บทที่ 8 เพื่อนวัยเด็กของข้าหางเฟิ่งเดินเข้ามาที่ห้องโถงโค้งคำนับนายหญิงของตนเองทั้งคำนับหนิงเอ๋อที่มีพระคุณแม้นายหญิงยังไม่เอ่ยปากบอกการมาของหนิงเอ๋อเขาเองก็รู้ดีถึงเจตนาของนางที่นางมาครั้งนี้เพียงเพราะต้องการตัวของเขาไปอยู่ที่เรือนกับนาง“ผู้น้อยหางเฟิ่งมาแล้วขอรับ ไม่ทราบว่านายหญิงเรียกข้ามาพบมีเรื่องอันใดหรือขอรับ โอ๊ะ! สตรีผู้สูงส่งก็นั่งอยู่ที่นี่ด้วย ข้าขอเดาว่าคงมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นใช่มั้ยขอรับ”“หางเฟิ่งข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้าตอนนี้สตรีที่นั่งอยู่ต่อหน้าเจ้าคือผู้ที่มีพระคุณของเจ้า ต่อจากนี้เจ้าจะได้ออกไปใช้ชีวิตที่เจ้าต้องการ คำนับสตรีผู้นี้สิ” นายหญิงพูดจบหางเฟิ่งก็นั่งคุกเข้าลงเพื่อขอบคุณที่หนิงเอ๋อจะพาเขาออกจากที่นี่เดิมทีหางเฟิ่งมิได้อยากทำงานที่นี่แต่เพราะต้องการมีชีวิตอยู่รอดเขาจึงไม่สามารถเลือกงานที่จะทำได้ตอนเด็กวันที่เขาได้นัดพบเจอกับหนิงเอ๋อและไม่ได้ออกมาพบเจอนางนั้นก็เพราะว่าวันนั้นมารดาของเขาได้ลาลับจากโลกไปความโศกเศร้าเสียใจและความโดดเดี่ยวทั้งชีวิตของเขามีเพียงมารดาเท่านั้นที่เป็นที่พึ่ง เมื่อสิ้นที่พึ่งเขาเองก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งกอดร่างอันไร้ลมหายใจของมาร
บทที่ 9 อย่าให้ข้าได้ร้ายหางเฟิ่งได้ยิ่งกำหมัดแน่นเป็นเพราะเขาเองที่ไม่ได้มาร่ำลาก่อนจากไปเขาที่เฝ้าแต่ปวดร้าวคิดถึงมารดาที่ล่วงลับ เขาเองไม่รู้เลยว่านางจะเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ต่อจากนี้เขาเองจะเป็นคนมอบความสุขให้แก่นาง“องค์หญิงเชื่อใจกระหม่อมได้เลยพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเติมเต็มให้องค์หญิงเอง”“ไปกันเถอะนี่ก็ใกล้จะถึงเวลากินข้าวแล้ว เช้ารุ่งขึ้นข้ามีธุระที่ต้องเข้าวังหลวงเจ้ารอข้าอยู่ที่เรือนแห่งนี้ได้หรือไม่ หากมีผู้ใดกล้ารังแกหรือต่อว่าเจ้า เจ้าอย่าได้เกรงกลัวโปรดมาบอกแก่ข้า จะจัดการมันผู้นั้นเอง”“กระหม่อมมิกล้าหรอก กระหม่อมจะคอยองค์หญิงอยู่ที่เรือนอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวพะย่ะค่ะ”“เจ้าพูดกับข้าเหมือนปกติเถอะ ข้ามิใช่องค์หญิงที่สูงส่งอันใดเพียงแต่เป็นองค์หญิงที่ถูกเขี่ยทิ้งเท่านั้น”“ได้ขอรับ หากเป็นพระประสงค์ของท่าน” หนิงเอ๋อเดินนำไปที่เรือนกับหางเฟิ่ง ส่วนองครักษ์หลิวเมื่อกลับมาก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใดรุ่งเช้าของอีกวันหนิงเอ๋อแต่งชุดที่ฮองเฮานำมาให้จากวังหลวงเป็นชุดสีอ่อนหวานงดงาม แต่มันไม่ถูกใจหนิงเอ๋อหากนางแต่งกายเช่นนี้เข้าไปที่วังหลวงเกรงกลัวว่าทุกคนจะข่มนางได้ นางจึงให้ฟางลี่เว่
