หน้าหลัก / รักโบราณ / องค์หญิงกาลกิณี / บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง

แชร์

บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-21 20:57:26

บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง

"เจ้าอุ้มองค์หญิงไว้หากข้ายังไม่กลับมาอย่าให้องค์หญิงกับผู้ใด" ฮองเฮามอบองค์หญิงให้นางกำนัลก่อนจะรีบเดินออกไปหาฝ่าบาทที่ท้องพระโรงทันที

เมื่อมาถึงก็พบว่าบัดนี้ฝ่าบาทเมามายสุราโดยมีหวงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างกาย

"ฝ่าบาทพระองค์ทรงรับสั่งให้องค์หญิงไปอยู่นอกวังได้อย่างไรเพคะ" ฮองเฮาไม่รอช้ารีบถามสิ่งที่อยากรู้ทันที

"ฮองเฮาไม่รู้สินะเพคะว่าตอนนี้นั้นข่าวลือที่ว่าองค์หญิงเป็นตัวซวยของวังหลวงคือเรื่องจริงและองค์รัชทายาทก็ต้องมาสิ้นพระชนม์ก็เพราะองค์หญิง หากว่าไม่มีองค์หญิงเรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือเพคะ หม่อมฉันว่าฝ่าบาททรงคิดดีแล้ว" หวงกุ้ยเฟยได้ตอบแทนฝ่าบาท

"แล้วข้าได้เอ่ยถามเจ้าหรืออย่างไร เจ้าถึงได้เสนอหน้ามาตอบแทนฝ่าบาท การที่องค์รัชทายาทต้องมาสิ้นพระชนม์ข้าไม่เชื่อว่าเป็นดวงขององค์หญิง ฝ่าบาทท่านจะทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไรแค่นางสูญเสียมารดาก็มากเพียงพอแล้ว นี่ท่านจะทิ้งให้นางออกไปใช้ชีวิตอยู่ที่นอกวังจริงๆ หรือเพคะ ความรักของท่านที่มีต่อกุ้ยเฟยหนิงฮวาหายไปไหนหมด นี่คือองค์หญิงที่เกิดมาจากความรักของพระองค์นะเพคะ" ฮองเฮาตวาดใส่หวงกุ้ยเฟยก่อนจะหันมาถามความจริงกับฝ่าบาท

"ฮองเฮา!!เจ้าจะไปรู้อันใด ข้านะรักองค์หญิงมากเช่นกันแต่ท่านโหรหลวงบอกกับข้าว่านางมีดวงกาลกิณีหากอยู่ในวังหลวง ในภายภาคหน้าอาจจะเป็นเจ้าหรือข้าที่ต้องจากไป แล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นไร นี่คือคำสั่งของข้าและความรักที่ข้ามีให้องค์หญิง ให้นางไปเติบโตอยู่ข้างนอกเป็นเรื่องดีของทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นตัวขององค์หญิงเองหรือว่าราชวงศ์" ฝ่าบาทพูดจบก็ยกสุราเข้าปากหมดจอก เฮาฮองมองฝ่าบาทอย่างหมดความเชื่อถือ

"ข้าผิดหวังในตัวท่านจริงๆ" พูดจบฮองเฮาก็ได้เดินออกมาโดยไม่หันไปมองหวงกุ้ยเฟยที่ทำความเคารพนางอยู่

ฮองเฮาเดินทางตามขบวนมาส่งองค์หญิงที่ท้ายหมู่บ้านห่างไกลเมืองหลวงด้วยความเป็นห่วงใย ยังดีที่ฝ่าบาทยังทรงมีเมตตาส่งแม่นมและพระพี่เลี้ยงมาดูแลองค์หญิงหนิงเอ๋อด้วย นางกำนัลที่จงรักภักดีต่อกุ้ยเฟยหนิงฮวาก็ทูลขอตามออกมารับใช้องค์หญิงด้วยเช่นกัน

สภาพบ้านที่ฝ่าบาทประทานให้คือบ้านเกิดของหนิงฮวาเองเป็นบ้านของขุนนางเก่าที่ได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปแล้ว แม้จะดูหลังเล็กไม่เหมาะสมกับฐานะขององค์หญิงมากนักแต่ฮองเฮาก็มองว่าดีเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยของตัวองค์หญิงเอง ก่อนที่นางจะกลับวังหลวงได้กอดองค์หญิงด้วยความเป็นห่วง และได้กำชับแม่นมให้ดูแลองค์หญิงเป็นอย่างดี

"เจ้าต้องดูแลองค์หญิงเป็นอย่างดีเข้าใจหรือไม่ หากขาดตกบกพร่องอันใดให้เข้าไปหาข้าที่วังหลวง ส่วนเรื่องการกินอยู่เสื้อผ้าอาภรณ์พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะให้ทหารนำมาส่งให้เป็นประจำ"

"หม่อมฉันจะดูแลองค์หญิงให้ดีเพคะ ฮองเฮาไม่ต้องเป็นห่วง "

