Share

บทที่ 676

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่ปะไรเล่า ยังมีเจ้าอีกทั้งคน มีเจ้าช่วยข้าก็มิถือว่าตัวคนเดียวแล้ว อีกอย่างคนที่ข้าต้องจัดการจริง ๆ มิใช่ชนเผ่าหรงตะวันตกทั้งหมดเสียหน่อย”

“แล้วคนที่เจ้าต้องจัดการเป็นใครกันแน่?”

“ในชนเผ่าหรงตะวันตกมีสำนักจันทราโรหิตอยู่ คราวนี้ข้าจะจัดการกับพวกเขาโดยเฉพาะ มหาปุโรหิตของสำนักจันทราโรหิตมีวรยุทธ์แก่กล้า ด้วยวรยุทธ์ของข้า ยังมิมั่นใจว่าจะรับมือไหว”

ฉงชูโม่เลิกคิ้วขึ้น ซักถามต่อ “มหาปุโรหิตกระไรนั่นก็เป็นครึ่งก้าวย่ำสวรรค์ด้วยหรือ?”

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกำลังจะส่ายหน้า แต่เมื่อไตร่ตรองดูดี ๆ เขาเหมือนนึกกระไรบางอย่างได้ จึงพยักหน้า

เขากลัวว่าฉงชูโม่จะมิยอมอยู่ช่วย จึงกล่าวเสริมอีกว่า “ชูโม่ กองกำลังของอ๋องฉู่พวกนั้นมิได้มีอาวุธติดตัว ปล่อยให้พวกตงฟางไป๋พาพวกเขากลับไปก็พอแล้ว

อีกอย่าง หากเจ้าอยู่ที่หลงโย่ว หลังจากจัดการเรื่องสำนักจันทราโรหิตเสร็จ เจ้าก็รอองค์รัชทายาทแล้วค่อยกลับหลงเฉิงพร้อมกับพระองค์ก็ได้มิใช่หรือ”

คราวนี้ฉงชูโม่รู้สึกเอนเอียงเข้าแล้ว แม้จะรู้ว่าฉินซูได้รับชัยชนะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่เรื่องรายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างนางก็อยากรู้เช่น
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 677

    “กักตนบำเพ็ญเพียรครึ่งปี ในที่สุดก็ทะลวงผ่านคอขวดได้สำเร็จ มิเสียแรงที่เตรียมการมานานนับปี!”ขณะที่พูด เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างใต้ฝ่าเท้าเมื่อก้มลงมองก็พบว่าเป็นจดหมายที่เซวียหมิงและจ้าวอวี้เสวียนทิ้งไว้ให้เขาก่อนลงจากภูเขาไปเขาเปิดอ่านดูครั้งหนึ่ง สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นในทันใดจากนั้นร่างของเขาก็พุ่งทะยานหายลับไปจากเชิงเขาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เพียงชั่วพริบตาก็ไร้ร่องรอย!วันรุ่งขึ้นในหุบเขาที่อยู่ห่างจากทางใต้ของเจียวโจวประมาณเจ็ดถึงแปดสิบลี้ ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่บนก้อนหินใหญ่พลางจ้องมองไปยังทางใต้เขาคือเจ้าสำนักอสนีบาต ถานเทียนเต๋อ!ในเวลานี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร มือกำด้ามดาบแน่น“ศิษย์พี่เจ้าสำนัก พวกเราซุ่มโจมตีเรียบร้อยแล้ว รอเพียงองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นผ่านมาก็จะดักจับพวกเขาไว้ในหุบเขานี้ได้แล้วขอรับ!” เหยียนซงศิษย์น้องของเขาเดินเข้ามารายงานถานเทียนเต๋อพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวเสียงต่ำว่า “วันนี้ เพื่อแก้แค้นให้ซินหลาน ข้าจะสังหารฉินซูด้วยมือของข้าเอง!”พูดจบ เขากับเหยียนซงก็ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านใบดกหนาแน่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 678

