Accueil / รักโบราณ / องค์หญิงกาลกิณี / บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิด

Share

องค์หญิงกาลกิณี
องค์หญิงกาลกิณี
Auteur: วริษา

บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิด

last update Dernière mise à jour: 2025-01-21 20:56:14

บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิด

ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสลัวพายุพัดผ่านโคมไฟที่ห้อยทั่วตำหนักเริ่มสั่นไหวตามแรงลม เหล่านางกำนัลและขันทีที่ต่างพากันวิ่งไปทั่วตำหนัก เพราะบัดนี้ตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาสตรีที่ฮ่องเต้มอบความรักและความใส่ใจให้มากกว่าสตรีใดในวังหลวงเพราะความงามและกิริยาจิตใจของนางนั้นช่างงดงามราวกับใบหน้า ทำให้นางได้ตั้งครรภ์บุตรของฝ่าบาทที่ตอนนี้กำลังนอนเจ็บปวดอยู่ที่ตำหนักเป็นเวลานานหลายเพลา

ฝ่าบาทคิ้วขมวดใบหน้ากังวลเป็นกุ้ยเฟยที่นอนเจ็บปวดแต่ว่าเขานั้นช่วยอันใดนางมิได้

"นี่หมอหลวงกุ้ยเฟยเป็นเช่นใดบ้าง ตอนนี้บุตรของข้าถือกำเนิดรึยังเหตุใดข้าถึงไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย"

ฝ่าบาทยืนอยู่ประตูด้านนอกตะโกนถามเข้าไปเพราะเป็นกุ้ยเฟยเหลือเกิน

"ทูลฝ่าบาทเพคะ บัดนี้พระชายาหนิงฮวายังไม่ได้ให้กำเนิดเพคะ เพราะพระนางหมดแรงตอนนี้ทางท่านหมอกำลังเร่งช่วยพระนางอยู่เพคะ "

เสียงนางกำนัลที่ตอบกลับมาทำให้ฝ่าบาทรู้สึกร้อนรุ่มในใจมากกว่าเดิม ฝ่าบาทแทบนั่งไม่ติดเดินไปเดินมาไปทั่วหน้าตำหนัก

ทันใดนั้นเองก็มีขันทีประจำตัวของพระองค์ได้วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องร้ายมากราบทูลพะย่ะค่ะ'' ขันทีก้มตัวลงโค้งคำนับ

"มีเรื่องอันใด ตอนนี้ข้ายังไม่พร้อมที่จะฟังเจ้าก็รู้ว่าตอนนี้จิตใจของข้าเป็นห่วงพระชายาหนิงฮวาอยู่มิคลาย" ฮ่องเต้นั่งลงใช้มือกุมขมับคิ้วขมวด

"แต่ทว่าเรื่องนี้เองก็สำคัญกับฝ่าบาทนะพะย่ะค่ะ"

"เรื่องอันใดรีบบอกมาแล้วอย่ามากวนใจข้าอีก" ฮ่องเต้เบ่งเสียงตะละใบหน้าเคร่งเครียด

"องครักษ์ประจำตัวขององค์รัชทายาทได้มากราบทูลแจ้งต่อกระหม่อมว่าองค์รัชทายาทได้สิ้นพระชนม์แล้วพะย่ะค่ะ" ฝ่าบาทเมื่อได้ยินถึงกับไม่เชื่อหูตนเองดึงดาบจากทหารที่ยืนอยู่ตรงนั้นใส่คอของขันที ทำให้ขันทีตกใจกลัวจนทรุดลงนั่งกับพื้น

"เจ้าบังอาจนำเรื่องเช่นนี้มาพูดกับข้าได้อย่างไร องค์รัชทายาทมีพระวรกายที่แข็งแรง เจ้าช่างบังอาจนัก"

"กระหม่อมพูดเรื่องจริงนะพะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทได้ออกไปล่าสัตว์เมื่อสองวันก่อนกับองค์ชายสาม ระหว่างล่าสัตว์อยู่นั้นองค์รัชทายาทพบเจอสัตว์ใหญ่ทำให้พระองค์ต้องการมาครอบครองและเข้าไปตามล่าและคลาดกับองครักษ์และเหล่าทหารเข้าไปในป่าลึก เมื่อองครักษ์ไปพบองค์รัชทายาทก็ได้สิ้นพระชนม์ไปแล้ว หากพระองค์ไม่เชื่อกระหม่อมก็เข้าไปทูลถามองค์ชายสามได้พะย่ะค่ะ ตอนนี้ขบวนเสด็จขององค์รัชทายาทใกล้จะถึงวังหลวงแล้วพะย่ะค่ะ" สิ้นคำพูดของขันทีสั่นกลัวดาบที่อยู่บนคอ ฝ่าบาทก็รีบวิ่งออกไปด้วยจิตใจที่หวาดกลัว และไม่อยากที่จะเชื่อคำพูดของขันที

"เปรี้ยง!!."

ทันใดนั้นเองเสียงฟ้าก็ผ่าลงกลางวังหลวงเม็ดฝนโปรยลงมาราวกับแสดงความเสียใจต่อฝ่าบาทที่ได้สูญเสียพระอาทิตย์ดวงเล็กของใต้หล้า แต่ทว่าเมื่อเสียงฟ้าร้องนั้นก็มีเสียงกรีดร้องของพระชายาหนิงฮวาร้องขึ้นอย่างดัง ฝ่าบาทพะวงหน้าพะวงหลังแต่แล้วเขาก็เลือกที่จะเดินไปดูร่างขององค์รัชทายาท

เสียงเด็กก็ได้ร้องออกมาแข่งกับเสียงฝนที่โปรยลงมา

 

ท้องพระโรง

ฝ่าบาทเดินผ่าฝนมาหาองค์รัชทายาทเขาเองแทบทรุดเมื่อเปิดผ้าดูก็พบว่าร่างที่นอนอยู่นั้นคือบุตรชายสุดที่รักของเขาจริงๆ เหล่าทหารองครักษ์รวมถึงองค์ชายสามต่างพากันคุกเข่าต่อหน้าฝ่าบาท

"ท่านพ่อ ข้าดูแลองค์รัชทายาทไม่ดีเองทำให้พระองค์ต้องเจอกับสัตว์ร้ายเช่นนี้ ข้ามิได้ตั้งใจพระองค์โปรดลงโทษข้าเถิด เป็นเพราะข้า" องค์ชายสามร้องไห้ออกมาและตบใบหน้าของตนที่ไม่สามารถดูแลองค์รัชทายาทได้

"พระองค์โปรดลงโทษพวกกระหม่อมด้วยพะย่ะค่ะ" เหล่าทหารที่ร่วมขบวนเสด็จไปล่าสัตว์ต่างก้มหน้ารับความผิด

