공유

บทที่ 409

작가: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เมื่อนางบรรเลงเพลงจบ เฉินจางก็ปรบมือชื่นชมขึ้นมาทันที

“เสียงพิณช่างเบาสบายทำให้คนฟังเคลิบเคลิ้มจริง ๆ สมแล้วที่เป็นบุตรีสุดที่รักของข้าเฉินจาง!”

หว่านเอ๋อร์ถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ท่านพ่อ? เหตุใดจึงกลับมาไวเช่นนี้หรือเจ้าคะ วันนี้ที่ว่าการมณฑลไม่มีงานหรือเจ้าคะ?”

“มีสิมี แต่ว่าพ่อกลับมาเพราะมีเรื่องมงคลยิ่งนักมาบอกเจ้า!”

“เรื่องมงคลอะไรหรือเจ้าคะ?”

เฉินจางมิตอบ แต่กลับถามกลับว่า “หว่านเอ๋อร์ เจ้าบอกพ่อสิ ว่าเจ้าอยากจะโบยบินขึ้นไปบนยอดกิ่งไม้แล้วกลายเป็นนางพญาหรือไม่?”

เฉินหว่านเอ๋อร์งงงวยเล็กน้อยพลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านหมายความว่ากระไรเจ้าคะ?”

“องค์รัชทายาทเสด็จมาที่เมืองเหลียงโจวของพวกเราแล้ว ตอนนี้ทรงพักผ่อนอยู่ในที่ว่าการมณฑล พ่อจึงวางแผนว่าจะเชิญองค์รัชทายาทมาเลี้ยงรับรองที่บ้านของเราคืนนี้ จากนั้นเจ้าจงทำตัวให้ดี ทำให้องค์รัชทายาทพอพระทัยให้ได้ เช่นนั้นเจ้าก็จะกลายเป็นนางพญาที่โบยบินไปบนยอดกิ่งไม้!”

ใบหน้าของเฉินหว่านเอ๋อร์เต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น

แต่มินานนัก รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็แข็งทื่อ “ท่านพ่อ สถานะขององค์รัชทายาทสูงส่งนัก พระองค์จะทรงโ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 410

    จางเฟิงสีหน้าลำบากใจพร้อมกับโบกมือ “ข้าเองก็อับจนหนทาง บัดนี้ทั่วทั้งเมืองเหลียงโจวของพวกเรากำลังขาดแคลนอาหาร” ผู้ว่าการอำเภอของอำเภอเหรากู่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ใต้เท้าจาง ได้ยินว่าทางราชสำนักส่งเงินบรรเทาภัยพิบัติมาถึงเหลียงโจวแล้วมิใช่หรือ? หากในเมืองไม่มีเสบียงอาหารแล้วจริง ๆ เช่นนั้นท่านก็ช่วยจัดสรรเงินนั้นให้พวกเราสักหน่อยเถิด พวกเราจะได้นำไปซื้อเสบียงที่เมืองหรืออำเภออื่น” อีกสองคนก็เห็นด้วยเช่นกัน “ใช่แล้ว เสบียงหมดแล้วก็จัดสรรเงินให้เราไปซื้อเสบียงบรรเทาภัยพิบัติเถิด” “ว่ากันว่าราชสำนักส่งเงินมาถึงห้าแสนตำลึง อำเภอฉงซานของพวกเรามีจำนวนผู้ประสบภัยมากที่สุด ยามนี้ทุกครัวเรือนขาดแคลนน้ำและอาหาร ขอให้ทางที่ว่าการมณฑลจัดสรรเงินให้เราหนึ่งแสนตำลึงเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนนี้ด้วยเถิด” จางเฟิงทำสีหน้าเคร่งขรึมพร้อมตะคอกอย่างเย็นชาทันที “หนึ่งแสนตำลึงงั้นรึ? หึ เจ้าก็กล้าขออย่างเกินควรนักนะ!” “ใต้เท้าจาง ข้าน้อยหาได้ขอเกินควรไม่ จากสถานการณ์ในฉงซานยามนี้ต้องใช้เงินอย่างน้อยสองแสนตำลึงจึงจะผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้นะขอรับ” “หยุดเลย อย่าว่าแต่หนึ่งแสนตำลึง ตอนนี้แม้แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 411