บทที่ 10 ท่านย่าของข้าเกี้ยวได้มาส่งหนิงเอ๋อที่ตำหนักของฮองเฮา นางก้าวลงอย่างช้าๆ ด้วยความประหม่าเล็กน้อย“นี่หรือวังหลวง” คำแรกที่หนิงเอ๋อพูดเมื่อมาถึง นางกวาดตามองเหล่าขันทีมากมายและนางกำนัลที่เดินเดินไปมาอย่างเร่งรีบ ทหารมากมายพากันเดินตรวจตาไปมา ไม่ว่าขุนนางน้อยใหญ่ก็พากันเดินไปทั่ว“นี่แหละเพคะวังหลวง ฮองเฮารอองค์หญิงอยู่รีบเสด็จเถอะเพคะ” แม่นมจับมือนหนิงเอ๋อให้เดินลงมา นางก็ได้เดินนำหน้านางกำนัลที่ถูกส่งไปรับนางก็ได้เดินตามหลังคอยดูแล“หนิงเอ๋อเจ้ามาแล้วสินะ มานั่งตรงนี้ก่อนตอนนี้พิธีการยังไม่เริ่ม เจ้าเดินทางมาเหนื่อยๆ คงจะหิว เดี๋ยวข้าจะให้นางกำนัลไปนำขนมมาให้เจ้าได้กิน”“ไม่ต้องก็ได้เพคะ ลูกไม่ได้เหนื่อยอันใดเลย ดูท่านสิเพคะเหตุใดทรงดูซูบผอมถึงเพียงนี้ อย่าบอกนะเพคะว่าท่านถูกฝ่าบาทใช้งานจนไม่มีเวลาพักผ่อน”“ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกนะหนิงเอ๋อ ร่างกายของข้าเองก็เริ่มแก่ขึ้นทุกวัน เดี๋ยวนี้กินอะไรก็ไม่ค่อยอร่อยกลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ แต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าได้ให้หมอหลวงมาตรวจร่างกายแล้ว”“เป็นเช่นนั้นก็ดีเพคะ ท่านแม่ก็รู้หากข้าไม่มีท่านแม่ข้าคงไม่ย่างกายเข้ามาในวังหลวงแห่งนี้เป็นแ
บทที่ 11 เกิดเรื่องร้ายตำหนักฟู่หลางฝั่งด้านเสี่ยวหลงนางเดินฟัดเหวี่ยงไปที่ตำหนักของหวงกุ้ยเฟยมารดาของนางด้วยอารมณ์โมโห“ท่านแม่ ท่านอยู่ที่ใด นี่พวกเจ้าไปตามท่านแม่มาให้ข้าเดี๋ยวนี้” นางมาถึงก็เอะอะโวยวายเสียงดังใส่นางกำนัลที่กำลังเดินทำหน้าที่ของตน เสียงของนางทำให้หวงกุ้ยเฟยที่กำลังแต่งเสื้อผ้าอาภรณ์ไปงานเลี้ยงได้ยินเข้า เมื่อนางเสร็จแล้วนางก็เดินออกมาหาบุตรสาวของนางที่นั่งหน้าบูดน่าเบี้ยวอยู่ที่เก้าอี้“เอะอะโวยวายอะไรเสียงดังขนาดนี้ เจ้าสำรวมเสียบ้างอย่าลืมสิว่าเจ้าเป็นองค์หญิงไหนจะเป็นน้องสาวขององค์รัชทายาทอีกด้วย”“ท่านแม่จะให้ข้านิ่งเฉยได้อย่างไรเพคะ ท่านแม่ทราบหรือไม่เมื่อครู่ข้าเจอผู้ใด”“เจ้าไม่พูดข้าจะรู้ได้อย่างไร”“ก็นางตัวซวยนะสิเพคะ ข้าได้ยินเพียงเรื่องเล่าวันนี้ได้เจอนางมาที่วังหลวงแถมยังเข้ามายุ่งเรื่องข้าอีกด้วย ทำร้ายทหารของข้าจนได้รับบาดเจ็บ ข้าไม่ยอมนะเพคะท่านแม่ต้องไปจัดการนางให้หม่อมฉัน นางจะได้รู้สำนึกว่าไม่ควรมายุ่งกับข้า”“เจ้าอย่าพลีพลามวันนี้ข้าไม่อยากมีเรื่องจัดการนางเมื่อไหร่ข้าก็จัดการได้ นางเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆ ที่ข้าจะฆ่าทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ เจ้าไปเตร