"ไม่จริง!!ไม่จริง ข้าไม่เชื่อองค์รัชทายาทเจ้าฟื้นสิ " บัดนี้ความเสียใจเจ็บปวดทำให้ฝ่าบาทสติขาดไม่เชื่อภาพที่อยู่ตรงหน้า เสียงร้องไห้ของฝ่าบาทระงมไปทั่ววังหลวง

ตำหนักหมิ่งซื่อ

แม่ของแผ่นดินหรือว่าฮองเฮาที่กำลังนั่งปักผ้าเช็ดหน้าให้แก่บุตรที่กำลังจะเกิดของกุ้ยเฟยหนิงฮวาด้วยความยินดี นางมีนิสัยที่อ่อนโยนจิตใจดีมีเมตตา เอ็นดูหนิงฮวาเป็นอย่างมาก มิเคยอิจฉาริษยาที่นางมาแย่งความรักของฝ่าบาทไปแม้แต่น้อย

"ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันว่าบัดนี้กุ้ยเฟยน่าจะคลอดบุตรมาแล้ว เสด็จไปดูกันมั้ยเพคะ " นางกำนัลคนสนิทได้เอ่ยขึ้น

"ข้าว่าก็ดีเช่นกัน ดูสิตอนนี้ข้าก็ได้ปักผ้าเสร็จพอดี " ฮองเฮาชูผ้าผืนเล็กขึ้นให้เหล่านางกำนัลดูด้วยรอยยิ้มปลิ่มสุข

"ช่างสวยเหลือเกินเพคะ"

ยังไม่ทันที่ฮองเฮาจะได้เสด็จออกจากตำหนัก ก็มีขันทีวิ่งแข่งกันความแรงของเม็ดฝนด้วยความเร่งรีบเข้ามาที่ตำหนักจนโดนฮองเฮาตำหนิเอา

"เจ้านี่อยู่ในวังหลวงมาตั้งนานหลายปีเหตุใดถึงทำตัวเช่นนี้ เสื้อผ้าของเจ้าก็เปียกไปด้วยน้ำฝน "

ฮองเฮาตำหนิขันทีที่ตอนนี้เหนื่อยหอบกับการวิ่งมาหาพระนาง

"กระหม่อมมีเรื่องเร่งด่วนมาทูลฮองเฮาพะย่ะค่ะ กระหม่อมขอให้อภัยที่ทำตัวเช่นนี้"

"มันมีอะไรสำคัญไปกว่าที่เจ้าทำตำหนักของข้าเปียกด้วยหรือเจ้าไปเปลี่ยนผ้าแล้วค่อยมาบอกข้าก็แล้วกัน"

"เรื่องนี้สำคัญมากพะย่ะค่ะ กระหม่อมมิอาจใจเย็นได้ "

ขันทียืนไม่นิ่งมีอาการร้อนรนจู่ๆ สักพักเขาก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นและร่ำไห้ออกมา

"เจ้าเป็นอันใดเหตุใดต้องร้องไห้ออกมาเช่นนี้"

"กระหม่อม กระหม่อมจะแจ้งต่อฮองเฮาบัดนี้องค์รัชทายาทได้สิ้นพระชนม์แล้วพะย่ะค่ะ " ขันทีก้มหน้าลงพื้นด้วยความรู้สึกเศร้าเสียใจ

ฮองเฮาเมื่อได้ยินคำพูดที่คิดไม่ถึง มือที่ถือผ้าได้ปล่อยลงอย่างหมดแรง

"เจ้าพูดเรื่องอันใด เจ้าโกหกข้าใช่หรือไม่ บอกข้ามาว่าเจ้าโกหก" ฮองเฮาทรุดตัวลงตรงหน้าของขันทีและถามเขาอีกครั้ง

"เรื่องจริงพะย่ะค่ะตอนนี้ร่างขององค์รัชทายาทอยู่ที่ท้องพระโรง " สิ้นเสียงที่เปล่งออกมาจากปากของขันทีฮองเฮาก็ได้ร้องกรี๊ดออกมาอย่างไม่เชื่อและเสียใจเป็นที่สุด

"กรี๊ด!! ไม่จริงข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ"

เหล่านางกำนัลที่รับใช้ฮองเฮาต่างพากันร้องไห้เสียใจที่บัดนี้ฮองเฮาได้เสียองค์รัชทายาทไป

"ฮองเฮาเพคะ ลุกขึ้นก่อนเถอะเพคะ" เสียงสั่นของนางกำนัลคนสนิทได้พยุงตัวของฮองเฮาให้ลุกขึ้น

"ข้าไม่เชื่อข้าจะไปดูให้เห็นกับตา องค์รัชทายาทมีร่างกายแข็งแรง จะเป็นอันใดได้อย่างไร เจ้ารีบพาข้าไปที่ท้องพระโรงที" เสียงสะอื้นไห้ไม่ยอมรับความจริงของฮองเฮาช่างเจ็บปวด น้ำตาไหลรินออกมาเป็นสายเลือด

นางกำนัลและขันทีจึงพากันนำขบวนเสด็จพาฮองเฮาไปที่ท้องพระโรงทันที เมื่อมาถึงท้องพระโรงฮองเฮาวิ่งเข้าไปดูร่างขององค์รัชทายาทที่นอนนิ่งผิวขาวเผือกไม่มีเลือดวิ่งในร่างกาย พระนางวิ่งเข้ามาสวมกอดทันที

"ไม่จริง องค์รัชทายาทเจ้าตื่นสิ ฝ่าบาทบอกหม่อมฉันสิเพคะว่าไม่ใช่เรื่องจริงองค์รัชทายาทนอนอยู่ใช่มั้ยเพคะ" ฮองเฮาหันไปหาฝ่าบาทที่นั่งอยู่ข้างๆ ร่างองค์รัชทายาท

"ข้าขอโทษฮองเฮาแต่บัดนี้เราได้เสียองค์รัชทายาทไปแล้วจริงๆ " น้ำเสียงแหบแห้งได้เปล่งออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจไม่ต่างอันใดกับฮองเฮา

"ไม่จริง ข้าไม่เชื่อลูกชายของข้าเป็นเด็กที่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก จะมาเสียชีวิตอย่างนี้ได้อย่างไร หรือว่าเจ้าดูแลองค์รัชทายาทไม่ดี" ฮองเฮาหันไปมององครักษ์อย่างตำหนิ

"กระหม่อมสมควรตายพะย่ะค่ะ เป็นกระหม่อมเองที่ดูแลองค์รัชทายาทไม่ดี ฮองเฮาลงโทษหม่อมฉันได้เลยพะย่ะค่ะ" องครักษ์ประจำตัวของได้ก้มลงสำนึกผิด ฮองเฮาเข้าไปตุบตีด้วยความช้ำใจ หากแต่นางก็โดนฝ่าบาทดึงแขนให้หยุดการกระทำเช่นนี้ไว้

"เหตุใดไม่เป็นเจ้า เหตุใดต้องเป็นลูกของข้าด้วย "

"หยุดเถิดฮองเฮา ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดขึ้น องค์รัชทายาทถูกสัตว์ป่าทำร้าย ไม่ใช่ความผิดขององครักษ์หรอกนะ"

"ฝ่าบาทท่านจะรู้อันใดเพคะ บุตรชายของข้าเพียงผู้เดียวที่เป็นดั่งชีวิตของข้าตอนนี้ได้จากข้าไปแล้ว แล้วเช่นนี้ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ฮื้อ ฮือ อึก..."

