Share

บทที่ 673

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินอู๋ต้าวระงับอารมณ์สงบจิตใจก่อนจะกลับไปนั่งบนบัลลังก์มังกรดังเดิม!

เขากล่าวชมด้วยสีหน้าผ่องใสว่า “หนานเยวี่ยรุกรานชายแดนต้าเหยียนมานานหลายปี ตัวข้าส่งคนไปป้องกันหลายครั้งแต่ก็ทำได้เพียงขับไล่พวกมันออกไปนอกประตูเมืองเท่านั้น

นึกมิถึงว่ารัชทายาทจะกล้าหาญปราดเปรื่องถึงเพียงนี้ ลงใต้ไปช่วยเจียวโจว จนบัดนี้รวมแล้วมิถึงครึ่งเดือน กลับสามารถบุกยึดพระราชวังหนานเยวี่ยได้สำเร็จ ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งแคว้นมาเป็นของต้าเหยียน!

เมื่อเขากลับมา ข้าจะต้องตกรางวัลให้เขาอย่างงาม!”

ขุนนางคนหนึ่งกล่าวสรรเสริญว่า “ทรงมีองค์รัชทายาทผู้ทรงเป็นแม่ทัพสวรรค์ประทาน นับเป็นวาสนาของราชวงศ์ต้าเหยียนโดยแท้ ยินดีกับฝ่าบาทยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ!”

“ข้าน้อยขอแสดงความยินดีต่อฝ่าบาท!”

ขุนนางที่เหลือกล่าวตาม

ฉินอู๋ต้าวพยักหน้าด้วยความยินดี ไม่มีใครสังเกตเห็นความเคร่งขรึมและความหวาดระแวงที่วาบผ่านใต้รอยยิ้มของเขา

เหลยเจิ้นมองเขาด้วยสายตาลุ่มลึก ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อยราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง

หลังจากเลิกประชุม ฉินอู๋ต้าวก็สั่งให้เหลยเจิ้นและเว่ยเจิงอยู่ต่อก่อน

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินอู๋ต้าวเลือนหายไปนานแล้ว สิ่งที่เข้ามา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 674

    หลังจากฉินอู๋ต้าวออกจากพระตำหนักจินหลวนก็ตรงไปยังวังหลังทันที!มินานนัก ร่างสองร่างก็โผบินผ่านท้องฟ้าเหนือวังหลังที่มีทหารรักษาพระองค์แน่นหนา ด้วยความเร็วที่ทหารเหล่านั้นมิทันสังเกตเห็นในขณะเดียวกัน สำนักหอดูดาวหลวง เหลยเจิ้นรู้สึกหัวใจสั่นสะท้านอย่างประหลาดเขารีบนับนิ้วคำนวณ จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ “เป็นพ่อลูกกันแท้ ๆ ไฉนจึงเป็นเช่นนี้ไปได้!”“อาจารย์ เกิดอันใดขึ้นหรือขอรับ?”ชายร่างใหญ่กำยำที่อยู่ข้างกายเขาถามด้วยใบหน้าเปี่ยมความสงสัยเขาคือจีอัน ศิษย์พี่สี่ของกู้เสวี่ยเจี้ยน!“ไม่มีเรื่องสลักสำคัญหรอก ว่าแต่เมื่อมิกี่วันก่อน เจ้าบ่นกับอาจารย์ว่าอยู่แต่ในสำนักหอดูดาวหลวงทุกวันมันน่าเบื่อใช่หรือไม่?”จีอันผงกศีรษะโต ๆ หนักแน่น “ใช่ขอรับ เดิมทีข้าอยากจะไปช่วยศิษย์น้องหญิงที่หอดารารักษ์ แต่ท่านก็กลัวตายมิกล้าไปกับข้าเสียได้”“เจ้าโง่ อาจารย์กลัวตายเสียที่ไหน แต่ข้ามองสถานการณ์ในภาพรวม เจ้าเข้าใจหรือไม่?” เมื่อเผชิญหน้ากับจีอันผู้ซื่อตรง มิค่อยคิดกระไรมากมาย เหลยเจิ้นก็รู้สึกปวดหัวอย่างเห็นได้ชัดจีอันกอดอกพลางทำท่าทางเหมือนรู้ทัน “ชิ กลัวตายยังหาข้ออ้างคณานับ”เหลยเจิ้นย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 675

