Share

ตอนที่ 2 : First Kiss

last update Huling Na-update: 2025-03-16 14:42:38

ติ๊ง!!

ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นหนึ่ง ชายหนุ่มหันไปมองทันที เมื่อได้ยินเสียง เขาหายใจเข้าแรงแล้วสะดุดไปในทันที เมื่อเห็นหญิงสาวเอวบางร่างน้อย นัยน์ตากลมโต ใบหน้าคมหวาน ผมดำยาวสลวยสยายเต็มหลัง สวมชุดแม็กซี่เดรสสีขาวปักฉลุลายดอกไม้ตัวยาวจนถึงข้อเท้า แขนยาวสามส่วนเลียนแบบชุดอาบายะห์ แต่จะออกไปในสไตล์ตะวันตกมากกว่า ซึ่งเข้ากันได้ดีกับรองเท้าผ้าหุ้มส้นพิมพ์ลายดอกไม้วินเทจสีเทา กำลังเดินเข็นกระเป๋าเดินทางออกมาจากลิฟต์ รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวโดดเด่นเสียจนดึงดูดสายตาของผู้คนทั้งชายและหญิง ที่นั่งอยู่ในล็อบบี้ให้มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ 

ดวงตาคมกริบล้ำลึกของชายหนุ่ม กำลังถูกตรึงจนไม่อาจถอนสายตาไปมองที่อื่นได้ พูดอะไรไม่ออกอยู่ชั่วครู่ราวกับวิญญาณของเขาก็กำลังถูกดูดกลืนหายไปด้วยเสียอย่างนั้น ก่อนที่จะได้สติเมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ เขาจึงรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปทักทายด้วยหัวใจที่กำลังเต้นรัวแรง

“มิสนรากร?” เขาทักขึ้นก่อน เพื่อยืนยันว่าใช่คนที่กำลังรออยู่หรือเปล่า

นัยน์ตากลมโตมองชายหนุ่ม ที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราจนดูครึ้มไปหมด แต่กลับรู้สึกสะดุดที่นัยน์ตายาวรีคู่นั้น ถึงแม้จะดูคมกริบดุดันในนาทีแรก แต่สามารถเปลี่ยนเป็นหวานละมุนและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ขณะที่เขาเปิดปากยิ้มในนาทีต่อมา 

“ค่ะ ฉันเอง” หญิงสาวยิ้มรับเพียงเล็กน้อย แล้วส่งมือให้ 

ชายหนุ่มจับมือตอบเป็นการทักทาย แล้วกดเน้นปลายนิ้วชี้ลงบนฝ่ามือบอบบางด้านในเพื่อเป็นการส่งสัญญาณ หญิงสาวเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อย เขาพูดภาษาอังกฤษเสียงเบาที่ได้ยินเพียงแค่สองคน ในขณะที่ฉีกยิ้มไปด้วยจนแทบไม่เห็นว่ากำลังขยับริมฝีปาก 

“ผมอิฟราอิม จะคอยดูแลคุณที่นี่ และเพื่อความสมจริง เราควรจะแสดงออกว่าเป็นคู่รักต่างชาติ ที่เพิ่งจะได้พบกันเป็นครั้งแรก จะเป็นการดีต่อภารกิจของเราที่สุด คุณเห็นควรว่าอย่างไร?”

“เดี๋ยวนะคะ! ฉันคิดว่า..”

ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เขาก็สวมกอดเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว แขนแข็งแรงราวกับปลอกเหล็ก รัดรอบตัวเธอเอาไว้แน่น ไม่ให้ดันตัวออกมาได้ พร้อมกับกระซิบเบาๆ

“อยู่นิ่งๆ มีคนแอบดูอยู่ด้านนอก!”

พอได้ยินดังนั้น ริมฝีปากแดงก่ำก็คลี่ยิ้มหวานออกมา เป็นรอยยิ้มที่เรียกได้ว่า สามารถเขย่าหัวใจผู้ชายทั้งโลก ได้เลยทีเดียว แขนเรียวเล็กโอบไปรอบคอแข็งแรง ยื่นหน้าเข้าไปชิดเล็กน้อย จนปลายจมูกเฉียดแก้มเขาไปนิดหนึ่งแล้วถอยออก เขารู้สึกว่าเป็นการหว่านเสน่ห์ที่เย้ายวนอย่างร้ายกาจที่สุด

“คิดถึงคุณจังเลยค่ะ! ฉันรอเวลาที่เราจะได้พบกันแบบนี้มานานเหลือเกิน! อุ้บส์!” หญิงสาวตกใจที่เขาเล่นนอกบทเพื่อให้สมจริงโดยไม่บอกล่วงหน้า 

อิฟราอิมจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากครั้งหนึ่งแล้วถอนออก นัยน์ตามองนิ่งที่ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อคล้ายกำลังเผลอ ก่อนจะกดริมฝีปากให้หนักขึ้นอีกอย่างห้ามใจไม่อยู่

คนแอบดูบ้านญาตินายสิ!! นี่มันนอกบทชัดๆ!!

หญิงสาวไล้นิ้วเรียวจากลำคอ เสยเข้าไปในกลุ่มผมบริเวณท้ายทอย แล้วจิกเล็บเรียวแหลมลงบนหนังศีรษะของเขาอย่างไร้ซึ่งความสงสาร พร้อมๆ กัดไปที่ริมฝีปากล่างของเขา ไม่แรงแต่ก็ไม่เบาเช่นกัน

“อึ้บ!!” หนุ่มนักแสดงได้สติถอนริมฝีปากออกเกือบจะทันที เหลือบสายตามองมาอย่างตัดพ้อ แต่กลับทำให้ดวงตาดูเป็นประกายมีเสน่ห์ชวนหลงไหลอย่างน่าประหลาด หญิงสาวไล้ปลายนิ้วไปที่ริมฝีปากบางเย็นของเขา แล้วยิ้มหวานเคลือบความสะใจเอาไว้เล็กน้อย

“ที่รัก! อย่าวู่วามสิคะ ที่นี่มันที่สาธารณะ เวลาฉันเขินมือไม้มักจะกระตุก ควบคุมตัวเองได้ไม่ดี ว่าแต่ตอนนี้..เราจะไปกันได้หรือยังคะ?” 

เขาไม่พูดอะไร ยกนิ้วโป้งไล้บริเวณที่ถูกกัด ในดวงตามีประกายชื่นชมวาบผ่าน  ในขณะที่ปล่อยร่างเล็กออกจากอ้อมแขน แต่ก็ยังโอบเอวไว้ข้างหนึ่ง อีกมือลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปด้วยราวกับไร้น้ำหนัก แล้วพาออกเดินจากโรงแรม

“น่าจะเป็นคู่รักกันจริงๆ ไม่ใช่คนที่เราสงสัยหรอก” เสียงหนึ่งที่ซุ่มดูอยู่ในรถหน้าโรงแรมพูดขึ้นมา

“อีกเดี๋ยวก็รู้!” อีกเสียงหนึ่งพูด แล้วสตาร์ทรถ ขับตามรถคันหน้าไปอย่างระแวดระวัง

…………………….