    “องค์รัชทายาทประทับอยู่ในเมืองเหลียงโจวแล้วมิใช่หรือ หากวันพรุ่งที่ว่าการมณฑลยังคงนิ่งเฉย เช่นนั้นข้าก็จะมิสนใจอะไรแล้ว ข้าจะไปหาองค์รัชทายาทเพื่อขอคำอธิบายเอง” “ตกลง! เช่นนั้นพวกเราสามคนเจอกันวันพรุ่ง!” “ได้ รักษาตัวด้วย!” ทั้งสามกล่าวลากัน จากนั้นก็ต่างฝ่ายต่างขนส่งข้าวร้อยต้านกลับไปยังพื้นที่ของตน ในเวลาเดียวกัน ในเมืองเหลียงโจว ณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งชื่อว่าชี่ไพ่โจวเซินและสวี่โย่วไฉสองคนกำลังหารือเรื่องการซื้อเสบียงบรรเทาภัยพิบัติกับพ่อค้าขายข้าวในท้องถิ่นหลายคน ในเวลานั้นพ่อค้าข้าวหลายคนต่างมีสีหน้าหนักใจ บางคนถึงกับแสดงความมิพอใจออกมา โจวเซินยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างใจเย็นก่อนจะพูดขึ้นว่า “ทุกท่าน ข้าอธิบายชัดเจนเป็นอย่างยิ่งแล้ว อีกทั้งนี่คือความหมายของใต้เท้าเฉินด้วย พวกท่านเองก็พิจารณานานพอแล้ว ข้าขอคำตอบที่แน่ชัดเสียทีได้หรือไม่?” คนทั้งหลายต่างมองหน้ากัน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดว่า “ท่านผู้ช่วย เนื่องจากผลกระทบของภัยพิบัติเมื่อเร็ว ๆ นี้ ราคาข้าวจึงพุ่งสูงขึ้นทุกครั้ง แต่พวกท่านจะให้กำไรพวกเราแค่สองส่วนเท่านั้น เช่นนี้มันขาดทุนเห็น ๆ นะขอรับ” “ใช่แล้วผู้ช่วยโจว ถ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 412

    สวีหลายพูดอย่างจริงจังว่า “สังหารพวกเขาตอนนี้ก็เป็นเพียงการแหวกหญ้าให้งูตื่น จะเป็นการทำให้เฉินจางและพรรคพวกหนีรอดไปได้ พวกเราจะต้องถอนรากถอนโคนพวกนั้น!” “นับแต่โบราณนานนมราษฎรมิอาจต่อกรกับขุนนางได้ มันจะง่ายดังเช่นท่านพูดที่ไหนกัน” “สำหรับพวกเรามันยากก็จริง แต่ว่าในเมืองยามนี้มิได้มีคนที่สามารถชี้เป็นชี้ตายพวกมันได้แล้วหรือไร?” เฉิงอิงตาเป็นประกายแล้วเอ่ยถาม “สามี ท่านหมายถึงองค์รัชทายาทใช่หรือไม่?” สวีหลายพยักหน้าเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว องค์รัชทายาททรงได้รับพระราชโองการให้มาสำรวจพื้นที่ภัยพิบัติและทรงมีอำนาจประหารก่อนรายงานทีหลัง” “แต่ว่าสามี ได้ยินว่าองค์รัชทายาททรงประพฤติผิดศีลธรรม ทั้งหมกมุ่นในสุรานารีทั้งวัน พระองค์จะออกหน้าเพื่อราษฎรหรือ?” “นั่นเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น ระยะหลังการแสดงออกขององค์รัชทายาทกลับโดดเด่นกว่าองค์ชายพระองค์อื่นมากนัก นอกจากนี้ข้าเคยพบเขาที่หลงโย่วเมื่อมินานมานี้ เขาทำให้ข้ารู้สึกว่า เขามิเหมือนจวิ้นอ๋องที่เอาแต่แสวงหาความสำราญเลย” เฉิงอิงยังคงกังวลอยู่ “ถึงแม้องค์รัชทายาทจะประสงค์ดูแลเรื่องนี้จริง ๆ แต่เฉินจางกับโจวเซินล้วนเป็นพวกมากเล่ห์เ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 413

