Share

บทที่ 323

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update Last Updated: 2024-11-16 18:00:00
เสียนเฟยขมวดคิ้วแน่นขึ้น พึมพำอย่างสงสัยว่า “แปลกนัก หากไม่มียอดฝีมือคอยชี้แนะ ฉินซูจะมีความสามารถอะไร จะทำให้เจ้ากับฉินเหยี่ยนต้องลำบากถึงเพียงนี้ได้อย่างไร หรือว่าจู่ ๆ เขา ก็เกิดฉลาดขึ้นมา?”

“หมู่เฟยให้ค่าเขามากเกินไปแล้ว เขาก็แค่คนไร้ค่าที่เอาแต่มัวเมาในสุรานารี หากจะฉลาดก็น่าจะฉลาดนานแล้ว จะมารอถึงตอนนี้ได้อย่างไร อีกอย่าง ถึงเขาฉลาดจริงเขาก็มิน่ามีความกล้าพอที่จะท้าทายเสด็จพ่อเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“ก็จริง หากเป็นดังที่เจ้าว่า รัชทายาทไร้ค่าอาจมีความลับอะไรซ่อนไว้! หากพวกเราสามารถขุดคุ้ยความลับนั้นออกมาได้ บางทีอาจจะทำให้เขาถูกปลดก่อนเวลาก็ได้”

ฉินเซียวถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง “น่าเสียดายที่ตอนนี้ลูกถูกลดขั้นเป็นฝู่กั๋วกง จนแม้แต่สิทธิ์ที่จะเข้าวังไปถวายบังคมเสด็จพ่อก็ไม่มีแล้ว”

เสียนเฟยเห็นฉินเซียวสีหน้าหม่นหมองจึงปลอบว่า “เซียวเอ๋อร์ อย่าท้อใจไป ข้าคิดหาวิธีไว้แล้ว ขอแค่สำเร็จ สถานะอ๋องของเจ้าจะฟื้นคืนได้ในเร็ว ๆ นี้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเซียวก็มีสีหน้ามีชีวิตชีวาขึ้น และรีบถามว่า “หมู่เฟย ท่านพูดจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“จริงแท้แน่นอน ก่อนจะมาที่นี่ข้าได้ไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทมาแล้ว
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 324

    ฉินอู๋ต้าวลุกขึ้น และโค้งกายคำนับเล็กน้อย “หลานขอคารวะเสด็จย่า”เหล่าองค์ชายรวมทั้งฉินซูคุกเข่าพร้อมกัน เอ่ยเป็นเสียงเดียวว่า “พวกเราขอคารวะเสด็จทวด!”“เหล่าข้าน้อยขอถวายพระพร ขอให้ไทฮองไทเฮาทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้น!”ขุนนางฝ่ายบู๊และบุ๋นเบื้องล่างแท่นสูงต่างก้มคำนับถวายบังคมไทฮองไทเฮาหัวเราะอย่างร่าเริงพลางโบกมือ “ลุกขึ้นกันเถิด ทุกคนลุกขึ้นได้แล้ว”“ขอบพระทัยไทฮองไทเฮา”หลังจากทุกคนลุกขึ้นแล้ว ไทฮองไทเฮาก็มองไปที่องค์ชายทั้งหลายด้วยสายตาอ่อนโยนครู่หนึ่ง นางขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปถามฉินอู๋ต้าวว่า “อู๋ต้าว ไฉนมิเห็นเซียวเอ๋อร์? เหลนผู้แสนดีของข้าหายไปไหน เหตุใดวันนี้ถึงมิมาอวยพรย่าทวดเล่า?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวถอนหายใจเบา ๆ อย่างจนใจ โดยมิตอบคำถามเหล่าขุนนางก็มีสีหน้าแตกต่างกันไป“เฮ้อ ไฉนเจ้าต้องถอนหายใจ ข้าถามเจ้าอยู่ เหลนรักของข้าไปไหนแล้ว?”เสียนเฟยเดินเข้ามา พลางกล่าวอย่างน่าสงสาร “เสด็จย่าเพคะ เซียวเอ๋อร์กระทำความผิดจึงถูกลดขั้นเป็นฝู่กั๋วกง ตามระเบียบแล้วฝู่กั๋วกงไม่มีสิทธิ์เข้าวังมาอวยพรเสด็จย่าได้เพคะ”ไทฮองไทเฮาตกใจ “เซียวเอ๋อร์กระทำความผ

    Last Updated : 2024-11-16
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 325

