่ำคืนนี้ สมพระเกียรติขององค์สุลต่านอย่างถึงที่สุด บรรดาผู้นำจากนานาประเทศ และทูตานุทูต ต่างตบเท้าเข้าร่วมงาน แขกเหรื่อล้วนเอ่ยปากชื่นชม ถึงบรรยากาศที่ได้รับการจัดเตรียมมาอย่างไร้ที่ติ และผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงานนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เจ้าหญิงไลลา สตรีหมายเลขหนึ่ง พระชายาของเจ้าชายอิดรีส ผู้ลงมาดูแลทุกอย่างด้วยตนเอง อย่างละเอียดถี่ถ้วน บางคนถึงกับกล่าวชมต่อหน้าเจ้าชายอิดรีส ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้เขาจะยังคงยืนสงบนิ่งในท่าทีสุขุมเช่นเคย แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ตนเลือกคู่ครองไม่ผิด สายตาของอิดรีส

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (2) : หินพ่อมดลาบราดอไลต์

    แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่รินรดา พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้ และไกลในเวลาเดียวกัน“ถึงเวลาแล้ว...จงทำตามสัญญา!”รินรดารู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังล่องลอย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ตกลงไปในความเวิ้งว้างอันไร้จุดสิ้นสุด เธอพยายามมองหาเจ้าของเสียงแต่ไม่พบใครเธอหลับตาลงแล้วทันใดนั้น ภาพอดีตของเธอเมื่ออายุสิบห้าปีก็ย้อนกลับมา เธอเห็นตัวเองยืนอยู่หน้าหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในห้องลับใต้พระราชวัง ความศักดิ์สิทธิ์ของมันทำให้เธอรู้สึกได้ ถึงพลังลี้ลับที่ซ่อนอยู่ภายใน เธอท่องบทสวดที่แอบจดจำไว้ พร้อมกับอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิต นั่นคือ..การตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็เริ่มฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งถึงปัจจุบันเธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองยืนอยู่ในอุโมงค์ที่ทอดยาวไปสู่แสงสว่างที่อยู่เบื้องหน้า เธอรู้ว่านี่คือจุดที่ผู้ตายต้องเดินผ่านไปยังภพหน้า แต่แล้วเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง“รินรดา เธอยังมีสิทธิ์เลือกเส้นทางของตนเองอยู่นะ”เบื้องหน้าของเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนพิเศษ (1) : พิธีนิกะฮ์

    ค่ำคืนแห่งความสุขมาถึง... ท้องฟ้ายามราตรีของอาณาจักรเปเรซประดับไปด้วยแสงจันทร์และดวงดาวระยิบระยับ ขณะที่ปราสาทหลวง ถูกประดับด้วยผ้าม่านสีขาว และทอง ลวดลายอาหรับอันวิจิตร เจิดจรัสด้วยแสงไฟนวลอบอุ่น ของไฟระย้าคริสตัลสะท้อนแสง จนดูงดงามราวสรวงสวรรค์ ดอกไม้หายากจากทั่วทั้งอาณาจักร ถูกจัดวางประดับประดาไปทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่งดงาม ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย ภายในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง พรมเนื้อละเอียดทอดยาวตั้งแต่ประตูไปจนถึงแท่นพิธี โต๊ะเลี้ยงอาหารค่ำประดับด้วยผ้าปักทอง ดอกกุหลาบและลิลลี่ขาวบริสุทธิ์ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ตัดกับแสงเทียนที่กระพริบไหว ม่านบางเบาปลิวไสวไปตามสายลมเย็นของค่ำคืน พระราชพิธีอภิเษกสมรส ถูกจัดขึ้นตามขนบธรรมเนียม เป็นพิธีนิกะห์อันศักดิ์สิทธิ์ของโมเสลม ภายใต้กฎหมายชารีอะห์ และธรรมเนียมของราชวงศ์ ซึ่งแสดงถึงความงดงาม และเปี่ยมไปด้วยความหมาย นักวิชาการศาสนา(อุละมาอ์) ผู้ประกอบพิธี นั่งอยู่บนแท่นหินอ่อน ด้านข้างมีพยานฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พร้อมด้วยบุคคลสำคัญจากราชวงศ์และข้าราชบริพาร เจ้าชายอิสราร์ ประทับยืนในชุดทางการขององค์มกุฏราชกุมาร เสด็จเข้ามายังแท่นพิธี พระอ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 100 : การมา..ที่คาดไม่ถึง

