Beranda / แฟนตาซี / อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย / ตอนที่ 4 เส้นทางบนเกลียวคลื่น

Share

ตอนที่ 4 เส้นทางบนเกลียวคลื่น

Penulis: Abyssgloom
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-24 20:45:06

เสียงคลื่นกระทบเรือไม้ดังสะท้อนในความมืดของมหาสมุทร ชายหนุ่มยืนพิงราวเรือ พลางทอดสายตามองเส้นขอบฟ้าที่ลับหายไปกับแสงดาว คืนนี้เงียบสงบ เหมาะกับการรับสายลมเย็นที่พัดผ่าน

ตอนแรกเขาตั้งใจจะอาศัยอยู่ที่ท่าเรือสักพักหนึ่ง แล้วค่อยออกเดินทางต่อ ท่าเรือนั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านเหล้าเสียงดัง ผู้คนเดินขวักไขว่ เหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่แล้วคำเชิญจากพ่อค้าก็เปลี่ยนความตั้งใจของเขา

พ่อค้าคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เขาขอติดเกวียนมาด้วย เมื่อเขาได้เห็นฝีมือการต่อสู้ของชายหนุ่มในระหว่างการเดินทาง พ่อค้าจึงเสนอค่าจ้างก้อนใหญ่เพื่อให้คุ้มกันสินค้าไปยังทวีปอื่น แม้ตอนแรกจะลังเล แต่เมื่อคิดถึงค่าตอบแทน  สวัสดิการที่ได้รับ แถมโอกาสเดินทางไกลที่เขาไม่เคยสัมผัส เขาจึงตอบรับข้อเสนอ

"ถึงตอนแรกจะไม่ชิน ทำให้เมาเรือก็เถอะ แต่พอปรับตัวได้ มันก็ไม่เลวเลย…." เขาพึมพำกับตัวเอง

กลุ่มผู้คุ้มกันที่พ่อค้าจ้างมาก่อนหน้านี้ได้สลายตัว แยกย้ายออกไปแล้ว เหลือเพียงเขาและพวกอีกไม่กี่คนที่ตัดสินใจเดินทางต่อ

เรือลำนี้ไม่ใหญ่นัก แต่ดูแข็งแรงพอที่จะฝ่ามหาสมุทร เขาเดินสำรวจดาดฟ้าเรืออย่างละเอียดเมื่อขึ้นมาเป็นครั้งแรก ลูกเรือที่นี่มีตั้งแต่คนหนุ่มสาวไปจนถึงชายแก่ผู้มีประสบการณ์ยาวนาน แต่ละคนดูมีเรื่องราวไม่ธรรมดา โดยเฉพาะกัปตันเรือ หญิงสาววัยกลางคนที่มีสายตาเฉียบคมและคำพูดเฉียบขาด

กัปตันเรือที่สังเกตุเห็นเขา ก็เดินเข้ามาหา ขณะที่ชายหนุ่มกำลังรับลมเย็นอยู่

"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าขึ้นเรืองั้นหรือ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

ชายหนุ่มหันมามองหน้ามองเธอ ก่อนตอบ "ใช่ครับ นี้เป็นครั้งแรก" เขาพยายามพูดให้ดูธรรมชาติที่สุด แต่ความไม่คุ้นชินทำให้ยังมีอาการเกร็งอยู่เล็กน้อย

กัปตันหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะยืนกอดอกพร้อมมองเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

"ฟังนะ ไอ้หนุ่ม การพูดสุภาพมันก็ดีอยู่หรอก แต่เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนคลาย และ กลมกลืนไปกับสิ่งที่รอบข้าง ลองพูดให้สบายๆ กับข้าดูสิ ไม่ต้องมากพิธีหรอก"

คำพูดของกัปตันทำให้เขาหยุดคิด ก่อนจะพยายามปรับตัว เขาพยักหน้าเล็กน้อย "เข้าใจแล้ว... ข้าจะลองดู" เขาตอบเสียงเรียบ แต่ดูเป็นกันเองมากขึ้น กัปตันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตบไหล่เขา