    “เหลวไหล การอภัยโทษทั้งแผ่นดินสอดคล้องกับพระประสงค์ของสวรรค์ เป็นการปลอบขวัญราษฎรเป็นทางธรรมอันถูกอันควร จะปล่อยให้เรื่องส่วนตัวมาขวางได้อย่างไร หากเจ้าโวยวายอีก ข้าจะไล่เจ้าออกไปเสีย” เมื่อถูกฉินอู๋ต้าวตำหนิเช่นนี้ ฉินเหยี่ยนจึงทำได้เพียงกัดฟันแน่นและถอยกลับไปอย่างขุ่นเคืองภายใต้การส่งสัญญาณของฉินอู๋ต้าว เฉาฉุนจึงประกาศเสียงดัง “ประกาศให้อ๋องหนิง ฉินเซียว เข้าวังเพื่อถวายพระพรไทฮองไทเฮา!”มินานนัก ฉินเซียวที่รออยู่หน้าประตูวังก็เดินเข้ามาอย่างสูงส่งสง่าภาคภูมิเขาสวมเสื้อคลุมลายงู สวมกวานประดับทองและหยก พูดได้ว่าทั้งหล่อเหลาสง่างามและน่าเกรงขามยิ่งเมื่อมาถึงเบื้องล่างแท่นสูง เขาก็คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม เอ่ยเสียงดัง “ลูกขอถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”จากนั้นเขาหันไปทางไทฮองไทเฮา “เซียวเอ๋อร์ขอคารวะเสด็จทวด ขอเสด็จทวดทรงพระเจริญยิ่งยืนนานพ่ะย่ะค่ะ”ไทฮองไทเฮาเผยสีหน้าชื่นบาน โบกมือเรียกฉินเซียว “มาเถิด เซียวเอ๋อร์ มาหาย่าทวดสิ”ฉินเซียวโค้งตัวเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปบนแท่นสูงท่ามกลางสายตาของทุกคนระหว่างทางเขายังจงใจหันหลังกลับไปมองให้ฉินซูมองตนอีกต่างหากมิว่าจะเป็นรอยยิ้มท

    Last Updated : 2024-11-17
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 326

    ทันทีที่ฉินอู๋ต้าวพูดจบ เสียงหนึ่งก็ดังมาจากฝูงชน“เสด็จพ่อ ลูกขอทำการประลองรอบแรกนี้เองพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากสิ้นคำพูด ฉินหยางก็เดินออกมาฉินอู๋ต้าวพยักหน้าช้า ๆ เป็นการอนุญาตขณะนั้น ขุนนางต้าเหยียนเริ่มกระซิบกระซาบกัน“อ๋องซิ่นทรงออกโรงเองเช่นนี้ ไว้ใจได้แน่นอน”“ใช่แล้ว ท่านอ๋องซิ่นทรงเคยเล่าเรียนกับท่านผู้อาวุโสจางจาว ในบรรดาองค์ชาย ความสามารถด้านวรรณกรรมของท่านอ๋องซิ่นโดดเด่นเป็นอย่างมาก”“ถูกต้อง น่าขันที่มู่หรงฟู่กล้าท้าทายวงการวรรณกรรมแห่งต้าเหยียนของพวกเรา ครานี้ท่านอ๋องซิ่นจะต้องทำให้วงการวรรณกรรมต้าเหยียนของเรารุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอย่างแน่นอน”“ท่านอ๋องซิ่นผู้เกรียงไกร!”“...”เมื่อได้ยินคำสรรเสริญเยินยอเหล่านั้น ฉินหยางก็ไพล่มือไว้ข้างหลังพลางมองมู่หรงฟู่ด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง“องค์ชายมู่หรง ท่านอยากแข่งโต้กวีหรือต่อโคลงคู่เล่า?”มู่หรงฟู่ยิ้มหยันและพูดว่า “อะไรก็ได้ มิว่าจะเป็นอะไร ข้าก็รับมือได้ทั้งนั้น”“ได้ เช่นนั้น ท่านก็ฟังให้ดี”ฉินหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดเสียงดัง “แด่วันผู้สูงอายุที่กำลังจะมาถึง เช่นนั้นก็แต่งกวีหนึ่งบทโดยใช้หัวข้อวันผู้สูงอายุ!”เขาห

    Last Updated : 2024-11-17
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 327