    “เดิมสำนักหอดูดาวหลวงก็มีอำนาจประหารก่อนรายงานทีหลังอยู่แล้ว หากนางค้นพบหลักฐานความผิดของเฉินจางจริงก็ถือว่าเขาสมควรตาย แต่เฉินจางเป็นถึงผู้ว่าการมณฑล หลักฐานกระทำผิดจะถูกเปิดเผยง่าย ๆ ได้อย่างไร” “เช่นนั้นแล้วองค์รัชทายาทก็ยังให้กู้เสวี่ยเจี้ยนแอบไปสืบที่จวนผู้การมณฑลงั้นหรือเพคะ?” “นางเอาแต่พูดจ้อใส่หูข้ามิหยุด หูข้าแทบจะด้านอยู่แล้ว” เช่นนี้เซี่ยหลานถึงได้ยิ้มอย่างจนใจ “อารมณ์ของกู้เสวี่ยเจี้ยนนั้นยากที่จะคาดเดานักเพคะ ก่อนหน้านี้นางก็เย็นชาถึงเพียงนั้น” ฉินซูบ่นว่า “เย็นชาอะไรกัน อย่างนางเรียกว่าพวกซึนเดเระ” “ซึนเดเระหรือเพคะ?” เซี่ยหลานถามอยางสงสัย “องค์รัชทายาท ซึนเดเระหมายความว่ากระไรหรือเพคะ?” ฉินซูกำลังจะอธิบาย ตอนนี้เองตงฟางไป๋ได้เดินเข้ามา “องค์รัชทายาท มีคนด้านนอกนำจดหมายมาส่ง บอกว่ามอบให้ท่านขอรับ” ในขณะที่พูด ตงฟางไป๋ก็ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ ฉินซูเปิดอ่านเพียงแวบเดียวก่อนกล่าวว่า “เซี่ยหลาน ข้าต้องออกไปทำธุระสักครู่ เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน หากพวกเฉินจางถามถึงก็บอกว่าข้าออกไปเดินเล่น” “เพคะ องค์รัชทายาทโปรดทรงระวังตัวด้วย” ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อยแล้วออกไปพ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 414

    ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วสั่งตงฟางไป๋ว่า “เจ้านำคนจำนวนหนึ่งไปจับตาดูพ่อค้าขายข้าวในเมือง และต้องเฝ้าดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด!” “น้อมรับพระบัญชา!” ตงฟางไป๋กำลังจะออกไป แต่กลับลังเลเล็กน้อยและถามว่า “องค์รัชทายาท หากข้าน้อยออกไปแล้ว ท่านเพียงพระองค์เดียว…” ฉินซูตอบอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่ว่าเจ้ามิรู้ถึงพลังของข้า จะกังวลอะไรอีก” ตงฟางไป๋หัวเราะอย่างจริงใจ “นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ เป็นข้าน้อยที่คิดมากไปเอง” ตอนนี้เอง สายตาของฉินซูเย็นเยียบในฉับพลัน มือใหญ่ของเขาคว้าออกกลางอากาศโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า! “ปัง!” ประตูถูกกระแทกจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ ชายคนหนึ่งถูกฉินซูบีบคอไว้อย่างแน่นหนา! ชายผู้นี้คิ้วโก่งและตาเหมือนหนู มองปราดเดียวก็รู้ว่ามิใช่คนดี หลังจากถูกฉินซูบีบคอ เขาตกใจจนหน้าซีด แววตาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว ฉินซูตะคอกถามว่า “เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ?” “ข้า… แค่ก ๆ…” ชายผู้นั้นพูดอย่างยากลำบาก ยังมิทันพูดจบประโยค ใบหน้าก็แดงก่ำฉินซูคลายมือเล็กน้อย ชายคนนั้นถึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง หลังจากตั้งสติได้ เขาพูดด้วยใบหน้าขมขื่นว่า “องค์รัชทายาท ข้าน้อยแค่ผ่านม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 415

    เขานั่งลงพร้อมใบหน้าที่สนใจใคร่รู้และเอ่ยถามว่า “พี่น้องทั้งหลาย ที่พวกท่านเพิ่งพูดคือความจริงงั้นหรือ?” คนเหล่านั้นเห็นว่าฉินซูสวมเสื้อผ้าหรูหรา ท่าทางมิธรรมดาจึงเริ่มทำหน้าระมัดระวังในทันใด หนึ่งในนั้นส่ายหน้าและปฏิเสธว่า “เมื่อครู่พวกเรามิได้พูดอะไรเลย…”ฉินซูยิ้มอย่างใจดีและพูดว่า “พวกท่านอย่ากังวลไปเลย ข้าคือคนต่างถิ่น เมื่อครู่ข้าได้ยินพวกท่านพูดเช่นนั้นจึงรู้สึกสงสัยขึ้นมาเท่านั้นเอง” แต่ว่าคนเหล่านั้นยังเต็มไปด้วยความระแวดระวัง จึงไม่มีใครเปิดปากพูด เห็นท่าทีนั้น ฉินซูจึงหยิบเงินก้อนหนึ่งออกมาจากอกเมื่อเห็นเงิน ดวงตาของพวกเขาก็ส่องสว่างทันที ชายหนุ่มร่างผอมผู้หนึ่งเอ่ยถามว่า “คุณชายท่านนี้ เงินนี้…ให้พวกเรางั้นหรือ?” “ถูกต้อง ขอเพียงพวกท่านสามารถตอบคำถามของข้าสองสามข้อตามความจริงได้ เงินนี้จะเป็นของพวกท่าน” ได้ยินแล้วพวกเขาต่างแลกเปลี่ยนสายตากันจากนั้นก็พยักหน้ารัว ๆ จากนั้นฉินซูจึงถามเข้าประเด็นทันทีว่า “เมื่อครู่พวกท่านเพิ่งพูดว่า ที่ว่าการมณฑลกักตุนข้าวของเหลียงโจวไว้ นั่นหมายความว่าอย่างไร?” คนเหล่านี้ถอนหายใจออกมาแล้วเริ่มเล่าเรื่องราว แท้จริงแล้ว ห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 416