"ดีๆต้องแบบนี้สิ ตอนนี้ลมสงบดี แต่ระวังตกทะเลด้วยหล่ะ ยามค่ำคืนแบบนี้ จะไม่มีใครสังเกตุเห็น หากเจ้าหายตัวไปไหน จำไว้ให้ดี"เขาพยักหน้ารับ ก่อนที่กัปตันเรือจะลา กลับไปดูลูกน้องทำงานต่อ

ชายหนุ่มยังคงยืนอยู่ที่ราวเรือ เริ่มคุ้นเคยกับจังหวะชีวิตบนเรือ เสียงฝีพาย เสียงลมพัดผ่านใบเรือ และเสียงหัวเราะของเหล่าลูกเรือในยามพัก ทุกสิ่งนี้ล้วนทำให้เขานึกถึงความสงบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

เขาหยิบเหรียญทองที่พ่อค้าให้ออกมาดูเล่น นี่เป็นค่ามัดจำจากการเดินทางครั้งแรก หากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีก็คงดี

แต่แล้วความคิดของเขาก็วกกลับไปหาที่อดีตคู่หมั้นของตัวเอง ความเงียบของท้องทะเลยามค่ำคืนไม่อาจดับเสียงในหัวใจที่พลุ่งพล่าน ความเสียใจเริ่มก่อตัวขึ้นราวกับคลื่นที่กระทบเข้าหากันไม่หยุด

"นี่ก็ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้วที่ออกมา" เขาพึมพำเบาๆ ท่ามกลางเสียงคลื่นอันเยือกเย็น

สายตาของเขาจ้องมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ดูไกลเกินเอื้อม มือที่จับขอบเรือแน่นสั่นเล็กน้อย เขากลืนน้ำลายเหมือนพยายามกลบความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอก

“ดูจากที่ไม่มีปัญหาอะไร ยามที่ท่าเรือก็ไม่ได้พยายามหยุดเอาไว้...” เสียงแผ่วเบาของเขาเจือไปด้วยความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ในคำพูด ก่อนริมฝีปากจะแย้มรอยยิ้มบางๆ ที่เต็มไปด้วยความขมขื่น

“แสดงว่าเธอคงไม่สนใจกันแล้วจริงๆ”

เขาหลับตาลง สูดลมหายใจลึกเพื่อไล่ความรู้สึกแย่ๆออกไป แม้หัวใจจะยังคงหน่วงหนัก แต่เขาพยายามหาคำปลอบใจให้ตัวเอง

“ถ้าเธอไม่สนใจฉันแล้ว... ก็ไม่เป็นไร” เขาพูดออกมาเบาๆ เหมือนเป็นคำสาบานที่พยายามยึดมั่น

“ฉันก็ขอให้เธอเจอคนที่ดีกว่า... คนที่เหมาะสม และคู่ควรกับเธอ ไม่ใช่ฉัน”

เขาลืมตาขึ้น มองทะเลเบื้องหน้าที่กว้างใหญ่และมืดมิด รอยยิ้มของเขาค่อยๆอ่อนโยนขึ้น แม้แฝงความเศร้า แต่ก็มีแสงเล็กๆ ของความมุ่งมั่นอยู่ในนั้น

“สำหรับฉัน... ก็คงต้องเดินหน้าต่อไป อย่างน้อยก็เพื่อพิสูจน์ว่าการออกมาครั้งนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิด”

เขาพูดกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจกลับไปทีห้องพัก เพราะอากาศที่เริ่มหนาวเย็นยิ่งขึ้น

เรือค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน แสงจันทร์เริ่มถูกเมฆบดบังเล็กน้อย กลิ่นอายแปลกๆ ของลมทะเลเริ่มกรุ่นขึ้นเหมือนคำเตือนที่มองไม่เห็น

ทว่าเขาหารู้ไม่ว่า วันพรุ่งนี้ทะเลจะเปลี่ยนโฉมจากความสงบเป็นความบ้าคลั่ง พายุร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา คลื่นยักษ์ที่เหมือนอสูรกำลังรอท้าทายความมุ่งมั่นของเขาในเส้นทางการเดินทางครั้งนี้...