    ทว่าอีกฝ่ายกลับมีท่าทีนิ่งเฉยและพูดเสียงเรียบ!“หยาดน้ำฟ้ายามสารทล่วงสู่พงพนา ผืนธาราประกายแสงแวววับ เบญจมาศลาลับกลับใจสลาย ครั้นชีวายังมิวายจงสุขสำราญ ฉลองเทศกาลหวนถึงครั้งเยาว์วัย”หลังจากที่มู่หรงฟู่พูดจบ สถานที่แห่งนี้ก็เปลี่ยนเป็นเงียบสงัดฉินซูขมวดคิ้วอีกครั้ง เขาจำได้แม่นว่ากวีบทนี้ถูกประพันธ์โดยลู่โหยวแห่งราชวงศ์ซ่ง แต่มันออกมาจากปากของมู่หรงฟู่ในอีกโลกหนึ่งได้อย่างไร?ตอนนี้เขานึกสงสัยแม้กระทั่งว่า หากตนคัดลอกบทกวีของราชวงศ์ถังและซ่ง มันคงจะกลายเป็นผลงานของยอดนักกวีผู้มีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ในโลกนี้หากเป็นเช่นนั้น ความได้เปรียบด้านบทกวีในฐานะนักเดินทางทะลุมิติก็จะหมดไปน่ะสิเมื่อคิดได้ดังนั้น ฉินซูก็ลูบคางพลางคิดแผนรับมืออยู่ในใจขณะนั้น ฉินอู๋ต้าวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรก็มีท่าทีเคร่งขรึมขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคาดคิดว่ามู่หรงฟู่จะแต่งบทกวีได้เร็วถึงเพียงนี้ รวมถึงตัวเขาด้วยยิ่งไปกว่านั้น บทกวีนี้เป็นการใช้โคลงเจ็ดคำ ซึ่งมีความยากกว่าบทกวีของฉินหยางอย่างมาก เมื่อเห็นว่าบรรดาขุนนางเอาแต่เงียบเป็นเป่าสาก มู่หรงฟู่ก็ประสานหมัดคารวะให้ฉินหยางอย่างภาคภูมิใจ“อ๋องซ

    Last Updated : 2024-11-17
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 328

    เพราะพวกเขาพบว่าคนที่พูดเมื่อครู่คือฉินซู!“มิใช่กระมัง องค์รัชทายาททรงต่อโคลงคู่ได้ด้วยหรือ?”“ล้อกันเล่นแล้ว ท่านอ๋องซิ่นที่ทรงมีความรู้มากมายยังทำมิได้ คงมิต้องพูดถึงองค์รัชทายาทหรอก”“นั่นสิ ข้าคิดว่าองค์รัชทายาททรงเพียงต้องการเรียกร้องความสนใจเท่านั้น จะต่อโคลงได้อย่างไร?”“เฮ้อ ทั้ง ๆ ที่ต่อโคลงมิเป็น แต่กลับตรัสอย่างโอ้อวด คนอื่นเขาจะมิหัวเราะเยาะเอารึ”เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ขุนนางทุกคนพากันทอดถอนใจฉินหยางมองไปที่ฉินซูด้วยความดูถูกเหลือคณา!“เสด็จพี่รัชทายาท กระหม่อมคิดโคลงคู่ต่อไปมิออก แต่ท่านตรัสว่าท่านทำได้อย่างนั้นหรือ? นี่ท่านมั่นใจเกินไป หรือหยิ่งยโสเกินไปกันแน่พ่ะย่ะค่ะ?”ฉินซูตอบอย่างมิไว้หน้า “การที่เจ้าไร้ความสามารถนั้นมิได้หมายความว่าข้าเป็นเหมือนเจ้าที่แม้แต่โคลงคู่ง่าย ๆ เช่นนี้ก็ยังต่อมิได้ ราชวงศ์ต้าเหยียนของเราต้องขายหน้าเป็นอย่างมากก็เพราะเจ้า”ฉินหยางพูดด้วยความโกรธ “องค์รัชทายาททรงโอ้อวดเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ เอาเถอะ ท่านตรัสว่าต่อโคลงได้ใช่หรือไม่? เช่นนั้นก็ทำเลยสิ หากท่านทำมิได้ กระหม่อมก็อยากจะเห็นนักว่าท่านจะอธิบายกับเสด็จพ่อว่าอย่างไร!”ฉินอู๋ต้

    Last Updated : 2024-11-17
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 329