"ดีแล้ว พวกเจ้าต้องตระหนักไว้เสมอว่าองค์หญิงคือบุตรสาวของข้า เพราะนับตั้งแต่วันที่ข้าได้อุ้มนาง และได้รับปากกับร่างของหนิงฮวาว่าจะดูแลและให้ความรักกับนาง นั่นเปรียบเสมือนว่าข้ารับนางเป็นบุตรของข้า พวกเจ้าจำไว้ให้ดี "

"หม่อมฉันน้อมรับคำสั่งเพคะ" เหล่าแม่นมและนางกำนัลก็ได้โค้งตัวก้มลงรับคำสั่งของฮองเฮา นางอุ้มองค์หญิงหนิงเอ๋อที่หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราวกับชะตากรรมตนเองแถมยังส่งยิ้มหวานให้ฮองเฮาก่อนจากลาเสียด้วย

"หนิงเอ๋อเจ้าต้องเติบโตมาเป็นคนดีมีศีลธรรมและทำให้ผู้คนได้เห็นว่าเจ้ามิใช่องค์หญิงกาลกิณีเข้าใจหรือไม่ฮึ!เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่" ฮองเฮาพูดกับองค์หญิงก่อนที่นางจะคืนองค์หญิงให้แม่นมก่อนเสด็จกลับวัง ใจหนึ่งนางเองก็อยากจะอยู่ดูแลแต่ทว่าหน้าที่ที่หนักอึ้งและร่างขององค์รัชทายาทก็ยังคงอยู่ในวังหลวง แม้ว่าจะจะทูลขอฝ่าบาทเลี้ยงดูอยู่ในวังและตำหนักเดียวกัน นางก็มิอาจขัดคำสั่งของฝ่าบาทได้ นางจึงได้ปล่อยให้องค์หญิงไว้กับข้ารับใช้เช่นนี้

หนิงเอ๋อเมื่ออายุ 8ขวบ

"แม่นมเหตุใดข้าถึงไม่มีเพื่อนเช่นดั่งผู้อื่นบ้างล่ะ ข้าเหงาเหลือเกิน "

หนิงเอ๋อที่วันๆ เอาแต่นั่งขีดเขียนพื้นดินและพูดคุยเล่นอยู่กับพวกสัตว์น้อยๆ ที่วิ่งเข้ามาในเรือนของนาง

"เพราะว่าองค์หญิงมีพระวรกายที่ไม่เแข็งแรงเพคะ จึงไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นเช่นดั่งผู้อื่น หากองค์หญิงทรงเงียบเหงาเดี๋ยวหม่อมฉันจะทูลต่อฮองเฮาให้หาอาจารย์มาสอนองค์หญิงเพิ่มดีมั้ยเพคะ"

"ไม่เอาหรอก ทุกวันนี้ข้าเองก็เฝ้าอ่านแต่ตำราจนข้าท่องจำได้ขึ้นใจ แล้วทำไมแม่นมไม่ให้ข้าเข้าไปที่วังหลวงไปหาท่านแม่บ้างล่ะ ข้าคิดถึงท่านแม่เหลือเกิน "

"มิได้หรอกเพคะ ในวังหลวงมีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและผู้คนที่ใจร้ายมากมาย หากองค์หญิงเข้าไปที่วังหลวงหม่อมฉันเกรงว่าองค์หญิงจะถูกทำร้ายเอาได้ "

"แล้วทำไมท่านแม่ถึงอยู่ในวังหลวงได้ล่ะ ช่างไม่ยุติธรรมกับข้ายิ่งนัก"

แม่นมมองดูองค์หญิงตัวน้อยที่ช่างสงสัย นางก็สงสารจับใจ

"ฮองเฮามีพลังวิเศษเพคะ จึงสามารถอยู่ที่วังหลวงและคอยจัดการกับสัตว์ร้ายมิให้มาทำร้ายองค์หญิงได้ จึงพาองค์หญิงมาอยู่ที่ ที่ปลอดภัย หากวันใดองค์หญิงเติบโตขึ้นจะเข้าใจเองเพคะ "

"เฮ้อ!ข้าเบื่อจัง!!"

"งั้นเอาอย่างนี้ดีมั้ยเพคะวันนี้หม่อมฉันกับฟางลี่เว่ยจะเข้าไปที่ตลาดองค์หญิงอยากจะไปด้วยมั้ยเพคะ แต่องค์หญิงต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ดื้อไม่ซน "

แววตาลุกโซนดีใจขององค์หญิงก็ได้ยิ้มหวานให้แม่นมกระโดดวิ่งไปทั่วเรือนพร้อมตะโกนบอกทุกคนว่าตนเองจะได้ออกไปเที่ยวเล่นที่ตลาด เพราะตั้งแต่เกิดมานางมิเคยก้าวเท้าออกจากเรือนแม้แต่น้อย

"แม่นมท่านไม่กลัวว่าจะเกิดอันใดขึ้นกับองค์หญิงหรือเพคะ ข้าว่าเรามิควรให้องค์หญิงออกไปด้านนอกเลย หากฮองเฮารู้เข้าเราจะไม่ถูกทำโทษหรือเจ้าคะ" ฟางลี่เว่ยที่ได้ยินองค์หญิงตะโกนไปทั่วเรือนก็ได้เดินเข้ามาพูดกับแม่นมทันที