ฮองเฮาทรุดตัวลงร้องไห้ออกมาอย่างเสียสติ จิตใจแตกสลายโลกที่เคยสวยงามบัดนี้กลายเป็นมืดสนิท

ฝ่าบาทคว้าตัวฮองเฮามาสวมกอดเพื่อปลอบประโลม

"ข้าเองก็เสียใจไม่ต่างอันใดกับเจ้าหรอกนะฮองเฮา องค์รัชทายาทเป็นบุตรที่ข้ารักมากที่สุด ข้าเองก็เสียใจไม่น้อยเจ้าสงบสติอารมณ์เถิด"

ฝ่าบาทได้กอดฮองเฮาอยู่เช่นนั้นสักพักก็ได้มีขันทีของตำหนักกุ้ยเฟยวิ่งเข้ามาในท้องพระโรงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

 

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 2 สูญเสียคนรักถึง 2คน

    บทที่ 2 สูญเสียคนรักถึง 2คน"กระหม่อมขันทีจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวามีเรื่องมาแจ้งฝ่าบาทพะย่ะค่ะ" ขันทีก้มโค้งคำนับต่อฝ่าบาท พระองค์จึงปล่อยแขนออกจากตัวของฮองเฮา"มีเรื่องอันใด ""ตอนนี้พระชายาหนิงฮวาได้ถือกำเนิดองค์หญิงแล้วพะย่ะค่ะ หากแต่ว่าบัดนี้พระชายาเสียโลหิตไปมากทำให้กำลังใกล้จะขาดใจแล้วกระหม่อมเลยมาแจ้งให้ฝ่าบาทไปพบพระชายาก่อนที่จะสิ้นพระชนม์พะย่ะค่ะ" สิ้นเสียงของขันทีก็มีเสียงฟ้าผ่าลงมาเสียงดังทั่วทั้งใต้หล้า เหล่าเสนาบดีต่างพากันซุบซิบนินทาหรือว่าจะเกิดอาเพศขึ้นกับราชวงศ์ฝ่าบาทได้ยินดังนั้นก็รีบเสด็จไปที่ตำหนักของกุ้ยเฟยทันทีโดยไม่รอช้า ฮองเฮาที่นั่งร้องไห้อยู่ก็ช้ำใจหนักมากกว่าเดิมเหตุใดถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในวันเวลาเดียวกันเช่นนี้หวงกุ้ยเฟยที่เพิ่งรับรู้เรื่องราวก็รีบเสด็จมาที่ท้องพระโรงก็ได้มาพบกับบุตรชายตนเองที่ยืนอยู่ก็รีบตรงเข้าไปหาทันทีด้วยความเป็นห่วง"องค์ชายหลีเจียซินเจ้าเป็นใดอันหรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใดเมื่อรู้ว่าการออกล่าสัตว์ครั้งนี้เกิดเรื่องร้ายขึ้น ""ท่านแม่ลูกมิได้รับบาดเจ็บอันใดหรอกพะย่ะค่ะ แต่ลูกไร้ความสามารถที่ไม่สามารถปกป้อ

    Dernière mise à jour : 2025-01-21
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 3 ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่

    บทที่ 3 ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่เมื่อเรื่องเศร้าป่าวประกาศไปทั่วใต้แผ่นดินราชฎรจากพากันแต่งชุดสีขาวเพื่อไว้ทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจในครั้งนี้ส่งผลให้ก่อเกิดการประท้วงต่อต้านองค์หญิงหนิงเอ๋อ และกล่าวหาว่านางเป็นองค์หญิงที่มีดวงกาลกิณี ดวงซวยทำให้ใต้หล้าต้องเกิดการสูญเสีย เหล่าเสนบาดีมากมายพากันเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อหารือเรื่องนี้เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ชาวบ้านอยู่ไม่สุขและคอยมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงมิห่างหาย"ทูลฝ่าบาทกระหม่อมทราบดีว่าตอนนี้พระองค์ทรงโศกเศร้าเสียใจเพียงใด แต่ทว่าเรื่องขององค์หญิงหนิงเอ๋อนั้นมิอาจรอช้าได้ ราชฎรต่างพากันมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยเช่นไรพะย่ะค่ะ" เสนาบดีโม่อี้ฟานได้เอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนอยู่ในท้องพระโรงจนครบสิ้นฝ่าบาทเองก็ได้ครุ้นคิดพระองค์ไม่เชื่อว่าบุตรสาวของตนองค์หญิงที่ลืมตาดูโลกไม่ถึงเจ็ดวันจะเป็นภัยต่อบ้านเมืองได้"พวกเจ้าพูดเรื่องอันใดกัน บังอาจหมิ่นประมาทเบื้องบน องค์หญิงจะมีดวงเช่นนั้นได้อย่างไร ทหารหากชาวบ้านผู้ใดพูดถึงองค์หญิงหนิงเอ๋อในทางไม่ดีให้พวกเจ้าจัดการให้หมด " ฝ่าบาทด้วยความโมโหจึงสั่งทหารไปเช่นนั้น แต่ทว่าเหล่าเสนาบดีต่า

    Dernière mise à jour : 2025-01-21
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง

    บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง"เจ้าอุ้มองค์หญิงไว้หากข้ายังไม่กลับมาอย่าให้องค์หญิงกับผู้ใด" ฮองเฮามอบองค์หญิงให้นางกำนัลก่อนจะรีบเดินออกไปหาฝ่าบาทที่ท้องพระโรงทันทีเมื่อมาถึงก็พบว่าบัดนี้ฝ่าบาทเมามายสุราโดยมีหวงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างกาย"ฝ่าบาทพระองค์ทรงรับสั่งให้องค์หญิงไปอยู่นอกวังได้อย่างไรเพคะ" ฮองเฮาไม่รอช้ารีบถามสิ่งที่อยากรู้ทันที"ฮองเฮาไม่รู้สินะเพคะว่าตอนนี้นั้นข่าวลือที่ว่าองค์หญิงเป็นตัวซวยของวังหลวงคือเรื่องจริงและองค์รัชทายาทก็ต้องมาสิ้นพระชนม์ก็เพราะองค์หญิง หากว่าไม่มีองค์หญิงเรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือเพคะ หม่อมฉันว่าฝ่าบาททรงคิดดีแล้ว" หวงกุ้ยเฟยได้ตอบแทนฝ่าบาท"แล้วข้าได้เอ่ยถามเจ้าหรืออย่างไร เจ้าถึงได้เสนอหน้ามาตอบแทนฝ่าบาท การที่องค์รัชทายาทต้องมาสิ้นพระชนม์ข้าไม่เชื่อว่าเป็นดวงขององค์หญิง ฝ่าบาทท่านจะทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไรแค่นางสูญเสียมารดาก็มากเพียงพอแล้ว นี่ท่านจะทิ้งให้นางออกไปใช้ชีวิตอยู่ที่นอกวังจริงๆ หรือเพคะ ความรักของท่านที่มีต่อกุ้ยเฟยหนิงฮวาหายไปไหนหมด นี่คือองค์หญิงที่เกิดมาจากความรักของพระองค์นะเพคะ" ฮองเฮาตวาดใส่หวงกุ้ยเฟยก่อนจะหันมาถามความจริงกับฝ่าบาท"ฮ

    Dernière mise à jour : 2025-01-21
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 5 องค์หญิงตัวเล็ก

    บทที่ 5 องค์หญิงตัวเล็กชาวบ้านตางพากันเดินถอยห่าง และแม่ของเด็กหญิงก็ได้บอกกับฟางลี่เว่ย"ข้าเองก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก เจ้าเองก็ดูแลองค์หญิงให้ดีและอย่าพานางออกมาที่ตลาดอีก ข้าไม่อยากให้ลูกๆ ของข้าต้องมาเจ็บตัว" แม่นมวิ่งมาก็เห็นองค์หญิงหนิงเอ๋อกอดอยู่กับฟางลี่เว่ยสะอื้นไห้และสั่นกลัว"เกิดอันใดขึ้น เหตุใดองค์หญิงถึงได้ร้องไห้ออกมาเช่นนี้""นางถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายของเด็กหญิงผู้นั้นเจ้าค่ะ แถมองค์หญิงยังโดนทำร้ายอีกด้วยเราจะเอาอย่างไรกันดีเจ้าคะ"แม่นมกวาดตามองชาวบ้านที่ยืนมุงดูด้วยสายตาอาฆาตจนผู้คนกวาดกลัว"ต่อจากนี้หากมีผู้ใดกล้าทำร้ายองค์หญิงอีกข้าจะให้ทหารจับผู้นั้นไปลงโทษถึงองค์หญิงถูกเลี้ยงอยู่นอกวังแต่อย่างไรนางก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้หากผู้ใดกล้าทำร้ายก็เปรียบเสมือนดูหมิ่นเบื้องบนเช่นกัน" พูดจบแม่นมก็พยุงตัวขอหนิงเอ๋อลุกขึ้นเดินออกมาและกลับไปที่เรือนของตนอย่างโมโหเมื่อมาถึงที่เรือนองค์หญิงเอาแต่นิ่งเงียบจากที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเพียงลำพัง ทำให้แม่นมเป็นห่วงอย่างมาก นางจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับองค์หญิงองค์หญิงที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมหน้า

    Dernière mise à jour : 2025-01-21
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 6 ได้รับความรัก

    บทที่ 6 ได้รับความรักมาถึงเรือนหนิงเอ๋อกำลังเดินเข้าห้องของตนแต่ก็ต้องถูกองครักษ์หลิวขวางไว้ก่อน“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาขวางหน้าข้าเช่นนี้”“องค์หญิงข้าเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงคิดอันใดอยู่ถึงได้อยากจะรับนายโลมผู้นั้นมาอยู่ที่เรือนแห่งนี้”“มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า ข้าจะพาใครมาอยู่ที่นี่มันก็เรื่องของข้า ท่านแม่ส่งเจ้ามาคอยดูแลความปลอดภัยของข้า เรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องยุ่ง”“แต่ที่กระหม่อมเป็นห่วงองค์หญิงนะพะย่ะค่ะ องค์หญิงเพิ่งเจอชายผู้นี้เพียงค่ำคืนเดียวจะไว้ใจได้หรือพะย่ะค่ะ”“ข้ามิได้เกรงกลัวนักหรอก เจ้าคิดดูสิว่าชายที่ถูกซื้อตัวออกมาจากหอนายโลมจะสำนึกบุญคุญข้าแค่ไหน เจ้าไปพักผ่อนเสียเถอะไม่ต้องกังวลแทนข้า ข้ารู้สึกถูกชะตากับหางเฟิงเพื่อนในวัยของข้า ไหนจะแววตาที่ข้าคุ้นเคยไหนจะชื่อของเขาที่มีชื่อเดียวกับเพื่อนเพียงคนเดียวของข้า หากวันข้างหน้าหางเฟิงมีอันตรายต่อข้า ข้าจะจัดการเขาเอง” หนิงเอ๋อพูดจบองครักษ์หลิวก็ถอยหลังหลบให้หนิงเอ๋อเดินเข้าไปที่ห้องนอนของนางรุ่งสางของอีกวันแม่นมตื่นมาก็ได้เข้ามาที่ห้องของหนิงเอ๋อเพื่อบอกให้นางได้เตรียมตัว วันนี้ฮองเฮาจะเสด็จมาหานางที่เรือนแห่งนี้“องค์หญิ

    Dernière mise à jour : 2025-01-26
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 7 มารับกลับเรือน