    ฉินซูไพล่มือไว้ด้านหลังพลางยิ้มเยาะ “อะไรกัน ข้าต่อโคลงคู่ที่สองได้แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าได้รับการชี้แนะจากผู้อื่น เจ้าคิดจะโกงกันหรือไร?”มู่หรงฟู่แค่นเสียงเบา “ท่านต่างหากที่โกง ขุนนางบุ๋นบู๊ทุกคนในราชวงศ์ของท่านมีใครที่มิรู้บ้าง ต้องให้ข้าพูดมากกว่านี้หรือไม่? พวกเขาต่อโคลงมิได้ แต่ท่านกลับทำได้ แสดงว่าท่านมีความสามารถมากกว่าขุนนางเหล่านั้นรึ? หึ ๆ พูดมาได้ว่าท่านคิดเอง คงจะมีคนเชื่อกระมัง?”ฉินหยางยิ้มเย้ยพลางพูดอย่างปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “องค์รัชทายาท แม้ท่านจะต่อโคลงคู่ที่สองได้ แต่ท่านก็ต้องอธิบายให้ดี องค์รัชทายาท มิเช่นนั้นราชวงศ์ต้าเหยียนของเราจะต้องขายหน้าเพราะท่านนะพ่ะย่ะค่ะ”เขาใช้คำพูดเมื่อครู่ของฉินซูตอกกลับไปอย่างมิไว้หน้าแต่ทันทีที่พูดจบ เขาก็ถูกฉินอู๋ต้าวถลึงตาใส่เขากลัวมากจนใจสั่น และรีบหุบรอยยิ้มปรีดาพลางก้มหน้าลงฉินซูพูดโดยมิเปลี่ยนสีหน้า “ข้าจะมีความรู้ความสามารถจริง ๆ หรือไม่ ข้อเท็จจริงย่อมเป็นตัวพิสูจน์ หยุดพูดไร้สาระให้เสียเวลา ข้าต่อโคลงคู่แรกของทเจ้าไปแล้ว คราวนี้ถึงตาที่ข้าเป็นฝ่ายเริ่มใช่หรือไม่?”มู่หรงฟู่แค่นเสียงเย็นอย่างมิยอมอ่อนข้อ “มาสิ

    Last Updated : 2024-11-18
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 330

    หวังฉือตุลาการศาลต้าหลี่มิค่อยอยากเชื่อสักเท่าไรเขาพึมพำ “มิจริงน่า เฉิงจืออี้เป็นผู้อาวุโสแห่งสำนักหอสมุดหลวงเป่ยเยี่ยน ทั้งยังเป็นผู้นำในวงการวรรณกรรมเป่ยเยี่ยน แต่กลับต่อโคลงคู่แรกขององค์รัชทายาทมิได้น่ะหรือ?”“คาดมิถึงเลยว่าท่านผู้อาวุโสเฉิงจะยอมแพ้ มิพูดมิได้ว่าองค์รัชทายาททรงยอดเยี่ยมจริง ๆ!”“นั่นสิ เมื่อก่อนข้าก็คิดว่าองค์รัชทายาททรงใช้ชีวิตอย่างไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน แต่คาดมิถึงว่าพระองค์เป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง แต่เพียงมิไแสดงออก ทว่าเมื่อคนได้เห็นได้รู้กลับเป็นต้องตะลึงงัน!”“การที่บุคคลสำคัญแห่งวงการวรรณกรรมของเป่ยเยี่ยนยอมแพ้ให้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า ความรู้ความสามารถขององค์รัชทายาทมิได้ด้อยไปกว่าท่านผู้อาวุโสเฉิงเลย!”“องค์รัชทายาทผู้เกรียงไกร ทรงทำให้แคว้นของเราเรืองรองด้วยบารมีอำนาจ!”เสียงสรรเสริญดังก้องไปทั่วทั้งสถานที่แห่งนั้นอีกครั้งสีหน้าของมู่หรงฟู่และคนอื่น ๆ มิสู้ดีราวกับกินแมลงวันเข้าไปก็มิปานขณะนั้นเฉิงจืออี้ก็พูดขึ้นอีกครั้งเขายกมือคำนับฉินซูและพูดด้วยท่าทีที่มิถ่อมตัวและมิอวดดี “องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน แม้โคลงคู่แรกเมื่อครู่ของท่านจะวิจิต

    Last Updated : 2024-11-18
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 331

    “ด่านซานไห่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีศักราชหงอู่ที่สิบสี่ในช่วงราชวงศ์หมิง และตั้งอยู่ตรงใจกลางของกำแพงเมืองจีนที่ด่านซานไห่…”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทางของฉินซูก็เปลี่ยนไปทันที และมีสีหน้าประหลาดใจ!ปีศักราชหงอู่ที่สิบสี่ในช่วงราชวงศ์หมิงคือรัชสมัยของจักรพรรดิจูหยวนจางผู้สถาปนาราชวงศ์หมิงมิใช่หรือ?อีกทั้งข้อมูลของด่านซานไห่ที่ถูกบันทึกไว้ในตำราโบราณนั้นเหมือนกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เขารู้ทุกประการ!แต่เหตุใดหัวหน้าโหรหลวงถึงบอกว่านั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อราวหมื่นปีก่อน?หรือว่านับตั้งแต่ราชวงศ์หมิงมาจนถึงบัดนี้ เวลาได้ล่วงเลยมาเป็นหมื่นปีแล้ว?จะเป็นไปได้อย่างไร?!แต่นอกเหนือจากนี้แล้วจะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจได้?มันคงเป็นไปมิได้หรอกกระมังที่ประวัติศาสตร์ของทั้งสองโลกจะมีส่วนที่คล้ายคลึงกัน?ยิ่งฉินซูคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไร ความคิดของเขาก็ยิ่งสับสนวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้นขณะนั้นเองเฉิงจืออี้ก็ถอนหายใจยาวและพูดว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวง ข้ารู้ตัวอักษรโบราณมิมากนัก แต่เห็นได้ชัดว่าตำราเล่มนี้บันทึกข้อมูลทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมตั้งแต่สมัยโบราณเอาไว้มากมาย มิทราบว่าท่าน

    Last Updated : 2024-11-18

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 492

    ดวงตาของซือคงเหยียนฉายแววสังหาร จากนั้นเขาก็เริ่มค้นหาภายในป่าแต่หลังจากค้นหาอยู่นานก็มิพบอะไรเลยสีหน้าของเขาหม่นมืดลึกลับ และพึมพำกับตัวเอง“ทั่วทั้งป่ามีเพียงตรงนี้ที่มีเลือดของจื่อชิน แต่ว่าศพของเขาไปอยู่ที่ใดกัน? ต่อให้ถูกพวกปีศาจภูเขากิน ก็เป็นไปมิได้ที่จะหายไปมิเหลือร่องรอย!”ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องน่าประหลาดเกินไปแต่ตอนนี้ที่ยังหาศพของหนานกงจื่อชินมิพบ ซือคงเหยียนจึงทำได้เพียงเก็บความคับแค้นไว้ในใจและเดินออกจากป่าไปในตอนนั้นเอง ที่ถนนหลวงด้านนอก มีพ่อค้าเร่กลุ่มหนึ่งเดินผ่านพอดีชายคนหนึ่งพูดด้วยความดีใจอย่างยิ่ง "พี่เจียง เจ้าได้ยินแล้วหรือยังว่า องค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าเหยียนของเราได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์หออะไรนั่นของเป่ยเยี่ยนแล้ว!"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของซือคงเหยียนพลันมืดหม่นลง ร่างของเขาวูบไหวชั่วขณะก่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าชายผู้นั้นราวกับภูติผีชายคนนั้นตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซือคงเหยียนจนขาอ่อนและเซล้มลงกับพื้นเมื่อเห็นกลิ่นอายอำมหิตบนใบหน้าของซือคงเหยียน ชายคนนั้นก็ตื่นตกใจจนพูดอะไรแทบมิออก“เจ้า… เจ้าเป็นใคร คิดจะทำ… ทำอะไร?”ซือคงเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 491

    “หวังฉือกับเนี่ยหงไอ้สุนัขสองตัวนั่น กล้าโจมตีพวกเราต่อหน้าเหล่าขุนนางเลยรึ น่าโมโหนัก!”ฉินหงปลอบใจเขา "เสด็จพี่สามใจเย็นก่อน ทั้งตุลาการศาลต้าหลี่และผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายไม่มีทางก่อปัญหาใหญ่ได้หรอก เมื่อไหร่ที่รัชทายาทล้มลง พวกเขาก็จะกลายเป็นสุนัขไร้เจ้าของ ไยต้องไปถือสาหาความกับพวกเขาเล่า”“ข้าแค่หงุดหงิดเท่านั้นเอง อีกอย่าง เสด็จพ่อยังสั่งให้หัวหน้าสำนักจับตาดูหอดารารักษ์ แล้วคนจากหอดารารักษ์จะมีโอกาสไปแก้แค้นฉินซูได้อย่างไร?”“ความแข็งแกร่งของหอดารารักษ์มิได้ด้อยไปกว่าสำนักหอดูดาวหลวงเลย เจ้าสำนักคงมิสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จ มิว่าจะอย่างไร เรื่องนี้ต้องทำให้องค์รัชทายาทยุ่งยากแน่นอน พวกเราแค่รอดูผลลัพธ์ก็พอ”ฉินหยางพยักหน้าเล็กน้อยและถามอีกครั้ง "ว่าแต่ มีข่าวคราวจากเรือสินค้าที่มุ่งใต้ไปยังหลิ่งหนานบ้างหรือไม่?"ฉินหงถอนหายใจ “ยังไม่มีเลย แต่ถ้าคำนวณเวลา ตอนนี้เรือลำนั้นน่าจะผ่านเขตเหยี่ยนโจวแล้ว”“หึ พวกโจรสลัดในเหยี่ยนโจวนั่นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง ข้าวแปดพันต้านกับเงินหกแสนตำลึง ทั้งหมดนี้เป็นทรัพย์สินมหาศาล แต่พวกมันกลับมิกล้าลงมือ!”“คงมิแน่เสมอไปว่าจะมิกล้าลง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 490