    ทันใดนั้นเอง พลธนูสองนายก็กระโดดออกมาจากด้านหลังชิวก่วนพวกเขาใช้ระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ผูกติดกับลูกธนู จุดไฟแล้วปล่อยสายธนูฟิ้ว ฟิ้ว!ลูกธนูที่ยิงออกจากธนูทดกำลังนั้นเร็วราวสายฟ้าแลบ พุ่งไปยังเนินเขาทั้งสองด้าน“แย่แล้ว หลบเร็ว!”ถานเทียนเต๋อที่ซุ่มอยู่ในพุ่มรับรู้ถึงอันตรายที่กำลังมาถึงอย่างเฉียบแหลม จึงตะโกนเสียงดังลั่น คนที่อยู่ด้านหลังเขาก็เคลื่อนไหวทันทีเมื่อได้ยินเสียง!ทว่ายังช้าไปก้าวหนึ่ง!ตู้ม ตู้ม!!แม้ว่าลูกธนูที่ยิงไปถึงเนินเขาด้านหนึ่งจะพลาดเป้า แต่ลูกธนูอีกดอกกลับตกท่ามกลางกลุ่มคนด้านหลังถานเทียนเต๋อพอดีทันใดนั้นเอง เหล่าลูกศิษย์สำนักอสนีบาตก็ถูกแรงระเบิดอัดจนล้มระเนระนาด หลายคนนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น สองคนในนั้นถึงกับแขนขาขาดกระจุย สภาพน่าสยดสยองนักเมื่อเห็นภาพนั้น ถานเทียนเต๋อก็เผยสีหน้าตกใจสุดขีดลูกธนูที่ดูจะมิได้วิเศษวิโสกระไรกลับมีอานุภาพร้ายแรงถึงเพียงนี้!ในขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น ทางด้านชิวก่วนก็เผยมีสีหน้าประหลาดใจออกมา!“ให้ตาย มีคนซุ่มโจมตีพวกเราจริง ๆ ด้วย ใครก็ได้ ยิงถล่มมันเสีย!”เขาสั่งการอีกครั้ง พลธนูจึงหยิบธนูทดกำลังขึ้นมาผูกระเบิด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 679

    เมื่อลูกทรงกลมตกลงพื้นก็แตกออกพร้อมกับปล่อยควันพิษพวยพุ่งออกมากลุ่มใหญ่“กระจายออกไป เร็วเข้า...แค่ก ๆ ...”คนของสำนักอสนีบาตสูดควันพิษจนสำลักไอโขลก ๆ หลายคนหน้ามืดสติหมดสติไปเลยก็มีเมื่อเห็นว่าทั้งอาวุธลับและระเบิดควันพิษทำกระไรฉินซูมิได้ ถานเทียนเต๋อก็โกรธจนแทบคลั่ง!“ข้าชักจะโมโหแล้ว! ทุกคนจงฟังคำสั่ง ตามข้าไปฆ่าเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดกับพวกพ้องให้สิ้น!”“น้อมรับบัญชาท่านเจ้าสำนัก!”ทุกคนตอบรับพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียว แล้วกรูกันลงเขาพร้อมกับชูอาวุธในมือราวกับฝูงผึ้งแตกรัง“เป็นแค่พวกนกกระจอก ยังกล้าอวดดี!”ฉินซูยิ้มเยาะ หยิบลูกธนูมามัดหนึ่งแล้วกระทืบเท้ากับพื้น ร่างพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศทันทีเมื่อขึ้นไปอยู่กลางอากาศ เขาก็สะบัดมือ!ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว !ลูกธนูในมือถูกห่อหุ้มด้วยปราณบริสุทธิ์อันแข็งแกร่งพุ่งออกไปกลุ่มคนของสำนักอสนีบาตยังมิทันเข้าถึงตัวชิวก่วนและพวก ก็ถูกยิงด้วยธนูจนล้มไปกองกับพื้นเป็นส่วนใหญ่เสียแล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น เหยียนซงก็รีบเตือนว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก จะจับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน!”“ดี เจ้ากับข้าไปจัดการรัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นด้วยกัน ส่วนคนอื่น ๆ จงบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 680