บทที่ 12 ไม่ใช่ความผิดของนางเมื่อเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นงานเลี้ยงได้จบลงทุกคนต่างพากันแยกย้ายและตื่นกลัวจะเกิดอันตรายกับตนเอง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ถูกกล่าวขานกันไปทั่ววังหลวง ต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากองค์หญิงหนิงเอ๋อที่มาปรากฎกายขึ้นในวังวันนี้ ทำให้ฮองเฮาไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงส่งตัวองค์หญิงกลับที่เรือน“หนิงเอ๋อเจ้าไม่ต้องคิดอันใด เรื่องทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเจ้า ข้าจะไม่ยอมอยู่นิ่งข้าจะหาคนที่ทำเรื่องนี้ขึ้นมาให้ได้ เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะนะ อย่าได้เอาเรื่องวันนี้มาใส่ใจ แม่นมข้าขอฝากหนิงเอ๋อของข้าด้วย เจ้าเองก็เช่นกันดูแลองค์หญิงให้ดีอย่าให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับองค์หญิงเป็นอันขาด ตอนนี้เรายังไว้ใจใครไม่ได้”“เพคะ/พะย่ะค่ะ”“ท่านแม่เองก็เช่นกันนะเพคะ อย่าคิดมากจนไม่มีเวลาดูแลตนเอง ข้าได้หาใส่ใจไม่ ข้าเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้อยู่เรื่อยจนข้าชินชาแล้ว ท่านแม่โปรดดูแลรักษาพระวรกายให้ดีนะเพคะ .”“เจ้าไปเถอะ เดี๋ยวข้าต้องเข้าไปหาฝ่าบาท”เมื่อร่ำลาเสร็จสิ้นหนิงเอ๋อก็ได้นั่งเกี้ยวกลับเรือน ระหว่างทางก็ได้นึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างล้วนมีเงื่อนงำ นางไม่เคยรู้จั
บทที่ 13 ฝีมือของหวงกุ้ยเฟยฝั่งด้านองครักษ์หลิวที่ไหวตัวทันก็ได้กระโดดขึ้นหน้าต่าง และวิ่งให้เร็วเพื่อหนีการจับกุมนี้ เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดตามมาทันองครักษ์หลิวก็กระโดดลงมาที่พื้นอย่างไม่ทันระวังก็ชนเข้ากับองค์หญิงเหมยฟางนางเป็นบุตรสาวของนางสนมของฝ่าบาท ที่กำลังวิ่งหนีเหล่านางกำนัลด้วยความที่นางขี้เกียจจะเข้าเรียนโครม!!“โอ๊ย!! เจ้าไม่มีตาหรือไง รู้มั้ยว่าเจ้าทำให้ข้าเจ็บ” เหมยฟางอยู่ด้านล่างถูกร่างใหญ่ขององครักษ์หลิวทับร่างนางอยู่นางหลับตาเพราะความเจ็บแต่เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็ต้องพบกับเทพบุตรที่แสนงดงาม สีหน้าที่เกรี้ยวโกรธก็อมยิ้มทันที“กระหม่อมขอประทานอภัยพะย่ะค่ะ เป็นความผิดของกระหม่อมเองที่ไม่ทันได้ดูดีๆ ทรงลงโทษกระหม่อมได้เลยพะย่ะค่ะ” องครักษ์หลิวลุกขึ้นและนั่งคุกเข้าลงเพื่อรับการลงโทษ“ตอนนี้ข้าเจ็บมากเลย เจ้าต้องพาข้าไปส่งที่ตำหนักของข้า มิเช่นนั้นข้าจะสั่งให้ทหารจับเจ้าไปประหาร” เหมยฟางนางไม่ถือโทษแต่อยากใช้เวลาอยู่กับบุรุษผู้นี้นานๆ“จะให้กระหม่อมพาองค์หญิงไปเช่นไร กระหม่อมเป็นผู้ชายมิบังอาจถูกเนื้อต้องตัวองค์หญิงหรอกพะย่ะค่ะ”“เจ้าก็ให้ข้าขึ้นหลังเจ้าสิ หากผู้ใดต่อว่าข้าจะ
