แชร์

บทที่ 420

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เฉินจางปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของตัวเองแล้วตอบอย่างใจเย็น “ทูลองค์รัชทายาท วันนี้ข้าน้อยซื้อเสบียงอาหารไปทั้งหมดหนึ่งหมื่นต้านพ่ะย่ะค่ะ”

“เงินห้าแสนตำลึงซื้อเสบียงได้เพียงหนึ่งหมื่นต้านเองรึ?”

ฉินซูแค่นเสียงเย็นและพูดต่อด้วยสายตาเย็นชา “เฉินจาง เสบียงในเมืองเหลียงโจวของพวกเจ้าขึ้นราคาแพงถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน หนึ่งต้านต่อห้าสิบตำลึงน่ะหรือ”

ถานเหวยและคนอื่น ๆ ก็โกรธเช่นกัน

ตามราคาตลาดปกติ เสบียงหนึ่งต้านจะมีราคาอยู่ที่ประมาณห้าตำลึงเท่านั้น

แต่ราคาที่เฉินจางพูดมากลับเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!

ราคาที่ขัดกับความเป็นจริงเช่นนี้ชวนให้คนฟังตกใจ

กู้เสวี่ยเจี้ยนเอ่ยเหน็บ “เสบียงหนึ่งต้านราคาห้าสิบตำลึงรึ ใต้เท้าเฉิน เสบียงในเมืองเหลียงโจวของเจ้าทำจากทองคำหรือไรถึงได้แพงขนาดนี้ มิกลัวอิ่มจนท้องแตกตายหรือไร!”

เฉินจางรีบอธิบาย “องค์รัชทายาท ท่านใต้เท้าเสวี่ยเจี้ยน พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าน้อยบอกว่าซื้อเสบียงมาหนึ่งหมื่นต้าน แต่มิได้บอกว่าใช้เงินบรรเทาภัยพิบัติไปทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พ่อค้าขายข้าวก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“ใช่ ๆ ๆ วันนี้พวกเราแค่ส่งมอบเสบียงหนึ่งหมื่นต้านให
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 421

    ฉินซูมองไปที่เฉินจางด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ “ใต้เท้าเฉิน พวกเจ้ายืนงงอะไรกัน คงมิได้อยากให้ข้ากล่าวคำขอโทษพวกเจ้าหรอกใช่หรือไม่?”เฉินจางรีบพยักหน้าและโค้งคำนับแล้วพูดว่า “หามิได้ ๆ หามิได้พ่ะย่ะค่ะ สิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าจะกล้าถือโทษโกรธท่านได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท เหตุที่ทรงเข้าพระทัยผิดก็เพราะท่านทรงคำนึงถึงความรู้สึกของราษฎร นี่คือโชคดีของราษฎรพ่ะย่ะค่ะ”“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ หากราษฎรในพื้นที่ภัยพิบัติได้รู้เรื่องนี้ พวกเขาจะต้องร้องเพลงสรรเสริญ และพระนามขององค์รัชทายาทก็จะเป็นที่จดจำตลอดไปอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”โจวเซินและขุนนางคนอื่น ๆ ต่างก็เริ่มประจบประแจงเขาฉินซูแกล้งทำเป็นสนุกและพูดคุยไร้สาระกับพวกเขากู้เสวี่ยเจี้ยนที่อยู่อีกด้านคิ้วแทบจะขมวดเข้าหากัน นางคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกสายตาของฉินซูห้ามเอาไว้เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น นางจึงจำต้องทิ้งตัวลงนั่งลงข้าง ๆ ฉินซู จากนั้นก็รินสุรามาหนึ่งจอกแล้วยกซดหมดในอึกเดียวฉินซูกระซิบ “เจ้าจะทำท่าทางหดหู่เช่นนี้ไปไย?”“ยังจะกล้าถามอีกนะเพคะ ท่านจะปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้หรือ?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 422