    การประลองยุทธ์ของยอดฝีมือ ย่อมมิอาจเสียสมาธิได้แม้แต่น้อย!อย่างนี้ไงเล่า ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยฉวยโอกาสเหวี่ยงกระบี่เล่มใหญ่ในมือฟาดฟันอย่างแรงเสียง 'ฉัวะ' ดังขึ้น แขนข้างที่ถืออาวุธของชายชุดดำก็ถูกตัดขาด เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูด สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ทันทีชายชุดดำอีกสองคนที่เห็นท่ามิดี ก็มิพูดพร่ำทำเพลง รีบแยกย้ายกันหนีตายกันทันใด“จะหนีไปไหน!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยแผดเสียงดังลั่น กระโดดเข้าขวางชายคนหนึ่งไว้ได้ส่วนฉงชูโม่ก็เหวี่ยงแขนฟันกระบี่ไปยังทิศที่อีกคนกำลังหนีไป“อ๊าก!!”ชายผู้นั้นร้องโหยหวน บาดเจ็บสาหัสล้มลงไปกองกับพื้นในยามนั้นเอง ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็คุมตัวชายชุดดำคนสุดท้ายไว้ได้!ฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “เกิดอันใดขึ้น? ไฉนเจ้าถึงมาต่อสู้กับคนของเผ่าหรงตะวันตกได้?”“เรื่องมันยาว ไว้ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังทีหลัง ว่าแต่ไฉนเจ้าจึงนำคนมากมายเช่นนี้กลับมา เกิดเรื่องใหญ่ที่หลงเฉิงหรือ?”ฉงชูโม่ลังเลเล็กน้อย แต่แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟังตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวด้วยใบหน้าตกตะลึง “มิจริงน่า? อ๋องฉู่กล้าซ่องสุมกำลังพลเพื่อก่อกบฏหรือ?!”“น่าประหลาดใจมากใช่หรือไม่? ยามนั้นข้าก็รู้สึกม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 676

    ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่ปะไรเล่า ยังมีเจ้าอีกทั้งคน มีเจ้าช่วยข้าก็มิถือว่าตัวคนเดียวแล้ว อีกอย่างคนที่ข้าต้องจัดการจริง ๆ มิใช่ชนเผ่าหรงตะวันตกทั้งหมดเสียหน่อย”“แล้วคนที่เจ้าต้องจัดการเป็นใครกันแน่?”“ในชนเผ่าหรงตะวันตกมีสำนักจันทราโรหิตอยู่ คราวนี้ข้าจะจัดการกับพวกเขาโดยเฉพาะ มหาปุโรหิตของสำนักจันทราโรหิตมีวรยุทธ์แก่กล้า ด้วยวรยุทธ์ของข้า ยังมิมั่นใจว่าจะรับมือไหว”ฉงชูโม่เลิกคิ้วขึ้น ซักถามต่อ “มหาปุโรหิตกระไรนั่นก็เป็นครึ่งก้าวย่ำสวรรค์ด้วยหรือ?”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกำลังจะส่ายหน้า แต่เมื่อไตร่ตรองดูดี ๆ เขาเหมือนนึกกระไรบางอย่างได้ จึงพยักหน้าเขากลัวว่าฉงชูโม่จะมิยอมอยู่ช่วย จึงกล่าวเสริมอีกว่า “ชูโม่ กองกำลังของอ๋องฉู่พวกนั้นมิได้มีอาวุธติดตัว ปล่อยให้พวกตงฟางไป๋พาพวกเขากลับไปก็พอแล้วอีกอย่าง หากเจ้าอยู่ที่หลงโย่ว หลังจากจัดการเรื่องสำนักจันทราโรหิตเสร็จ เจ้าก็รอองค์รัชทายาทแล้วค่อยกลับหลงเฉิงพร้อมกับพระองค์ก็ได้มิใช่หรือ”คราวนี้ฉงชูโม่รู้สึกเอนเอียงเข้าแล้ว แม้จะรู้ว่าฉินซูได้รับชัยชนะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่เรื่องรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างนางก็อยากรู้เช่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 677