หลังจากที่โดนขโมยจูบอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็หมายหัวผู้ชายคนนี้ทันทีว่าเป็นบุคคลอันตราย ปากว่ามือถึง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรอยู่ใกล้ๆ จะดีที่สุด ซึ่งคล้ายๆ กับความคิดของชายหนุ่ม เขาแกล้งโยนสถานการณ์ใส่หน้า เพื่อรอดูปฏิกิริยาและไหวพริบในการแก้ไขปัญหา ไม่เพียงเอาตัวรอดได้ดี ยังมีเขี้ยวเล็บรอบตัวเป็นเกราะป้องกัน ไม่ใช่กุหลาบไร้หนามอย่างที่เขาคิดไว้แต่แรก 

ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองว่า รู้สึกติดใจริมฝีปากอวบอิ่มนั่นอยู่ไม่น้อย กลิ่นที่หอมอ่อนๆ จากกายหญิงสาวมันทำให้อารมณ์ของเขาปั่นป่วนอยู่ภายใน จนเกือบลืมตัวว่าอยู่ท่ามกลางที่สาธารณะ เห็นควรว่าต้องอยู่ให้ห่างไว้เป็นดีที่สุด จะได้ไม่เสียงาน

เมื่อรถจอดติดสัญญาณไฟแดง ต่างคนต่างหันออกไปมองนอกรถ ไม่มีใครคิดอยากจะสื่อสาร หรือพูดอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการทำลายความเงียบสงัดจนดูเป็นวังเวงนี้เลยสักคน

เขาชะลอความเร็ว และขับช้าเกือบเป็นคลาน เธอจึงหันมามองตรง เลยเห็นว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเป็นจำนวนมากอยู่หน้าสถานทูตเปเรซ เธออ่านตามป้ายข้อความที่เขียนเป็นภาษาอาหรับเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเขียนร้องขอไม่ให้มีสงคราม

มีด่านตรวจอยู่ข้างหน้า ชายหนุ่มหันมาจ้องตาเธอนิ่งอยู่ชั่วครู่แต่ไม่พูดอะไร จากนั้นก็หมุนกระจกทักทายเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านนอก

“อัสลามุอะลัยกุม” เขากล่าวทักทาย ความหมายของประโยคนี้ก็คือ ขอความสันติสุข หรือความสุขจงมีแด่ท่าน

“วะอะลัยกุมมุสลาม ขออนุญาต ดูเอกสารประจำตัวด้วยครับ”

อิฟราอิมยกตัวขึ้นเล็กน้อย หยิบกระเป๋าหนังใบเล็ก สีน้ำตาล ออกมาจากกระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ แล้วหยิบการ์ดใบเล็กส่งให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังจ้องมองนิ่ง มาที่คนนั่งข้างคนขับอย่างไม่วางตา

“สุภาพสตรีต่างชาติท่านนี้เป็นอะไรกับคุณครับ?”

“เอ่อ..จะเรียกว่าแฟนก็ได้ เราคุยกันผ่านแอปพลิเคชันกันมาเป็นปีๆ ก่อนที่จะได้พบตัวจริงกันครั้งแรกวันนี้”

“มีหลักฐานการคุยเพื่อยืนยันสถานะไหมครับคุณผู้หญิง?” เจ้าหน้าที่พูดกับเธอเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าเป็นคนต่างชาติที่ไม่รู้ภาษาเขา ก็จะไม่รู้ว่าบทสนทนาก่อนหน้านี้ได้คุยอะไรกัน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าต้องการจริงๆ เธอก็ไม่มีจะให้

“หลักฐานอะไรคะ? ราอิมคะ! ช่วยอธิบายหน่อย ฉันไม่เข้าใจภาษาของคุณ!” หญิงสาวตีเนียนเรียกชื่อชายหนุ่มคนข้างๆ อย่างสนิทสนม โดยไม่ได้ขออนุญาต

เขาไม่ตอบ แต่หยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ตรงคอนโซลมาเปิดหาแอปพลิเคชันที่อ้างถึง แล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ได้ดู ทางนั้นรับไปแล้วสไลด์เลื่อนอยู่สี่ถึงห้าครั้งจึงส่งคืน

“ขอดูพาสปอร์ตด้วยครับ” เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษ ขอตรวจสอบเพิ่มเติมอีกอย่างไม่ไว้ใจ หญิงสาวเลยเปิดกระเป๋าถือ แล้วยื่นส่งให้

“มาจากประเทศทีแลนด์ มาทำอะไรที่นี่ครับ?”

“แน่นอนว่าต้องการพบแฟนฉันคนนี้” 

หญิงสาวเอื้อมมือไปทาบบนหลังมือ ชายที่อ้างว่าเป็นคนรัก มือใหญ่ที่กำลังจับเกียร์อยู่ก็พลิกฝ่ามือหงายขึ้นมากอบกุมมือเธอไว้กระชับ พร้อมกับส่งยิ้มและนัยน์ตาหวานมาให้ หญิงสาวยิ้มตอบ

“ฉันเป็นยูทูปเบอร์ด้วยค่ะ และเพื่อให้ทริปนี้เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าและเป็นความทรงจำที่ดี ก็เลยคิดจะทำคอนเทนท์ประชาสัมพันธ์ประเทศเปเรซไปด้วยในตัว”

“ญาซากัลลอฮ์ ขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับประเทศของเรา หวังว่าแฟนของคุณจะแนะนำสถานที่ที่พวกเราภาคภูมิใจให้กับคุณ เพื่อที่จะทำคอนเทนต์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นนามบัตร หากคุณต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเปเรซ อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา และขอโทษที่ทำให้ต้องเสียเวลาด้วยครับ เชิญ” เขาผายมือเล็กน้อย เพื่อให้ผ่านไปได้

“ญาซากัลลอฮ์ ค็อยร็อน” อิฟราอิม กล่าวขอบคุณตอบ

หญิงสาวเหลือบตามองคนข้างๆ แต่เขากำลังมองที่กระจกมองหลัง เธอจึงเอี้ยวตัวมองบ้าง เห็นเจ้าหน้าที่คนนั้นเดินไปคุยกับคนในรถคุ้นตาที่จอดอยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มหันมามองอากัปกิริยาอยากรู้อยากเห็นของคนที่นั่งข้าง ทำให้มุมปากบางเชิดขึ้นเล็กน้อย

“เรามาทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการอีกสักครั้งดีไหม? ผมพันเอกอิฟราอิม อัลอิสมาอิล ผู้ร่วมงานในภารกิจครั้งนี้”

หญิงสาวหันหน้ามามองเขา เอ่ยกล่าวมาเสียงเรียบไม่บอกความรู้สึก

“พริมโรส นรากรค่ะ รับหน้าที่หน่วยไซเบอร์ ยินดีที่ได้ร่วมงาน”

“คุณทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองรัฐบาล หรือเป็นสายลับทหาร?”