ยามเช้าหลังการจากไปของเขา ที่คฤหาสน์ยังคงเงียบสงบ แต่ความสงบนั้นกลับแฝงด้วยความอึดอัด หญิงรับใช้คนหนึ่งเดินเข้าไปในห้องของเขาเพื่อเรียกให้ไปทำหน้าที่ประจำวัน แต่สิ่งที่เธอพบกลับเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

บนโต๊ะเขียนหนังสือ มีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ หญิงรับใช้หยุดมอง ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา เนื้อหาในจดหมายสะท้อนถึงความทุกข์ที่เขาเผชิญ แรงกดดันที่เขาไม่อาจหลีกหนี และคำลาสั้นๆที่ส่งถึงคนสำคัญ

ทว่าจดหมายนี้ไม่ได้มีเพียงแค่คำอำลา มันยังมีหลักฐานที่เขาได้รวบรวมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น รายจ่ายที่ดูน่าสงสัย หรือหลักฐานบางอย่างที่สำคัญ ที่เชื่อมโยงถึงอำนาจเบื้องหลังการล่มสลายตระกูล

มันถูกซ่อนไว้เป็นข้อความลับ มีเพียงแค่อดีตคนรับใช้ในตระกูลเขาเท่านั้นที่อ่านออก แต่ตอนนี้ดูเหมือนหลักฐานที่ว่านั้นจะถึงทางตัน เขาจึงยอมแพ้ที่จะสืบต่อ

หญิงรับใช้แอบเก็บจดหมายนี้เอาไว้ เพราะตอนนี้คุณหนูไม่อยู่ แถมยังมีสายตามากมายจับจ้อง เธอจึงไม่สามารถส่งจดหมายฉบับนี้ให้ไปถึงมือคนรับได้

สามสัปดาห์ผ่านไป หญิงรับใช้ลังเลว่าจะเก็บจดหมายนี้ไว้เพื่อเปิดเผยความจริง หรือทำลายมันเพื่อปกป้องชีวิตประจำวันของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่เธอคิดจะเผาทิ้ง ภาพความเมตตาของอดีตตระกูลที่เธอเคยรับใช้ ก็ผุดขึ้นในใจ ความจริงควรถูกเปิดเผย แม้จะเสี่ยงเพียงใดก็ตาม

ในเช้าวันที่ยี่สิบเอ็ด เธอเก็บจดหมายใส่กระเป๋าใบเล็ก และ แจ้งหัวหน้าคนรับใช้ว่าจะลาออกเพื่อกลับไปดูแลครอบครัว หัวหน้าคนรับใช้ไม่ซักถาม ทำให้เธอออกจากคฤหาสน์ได้อย่างง่ายดาย

ก่อนออกจากเขตคฤหาสน์ เธอหยุดยืนที่สวนกุหลาบ มุมสงบที่เขาเคยทำงานเป็นประจำ ความทรงจำทั้งดีและร้ายหลั่งไหลเข้ามา เธอพึมพำเบาๆแต่หนักแน่นว่า

“ฉันจะไม่ยอมให้ความจริงถูกลบหายไป” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เมื่อเธอก้าวออกจากประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ความกลัว และ ความหวังปะปนในใจ เธอรู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้จะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เธอเลือกที่จะก้าวต่อไป

“จดหมายฉบับนี้จะต้องไม่สูญเปล่า...” เธอคิดในใจ พลางมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง เมืองที่ผู้รับจดหมายอาศัยอยู่ การเดินทางครั้งนี้อาจเปลี่ยนชะตากรรมของเธอและทุกคนที่เกี่ยวข้องไปตลอดกาล