"หากเราไม่ได้เอ่ยชื่อองค์หญิงและไม่มีผู้ใดรู้ เรื่องร้ายก็คงไม่เกิดกับองค์หญิงหรอกนะ เจ้าดูสิว่าองค์หญิงดีใจแค่ไหน ข้าละสงสารองค์หญิงจริงๆ เกิดมาแม้แต่ความรักจากบิดายังไม่เคยจะได้รับ แถมยังต้องคอยหลบซ้อน พานางไปสักครั้งคงไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นมาหรอกกระมั่ง หากเป็นดั่งคำทำนายของโหรหลวงข้าว่าพวกเราคงอยู่ไม่ถึงทุกวันนี้เป็นแน่ เจ้าเองก็ไปเตรียมตัวเถิด" แม่นมได้บอกให้ฟางลี่เว่ยไปเตรียมตระกร้าใส่ของ

แม่นมไม่รู้เลยว่าการพาองค์หญิงออกไปที่ตลาดวันนี้จะทำองค์หญิงที่สดใสได้เปลี่ยนไปตลอดกาล

องค์หญิงเดินตามหลังแม่นมอย่างตื่นเต้นเมื่อเริ่มเดินมาถึงที่หมู่บ้านนางได้พบเห็นกับผู้คนมากมายรวมทั้งเด็กๆ ในวัยเดียวกันที่จับกลุ่มกันเล่นอยู่

นางจึงได้ดึงมือของฟางลี่เว่ยเพื่อถามด้วยความสงสัย

"นี่ๆ เหตุใดเด็กๆ พวกนั้นต้องเล่นด้วยกันหลายคนเช่นนั้น แล้วทำไมไม่มีผู้ใดเล่นกับข้าเช่นนี้บ้างล่ะ"

"ก็เพราะองค์หญิงมีเรือนที่ไกลกว่าผู้อื่นเพคะทำให้องค์หญิงไม่มีเพื่อน แต่พระองค์อย่าเศร้าพระทัยไปเลยนะเพคะ เพราะว่าหม่อมฉันจะเป็นเพื่อนเล่นขององค์หญิงเอง วันนี้หม่อมฉันจะซื้อลูกกวาดให้ องค์หญิงชอบมั้ยเพคะ?"

"0"

"จริงนะ ข้าชอบเจ้ามากที่สุดเลย"องค์หญิงจากที่หน้าบูดบึ้งกลับเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มทันที เมื่อได้ยินว่าจะได้ลูกกวาดแสนอร่อยที่หากินยากมากๆ

"เจ้าพาองค์หญิงไปซื้อลูกกวาดเถอะ ส่วนข้าจะเดินไปที่ร้านผ้าเสียหน่อย มาเจอกันอยู่ที่นี่แล้วอย่าให้องค์หญิงคลาดสายตาเชียวล่ะ"

"ได้เจ้าค่ะ เราไปกันเถอะเพคะ "ฟางลี่เว่ยพาองค์หญิงไปที่ร้านลูกกวาดและซื้อให้องค์หญิงเป็นจำนวนมาก องค์หญิงน้อยดีใจมากๆ และกำลังกินลูกกวาดแสนอร่อย ฟางลี่เว่ยเมื่อเดินผ่านร้านหมั่นโถวจึงจะซื้อให้องค์หญิงแต่ทว่าผู้คนยืนรอมากมายเหลือเกินนางจึงให้องค์หญิงยืนรออยู่ที่ข้างๆ ร้านสักครู่

"องค์หญิงเพคะ รอหม่อมฉันอยู่ตรงนี้สักครู่นะเพคะ หม่อมฉันจะไปซื้อหมั่นโถวมาให้ อย่าไปไหนนะเพคะ "

"ได้ๆ ข้าจะไม่ไปที่ใดเจ้าวางใจได้เลย ข้าจะกินลูกกวาดยืนรอเจ้าอยู่ตรงนี้"

เมื่อฟางลี่เว่ยยืนต่อแถวเพื่อซื้อหมั่นโถวหนิงเอ๋อก็มองเห็นเด็กๆ กลุ่มเดิมที่ยังเล่นกันอยู่นางจึงตัดสินใจนำลูกกวาดเพื่อที่จะมอบให้แก่เด็กๆ กลุ่มนี้เพื่อที่นางจะได้มีเพื่อนกับเขาบ้าง

"นี่พวกเจ้า เอาลูกกวาดมั้ยข้าให้"

"แล้วเจ้าเป็นใครถึงจะเอาลูกกวาดมาให้กับพวกเรา " หนึ่งในเด็กกลุ่มนั้นก็ได้ถามขึ้น

"ข้าเป็นองค์หญิงนะสิ พวกเจ้าไม่รู้จักหรือไง มาสิข้าจะให้คนละเม็ด" เด็กๆ ต่างพากันเดินเข้ามาหาหนิงเอ๋อ เพราะคิดว่านางพูดเล่นเพียงเท่านั้น เมื่อเด็กๆ ได้ลูกกวาดก็ได้ถามหนิงเอ๋อว่านางเป็นลูกของใต้เท้าบ้านใดเพราะเสื้อผ้าอาภรณ์ที่นางห่มมานั้นช่างแตกต่างจากชาวบ้านธรรมดา