“รัฐบาลค่ะ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่จริงๆ แล้วหน้าที่ไม่แตกต่าง สามารถทำงานร่วมกันได้ เพียงแต่หน่วยฉันจะเน้นไปทางการก่อการร้ายทางไซเบอร์ ให้ข้อมูลการติดตาม และรายงานตำแหน่งของผู้ก่อการร้ายให้กับทุกหน่วยงาน”

“คุณมีเวลาพักแค่คืนนี้ ก่อนจะเริ่มงานอย่างจริงจังในวันรุ่งขึ้น ไหวไหมทหาร?” เขาพูดล้อ

“เซอร์ เยส เซอร์!” หญิงสาวตอบรับมุกเขา พร้อมแตะสองนิ้วที่ปลายคิ้ว ทำให้เขายกยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจ

“คุณทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้ แฟนคุณเขาไม่เป็นห่วงบ้างหรือไง?”

พริมโรสนิ่ง เพราะรู้ว่าเขาแกล้งถามเรื่องส่วนตัวจึงเลือกไม่ตอบ เขาหันมามองนิดหนึ่งเห็นหญิงสาวมองตรงไปข้างหน้า ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ปล่อยให้บรรยากาศเดทแอร์ไปเสียอย่างนั้น

“คุณส่งอะไรให้เจ้าหน้าที่เขาดู?” จู่ๆ หญิงสาวก็ถามขึ้นมา 

“ก็แชทที่คุยกับสาวๆ พร้อมกับภาพส่วนตัวนิดหน่อย” หญิงสาวหน้าแดง เพราะคิดลึกไปกับคำว่าส่วนตัวของเขา ถ้าเกิดเจ้าหน้าที่นั่นต้องการให้พิสูจน์ความสัมพันธ์ตามแชทส่วนตัวที่ว่านั่น ไม่อยากจะเดาเลยว่า หมอนี่จะลังเลหรือเปล่า

“ขอโทษที่ฉันเรียกชื่อคุณเฉยๆ พอดีว่าสถานการณ์มันบังคับ”

“ผมไม่ถือ เราควรจะมีชื่อเรียกที่แสดงให้เห็นว่าเป็นคู่ที่รักกันอย่างมาก คุณมีชื่ออื่นสำหรับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวเรียกกันไหม?”

“พริมค่ะ พ่อฉันเรียกว่าพริม”

“แล้วแฟนล่ะ เรียกคุณว่าอะไร?” หญิงสาวมองหน้า เพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกเขาต้อนมามุมเดิมอีกแล้ว

“ฉันก็มีอยู่ชื่อเดียว เขาจะเรียกอะไรก็แล้วแต่” หญิงสาวพูดเป็นกลางๆ ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็ยกยิ้มที่มุมปาก

“งั้นผมจะเรียกคุณว่าอัลบีดีไหม?” พริมโรสหน้าแดง หันมองออกนอกหน้าต่างด้านข้าง กลัวเขาจะรู้ว่าเธอรู้ความหมายของคำนั้น คำที่มีความหมายว่าที่รักในภาษาอาหรับจะมีหลายคำ อัลบีก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอรู้สึกเอือมกับความหน้ามึนของเขา ที่สามารถดึงบทสนทนาให้เข้าข้างตัวเองได้อยู่ตลอด

“บ้านโฮสต์นี่เป็นคนของคุณด้วยหรือเปล่าคะ?” พริมโรสเปลี่ยนเรื่องคุย

“ใช่ เขาทำงานอยู่หน่วยข่าวกรองทั้งคู่ คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองได้สบายโดยไม่ต้องระแวดระวัง”

“นอกจากคุณกับทีมของฉันแล้ว ยังมีคนอื่นอีกไหมคะ?”

“ไม่น่าจะมี ผมสั่งให้เขาปิดรับไปแล้ว เสียงคุณดูเนือยๆ นะ ง่วงหรือเปล่า? จะนอนก็ได้นะ ถึงแล้วผมจะปลุก”

“เกรงใจคุณจัง เมื่อวานพอมาถึงที่พัก ก็เขียนคอนเทนต์ต่ออีกจนดึก เลยออกจะเพลียๆ”

“นอนเถอะ ปรับเบาะลงเลย จะได้สบายตัว”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวไม่ค้านอีก รีบปรับเบาะตามคำแนะนำ แล้วหลับไปเกือบจะทันทีที่เปลือกตาหลุบลง

“คุณ! ตื่นเถอะ ถึงแล้ว!”   ชายหนุ่มเรียก   จับไหล่บอบบางเขย่าเบาๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าหญิงสาวจะรู้สึกตัว

เขาเปิดประตูฝั่งคนขับแล้วเดินอ้อมไปฝั่งตรงข้าม กำลังจะเปิดประตูก็มีเสียงทักเสียก่อน

“ผู้พันมาเสียมืดเลย มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”

“เจอด่านตรวจน่ะ เลยรถติดยาว”

“เรามีปัญหาอย่างหนึ่งคือ.. มีเซิร์ฟจองเข้ามาก่อนที่เราจะปิดรับ พยายามขอยกเลิกแล้ว แต่เขาไม่ยินยอม ผมกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เลยจำเป็นต้องตอบรับ”

“ไม่เป็นไร แต่จะทำอะไรก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน”

“ครับผม” เขารับคำแล้วเดินไปท้ายรถ ขนกระเป๋าออกมาวางที่พื้น สายตาเหลือบมองชายหนุ่ม ที่กำลังอุ้มหญิงสาวร่างเล็กเดินเข้าไปในตัวบ้าน

อิฟราอิมเกรงว่าหญิงสาว จะตื่นขึ้นมาแล้วตกใจ ที่เห็นเขาอุ้มเธออยู่ในอ้อมแขน จึงประคองอย่างระวัง แต่หญิงสาวกลับทำตรงกันข้ามกับความคิด เธอขยับตัวเล็กน้อยซุกเบียดไปกับอกกว้างเพื่อให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้นแล้วครางออกมาเบาๆ อย่างพึงพอใจ เขามองใบหน้าหวานนวลเนียน แล้วยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ก่อนที่จะเดินตรงไปยังห้องพัก

“ผู้พัน! มิสนรากรเป็นอะไรคะ ทำไมคุณต้องอุ้มเธอเข้ามาอย่างนั้น?” อัลวานีภรรยาเจ้าของบ้านทักถามขึ้นมาอย่างตกใจ

“เพลียน่ะ! ปลุกไม่ตื่น เลยต้องอุ้มเข้ามาแบบนี้ล่ะ”

“อ๋อ! โล่งอก! ห้องของมิสทางนี้ค่ะ” อัลวานีรีบเดินนำขึ้นบันไดไปก่อน แล้วเปิดประตูทางขวามือ หลบทางหนึ่งเพื่อให้ชายหนุ่มเดินเข้าไป “ห้องของคุณอยู่ตรงข้าม สามีฉันบอกแล้วใช่ไหมคะว่าเราจะมีเซิร์ฟมาพักด้วยอีกคน”

“บอกแล้ว ห้องนี้พักกี่คน?”

