Share

บทที่ 206

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
การกระทำที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันของนาง ทำให้สาวใช้ที่อยู่ใกล้ ๆ ถึงกับตกใจจนลนลาน

สองสาวใช้หน้าถอดสี รีบทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น มิกล้าหายใจแม้แต่น้อย

ภายในห้อง ฉินซูและหลินชิงเหยาก็ถูกทำให้ตกใจเช่นกัน

โดยเฉพาะหลินชิงเหยา ที่ถึงกับใบหน้าซีดเผือด รีบซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มทันที

เมื่อถูกรบกวนจนเสียอารมณ์ ฉินซูโกรธจัด ตะโกนด่าผู้ที่อยู่ด้านนอกว่า "ใครมันบังอาจขนาดนี้ กล้ามาเตะประตูห้องบรรทมขององค์รัชทายาท อยากตายนักหรืออย่างไร!"

เสียงเย็นชาของฉงชูโม่ตอบกลับอย่างเฉยเมย "หึ หากท่านมิออกมา องค์รัชทายาทตำแหน่งนี้ของท่าน คงจะถูกปลดในวันพรุ่งแล้ว!"

เมื่อได้ยินเสียงของฉงชูโม่ ฉินซูก็ขมวดคิ้วครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบสวมอาภรณ์และปลอบใจหลินชิงเหยาเล็กน้อย แล้วเดินออกไป

ฉงชูโม่เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะแสดงท่าทางรังเกียจแล้วเบือนหน้าหนีไป

ฉินซูเลิกคิ้วถาม "ฉงชูโม่ เจ้ากล้ามาเตะประตูห้องข้า เรื่องนี้เดี๋ยวข้าจะสะสางกับเจ้าทีหลัง แต่บอกข้ามาก่อนว่า คำพูดเมื่อครู่ของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?"

ฉงชูโม่แค่นเสียงเย็น "ไม่มีความหมายอะไร หม่อมฉันมิอยากขัดจังหวะเรื่องสำคัญของท่าน หม่อมฉันขอทูลลา"

พูดจบ นางก็ห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 207

    ฉินซูพูดต่อว่า "งามขนาดนี้ แต่มิให้คนมอง มันเกินไปหน่อยนะ"“ถุย! เลิกพูดจาป้อยอหว่านล้อมเถอะ ปัญหาใหญ่มาถึงหน้าประตูบ้านท่านแล้วรู้บ้างหรือไม่?” “ปัญหาใหญ่? ปัญหาใหญ่อะไร?”ฉงชูโม่พูดอย่างมิพอใจ "เรื่องที่ท่านพบโอวหยางขุยตามลำพัง ตอนนี้ข่าวไปถึงหูท่านอ๋องจิ้นแล้ว ท่านอ๋องจิ้นเสด็จไปหาชิ่งกั๋วกง และยังพูดจาหว่านล้อมให้เซี่ยหลานมาเป็นพยานอีกด้วย"ฉินซูขมวดคิ้วแล้วถามว่า "เจ้ามาบอกเรื่องเพียงแค่นี้รึ?""มิเช่นนั้นแล้วจะมีอะไรอีกเล่า? นี่มิใช่เรื่องใหญ่หรือไร? อย่าลืมสิว่าฝ่าบาททรงมีรับสั่งอย่างชัดเจน ห้ามคนในราชสำนักและเชื้อพระวงศ์คบค้ากับคนในยุทธภพ ท่านนี่รู้ทั้งรู้ยังฝ่าฝืน ท่านทรงคิดว่าอ๋องจิ้นกับพรรคพวกจะจัดการท่านอย่างไร?"“จะไปเดายากอะไร พวกเขาจะต้องรีบฉวยโอกาสโจมตีข้าแน่ วันพรุ่งคงยื่นฎีกาว่าร้ายข้าแน่นอน”"ในเมื่อรู้อยู่แล้ว เหตุใดท่านถึงทำเหมือนมิแยแสสิ่งใดเลยเล่า หรือคิดจะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม?"ฉงชูโม่มองฉินซูด้วยความผิดหวัง ในใจคิดว่าเขาคงยอมแพ้จริง ๆแต่ฉินซูกลับหัวเราะแล้วพูดว่า "ที่แท้เจ้าก็แอบห่วงข้านี่เอง ข้านึกว่าเจ้าเป็นเพียงสายลับที่ฝ่าบาทส่งมาสอดส่องข้าเส