    ฉินอู๋ต้าวยังมิทันได้แสดงท่าที หวังฉือก็โต้แย้งขึ้นมาทันควัน “ข้าน้อยมิเข้าใจคำพูดของอ๋องซิ่น ยามนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเลย แล้วเหตุใดท่านจึงต้องให้องค์จักรพรรดิทรงพิจารณาให้รอบคอบด้วยหรือ?”“นั่นสิ เป่ยเยี่ยนเดิมทีก็มีความตั้งใจจะล่วงล้ำพรมแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนมาตลอด ยามนี้ยังมิได้มีการระดมทัพเลย แต่ท่านอ๋องซิ่นกลับกลัวแล้ว หากวันหนึ่งเป่นเยี่ยนระดมทัพขึ้นมาจริง ๆ ท่านจะมิสนับสนุนให้องค์จักรพรรดิแบ่งดินแดนให้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินหยางถูกหวังฉือและเนี่ยหงโต้กลับจนหน้าซีดในที่สุดบัดนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า หวังฉือและเนี่ยหง ทั้งสองเป็นขุนนางระดับสองที่กลายเป็นคนของฉินซูไปแล้วเขาเกิดความสงสัย ฉินซูเป็นองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด เขามีดีอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนนั้นยอมรับเขาเป็นผู้นำ?แต่เมื่อเผชิญกับคำซักถามอย่างเข้มงวดของหวังฉือและเนี่ยหง เขาก็มิอาจอุบเงียบเอาไว้ได้ จึงแค่นเสียงเย็นชา"หึ! ข้าในฐานะจวิ้นอ๋องแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน ต่อให้วันข้างหน้าสงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง ก็ย่อมไม่มีทางให้เสด็จพ่อยอมสละดินแดนเพื่อขอสันติภาพ เพียงแต่ยามนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 489

    ข่าวที่ว่าฉินซูได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์นั้นแพร่กระจายราวกับไฟป่า ก่อให้เกิดความปั่นป่วนทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงผู้คนต่างพูดถึงเรื่องนี้ทุกมื้อหลังอาหารบางคนยกย่องฉินซูว่าเขาทำให้ต้าเหยียนมีเกียรติบางคนถึงกับแอบส่ายหัว แม้ว่าฉินซูจะเป็นรัชทายาท ทว่าการสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์โดยไร้เหตุผลนั้นคงมิเป็นที่ยอมรับของราชสำนักเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ จากนี้ไปฉินซูองค์รัชทายาทผู้นี้อาจไม่มีวันมีชีวิตที่สงบสุขอีกต่อไปคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดคงเป็นมู่หรงจื่อเยียนหลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ ใจนางก็เกิดความสงสัยว่า คนที่ฆ่าหนานกงจื่อชินคือฉินซูจริง ๆ หรือ?แต่ฉินซูเก่งแค่วิชาตัวเบาเท่านั้น แล้วเขาจะสังหารหนานกงจื่อชินได้อย่างไร?ทว่าเมื่อนึกถึงเมื่อยามหลังจากที่ออกมาจากดินแดนแห่งความฝันนั้น ฉินซูเอาชนะอันธพาลเหล่านั้นได้ในพริบตา นางก็ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฉินซูนั้นมิธรรมดาเมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็รีบสงบสติอารมณ์ และบังคับให้ตัวเองใจเย็นลงหากมู่หรงฟู่รู้ว่าฉินซูมีฝีมือที่เหนือชั้นเช่นนี้ สถานการณ์ของฉินซูคงจะอันตรายอย่างมากต่อมา มู่หรงจื่อเยียนเลือกที่จะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 488