“เราจัดให้มิสนอนคนเดียวค่ะ ส่วนของคุณพักร่วมกับอีกสองคน สะดวกไหมคะ”

“ไม่สะดวก! ผมกับมิสนรากรจะต้องแสดงเป็นคู่รักกัน ถ้าแยกกันคนละห้องอาจจะเป็นที่สงสัย แล้วคนที่จะมาใหม่ล่ะ?”

“ให้พักห้องข้างล่างค่ะ อยู่ตรงข้ามห้องฉันเลย จะได้คอยจับตาดูด้วย”

“อืม”

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้บาซิม เอากระเป๋ามาไว้ห้องนี้ คุณทานอะไรมาหรือยัง? เราทำอาหารเตรียมไว้ให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกคุณจะมาถึงกันกี่โมง”

“เอาสิ! กำลังหิวเลย” ชายหนุ่มตอบรับ อัลวานียิ้มแล้วเดินออกไป

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 3

    พริมโรสรู้สึกหิวน้ำ จึงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย พยายามตั้งสติอยู่ชั่วครู่ โฟกัสไปรอบๆ ห้อง คิดอยู่ในใจว่าน่าจะเป็นบ้านของโฮสต์เลยคลายความระวังตัว ลุกขึ้นเดินจะไปเปิดประตู แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อสายตาไปปะทะกับร่างสูงที่นอนหลับสนิทเหยียดยาวอยู่บนโซฟาหญิงสาวระงับความไม่พอใจเอาไว้ หลังจากได้คิดว่าคงเป็นการแสดงบทบาทให้สมจริงของเขาอีกแล้ว เพื่อให้ข้อมูลสอดคล้องกันตั้งแต่เริ่มแรก เธอมองเขาด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนที่จะเปิดประตูออกไปข้างนอก“มิสนรากร สวัสดีตอนเช้าค่ะ” พริมโรสคิดในใจว่าผู้หญิงหน้าตาเป็นมิตรคนนี้คงจะเป็นภรรยาเจ้าของบ้าน จึงยิ้มตอบอย่างอบอุ่น“สวัสดีตอนเช้าค่ะ มิสซิสซัลมาใช่ไหมคะ?”“ค่ะ ฉันชื่ออัลวานี ส่วนสามีฉันบาซิม” บาซิมซึ่งอยู่ไม่ไกล หันมายิ้มอย่างสุภาพ พริมโรสยิ้มตอบ แล้วผงกศีรษะนิดหนึ่ง“เรียกฉันว่าพริมก็ได้ค่ะ เอ่อ..พอดีหิวน้ำ อยากจะหาน้ำดื่มสักแก้ว”“อ๋อ ได้สิคะ น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นดีคะ?” อัลวานีกุลีกุจอหยิบแก้วใสทรงดอกทิวลิปมาวางตรงหน้าพร้อมจานรอง“อะไรก็ได้ค่ะ”“งั้นแนะนำให้เป็นชาดีกว่า ชาวเปเรซชอบดื่มชาค่ะ จะมีติดบ้านไว้เสมอ”“ได้ค่ะ ขอบคุณ” อัลวานีเดินกระฉับกระเฉงไป

    Huling Na-update : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 4 : Second Kiss

    พริมโรสนอนหอบหายใจแรงอยู่กับพื้น ในขณะที่มือทั้งสองข้างถูกเขากดไว้ข้างตัว ขาทั้งสองข้างถูกทับไว้ด้วยขาของเขาจนยกแทบไม่ขึ้น“จะยอมได้หรือยัง? พยศเป็นม้าบ้าเลยนี่!”“คุณมันชอบเอาชนะผู้หญิง! หาความเป็นสุภาพบุรุษไม่มี!” หญิงสาวตะโกนตอบโต้ทั้งๆ ที่ยังหายใจหอบ“แล้วสุภาพสตรีที่ไหน เขาเล่นแรงกันแบบนี้ล่ะ! ถ้าสู้ไม่ได้อาจถึงขั้นพิการได้เลยนะ!”“ใครใช้ให้คุณมาทำรุ่มร่ามกับฉันล่ะ! คุณมันทุเรศ! ไอ้คนบ้า! ไอ้หน้ารังแกผู้หญิง!”“ถ้าไม่เลิกสบถใส่ผม คุณโดนดีแน่!”“กล้าดีก็ลองดู! ฉันจะอัดไอ้หนูคุณให้น่วมจนพิการเลย! ไอ้คน.. อื๊อ!”พริมโรสตกใจเพราะเขากดจุมพิตหนักหน่วงลงมาทั้งๆ ที่ยังพูดไม่จบ เป็นจุมพิตที่ต้องการจะลงโทษ มากกว่าจะอยู่ในอารมณ์พิศวาสเธอพยายามจะดิ้นหนี แต่ก็สู้แรงที่แข็งดังหินของเขาไม่ได้ จึงทำได้เพียงเบี่ยงศีรษะออก เป็นผลให้เขาไถลจุมพิตลงมาที่ข้างแก้ม แล้วไล้เลยมาถึงซอกคอ จู่ๆ แรงจุมพิตของเขาอ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วนเวียนซุกไซ้ไปมาอย่างหลงไหล เธอดิ้นขลุกขลักอยู่เป็นครู่ ทำได้แค่ดึงขาออกจากการพันธนาการได้เท่านั้นขณะที่เขากำลังไล้จุมพิตมาถึงแอ่งหลังใบหู ประตูห้องก็เปิดออก ทั้งสี่ชีวิตย

    Huling Na-update : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 5

    “ยังไม่หายโกรธผมอีกรึ?” อิฟราอิมเดินตามมาทัน จึงรั้งแขนไว้ แล้วจับไหล่ให้หันมาเผชิญหน้า แต่หญิงสาวเบี่ยงตัวออก“ฉันดูลักษณะเหมือนคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างนั้นหรือ?” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย ไร้ความรู้สึก“ไม่เอาน่า! เราเป็นทีมเดียวกันไม่ใช่หรือไง? โกรธกันข้ามวันมันไม่ดีต่อความสัมพันธ์นะ”“ผู้พันคะ! ฉันคิดว่าคุณจะอินกับบทบาทมากเกินไปหน่อยแล้ว ฉันจะขอบคุณมาก..ถ้าเราจะทำให้สถานที่นี้ปลอดจากยุงที่เกิดมาจากบทละครน้ำเน่าของคุณ! แค่นี้ฉันก็เบื่อจนถึงรังไข่แล้ว…อึ๊!”หญิงสาวตกใจไม่ทันป้องกันตัว เมื่อเขาดันตัวเธอติดผนัง จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอยกขึ้น แล้วรวบไว้ด้วยมือข้างเดียว ใช้มืออีกข้างปิดปากที่กำลังพร่ำบ่นไม่หยุด “ผมจะเลี้ยงอาหารที่แพงที่สุดในเมืองนี้เพื่อเป็นการไถ่โทษดีไหม?” ชายหนุ่มพยายามต่อรองพริมโรสได้ยินดังนั้นก็ชะงักขาที่กำลังจะยกตั้งขึ้นเพื่อทำการใหญ่ เขาปล่อยมือที่ปิดปากออก แต่ยังคงจับข้อมือสองข้างรั้งไว้“ก็..ก็ยุติธรรมดี แต่ไม่ใช่ว่าคนอย่างฉันจะเห็นแก่กิน หรือติดสินบนอะไรได้ง่ายๆ หรอกนะ อย่าเข้าใจผิด! แค่อยากเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมอาหารการกินของคนที่นี่ก็แค่นั้น!” อิฟราอิมเบ้ป