"ว่าแต่เจ้าเป็นลูกของใต้เท้าบ้านใดกัน เหตุใดข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้าเลย"

"ข้าก็บอกเจ้าแล้วไง ว่าข้าคือองค์หญิง ชื่อของข้าคือองค์หญิงหนิงเอ๋อ บ้านของข้าอยู่ด้านหลังหมู่บ้านเข้าไปในป่าเล็กน้อยพวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไง " หนิงเอ๋อเมื่ออยากมีเพื่อนจึงบอกความจริงไปเพราะความยังทรงพระเยาว์แต่นางไม่รู้เลยว่าสิ่งที่นางพูดออกมานั้นจะทำให้เด็กๆ ต่างพากันเปลี่ยนสีหน้า

"ฮ่ะ!!เจ้าพูดเรื่องจริงหรือ"

"ก็ใช่นะสิ แม่นมของข้าสอนมาห้ามพูดโกหกมันเป็นสิ่งไม่ดี " เด็กๆ กลุ่มนั้นก็เริ่มเดินถอยหลังหนีหนิงเอ๋อ จนนางแปลกใจ

"พวกเจ้าจะไปไหน ไม่ไปเล่นที่บ้านของข้าหรือ"

"ไม่ ท่านแม่ของข้าเคยบอกว่าเรือนที่อยู่หลังหมู่บ้านนั้นเป็นบ้านขององค์หญิงตัวซวย องค์หญิงกาลกิณีหากผู้ใดอยู่ใกล้ก็จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เจ้าเอาลูกกวาดของเจ้าคืนไปแล้วอย่ามาใกล้พวกข้าอีก"

"ไม่นะ ข้าคือองค์หญิงที่แสนดีต่างหาก ข้าไม่เคยทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเลย "

"ไม่พวกเรากลัวเจ้า ออกไปเดี๋ยวนี้นะ " หนิงเอ๋อที่พยายามจะจับแขนเพื่อพูดให้เด็กๆ กลุ่มนี้ฟังว่านางมิใช่องค์หญิงตัวซวยแต่ทว่านางถูกตัวของเด็กหญิง เด็กคนนั้นกลัวมากถอยหลังไปโดนไม้ทำให้นางล้มลงและถูกไม้หล่นใส่หัวอีกที ทำให้ผู้คนแถวนั้นต่างพากันมามุงดู รวมถึงพ่อแม่ของเด็กด้วย

โคร้ม!!

"โอ๊ย!ฮื้อ ฮือ!!ท่านแม่ช่วยข้าด้วยข้าถูกองค์หญิงตัวซวยทำร้าย" เสียงร้องดังลั่นทำให้แม่ของเด็กวิ่งมาจับลูกตัวเอง

"เห็นมั้ยข้าบอกแล้วว่าเจ้าเป็นองค์หญิงตัวซวยมาทำให้ยี่หมางเจ็บตัว ออกไปเลยพวกเราไม่เล่นกับเจ้าหรอก" เด็กชายผลักตัวขององค์หญิงล้มลงและโยนลูกกวาดที่องค์หญิงมอบให้ใส่ตัวนาง

สายตาที่จับจ้องมาที่ตัวนางนั้นช่างน่ากลัว หนิงเอ๋อหวาดกลัวและร้องไห้ออก

"ไม่นะ ข้ายังไม่ได้ทำอันใดใครเลย อีกอย่างข้ามิใช่องค์หญิงตัวซวยสักหน่อย เมื่อครู่นางเดินหนีข้าและล้มไปเองแท้ ๆ เหตุใดถึงมาโทษข้า "เสียงสั่นสะอื้นเปล่งออกมา

"แต่เจ้าเป็นองค์หญิงกาลกิณีที่ทำให้มารดาของตนเองและองค์รัชทายาทต้องตาย ก็เพราะเจ้าออกไป ออกไป " ชาวบ้านเมื่อรู้ว่าเด็กผู้นี้คือองค์หญิงหนิงเอ๋อก็พากันขับไล่ ฟางลี่เว่ยที่ได้หมั่นโถวก็หันมาหาองค์หญิงก็ไม่เห็นนางกังวลวิ่งหาองค์หญิงไปจนทั่ว

จนกระทั่งได้ยินเสียงชาวบ้านมุงขับไล่และเรียกชื่อขององค์หญิงกาลกิณีจึงรีบเข้าไปดูก็พบว่าบัดนี้องค์หญิงนั่งตัวสั่นเทาร้องไห้ออกมาเนื้อตัวเต็มไปด้วยของที่ชาวบ้านโยนปาใส่นาง

"พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ "ฟางลี่เว่ยวิ่งเข้าไปกลางกลุ่มคนและจับตัวองค์หญิงให้ลุกขึ้น