    ฉินหงมองเนื้อหาในจดหมายเพียงครู่เดียว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป!เขากล่าวเสียงทุ้มหนัก "เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปจวนอ๋องซิ่น แล้วก็แจ้งให้ใต้เท้าหลินและใต้เท้าเซี่ยมาประชุมที่จวนอ๋องซิ่นด้วย!""พ่ะย่ะค่ะ!"สองเค่อต่อมาฉินหงพร้อมด้วยหลินซีและคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกันที่จวนอ๋องซิ่นฉินหยางถามอย่างสงสัย "น้องสี่ ดึกป่านนี้พวกเจ้ายังมากัน มีข่าวดีอะไรจากทางคูมู่หรือ?""ยังติดต่อคูมู่มิได้ แต่เสด็จพี่สาม พวกท่านลองดูนี่ก่อน"ฉินหงพูดพลางวางจดหมายฉบับนั้นลงบนโต๊ะฉินหยาง หลินซีและคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านข้อความบนจดหมายโดยพร้อมเพรียงหลังจากได้อ่านแล้ว เซี่ยเหอก็เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ "ว่ากระไรนะ? ฉินซูสังหารศิษย์เอกของหอดารารักษ์?!"ฉินหยางถามด้วยสีหน้าฉงน "น้องสี่ แน่ใจหรือว่าข่าวนี้เป็นความจริง?""น่าจะมิใช่เรื่องเท็จ ศิษย์เอกของหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่งในแคว้นเป่ยเยี่ยน ผู้ใดจะกล้าพูดเล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้""แต่ศิษย์เอกอย่างหนานกงจื่อชินมีพลังแข็งแกร่งนัก องค์รัชทายาทจะสังหารเขาได้อย่างไร?"หลินซีเองก็กล่าวเสริมขึ้นเช่นกัน "ใช่แล้ว แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนแห่งสำนักหอดูดาวหลวงจะติดตามองค์รัชทายาทไปทางเหนือด้วยแต่ด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 487

    นางพูดด้วยเสียงสะอื้นพร้อมถามกลับว่า "เสด็จพี่หมายความว่าอย่างไร? หรือท่านคิดว่าหม่อมฉันเป็นคนฆ่าพี่จื่อชินเช่นนั้นหรือ?"ซือคงเหยียนรีบพูดขึ้น "องค์ชาย ท่านหญิงจื่อเยียนมีใจรักใคร่กับจื่อชิน นางจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? การตายของจื่อชินถือเป็นการกระทบกระเทือนใจอย่างใหญ่หลวงต่อนาง โปรดอย่าได้สงสัยในตัวนางเลยพ่ะย่ะค่ะ"มู่หรงฟู่ครุ่นคิดแล้วเห็นด้วย จากนั้นก็สงบอารมณ์ลงเขาพูดอย่างจริงจัง "จื่อเยียน ข้าหาได้มีเจตนาสงสัยเจ้าไม่ แต่เจ้าต้องบอกความจริงเกี่ยวกับการตายของจื่อชิน มิเช่นนั้นพวกเราจะล้างแค้นให้เขาได้อย่างไร?"“หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ เดิมทีพี่จื่อชินได้ขวางเส้นทางของฉินซูไว้ในป่า หม่อมฉันกังวลว่า คนของฉินซูจะรู้เรื่องนี้เข้า จึงขอร้องพี่จื่อชินว่าอย่าทำอะไรวู่วาม สุดท้ายเขาก็ฟาดข้าจนหมดสติไปพอฟื้นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ใต้หน้าผา หม่อมฉันปีนขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วหาม้าตัวหนึ่งขี่กลับมา ส่วนเรื่องอื่นหม่อมฉันมิรู้จริง ๆ”หลังจากฟังคำพูดของมู่หรงจื่อเยียนแล้ว สีหน้าของมู่หรงฟู่และซือคงเหยียนก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นผ่านไปครู่หนึ่ง มู่หรงฟู่ก็เอ่ยขึ้นเสียงหนักอึ้ง "

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 486

    มู่หรงจื่อเยียนตกตะลึง ก่อนถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "เสด็จพี่ พี่จื่อชินเขายังมิได้กลับมาหรอกหรือ?"“ไม่ เกิดเรื่องอันใดขึ้น? พวกเจ้ามิได้กลับมาด้วยกันหรอกหรือ?”“เป็นไปมิได้ หากพูดตามเหตุผล เขาควรจะกลับมาเร็วกว่าหม่อมฉันสิ หรือว่าระหว่างจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงทำให้เขากลับมาล่าช้า?”มู่หรงจื่อเยียนครุ่นคิดในใจ ตนและฉินซูติดอยู่ในดินแดนแห่งความฝันนานขนาดนั้น หนานกงจื่อชินก็น่าจะกลับมาตั้งนานแล้วถึงจะถูกหรือว่า เขาจะยังตามหาตนอยู่ที่บริเวณขอบผานั่น?มู่หรงฟู่มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า "ที่นี่เต็มไปด้วยสายลับ เข้าไปคุยข้างในดีกว่า"มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าเห็นด้วย และเดินตามมู่หรงฟู่เข้าไปข้างในทันทีที่นางนั่งลง มู่หรงฟู่ก็ถามขึ้นด้วยความร้อนใจ "เป็นอย่างไรบ้าง? ทำสำเร็จหรือไม่? ฉินซูถูกกำจัดเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?"มู่หรงจื่อเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า "มิสำเร็จ ตอนที่พี่จื่อชินกำลังจะลงมือก็มีกลุ่มปีศาจภูเขาเข้ามาก่อกวน ต่อมา… หม่อมฉันก็พลัดหลงกับเขา ส่วนเรื่องหลังจากนั้น หม่อมฉันก็มิรู้แล้ว”มู่หรงฟู่ขมวดคิ้วรู้สึกว่า คำพูดของมู่หรงจื่อเยียนดูมิค่อยสมเหตุสมผลกันเขาขมวดคิ้วแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 485