    เหยียนซงใจเต้นระรัว รีบกล่าวว่า “ตราบใดที่องค์รัชทายาททรงเมตตาไว้ชีวิตเหล่าข้าน้อย ข้าน้อยยินดีถวายสมบัติล้ำค่าของสำนักอสนีบาตให้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูมีสีหน้าประหลาดใจ “โอ้? สมบัติกระไร?”เหยียนซงรีบควักกล่องไม้เล็ก ๆ สลักลวดลายงดงามออกมาจากอกเสื้อ “องค์รัชทายาท นี่คือแผนที่ขุมทรัพย์ที่สืบทอดมาจากปฐมาจารย์ของสำนักอสนีบาต ว่ากันว่าในขุมทรัพย์นั้นมีทองคำ เงินและอัญมณีมากมายฝังอยู่ อีกทั้งยังมีคัมภีร์สุดยอดวิชาลับ นี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักอสนีบาตเสมอมา ข้าน้อยยินดีมอบให้องค์รัชทายาทด้วยความเต็มใจพ่ะย่ะค่ะ”เขาพูดพลางยกกล่องไม้นั้นทูนขึ้นเหนือศีรษะด้วยสองมือฉินซูโบกมือขึ้นกลางอากาศ กล่องไม้นั้นก็ลอยมาอยู่ในมือของเขาโดยตรงเมื่อเห็นว่าฉินซูสามารถใช้พลังจิตเคลื่นย้ายได้ เหยียนซงก็ยิ่งตกใจหนักกว่าเดิมฉินซูเปิดกล่องไม้นั้น ด้านในมีหนังวัวสีเหลืองซีดเมื่อคลี่หนังวัวออก ข้างในก็เป็นแผนที่“ขุมทรัพย์ที่เจ้าพูดถึง อยู่ที่เป่ยเยี่ยนหรือ?”เนื่องจากเขากวาดตามองซ้ายขวาแล้วพบว่าส่วนล่างสุดของแผนที่คือเมืองที่อยู่ตอนเหนือสุดของต้าเหยียน และเหนือขึ้นไปอีกก็คือดินแดนเป่ยเยี่ยนเหยียนซงพยัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 681

    จ้าวอวี้เสวียนพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็เตรียมจะใช้วิชาตัวเบาหนีไปทว่าในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงแผ่วเบาเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของทั้งสองพวกเขาทั้งสองหันกลับไปมองโดยสัญชาตญาณ ก็ต้องตกใจจนถอยกรูดไปหลายก้าว เมื่อตั้งหลักได้แล้วก็มองฉินซูที่โผล่มากะทันหันด้วยท่าทีระแวดระวังราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายฉินซูไพล่มือไว้ด้านหลังพลางพินิจมองทั้งสองด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตางดงามราวดอกท้อของจ้าวอวี้เสวียน และรัศมีแห่งความสูงศักดิ์ที่แผ่ออกมาจากตัวนาง ฉินซูเลิกคิ้วถามว่า “จ้าวอวี้เสวียนหรือ?”จ้าวอวี้เสวียนมีสีหน้าประหลาดใจ พลันถามกลับเสียงหลงว่า “เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?!”ฉินซูหัวเราะน้อย ๆ “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย ครั้นที่อยู่ในถัวเฉิง ข้าได้ยินคนพูดถึงองค์หญิงอวี้เสวียนบ่อยครั้งว่ามีรัศมีสูงส่ง งดงามน่าหลงใหล วันนี้ได้เห็นกับตา จริงดังคำว่าแล้ว”“เจ้ามิเคยพบข้า ไยจึงรู้ว่าข้าเป็นใคร?”“เจ้ากับข้าต่างก็เป็นเชื้อพระวงศ์ ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของหน่อเนื้อราชวงศ์นั้นเห็นได้ชัดเจน คำถามเช่นนี้จำเป็นต้องถามด้วยรึ?”จ้าวอวี้เสวียนใคร่ครวญแล้วก็เห็นด้วย จึงกัดฟันกล่าวว่า “ฉินซู เจ้าสังหารเช