    บทที่ 7 มารับกลับเรือนตำหนักหมิ่งซื่อนางกำนัลเหล่าขันทีกำลังเดินกันไปมาต้องเตรียมเนื้อผ้า และนำรายชื่ออาหารมาให้ฮองเฮาได้ตรวจดูว่าต้องการของสิ่งนี้หรือไม่ ฝ่าบาทได้สั่งให้ฮองเฮาดูแลและจัดการงานเลี้ยงครั้งนี้ ฮองเฮาจึงตั้งใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับงานเลี้ยงอย่างตั้งใจ ไม่นานฮองไทเฮาก็ได้เสด็จมาหาฮองเฮาที่ตำหนักหมิ่งซื่อแห่งนี้“ฮองไทเฮาเสด็จ” เสียงของขันทีได้ตะโกนบอกการมาในครั้งนี้ให้ทุกคนได้รับรู้ ฮองเฮากับเหล่าข้ารับใช้รีบตั้งขบวนเดินไปรับฮองไทเฮาที่หน้าตำหนัก“ถวายบังคมฮองไทเฮา” ฮองเฮาก้มโค้งคำนับเมื่อฮองไทเฮาเดินเข้ามาถึง“นี่เจ้ากำลังยุ่งอยู่สินะ เตรียมการไปถึงไหนแล้ว” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยและรอยย่นของใบหน้ากวาดตามองไปรอบตำหนัก“เชิญฮองไทเฮาเข้าไปนั่งในตำหนักก่อนเพคะ หม่อมฉันจะให้นางกำนัลยกน้ำชาให้เพคะ” พูดจบฮองไทเฮาก็ได้เดินเข้าไปนั่งด้านในตำหนักมองดูตำราและผ้าใหมมากมายที่กองอยู่ที่ห้องโถง“เจ้าคงทำงานหนักเลยสินะ เหตุใดเจ้าไม่ให้หวงกุ้ยเฟยมาช่วยงานเจ้าในครั้งนี้ด้วย”“หม่อมฉันพอทำได้เพคะ อีกอย่างหม่อมฉันชอบทำงานเพียงผู้เดียวมิชอบให้ผู้ใดมาช่วยหรอกเพคะ ขอบคุณในพระมหากรุณา

    Dernière mise à jour : 2025-01-26
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 8 เพื่อนวัยเด็กของข้า

    บทที่ 8 เพื่อนวัยเด็กของข้าหางเฟิ่งเดินเข้ามาที่ห้องโถงโค้งคำนับนายหญิงของตนเองทั้งคำนับหนิงเอ๋อที่มีพระคุณแม้นายหญิงยังไม่เอ่ยปากบอกการมาของหนิงเอ๋อเขาเองก็รู้ดีถึงเจตนาของนางที่นางมาครั้งนี้เพียงเพราะต้องการตัวของเขาไปอยู่ที่เรือนกับนาง“ผู้น้อยหางเฟิ่งมาแล้วขอรับ ไม่ทราบว่านายหญิงเรียกข้ามาพบมีเรื่องอันใดหรือขอรับ โอ๊ะ! สตรีผู้สูงส่งก็นั่งอยู่ที่นี่ด้วย ข้าขอเดาว่าคงมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นใช่มั้ยขอรับ”“หางเฟิ่งข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้าตอนนี้สตรีที่นั่งอยู่ต่อหน้าเจ้าคือผู้ที่มีพระคุณของเจ้า ต่อจากนี้เจ้าจะได้ออกไปใช้ชีวิตที่เจ้าต้องการ คำนับสตรีผู้นี้สิ” นายหญิงพูดจบหางเฟิ่งก็นั่งคุกเข้าลงเพื่อขอบคุณที่หนิงเอ๋อจะพาเขาออกจากที่นี่เดิมทีหางเฟิ่งมิได้อยากทำงานที่นี่แต่เพราะต้องการมีชีวิตอยู่รอดเขาจึงไม่สามารถเลือกงานที่จะทำได้ตอนเด็กวันที่เขาได้นัดพบเจอกับหนิงเอ๋อและไม่ได้ออกมาพบเจอนางนั้นก็เพราะว่าวันนั้นมารดาของเขาได้ลาลับจากโลกไปความโศกเศร้าเสียใจและความโดดเดี่ยวทั้งชีวิตของเขามีเพียงมารดาเท่านั้นที่เป็นที่พึ่ง เมื่อสิ้นที่พึ่งเขาเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งกอดร่างอันไร้ลมหายใจของมาร

    Dernière mise à jour : 2025-01-26
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 9 อย่าให้ข้าได้ร้าย

    บทที่ 9 อย่าให้ข้าได้ร้ายหางเฟิ่งได้ยิ่งกำหมัดแน่นเป็นเพราะเขาเองที่ไม่ได้มาร่ำลาก่อนจากไปเขาที่เฝ้าแต่ปวดร้าวคิดถึงมารดาที่ล่วงลับ เขาเองไม่รู้เลยว่านางจะเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ต่อจากนี้เขาเองจะเป็นคนมอบความสุขให้แก่นาง“องค์หญิงเชื่อใจกระหม่อมได้เลยพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเติมเต็มให้องค์หญิงเอง”“ไปกันเถอะนี่ก็ใกล้จะถึงเวลากินข้าวแล้ว เช้ารุ่งขึ้นข้ามีธุระที่ต้องเข้าวังหลวงเจ้ารอข้าอยู่ที่เรือนแห่งนี้ได้หรือไม่ หากมีผู้ใดกล้ารังแกหรือต่อว่าเจ้า เจ้าอย่าได้เกรงกลัวโปรดมาบอกแก่ข้า จะจัดการมันผู้นั้นเอง”“กระหม่อมมิกล้าหรอก กระหม่อมจะคอยองค์หญิงอยู่ที่เรือนอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวพะย่ะค่ะ”“เจ้าพูดกับข้าเหมือนปกติเถอะ ข้ามิใช่องค์หญิงที่สูงส่งอันใดเพียงแต่เป็นองค์หญิงที่ถูกเขี่ยทิ้งเท่านั้น”“ได้ขอรับ หากเป็นพระประสงค์ของท่าน” หนิงเอ๋อเดินนำไปที่เรือนกับหางเฟิ่ง ส่วนองครักษ์หลิวเมื่อกลับมาก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใดรุ่งเช้าของอีกวันหนิงเอ๋อแต่งชุดที่ฮองเฮานำมาให้จากวังหลวงเป็นชุดสีอ่อนหวานงดงาม แต่มันไม่ถูกใจหนิงเอ๋อหากนางแต่งกายเช่นนี้เข้าไปที่วังหลวงเกรงกลัวว่าทุกคนจะข่มนางได้ นางจึงให้ฟางลี่เว่

    Dernière mise à jour : 2025-01-26

Latest chapter

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 40 ข้ามีความสุขในทุกวัน (ตอนจบ)

