Share

บทที่ 416

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“จิ๊! ก็เป็นไปได้!”

“ถูกต้อง มิเช่นนั้นใครจะใจกว้างขนาดนี้เพื่อสืบหาข้อมูลพวกนี้กันเล่า”

“หากเป็นเช่นนั้นจริง ชีวิตที่สุขกายสบายใจของพวกขุนนางกังฉินอย่างเสินจางก็ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว ถือว่าสวรรค์มีตาฟ้ามีใจโดยแท้!”

ขณะที่พูดคุยกัน พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ทว่าหลังจากที่ฉินซูออกมาจากโรงน้ำชา เขาก็มิได้กลับไป แต่เดินสอบถามไปตามถนน

และเมื่อสอบถามข้อมูลมาได้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจสถานการณ์ในเมืองเหลียงโจวแล้ว

นอกเหนือจากอำเภอทั้งสามอันได้แก่เหรากู่ ฉงซานและเป่ยเซียงที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากภัยพิบัติครั้งนี้ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในอำเภอที่เหลือก็มิได้ร้ายแรงมากนัก โดยอาศัยการกักตุนข้าวในโรงนาของที่ว่าการอำเภอในแต่ละอำเภอ ราษฎรผู้ประสบภัยจึงสามารถรอดพ้นจากความอดอยากไปได้อย่างปลอดภัย

ฉินซูยังตามหาพ่อค้าเหล่านั้นโดยเฉพาะเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่ที่ว่าการอำเภอบังคับซื้อข้าวในราคาต่ำ

แต่พวกเขามีความกังวลบางอย่าง จึงมิได้ตอบกลับตรง ๆ

เมื่อเห็นสถานการณ์ ฉินซูก็รู้ว่าข้อมูลเหล่านี้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงแล้ว

หลังจากเดินเตร่ไปตามถนนได้สักพักเขาก็กลับมายังที่ว่าการมณฑล

ขณะเดียวกัน

ห้อ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 417

    ฉินซูพยักหน้าอย่างมิหวั่น “ยากนักที่ใต้เท้าเฉินจะมีน้ำใจเช่นนี้ คืนนี้ข้าจะไปที่นั่นแน่นอน!”“ขอบพระทัยสำหรับพระกรุณา เช่นนั้นเหล่าข้าน้อยขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”เฉินจางโค้งคำนับด้วยความดีใจ จากนั้นจึงหันหลังกลับออกไปพร้อมกับโจวเซินและคนอื่น ๆทันทีที่พวกเขาออกไป ถานเหวยก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“องค์รัชทายาท เมื่อครู่ข้าน้อยเห็นพวกเขาทำสายตาล่อกแล่ก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องทำอะไรผิดมาแน่ อาจจะมีบางอย่างผิดปกติกับราคาที่พวกเขาเจรจากับพ่อค้าขายข้าวเหล่านั้น พวกเราจะมิสอบถามสักหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินซูยิ้มพลางส่ายหัว “ตอนนี้ปล่อยไปก่อน หากพวกเขากล้าที่จะโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ข้าจะทำให้พวกเขาต้องกระอักเลือดออกมาสิบครั้งร้อยครั้ง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถานเหวยก็ตกตะลึง จากนั้นดวงตาของเขาก็แวววาวคาดหวัง!ครึ่งวันถัดมา เฉินจางและคนอื่น ๆ ก็นำเงินห้าแสนตำลึงไปซื้อเสบียงระหว่างทางโจวเซินขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาสั่นไหวและมิรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เฉินจางถามอย่างสงสัย “ผู้ช่วยโจว เจ้าคิดอะไรอยู่ถึงได้ขมวดคิ้วเช่นนี้?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าแค่คิดว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นเกินไป องค์รั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 418

    ฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “แค่เรื่องเล็กน้อย มิควรค่าแก่การกล่าวถึงหรอก”“เรื่องขององค์รัชทายาทก็ถือเป็นเรื่องของข้าน้อย หากทรงต้องการให้ข้าน้อยรับใช้สิ่งใด องค์รัชทายาทก็หาอย่าได้เกรงพระทัยเลยพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่มีปัญหา ๆ นี่ก็เลยเวลามามากแล้ว กินข้าวกันก่อนเถิด ข้าคิดว่าพวกเจ้าก็คงหิวแล้วเช่นกัน”“ที่องค์รัชทายาทตรัสก็ถือว่าถูก มาเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยขอเชิญท่านดื่มหนึ่งจอก”เฉินจางยกแก้วขึ้นเป็นสัญญาณ จากนั้นก็ดื่มสุราจนหมดในอึกเดียวฉินซูยิ้มบาง ๆ และดื่มด้วยเช่นกัน“หว่านเอ๋อร์ รีบรินสุราให้องค์รัชทายาทเร็วสิ”เฉินหว่านเอ๋อร์ส่งเสียงอืมตอบรับ จากนั้นก็หยิบไหเหล้าขึ้นมา พลางก้มลงและรินสุราให้กับฉินซูนอกจากนี้นางยังจงใจก้มต่ำมากกว่าปกติเพื่อให้ฉินซูสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามที่อยู่ภายในชุดกระโปรงของนางแบบเต็ม ๆ ตาได้อย่างง่ายดายเมื่อเซี่ยหลานเห็นภาพนั้น นางก็โกรธมากจนกัดฟันและนึกอยากจะเข้าไปตบเฉินหว่านเอ๋อร์สักฉาดสองฉาดการที่เห็นเฉินหว่านเอ๋อร์ยั่วยวนฉินซูอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ทำเอานางถึงกับโมโหขึ้นมาตอนนี้ที่โจวเซินกับคนอื่น ๆ ต่างดื่มอวยพรให้กับฉินซู ถานเหวยและคณะเดินทางก็ท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 419

    เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉินซูก็หยิบมาเปิดดู“ทำได้ดีมาก กินอะไรก่อนเถิด จะได้มิเป็นการดูถูกน้ำใจของใต้เท้าเฉิน”กู้เสวี่ยเจี้ยนเหลือบมองอาหารและสุราบนโต๊ะของทุกคนแล้วพูดเหน็บแนม “ราษฎรมากมายในเมืองขาดแคลนอาหาร แต่ใต้เท้าเฉินกลับมีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ แม้แต่สุราก็ยังเป็นสุราชั้นดีอายุร้อยปี ฟุ่มเฟือยเสียจริงนะ”“ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยน ข้าน้อยทำเช่นนี้ก็เพื่อต้อนรับองค์รัชทายาท หากเป็นปกติข้าน้อยคงมิกล้าทำเช่นนี้หรอกขอรับ”“จริงรึ? หึ ๆ เกรงว่าจะทำยิ่งกว่ายามปกติอีกกระมัง!”เฉินจางรีบอธิบาย “นี่… ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยน ตำแหน่งขุนนางของข้าน้อยมิเกินขั้นสาม เงินประจำปีก็มิเกินร้อยตำลึง อีกทั้งเสบียงประจำเดือนก็ได้มิเกินสามสิบต้าน แล้วยามปกติข้าน้อยจะไปมีปัญญากินอาหารชั้นเยี่ยมเช่นนี้ได้อย่างไรเล่าขอรับ”“หึ ขุนนางกังฉินเยี่ยงเจ้าใกล้ตายแล้วยังจะกล้าเถียงข้าง ๆ คู ๆ ข้าจะตัดหัวคนชั่วช้าเช่นเจ้าทิ้งเสียเดี๋ยวนี้!”กู้เสวี่ยเจี้ยนชักกระบี่ออกมาเสียงดังกราวเฉินจางตกใจมากจนหน้าซีด เขารีบพูดกับฉินซู “องค์รัชทายาท โปรดรีบตรัสอะไรสักอย่างเถิดพ่ะย่ะค่ะ ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยนคิดจะตัดหัวข้าน้อยทั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 420

    เฉินจางปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของตัวเองแล้วตอบอย่างใจเย็น “ทูลองค์รัชทายาท วันนี้ข้าน้อยซื้อเสบียงอาหารไปทั้งหมดหนึ่งหมื่นต้านพ่ะย่ะค่ะ”“เงินห้าแสนตำลึงซื้อเสบียงได้เพียงหนึ่งหมื่นต้านเองรึ?”ฉินซูแค่นเสียงเย็นและพูดต่อด้วยสายตาเย็นชา “เฉินจาง เสบียงในเมืองเหลียงโจวของพวกเจ้าขึ้นราคาแพงถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน หนึ่งต้านต่อห้าสิบตำลึงน่ะหรือ”ถานเหวยและคนอื่น ๆ ก็โกรธเช่นกันตามราคาตลาดปกติ เสบียงหนึ่งต้านจะมีราคาอยู่ที่ประมาณห้าตำลึงเท่านั้นแต่ราคาที่เฉินจางพูดมากลับเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!ราคาที่ขัดกับความเป็นจริงเช่นนี้ชวนให้คนฟังตกใจกู้เสวี่ยเจี้ยนเอ่ยเหน็บ “เสบียงหนึ่งต้านราคาห้าสิบตำลึงรึ ใต้เท้าเฉิน เสบียงในเมืองเหลียงโจวของเจ้าทำจากทองคำหรือไรถึงได้แพงขนาดนี้ มิกลัวอิ่มจนท้องแตกตายหรือไร!”เฉินจางรีบอธิบาย “องค์รัชทายาท ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยน พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าน้อยบอกว่าซื้อเสบียงมาหนึ่งหมื่นต้าน แต่มิได้บอกว่าใช้เงินบรรเทาภัยพิบัติไปทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พ่อค้าขายข้าวก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ใช่ ๆ ๆ วันนี้พวกเราแค่ส่งมอบเสบียงหนึ่งหมื่นต้านให

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 421

    ฉินซูมองไปที่เฉินจางด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ “ใต้เท้าเฉิน พวกเจ้ายืนงงอะไรกัน คงมิได้อยากให้ข้ากล่าวคำขอโทษพวกเจ้าหรอกใช่หรือไม่?”เฉินจางรีบพยักหน้าและโค้งคำนับแล้วพูดว่า “หามิได้ ๆ หามิได้พ่ะย่ะค่ะ สิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าจะกล้าถือโทษโกรธท่านได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท เหตุที่ทรงเข้าพระทัยผิดก็เพราะท่านทรงคำนึงถึงความรู้สึกของราษฎร นี่คือโชคดีของราษฎรพ่ะย่ะค่ะ”“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ หากราษฎรในพื้นที่ภัยพิบัติได้รู้เรื่องนี้ พวกเขาจะต้องร้องเพลงสรรเสริญ และพระนามขององค์รัชทายาทก็จะเป็นที่จดจำตลอดไปอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”โจวเซินและขุนนางคนอื่น ๆ ต่างก็เริ่มประจบประแจงเขาฉินซูแกล้งทำเป็นสนุกและพูดคุยไร้สาระกับพวกเขากู้เสวี่ยเจี้ยนที่อยู่อีกด้านคิ้วแทบจะขมวดเข้าหากัน นางคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกสายตาของฉินซูห้ามเอาไว้เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น นางจึงจำต้องทิ้งตัวลงนั่งลงข้าง ๆ ฉินซู จากนั้นก็รินสุรามาหนึ่งจอกแล้วยกซดหมดในอึกเดียวฉินซูกระซิบ “เจ้าจะทำท่าทางหดหู่เช่นนี้ไปไย?”“ยังจะกล้าถามอีกนะเพคะ ท่านจะปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้หรือ?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 422

    ในห้องรับรองของจวนผู้ว่าการมณฑล เฉินจางและคนอื่น ๆ ยังคงผลัดกันแลกจอกเหล้ากับฉินซูดื่มสุราและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน.หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็ม งานเลี้ยงอาหารค่ำก็สิ้นสุดลงในเวลานี้ สวี่โย่วไฉและขุนนางคนอื่น ๆ ต่างเมาจนฟุบคาโต๊ะแม้แต่ฉินซูก็ดูเหมือนจะเมาแล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ไปช่วยประคองฉินซูฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “ข้ามิเมา พวกเจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้า… อึก ข้าจะสอนคุณหนูเฉินท่องบทกวี!”ขณะที่พูดเขาก็สะอึกออกมาด้วยฤทธิ์น้ำเมา จากนั้นก็มองเฉินหว่านเอ๋อร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาเมื่อเห็นเช่นนั้น เฉินจางก็ดีใจมากหากองค์รัชทายาทที่ดื่มจนเมามายใช้เวลายามค่ำคืนกับบุตรีของเขา เขาก็จะกลายเป็นพ่อตาขององค์รัชทายาทมิใช่หรือ?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รีบส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เฉินหว่านเอ๋อร์จากนั้นเจ้าตัวก็ตอบสนองด้วยการไปช่วยประคองฉินซูพร้อมรอยยิ้ม“องค์รัชทายาท ให้หม่อมฉันประคองไปที่ห้องรับรองด้านหลังเพื่อช่วยทำให้ท่านสร่างเมาเถิดเพคะ”ฉินซูพูดอย่างเมามาย “ก็… ก็ได้ รบกวนด้วย”เมื่อเห็นเฉินหว่านเอ๋อร์กอดแขนของฉินซูอย่างเสน่หา เซี่ยหลานก็หึงขึ้นมาและกำลังจะระเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 423

    หลังจากแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาก็นำหนังสือบัญชีวางกลับไปที่เดิมใจที่เป็นกังวลก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน“หึ ๆ ใช้หนังสือบัญชีปลอมมาหลอกข้าจริง ๆ ด้วย ฉินซูหนอฉินซู หากข้าใจมินิ่งพอก็คงจะตกหลุมพรางของเจ้าไปแล้ว!”หลังจากที่เขาพูดกับตัวเองจบก็หันหลังเดินออกไปเมื่อเขามาถึงประตูห้องโถงด้านข้าง เขาก็ถามสาวใช้ที่อยู่ตรงนั้นว่า “ตอนนี้หว่านเอ๋อร์กับองค์รัชทายาทกำลังทำอะไรอยู่?”“เรียนนายท่าน ดูเหมือนว่าคุณหนูกำลังล้างพระพักตร์ให้องค์รัชทายาทอยู่เจ้าค่ะ”“เจ้าจงไปบอกหว่านเอ๋อร์ให้นางคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะโอกาสเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง มิควรปล่อยให้หลุดมือไป”“เจ้าค่ะ บ่าวจะไปแจ้งเดี๋ยวนี้”สาวใช้หันหลังเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วขณะนี้ ห้องรับรองด้านหลังเฉินหว่านเอ๋อร์กำลังเช็ดใบหน้าของฉินซูขณะที่นางล้างหน้าให้ฉินซู นางจงใจโน้มตัวเข้าใกล้เขามากจนหน้าอกหน้าใจอันใหญ่โตของนางแทบจะแนบแก้มของฉินซูอยู่รอมร่อฉินซูดื่มไปมิน้อย แม้เขาจะมิได้เมา แต่เลือดของเขาก็ยังคงเดือดพล่านอยู่ภายใต้อิทธิพลของฤทธิ์น้ำเมาหลังจากสังเกตเห็นสายตาที่เร่าร้อนของฉินซู เฉินหว่านเอ๋อร์ก็ดีใจมากดวงตาของนางกลอกไปมาพลางคิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 424

    ฉินซูได้ยินแค่เสียงก็รู้ว่าใครเป็นผู้พูดเขาพูดอย่างมิสบอารมณ์ “ข้ามิใช่คนประเภทที่กินมิเลือก ทว่าหากคนที่นอนอยู่บนเตียงในยามนี้คือเจ้า นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”กู้เสวี่ยเจี้ยนหน้าแดง แต่ฉับพลันก็เอ่ยเสียงเย็น “ฝันไปเถิดเพคะ แม้บุรุษในใต้หล้านี้จะตายกันไปหมด หม่อมฉันก็มิเลือกท่าน”ฉินซูยักไหล่ “ข้าแค่ล้อเล่นเอง เจ้าจะจริงจังอะไรปานนั้น!”“เลิกพูดนอกเรื่องเถิด ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อไปหรือเพคะ?”กู้เสวี่ยเจี้ยนเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วฉินซูพูดอยางมิลังเล “ตอนนี้ยังมิดึกมาก รอให้ทุกคนในจวนผู้ว่าการเข้านอนกันหมดก่อนค่อยลงมือ เช่นนี้จะทำอะไรได้จะสะดวกกว่า”“นึกว่าท่านจะให้หม่อมฉันไปค้นคลังสมบัติของเฉินจางเพียงลำพังเสียแล้ว ท่านยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างสินะเพคะ”“ปกติข้าก็มิใช่คนใจแข็งหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เฉินจางก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อยื้อให้ข้าอยู่ที่นี่ หากข้าหาคลังสมบัติของเขามิเจอ มันจะถือเป็นการละเลยเจตนาดีของเขามิใช่หรือไร?”กู้เสวี่ยเจี้ยนกลอกตาใส่เขา “หากเฉินจางรู้จุดประสงค์ของท่าน เขาคงจะโมโหเป็นบ้าเป็นหลัง”ฉินซูยิ้มและมิพูดอะไรขณะนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากนอกป

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 620

    ฉงชูโม่มองซ้ายขวาแล้วกล่าว “บางทีอาจจะกลับค่ายทหารไปแล้วกระมัง เขาเป็นคนของอ๋องฉู่ การที่เห็นท่านสร้างความดีความชอบ คงรู้สึกมิพอใจอยู่บ้าง มิใช่เรื่องแปลกเพคะ”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”ฉินซูเหลือบมองเหล่าทหารที่กำลังกินดื่มอย่างสำราญ จึงเอ่ยถาม “เจ้าคงมิได้ให้ทหารทั้งหมดเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองชัยกระมัง?”“มิได้เพคะ นี่เป็นเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือล้วนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว แต่ป่านนี้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่มีข่าวคราวมาจากทางคลังอาวุธเล่า?”ฉินซูขมวดคิ้ว รู้สึกถึงความผิดปกติฉงชูโม่จึงสั่งทหารข้างกาย “เจ้าจงไปดูลาดเลาที่คลังอาวุธทีว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่”“ขอรับ!”ทหารผู้นั้นรีบเร่งไปยังทิศทางคลังอาวุธมินานนัก เขาก็กลับมา“เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ที่คลังอาวุธเป็นปกติดีขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่จึงอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น“แปลกจริง เป็นไปได้อย่างไรที่เติ้งหม่างจะอดทนได้ถึงขั้นนี้ มิส่งคนมาขโมยธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า?”“เป็นไปมิได้ เขารู้ว่าคืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย การป้องกันเมืองจึงหย่อนยานลง หากเขามิมาในคืนนี้ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้แ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 619

    หูก่วงเซิงหัวเราะเยาะ “ลำพังพวกเจ้าเพียงหยิบมือนี้น่ะหรือ? หึ ๆ ช่างประมาณตนสูงเสียจริง!”กำแพงเมืองเจียวโจวสูงหกถึงเจ็ดจั้ง เขามิคิดว่าหม่าเวยและคนเหล่านี้จะสามารถปีนขึ้นไปได้หม่าเวยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “อย่างน้อยก่อนที่จะปะทะเข้ากับพวกเจ้า พวกเราก็ยังคงมั่นใจมากทีเดียว”“ฮ่า ๆ พวกโง่เขลาเอ๋ย เอาเถอะ ในเมื่อความดีความชอบมาประเคนให้ถึงปากประตูแล้ว มิรับไว้คงน่าเสียดายแย่ ใครก็ได้!”“ขอรับ!”“ปิดปากพวกมันทั้งหมด แล้วส่งคนสองสามคนไปเฝ้าพวกมันในป่าให้ดี!”“ท่านแม่ทัพหู ในเมื่อพวกมันเป็นสายสืบของหนานเยวี่ย ไฉนมิควบคุมตัวพวกมันกลับเมือง ไปส่งให้ท่านแม่ทัพใหญ่จัดการเล่าขอรับ?”หูก่วงเซิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “นำคนกลับไปยามนี้ แล้วพวกเราจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยต่อหรือไม่?”“จริงด้วย พวกมันถูกพวกเรามัดไว้แล้ว ไม่มีทางหลบหนีไปได้ ส่งคนไปเฝ้าพวกมันไว้ก็พอ รอจนกระทั่งพวกเราได้ชัยกลับมา ค่อยคุมตัวคนพวกนี้กลับเมือง เช่นนี้จะได้ความดีความชอบเพิ่มขึ้นอีกอย่างไรเล่า!”ดวงตาของหม่าเวยกลอกไปมา เอ่ยปากกล่าว “ท่าน… ท่านแม่ทัพหู ท่านแน่ใจหรือว่าจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยของพวกเรา?”“หากเป็นเช่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 618