'อึก อึก ฮื้อ ฮือ ฟางลี่เว่ย บอกพวกชาวบ้านให้ข้าทีว่าข้ามิใช่องค์หญิงตัวซวยหรือองค์กาลกิณี ข้ามิเคยทำให้ผู้ใดได้รับบาดเจ็บอีกอย่างท่านแม่ของข้าก็ยังคงอยู่ ท่านแม่ของข้าคือฮองเฮา ทำไมคนพวกนี้ต่อว่าข้าเป็นตัวซวยทำให้มารดาของข้าตาย บอกพวกเขาไปสิ " องค์หญิงสะอื้นไห้พูดเสียงขาดๆ หายๆ มือกำลูกกวาดที่หล่นดินไว้แน่น

ฟางลี่เว่ยก็ได้รู้ว่าองค์หญิงถูกจับได้ นางจึงตวาดใส่พวกชาวบ้านด้วยความคับแค้นใจ

"องค์หญิงของข้าไปทำอันใดให้พวกเจ้า ตั้งแต่องค์หญิงมาอยู่ที่นี่เคยเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นหรือไม่ก็ไม่เคย องค์หญิงยังทรงพระเยาว์เช่นนี้เหตุใดพวกเจ้าต้องทำร้ายนางด้วย หากผู้ใดกล้าทำนางอีกข้าจะทูลให้ฮองเฮามาจัดการพวกเจ้าให้หมดทุกคน"

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 5 องค์หญิงตัวเล็ก

    บทที่ 5 องค์หญิงตัวเล็กชาวบ้านตางพากันเดินถอยห่าง และแม่ของเด็กหญิงก็ได้บอกกับฟางลี่เว่ย"ข้าเองก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก เจ้าเองก็ดูแลองค์หญิงให้ดีและอย่าพานางออกมาที่ตลาดอีก ข้าไม่อยากให้ลูกๆ ของข้าต้องมาเจ็บตัว" แม่นมวิ่งมาก็เห็นองค์หญิงหนิงเอ๋อกอดอยู่กับฟางลี่เว่ยสะอื้นไห้และสั่นกลัว"เกิดอันใดขึ้น เหตุใดองค์หญิงถึงได้ร้องไห้ออกมาเช่นนี้""นางถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายของเด็กหญิงผู้นั้นเจ้าค่ะ แถมองค์หญิงยังโดนทำร้ายอีกด้วยเราจะเอาอย่างไรกันดีเจ้าคะ"แม่นมกวาดตามองชาวบ้านที่ยืนมุงดูด้วยสายตาอาฆาตจนผู้คนกวาดกลัว"ต่อจากนี้หากมีผู้ใดกล้าทำร้ายองค์หญิงอีกข้าจะให้ทหารจับผู้นั้นไปลงโทษถึงองค์หญิงถูกเลี้ยงอยู่นอกวังแต่อย่างไรนางก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้หากผู้ใดกล้าทำร้ายก็เปรียบเสมือนดูหมิ่นเบื้องบนเช่นกัน" พูดจบแม่นมก็พยุงตัวขอหนิงเอ๋อลุกขึ้นเดินออกมาและกลับไปที่เรือนของตนอย่างโมโหเมื่อมาถึงที่เรือนองค์หญิงเอาแต่นิ่งเงียบจากที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเพียงลำพัง ทำให้แม่นมเป็นห่วงอย่างมาก นางจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับองค์หญิงองค์หญิงที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิด

    บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิดภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสลัวพายุพัดผ่านโคมไฟที่ห้อยทั่วตำหนักเริ่มสั่นไหวตามแรงลม เหล่านางกำนัลและขันทีที่ต่างพากันวิ่งไปทั่วตำหนัก เพราะบัดนี้ตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาสตรีที่ฮ่องเต้มอบความรักและความใส่ใจให้มากกว่าสตรีใดในวังหลวงเพราะความงามและกิริยาจิตใจของนางนั้นช่างงดงามราวกับใบหน้า ทำให้นางได้ตั้งครรภ์บุตรของฝ่าบาทที่ตอนนี้กำลังนอนเจ็บปวดอยู่ที่ตำหนักเป็นเวลานานหลายเพลาฝ่าบาทคิ้วขมวดใบหน้ากังวลเป็นกุ้ยเฟยที่นอนเจ็บปวดแต่ว่าเขานั้นช่วยอันใดนางมิได้"นี่หมอหลวงกุ้ยเฟยเป็นเช่นใดบ้าง ตอนนี้บุตรของข้าถือกำเนิดรึยังเหตุใดข้าถึงไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย"ฝ่าบาทยืนอยู่ประตูด้านนอกตะโกนถามเข้าไปเพราะเป็นกุ้ยเฟยเหลือเกิน"ทูลฝ่าบาทเพคะ บัดนี้พระชายาหนิงฮวายังไม่ได้ให้กำเนิดเพคะ เพราะพระนางหมดแรงตอนนี้ทางท่านหมอกำลังเร่งช่วยพระนางอยู่เพคะ "เสียงนางกำนัลที่ตอบกลับมาทำให้ฝ่าบาทรู้สึกร้อนรุ่มในใจมากกว่าเดิม ฝ่าบาทแทบนั่งไม่ติดเดินไปเดินมาไปทั่วหน้าตำหนักทันใดนั้นเองก็มีขันทีประจำตัวของพระองค์ได้วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องร้ายมากร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 2 สูญเสียคนรักถึง 2คน

    บทที่ 2 สูญเสียคนรักถึง 2คน"กระหม่อมขันทีจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวามีเรื่องมาแจ้งฝ่าบาทพะย่ะค่ะ" ขันทีก้มโค้งคำนับต่อฝ่าบาท พระองค์จึงปล่อยแขนออกจากตัวของฮองเฮา"มีเรื่องอันใด ""ตอนนี้พระชายาหนิงฮวาได้ถือกำเนิดองค์หญิงแล้วพะย่ะค่ะ หากแต่ว่าบัดนี้พระชายาเสียโลหิตไปมากทำให้กำลังใกล้จะขาดใจแล้วกระหม่อมเลยมาแจ้งให้ฝ่าบาทไปพบพระชายาก่อนที่จะสิ้นพระชนม์พะย่ะค่ะ" สิ้นเสียงของขันทีก็มีเสียงฟ้าผ่าลงมาเสียงดังทั่วทั้งใต้หล้า เหล่าเสนาบดีต่างพากันซุบซิบนินทาหรือว่าจะเกิดอาเพศขึ้นกับราชวงศ์ฝ่าบาทได้ยินดังนั้นก็รีบเสด็จไปที่ตำหนักของกุ้ยเฟยทันทีโดยไม่รอช้า ฮองเฮาที่นั่งร้องไห้อยู่ก็ช้ำใจหนักมากกว่าเดิมเหตุใดถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในวันเวลาเดียวกันเช่นนี้หวงกุ้ยเฟยที่เพิ่งรับรู้เรื่องราวก็รีบเสด็จมาที่ท้องพระโรงก็ได้มาพบกับบุตรชายตนเองที่ยืนอยู่ก็รีบตรงเข้าไปหาทันทีด้วยความเป็นห่วง"องค์ชายหลีเจียซินเจ้าเป็นใดอันหรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใดเมื่อรู้ว่าการออกล่าสัตว์ครั้งนี้เกิดเรื่องร้ายขึ้น ""ท่านแม่ลูกมิได้รับบาดเจ็บอันใดหรอกพะย่ะค่ะ แต่ลูกไร้ความสามารถที่ไม่สามารถปกป้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21
  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 3 ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่

    บทที่ 3 ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่เมื่อเรื่องเศร้าป่าวประกาศไปทั่วใต้แผ่นดินราชฎรจากพากันแต่งชุดสีขาวเพื่อไว้ทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจในครั้งนี้ส่งผลให้ก่อเกิดการประท้วงต่อต้านองค์หญิงหนิงเอ๋อ และกล่าวหาว่านางเป็นองค์หญิงที่มีดวงกาลกิณี ดวงซวยทำให้ใต้หล้าต้องเกิดการสูญเสีย เหล่าเสนบาดีมากมายพากันเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อหารือเรื่องนี้เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ชาวบ้านอยู่ไม่สุขและคอยมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงมิห่างหาย"ทูลฝ่าบาทกระหม่อมทราบดีว่าตอนนี้พระองค์ทรงโศกเศร้าเสียใจเพียงใด แต่ทว่าเรื่องขององค์หญิงหนิงเอ๋อนั้นมิอาจรอช้าได้ ราชฎรต่างพากันมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยเช่นไรพะย่ะค่ะ" เสนาบดีโม่อี้ฟานได้เอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนอยู่ในท้องพระโรงจนครบสิ้นฝ่าบาทเองก็ได้ครุ้นคิดพระองค์ไม่เชื่อว่าบุตรสาวของตนองค์หญิงที่ลืมตาดูโลกไม่ถึงเจ็ดวันจะเป็นภัยต่อบ้านเมืองได้"พวกเจ้าพูดเรื่องอันใดกัน บังอาจหมิ่นประมาทเบื้องบน องค์หญิงจะมีดวงเช่นนั้นได้อย่างไร ทหารหากชาวบ้านผู้ใดพูดถึงองค์หญิงหนิงเอ๋อในทางไม่ดีให้พวกเจ้าจัดการให้หมด " ฝ่าบาทด้วยความโมโหจึงสั่งทหารไปเช่นนั้น แต่ทว่าเหล่าเสนาบดีต่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21