    ในห้องรับรองของจวนผู้ว่าการมณฑล เฉินจางและคนอื่น ๆ ยังคงผลัดกันแลกจอกเหล้ากับฉินซูดื่มสุราและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน.หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็ม งานเลี้ยงอาหารค่ำก็สิ้นสุดลงในเวลานี้ สวี่โย่วไฉและขุนนางคนอื่น ๆ ต่างเมาจนฟุบคาโต๊ะแม้แต่ฉินซูก็ดูเหมือนจะเมาแล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ไปช่วยประคองฉินซูฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “ข้ามิเมา พวกเจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้า… อึก ข้าจะสอนคุณหนูเฉินท่องบทกวี!”ขณะที่พูดเขาก็สะอึกออกมาด้วยฤทธิ์น้ำเมา จากนั้นก็มองเฉินหว่านเอ๋อร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาเมื่อเห็นเช่นนั้น เฉินจางก็ดีใจมากหากองค์รัชทายาทที่ดื่มจนเมามายใช้เวลายามค่ำคืนกับบุตรีของเขา เขาก็จะกลายเป็นพ่อตาขององค์รัชทายาทมิใช่หรือ?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รีบส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เฉินหว่านเอ๋อร์จากนั้นเจ้าตัวก็ตอบสนองด้วยการไปช่วยประคองฉินซูพร้อมรอยยิ้ม“องค์รัชทายาท ให้หม่อมฉันประคองไปที่ห้องรับรองด้านหลังเพื่อช่วยทำให้ท่านสร่างเมาเถิดเพคะ”ฉินซูพูดอย่างเมามาย “ก็… ก็ได้ รบกวนด้วย”เมื่อเห็นเฉินหว่านเอ๋อร์กอดแขนของฉินซูอย่างเสน่หา เซี่ยหลานก็หึงขึ้นมาและกำลังจะระเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 423

    หลังจากแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาก็นำหนังสือบัญชีวางกลับไปที่เดิมใจที่เป็นกังวลก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน“หึ ๆ ใช้หนังสือบัญชีปลอมมาหลอกข้าจริง ๆ ด้วย ฉินซูหนอฉินซู หากข้าใจมินิ่งพอก็คงจะตกหลุมพรางของเจ้าไปแล้ว!”หลังจากที่เขาพูดกับตัวเองจบก็หันหลังเดินออกไปเมื่อเขามาถึงประตูห้องโถงด้านข้าง เขาก็ถามสาวใช้ที่อยู่ตรงนั้นว่า “ตอนนี้หว่านเอ๋อร์กับองค์รัชทายาทกำลังทำอะไรอยู่?”“เรียนนายท่าน ดูเหมือนว่าคุณหนูกำลังล้างพระพักตร์ให้องค์รัชทายาทอยู่เจ้าค่ะ”“เจ้าจงไปบอกหว่านเอ๋อร์ให้นางคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะโอกาสเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง มิควรปล่อยให้หลุดมือไป”“เจ้าค่ะ บ่าวจะไปแจ้งเดี๋ยวนี้”สาวใช้หันหลังเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วขณะนี้ ห้องรับรองด้านหลังเฉินหว่านเอ๋อร์กำลังเช็ดใบหน้าของฉินซูขณะที่นางล้างหน้าให้ฉินซู นางจงใจโน้มตัวเข้าใกล้เขามากจนหน้าอกหน้าใจอันใหญ่โตของนางแทบจะแนบแก้มของฉินซูอยู่รอมร่อฉินซูดื่มไปมิน้อย แม้เขาจะมิได้เมา แต่เลือดของเขาก็ยังคงเดือดพล่านอยู่ภายใต้อิทธิพลของฤทธิ์น้ำเมาหลังจากสังเกตเห็นสายตาที่เร่าร้อนของฉินซู เฉินหว่านเอ๋อร์ก็ดีใจมากดวงตาของนางกลอกไปมาพลางคิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 424

    ฉินซูได้ยินแค่เสียงก็รู้ว่าใครเป็นผู้พูดเขาพูดอย่างมิสบอารมณ์ “ข้ามิใช่คนประเภทที่กินมิเลือก ทว่าหากคนที่นอนอยู่บนเตียงในยามนี้คือเจ้า นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”กู้เสวี่ยเจี้ยนหน้าแดง แต่ฉับพลันก็เอ่ยเสียงเย็น “ฝันไปเถิดเพคะ แม้บุรุษในใต้หล้านี้จะตายกันไปหมด หม่อมฉันก็มิเลือกท่าน”ฉินซูยักไหล่ “ข้าแค่ล้อเล่นเอง เจ้าจะจริงจังอะไรปานนั้น!”“เลิกพูดนอกเรื่องเถิด ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อไปหรือเพคะ?”กู้เสวี่ยเจี้ยนเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วฉินซูพูดอยางมิลังเล “ตอนนี้ยังมิดึกมาก รอให้ทุกคนในจวนผู้ว่าการเข้านอนกันหมดก่อนค่อยลงมือ เช่นนี้จะทำอะไรได้จะสะดวกกว่า”“นึกว่าท่านจะให้หม่อมฉันไปค้นคลังสมบัติของเฉินจางเพียงลำพังเสียแล้ว ท่านยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างสินะเพคะ”“ปกติข้าก็มิใช่คนใจแข็งหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เฉินจางก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อยื้อให้ข้าอยู่ที่นี่ หากข้าหาคลังสมบัติของเขามิเจอ มันจะถือเป็นการละเลยเจตนาดีของเขามิใช่หรือไร?”กู้เสวี่ยเจี้ยนกลอกตาใส่เขา “หากเฉินจางรู้จุดประสงค์ของท่าน เขาคงจะโมโหเป็นบ้าเป็นหลัง”ฉินซูยิ้มและมิพูดอะไรขณะนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากนอกป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 425