Bab terkait

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 5 คลื่นคำรามแห่งความพินาศ

    เสียงคลื่นที่เคยไหลเอื่อยกลายเป็นเสียงคำรามก้องของทะเลที่บ้าคลั่ง ลมพายุพัดกระหน่ำจนใบเรือแทบขาดเป็นชิ้น เสากระโดงส่งเสียงลั่นประหนึ่งจะหักสะบั้นลงได้ทุกเมื่อ ลูกเรือบนดาดฟ้าวิ่งวุ่นพยายามยึดเชือกและควบคุมเรือไม่ให้พลิกคว่ำเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงผิวหนัง ท้องฟ้าสีดำทะมึนตัดกับแสงฟ้าผ่าที่วูบวาบ ทุกครั้งที่แสงปรากฏ มันเผยให้เห็นใบหน้าของลูกเรือที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง “เร็วเข้า! ดึงเชือกให้แน่น!” กัปตันหญิงตะโกนลั่น แข่งกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังสนั่นเป็นระยะ เธอยืนอยู่กลางดาดฟ้าพร้อมกับมือที่ชี้นำทุกคนอย่างมั่นคงขณะที่ทุกอย่างกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วุ่ยวาย ชายหนุ่มจับราวเรือแน่นจนมือซีด ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ เห็นคลื่นยักษ์ลูกแล้วลูกเล่าพุ่งเข้าหาเรือ ดาดฟ้าที่เปียกชุ่มทำให้ทุกย่างก้าวลื่นไถลจนแทบจะยืนไม่อยู่ หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก ความกลัวและความหวังถูกบีบคั้นจนแทบจะขาดอากาศหายใจ ขณะที่เรือโคลงเคลงไปตามคลื่นยักษ์ แม้จะผ่านการเดินทางมาหลายวันแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ดวงตาของเขาสอดส่องไปยังลูกเรือคนอื่นที่พยายามอย่างสุดความสามารถ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-24
  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 6 ตำนานแห่งลีเวียธาน

    นานมาแล้ว ในยุคสมัยที่เทพเจ้ายังปกครองเหนือทุกสิ่ง ท้องทะเลทั้งหมดเป็นอาณาเขตของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่ง มันเป็นทั้งผู้พิทักษ์และผู้พิพากษาแห่งผืนน้ำ ชื่อของมันถูกจารึกลงในแผ่นหินโบราณ และเล่าขานด้วยความหวาดกลัว “ลีเวียธาน”ลีเวียธานคือร่างมหึมาแห่งเกลียวคลื่น ลำตัวยาวไร้ที่สิ้นสุดปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำสนิทเหมือนค่ำคืนไร้ดวงจันทร์ ดวงตาสีทองของมันส่องประกายราวกับเพลิงแห่งเทพเจ้าที่ไม่มีวันดับ ลมหายใจของมันสร้างพายุ ลำตัวของมันสร้างคลื่นยักษ์ที่สามารถกลืนกินทั้งทวีป ไม่มีสิ่งใดหนีพ้นจากเงื้อมมือของมันตามคำสั่งของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ลีเวียธานมีหน้าที่รักษาสมดุลของทะเล กำจัดสิ่งใดก็ตามที่อาจคุกคามความบริสุทธิ์แห่งผืนน้ำ มันเป็นทั้งผู้ปกป้องและผู้ทำลาย ท้องทะเลคืออาณาเขตของมัน และไม่มีผู้ใดกล้าล่วงล้ำแต่แล้วมนุษย์ก็สร้างเรือ ล่องเรือข้ามน่านน้ำด้วยความหยิ่งผยอง ลีเวียธานมองเห็นเรือใบเหล่านั้นเป็นดั่งสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเขตแดนของมัน มันพิโรธ พายุร้ายเกิดขึ้นจากหางที่สะบัดของมัน คลื่นยักษ์พัดเรือให้แตกเป็นเสี่ยงๆ นักเดินเรือมากมายจมหายสู่ก้นสมุทรพร้อมเสียงกรีดร้องที่ไม่มีผู้ใดได้ยินเทพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-24
  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 1 กุหลาบใต้สายลมหนาว