    “กักตนบำเพ็ญเพียรครึ่งปี ในที่สุดก็ทะลวงผ่านคอขวดได้สำเร็จ มิเสียแรงที่เตรียมการมานานนับปี!”ขณะที่พูด เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างใต้ฝ่าเท้าเมื่อก้มลงมองก็พบว่าเป็นจดหมายที่เซวียหมิงและจ้าวอวี้เสวียนทิ้งไว้ให้เขาก่อนลงจากภูเขาไปเขาเปิดอ่านดูครั้งหนึ่ง สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นในทันใดจากนั้นร่างของเขาก็พุ่งทะยานหายลับไปจากเชิงเขาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เพียงชั่วพริบตาก็ไร้ร่องรอย!วันรุ่งขึ้นในหุบเขาที่อยู่ห่างจากทางใต้ของเจียวโจวประมาณเจ็ดถึงแปดสิบลี้ ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่บนก้อนหินใหญ่พลางจ้องมองไปยังทางใต้เขาคือเจ้าสำนักอสนีบาต ถานเทียนเต๋อ!ในเวลานี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร มือกำด้ามดาบแน่น“ศิษย์พี่เจ้าสำนัก พวกเราซุ่มโจมตีเรียบร้อยแล้ว รอเพียงองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นผ่านมาก็จะดักจับพวกเขาไว้ในหุบเขานี้ได้แล้วขอรับ!” เหยียนซงศิษย์น้องของเขาเดินเข้ามารายงานถานเทียนเต๋อพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวเสียงต่ำว่า “วันนี้ เพื่อแก้แค้นให้ซินหลาน ข้าจะสังหารฉินซูด้วยมือของข้าเอง!”พูดจบ เขากับเหยียนซงก็ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านใบดกหนาแน่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 678

    ทันใดนั้นเอง พลธนูสองนายก็กระโดดออกมาจากด้านหลังชิวก่วนพวกเขาใช้ระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ผูกติดกับลูกธนู จุดไฟแล้วปล่อยสายธนูฟิ้ว ฟิ้ว!ลูกธนูที่ยิงออกจากธนูทดกำลังนั้นเร็วราวสายฟ้าแลบ พุ่งไปยังเนินเขาทั้งสองด้าน“แย่แล้ว หลบเร็ว!”ถานเทียนเต๋อที่ซุ่มอยู่ในพุ่มรับรู้ถึงอันตรายที่กำลังมาถึงอย่างเฉียบแหลม จึงตะโกนเสียงดังลั่น คนที่อยู่ด้านหลังเขาก็เคลื่อนไหวทันทีเมื่อได้ยินเสียง!ทว่ายังช้าไปก้าวหนึ่ง!ตู้ม ตู้ม!!แม้ว่าลูกธนูที่ยิงไปถึงเนินเขาด้านหนึ่งจะพลาดเป้า แต่ลูกธนูอีกดอกกลับตกท่ามกลางกลุ่มคนด้านหลังถานเทียนเต๋อพอดีทันใดนั้นเอง เหล่าลูกศิษย์สำนักอสนีบาตก็ถูกแรงระเบิดอัดจนล้มระเนระนาด หลายคนนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น สองคนในนั้นถึงกับแขนขาขาดกระจุย สภาพน่าสยดสยองนักเมื่อเห็นภาพนั้น ถานเทียนเต๋อก็เผยสีหน้าตกใจสุดขีดลูกธนูที่ดูจะมิได้วิเศษวิโสกระไรกลับมีอานุภาพร้ายแรงถึงเพียงนี้!ในขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น ทางด้านชิวก่วนก็เผยมีสีหน้าประหลาดใจออกมา!“ให้ตาย มีคนซุ่มโจมตีพวกเราจริง ๆ ด้วย ใครก็ได้ ยิงถล่มมันเสีย!”เขาสั่งการอีกครั้ง พลธนูจึงหยิบธนูทดกำลังขึ้นมาผูกระเบิด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 679

    เมื่อลูกทรงกลมตกลงพื้นก็แตกออกพร้อมกับปล่อยควันพิษพวยพุ่งออกมากลุ่มใหญ่“กระจายออกไป เร็วเข้า...แค่ก ๆ ...”คนของสำนักอสนีบาตสูดควันพิษจนสำลักไอโขลก ๆ หลายคนหน้ามืดสติหมดสติไปเลยก็มีเมื่อเห็นว่าทั้งอาวุธลับและระเบิดควันพิษทำกระไรฉินซูมิได้ ถานเทียนเต๋อก็โกรธจนแทบคลั่ง!“ข้าชักจะโมโหแล้ว! ทุกคนจงฟังคำสั่ง ตามข้าไปฆ่าเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดกับพวกพ้องให้สิ้น!”“น้อมรับบัญชาท่านเจ้าสำนัก!”ทุกคนตอบรับพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียว แล้วกรูกันลงเขาพร้อมกับชูอาวุธในมือราวกับฝูงผึ้งแตกรัง“เป็นแค่พวกนกกระจอก ยังกล้าอวดดี!”ฉินซูยิ้มเยาะ หยิบลูกธนูมามัดหนึ่งแล้วกระทืบเท้ากับพื้น ร่างพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศทันทีเมื่อขึ้นไปอยู่กลางอากาศ เขาก็สะบัดมือ!ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว !ลูกธนูในมือถูกห่อหุ้มด้วยปราณบริสุทธิ์อันแข็งแกร่งพุ่งออกไปกลุ่มคนของสำนักอสนีบาตยังมิทันเข้าถึงตัวชิวก่วนและพวก ก็ถูกยิงด้วยธนูจนล้มไปกองกับพื้นเป็นส่วนใหญ่เสียแล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น เหยียนซงก็รีบเตือนว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก จะจับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน!”“ดี เจ้ากับข้าไปจัดการรัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นด้วยกัน ส่วนคนอื่น ๆ จงบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 680