    ในขณะนี้ ดวงตาทั้งสองข้างของพวกเขาเบิกกว้าง และดูเหมือนว่าลมหายใจของพวกเขาจะหยุดลงหลังจากที่กู้เสวี่ยเจี้ยนได้สติ ใบหน้าที่งดงามของนางก็แดงมากนางกำลังจะลุกขึ้นด้วยสีหน้าเขินอายแต่ทันใดนั้น ฉินซูก็เอื้อมมือออกไปและกอดรัดเอวบางของนางเอาไว้!กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ตัวสั่นและคิดจะระเบิดอารมณ์โมโหออกมาฉินซูอดมิได้ที่จะจูบนางกู้เสวี่ยเจี้ยนตัวแข็งทื่อในทันทีและลืมต่อต้านไปโดยสิ้นเชิงการรุกเร้าของฉินซูทำให้ในหัวของนางเกิดความสับสนวุ่นวาย และสุดท้ายก็ค่อย ๆ สูญสิ้นสติไปมินานหลังจากนั้น เสื้อผ้าของพวกเขาก็กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเสียงที่แต่เดิมตั้งใจสร้างขึ้นกลับกลายเป็นการแสร้งทำที่กลายเป็นจริงขึ้นมามิรู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ทั้งคู่ต่างนอนเงียบ ๆ อยู่บนเตียงโดยไม่มีใครพูดอะไรตอนนี้ เฉินจางได้ไปจากหน้าประตูแล้วส่วนเฉินหว่านเอ๋อร์ซึ่งเดิมนอนอยู่บนเตียงก็ถูกกู้เสวี่ยเจี้ยนถีบลงไปอยู่บนพื้นฉินซูมองไปเรือนร่างบอบบางนวลเนียนขาวใสของกู้เสวี่ยเจี้ยน สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่บ่งบอกว่ายังมิเสร็จสมอารมณ์หมายเขาอดมิได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายอันงดงามของกู้เสวี่ยเจี้ยน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 426

    หลังจากนั้นมินานประตูห้องนอนของเฉินหว่านเอ๋อร์ก็เปิดออกมีเงาร่างสองเงาเดินออกมาจากความมืดนั่นคือฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยน!ในตอนแรก กู้เสวี่ยเจี้ยนคิดจะปล่อยให้ฉินซูอยู่ในห้องนอนของเฉินหว่านเอ๋อร์และไปที่คลังสมบัติของเฉินจางเพียงลำพังแต่นางมิรู้ว่าเป็นเพราะนางกลายเป็นสตรีของฉินซูแล้วหรือไม่ ตอนนี้นางจึงทนมิได้ที่ต้องเห็นสตรีอื่นอยู่รอบกายฉินซูยิ่งไปกว่านั้น เฉินหว่านเอ๋อร์ก็แต่งตัวได้น่าดึงดูดและงดงามนัก ดังนั้นนางจึงกังวลยิ่งกว่าเดิมที่จะปล่อยให้ฉินซูอยู่ที่นี่หากฉินซูมีความปรารถนาขึ้นมาอีกครั้งและมีสัมพันธ์กับเฉินหว่านเอ๋อร์ เช่นนั้นจะมิทำให้นางโกรธมากหรอกหรือไรดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาฉินซูไปค้นหาความลับของเฉินจางด้วยกันพวกเขาทั้งสองเดินไปที่ประตูหลังของห้องโถงด้านข้าง และกู้เสวี่ยเจี้ยนก็กอดเอวของฉินซูเอาไว้จากนั้นนางก็ใช้เท้าแตะพื้นเบา ๆ เพื่อใช้วิชาตัวเบาพาฉินซูมายังเรือนหลังอย่างเงียบ ๆฉินซูถามเสียงต่ำ “มาทำอะไรที่เรือนหลัง? ทางเข้าคลังสมบัติลับของเฉินจางน่าจะอยู่ในห้องตำราหรือห้องของเขานี่”“หม่อมฉันได้ตรวจค้นห้องตำราและห้องนอนของเขาแล้ว และ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 427