    เสียงกังวานของกระดิ่งทองหน้าคฤหาสน์วาเรนไฮม์ดังขึ้นท่ามกลางสายลมเย็นที่พัดผ่านสวนกุหลาบสีแดงสดชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่หน้าประตูใหญ่ ร่างกายในชุดคนรับใช้ฝึกหัดดูขัดกับท่วงท่าที่เคยสง่างามในอดีต ผมสีน้ำตาลที่เคยเรียบลื่นถูกลมพัดจนยุ่งเหยิง ใบหน้ามีร่องรอยอิดโรย จากการทำงานหนักตลอดเวลาที่ผ่านมา เสียงเข้มจากหัวหน้าคนรับใช้ดังขึ้นอย่างเย็นชา"เข้าไป อย่าให้คุณหนูแคทลีนรอนาน" พูดเสร็จ ชายคนนั้นก็เดินหายเข้าไปในมุมอาคาร เขาสูดลมหายใจลึก เตรียมตัวก่อนจะก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ที่ครั้งนึงมันเคยเป็นของเขาเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องรับรองหลัก แคทลีน วาเรนไฮม์ นั่งอยู่บนเก้าอี้ผ้าไหมสีงาช้าง มือเรียวของเธอกำลังถือแก้วน้ำชาพร้อมจิบเบาๆ เธอมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เคยเต็มไปด้วยความห่วงใย บัดนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเฉยชาดังเช่นทุกวัน"มาสายนะ" เธอเอ่ยเสียงเรียบเขาก้มศีรษะขอโทษ "ขออภัยครับคุณแคทลีน งานเมื่อคืนใช้เวลา ทำให้ตื่นสายครับ"แคทลีนเลิกคิ้ว "งานเมื่อคืน? ก็แค่กวาดพื้นหลังงานเลี้ยง ไม่ได้ไปสู้กับอะไรสักหน่อย ทำอะไรชักช้าไปได้"เธอวางแก้วชาลงบนโต๊ะ ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ทำท่าเห

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-24
  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 2 ใต้ฟ้ากว้างไร้กรอบจำกัด

    รุ่งอรุณตอนเช้าในคฤหาสน์แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านผ้าม่านผืนบาง หญิงสาวที่หลับไหลลืมตาตื่น เธอเริ่มต้นวันตามปกติด้วยการล้างหน้า ก่อนที่จะสวมชุดคลุมเรียบหรู แล้วเดินตรงไปที่หน้าต่างสนามฝึกด้านล่างเป็นสิ่งแรกที่เธอมองหา ดวงตาของเธอกวาดมองไปทั่วบริเวณ แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า—ไม่มีแม้แต่เงาของ อดีตคู่หมั้นของเธอเลยแม้แต่น้อยเธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำ“จะต้องให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งถึงจะทำตัวดีขึ้นเนี่ย...”น้ำเสียงของเธอเจือความเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองในทันทีอดีตคู่หมั้นของเธอ ที่ครั้งนึงเคยเป็นอัศวินผู้แข็งแกร่ง เปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีและความสามารถ แต่หลังจากตระกูลล่มสลาย สถานะของเขาก็ถูกลดทอนลง นับแต่นั้น เขาก็แสดงให้เห็นด้านที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น—ความเฉื่อยชา“เมื่อก่อนยังออกมาซ้อมอยู่ตลอดแท้ๆ หลังๆมานี้ทำตัวขี้เกียจขึ้นสิน่ะ”เธอบ่นเบาๆพลางนึกย้อนถึงช่วงแรกๆที่เขาถูกลดสถานะเลง ตอนนั้นชายหนุ่มยังคงตื่นแต่เช้ามาฝึกดาบอยู่เสมอ แต่ช่วงหลังๆมานี้... เธอแทบไม่เห็นภาพนั้นอีกแล้วเธอเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเล็กข้างเตียง หยิบปากกาและกระดาษขึ้นมา ก่อนจะเริ่มเขียนรายการที่ตั้งใจจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-24
  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 3 ความต้องการที่ลุ่มหลง

    ย่านกลางเมืองหลวงในคฤหาสน์ขุนนางของตระกูลวาเลนไฮน์แสงแดดอ่อนยามสายส่องผ่านม่านหน้าต่างหรูหราในห้องรับรองส่วนตัว หญิงสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนจดหมาย ใบหน้าของเธอเรียบเฉย แต่ในแววตากลับมีประกายแห่งความกังวลซ่อนเร้น เธอเพิ่งเปิดจดหมายฉบับล่าสุดจากหัวหน้าคนรับใช้ที่ติดตามคู่หมั้นของเธอ ข่าวลือในจดหมายชวนให้หัวใจหนักอึ้ง—เขายังคงใช้ชีวิตขาดความรับผิดชอบ ไม่ยอมฝึกฝน หรือทำงานใดๆ อย่างที่ควรจะเป็นเธอวางจดหมายลง ถอนหายใจยาว ความผิดหวังแทรกซึมในใจลึกยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ภาพความทรงจำในอดีตยังแจ่มชัด เธอเคยเห็นเขาเป็นอัศวินผู้เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรี ฝีมือดาบที่เฉียบคมและสายตาที่มุ่งมั่น วันนี้ทุกอย่างนั้นกลายเป็นเงาจางๆ คนที่เธอเคยศรัทธาดูเหมือนจะหลงทาง ไม่มีแววตาแห่งการต่อสู้เหลืออยู่เลยเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเดินด้านนอก ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ องค์รัชทายาทลำดับที่สามก้าวเข้ามา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต่งแต้มบนใบหน้า ดวงตาของเขามีประกายแห่งความเหนือกว่า“ท่านหญิง” เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่เจือด้วยความมั่นใจที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เลยตั้งใจมาเยี่ยม”