บทที่ 14 เจ้ามันต่ำเรื่องนี้จึงทำให้หวงกุ้ยเฟยไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ยังดีที่ทหารผู้นั้นไม่ถูกมาถึงนาง เพราะถูกใต้เท้าไป๋ขู่จะฆ่าล้างครอบครัวของทหารผู้นั้น อีกอย่างทั้งคู่ไม่เคยรักกันมันเป็นเพียงเรื่องที่กุขึ้นมาของใต้เท้าไป๋ ทหารผู้นี้เกรงว่าใต้เท้าไป๋จะจัดการกับลูกเมียของเขาที่รออยู่ที่บ้าน จึงยอมรับสารภาพเรื่องนี้ทั้งหมด“ท่านแม่ได้ยินเรื่องที่ทหารฆ่านางกำนัลหรือยังเพคะ”เสี่ยวหลงเดินเข้ามาหาหวงกุ้ยเฟยที่ตำหนัก“ข้าได้ยินแล้ว หึ! นางองค์หญิงนั่นช่างดวงแข็งเหลือเกิน นางไม่ถูกกล่าวหาแถมยังได้ของปลอบขวัญจากฝ่าบาทอีกด้วย อีกไม่นานก็คงยกสมบัติทั้งหมดให้นางสินะ ข้าได้ยินนางกำนัลตำหนักของฮองไทเฮาพูดคุยกันว่าตอนนี้ฮองไทเฮามอบที่ดินกับแหวนมรกตให้นาง ตอนนี้ทุกคนในวังหลวงแทบจะรักนางจนหมด อีกไม่นานเจ้าก็มิใช่บุตรสาวที่โปรณปราณของฮ่องเต้แล้ว” “ข้าไม่ยอม ข้าจะไปหานาง” พูดไม่ทันจบองค์หญิงเสี่ยวหลงก็สั่งให้ทหารนำเกี้ยวมาให้นางและพานางไปที่เรือนขององค์หญิงหนิงเอ๋อ หวงกุ้ยเฟยไม่ได้ห้ามปรามนางแถมยังเข้าข้างนางและออกตามนางมาด้วยเช่นกันฝั่งด้านของหนิงเอ๋อเมื่อองครักษ์หลิวกลับมาวันนั้นก็ได้บอกเรื่องร
ฮองเฮาเดิมมาพร้อมขันทีและนางกำนัลที่ดูแลพระองค์ทำให้หวงกุ้ยเฟยหยุดการกระทำทันที“นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น หวงกุ้ยเฟยเจ้ามาอยู่ที่เรือนของหนิงเอ๋อได้อย่างไร” ฮองเฮารีบเดินเข้ามาจับกายของหนิงเอ๋อให้ลุกขึ้นและนำผ้าเช็ดหน้าของนางเช็ดหน้าให้หนิงเอ๋อ“หม่อมฉันออกมาเดินตลาดกับเสี่ยวหลง เผอิญเดินผ่านทางนี้เลยแวะมาเยี่ยมองค์หญิงหนิงเอ๋อเพคะ”“มาเยี่ยมอย่างไร ถึงขนาดลงมือลงมือจนเลือดออกขนาดนี้ หนิงเอ๋อเจ้าเจ็บมากหรือไม่ แม่นมเจ้าพาหนิงเอ๋อเข้าไปที่เรือนเดี๋ยวนี้ ส่วนเรื่องตรงนี้ข้าจะจัดการเอง”“หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะท่านแม่ ”“บอกข้าได้หรือยังว่าเกืดเรื่องอันใดขึ้น ”“ทูลฮองเฮาเพคะ ท่านแม่ของหม่อมฉันแค่สั่งสอนที่องค์หญิงหนิงเอ๋อตาต่ำคว้านายโลมผู้นั้นมาอยู่ในเรือนกลัวจะเสื่อมเสียเกียรติแต่องค์หญิงกลับต่อว่าท่านแม่และไม่ให้ท่านแม่ของข้าแตะต้องชายผู้นั้น นางปกป้องฮองเฮาดูสิเพคะ ใบหน้าหม่อมฉันเองก็ถูกองค์หญิงหนิงเอ๋อตบ แถมตัวของหม่อมฉันกับท่านแม่ก็ถูกนางเอาน้ำสาดไล่ออกไปอย่างไม่มีเกียรติเพคะเพียงเพราะนางปกป้องชายชั้นต่ำผู้นั้น” เสี่ยวหลงลรีบใส่ร้ายหนิงเอ๋อทันที“จริงเพคะ หม่อมฉันเพียงอยากให้องค์ห