    “ท่านแม่ทัพหู แผนนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือแล้วอ้อมไปอีกหน่อย ก็ลอบโจมตีทัพหนานเยวี่ยได้เหมือนเดิม!”“ไป เร่งฝีเท้า!”ดังนั้น กองทหารของพวกเขาจึงเดินทางมายังใต้ประตูเมืองฝั่งเหนือแม่ทัพรักษาการณ์ที่นี่เห็นหูก่วงเซิงและพวก จึงไต่ถาม “ท่านแม่ทัพหู นี่พวกท่านจะทำการใด?”“ในเมืองผู้คนพลุกพล่านเกินไป พวกเราจะออกไปพักผ่อนนอกเมืองสักหน่อย วันพรุ่งพวกเราจะย้ายค่ายทหารไปตั้งไว้นอกเมืองฝั่งเหนือเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการฝึกทหาร”เมื่อได้ยินดังนั้น ทหารรักษาการณ์ก็โบกมือให้คนเปิดประตูเมืองจะตำหนิว่าเขาประมาทเกินไปก็มิได้ ท้ายที่สุดแล้วนอกเมืองทางฝั่งเหนือยังมีทหารประจำการอยู่เป็นจำนวนมิน้อย ทหารที่เข้าออกประตูเมืองทางฝั่งเหนือจึงมีจำนวนมากเป็นทุนเดิมหลังจากที่ออกนอกเมืองได้อย่างราบรื่น หูก่วงเซิงจึงนำกองทัพทหารม้าพันนายมุ่งหน้าลงใต้!ขณะเดียวกันนอกประตูเมืองเจียวโจวทางฝั่งใต้ เงาร่างสิบกว่าร่างพุ่งออกมาจากป่าละเมาะห่างออกไปมิไกลนักพวกเขามีท่าทางคล่องแคล่ว เพียงชั่วพริบตาก็เข้าไปซุ่มซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เตี้ย ๆ ฝั่งหนึ่งหลังจากที่สังเกตการณ์บนกำแพงเมืองอยู่ครู่หน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 617

    “ท่านแม่ทัพหู กองทัพหนานเยวี่ยแตกพ่ายในวันนี้ บัดนี้คงอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่เป็นแน่ หากพวกเรานำทัพไปลอบโจมตี อย่างไรก็ต้องสำเร็จ! ถึงเวลานั้นหากสำเร็จ ท่านแม่ทัพใหญ่จะเอาผิดพวกเราที่ยกทัพไปโดยพลการได้อย่างไร?”ชายร่างกำยำอีกด้านกล่าวสำทับ “รองแม่ทัพหลิวกล่าวได้ถูกต้อง ท่านแม่ทัพหู พวกเราอุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมาถึงเจียวโจวก็มิใช่อื่นใด นอกเสียจากเพื่อสร้างความดีความชอบให้มากยิ่งขึ้นพวกเราสร้างความดีความชอบในเจียวโจวมากเท่าไร พระเกียรติของท่านอ๋องฉู่ในราชสำนักก็จะยิ่งสูงส่งมากขึ้นเท่านั้น ทุกสิ่งที่พวกเราทำ ล้วนเพื่อท่านอ๋องฉู่ทั้งสิ้น!”“ถูกต้อง พวกเราคือคนของท่านอ๋องฉู่ ท่านแม่ทัพใหญ่ย่อมมิอาจตำหนิพวกเราที่ออกรบโดยพลการได้ ท่านแม่ทัพหู ท่านรีบตัดสินใจเถิด โอกาสมิคอยท่า เวลามิหวนคืน!”“ท่านแม่ทัพหู คนขององค์รัชทายาทออกนอกเมืองไปครึ่งชั่วยามแล้ว หากพวกเรามิรีบเร่งติดตามไป เกรงว่าน้ำแกงก็มิได้ซด อย่าหวังจะได้กินเนื้อเลยขอรับ!”ด้วยคำยุยงของเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา ดวงตาของหูก่วงเซิงก็ค่อย ๆ แน่วแน่ขึ้น!เขาพยักหน้าหนักแน่น กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “สั่งให้เหล่าสหายทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม อีกห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 616

    หูก่วงเซิงยกไหสุราขึ้นกระดกไปหลายอึก และแค่นเสียง “หึ ศึกที่ได้ชัยชนะในวันนี้ หากมิใช่เพราะทหารม้าหุ้มเกราะของพวกข้าบุกตะลุยอยู่แนวหน้า มีหรือกองทัพหนานเยวี่ยจะถูกสังหารจนแตกพ่ายยับเยิน?ทว่าในงานเลี้ยงฉลองชัย ท่านแม่ทัพใหญ่กลับมิเอ่ยถึงความดีความชอบของพวกข้าแม้แต่คำเดียว เอาแต่ชื่นชมองค์รัชทายาทมิขาดปากข้าสงสัยนัก องค์รัชทายาทเพียงแต่นำอาวุธที่กรมโยธาธิการประดิษฐ์ขึ้นใหม่มาด้วยเท่านั้น มีสิ่งใดน่าสรรเสริญกัน?”รองแม่ทัพที่นั่งอยู่ข้างกายเขาขมวดคิ้ว กล่าว “ท่านแม่ทัพหู ท่านว่าเช่นนี้เห็นทีจะมิถูกกระมัง อาวุธเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาททรงออกแบบ ศึกครานี้ชนะได้ ก็เป็นเพราะพระองค์”“ใช่แล้ว อีกอย่างที่ทหารม้าหุ้มเกราะของพวกท่านบุกตะลุยกองทัพหนานเยวี่ยได้ไร้ผู้ใดขัดขวาง ก็มิใช่เป็นเพราะมีอาวุธที่องค์รัชทายาททรงออกแบบให้การคุ้มครองหรอกหรือ มิเช่นนั้นกองทัพหนานเยวี่ยจะปล่อยให้พวกท่านบุกตะลุยในแนวรบโดยมิอาจโต้ตอบได้เลยด้วยเหตุใดเล่า?”หูก่วงเซิงเผยสีหน้าดูแคลน หัวเราะเยาะ “องค์รัชทายาทที่เอาแต่เสพสุขไปวัน ๆ ไฉนจึงออกแบบอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้? พวกเจ้าก็ช่างหูเบากันเสียจริง ใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 615