    Huling Na-update : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 6

    “ผู้พันคะ!” หญิงสาวทัก เมื่อเห็นเขานั่งชันศอกข้างหนึ่งค้ำประตู ปลายนิ้วเขี่ยริมฝีปากล่างไปมาอย่างใช้ความคิด เธอสังเกตเขามาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ออกรถมาจนถึงตอนนี้ “หืม?” เขาทำเสียงตอบในลำคอ แต่ไม่ได้หันมา ยังคงมองตรงทางข้างหน้านิ่งเธอมั่นใจว่าไม่ได้ไปขัดใจอะไรเขา จะให้ปลอมเป็นคู่หมั้นก็รับปาก ชุดนี้ก็เป็นเขาเองที่บอกว่าดีแล้ว แต่ก็มานิ่งเงียบแบบนี้ จนทำให้เธอเริ่มวิตก“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” “เปล่า! ไม่ได้เป็นอะไร! ผมกำลังคิดอะไรเพลินไปหน่อย คุณถามอะไรแล้วผมไม่ได้ตอบกลับหรือเปล่า?” หญิงสาวถอนใจ บางทีเขาอาจไม่สะดวกใจอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ เลยคิดจะเปลี่ยนเรื่องคุย“คุณได้ข้อมูลเรื่องพิกัดหรือยังคะ?”“เราจะไม่คุยเรื่องงานกันตอนนี้ที่รัก” พริมโรสเลิกคิ้ว เริ่มหงุดหงิดนิดๆ โน่นก็ไม่ได้! นี่ก็ไม่ได้! หมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่!! เอาใจยากชะมัด!!เธอเริ่มไม่พอใจ จึงหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถ ยกแขนขึ้นกอดอก ยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างอย่างเจ้าอารมณ์เต็มที่ ทำให้ขอบซับในร่นลงมามากกว่าเดิม เผยให้เห็นท่อนขาเรียวสวยขาวนวลเนียนอยู่ภายใต้เนื้อผ้ารำไร ชายหนุ่มเห็นการเคลื่อนไหวอยู่ปลายหางตา จึงเหลือบมองอย่า

    Huling Na-update : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 7

    “อะไรนะ! เชคฮ์ อิสราร์ มาที่วังตะวันออกอย่างนั้นรึ? ทำไมไม่มีใครบอกฉันเลยสักคน!”“อะไรกันเนญ่า! การข่าวของตระกูลเธอรวดเร็วฉับไวที่สุดในพระราชวังไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้รู้เป็นตระกูลสุดท้ายล่ะ!” แล้วสาวๆ ประมาณสามสิบกว่าคน ที่กำลังเลือกลวดลายและสีสันของเนื้อผ้าอยู่ในห้องโถงใหญ่ ต่างก็หัวเราะออกมาอย่างครึกครื้นสาวๆ กลุ่มนี้เป็นญาติพี่น้องที่ร่วมสกุลเดียวกันทั้งหมด บางคนพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ บางคนพ่อแม่เดียวกันแต่มีลูกสาวหลายคน ซึ่งก็มีความอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันตามธรรมดาของผู้หญิง ถึงแม้จะเป็นญาติพี่น้อง แต่ก็ไม่มีใครอยากให้ใครมีความความดีโดดเด่นเกินหน้าเกินตาไปกว่าใคร ฉะนั้นถ้ามีคนใดสะดุดล้ม หรือทำในสิ่งที่ผิดพลาด แม้เพียงเล็กน้อย ที่เหลือก็จะช่วยกันซ้ำเติมทันทีอย่างไม่ลังเล“นี่! ฉันยังได้ข่าวมาว่าไม่ได้เสด็จมาเพียงลำพังอีกด้วยนะ”“ใช่ๆ ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน เขาพูดกันว่ามากับผู้หญิงคนหนึ่ง สวยราวกับมิสยูนิเวิร์สเลยนะ!”“อ๊ะ! แล้วเชคฮ์พาผู้หญิงมาทำไมล่ะ?”“เขาปิดกันให้แซ่ดว่า พาลูกสะใภ้ในอนาคตมาแนะนำกับพระมารดาไงล่ะ!”“ตายจริง! คลับคล้ายคลับคลาว่าพระชายาในอนาคตจะอยู่แถวนี้นะ

    Huling Na-update : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 8 : Eye Contact

    หลังจากชายหนุ่มโทรศัพท์สั่งงานเสร็จเรียบร้อย ก็เดินกลับเข้ามาข้างใน เขาคิดว่าหญิงสาวคงกำลังมัวแต่ทำงานจนลืมหิว เลยว่าจะมาถามเรื่องมื้อเย็น แต่กลับเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่กับพื้น ตัวเอียงฟุบหลับกับโต๊ะ ทั้งๆ ที่อีกมือยังคงจับเมาส์อยู่ เขายกยิ้มมุมปากข้างหนึ่งอย่างเอ็นดู เดินเข้ามานั่งข้างๆ ยื่นมือข้างหนึ่งแตะไปที่ผมดำสลวย ไล้มาจนสุดความยาวแล้วจับปอยหนึ่งยกขึ้นประทับที่ริมฝีปาก จากนั้นก็ช้อนร่างบอบบางเข้ามาในวงแขนช่วงที่เขายกตัวอุ้มขึ้น มือเรียวที่จับเมาส์อยู่จึงปัดไปกระแทกกับโน้ตบุ๊ก แรงกระทบแม้จะไม่รุนแรง แต่ก็สามารถปลุกคนที่กำลังจะดำดิ่งเข้าสู่โหมดนิทราให้ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างง่วงซึมและงุนงงชายหนุ่มเองก็ชะงักค้าง เพราะไม่คิดว่าเธอจะตื่น เลยมองนิ่งรอดูปฏิกิริยาสะท้อนกลับ จนเธอได้สติว่าไม่ได้อยู่ที่พื้น“นี่! คนฉวยโอกาส ปล่อยฉันลงนะ!” แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด จึงได้ปล่อยมือทันทีตามที่เธอร้องขอ“ว้าย!!” หญิงสาวตกใจ เพราะคิดว่าจะร่วงลงพื้นแข็งด้านล่าง แต่กลับหล่นลงบนโซฟาในระยะที่ไม่สูงมาก ทำให้เธอตวัดตามองค้อนเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก “เมื่อคืนก็นอนเร็ว ทำไมยังไม่หายเพลียอีก?”“เจ็ทแลค!