    นางขมวดคิ้วและถามว่า “ห้ามหม่อมฉันหาปะไรเล่า ประตูหินนี่มันหนักมากถึงเพียงนี้ หรือว่าท่านเปิดเองได้?”ฉินซูกลอกตาใส่นางแล้วถามว่า “เจ้ามิกังวลเลยหรือว่าที่ประตูหินอาจจะเต็มไปด้วยพิษ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางหยิบเข็มเงินออกมาแล้วถูไปที่ประตูหินหลายครั้งเข็มเงินในมือของนางเปลี่ยนเป็นสีดำทันที!“มีพิษจริง ๆ หรือนี่?!”ใบหน้าของกู้เสวี่ยเจี้ยนเต็มไปด้วยความมิอยากเชื่อ “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าที่ประตูหินมีพิษ?”ฉินซูพูดอย่างจริงจัง “ตาแก่เฉินจางนั่นเป็นคนเจ้าเล่ห์ หากนี่คือคลังสมบัติของเขาจริง เขาจะมิเตรียมการอะไรไว้เลยหรือไร ดังนั้นต่อจากนี้มิว่าเจ้าจะท่องยุทธภพหรือจัดการคดีต่าง ๆ เจ้าจะต้องระมัดระวังและอย่าได้ประมาทเด็ดขาด”กู้เสวี่ยเจี้ยนมองฉินซูอย่างลึกซึ้งพลางสงสัยว่า เหตุใดฉินซูถึงดูมีประสบการณ์ชีวิตมากราวกับคนแก่ที่ผ่านโลกมามากก็มิปานขณะนั้นเอง ฉินซูที่ใช้มือคลำกำแพงอยู่ครู่หนึ่งก็พบกลไกเขากดก้อนหินที่ปูดออกมาบนผนังเบา ๆ และแล้วประตูหินแผ่นหนาทั้งสองบานก็เปิดออกอย่างช้า ๆเมื่อทั้งสองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูหิน ทั้งคู่ต่างก็ตก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 428

    ฉินซูพูดโดยมิต้องคิด “แน่นอนว่าต้องกลับไปยังที่ว่าการมณฑลสิ!”“ทว่าหากเช้าวันพรุ่งเฉินจางมิเห็นท่าน เขาจะมิสงสัยเอาหรือเพคะ?”“ในสายตาของเขา ข้าได้มีสัมพันธ์กับลูกสาวของเขาไปแล้ว ด้วยสถานะของข้า หากออกมากลางดึกหลังจากสร่างเมาก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว”กู้เสวี่ยเจี้ยนพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปที่ประตูหลังพร้อมกับฉินซูทันทีที่นางออกมาจากประตูหลัง นางก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “หืม? แล้วคนที่นอนคว่ำอยู่ตรงนี้ด้วยอาวุธลับของท่านไปไหนเสียแล้วเพคะ?”“คงจะถูกตงฟางโซ่วเอาตัวไปแล้วกระมัง ข้าสั่งให้เขาคอยจับตาดูอยู่ในที่มืด”เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็มิสงสัยอะไรและแล้วทั้งสองก็จากไปอย่างเงียบ ๆระหว่างทางกลับไปยังที่ว่าการมณฑล ฉินซูอยากจะจับมือกู้เสวี่ยเจี้ยนหลายครั้งแต่กลับถูกกู้เสวี่ยเจี้ยนสะบัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใยทุกครั้งไปสุดท้ายเมื่อเห็นว่าฉินซูยังมิลดละความพยายาม กู้เสวี่ยเจี้ยนก็โมโหขึ้นมา!“หากท่านกล้าแตะต้องหม่อมฉันอีก หม่อมฉันจะดึงเล็บของท่านออก เชื่อหรือไม่เพคะ?”ฉินซูมิมีทางเลือกนอกจากต้องดึงมือของตัวเองออกอย่างมิสบอารมณ์เขามิเข้าใจว่าเหตุใดจู่ ๆ กู้เสวี่ยเจี้ยนถ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 624