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 682

    เห็นที่ทรวงอกของเซวียหมิงปรากฏแสงสีทองวาบขึ้นอย่างกะทันหัน และรวมตัวกันเป็นคำว่า 'เสวียน' ขนาดใหญ่!กระแสพลังฝ่ามืออันรุนแรงของฉินซูเมื่อสัมผัสกับอักษร 'เสวียน' ดังกล่าว ก็สลายหายไปกลางอากาศในพริบตา“หือ?”ฉินซูอุทานด้วยความประหลาดใจ มองภาพอันน่าพิศวงนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มใบหน้าสีหน้าของจ้าวอวี้เสวียนเปลี่ยนไปฉับพลัน รีบถามขึ้น “ศิษย์พี่รอง ท่านเป็นกระไรหรือไม่?”เซวียหมิงส่ายหน้า เขาอ้าปากกำลังจะพูดบางอย่างแต่แล้วก็กระอักเลือดออกมาคำโตยามนี้ กระดูกแขนทั้งสองข้างของเขาหักเป็นหลายท่อน ลมปราณในร่างกายก็ปั่นป่วนราวกับน้ำเดือด ใบหน้าซีดเผือดจนไร้สีเลือดจ้าวอวี้เสวียนตกใจมาก จากนั้นก็ตวาดใส่ฉินซูว่า “เจ้าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้ากล้าทำร้ายศิษย์พี่ของข้า เจ้าต้องตาย สำนักไท่เสวียนของข้าจะมิปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด!”“พวกเจ้าเป็นฝ่ายลงมือก่อน บัดนี้ฝีมือมิทัดเทียมผู้อื่น ยังกล้าปากพล่อย คิดว่าตัวข้าสังหารพวกเจ้ามิได้หรือ?”เมื่อสิ้นเสียงของฉินซู เขาก็ตบฝ่ามือข้ามห้วงเวหาออกไปอีกครามวลอากาศโดยรอบปั่นป่วน จากนั้นเงาฝ่ามือแข็งแกร่งราวกับวัตถุจริงก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว“ศิษย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 683

    ดวงตาของฉินซูเบิกกว้าง เมื่อเห็นภาพมหัศจรรย์นี้ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือนี่?จากนั้นเขาก็ปล่อยกระแสพลังฝ่ามือออกมาอีกหลายครั้ง พยายามจะทำลายโล่จำแลงจากป้ายอาญาสิทธิ์นั้นลง แต่กลับพบว่าหลังจากโจมตีติดต่อกันหลายครั้งป้ายอาญาสิทธิ์นั้นก็ยังคงแข็งแกร่งราวกับหินผาป้ายอาญาสิทธิ์นั่นเป็นของวิเศษ!เมื่อคิดได้ดังนั้น ดวงตาของฉินซูก็เป็นประกายในทันที ใบหน้าฉายแววละโมบสิ่งที่เขาขาดแคลนมากที่สุดในยามนี้ก็คือของวิเศษคุ้มภัยเช่นนี้บัดนี้คงต้องคิดหาวิธีแล้ว!เขาเหลือบมองไปรอบ ๆ แล้วถามด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงสัยว่า “จ้าวอวี้เสวียน ป้ายอาญาสิทธิ์ของเจ้า เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของผู้บำเพ็ญตนใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้เรื่องผู้บำเพ็ญตนด้วยหรือ?!” สีหน้าของจ้าวอวี้เสวียนยิ่งทวีความประหลาดใจ“ข้าต้องรู้อยู่แล้วสิ ในเมื่อพวกเจ้าเป็นพวกผู้บำเพ็ญตน จะปลิดชีพพวกเจ้าให้หมดสิ้นย่อมเป็นการยาก พวกเจ้าไปซะ วันนี้ข้าจะมิฆ่าพวกเจ้า”เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวอวี้เสวียนก็ดีใจมากนางยื่นนิ้วเรียวยาวขาวผ่องแตะป้ายอาญาสิทธิ์ ป้ายอาญาสิทธิ์นั้นก็หดวูบคืนสู่ขนาดเดิมแล้วตกลงมาบนฝ่ามือนางในขณะที่จ้าวอวี้เสวียนกำลังจะประค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 684