บทที่ 33 ฝีมือใค้เท้าไป๋ใต้เท้าไป๋ได้มาหาหวงกุ้ยเฟยในยามรุ่งสาง อย่างร้อนใจ"นี่ท่านมาหาข้าแต่เช้าเช่นนี้มีเรื่องอะไร""ท่านรู้เรื่องแม่นมขององค์หญิงหนิงเอ๋อหรือไม่""ข้าไปดูมาแล้ว ผู้ใดกันนะที่ฆ่านาง ท่านรู้หรือไม่" หวงกุ้ยเฟยรู้ว่าเป็นฝีมือของใต้เท้าไป๋แต่ที่ถามเช่นนั้นเพราะอยากลองถาม"ข้าเองที่ทำกับนาง แต่ที่ข้าทำเพราะนางปากแข็ง เมื่อคืนเหล่าเสนบาดีฝ่ายฮองเฮาได้เข้าร่วมหารือกัน ข้ากลับไปจากตำหนักของท่านได้เห็นเข้า จึงตามนางไปเพื่อถาม แต่นางจงรักภักดีไม่ยอมแม้จะปริปากบอก ทำได้แม้กระทั่งกัดลิ้นตนเอง ข้าโมโหจึงได้สังหารนาง ท่านเองก็อย่านิ่งเฉย ตอนนี้พวกเราไม่อาจรู้ได้ว่าฮองเฮาทรงมีแผนอันใด เราต้องชิ่งทำให้องค์รัชาทยาทขึ้นครองบัลลังก์ในเร็ววัน เวลาที่ฮองไทเฮาพูดมานั้นมันเนินนานเกินไปข้าจะหาทางที่ทำให้ฮ่องเต้ไม่ฟื้นขึ้นมาได้อีกต่อไปและลาลับจากโลกนี้ในเร็ววัน เช่นนั้นเราก็ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด ส่วนเรื่องของแม่นมผู้นั้นเจ้าไม่ต้องกลัวไม่มีผู้ใดเห็นข้าเป็นแน่ และไม่มีทางที่จะจับตัวข้าได้" ใต้เท้าไป๋พูดออกมาอย่างมั่นใจ"ดีเช่นนั้นเราก็เร่งทำตามแผนกันเถอะ" หวงกุ้ยเฟยยิ้มมุมปากอย่างดีใจเมื่อ
บทที่ 32 ลางร้าย องครักษ์หลิวที่กำลังกลับจากตำหนักของฮ่องเต้ก็ได้เห็นใต้เท้าไป๋ที่กำลังเดินออกจากตำหนักของกุ้ยเฟยหนิงฮวาอย่างเร่งรีบเขาจึงรีบเข้าไปด้านในเมื่อรู้สึกถึงอะไรที่แปลกไปและท่าทีที่เขากำลังจะหนีเหมือนทำอันใดผิด เขารีบเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าแม่นมนอนจมกองเลือดอยู่องครักษ์หลิวรีบเข้าไปใกล้และพยุงให้แม่นมลุกขึ้น"แม่นมเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ทำไมเลือดถึงเต็มตัวเช่นนี้" เขาใช้นิ้วแตะที่ชีพจรของแม่นมที่กำลังเต้นช้าลงเรื่อยๆ แม่นมฝืนลืมตาขึ้นมาแม้ลิ้นจะขาดแต่นางก็พยายามสื่อสารกับเขาอย่างเต็มที่"อือ " เสี่ยงที่เปล่งออกมาทำให้เขารู้ว่าแม่นมยังไม่สิ้นใจ เขาจึงพยุงแม่นมขึ้นเล็กน้อย"ท่านยังไม่ตาย ท่านช่วยแข็งใจไว้สักหน่อยข้าจะอุ้มท่านไปที่ตำหนักของฮองเฮาและให้หมอหลวงมารักษาท่าน ผู้ใดมาทำกับท่านเช่นนี้โปรดบอกข้า ข้าจะไปจัดการคนผู้นั้นเอง" แม่นมส่ายหน้าเมื่อรู้ว่าตนเองตอนนี้ก็แทบจะไหวหากเขาอุ้มนางไปกว่าจะถึงตำหนักซื่อหมิงนางก็สิ้นใจก่อนพอดี เขาเองตอนนี้ก็เจ็บปวดที่เห็นแม่นมกำลังหายใจโรยริน นางเป็นสตรีที่จิตใจดีและเมตตาเขามาตลอดไม่เคยคิดว่าเขาเป็นองครักษ์ต่อยต่ำแต่ทำเหมือนกับเขาเป็นคนในครอบ
บทที่ 31 แม่นมได้จากไปหนิงเอ๋อแปลกใจที่เขารู้ถึงชื่อหางเฟิ่งหรือวันนั้นที่นางฝันถึงหางเฟิ่งนางจะละเมอชื่อเขาอออกมา แต่อย่างไรถึงนางจะเอ่ยชื่อผู้ใดก็ไม่เห็นเกี่ยวกับแม่ทัพสักนิด"ข้าจะเอ่ยชื่อผู้ใด หรือรักชอบผู้ใดจะไม่เห็นเกี่ยวกับท่านสักนิด ''"แต่ก่อนอาจจะไม่เกี่ยว แต่ต่อจากนี้อะไรที่เกี่ยวกับเจ้าล้วนแต่เกี่ยวข้องกับข้าทั้งสิ้น เพราะตอนนี้เจ้าขึ้นชื่อว่าเป็นเมียของท่านแม่ทัพผู้นี้แล้ว " หนิงเอ๋อส่ายหน้าไปมา เหตุใดท่านพี่เสี่ยวหลงถึงได้รักบุรุษผู้นี้ได้กันนะ นอกจากหน้าตาดีและมีฝีมือก็ไม่เห็นจะมีตรงไหนดีสักนิด"ข้าขี้เกียจจะพูดกหับท่านแล้ว ออกไปเถิด" หนิงเอ๋อผลักเขาอีกครั้ง"เจ้าเก็บแรงเอาไว้เถอะ แรงเจ้าทำอันใดข้ามิได้หรอก นอนซะข้าไม่ทำอันใดเจ้าหรอกนะ" แม่ทัพอี้พูดจบก็ลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกมาด้านนอกก่อนจะเอ่ยบอกกับหนิงเอ๋ออีกรอบ"วันนี้ข้าจะนอนเฝ้าประตูเจ้าอยู่ด้านนอกหากเกิดอันใดขึ้นเจ้าก็เรียกข้าได้ตลอด " หนิงเอ๋อรู้สึกใจสั่นในคำพูดของเขา แต่นางก็ไม่อาจจะเชื่อคำพูดเขาได้ทั้งหมด หากว่าเขายังมีใจให้ท่านพี่เสี่ยวหลงและบอกแผนที่นางพูดกันในวันนี้ก็อาจจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น แต่ในเมื่อนางอ
บทที่ 30 เริ่มเคลื่อนไหว ฮองฮองและฮองไทเฮาเป็นห่วงอาการของฝ่าบาทช่วงนี้จึงไม่ได้ออกไปหาหนิงเอ๋อ ตอนนี้ฝ่าบาทยังคงไม่ได้สติและนอนอยู่เช่นนั้นเหล่าเสนาบดีต่างพากันหารือและพูดคุยว่าจะทำเช่นไรต่อไปฮองไทเฮาจึงขึ้นรักษาการแทนและเรียกทุกคนมาที่ท้องพระโรง ฮองไทเฮานั่งอยู่ด้านหลังของบัลลังก์เพราะไม่สามารถขึ้นนั่งบนนั้นได้นอกจากฮ่องเต้ โดยมีฮองเฮาที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยเช่นกันเมื่อทุกคนมากันครบก็ได้พุดคุยหารือกันทันที"ถวายบังคมฮองไทเฮาและฮองเฮา" เสียงที่ประสานออกมาพร้อมๆ กันไม่ว่าจะเป็นเสนบาดีฝ่ายใดก็ต่างพากันพูดพร้อมกันและโค้งคำนับ เมื่อโค้งคำนับเสร็จก็มีใต้เท้าฝั่งของใต้เท้าไป๋ได้ทูลออกมา"เนื่องจากบัดนี้ข่าวของฝ่าบาทที่ทรงไม่รู้สึกตัวนั้นได้ถูกแพร่กระจายไปทั่ววังหลวง อีกไม่นานก็คงถึงหูชาวบ้านเช่นนี้จะไม่ทำให้ชาวบ้านพากันแตกตื่นแล้วเช่นนี้บังลังก์จะไม่สั่นคลอนหรือพะย่ะค่ะ""ตอนนี้แม้พระองค์ทรงยังไม่รู้สึกตัวและข้าเองที่จะทำหน้าที่รักษาการแทนอ่านฎีกาและทำทุกอย่างแทนฝ่าบาทจนกว่าฝ่าบาทจะรู้สึกพระองค์" ฮองไทเฮาได้เอ่ยออกมา ทำให้ฝั่งด้านใต้เท้าไป๋ได้เอ่ยมาอีกรอบ"ท่านมีพระวรกายที่ไม่แข็งแรงเช่นนี้
บทที่ 29 ถูกปองร้ายเสี่ยวหลงกลับมาที่ตำหนักของนางก็อาละวาดโวยวายร้องไห้เจ็บปวดปานตาย นางกำนัลจึงได้ไปตามหวงกุ้ยเฟยมาดูนาง"นางหนิงเอ๋อ ข้าเกลียดเจ้าเพราะเจ้าทำให้ท่านพี่เกลียดข้า ข้าจะฆ่าเจ้า! " เสี่ยวหลงใช้มีดแทงหมอนครั้งแล้วครั้งเล่าใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา จนหวงกุ้ยเฟยมาถึงก็ได้ดึงมีดออกจากมือของนาง"นี่เจ้าทำอันใด หยุดประเดี๋ยวนี้นะ" เสี่ยวหลงเมื่อเห็นมารดาของนาง นางก็ได้หันไปกอดและร้องไห้ออกมา"ท่านแม่ข้าถูกท่านพี่รังเกียจแล้วเพคะ ท่านพี่พูดว่าไม่รักข้าว่าข้าเป็นสตรีที่โหดร้าย เพราะนางเพราะนางเพียงผู้เดียวที่ทำให้ท่านพี่เกลียดข้า ฮื้อ ฮือ ท่านแม่ได้โปรดช่วยข้าด้วยข้าเจ็บปวดจนเจียนตายเมื่อเห็นแววตาที่ไร้เยื้อใยของท่านพี่" หวงกุ้ยเฟยรีบโอบกอดเสี่ยวหลงและปลอบใจนาง"หนิงเอ๋อนางช่างเหมือนมารดาของนางยิ่งนัก มารดาของนางก็มาแย่งความนักของฝ่าบาทไป แล้วตอนนี้บุตรของนางยังมาแย่งความรักไปจากบุตรของข้าอีก เจ้าสงบสติอารมณ์เถิดหนา เดี๋ยวเรื่องนี้ข้าจะจัดการนางเองและจะพาแม่ทัพอี้กลับมาหาเจ้าในเร็ววัน" เสี่ยวหลงรีบปาดน้ำตาและเงยหน้ามองมารดาของนาง"ท่านแม่รับปากแล้วนะเพคะ ""ข้าจะจัดการให้รู้สำนึกเอ
บทที่ 28 เผยธาตุแท้ฝั่งด้านหนิงเอ๋อเมื่อเหมยฟางกลับนางก็กลับมาที่ห้องนอนก็ไม่พบแม่ทัพแล้วนางก็หันไปมองบนเตียงก็เห็นว่าผ้าปูถูกเปลี่ยนไป"องค์หญิงนี่ยาต้มท่านดื่มสักหน่อยนะเพคะ ร่างกายของท่านจะได้ไม่เจ็บปวด" ฟางลี่เว่ยนำยามาให้หนิงเอ๋อ"ข้าไม่รู้เลยว่าสิ่งข้าทำอยู่นี่ถูกหรือผิด ข้าทำถูกต้องแล้วใช่มั้ย เหตุใดข้าถึงรู้สึกรังเกียจตนเองเช่นนี้""องค์หญิงหม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงเหนื่อย ท่านนอนพักสักหน่อยนะเพคะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำอยู่เพื่อการแก้แค้นมิใช่หรือเพคะ ""ข้ารู้ ข้าขอนอนพักสักหน่อยเจ้าก็ช่วยอยู่ข้างๆ ข้าแล้วอย่าไปไหนจนกว่าข้าจะตื่น ที่นี่ข้าไม่ไว้ผู้ใดรอให้องครักษ์หลิวกลับมาท่านก็ปลุกข้าด้วย" หนิงเอ๋อทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า นางหลับไปก็ได้ฝันถึงหางเฟิ่งที่มองนางอยู่ที่ห่างไกล เขามองดูนางด้วยสายตาเศร้าโศก"องค์หญิงข้ามาลา องค์หญิงทรงสบายดีใช่หรือไม่ ต่อจากนี้ข้ามิได้อยู่ข้างกายท่านแล้วท่านต้องดูแลตนเองให้ดีข้าจะมองดูองค์หญิงอยู่ตลอดเวลานะพะย่ะค่ะ" น้ำเสียงที่เปล่งออกมาอย่างแผ่วเบาหนิงเอ๋อแทบไม่ค่อยได้ยินด้วยซ้ำ นางจึงพยายามจะวิ่งไปหาหางเฟิ่งแต่ร่างของเขาก็เรือนรางจนหายไปใน
บทที่ 27 ความชั่วของหวงกุ้ยเฟยองครักษ์หลิวกระโดดขึ้นไปควบม้าโดยมีองค์หญิงเหมยฟางนั่งอยู่ด้านหน้าของตน นางรู้สึกหัวใจสั่นไหวเมื่อได้ใกล้ชิดองครักษ์หลิวกลิ่นกายที่หอมและอกแกร่งที่กระทบหลังของนางช่างทำให้นางชอบองครักษ์หลิวมากขึ้น แต่องครักษ์หลิวไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาอยากให้ถึงวังหลวงโดยเร็วและส่งองค์หญิงกลับตำหนักจะได้ไม่เป็นภาระและตัวปัญหาให้เขาอีกเมื่อมาถึงวังหลวงองครักษ์ได้ส่งเหมยฟางที่ตำหนักของนางก่อนที่เขาจะไปสืบเรื่องราวที่องค์หญิงหนิงเอ๋อได้สั่งมา เขาลอบเข้าไปที่ตำหนักของฝ่าบาทบัดนี้ฝ่าบาทบรรทมอยู่บนเตียง กลิ่นในห้องบรรทมนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นธูปที่รุนแรงจนองครักษ์หลิวต้องใช้เสื้อปิดจมูกตนเองไว้ เขามองซ้ายมองขวาก็เห็นว่าหวงกุ้ยเฟยกับใต้เท้าไป๋กำลังเดินมาทางนี้ และนางกำนัลที่คอยดูแลฝ่าบาทอยู่นางหนึ่งเดินมาด้วยเขาจึงรีบหาที่ซ้อนตัวเพราะกลัวจะถูกจับได้"นี่ท่านข้าบอกแล้วอย่างไร หากจะพบข้าให้ไปพบข้าที่ตำหนักข้า ที่นี่มิใช่ที่เราจะพบกันได้ " เสียงของหวงกุ้ยเฟยที่บ่นใต้เท้าไป๋แต่เขาเองก็หากลัวไม่กลับยิ้มดีใจที่ถูกนางดุด่า"โธ่! ท่านก็รู้หากข้าไปหาท่านที่ตำหนักเดี๋ยวองค์รัชทายาทก็ได้มาเห็น