    Huling Na-update : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 9 : 3rd Kiss

    “คือว่า.. | คือว่า..” ทั้งสองคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน จึงทำให้ชะงักไปทั้งคู่“คุณ.. | ผม..” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ติดขัด ต่างคนต่างมองหน้ากันอยู่ รอโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดก่อน“เอ่อ..ฉันจะถามว่า..”“โอ้โห! นี่มันยิ่งกว่าคฤหาสน์ด้วยซ้ำ อย่างกับพระราชวัง!” เสียงคุ้นหูดังมาจากหน้าประตูด้านนอก พริมโรสได้ยินก็หันไปทางที่มาของเสียง เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอิฟราอิมทำมือให้เธอเดินออกไปข้างนอกด้วยกัน “แหม! มาถึงก็ส่งเสียงดังคับที่เลยนะ!”“ด้วยความเคารพครับคุณผู้หญิง นอกจากจะไม่ขอบคุณที่กระผมช่วยขนย้ายข้าวของแล้ว ยังมาใช้วาจาประชดเสียดสีใส่กันอีก คุณธรรมในใจน่ะมีบ้างหรือเปล่า?”“งั้นฉันจะขอบคุณด้วยการคืนเงินดีไหมนะ?”“โอ๊ะ! เจ๊ประณามผมได้เต็มที่เลย จะย่ำยีไปพร้อมกันเลยก็ได้ แต่ขอคืนเต็มจำนวนเลยนะ!” เขายิ้มอย่างประจบ“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน! ดูเหมือนท่านเจ้าของบ้านมีอะไรจะพูดกับพวกคุณแหน่ะ!”“เจ้าของบ้าน? คุณเป็นเจ้าของบ้านนี้หรือครับ?” เตวิช เบิกตาโตกว้าง หันไปถามชายหนุ่มร่างสูงเชื้อสายอาหรับ“ครับ! ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผมพันเอกอิฟราอิม อัล อิสมาอิล สังกัดกองทัพบก”“โว๊ะ!” เตวิชตกใจ แต่จอมทัพมีสติดีก

    Huling Na-update : 2025-03-16
  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 10

    "โอ๊ย!!" แล้วหญิงสาวก็ร้องออกมาอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจงใจกัดที่ริมฝีปากล่างอย่างแรง ทำให้เธอได้สติรีบผลักเขาออกห่างผู้ชายจิตใจคับแคบ!! นี่กำลังคิดจะเอาคืนใช่ไหม แต่ฉันไม่ได้กัดนายรุนแรงแบบนี้นี่!!หญิงสาวตวัดสายตาคมกริบมองเขม็งอย่างโมโห สีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด เม้มริมฝีปากล่างที่กำลังเจ็บ แล้วไล้ลิ้นเลียด้านในเบาๆ “เจ็บไหม? ถือซะว่า..หายกัน!” เขาถามคล้ายไม่สำนึก เธอเลยกำหมัดทุบไปที่อกและไหล่ของเขาเสียหลายที แต่เขากลับเอาแต่หัวเราะ แล้วจับข้อมือเธอไว้ชายหนุ่มมองใบหน้าหวาน ที่ถึงแม้จะโกรธแต่ก็ยังคงดูน่ารัก กำลังส่งประกายตาคมกริบราวกับมีดมองเขม็งมาที่เขา เพียงแค่มองก็ทำให้รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทงไปแล้วเป็นร้อยๆ แผล เขายกยิ้มมุมปากข้างหนึ่งอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตาพราวระยับเต็มไปด้วยรอยหัวเราะ เห็นเป็นเรื่องสนุกไปเสียอย่างนั้นพริมโรสรู้สึกว่า เธอประเมินระดับความชั่วร้ายของเขาต่ำเกินไปเสียแล้วแต่ยังไม่ทันที่เธอจะสบถความในใจออกมา ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบเสียก่อนก๊อกๆ!! ก๊อกๆ!!“คุณพริมโรสคะ! คุณพริม!” หญิงสาวสะดุ้ง หันขวับไปยังทิศทางของเสียงชายหนุ่มมองใบหน้าระเรื

    Huling Na-update : 2025-03-16

Pinakabagong kabanata

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 70 

    “ฮ่าๆๆ ไง! ถึงกลับโกรธจนตัวเนื้อสั่นเลยเหรอ เป็นยังไงบ้างล่ะ รสชาติของการสูญเสีย ขมขื่นถึงอกถึงใจดีไหม?” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจได้ทันทีว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ“ฉันเกลียดแกจนอยากจะเป็นคนถ่อย จะได้ถ่มถุยใส่หน้าส้นตึกของแกให้สาสมกับความรู้สึกขยะแขยง!” ชารีฟหรือณัทธรสะอึก เมื่อเจอความโกรธเกลียดอย่างรุนแรงจากผู้หญิงที่เขารัก“เกลียดฉันงั้นรึ? ต้องเป็นฉันไหมที่จะพูดประโยคนั้น แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะลืมฉันได้อย่างง่ายดายและไปแต่งงานใหม่!"“ฉันไม่ได้แต่งงานใหม่! นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวของฉัน และอะไรคือลืมได้อย่างง่ายดาย? นายหนีตายไปเป็นปีๆ แล้วฉันจะต้องไปบวชชี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายด้วยอย่างนั้นรึ! เรารักกันดูดดื่มขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่นายจะฆ่าพ่อฉัน เขายังพูดไม่ให้ฉันยึดติดกับตัวเขาเลย! ตรรกะของนายมันบิดเบี้ยวเป็นเวย์เดียวกับพวกโรคจิต ที่นายกับฉันมาถึงจุดนี้เป็นเพราะการตัดสินใจเลือกของตัวเองทั้งนั้น อย่าเอาฉันมาเป็นข้ออ้างเพื่อปกปิดยีนขี้แพ้ในตัวหน่อยเลย!”“ไม่ต้องมาทำปากดียั่วอารมณ์ให้ฉันรู้สึกละอายใจหรอก คำพูดยั่วยุของ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 69 : ตามไล่ล่า (3)