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 208

    อ๋องจิ้นกล่าวออกมาอย่างมิเกรงกลัวว่า “ตำหนักบูรพา องค์รัชทายาทฉินซูพ่ะย่ะค่ะ!”” พูดจบ เขาก็ชี้นิ้วไปทางฉินซูเมื่อทุกคนได้ยิน ต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน!ฉินอู๋ต้าวเอนหลังพิงบนบัลลังก์มังกร และรับสั่งด้วยความสนใจว่า "เหตุใดเจ้าถึงต้องการฟ้องร้ององค์รัชทายาท?"อ๋องจิ้นพูดอย่างโกรธแค้นว่า “เสด็จพ่อ เมื่อวานนี้องค์รัชทายาทลอบพบปะกับชาวยุทธภพในตำหนักบูรพา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนรับสั่งของฝ่าบาทอย่างโจ่งแจ้ง ขอเสด็จพ่อทรงพิจารณาลงโทษด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“ว่ากระไรนะ! องค์รัชทายาทกล้าคบค้ากับชาวยุทธภพรึ?”“เป็นไปมิได้ องค์รัชทายาทซึ่งเป็นผู้สืบบัลลังก์ของแผ่นดิน จะกล้าฝ่าฝืนรับสั่งของฝ่าบาทเช่นนี้หรือ?”“จะผู้สืบบัลลังก์อะไรกัน ก็เป็นแค่องค์รัชทายาทที่รอวันถูกปลดเท่านั้น”“แต่ก่อนที่จะถูกปลด พระองค์ก็ยังเป็นองค์รัชทายาทอยู่ การที่พระองค์คบค้ากับชาวยุทธภพเช่นนี้ หรือว่าพระองค์ทรงคิดจะใช้กำลังจากยุทธภพเพื่อแย่งชิงบัลลังก์?”ในท้องพระโรง บรรดาขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เมื่อได้ยินเสียงเหล่านี้ ใบหน้าของฉินอู๋ต้าวก็เริ่มเคร่งขรึมลง นัยน์ตาอันเย็นเยียบจับจ้องไปที่ฉินซู แต่กลั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 209

    เซี่ยหลานมองภาพวาดก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ใช่เพคะ เป็นเขาคนนี้”“เสด็จพ่อ นี่คือภาพวาดของเจ้าสำนักอาทิตย์อัสดง โอวหยางขุย นั่นหมายความว่า เมื่อวานนี้องค์รัชทายาทได้พบกับเขาจริง ๆ เขาจงใจฝ่าฝืนรับสั่งของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อต้องลงโทษอย่างหนัก มิเช่นนั้นจะเป็นการยากที่จะทำให้ขุนนางอยู่ในโอวาทได้พ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่ฉินเหยี่ยนกล่าวจบ เซี่ยเหอก็ยืนขึ้นแล้วกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ฝ่าบาท องค์รัชทายาทเป็นถึงผู้สืบทอดราชบัลลังก์ แต่กลับจงใจฝ่าฝืนเช่นนี้ กระหม่อมขอเสนอให้ปลดองค์รัชทายาทจากตำแหน่งพ่ะย่ะค่ะ!”“ข้าน้อยเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” “ข้าน้อยก็เห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”ในทันใดนั้น บรรดาขุนนางที่เป็นพรรคพวกของอ๋องจิ้นและอ๋องฉีต่างก็ออกมาสนับสนุนเขาฉินอู๋ต้าวมองฉินซูด้วยสายตาเย็นเยียบและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “องค์รัชทายาท เจ้ามีอะไรจะพูดหรือไม่?”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่มีสิ่งใดจะพูด”เมื่อได้ยินคำตอบนี้ หญิงสาวที่อยู่ข้างฉินซูอย่างฉงชูโม่ก็อึ้งไปเล็กน้อย นางมองเขาด้วยความประหลาดใจฉินอู๋ต้าวแค่นเสียงเย็นชา “หึ เช่นนั้นเจ้าก็ยอมรับแล้วว่าได้พบปะกับโอวหยางขุยเมื่อวานนี้ใช่หรือไม่?”“นั่นเป็นความจร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 210