    “จิ๊! ก็เป็นไปได้!”“ถูกต้อง มิเช่นนั้นใครจะใจกว้างขนาดนี้เพื่อสืบหาข้อมูลพวกนี้กันเล่า”“หากเป็นเช่นนั้นจริง ชีวิตที่สุขกายสบายใจของพวกขุนนางกังฉินอย่างเสินจางก็ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว ถือว่าสวรรค์มีตาฟ้ามีใจโดยแท้!”ขณะที่พูดคุยกัน พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทว่าหลังจากที่ฉินซูออกมาจากโรงน้ำชา เขาก็มิได้กลับไป แต่เดินสอบถามไปตามถนนและเมื่อสอบถามข้อมูลมาได้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจสถานการณ์ในเมืองเหลียงโจวแล้วนอกเหนือจากอำเภอทั้งสามอันได้แก่เหรากู่ ฉงซานและเป่ยเซียงที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากภัยพิบัติครั้งนี้ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในอำเภอที่เหลือก็มิได้ร้ายแรงมากนัก โดยอาศัยการกักตุนข้าวในโรงนาของที่ว่าการอำเภอในแต่ละอำเภอ ราษฎรผู้ประสบภัยจึงสามารถรอดพ้นจากความอดอยากไปได้อย่างปลอดภัยฉินซูยังตามหาพ่อค้าเหล่านั้นโดยเฉพาะเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่ที่ว่าการอำเภอบังคับซื้อข้าวในราคาต่ำแต่พวกเขามีความกังวลบางอย่าง จึงมิได้ตอบกลับตรง ๆเมื่อเห็นสถานการณ์ ฉินซูก็รู้ว่าข้อมูลเหล่านี้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงแล้วหลังจากเดินเตร่ไปตามถนนได้สักพักเขาก็กลับมายังที่ว่าการมณฑลขณะเดียวกันห้อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 417

    ฉินซูพยักหน้าอย่างมิหวั่น “ยากนักที่ใต้เท้าเฉินจะมีน้ำใจเช่นนี้ คืนนี้ข้าจะไปที่นั่นแน่นอน!”“ขอบพระทัยสำหรับพระกรุณา เช่นนั้นเหล่าข้าน้อยขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”เฉินจางโค้งคำนับด้วยความดีใจ จากนั้นจึงหันหลังกลับออกไปพร้อมกับโจวเซินและคนอื่น ๆทันทีที่พวกเขาออกไป ถานเหวยก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“องค์รัชทายาท เมื่อครู่ข้าน้อยเห็นพวกเขาทำสายตาล่อกแล่ก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องทำอะไรผิดมาแน่ อาจจะมีบางอย่างผิดปกติกับราคาที่พวกเขาเจรจากับพ่อค้าขายข้าวเหล่านั้น พวกเราจะมิสอบถามสักหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินซูยิ้มพลางส่ายหัว “ตอนนี้ปล่อยไปก่อน หากพวกเขากล้าที่จะโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ข้าจะทำให้พวกเขาต้องกระอักเลือดออกมาสิบครั้งร้อยครั้ง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถานเหวยก็ตกตะลึง จากนั้นดวงตาของเขาก็แวววาวคาดหวัง!ครึ่งวันถัดมา เฉินจางและคนอื่น ๆ ก็นำเงินห้าแสนตำลึงไปซื้อเสบียงระหว่างทางโจวเซินขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาสั่นไหวและมิรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เฉินจางถามอย่างสงสัย “ผู้ช่วยโจว เจ้าคิดอะไรอยู่ถึงได้ขมวดคิ้วเช่นนี้?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าแค่คิดว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นเกินไป องค์รั

최신 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status