    “ฮัลโหล? ว่าไง?”“ไอ้ชารีฟ! ไอ้ห่วย! สายของแกทำงานยังไงวะถึงได้รายงานผิดพลาด! เป้าหมายไปเส้นทางอื่นไม่ได้เฉียดมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ!!”“จะเป็นไปได้ยังไง? ไม่ผิดแน่ๆ!! นายดักซุ่มอยู่ที่นั่นแหละเผื่อว่าจะเป็นแผนลวง!”ชารีฟหรือณัทธร กดปุ่มตัดสาย แล้วดึงหูฟังบลูทูธออกอย่างหงุดหงิด จะเกิดการผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งจะได้รับการยืนยันเส้นทางมาจากสายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาของเชคฮ์อิสราร์เมื่อไม่กี่นาทีมานี้เองหรือว่าเปลี่ยนเส้นทางกระทันหัน??เขาคิดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉุกเฉินมากกว่าการที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวว่ามีข่าวรั่วไหลชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น เพื่อดูเวลาก่อนการตัดสินใจ ในเมื่อภารกิจลอบสังหารเชคฮ์อิสราร์ได้ผิดพลาดไปแล้ว เขาเลยคิดว่าไปปิดจ๊อบหนี้เก่าของตัวเองก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยกลับไปรายงานภารกิจที่ล้มเหลว ซึ่งถ้ารีบไปตอนนี้ก็น่าจะไปทันเวลากับที่เป้าหมายขับมาถึงในจุดที่เขากำหนดเอาไว้ในแผนพอดี…ชารีฟหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอพพลิเคชันที่ใช้ตรวจสอบสัญญาณจีพีเอส เพื่อหาตำแหน่งปัจจุบันของรถเป้าหมาย ซึ่งก็เห็นในแผนที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าว กำลังจะแล่นผ่านสี่แยกไฟแดง

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 68 : ตามไล่ล่า (2)

    ความร้ายกาจของบิดาที่เธอได้ยินจากปากของคนอื่น เป็นเหมือนหนามแหลมคม ที่คอยทิ่มแทงจิตใจอยู่ตลอด แต่กระบวนการให้อภัย พยายามดิ้นรนที่จะผลักความคิด และความรู้สึกด้านลบเหล่านี้ออกไป ด้วยการจดจ่อกับความรัก และความทรงจำดีๆ นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่เขามักจะแบกรับความเจ็บปวดเหล่านั้นไว้แทนอยู่เสมอ แล้วผลักดันให้เธอก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นไปให้ได้ ฝึกฝนเธอให้เข้มแข็ง สอนให้ยอมรับทุกความผิดพลาด และความล้มเหลว แล้วเรียนรู้ที่จะเยียวยาตัวเองเพื่อปิดกั้นทุกความเจ็บปวดเธอรู้ดีว่าการยึดติดกับความรู้สึกในทางลบ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์ให้กับชีวิตมากขึ้น และขัดขวางไม่ให้หัวใจได้พบกับความสงบสุข แต่การที่จะละวางด้วยการให้อภัยนั้น ก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิด ต่อบุคคลที่ต้องเสียชีวิตไปอย่างไม่เป็นธรรมนั้นด้วยเช่นกันแต่เมื่อมองในมุมกลับกัน เขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถทำผิดได้ เธอเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น ความผิดหวังมักจะทำให้คนเราจมอยู่กับอดีต จนลืมมองความสุขที่กำลังได้รับอยู่ในปัจจุบัน และกำลังจะตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเป็นความคิดที่โง่เขลาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าเรายังหยุดอยู่ที่ควา

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 67 : ตามไล่ล่า (1)

    “ตรวจสอบชายสองคนที่สิบสองนาฬิกา ประตูทางเข้าด้านนอก ในมือถือผ้าสีดำห่อหุ้มวัตถุลักษณะเป็นแท่งยาวทรงกระบอก เปลี่ยน!”“แลนด์โรเวอร์สีดำขับเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าออกของพนักงานชั้นใต้ดินสองคัน คันหนึ่งประมาณห้าคนใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าไปด้านใน มีอาวุธปืนติดตัว เปลี่ยน!”“ประตูทางออกอาคารผู้โดยสารหนึ่งที่เก้านาฬิกา พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังลากโซ่ตะปูเรือใบมาขวางถนน คาดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสนามบิน เปลี่ยน!”“ประตูทางออกฉุกเฉินของอาคารผู้โดยสารสอง ทางสะดวก ชาลีทีมเตรียมพร้อม รอรับคำสั่ง เปลี่ยน!” เสียงรายงานผ่านวิทยุสื่อสารเข้ามาเป็นระยะๆ หลังจากที่กระจายกำลังไปประจำตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อสังเกตความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม“พวกมันเริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เตรียมอพยพประชาชนหากมีเหตุฉุกเฉิน! แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับดับเพลิงหรือยัง?”“เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อืม ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันตอนนี้เลย!”“รับคำสั่ง!” องครักษ์รับคำสั่งแล้วแจ้งแต่ละทีมผ่านวิทยุสื่อสารทันที “อัลฟ่าทีมเคลียร์พื้นที่ บราโวเตรียมรถบรรทุกเปิดทางออกแล้วรอรับคำสั่ง ชาลีทีมวีไอพีเ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 66

    ไลลานอนตัวอ่อนระทวยอยู่ครู่หนึ่ง สักพักก็ขยับตัวยกศีรษะขึ้นมานอนหนุนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งของสามี เบียดเรือนร่างบอบบางเข้าชิดเพื่อขอความอบอุ่นจากร่างกายของเขา ซึ่งชายหนุ่มเองก็เพิ่งผ่อนคลายจากอาการหัวใจเต้นแรง หายใจหอบเหนื่อย เขาพลิกตัวตะแคง รั้งต้นขาของหญิงสาว ให้ขึ้นมาก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างกายของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ ไล้ฝ่ามือจากโค้งสะโพกเลยมาถึงต้นขา ลูบผิวเรียบเนียนไปมาเบาๆ เป็นจังหวะอย่างเพลิดเพลิน พร้อมๆ กับปลอบโยนให้เธอคลายความอ่อนเพลีย เพื่อเข้าสู่โหมดพักผ่อน “ฝ่าบาทเพคะ?” “หืม?” ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเคลิ้มหลับไปแล้ว“คืนนี้เนญ่าเขาประกาศว่าจะเข้าหอกับฝ่าบาท แล้วทำไมพระองค์ถึงมาหาหม่อมฉันล่ะเพคะ?”“ก็ไม่อยากจะมา ตั้งใจจะสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียหน่อยว่า การผลักดันให้ผัวไปมีผู้หญิงอื่น โดยไม่เต็มใจนั้นน่ะมันจะให้ผลยังไง แต่เผอิญว่าเห็นคนบางคน น้ำตาคลอเบ้าเลยมาดูเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำ หรือรู้จักที่จะหึงหวงผัวขึ้นมาบ้างแล้ว!”“หึงจริงๆ น่ะแหละเพคะ” ไลลายอมรับออกไปตรงๆ ถึงแม้ใ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 65 : นาทีระทึกขวัญ (2)

    กัปตันลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไปก่อน ผงกศีรษะให้นิดหนึ่งเมื่อเห็นพริมโรสยืนอยู่หน้าประตู เจ้าชายอิสราร์ยืนมองหญิงสาวผ่านช่องประตูห้องนักบินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวเล็กดึงเข้ามาปะทะอกกว้าง รวบร่างบางเข้ามากอดรัดอย่างแนบแน่น ฝ่ามือข้างหนึ่งประคองไว้หลังศีรษะ แล้วบดขยี้ริมฝีปากร้อนระอุกับริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย เร่าร้อนและดุเดือด เพราะอะดรีนาลีนที่หลั่งออกมาหลังจากเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์เฉียดตาย กระตุ้นให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน“อื้อ!..” ปลายลิ้นเงอะงะถูกดูดดุนและเกี่ยวกระหวัดไว้ด้วยลิ้นเร่าร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ ทำให้เกิดเสียงประท้วงแผ่วๆ ในลำคอ“ที่รัก~..ผมรักคุณ” เขาถอนริมฝีปากออก กระซิบเสียงแหบพร่าแนบชิดกับริมฝีปากนุ่มอุ่น เรียวลิ้นไล่ระไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนประทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง หญิงสาวยกท่อนแขนขึ้นโอบรอบลำคอเขาไว้ ตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะที่สอดรับกันเป็นอย่างดี เบียดร่างบอบบางเข้าแนบชิดร่างกำยำอย่างออดอ้อน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังไล่ลงไปถึงโค้งสะโพกกลมมนแล้วกดเข้าหาลำตัวตามแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น“เอ่อ..ทูลฝ่าบาท พายุท

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 64 : นาทีระทึกขวัญ (1)

    รินรดานั่งเหม่อกำโทรศัพท์ไว้ในมือ หลังจากเพิ่งจะวางสายจากรามิล เขาสัญญาว่าจะรีบเคลียร์งานให้เรียบร้อย และจะตามไปหาที่เปเรซภายในสองวันเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แสงสว่างที่ลอยละล่องในความมืดส่องมาที่เธอ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาแต่ชัดเจน เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของใครในโลกนี้ มันเหมือนเสียงที่มาจากที่ไกลโพ้น ฟังดูทั้งใกล้และไกลในเวลาเดียวกัน ‘ถึงเวลาแล้ว…จงทำตามสัญญา’หญิงสาวไม่ได้บอกใครว่าหลังจากที่เธอ และพี่ชายฟื้นขึ้นมา เธอได้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหินพ่อมดลาบราดอไลต์ ด้วยความสงสัยและความหวัง เธอแอบพระมารดาเข้าไปในห้องลับ ท่องบทสวดที่เธอแอบจดเอาไว้ และอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากรู้ที่สุดในชีวิตตอนนั้น นั่นก็คือการตามหาครอบครัวที่แท้จริงจากนั้นเธอก็ฝันซ้ำๆ เดิมๆ อยู่หลายครั้งจนมาถึงปัจจุบัน ไม่รู้ว่าบุคคลในฝันเป็นใคร เธอจำเรื่องราวได้ รู้ว่าคนในฝันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จำหน้าไม่ได้เลยสักคน และครั้งที่ไปโรงพยาบาลจนเกิดอาการใจสั่น แล้วเจ็บแปลบอย่างรุนแรง จนหมดสติไปในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นผู้หญิง ที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับฝาแฝดชัดเจนเป็นครั้งแรก ในห้วงฝ

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 63 : (っ˘з(˘⌣˘)18+

    “อะไรนะ!! แล้วได้ลงจอดฉุกเฉินไหม? งั้นถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายคนจากรัฐดีไปรัฐอีก็ดำเนินการได้เลย! อืม..ฉันอยู่บนเครื่องบินแล้ว คงจะถึงไล่ๆ กัน!...ได้!…เอาตามนั้น!”เจ้าชายอิดรีสชะงักมือที่กำลังวางโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง ขณะที่ปรายหางตาเห็นหุ่นอรชรอ้อนแอ้นกำลังเยื้องกรายเข้ามาในห้องด้วยกิริยาท่าทางที่ยั่วยวนหญิงสาวเข้ามายืนห่างจากเตียงไปประมาณหนึ่งช่วงแขน ค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากตัวทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า พร้อมช้อนสายตาขึ้นมองชายหนุ่มอย่างเย้ายวนชวนเชิญเจ้าชายอิดรีสหยิบหมอนสองใบมาซ้อนหลัง นั่งกึ่งเอนพิงพนักหัวเตียงพาดแขนไว้บนเข่าข้างหนึ่งที่ตั้งชันขึ้น หรี่ตามองด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดูเยือกเย็น กิริยาภายนอกยังคงสงบนิ่ง รอบกายยังเผยความเย่อหยิ่งจองหองออกมาด้วยเขาเหลือบตามองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือกเวลาได้เหมาะเจาะ ไลลาไปสั่งงานกับเด็กรับใช้ได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว และคงกำลังใกล้จะกลับมา เลยเปิดโอกาสให้น้องสาวสวมบทบาทน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพื่อทำร้ายจิตใจผู้เป็นพี่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจ โดยไม่ได้ปริปากเอ่ยทักท้วง เพื่อจะรอดูว่าเธอจะเปิดเผยเนื้อตั

  • อย่าให้เขารู้ว่าฉันร้าย   ตอนที่ 62

    "ฝ่าบาท! แย่แล้วเพคะ! กัปตันถูกทำร้ายขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทด่วนเลยเพคะ!" เจ้าชายอิสราร์ลุกพรวดขึ้น พริมโรสผวาลุกตามแล้วพยุงแขนเขาไว้ข้างหนึ่ง"เกิดอะไรขึ้น?" ชายหนุ่มถามขณะก้าวเท้าออกเดินได้ไม่เร็วนัก มือเรียวจึงจับแขนเขายกขึ้นแล้วก้มตัวลอดศีรษะเข้าไปใต้แขนแข็งแรง ก่อนจะวางแขนเขาให้เกาะไหล่เธอไว้เพื่อช่วยพยุง ทำให้ชายหนุ่มเดินได้เร็วขึ้นกว่าเดิม"นักบินผู้ช่วยลอบทำร้ายกัปตันเพคะ! โชคดีว่าอยู่ในความสูงที่กัปตันเปิดโหมดออโต้ไพลอทเอาไว้ ทันทีที่เกิดเรื่องเขากดอันล็อกประตูทำให้พวกเราได้ยินเสียงและเข้าไปช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้องครักษ์ลากตัวหมอนั่นออกไปแล้วเพคะ!""ทำไมไม่ตามนักบินเสริมให้ขึ้นมาแทน?""หม่อมฉันไปปลุกแล้วไม่ตื่นเลยทั้งสองคน ไฟล์ทเนิร์ซกำลังดูอาการพวกเขาอยู่ กัปตันเลยให้มาขอความช่วยเหลือจากฝ่าบาทเพคะ!"ลูกเรือต่างก็เห็นพ้องต้องกันทุกคนว่า นาทีนี้ไม่มีใครจะเหมาะสมเท่ากับเจ้านายพระองค์นี้อีกแล้ว เขามีชั่วโมงบินของการเป็นนักบินเอฟสามสิบห้า ของกองทัพรวมห้าพันแปดสิบห้าชั่วโมง ในจำนวนนี้ มีชั่วโมงของการทำหน้าที่นักบินผู้ช่วย อยู่แปดร้อยแปดสิบสี่ชั่วโมงกับเครื่องบินรุ่นนี้

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status