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซู หลายคนก็ถึงกับตกตะลึงอ๋องจิ้นส่งคนไปลอบสังหารองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้เป็นความจริง นี่จะเป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งราชสำนัก! และหากความผิดในข้อหาลอบสังหารได้รับการพิสูจน์ แม้จะมิถึงขั้นประหารชีวิต อ๋องจิ้นจะต้องถูกปลดจากตำแหน่งอ๋องอย่างแน่นอน ฉินเหยี่ยนย่อมตระหนักถึงเรื่องนี้ดี เขารีบปฏิเสธทันที “ท่านพูดเหลวไหล ข้าไปส่งคนลอบสังหารท่านเมื่อไร?”“เจ้ามิยอมรับก็มิเป็นไร โอวหยางขุยสารภาพทุกอย่างแล้ว นี่คือคำสารภาพที่เขาเขียนด้วยมือของตัวเอง”ฉินซูพูดพร้อมกับหยิบคำให้การของโอวหยางขุยออกมา และยื่นให้ฉินเหยี่ยนดู“ฉินเหยี่ยน เจ้าคงรู้จักลายมือของโอวหยางขุยดีใช่หรือไม่?”เมื่อเห็นลายมือในคำให้การ ฉินเหยี่ยนก็ถึงกับสะดุ้ง ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงทันทีเขารีบปฏิเสธเสียงดัง “มิจริง นี่มันคำสารภาพปลอม ท่านปลอมแปลงมันขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายข้า!”“ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเจ้าจะปฏิเสธ แต่ก็เอาเถอะ ข้าได้เตรียมรับมือไว้แล้ว”เมื่อได้ยินว่าฉินซูยังมีแผนสำรอง ฉินเหยี่ยนก็ยิ่งหวาดหวั่น รีบร้องขอความช่วยเหลือจากฉินอู๋ต้าวทันที “เสด็จพ่อ กระหม่อมถูกใส่ร้าย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 211

    สายตาของเขาราวกับจะบอกว่า ‘เจ้ามิใช่หรือที่บอกว่าจะให้ข้าตัดสินใจเองทั้งหมด และไม่มีข้อขัดข้อง? แล้วคำพูดเมื่อครู่นี้มันหมายความว่าอย่างไร? เจ้าต้องการให้ข้าลงโทษให้หนักขึ้นใช่หรือไม่?’แม้ว่าฉินอู๋ต้าวจะโกรธกับคำพูดของฉินซู แต่ต่อหน้าปัญหาที่ฉินซูโยนมาให้ มิว่าจะอยากแก้ไขปัญหาหรือไม่ เขาก็ต้องรับไว้หลังจากสงบสติอารมณ์ลง เขากล่าวอย่างช้า ๆ “สิ่งที่องค์รัชทายาทพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง ฉินเหยี่ยน ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าได้ส่งคนไปลอบสังหารองค์รัชทายาทหรือไม่?”ขณะกล่าว เขาแอบส่งสายตาเป็นนัยให้ฉินเหยี่ยนฉินเหยี่ยนเข้าใจทันที รีบส่ายหัวปฏิเสธ “เสด็จพ่อ กระหม่อมถูกใส่ร้าย กระหม่อมไม่มีทางกระทำการอันอุกอาจเช่นนี้ได้แน่พ่ะย่ะค่ะ”“ดี! ในเมื่อเจ้ามิยอมรับ และองค์รัชทายาทก็ไม่มีหลักฐานอื่นใดนอกจากคำให้การนี้ เราจะเลิกประชุมกันก่อน ข้าจะให้สำนักหอดูดาวหลวงไปสืบสวนให้กระจ่างในภายหลัง”หลังจากพูดเสร็จ ฉินอู๋ต้าวก็เตรียมจะลุกออกจากบัลลังก์แต่ฉินซูกลับพูดขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย “เสด็จพ่อ กระหม่อมมิได้มีแค่คำให้การนี้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมยังมีพยานบุคคลด้วย!”ฉินอู๋ต้าวชะงักเท้า มองฉินซูอย่างด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 212

    ในใจฉินเหยี่ยนเต็มไปด้วยความทุกข์ ใบหน้าซีดเซียวกระซิบอย่างสิ้นหวังว่า "หากโอวหยางขุยเข้าวังมาเป็นพยานจริง ๆ แผนสำรองของข้าก็แทบไม่มีค่าอะไรแล้ว โอ๊ย ตายแน่ ๆ ฉินซูไปทำอิท่าไหนถึงสามารถโน้มน้าวโอวหยางขุยได้กัน"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินหยางก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความรำคาญ แล้วถอยห่างจากฉินเหยี่ยนไปสองสามก้าวทันทีเห็นได้ชัดว่าเขาประเมินฉินเหยี่ยนสูงไป แต่เดิมเขาหวังจะใช้ฉินเหยี่ยนโค่นฉินซู แต่เรื่องกลับมิเป็นตามแผน นอกจากจะมิสำเร็จยังพาตัวเองติดบ่วงไปด้วยอีกคนมิเพียงแต่ฉินหยางเหล่าองค์ชายคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะส่ายหัวเบา ๆ อยู่ในใจฉินเหยี่ยนมีแววตาสับสน ความคิดแล่นเร็ว พยายามหาวิธีออกจากสถานการณ์นี้บนบัลลังก์ ฉินอู๋ต้าวจ้องฉินซูด้วยสายตาที่เย็นชา มิปิดบังความโกรธเกรี้ยวภายในใจของเขานั้นโกรธจัด เพราะนานมาแล้วที่ไม่มีใครกล้าทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้แต่วันนี้ องค์รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลดกลับโยนปัญหาหนักอกมาให้เขาต่อหน้าขุนนางทั้งราชสำนัก เขาจึงเริ่มเกลียดฉินซูยิ่งกว่าเดิมหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ฉินซูคงตายไปหลายร้อยหนแล้วในยามนี้แต่แม้จะต้องเผชิญกัยสายตาเย็นช