    หลังจากที่ฟังเขาจนจบ ฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “แผนการของท่านดีก็จริง ทว่าหากพวกมันมิมาในคืนนี้เล่า?”“คืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย พวกมันต้องปักใจเชื่อว่ากำลังป้องกันเมืองของพวกเราหย่อนยาน คืนนี้หากพวกมันมิลงมือ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นคืนนี้พวกมันต้องลงมือเป็นแน่”“เช่นนั้นก็ได้ ทำตามที่ท่านว่าก็แล้วกันเพคะ!”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย แล้วกล่าวต่อ “อีกอย่าง คืนนี้เจ้าจงส่งทหารสองกองไปซุ่มอยู่หลินสุ่ยและเซี่ยอ้าว เมื่อทัพใหญ่หนานเยวี่ยปรากฏกาย จงปล่อยให้พวกมันเข้ามา รอจนกระทั่งเสียงฆ่าฟันนอกเมืองดังขึ้นค่อยตลบหลังโจมตีกองทัพหนานเยวี่ย จากนั้นจึงเข้าตีกระหนาบหน้าหลัง กวาดล้างพวกมันในคราเดียว!”ฉงชูโม่ถามอย่างตกตะลึง “ท่านคิดว่าคืนนี้พวกหนานเยวี่ยจะบุกโจมตีด้วยทัพใหญ่หรือเพคะ?”“พูดได้แต่เพียงมีความเป็นไปได้สูงนัก”“หม่อมฉันว่ามีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากเติ้งหม่างเพิ่งประสบความพ่ายแพ้ในวันนี้ ซ้ำร้ายทหารใต้บัญชาของเขายังหวาดหวั่นเกรงกลัวธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าของพวกเราจนหัวหด หากยังมิล่วงรู้ว่าพวกเรามีธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้าเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด พวกมันคงมิกล้าผล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 614

    ฉินซูหัวเราะแห้ง ๆ แล้วกล่าวติดตลก “ข้าแค่กังวลว่าเจ้าจะหึงหวงข้า”ฉงชูโม่ถ่มน้ำลาย “ถุย ใครจะหึงท่านกัน อย่าได้หลงตัวเองไปหน่อยเลย!”“อะแฮ่ม ๆ เรื่องนั้นช่างมันเถิด ที่จริงข้ามีธุระสำคัญ...”ฉงชูโม่ขัดขึ้นมาเสียก่อน “มีกระไรก็รีบว่ามา อย่ามัวอ้อมค้อม”ฉินซูปรับสีหน้าให้เคร่งขรึม แล้วเอ่ยถาม “วันนี้ที่พวกเรามีชัยเหนือแคว้นหนานเยวี่ย ในความเห็นของเจ้า พวกมันจะทำอย่างไรต่อไป?”“ชัยชนะในวันนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับพลานุภาพของธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า กองทัพหนานเยวี่ยประสบความพ่ายแพ้ย่อยยับถึงเพียงนี้ หากหม่อมฉันเป็นเติ้งหม่าง คงต้องหาทางนำอาวุธทั้งสองชนิดนี้ไปให้ได้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูจึงอดมิได้ที่จะมองนางด้วยสายตาชื่นชมสมแล้วที่ฉงชูโม่เป็นแม่ทัพขั้นหนึ่งที่มากล้นด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ สามารถเดาใจศัตรูได้ล่วงหน้าเช่นนี้“เมื่อรู้ถึงเจตนาของเติ้งหม่างผู้นั้นแล้ว เราควรจะลองมาล่อเสือออกจากถ้ำดูสักครา”“ตรัสเช่นนี้ แสดงว่าท่านทรงคิดแผนการรับมือไว้แล้วหรือ?”ฉงชูโม่เอี้ยวศีรษะมองฉินซู ดวงตาคู่งามกระจ่างใสนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจหางตาฉินซูเหลือบมองอ่างอาบน้ำโดยม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 613