บทที่ 26 เหมยฟางมาเยี่ยมหนิงเอ๋อตื่นเช้ามานางก็ได้เข้ามาคาระวาท่านพ่อท่านแม่ของแม่ทัพอี้ตามขนบธรรมเนียมทำให้ท่านแม่ของแม่ทัพเอ็นดูนางเป็นอย่างมากยิ่งสาวใช้มาพูดให้นางฟังเรื่องผ้าปูเตียงยิ่งทำให้นางรู้สึกดีมากๆ ไม่นานเขาก็คงจะได้อุ้มหลาน"หนิงเอ๋อคาระวะท่านพ่อท่านแม่ " หนิงเอ๋อคาระวะ ท่านแม่ก็ได้ยกจับแขนหนิงเอ๋อให้มานั่งบนเก้าอี้ด้วยกัน"ไม่ต้องมากพิธีเมื่อวานเจ้าคงเหนื่อยมาก มานั่งลงสิมากินข้าวด้วยกันนี่เจ้าตักข้าวมาให้คองค์หญิงประเดี๋ยวนี้""ได้เจ้าค่ะ " นางก็รีบไปตักข้าวมาให้หนิงเอ๋อทันที"เจ้ามาอยู่ที่นี่คงจะลำบาคไม่มีคนรับใช้มากมายอย่างที่เจ้าคิด องค์หญิงเช่นเจ้าคงจะปรับตัวยากหน่อยนะ" ท่านพ่อของแม่ทัพได้พูดขึ้น"ไม่เลยเจ้าค่ะ ท่านก็ทราบว่าข้านั้นถูกทิ้งตั้งแต่เด็กใช้ชีวิตอยู่นอกเมือง มาอยู่ที่จวนของพวกท่านนั้นนับว่าดีกว่าที่ข้าเคยอยู่ด้วยซ้ำ " ท่านแม่สงสารหนิงเอ๋อก็ได้เข้ามากอดนาง ทำให้นางตกใจที่ทั้งสองท่านใส่ใจนางถึงเพียงนี้"โธ่! ต่อจากนี้เจ้าจะไม่รู้สึกเช่นนั้นอีกต่อไป จากนี้ข้าจะมอบความรักให้แก่เจ้าเอง นี่กินนี่เยอะๆ นะจะได้บำรุงร่างกายให้เจ้าแข็งแรง ""แล้วนี่สวามีเจ้าไปทางใ
บทที่ 25 เข้าหอนอนเคียงข้างแม่ทัพมิอาจจะทนไหวเมื่อแรงราคะปะทุกาย และฤทธิ์ยาที่ทำให้เขาตื่นตัว เขาก้มลิ้มลองภูเขาทั้งสองของนาง ขาของเขาพยายามดันขาของหนิงเอ๋อให้แยกออกจากกัน"งั้นข้าเองก็จะทำตามคำที่เจ้าเชิญชวน ฮูหยินที่ข้าไม่ต้องการ" พูดจบเขาก็ก้มลงดูดดื่มบีบครั้นสองเต้าของหนิงเอ๋อจนนางรู้สึกเสียวไปทั่วร่างกายนางนอนบิดไปมาเมื่อลิ้นของเขาตวัดไปมารอบยอดประทุม นางเงยหน้าขึ้นเมื่อเก็บความรู้สึกเสียวนี้ไม่ไหวจึงได้ครวญครางออกมาด้วยเสียงกระเส่า"อ๊าา อ๊าาา " ยิ่งได้ยินเสียงของหนิงเอ๋อยิ่งทำให้อารมณ์ของแม่ทัพปะทุมากกว่าเดิมเขาก็บีบครั้นเนินอกของนางอย่างไม่ทะนุถนอมอีกต่อไป มือของเขาได้ไล่ลงไปแตะกรีบกุหลาบที่เอ่อนองด้วยน้ำรักเล็กน้อย เขาค่อยๆ ใช้มือสมัผัสเบาๆ และใช้นิ้วแหย่เข้าไปในช่องรักนั้นแต่ก็ต้องแปลกใจอีกรอบที่ช่องรักนั้นช่างคับแคบเหลือเกิน เช่นนี้แท่งร้อนแท่งใหญ่ของเขาจะเข้าสู่ช่องรักนางได้อย่างไร หนิงเอ๋อบัดนี้เหมือนจะขาดสติที่โดนเขากระตุ้นอารมณ์นางทั้งข้างบนและข้างล่าง เสียงอบอวลในห้องบัดนี้มีเพียงเสียงของนางร้องครวญครางออกมาและเสียงหอบเหนื่อย แม่ทัพละริมฝีปากออกจากเนินอกสวยไล่เลียลงมา