    หูก่วงเซิงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “การเดินทางของพวกท่านในคราวนี้ มาลอบโจมตีทหารรักษาการณ์เจียวโจว มิผิดกระมัง?”เติ้งหม่างกล่าวถามอย่างสนอกสนใจ “แล้วอย่างไร?”“หากเป็นเช่นนั้น ข้าน้อยนำทางพวกท่านไปที่นั่นได้ ทั้งยังอาจใช้สถานะของข้าน้อยลวงให้เปิดประตูเมืองได้ด้วย หากเป็นเช่นนั้น พวกท่านก็จะประหยัดแรงไปได้มาก!”เติ้งหม่างเริ่มเอนเอียง จึงซักถามต่อ “เงื่อนไขเล่า?”“เงื่อนไขง่ายดายยิ่ง นั่นก็คือปล่อยพวกข้าไป หากท่านยินยอม พวกเราก็ลงมือกระทำการได้ทันที”“หึหึ เงื่อนไขของเจ้าช่างน่าดึงดูดยิ่งนัก เพียงแต่… ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร?”หูก่วงเซิงถอนหายใจเบา ๆ “ชีวิตน้อย ๆ ของพวกเราในยามนี้อยู่ในเงื้อมมือของท่าน นอกจากใช้ความดีความชอบไถ่โทษ ยังมีทางอื่นใดที่จะให้พวกเราเอาชีวิตรอดไปจากเงื้อมมือของท่านได้? ดังนั้นท่านมิจำต้องสงสัยในความจริงใจของพวกเรา ท้ายที่สุดแล้วหากสิ้นชีพไป ทุกสิ่งก็ล้วนแล้วแต่จบสิ้น”เมื่อเขากล่าวจบ ชายฉกรรจ์ร่างกำยำข้างกายเขาก็ตวาดลั่น “หูก่วงเซิง เจ้าคนขลาดเขลา ถึงขั้นคิดจะช่วยเหลือกองทัพหนานเยวี่ยบุกทะลวงประตูเมืองต้าเหยียนของพวกเรา เจ้ายังเป็นคนอยู่รึ?“หม่าขุย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 623

    เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีกำลังรบถึงเพียงนี้ ทั้งยังมีกำลังพลมหาศาล การที่เขาคิดจะหลบหนีออกไปนั้น มิต่างอันใดกับการเพ้อฝันขณะที่เขากำลังครุ่นคิดหาทางรับมืออยู่นั้น ชายร่างกำยำข้างกายจึงเร่งเร้า “ท่านแม่ทัพหู อย่าได้ลังเลเลย รีบออกคำสั่งเถิด ให้เหล่าสหายทั้งหมดบุกโจมตีค่ายศัตรูพร้อมกัน เช่นนั้นจึงพอมีทางรอดบ้าง”“ใช่แล้ว อย่างไรเสียพวกเราก็เป็นถึงทหารม้าหุ้มเกราะชั้นยอดที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดแห่งต้าเหยียน จะหวาดกลัวพวกกระจอกงอกง่อยเหล่านี้ไปไย!”“ฮ่าฮ่า พวกเจ้าจะลองดูก็ได้ แต่หากพวกเจ้ากล้าขยับ ข้าแม่ทัพผู้นี้ขอรับรองว่าจะทำให้พวกเจ้าทั้งหมดต้องจบชีวิตลง ณ ที่แห่งนี้!”สิ้นเสียงของเติ้งหม่าง เสียงขึ้นสายธนูก็ดังกระหึ่มจากทัพหลังของเขาพวกหูก่วงเซิงต่างเกิดความรู้สึกสิ้นหวังในใจ!เพียงแค่เติ้งหม่างออกคำสั่งยิงธนู ชีวิตของพวกเขาก็ต้องหาไม่เมื่อคิดได้เช่นนี้ หูก่วงเซิงจึงรีบตะโกนสั่ง “ทุกคน จงอยู่ในตำแหน่ง ห้ามผู้ใดผลีผลามหากมิได้รับคำสั่งจากข้า!”เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจึงทำได้แต่เพียงยืนนิ่งอยู่กับที่ มิกล้าขยับเขยื้อนเติ้งหม่างพยักหน้าอย่างชื่นชม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 622