    บรรยากาศภายในพระราชวังเปเรซวันนี้ เต็มไปด้วยความสงบและเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง ครบหนึ่งร้อยวันแห่งการจากไปของเจ้าหญิงรินรดา องค์สุลต่านทรงมีพระราชดำริให้จัด ‘โรงทานขนาดใหญ่’ เพื่อแจกจ่ายอาหาร และสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ถือเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ ภายในโรงทานถูกจัดขึ้นอย่างเป็นระเบียบ เต็นท์ขนาดใหญ่ถูกกางเรียงรายภายในลานกว้างของลานพิธีหน้าพระราชวัง โต๊ะยาวหลายตัวถูกตั้งไว้ สำหรับแจกจ่ายอาหารร้อนที่ปรุงสำเร็จ และขนมหวานอาหรับ เช่น บาสบูซาและกุนาฟา รวมถึงน้ำดื่มเย็นๆ สำหรับประชาชนที่มาร่วมรับแจกอาหาร บรรดาข้าราชบริพาร และอาสาสมัครจากประชาชน ต่างช่วยกันแจกจ่ายด้วยรอยยิ้ม แม้จะเป็นวันแห่งความอาลัย แต่ทุกคนก็เต็มใจทำความดี เพื่อเป็นบุญกุศล ให้แก่เจ้าหญิงผู้ล่วงลับ นอกจากอาหารแล้ว ยังมีจุดแจกอาหารแห้ง และของใช้จำเป็น เช่น อินทผลัม ข้าวสาร น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส สบู่ และยาสามัญ เพื่อให้ผู้ยากไร้สามารถนำกลับไปใช้ที่บ้านได้ ภายในงานยังมีแพทย์อาสา คอยตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้กับประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการช่วยเหลือสังคม ที่เจ้าหญิงรินรดาเคยผลักดั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 99 : เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อันฟูลัน

    เสียงไซเรนรถพยาบาลแผดก้องไปทั่วท้องถนน แต่รามิลไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น หูของเขาอื้อไปหมด มีเพียงเสียงลมหายใจบางเบาของรินรดา ที่กำลังแผ่วลงทุกขณะ เป็นสิ่งเดียวที่เขากำลังโฟกัส เลือดของเธอเปรอะเปื้อนเต็มมือเขา ลามไปตามแขนเสื้อ แผ่นอก และหยดลงเป็นทางบนเปลพยาบาล ร่างเล็กที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับนอนแน่นิ่ง แต่ถึงอย่างนั้น เธอยังคงยิ้มให้เขา “คุณ..รามิล…” เสียงของเธอเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน “รดา! เดี๋ยวเราก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว… แค่ทนไว้ก่อนนะรดา อย่าหลับนะ ได้ยินผมไหม!?” รามิลกุมมือหญิงสาวแน่น น้ำเสียงสั่นเครือ ความกลัวถาโถมเข้าใส่จนเขาหายใจแทบไม่ออก รินรดาไอออกมาเป็นเลือด ก่อนจะระบายลมหายใจบางเบา “ท่านพี่… ปลอดภัยไหม?” หัวใจของรามิลเหมือนถูกบีบจนแหลกสลาย เธอกำลังอาการสาหัส แต่ยังเป็นห่วงพี่ชายมากกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก “ปลอดภัย! เขาปลอดภัย..” รามิลเม้มริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นสะอื้น “ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องเสี่ยงขนาดนี้ด้วยฮึ!?” “เพราะเขาคือ… พี่ชายของฉัน” รินรดายิ้มจางๆ เสียงเธอขาดหายเป็นช่วงๆ เปลือกตาของเธอหนักอึ้งลงทุกที “รดา! อย่าหลับนะ! มองผมสิ มองผม!” มือของเธอใน