    “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ขอพระองค์โปรดเมตตา”ทั้งสองกล่าวพร้อมคุกเข่าลงต่อหน้าฉินซูฉินซูจนปัญญา จึงตะโกนเข้าไปในกระโจม “ชูโม่ ให้ข้าเข้าไปเถิด ข้าขออธิบายให้เจ้าฟังดี ๆ มิได้หรือ?”ทว่าข้างในกลับไร้เสียงตอบรับฉินซูยังคงมิยอมแพ้ กล่าวต่อไป “ชูโม่ เจ้าอย่าหึงหวงนักเลย อย่างน้อยก็ให้ข้าอธิบายสักหน่อยเถิด”เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ทหารยามทั้งสองก็อดมิได้ที่จะสบตากัน!ให้ตายสิ ท่านแม่ทัพใหญ่กับองค์รัชทายาทมีความสัมพันธ์ช่างลึกซึ้งเกินคาด!!สีหน้าของพวกเขาทั้งสองฉายแววตกตะลึง ราวกับได้รับข่าวเด็ดข่าวใหญ่ฉินซูเกลี้ยกล่อมอีกสองสามประโยค ทว่าในกระโจมก็ยังคงไร้เสียงตอบรับเมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูจึงหันไปถามทหารยามทั้งสอง “ชูโม่อยู่ข้างในจริง ๆ หรือ?”“พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ท่านแม่ทัพใหญ่เข้าไปแล้วก็ยังมิได้ออกมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่มีประตูด้านหลังใช่หรือไม่?”“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”“มิได้การ ชูโม่อาจจะเป็นกระไรไปแล้วก็ได้!”กล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูจึงตะโกนเข้าไปด้านใน “ชูโม่ ข้าจะเข้าไปแล้วนะ”ขณะที่ฉินซูกำลังจะก้าวเท้าเข้าไป ทหารยามทั้งสองก็รีบร้องทัดทาน “มิได้พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 612

    ขณะเดียวกันกองหนุนทัพหนานเยวี่ยภายในค่ายทหารแม่ทัพนายกองทั้งหลายต่างจับจ้องไปยังบุรุษบนที่นั่งหัวโต๊ะด้วยใจระทึกบุรุษผู้นั้นสวมชุดเกราะสีเงินยวง ร่างกายสูงใหญ่ผึ่งผาย!เขาคือแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพหนานเยวี่ย เติ้งหม่าง!สายตาเย็นเยียบของเขากวาดมองไปยังกลุ่มคนทีละคน สุดท้ายจับจ้องที่แม่ทัพน้อยหม่า“หม่าเวย เจ้าสำนึกผิดหรือไม่?”หม่าเวยรีบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ทว่าอาวุธของต้าเหยียนคราวนี้ร้ายกาจเหลือเกิน โล่เกราะหวายของพวกเราเมื่อเผชิญกับลูกธนูของพวกมันก็มิต่างกระไรจากดินเหนียว ยิงคราเดียวก็ทะลุง่ายดาย!”“ใช่แล้วท่านแม่ทัพใหญ่ โล่เกราะหวายที่พวกเราเคยภาคภูมิใจนักหนา บัดนี้มิอาจหวังพึ่งได้อีกแล้วขอรับ”“มิเพียงเท่านั้น ทางต้าเหยียนยังใช้อาวุธเพลิงร้ายกาจชนิดหนึ่ง ของสิ่งนั้นอานุภาพร้ายแรงยิ่งนัก ทหารมิใช่น้อยถูกระเบิดจนร่างแหลกมิเหลือชิ้นดีเลยขอรับ”เมื่อกล่าวถึงระเบิดเพลิง หลายคนยังคงหวาดผวาเติ้งหม่างขมวดคิ้วมุ่น และกล่าวพึมพำ “กองทหารรักษาการณ์เจียวโจวถูกพวกเราโจมตีมาเกือบเดือน บัดนี้จู่ ๆ กลับปรากฏอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status