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-24

Bab terbaru

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 6 ตำนานแห่งลีเวียธาน

    นานมาแล้ว ในยุคสมัยที่เทพเจ้ายังปกครองเหนือทุกสิ่ง ท้องทะเลทั้งหมดเป็นอาณาเขตของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่ง มันเป็นทั้งผู้พิทักษ์และผู้พิพากษาแห่งผืนน้ำ ชื่อของมันถูกจารึกลงในแผ่นหินโบราณ และเล่าขานด้วยความหวาดกลัว “ลีเวียธาน”ลีเวียธานคือร่างมหึมาแห่งเกลียวคลื่น ลำตัวยาวไร้ที่สิ้นสุดปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำสนิทเหมือนค่ำคืนไร้ดวงจันทร์ ดวงตาสีทองของมันส่องประกายราวกับเพลิงแห่งเทพเจ้าที่ไม่มีวันดับ ลมหายใจของมันสร้างพายุ ลำตัวของมันสร้างคลื่นยักษ์ที่สามารถกลืนกินทั้งทวีป ไม่มีสิ่งใดหนีพ้นจากเงื้อมมือของมันตามคำสั่งของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ลีเวียธานมีหน้าที่รักษาสมดุลของทะเล กำจัดสิ่งใดก็ตามที่อาจคุกคามความบริสุทธิ์แห่งผืนน้ำ มันเป็นทั้งผู้ปกป้องและผู้ทำลาย ท้องทะเลคืออาณาเขตของมัน และไม่มีผู้ใดกล้าล่วงล้ำแต่แล้วมนุษย์ก็สร้างเรือ ล่องเรือข้ามน่านน้ำด้วยความหยิ่งผยอง ลีเวียธานมองเห็นเรือใบเหล่านั้นเป็นดั่งสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเขตแดนของมัน มันพิโรธ พายุร้ายเกิดขึ้นจากหางที่สะบัดของมัน คลื่นยักษ์พัดเรือให้แตกเป็นเสี่ยงๆ นักเดินเรือมากมายจมหายสู่ก้นสมุทรพร้อมเสียงกรีดร้องที่ไม่มีผู้ใดได้ยินเทพ

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 5 คลื่นคำรามแห่งความพินาศ

    เสียงคลื่นที่เคยไหลเอื่อยกลายเป็นเสียงคำรามก้องของทะเลที่บ้าคลั่ง ลมพายุพัดกระหน่ำจนใบเรือแทบขาดเป็นชิ้น เสากระโดงส่งเสียงลั่นประหนึ่งจะหักสะบั้นลงได้ทุกเมื่อ ลูกเรือบนดาดฟ้าวิ่งวุ่นพยายามยึดเชือกและควบคุมเรือไม่ให้พลิกคว่ำเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงผิวหนัง ท้องฟ้าสีดำทะมึนตัดกับแสงฟ้าผ่าที่วูบวาบ ทุกครั้งที่แสงปรากฏ มันเผยให้เห็นใบหน้าของลูกเรือที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง “เร็วเข้า! ดึงเชือกให้แน่น!” กัปตันหญิงตะโกนลั่น แข่งกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังสนั่นเป็นระยะ เธอยืนอยู่กลางดาดฟ้าพร้อมกับมือที่ชี้นำทุกคนอย่างมั่นคงขณะที่ทุกอย่างกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วุ่ยวาย ชายหนุ่มจับราวเรือแน่นจนมือซีด ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ เห็นคลื่นยักษ์ลูกแล้วลูกเล่าพุ่งเข้าหาเรือ ดาดฟ้าที่เปียกชุ่มทำให้ทุกย่างก้าวลื่นไถลจนแทบจะยืนไม่อยู่ หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก ความกลัวและความหวังถูกบีบคั้นจนแทบจะขาดอากาศหายใจ ขณะที่เรือโคลงเคลงไปตามคลื่นยักษ์ แม้จะผ่านการเดินทางมาหลายวันแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ดวงตาของเขาสอดส่องไปยังลูกเรือคนอื่นที่พยายามอย่างสุดความสามารถ