    เหยียนซงใจเต้นระรัว รีบกล่าวว่า “ตราบใดที่องค์รัชทายาททรงเมตตาไว้ชีวิตเหล่าข้าน้อย ข้าน้อยยินดีถวายสมบัติล้ำค่าของสำนักอสนีบาตให้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูมีสีหน้าประหลาดใจ “โอ้? สมบัติกระไร?”เหยียนซงรีบควักกล่องไม้เล็ก ๆ สลักลวดลายงดงามออกมาจากอกเสื้อ “องค์รัชทายาท นี่คือแผนที่ขุมทรัพย์ที่สืบทอดมาจากปฐมาจารย์ของสำนักอสนีบาต ว่ากันว่าในขุมทรัพย์นั้นมีทองคำ เงินและอัญมณีมากมายฝังอยู่ อีกทั้งยังมีคัมภีร์สุดยอดวิชาลับ นี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักอสนีบาตเสมอมา ข้าน้อยยินดีมอบให้องค์รัชทายาทด้วยความเต็มใจพ่ะย่ะค่ะ”เขาพูดพลางยกกล่องไม้นั้นทูนขึ้นเหนือศีรษะด้วยสองมือฉินซูโบกมือขึ้นกลางอากาศ กล่องไม้นั้นก็ลอยมาอยู่ในมือของเขาโดยตรงเมื่อเห็นว่าฉินซูสามารถใช้พลังจิตเคลื่นย้ายได้ เหยียนซงก็ยิ่งตกใจหนักกว่าเดิมฉินซูเปิดกล่องไม้นั้น ด้านในมีหนังวัวสีเหลืองซีดเมื่อคลี่หนังวัวออก ข้างในก็เป็นแผนที่“ขุมทรัพย์ที่เจ้าพูดถึง อยู่ที่เป่ยเยี่ยนหรือ?”เนื่องจากเขากวาดตามองซ้ายขวาแล้วพบว่าส่วนล่างสุดของแผนที่คือเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของต้าเหยียน และเหนือขึ้นไปอีกก็คือดินแดนเป่ยเยี่ยนเหยียนซงพยัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 681

    จ้าวอวี้เสวียนพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็เตรียมจะใช้วิชาตัวเบาหนีไปทว่าในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงแผ่วเบาเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของทั้งสองพวกเขาทั้งสองหันกลับไปมองโดยสัญชาตญาณ ก็ต้องตกใจจนถอยกรูดไปหลายก้าว เมื่อตั้งหลักได้แล้วก็มองฉินซูที่โผล่มากะทันหันด้วยท่าทีระแวดระวังราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายฉินซูไพล่มือไว้ด้านหลังพลางพินิจมองทั้งสองด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตางดงามราวดอกท้อของจ้าวอวี้เสวียน และรัศมีแห่งความสูงศักดิ์ที่แผ่ออกมาจากตัวนาง ฉินซูเลิกคิ้วถามว่า “จ้าวอวี้เสวียนหรือ?”จ้าวอวี้เสวียนมีสีหน้าประหลาดใจ พลันถามกลับเสียงหลงว่า “เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?!”ฉินซูหัวเราะน้อย ๆ “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย ครั้นที่อยู่ในถัวเฉิง ข้าได้ยินคนพูดถึงองค์หญิงอวี้เสวียนบ่อยครั้งว่ามีรัศมีสูงส่ง งดงามน่าหลงใหล วันนี้ได้เห็นกับตา จริงดังคำว่าแล้ว”“เจ้ามิเคยพบข้า ไยจึงรู้ว่าข้าเป็นใคร?”“เจ้ากับข้าต่างก็เป็นเชื้อพระวงศ์ ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของหน่อเนื้อราชวงศ์นั้นเห็นได้ชัดเจน คำถามเช่นนี้จำเป็นต้องถามด้วยรึ?”จ้าวอวี้เสวียนใคร่ครวญแล้วก็เห็นด้วย จึงกัดฟันกล่าวว่า “ฉินซู เจ้าสังหารเช

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status