    บทที่ 40 ข้ามีความสุขในทุกวัน สามปีต่อมาหลังจากวันนั้นที่หนิงเอ๋อคลอดและแม่ทัพเองก็ได้ออกจากกองทหารเพราะแขนที่ได้รับบาดเจ็บของเขาทำให้เขาไม่สามารถจับดาบได้อีก เขาจึงมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับหนิงเอ๋อและบุตรชายของเขาที่ทั้งดื้อทั้งซนแต่ก็เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ที่ดินที่ฮองเฮาเคยให้ไว้เขาเองก็จัดแจงทำเกษตรคอยให้ชาวบ้านที่เร่ร่อนช่วยกันทำมาหากินหากผู้ใดทำได้มากเขาก็มีผลตอบแทนให้อย่างมากเช่นกัน ทำให้แม่ทัพได้หันมาเป็นหัวหน้าค้าขายรายใหญ่หนิงเอ๋อวันนี้นางก็ได้มายืนที่บึงบัวเช่นเคยและยิ้มให้กับท้องฟ้าจนบุตรชายของนางได้สงสัยและวิ่งเข้ามาถาม"ท่านแม่ ท่านยิ้มให้ท้องฟ้าทุกวันข้าเองก็สงสัยว่าท่านยิ้มให้สิ่งใดข้าเห็นเพียงแค่ก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมาเท่านั้น" หนิงเอ๋อจึงนั่งลงและชี้ไปที่ก้อนเมฆให้บุตรของนางได้ดู"เฉี่ยวเปา เจ้าดูที่มือของเม่น่ะ นั้นคือท่านยายเป็นแม่นมของแม่ ส่วนนั้นฟางลี่เว่ยท่านป้าที่ใจดีที่สุด และอีกคนที่ส่งยิ้มมาให้เจ้าคือสหายที่ดีที่สุดของแม่ด้วยเช่นกัน" หนิงเอ๋อชี้เฉี่ยวเปาก็มองตาม เขาก็ยังไม่เห็นสิ่งใดอยู่ดีนอกจากก้อนเมฆ"ข้ายังไม่เห็นสิ่งใดเลย เห็นเพียงก่อนเมฆเท่านั้น""สองคน

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 39 ข้าจะมองดูท่านอยู่บนฟากฟ้า

    บทที่ 39 ข้าจะมองดูท่านอยู่บนฟากฟ้าหนิงเอ๋อเดินออกมาจากห้องของแม่ทัพด้วยหัวใจที่ปวดร้าว นางกลับไปหาหางเฟิ่งเขาเองมองนางออกว่าตอนนี้หัวใจของนางนั้นมีแม่ทัพอี้อยู่ในใจ"องค์หญิงเราออกไปเดินเล่นกันดีมั้ย วันนี้ข้างนอกอากาศแจ่มใสไม่ร้อนมากนัก" หางเฟิ่งอยากให้นางรู้สึกดีจึงชวนนางออกไปเดินเล่นกันหนิงเอ๋อพยักหน้าและเดินออกไปด้านนอกทุกคนที่นี่ต่างรู้ว่าหางเฟิ่งนั้นเป็นองครักษ์ของหนิงเอ๋อ จึงไม่มีผู้ใดสงสัย นางเดินมาเรื่อยๆ และหยุดที่บึงบัวเหม่อลอยมองไปด้านหน้า"ทรงคิดอะไรอยู่หรือพะย่ะค่ะ ""ข้ากำลังคิดว่าจะไปที่ใดดี ที่ที่ไม่มีองค์หญิงองค์ชายหรือฐานะใดข้าอยากไปอยู่ในที่ที่ทุกคนมีสถานนะเท่าเทียมกัน ในโลกที่ไม่มีความริษยาอิจฉาแย่งชิงหรืออำนาจ ข้าต้องการอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยความรักความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน ""โลกเช่นนั้คงไม่มีหรอกพะย่ะค่ะ ทุกคนบนโลกใบนี้ต่างก็เป็นคนที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีด้วยกันทุกคนอยู่ที่ว่าผู้ใดเลือกที่จะเป็นอย่างใดมากกว่า องค์หญิงอย่าทำเช่นบึ้งตึงเช่นนี้สิพะย่ะค่ะมองดูเมฆก้อนนู้นสิช่างเหมือนแม่นมกับฟางลี่เว่ยกำลังจ้องมองดูท่านอยู่เลย ช่วยยิ้มออกมาให้ท้ังสองคนดูสิพะย่ะ

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 38 เราทั้งสองหย่ากันเถอะ

    บทที่ 38 เราทั้งสองหย่ากันเถอะแม่ทัพอี้ควบม้าออกตามหาหนิงเอ๋ออย่างร้อนใจก็มาพบม้าสองตัวที่ถูกทิ้งอยู่กลางป่า เขาจึงสั่งทหารให้ตามหาหนิงเอ๋อกับใต้เท้าไป๋เดินได้ไม่นานทหารก็ตะโกนเรียกท่านแม่ทัพไปดูก็พบกับร่างของลูกน้องใต้เท้าไป๋เดินไปอีกสักพักก็พบใต้เท้าไป๋นอนจมกองเลือดและบาดแผลที่ไม่น่าดู จิตใจของแม่ทัพเริ่มสั่นไหวใจเต้นระรัว กลัวหนิงเอ๋อจะจากเขาไป เขาจึงรีบวิ่งตามหานางอย่างเป็นหวงแต่แล้วก็ต้องพบเข้ากับหนิงเอ๋อที่กำลังกอดแนบแน่นอยู่กับชายอื่น ความเป็นห่วงและความโมโหได้หล่อล้อมเข้าด้วยกันทำให้เขาโกรธและจะฆ่าชายผู้นั้นที่บังอาจมากอดภรรยาของเขา"เอามือออกจากนางเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะจัดการเจ้าให้สิ้นใจในครั้งเดียว" หางเฟิ่งตกใจเมื่อจู่ๆ โดนดาบจากที่ใดมาวางอยู่ที่คอ หนิงเอ๋อเห็นนางจึงรีบเข้าไปผลักแม่ทัพออก และนำตัวหางเฟิ่งไปใว้ด้านหลังนาง แม่ทัพเห็นก็รู้ในทันทีว่าชายผู้นี้ต้องมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับหนิงเอ๋อเป็นแน่"นี่เจ้ากล้ามาผลักสามีของเจ้าเพื่อช่วยชายผู้นี้หรือ""หากไม่มีเขาข้าเองก็ต้องตายไปแล้วด้วยน้ำมือของใต้เท้าไป๋ ข้าไม่ทางให้ท่านทำอันใดกับคนของข้าไม่ว่าท่านจะเป็นสามีของข้าก็