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 213

    ฉินอู๋ต้าวกำหมัดแน่นและกล่าวด้วยเสียงเข้มว่า “โอวหยางขุย เจ้าบอกมา ผู้ใดที่สั่งการอยู่เบื้องหลังให้เจ้ามาลอบสังหารองค์รัชทายาท เจ้าอย่าได้กลัว หากมีเหตุผลอันควร ข้าจะพิจารณาโทษของเจ้าอย่างยุติธรรม แต่หากกล่าวหาลอย ๆ ข้าจะสั่งประหารตระกูลของเจ้าเก้าชั่วโคตรทันที!”เมื่อคำพูดของเขาจบลง สายตาของทุกคนในท้องพระโรงก็หันไปจ้องมองโอวหยางขุยทันทีโอวหยางขุยชี้ไปที่ฉินเหยี่ยนแล้วกล่าวด้วยเสียงดัง “ฝ่าบาท กระหม่อมได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องจิ้น เมื่อครั้งที่องค์รัชทายาทเสด็จลงใต้ ท่านอ๋องจิ้นก็ส่งคนมายังสำนักอาทิตย์อัสดงเพื่อแจ้งสารถึงกระหม่อม...”ยังมิทันที่เขาจะพูดจบ ฉินเหยี่ยนก็โกรธจนตะโกนขึ้นมาด้วยความอับอาย “โอวหยางขุย เจ้าปั้นเรื่องเจ้าใส่ความข้า ข้ามิเคยส่งคนไปหาเจ้าเลย เรื่องนี้ไม่มีมูลความจริง ข้ากับเจ้าก็ไม่มีเรื่องบาดหมางกัน เจ้าจะกล่าวหาข้าด้วยเหตุใด? บอกมา เป็นองค์รัชทายาทที่ข่มขู่ให้เจ้าทำเช่นนี้ใช่หรือไม่? หากมิพูดออกมา เสด็จพ่อจะประหารเจ้าเก้าชั่วโคตรเชียวนะ!”โอวหยางขุยยังคงนิ่ง สีหน้ามิเปลี่ยนและกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “ฝ่าบาท องค์รัชทายาทมิได้ข่มขู่กระหม่อมแม้แต่น้อย และทุกคำที่กร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 214

    เมื่อเห็นว่าฉินอู๋ต้าวโกรธจัด ขุนนางทุกคนในท้องพระโรงต่างก้มหน้าลง ไม่มีใครกล้าสบสายตาหรือเผชิญหน้ากับความโกรธของจักรพรรดิองค์นี้แม้แต่เหลยเจิ้น เว่ยเจิง และฉงชูโม่ก็ยังต้องเบี่ยงสายตา มิกล้าสบตาตรง ๆมีเพียงฉินซูที่ยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง ยืนหยัดพูดอย่างมีเหตุผลว่า “ฝ่าบาท พยานหลักฐานทั้งหมดประจักษ์ชัดเจนอยู่ตรงหน้า ลูกมิเข้าใจว่ามีอะไรที่ยังต้องตรวจสอบอีก หากแม้แต่เรื่องการลอบสังหารองค์รัชทายาท ร้ายแรงเพียงนี้แล้ว ยังสามารถปล่อยผ่านไปได้ ลูกก็ขอสละตำแหน่งองค์รัชทายาทเสียยามนี้เลยดีกว่า ลูกมิอยากใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ต้องคอยระวังภัยร้ายจากเหล่าขุนนางทรยศเช่นนี้ หากเป็นเช่นนั้น ลูกขอให้จบเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”"เจ้า!!" ฉินอู๋ต้าวโกรธจนกัดฟันแน่น สุดท้ายถึงกับไอมิหยุดด้วยความโมโห และกระทืบเท้าด้วยความอับอายและโกรธจัดเฉาฉุนรีบเข้ามาช่วยปลอบประโลม พร้อมกล่าวอย่างวิตกว่า "ฝ่าบาท โปรดรักษาพระวรกาย อย่ามีโทสะเลยพ่ะย่ะค่ะ"ฉินอู๋ต้าวส่งสัญญาณให้เขาถอยไป จากนั้นจึงมองฉินซูด้วยสายตาเคร่งขรึม และถามอย่างเน้นหนักว่า "องค์รัชทายาท เจ้าคิดจะบีบบังคับข้ารึ?"สายตาของเขาเฉี

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status