    ส่วนครอบครัวและคนสนิทของทั่วป๋าชื่อทั้งหมดถูกตวนมู่สั่งคนไปจัดการประหารจนหมดสิ้นแล้วอีกทั้งตวนมู่ยังได้แต่งตั้งคนสนิทของตนขึ้นมาควบคุมกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ภายในชนเผ่าฉินซูพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ตวนมู่ทำงานอย่างเฉียบขาด รวดเร็ว สามารถรวบรวมกำลังอำนาจของตนได้ภายในเวลาอันสั้นเพียงนี้ อีกทั้งยังกล้าหาญ นับว่าเป็นบุคคลที่ทำการใหญ่ได้ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงถามอย่างสงสัย "ตวนมู่ ชนเผ่าโครยอของเจ้ามีทหารเพียงสองหมื่นนายเท่านั้น แต่ทั่วป๋าชื่อเอาความกล้าจากที่ใดมาคิดสังหารข้ากัน"“องค์รัชทายาท ก่อนที่ท่านจะเสด็จมา ทั่วป๋าชื่อได้รับจดหมายจากผู้สูงศักดิ์ท่านหนึ่ง ในนั้นมีการสัญญาว่า ขอเพียงทั่วป๋าชื่อสามารถกำจัดองค์รัชทายาทได้ วันหน้าเมื่อผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นได้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาจะมอบเมืองให้ชนเผ่าโครยอของเราสองสามเมืองเพื่อฟื้นฟูชนเผ่าพ่ะย่ะค่ะ”“ผู้สูงศักดิ์? คือผู้ใด?”“เรื่องนี้ ทั่วป๋าชื่อมิได้บอกอย่างชัดเจน เขาบอกเพียงว่าเป็นหนึ่งในพระโอรสขององค์จักรพรรดิ อ้อ ใช่แล้ว จดหมายฉบับนั้นน่าจะอยู่ในห้องตำราของทั่วป๋าชื่อ ข้าน้อยจะไปค้นหามาให้พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่ตวนมู่พูดจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 484

    ฉินซูโบกมือแล้วตะโกนสั่งกับทหารผู้นั้น "ไป นำตัวตวนมู่หาให้ข้า!"“รับพระบัญชา!”ทหารผู้นั้นรับคำอย่างนอบน้อมแล้วนำคนอีกสองคนเดินอย่างรวดเร็วไปยังคุกเพียงชั่วครู่ ตวนมู่ก็ถูกนำตัวมาในตอนนี้ เขาถูกใส่โซ่ตรวนที่มือและเท้า ดูคล้ายกับนักโทษอย่างไรอย่างนั้นฉินซูเลิกคิ้ว พลันถามว่า "ตวนมู่ ข้าได้ยินมาว่า ทั่วป๋าชื่อสั่งให้เจ้าฆ่าข้า มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ?"ตวนมู่กวาดสายตามองสถานการณ์ภายในลาน เมื่อเห็นเศษแขนขาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ม่านตาของเขาก็หดตัวในฉับพลันความคิดในหัวของเขาแล่นอย่างรวดเร็ว มินานก็วิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าได้เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงรีบเอ่ยตอบ "องค์รัชทายาท เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้น เหตุใดเจ้าจึงมิทำตามคำสั่งของเขา?”“องค์รัชทายาท ท่านคือรัชทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์แห่งแผ่นดิน หากลงมือกับท่านก็เท่ากับการก่อกบฏ เป็นที่สาปแช่งทั้งฟ้าดิน ข้าน้อยยอมตายเสียดีกว่าทำเรื่องที่ไร้ความจงรักภักดีและอกตัญญูเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของตวนมู่แฝงความมิจริงใจอยู่บ้าง แต่เขารู้ดีว่าบัดนี้ฉินซูได้กุมอำนาจในสถานการณ์นี้ไว้แล้วดังนั้นหากมิแสดงความจงรักภักดีเสียตอนนี้แล

DMCA.com Protection Status