บทล่าสุด

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 5 องค์หญิงตัวเล็ก

    บทที่ 5 องค์หญิงตัวเล็กชาวบ้านตางพากันเดินถอยห่าง และแม่ของเด็กหญิงก็ได้บอกกับฟางลี่เว่ย"ข้าเองก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก เจ้าเองก็ดูแลองค์หญิงให้ดีและอย่าพานางออกมาที่ตลาดอีก ข้าไม่อยากให้ลูกๆ ของข้าต้องมาเจ็บตัว" แม่นมวิ่งมาก็เห็นองค์หญิงหนิงเอ๋อกอดอยู่กับฟางลี่เว่ยสะอื้นไห้และสั่นกลัว"เกิดอันใดขึ้น เหตุใดองค์หญิงถึงได้ร้องไห้ออกมาเช่นนี้""นางถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายของเด็กหญิงผู้นั้นเจ้าค่ะ แถมองค์หญิงยังโดนทำร้ายอีกด้วยเราจะเอาอย่างไรกันดีเจ้าคะ"แม่นมกวาดตามองชาวบ้านที่ยืนมุงดูด้วยสายตาอาฆาตจนผู้คนกวาดกลัว"ต่อจากนี้หากมีผู้ใดกล้าทำร้ายองค์หญิงอีกข้าจะให้ทหารจับผู้นั้นไปลงโทษถึงองค์หญิงถูกเลี้ยงอยู่นอกวังแต่อย่างไรนางก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้หากผู้ใดกล้าทำร้ายก็เปรียบเสมือนดูหมิ่นเบื้องบนเช่นกัน" พูดจบแม่นมก็พยุงตัวขอหนิงเอ๋อลุกขึ้นเดินออกมาและกลับไปที่เรือนของตนอย่างโมโหเมื่อมาถึงที่เรือนองค์หญิงเอาแต่นิ่งเงียบจากที่เคยยิ้มแย้มแจ่มใสก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเพียงลำพัง ทำให้แม่นมเป็นห่วงอย่างมาก นางจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับองค์หญิงองค์หญิงที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมหน้า

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง

    บทที่ 4 เติบโตนอกวังหลวง"เจ้าอุ้มองค์หญิงไว้หากข้ายังไม่กลับมาอย่าให้องค์หญิงกับผู้ใด" ฮองเฮามอบองค์หญิงให้นางกำนัลก่อนจะรีบเดินออกไปหาฝ่าบาทที่ท้องพระโรงทันทีเมื่อมาถึงก็พบว่าบัดนี้ฝ่าบาทเมามายสุราโดยมีหวงกุ้ยเฟยนั่งอยู่ข้างกาย"ฝ่าบาทพระองค์ทรงรับสั่งให้องค์หญิงไปอยู่นอกวังได้อย่างไรเพคะ" ฮองเฮาไม่รอช้ารีบถามสิ่งที่อยากรู้ทันที"ฮองเฮาไม่รู้สินะเพคะว่าตอนนี้นั้นข่าวลือที่ว่าองค์หญิงเป็นตัวซวยของวังหลวงคือเรื่องจริงและองค์รัชทายาทก็ต้องมาสิ้นพระชนม์ก็เพราะองค์หญิง หากว่าไม่มีองค์หญิงเรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือเพคะ หม่อมฉันว่าฝ่าบาททรงคิดดีแล้ว" หวงกุ้ยเฟยได้ตอบแทนฝ่าบาท"แล้วข้าได้เอ่ยถามเจ้าหรืออย่างไร เจ้าถึงได้เสนอหน้ามาตอบแทนฝ่าบาท การที่องค์รัชทายาทต้องมาสิ้นพระชนม์ข้าไม่เชื่อว่าเป็นดวงขององค์หญิง ฝ่าบาทท่านจะทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไรแค่นางสูญเสียมารดาก็มากเพียงพอแล้ว นี่ท่านจะทิ้งให้นางออกไปใช้ชีวิตอยู่ที่นอกวังจริงๆ หรือเพคะ ความรักของท่านที่มีต่อกุ้ยเฟยหนิงฮวาหายไปไหนหมด นี่คือองค์หญิงที่เกิดมาจากความรักของพระองค์นะเพคะ" ฮองเฮาตวาดใส่หวงกุ้ยเฟยก่อนจะหันมาถามความจริงกับฝ่าบาท"ฮ

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 3 ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่

    บทที่ 3 ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่เมื่อเรื่องเศร้าป่าวประกาศไปทั่วใต้แผ่นดินราชฎรจากพากันแต่งชุดสีขาวเพื่อไว้ทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจในครั้งนี้ส่งผลให้ก่อเกิดการประท้วงต่อต้านองค์หญิงหนิงเอ๋อ และกล่าวหาว่านางเป็นองค์หญิงที่มีดวงกาลกิณี ดวงซวยทำให้ใต้หล้าต้องเกิดการสูญเสีย เหล่าเสนบาดีมากมายพากันเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อหารือเรื่องนี้เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ชาวบ้านอยู่ไม่สุขและคอยมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงมิห่างหาย"ทูลฝ่าบาทกระหม่อมทราบดีว่าตอนนี้พระองค์ทรงโศกเศร้าเสียใจเพียงใด แต่ทว่าเรื่องขององค์หญิงหนิงเอ๋อนั้นมิอาจรอช้าได้ ราชฎรต่างพากันมาโวยวายอยู่หน้าวังหลวงฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยเช่นไรพะย่ะค่ะ" เสนาบดีโม่อี้ฟานได้เอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนอยู่ในท้องพระโรงจนครบสิ้นฝ่าบาทเองก็ได้ครุ้นคิดพระองค์ไม่เชื่อว่าบุตรสาวของตนองค์หญิงที่ลืมตาดูโลกไม่ถึงเจ็ดวันจะเป็นภัยต่อบ้านเมืองได้"พวกเจ้าพูดเรื่องอันใดกัน บังอาจหมิ่นประมาทเบื้องบน องค์หญิงจะมีดวงเช่นนั้นได้อย่างไร ทหารหากชาวบ้านผู้ใดพูดถึงองค์หญิงหนิงเอ๋อในทางไม่ดีให้พวกเจ้าจัดการให้หมด " ฝ่าบาทด้วยความโมโหจึงสั่งทหารไปเช่นนั้น แต่ทว่าเหล่าเสนาบดีต่า