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 37 หนิงเอ๋อแก้แค้นให้ทุกคน

    บทที่ 37หนิงเอ๋อแก้แค้นให้ทุกคนใต้เท้าไป๋ได้พาหนิงเอ๋อหลบหนีโดยการนั่งม้า เมื่อมาถึงป่ารกเขาจึงทิ้งม้าไว้เพื่อเดินเข้าไปที่ป่าและจะหลบหนีโดยการขึ้นเรือหากเดินเข้าป่านี้ไปไม่นานก็ถึงท่าเรือ ทั้งสามคนก็ได้เดินเข้าป่ามาหนิงเอ๋อที่ตั้งครรภ์อยู่เมื่อเดินมาได้สักพักนางก็เหนื่อยหอบและขอให้แม่ทัพอี้ได้พักเสียก่อน"นี่ใต้เท้าข้าขอนั่งพักสักครู่ได้หรือไม่ ""เจ้านี่ช่างเป็นตัวปัญหาเสียจริง" ใต้เท้าไป๋ได้ดุด่าหนิงเอ๋อลูกน้องจึงได้ถาม"ท่านจะพาตัวนางไปด้วยทำไมหรือ ข้าว่าเราจัดการนางเสียจะดีกว่ามิเช่นนั้นพวกทหารจะตามเรามาทันนะขอรับ""อย่าพึ่ง! นางยังมีประโยชน์กับข้าอยู่ หากเรารอดพ้นจากทหารเมื่อนั้นค่อยจัดการนางทิ้ง เจ้าเองก็รีบนั่งพักซะจะได้รีบออกเดินทาง ข้าเองก็เจ็บแผลที่เจ้าสร้างมาเช่นกัน เอาอย่างนี้ดีมั้ยระหว่างที่เจ้าพักข้าจะขอเอาคืนแผลที่เจ้าแทงข้า แต่ข้าจะไม่แทงเจ้าด้วยมีดหรอกนะ ข้าจะแทงเจ้าด้วยแท่งร้อนของข้า ฮ่า ฮ่า เจ้าไปดูต้นทางหากมีผู้ใดน่าสงสัยก็รีบตะโกนบอกข้า " ใต้เท้าไป๋ใช้มือปาดริมฝีปากราวกับผู้ที่หิวกระหาย ทำให้หนิงเอ๋อรู้สึกไม่ปลอดภัยและเป็นห่วงบุตรเป็นอย่างมาก นางพยายามจะขยับกายหน

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 36 จับกบฎ

    บทที่ 36 จับกบฎ"ก็เพราะว่าองค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันมิใช่บุตรของข้าอย่างไรล่ะ" ฝ่าบาทเดินออกมาจากด้านหลังบัลลังก์และมานั่งอยู่บนบังลังก์ทำให้หวงกุ้ยเฟยและใต้เท้าไป๋ถึงกับหน้าซีด"เหตุใดฝ่าบาทถึงฟื้นขึ้นมาได้ แล้วฝ่าบาทเอาเรื่องใดมาพูดว่าองค์รัชทยาทไม่ใช่บุตรของท่านละเพคะ หากไม่ใช่บุตรของท่านจะเป็นบุตรของผู้ใด ใต้หล้ารู้ต่างว่าข้าเข้ามาในวังหลวงแห่งนี้ตั้งแต่หม่อมฉันยังไม่ตั้งครรภ์ " หวงกุ้ยเฟยรีบดินออกมาด้านหน้าและทูลถาม"หึ หึ จะให้ข้าพูดจริงๆ หรือหวงกุ้ยเฟย เอาล่ะหากเจ้าใคร่รู้ข้าเองก็จะบอกเจ้าเอง องค์รัชทยาทหรือองค์ชายหลีเจียซินมิใช่ลูกของข้าแต่เป็นลูกของเจ้ากับใต้เท้าไป๋ พวกเจ้ากำลังก่อกบฏจะยึดบัลลังก์และวางแผนที่จะโค้นบัลลังก์ทหารจับหวงกุ้ยเฟยและใต้เท้าไป๋เอาไว้ และต่อจากนี้องค์รัชทายาทองค์หญิงเสี่ยวหลงถูกปลดตำแหน่งและจับตัวทั้งสองคนมาที่ท้องพระโรงเดี๋ยวนี้" เมื่อสิ้นคำสั่งทหารก็รีบจับตัวของหวงกุ้ยเฟยแต่ใต้เท้าไป๋ยังไม่ยอมรับความจริงจึงได้ต่อลองกับฝ่าบาท"ท่านจะหาว่าข้าเป็นบิดาขององครัชทายาทได้อย่างไรอีกอย่างฝ่าบาทจะมากล่าวหากระหม่อมได้อย่างไร หากท่านไม่มีอันใดชี้แนะมาทางข้าว่าข้า

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 35 ก่อกบฎ

    บทที่ 35 ก่อกบฎฟางลี่เว่ยกำลังนำยาสมุนไพรที่ท่านหมอให้ไว้ต้มให้หนิงเอ๋อดื่มเพื่อบำรุงร่างกาย แม่ทัพอี้กำลังเดินเข้ามาที่ในห้องของหนิงเอ๋อ ก็แปลกใจเลยถามด้วยความเป็นห่วง"เจ้าไม่สบายตรงไหน ถึงได้มียาต้มมาวางอยู่ตรงนี้" แม่ทัพอี้นั่งลงที่เก้าอี้และถามหนิงเอ๋อที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา"ข้าสบายดี ไม่ทำให้ท่านต้องมาเป็นห่วงหรอกเพคะ เชิญไปพรอดรักอยู่กับพี่เสี่ยวหลงเถิดและเชิญท่านออกไปจากห้องของข้าได้แล้ว ข้าอยากพักผ่อน" แม่ทัพอี้ถึงกับหน้าถอดสี ไม่คิดเลยว่านางจะเห็นที่เขากับเสี่ยวหลง"เจ้าเห็นสินะ ""ข้าไม่ได้อยากดูหรอกนะ แค่บังเอิญเดินผ่านไปเห็นเท่านั้นออกไปได้แล้ว ฟางลี่เว่ยส่งท่านแม่ทัพแทนข้าที" หนิงเอ๋อลุกเดินเข้าไปในห้องนอน แม่ทัพก็ได้เดินตามเพื่ออธิบายความจริงให้นางฟัง"เดี๋ยวก่อนสิ มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าเห็นนะ ""ปล่อยเถอะเพคะ ต่อให้จะเป็นเหมือนที่ข้าเห็นหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวข้า อย่างไรในใจของท่านก็มีพี่เสี่ยวหลงทั้งใจ เอาอย่างนี้ดีมั้ยหากเรื่องราชวงศ์จบสิ้นเมื่อใด ข้ากับท่านจะหย่ากันทันที ท่านจะได้ไปพรอดรักอยู่กับท่านพี่เสี่ยวหลงอย่างเต็มที่" หนิงเอ๋อเองก็ไม่รู้เหตุใดถึงพูดเช่นนั้นออกไปราว