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 98 : มือสังหาร

    เสียงโกลาหลของฝูงชนยังคงดังก้องทั่วลานพิธี แต่แล้วจู่ๆ ผู้คนก็เริ่มแหวกออกเป็นสองทาง ราวกับคลื่นน้ำที่ถูกแบ่งออกโดยพลังที่มองไม่เห็น ท่ามกลางช่องว่างที่เปิดออก ปรากฏร่างของชายคนหนึ่ง เขายืนอยู่ในเงามืด แฝงตัวอยู่ในกลุ่มประชาชนที่กำลังแตกตื่น ในมือของเขากำปืนไรเฟิล ที่บรรจุกระสุนเจาะเกราะแน่น สายตาคมกริบกวาดไปรอบบริเวณอย่างระแวดระวัง ก่อนจะกลับมาตรึงอยู่ที่เป้าหมาย บุรุษผู้ตายยากที่สุดเท่าที่เขาเคยสังหารมา ร่างสูงสง่าของเจ้าชายอิสราร์ ยืนเด่นอยู่บนลานพิธียกพื้น ราวกับถูกจัดวางให้อยู่ในระยะยิงอย่างเหมาะเจาะ โอกาสมีเพียงครั้งเดียว ทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด และต้องสร้างผลกระทบที่รุนแรงที่สุด ถ้าจะต้องถูกจับหลังจากเหนี่ยวไก อย่างน้อยก็ขอให้มันได้ตาย..เพื่อสังเวยผู้ที่ข้ารักและเคารพเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ที่สมควรได้รับทุกสิ่งที่ปรารถนาบนโลกใบนี้!! “ตอนนี้แหละ!!” อาซีฟพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบยกปืนขึ้น ปึ่ก! แรงกระชากอย่างรุนแรง ทำให้ปืนในมือของอาซีฟหายไปในพริบตา เขาตวัดสายตาไปด้านข้าง แววตาเปลี่ยนเป็นโทสะสีเข้มจัด แต่แล้วเขาก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่ชิงอาวุธไปจากมือเขา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 97 : ถูกเปิดโปง

    ท้องฟ้าเหนือลานพิธี ถูกย้อมด้วยแสงสีทองของอาทิตย์ยามสายัณห์ แต่ภายใต้ความสว่างนั้น กลับอบอวลไปด้วยบรรยากาศอันหนักอึ้ง เสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบา ของประชาชนเริ่มดังขึ้นเป็นระลอก เมื่อหญิงสูงศักดิ์ผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในบริเวณลานพิธีอย่างสง่างาม พระชนนีแห่งเปเรซ ทรงฉลองพระองค์อย่างวิจิตร แต่ละย่างก้าวของพระนางแผ่รัศมีแห่งอำนาจ ทรงเชิดพระพักตร์เล็กน้อย ดวงเนตรเจิดจ้า เต็มไปด้วยความแน่วแน่และภาคภูมิ เสียงกระซิบเริ่มดังขึ้นทีละน้อย จากวงนอก ค่อยๆ แพร่กระจายออกไป “พระชนนีเสด็จ!” “พระนางมาเพื่อกอบกู้เปเรซ!” “พระมารดาของพวกเรา!” เสียงเรียกขานพระนามดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ มีเสียงโห่ร้องต้อนรับทุกที่ที่พระนางก้าวย่างผ่านไป ราวกับคลื่นมหาชนที่กำลังโหมกระหน่ำ พระชนนีทอดพระเนตรภาพตรงหน้าแล้ว ไม่อาจห้ามรอยแย้มสรวลที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ พระนางประสบความสำเร็จแล้ว ประชาชนกำลังเทิดทูนพระองค์ และนี่คือโอกาส ที่พระองค์จะประกาศตน ในฐานะผู้นำที่จะกอบกู้เอกราชของชาวเปเรซ จากเงื้อมมือแห่งความอยุติธรรม ขององค์สุลต่าน แต่แล้ว... เสียงอื้ออึงของฝูงชนก็เปลี่ยนไป จากเสียงเชียร์เป็น

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 96 : แย่งชิงข้อมูล(2)