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 4 เส้นทางบนเกลียวคลื่น

    เสียงคลื่นกระทบเรือไม้ดังสะท้อนในความมืดของมหาสมุทร ชายหนุ่มยืนพิงราวเรือ พลางทอดสายตามองเส้นขอบฟ้าที่ลับหายไปกับแสงดาว คืนนี้เงียบสงบ เหมาะกับการรับสายลมเย็นที่พัดผ่านตอนแรกเขาตั้งใจจะอาศัยอยู่ที่ท่าเรือสักพักหนึ่ง แล้วค่อยออกเดินทางต่อ ท่าเรือนั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านเหล้าเสียงดัง ผู้คนเดินขวักไขว่ เหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่แล้วคำเชิญจากพ่อค้าก็เปลี่ยนความตั้งใจของเขาพ่อค้าคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เขาขอติดเกวียนมาด้วย เมื่อเขาได้เห็นฝีมือการต่อสู้ของชายหนุ่มในระหว่างการเดินทาง พ่อค้าจึงเสนอค่าจ้างก้อนใหญ่เพื่อให้คุ้มกันสินค้าไปยังทวีปอื่น แม้ตอนแรกจะลังเล แต่เมื่อคิดถึงค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ แถมโอกาสเดินทางไกลที่เขาไม่เคยสัมผัส เขาจึงตอบรับข้อเสนอ"ถึงตอนแรกจะไม่ชิน ทำให้เมาเรือก็เถอะ แต่พอปรับตัวได้ มันก็ไม่เลวเลย…." เขาพึมพำกับตัวเองกลุ่มผู้คุ้มกันที่พ่อค้าจ้างมาก่อนหน้านี้ได้สลายตัว แยกย้ายออกไปแล้ว เหลือเพียงเขาและพวกอีกไม่กี่คนที่ตัดสินใจเดินทางต่อเรือลำนี้ไม่ใหญ่นัก แต่ดูแข็งแรงพอที่จะฝ่ามหาสมุทร เขาเดินสำรวจดาดฟ้าเรืออย่างละเอียดเมื่อขึ้นมาเป็นครั้งแรก ลูกเรื

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 3 ความต้องการที่ลุ่มหลง

    ย่านกลางเมืองหลวงในคฤหาสน์ขุนนางของตระกูลวาเลนไฮน์แสงแดดอ่อนยามสายส่องผ่านม่านหน้าต่างหรูหราในห้องรับรองส่วนตัว หญิงสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนจดหมาย ใบหน้าของเธอเรียบเฉย แต่ในแววตากลับมีประกายแห่งความกังวลซ่อนเร้น เธอเพิ่งเปิดจดหมายฉบับล่าสุดจากหัวหน้าคนรับใช้ที่ติดตามคู่หมั้นของเธอ ข่าวลือในจดหมายชวนให้หัวใจหนักอึ้ง—เขายังคงใช้ชีวิตขาดความรับผิดชอบ ไม่ยอมฝึกฝน หรือทำงานใดๆ อย่างที่ควรจะเป็นเธอวางจดหมายลง ถอนหายใจยาว ความผิดหวังแทรกซึมในใจลึกยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ภาพความทรงจำในอดีตยังแจ่มชัด เธอเคยเห็นเขาเป็นอัศวินผู้เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรี ฝีมือดาบที่เฉียบคมและสายตาที่มุ่งมั่น วันนี้ทุกอย่างนั้นกลายเป็นเงาจางๆ คนที่เธอเคยศรัทธาดูเหมือนจะหลงทาง ไม่มีแววตาแห่งการต่อสู้เหลืออยู่เลยเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเดินด้านนอก ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ องค์รัชทายาทลำดับที่สามก้าวเข้ามา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต่งแต้มบนใบหน้า ดวงตาของเขามีประกายแห่งความเหนือกว่า“ท่านหญิง” เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่เจือด้วยความมั่นใจที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เลยตั้งใจมาเยี่ยม”