    ครู่ต่อมา สายสืบสองคนที่เติ้งหม่างส่งไปก็กลับมา”ท่านแม่ทัพใหญ่ กองทหารม้ากลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ อีกทั้งพวกท่านรองแม่ทัพหม่าดูท่าทางจะถูกพวกมันจับเป็นได้แล้วขอรับ”“เจ้าว่ากระไรนะ?”เติ้งหม่างเผยสีหน้าประหลาดใจ แล้วเอ่ยด้วยความขุ่นเคือง “หม่าเวยเจ้าคนไร้ประโยชน์ โดนฝ่ายตรงข้ามจับกุมตัวได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ มันน่าโมโหนัก!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ เช่นนั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดีขอรับ?”“เตรียมรับมือ จริงสิ ทางนั้นมีกำลังพลเท่าใด?”“คาดคะเนราว ๆ พันนายขอรับ”เติ้งหม่างยิ่งงุนงงกว่าเดิม นึกว่าตนเองหูฝาดไป จึงไต่ถามอีกครั้ง “เจ้าว่ามีเท่าใดนะ?”“ประ… ประมาณพันนายขอรับ”“แค่พันนาย? พวกเจ้ามิได้ตาลายมองผิดไปใช่หรือไม่?”“เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ คนของฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมิมากจริง ๆ ขอรับ แต่เบื้องหลังของพวกมันมีทหารหนุนหรือไม่นั้นยังมิอาจทราบได้”“ไปสืบต่อ ส่วนคนอื่น ๆ เตรียมพร้อมรับมือ!”“ขอรับ!”สายสืบหลายคนจึงมุ่งหน้าไปยังเบื้องหน้าอีกคราตามบัญชาของเติ้งหม่างส่วนคนอื่น ๆ ซุ่มซ่อนตัวอยู่ตามแนวป่าละเมาะสองข้างทางมินานนัก เสียงควบม้าก็ใกล้เข้ามา ปรากฏในสายตาของเติ้งหม่างและคนอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 621

    ต่อมา พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังประตูเมืองฝั่งเหนือโดยมิรอช้าเมื่อสอบถาม ก็ได้ล่วงรู้ว่าหูก่วงเซิงนำทัพออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือไปจริง ๆในกระโจมนอกประตูเมืองฝั่งเหนือ มิปรากฏร่างของหูก่วงเซิงและทหารม้าของเขาฉินซูหรี่ตา และพึมพำ “เจ้าสารเลวหูก่วงเซิงนี่ ท่าทางจะนำทัพไปลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยจริง ๆ”“เช่นนั้นจะทำเช่นไรดี? หูก่วงเซิงมีทหารม้าเพียงหนึ่งพันนาย หากปราศจากการสนับสนุนจากธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า พวกเขาไปก็มีแต่ตายเปล่า!”“เรียกระดมพลเสีย เตรียมออกนอกเมืองไปช่วยเหลือ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่ก็มองฉินซูด้วยความประหลาดใจฝ่ายหลังขมวดคิ้วถาม “ไยจึงมองข้าเช่นนั้น?”“หามิได้ แค่รู้สึกแปลกใจเท่านั้น”“แปลกใจกระไร?”ฉงชูโม่อธิบาย “หูก่วงเซิงเป็นคนสนิทของอ๋องฉู่ ทั้งยังมิพอใจในตัวท่านเป็นอย่างยิ่ง บัดนี้เขากำลังประสบเคราะห์ภัย ทว่าท่านกลับตัดสินใจที่จะออกไปช่วยเหลือโดยมิลังเล หม่อมฉันจึงรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย”ฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ “หูก่วงเซิงเป็นคนของอ๋องฉู่ก็จริง ทว่าในขณะเดียวกัน เขาก็เป็นทหารหาญแห่งต้าเหยียนของข้า ข้าจะนิ่งดูดายได้อย่างไร”“พระทัยที่กว้างขวางของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 620

    ฉงชูโม่มองซ้ายขวาแล้วกล่าว “บางทีอาจจะกลับค่ายทหารไปแล้วกระมัง เขาเป็นคนของอ๋องฉู่ การที่เห็นท่านสร้างความดีความชอบ คงรู้สึกมิพอใจอยู่บ้าง มิใช่เรื่องแปลกเพคะ”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”ฉินซูเหลือบมองเหล่าทหารที่กำลังกินดื่มอย่างสำราญ จึงเอ่ยถาม “เจ้าคงมิได้ให้ทหารทั้งหมดเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองชัยกระมัง?”“มิได้เพคะ นี่เป็นเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น ส่วนที่เหลือล้วนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว”“เช่นนั้นก็ดีแล้ว แต่ป่านนี้แล้ว เหตุใดจึงยังไม่มีข่าวคราวมาจากทางคลังอาวุธเล่า?”ฉินซูขมวดคิ้ว รู้สึกถึงความผิดปกติฉงชูโม่จึงสั่งทหารข้างกาย “เจ้าจงไปดูลาดเลาที่คลังอาวุธทีว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่”“ขอรับ!”ทหารผู้นั้นรีบเร่งไปยังทิศทางคลังอาวุธมินานนัก เขาก็กลับมา“เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ที่คลังอาวุธเป็นปกติดีขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่จึงอดมิได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น“แปลกจริง เป็นไปได้อย่างไรที่เติ้งหม่างจะอดทนได้ถึงขั้นนี้ มิส่งคนมาขโมยธนูทดกำลังและระเบิดสายฟ้า?”“เป็นไปมิได้ เขารู้ว่าคืนนี้พวกเราจัดงานเลี้ยงฉลองชัย การป้องกันเมืองจึงหย่อนยานลง หากเขามิมาในคืนนี้ ภายหน้าคงไม่มีโอกาสดีเช่นนี้แ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 619