    “แย่งชิงสมบัติของสำนักไท่เสวียนของข้าแล้วยังคิดจะสังหารคนอีก ทำเช่นนี้ช่างเกินไปจริง ๆ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ จ้าวอวี้เสวียนและเซวียหมิงที่หมดหวังไปแล้วก็เผยสีหน้ายินดีสุดขีดเห็นเพียงร่างคนวูบไหว ชายชราสวมชุดคลุมสีขาวก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาแล้ว“ท่านอาจารย์อา!!”จ้าวอวี้เสวียนยินดีจนน้ำตาไหล ในที่สุดก็รอดแล้วชายชราพยักหน้าเล็กน้อยพลางมองเซวียหมิงที่บาดเจ็บสาหัส จากนั้นใบหน้าเฒ่าชราก็มืดคล้ำลงทันทีสายตาเย็นเยียบลุ่มลึกของเขาจับจ้องไปที่ฉินซู ก่อนจะเปล่งวาจาชัดถ้อยคำ “ข้ามิสนว่าเจ้าเป็นใคร รีบคืนป้ายอาญาสิทธิ์ไท่เสวียนมาเสีย แล้วจงตัดแขนตนทั้งสองข้าง เรื่องที่เจ้าทำร้ายเซวียหมิงจะถือว่าเลิกแล้วต่อกัน”ฉินซูยักไหล่กล่าวว่า “อายุก็มาก ไฉนยังพูดจาไร้เดียงสาเช่นนี้ หรือว่าคนของสำนักไท่เสวียนของพวกเจ้าทุกคนเป็นพวกไร้สมองเหมือนเจ้ากันหมด?”ในดวงตาของชายชราเผยจิตสังหารแวบหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าอยากตายหรือไร?”“ข้าพูดไปตามความจริงเท่านั้น แม้ว่าข้าจะตัดแขนทั้งสองข้างตามที่เจ้าพูด เจ้าอาจจะปล่อยข้าไป แต่จ้าวอวี้เสวียนมิยอมปล่อยแน่ เพราะข้าสังหารราชวงศ์จ้าว

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 703

    “นึกมิถึงว่าเขาจะหนีรอดไปได้ เขาก็มีฝีมือเหมือนกันนี่ ดูท่าทางจะเตรียมการมาอย่างดีเชียว”“องค์รัชทายาท เมื่อกลับถึงหลงเฉิงแล้วเข้าเฝ้าฝ่าบาท จะทูลเรื่องที่อ๋องฉู่สมคบคิดก่อกบฏหรือไม่เพคะ?”“ทูลสิ ต้องทูลอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรามีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ยิ่งกว่านั้นการที่เขาสมคบคิดก่อกบฏก็เป็นความจริง อย่างไรก็ต้องทูล”“แต่ยามนี้อ๋องฉู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยนิสัยระแวดระวังของฝ่าบาท เกรงว่าพระองค์จะมิทรงเชื่อพวกเราเต็มร้อยกระมังเพคะ”ฉินซูกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หลังจากเรื่องของอ๋องฉู่แดงขึ้นมา เขาก็หายตัวไป นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการหนีความผิด พวกเรากราบทูลตามความจริง บวกกับคำให้การของเหล่าคนสนิทของอ๋องฉู่และทหารห้าหมื่นนายที่ไม่มีรายชื่อในทะเบียน ก็เพียงพอที่จะตัดสินความผิดของอ๋องฉู่ได้แล้ว”“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นคนนั้น หม่อมฉันให้พวกตงฟางไป๋นำทางกลับหลงเฉิงล่วงหน้าไปแล้วเพคะ”ฉงชูโม่พูดพลางรู้สึกกระวนกระวายใจแปลก ๆจากนั้น พวกเขาก็พักค้างคืนที่เมืองหลงโย่วก่อนนอน ฉินซูสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากห้องฝั่งตรงข้ามที่นั่นคือห้องของจีอันด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status