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 2 ใต้ฟ้ากว้างไร้กรอบจำกัด

    รุ่งอรุณตอนเช้าในคฤหาสน์แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านผ้าม่านผืนบาง หญิงสาวที่หลับไหลลืมตาตื่น เธอเริ่มต้นวันตามปกติด้วยการล้างหน้า ก่อนที่จะสวมชุดคลุมเรียบหรู แล้วเดินตรงไปที่หน้าต่างสนามฝึกด้านล่างเป็นสิ่งแรกที่เธอมองหา ดวงตาของเธอกวาดมองไปทั่วบริเวณ แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า—ไม่มีแม้แต่เงาของ อดีตคู่หมั้นของเธอเลยแม้แต่น้อยเธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำ“จะต้องให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งถึงจะทำตัวดีขึ้นเนี่ย...”น้ำเสียงของเธอเจือความเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองในทันทีอดีตคู่หมั้นของเธอ ที่ครั้งนึงเคยเป็นอัศวินผู้แข็งแกร่ง เปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีและความสามารถ แต่หลังจากตระกูลล่มสลาย สถานะของเขาก็ถูกลดทอนลง นับแต่นั้น เขาก็แสดงให้เห็นด้านที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น—ความเฉื่อยชา“เมื่อก่อนยังออกมาซ้อมอยู่ตลอดแท้ๆ หลังๆมานี้ทำตัวขี้เกียจขึ้นสิน่ะ”เธอบ่นเบาๆพลางนึกย้อนถึงช่วงแรกๆที่เขาถูกลดสถานะเลง ตอนนั้นชายหนุ่มยังคงตื่นแต่เช้ามาฝึกดาบอยู่เสมอ แต่ช่วงหลังๆมานี้... เธอแทบไม่เห็นภาพนั้นอีกแล้วเธอเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเล็กข้างเตียง หยิบปากกาและกระดาษขึ้นมา ก่อนจะเริ่มเขียนรายการที่ตั้งใจจ

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 1 กุหลาบใต้สายลมหนาว

    เสียงกังวานของกระดิ่งทองหน้าคฤหาสน์วาเรนไฮม์ดังขึ้นท่ามกลางสายลมเย็นที่พัดผ่านสวนกุหลาบสีแดงสดชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่หน้าประตูใหญ่ ร่างกายในชุดคนรับใช้ฝึกหัดดูขัดกับท่วงท่าที่เคยสง่างามในอดีต ผมสีน้ำตาลที่เคยเรียบลื่นถูกลมพัดจนยุ่งเหยิง ใบหน้ามีร่องรอยอิดโรย จากการทำงานหนักตลอดเวลาที่ผ่านมา เสียงเข้มจากหัวหน้าคนรับใช้ดังขึ้นอย่างเย็นชา"เข้าไป อย่าให้คุณหนูแคทลีนรอนาน" พูดเสร็จ ชายคนนั้นก็เดินหายเข้าไปในมุมอาคาร เขาสูดลมหายใจลึก เตรียมตัวก่อนจะก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ที่ครั้งนึงมันเคยเป็นของเขาเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องรับรองหลัก แคทลีน วาเรนไฮม์ นั่งอยู่บนเก้าอี้ผ้าไหมสีงาช้าง มือเรียวของเธอกำลังถือแก้วน้ำชาพร้อมจิบเบาๆ เธอมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เคยเต็มไปด้วยความห่วงใย บัดนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเฉยชาดังเช่นทุกวัน"มาสายนะ" เธอเอ่ยเสียงเรียบเขาก้มศีรษะขอโทษ "ขออภัยครับคุณแคทลีน งานเมื่อคืนใช้เวลา ทำให้ตื่นสายครับ"แคทลีนเลิกคิ้ว "งานเมื่อคืน? ก็แค่กวาดพื้นหลังงานเลี้ยง ไม่ได้ไปสู้กับอะไรสักหน่อย ทำอะไรชักช้าไปได้"เธอวางแก้วชาลงบนโต๊ะ ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ทำท่าเห

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status