    หูก่วงเซิงหัวเราะเยาะ “ลำพังพวกเจ้าเพียงหยิบมือนี้น่ะหรือ? หึ ๆ ช่างประมาณตนสูงเสียจริง!”กำแพงเมืองเจียวโจวสูงหกถึงเจ็ดจั้ง เขามิคิดว่าหม่าเวยและคนเหล่านี้จะสามารถปีนขึ้นไปได้หม่าเวยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “อย่างน้อยก่อนที่จะปะทะเข้ากับพวกเจ้า พวกเราก็ยังคงมั่นใจมากทีเดียว”“ฮ่า ๆ พวกโง่เขลาเอ๋ย เอาเถอะ ในเมื่อความดีความชอบมาประเคนให้ถึงปากประตูแล้ว มิรับไว้คงน่าเสียดายแย่ ใครก็ได้!”“ขอรับ!”“ปิดปากพวกมันทั้งหมด แล้วส่งคนสองสามคนไปเฝ้าพวกมันในป่าให้ดี!”“ท่านแม่ทัพหู ในเมื่อพวกมันเป็นสายสืบของหนานเยวี่ย ไฉนมิควบคุมตัวพวกมันกลับเมือง ไปส่งให้ท่านแม่ทัพใหญ่จัดการเล่าขอรับ?”หูก่วงเซิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “นำคนกลับไปยามนี้ แล้วพวกเราจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยต่อหรือไม่?”“จริงด้วย พวกมันถูกพวกเรามัดไว้แล้ว ไม่มีทางหลบหนีไปได้ ส่งคนไปเฝ้าพวกมันไว้ก็พอ รอจนกระทั่งพวกเราได้ชัยกลับมา ค่อยคุมตัวคนพวกนี้กลับเมือง เช่นนี้จะได้ความดีความชอบเพิ่มขึ้นอีกอย่างไรเล่า!”ดวงตาของหม่าเวยกลอกไปมา เอ่ยปากกล่าว “ท่าน… ท่านแม่ทัพหู ท่านแน่ใจหรือว่าจะลอบโจมตีกองทัพหนานเยวี่ยของพวกเรา?”“หากเป็นเช่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 618

    “ท่านแม่ทัพหู แผนนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ออกจากประตูเมืองฝั่งเหนือแล้วอ้อมไปอีกหน่อย ก็ลอบโจมตีทัพหนานเยวี่ยได้เหมือนเดิม!”“ไป เร่งฝีเท้า!”ดังนั้น กองทหารของพวกเขาจึงเดินทางมายังใต้ประตูเมืองฝั่งเหนือแม่ทัพรักษาการณ์ที่นี่เห็นหูก่วงเซิงและพวก จึงไต่ถาม “ท่านแม่ทัพหู นี่พวกท่านจะทำการใด?”“ในเมืองผู้คนพลุกพล่านเกินไป พวกเราจะออกไปพักผ่อนนอกเมืองสักหน่อย วันพรุ่งพวกเราจะย้ายค่ายทหารไปตั้งไว้นอกเมืองฝั่งเหนือเช่นกัน เพื่อความสะดวกในการฝึกทหาร”เมื่อได้ยินดังนั้น ทหารรักษาการณ์ก็โบกมือให้คนเปิดประตูเมืองจะตำหนิว่าเขาประมาทเกินไปก็มิได้ ท้ายที่สุดแล้วนอกเมืองทางฝั่งเหนือยังมีทหารประจำการอยู่เป็นจำนวนมิน้อย ทหารที่เข้าออกประตูเมืองทางฝั่งเหนือจึงมีจำนวนมากเป็นทุนเดิมหลังจากที่ออกนอกเมืองได้อย่างราบรื่น หูก่วงเซิงจึงนำกองทัพทหารม้าพันนายมุ่งหน้าลงใต้!ขณะเดียวกันนอกประตูเมืองเจียวโจวทางฝั่งใต้ เงาร่างสิบกว่าร่างพุ่งออกมาจากป่าละเมาะห่างออกไปมิไกลนักพวกเขามีท่าทางคล่องแคล่ว เพียงชั่วพริบตาก็เข้าไปซุ่มซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้เตี้ย ๆ ฝั่งหนึ่งหลังจากที่สังเกตการณ์บนกำแพงเมืองอยู่ครู่หน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 617