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 2 สูญเสียคนรักถึง 2คน

    บทที่ 2 สูญเสียคนรักถึง 2คน"กระหม่อมขันทีจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวามีเรื่องมาแจ้งฝ่าบาทพะย่ะค่ะ" ขันทีก้มโค้งคำนับต่อฝ่าบาท พระองค์จึงปล่อยแขนออกจากตัวของฮองเฮา"มีเรื่องอันใด ""ตอนนี้พระชายาหนิงฮวาได้ถือกำเนิดองค์หญิงแล้วพะย่ะค่ะ หากแต่ว่าบัดนี้พระชายาเสียโลหิตไปมากทำให้กำลังใกล้จะขาดใจแล้วกระหม่อมเลยมาแจ้งให้ฝ่าบาทไปพบพระชายาก่อนที่จะสิ้นพระชนม์พะย่ะค่ะ" สิ้นเสียงของขันทีก็มีเสียงฟ้าผ่าลงมาเสียงดังทั่วทั้งใต้หล้า เหล่าเสนาบดีต่างพากันซุบซิบนินทาหรือว่าจะเกิดอาเพศขึ้นกับราชวงศ์ฝ่าบาทได้ยินดังนั้นก็รีบเสด็จไปที่ตำหนักของกุ้ยเฟยทันทีโดยไม่รอช้า ฮองเฮาที่นั่งร้องไห้อยู่ก็ช้ำใจหนักมากกว่าเดิมเหตุใดถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในวันเวลาเดียวกันเช่นนี้หวงกุ้ยเฟยที่เพิ่งรับรู้เรื่องราวก็รีบเสด็จมาที่ท้องพระโรงก็ได้มาพบกับบุตรชายตนเองที่ยืนอยู่ก็รีบตรงเข้าไปหาทันทีด้วยความเป็นห่วง"องค์ชายหลีเจียซินเจ้าเป็นใดอันหรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใดเมื่อรู้ว่าการออกล่าสัตว์ครั้งนี้เกิดเรื่องร้ายขึ้น ""ท่านแม่ลูกมิได้รับบาดเจ็บอันใดหรอกพะย่ะค่ะ แต่ลูกไร้ความสามารถที่ไม่สามารถปกป้อ

  • องค์หญิงกาลกิณี   บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิด

    บทที่ 1 องค์หญิงกาลกิณีถือกำเนิดภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสลัวพายุพัดผ่านโคมไฟที่ห้อยทั่วตำหนักเริ่มสั่นไหวตามแรงลม เหล่านางกำนัลและขันทีที่ต่างพากันวิ่งไปทั่วตำหนัก เพราะบัดนี้ตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาสตรีที่ฮ่องเต้มอบความรักและความใส่ใจให้มากกว่าสตรีใดในวังหลวงเพราะความงามและกิริยาจิตใจของนางนั้นช่างงดงามราวกับใบหน้า ทำให้นางได้ตั้งครรภ์บุตรของฝ่าบาทที่ตอนนี้กำลังนอนเจ็บปวดอยู่ที่ตำหนักเป็นเวลานานหลายเพลาฝ่าบาทคิ้วขมวดใบหน้ากังวลเป็นกุ้ยเฟยที่นอนเจ็บปวดแต่ว่าเขานั้นช่วยอันใดนางมิได้"นี่หมอหลวงกุ้ยเฟยเป็นเช่นใดบ้าง ตอนนี้บุตรของข้าถือกำเนิดรึยังเหตุใดข้าถึงไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย"ฝ่าบาทยืนอยู่ประตูด้านนอกตะโกนถามเข้าไปเพราะเป็นกุ้ยเฟยเหลือเกิน"ทูลฝ่าบาทเพคะ บัดนี้พระชายาหนิงฮวายังไม่ได้ให้กำเนิดเพคะ เพราะพระนางหมดแรงตอนนี้ทางท่านหมอกำลังเร่งช่วยพระนางอยู่เพคะ "เสียงนางกำนัลที่ตอบกลับมาทำให้ฝ่าบาทรู้สึกร้อนรุ่มในใจมากกว่าเดิม ฝ่าบาทแทบนั่งไม่ติดเดินไปเดินมาไปทั่วหน้าตำหนักทันใดนั้นเองก็มีขันทีประจำตัวของพระองค์ได้วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องร้ายมากร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status