    “ดูเหมือนพวกเราจะมาผิดงานแล้วล่ะ?” พริมโรสพูดพลางกวาดตามองรอบตัว พวกนักโทษที่ตามมาหยุดเดินทันที มองหน้ากันเลิ่กลั่ก เห็นได้ชัดว่าการกระโจนเข้ากลางวงล้อม ของมือสังหารกับตำรวจที่ติดอาวุธครบมือไม่ใช่แผนที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา “เอ่อ..พวกเรา… ฉันว่าเราควรจะให้พวกเขาจัดการกันเองไหม?” นักโทษคนหนึ่งกระซิบกับพรรคพวก “ใช่ๆ เรามันแค่คนผ่านทางมา อย่าไปขวางมือขวางเท้าพวกเขาเลย” อีกคนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่คนอื่นๆ จะค่อยๆ ถอยออกห่างกลุ่มลูกพี่ ไปรอดูอยู่รอบนอก พริมโรสเดินนำเตวิชกับจักรินข้ามถนนมา แล้วเดินทะลุเข้าไปกลางวงล้อมที่กำลังตึงเครียดอย่างไม่รู้สึกรู้สา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มอยู่บนริมฝีปาก ก่อนจะปรายตามองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรินรดา “โอ๊ะ!” พริมโรสยกมือเท้าสะเอว “นี่รุ่นพี่กลายเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปแล้วหรอ?” รามิลเลิกคิ้ว หัวเราะเบาๆ“แล้วทำไมสภาพเธอ ถึงเหมือนคนหลงทางอย่างนี้ล่ะ?” พริมโรสหัวเราะออกมา “ฉันเดินมาไกลมากเลยนะ จากพระราชวังมาถึงโรงพยาบาลนู่นน่ะ” “นี่!..เอาไว้ค่อยทักทายกันทีหลังได้ไหม พวกเรายังติดอยู่ในวงล้อมอยู่นะ!” เตวิชพูดเสียงเครียด สายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มคนร

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 95 : แย่งชิงข้อมูล(1)

    “ยังมีเรื่องด่วนอีกเรื่องนึงค่ะ หน่วยข่าวกรองแจ้งมาว่ามีสายลับคนหนึ่ง ต้องการพบบอสเป็นการส่วนตัวด่วน เขาอ้างว่ามีรายงานลับจากองค์สุลต่าน ส่งถึงบอสโดยตรงค่ะ”“องค์สุลต่าน?” รินรดาค่อนข้างแปลกใจ ร้อยวันพันปีไม่เคยมีเรื่องมีราวให้ต้องติดต่อกัน แต่ครั้งนี้กลับส่งสารมาถึงเธอโดยตรง “นี่ค่ะ สถานที่นัดพบ” เลขาปัดแท็บเล็ตบนมือนายสาว เพื่อให้ดูพิกัดของจุดนัดพบ รามิลเดินมาหยุดยืนข้างหลัง สายตาเหลือบมองในแท็บเล็ต ก่อนเอ่ยเสียงเครียด“คุณจะไปหรือไง?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย“คงต้องไปค่ะ เขาอาจจะติดต่อท่านพี่ไม่ได้ จึงต้องส่งผ่านมาทางฉัน” “แน่ใจได้ยังไงว่าไม่มีอะไรที่ซับซ้อน? รามิลจ้องหญิงสาวเขม็ง จนเธอถอนหายใจเบาๆ “บอกตามตรงว่าไม่แน่ใจเลย เขาเป็นมนุษย์ที่เซ้นส์ผู้หญิงอย่างฉัน ไม่เคยตรวจจับอะไรได้เลย”“งั้นผมจะไปด้วย ผมเป็นห่วงคุณ”“ฉันก็เป็นห่วงคุณเหมือนกันนะคะ คุณเป็นชาวต่างชาติ ฉันไม่อยากให้มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับคุณ ฉันเติบโตที่นี่ รู้ทางหนีทีไล่ดีกว่า ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลหรอกค่ะ คุณรอท่านพี่อิดรีสอยู่ที่นี่เถอะนะคะ”“ไม่กังวลได้ยังไง เครือข่ายในเมืองถูกทำลาย แล้วผมจะติดต่อกับคุณยั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status