    “ท่านแม่ทัพหู กองทัพหนานเยวี่ยแตกพ่ายในวันนี้ บัดนี้คงอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่เป็นแน่ หากพวกเรานำทัพไปลอบโจมตี อย่างไรก็ต้องสำเร็จ! ถึงเวลานั้นหากสำเร็จ ท่านแม่ทัพใหญ่จะเอาผิดพวกเราที่ยกทัพไปโดยพลการได้อย่างไร?”ชายร่างกำยำอีกด้านกล่าวสำทับ “รองแม่ทัพหลิวกล่าวได้ถูกต้อง ท่านแม่ทัพหู พวกเราอุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงมาถึงเจียวโจวก็มิใช่อื่นใด นอกเสียจากเพื่อสร้างความดีความชอบให้มากยิ่งขึ้นพวกเราสร้างความดีความชอบในเจียวโจวมากเท่าไร พระเกียรติของท่านอ๋องฉู่ในราชสำนักก็จะยิ่งสูงส่งมากขึ้นเท่านั้น ทุกสิ่งที่พวกเราทำ ล้วนเพื่อท่านอ๋องฉู่ทั้งสิ้น!”“ถูกต้อง พวกเราคือคนของท่านอ๋องฉู่ ท่านแม่ทัพใหญ่ย่อมมิอาจตำหนิพวกเราที่ออกรบโดยพลการได้ ท่านแม่ทัพหู ท่านรีบตัดสินใจเถิด โอกาสมิคอยท่า เวลามิหวนคืน!”“ท่านแม่ทัพหู คนขององค์รัชทายาทออกนอกเมืองไปครึ่งชั่วยามแล้ว หากพวกเรามิรีบเร่งติดตามไป เกรงว่าน้ำแกงก็มิได้ซด อย่าหวังจะได้กินเนื้อเลยขอรับ!”ด้วยคำยุยงของเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา ดวงตาของหูก่วงเซิงก็ค่อย ๆ แน่วแน่ขึ้น!เขาพยักหน้าหนักแน่น กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “สั่งให้เหล่าสหายทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม อีกห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 616

    หูก่วงเซิงยกไหสุราขึ้นกระดกไปหลายอึก และแค่นเสียง “หึ ศึกที่ได้ชัยชนะในวันนี้ หากมิใช่เพราะทหารม้าหุ้มเกราะของพวกข้าบุกตะลุยอยู่แนวหน้า มีหรือกองทัพหนานเยวี่ยจะถูกสังหารจนแตกพ่ายยับเยิน?ทว่าในงานเลี้ยงฉลองชัย ท่านแม่ทัพใหญ่กลับมิเอ่ยถึงความดีความชอบของพวกข้าแม้แต่คำเดียว เอาแต่ชื่นชมองค์รัชทายาทมิขาดปากข้าสงสัยนัก องค์รัชทายาทเพียงแต่นำอาวุธที่กรมโยธาธิการประดิษฐ์ขึ้นใหม่มาด้วยเท่านั้น มีสิ่งใดน่าสรรเสริญกัน?”รองแม่ทัพที่นั่งอยู่ข้างกายเขาขมวดคิ้ว กล่าว “ท่านแม่ทัพหู ท่านว่าเช่นนี้เห็นทีจะมิถูกกระมัง อาวุธเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาททรงออกแบบ ศึกครานี้ชนะได้ ก็เป็นเพราะพระองค์”“ใช่แล้ว อีกอย่างที่ทหารม้าหุ้มเกราะของพวกท่านบุกตะลุยกองทัพหนานเยวี่ยได้ไร้ผู้ใดขัดขวาง ก็มิใช่เป็นเพราะมีอาวุธที่องค์รัชทายาททรงออกแบบให้การคุ้มครองหรอกหรือ มิเช่นนั้นกองทัพหนานเยวี่ยจะปล่อยให้พวกท่านบุกตะลุยในแนวรบโดยมิอาจโต้ตอบได้เลยด้วยเหตุใดเล่า?”หูก่วงเซิงเผยสีหน้าดูแคลน หัวเราะเยาะ “องค์รัชทายาทที่เอาแต่เสพสุขไปวัน ๆ ไฉนจึงออกแบบอาวุธร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้? พวกเจ้าก็ช่างหูเบากันเสียจริง ใ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status