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 34 ฝ่าบาทฟื้นแล้ว

    บทที่ 34 ฝ่าบาทฟื้นแล้วแม่ทัพนั่งครุ้นคิดอยู่ทีห้องโถวเสี่ยวหลงเมื่อมาถึงนางก็ได้เข้าไปหาแม่ทัพและโอบกอดเขาจากด้านหลัง โดยไม่ได้ให้ทั้งตัวในตอนแรกแม่ทัพคิดว่าเป็นหนิงเอ๋อจึงแกล้งนาง"เกิดอันใดขึ้นกับคนอย่างเจ้าที่เมื่อก่อนเอาแต่ไล่ข้า หรือว่าใต้หล้าแห่งนี้ฝนฟ้าจะแล้งหึถึงได้เข้ามาหาข้าแถมยังโอบกอดข้าเช่นนี้" เมื่อเสียวหลงได้ยินนางก็โมโหเป็นอย่างมากและปล่อยมือออกจากกายของแม่ทัพและเอ่ยกับเขา"ผ่านไปแค่ไม่กี่คืนวันใจของท่านเปลี่ยนผันได้ถึงเพียงนี้เลยหรือเพคะ เยื้อใยที่ท่านมีต่อหม่อมฉันไม่เหลือแม้แต่น้อยเลยหรือ" เสี่ยวหลงน้ำตาไหลรินนางร้องไห้กระซิกๆ เพื่อให้แม่ทัพเห็นใจ"เจ้าเองหรือเสี่ยวหลง ใจข้ายังคงไม่ได้เปลี่ยนไปที่ใดแต่ตอนนี้ก็ไม่ได้มีเจ้าอยู่ในนี้อีกต่อไปเช่นกัน" แม่ทัพอี้พูดออกมาอย่างตัดเยื่อใยทำให้เสี่ยวหลงร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม"แล้วความรู้สึกของหม่อมฉันล่ะ ที่เฝ้ารักท่านมาตลอดเพียงแค่มีหนิงเอ๋อเข้ามาท่านก็เปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ แล้วที่ผ่านมาไม่มีค่าสำหรับท่านเลยหรืออย่างไร ""เสี่ยวหลงข้าเองก็เคยรักเจ้ามาก แม้ชีวิตก็ให้ได้แต่บัดนี้มันไม่เป็นเช่นดังเคย" แม่ทัพหันหลังให้เสี่ยวหลงเ

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 33 ฝีมือใค้เท้าไป๋

    บทที่ 33 ฝีมือใค้เท้าไป๋ใต้เท้าไป๋ได้มาหาหวงกุ้ยเฟยในยามรุ่งสาง อย่างร้อนใจ"นี่ท่านมาหาข้าแต่เช้าเช่นนี้มีเรื่องอะไร""ท่านรู้เรื่องแม่นมขององค์หญิงหนิงเอ๋อหรือไม่""ข้าไปดูมาแล้ว ผู้ใดกันนะที่ฆ่านาง ท่านรู้หรือไม่" หวงกุ้ยเฟยรู้ว่าเป็นฝีมือของใต้เท้าไป๋แต่ที่ถามเช่นนั้นเพราะอยากลองถาม"ข้าเองที่ทำกับนาง แต่ที่ข้าทำเพราะนางปากแข็ง เมื่อคืนเหล่าเสนบาดีฝ่ายฮองเฮาได้เข้าร่วมหารือกัน ข้ากลับไปจากตำหนักของท่านได้เห็นเข้า จึงตามนางไปเพื่อถาม แต่นางจงรักภักดีไม่ยอมแม้จะปริปากบอก ทำได้แม้กระทั่งกัดลิ้นตนเอง ข้าโมโหจึงได้สังหารนาง ท่านเองก็อย่านิ่งเฉย ตอนนี้พวกเราไม่อาจรู้ได้ว่าฮองเฮาทรงมีแผนอันใด เราต้องชิ่งทำให้องค์รัชาทยาทขึ้นครองบัลลังก์ในเร็ววัน เวลาที่ฮองไทเฮาพูดมานั้นมันเนินนานเกินไปข้าจะหาทางที่ทำให้ฮ่องเต้ไม่ฟื้นขึ้นมาได้อีกต่อไปและลาลับจากโลกนี้ในเร็ววัน เช่นนั้นเราก็ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด ส่วนเรื่องของแม่นมผู้นั้นเจ้าไม่ต้องกลัวไม่มีผู้ใดเห็นข้าเป็นแน่ และไม่มีทางที่จะจับตัวข้าได้" ใต้เท้าไป๋พูดออกมาอย่างมั่นใจ"ดีเช่นนั้นเราก็เร่งทำตามแผนกันเถอะ" หวงกุ้ยเฟยยิ้มมุมปากอย่างดีใจเมื่อ

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 32 ลางร้าย 

    บทที่ 32 ลางร้าย องครักษ์หลิวที่กำลังกลับจากตำหนักของฮ่องเต้ก็ได้เห็นใต้เท้าไป๋ที่กำลังเดินออกจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาอย่างเร่งรีบเขาจึงรีบเข้าไปด้านในเมื่อรู้สึกถึงอะไรที่แปลกไปและท่าทีที่เขากำลังจะหนีเหมือนทำอันใดผิด เขารีบเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าแม่นมนอนจมกองเลือดอยู่องครักษ์หลิวรีบเข้าไปใกล้และพยุงให้แม่นมลุกขึ้น"แม่นมเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ทำไมเลือดถึงเต็มตัวเช่นนี้" เขาใช้นิ้วแตะที่ชีพจรของแม่นมที่กำลังเต้นช้าลงเรื่อยๆ แม่นมฝืนลืมตาขึ้นมาแม้ลิ้นจะขาดแต่นางก็พยายามสื่อสารกับเขาอย่างเต็มที่"อือ " เสี่ยงที่เปล่งออกมาทำให้เขารู้ว่าแม่นมยังไม่สิ้นใจ เขาจึงพยุงแม่นมขึ้นเล็กน้อย"ท่านยังไม่ตาย ท่านช่วยแข็งใจไว้สักหน่อยข้าจะอุ้มท่านไปที่ตำหนักของฮองเฮาและให้หมอหลวงมารักษาท่าน ผู้ใดมาทำกับท่านเช่นนี้โปรดบอกข้า ข้าจะไปจัดการคนผู้นั้นเอง" แม่นมส่ายหน้าเมื่อรู้ว่าตนเองตอนนี้ก็แทบจะไหวหากเขาอุ้มนางไปกว่าจะถึงตำหนักซื่อหมิงนางก็สิ้นใจก่อนพอดี เขาเองตอนนี้ก็เจ็บปวดที่เห็นแม่นมกำลังหายใจโรยริน นางเป็นสตรีที่จิตใจดีและเมตตาเขามาตลอดไม่เคยคิดว่าเขาเป็นองครักษ์ต่อยต่ำแต่ทำเหมือนกับเขาเป็นคนในครอบ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status