แชร์

บทที่ 150

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“รองเจ้าสำนัก หนีเร็ว!”

ผู้อาวุโสสำนักเบญจพิษที่เพิ่งได้สติจากความตกตะลึง รีบตะโกนเสียงดังลั่น

จากนั้นเขาก็หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไปอย่างมิคิดชีวิต

แต่เขายังวิ่งไปได้มิกี่ก้าว สัตว์ร่างยักษ์นั่นก็กระโจนเข้าหาเขาราวภูเขาลูกย่อมถล่มเข้าใส่

เมื่อรู้สึกได้ถึงกระแสลมรุนแรงที่พัดมาจากด้านหลัง ผู้อาวุโสถึงกับตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบหันกลับแล้วโยนผงสีดำไปยังสัตว์ร้ายตัวนั้น

ผงนี้มีกลิ่นเหม็นสาบชวนคลื่นไส้ ชัดเจนว่ามันเต็มไปด้วยพิษร้ายแรง

แต่สัตว์ร้ายกลับอ้าปากกว้าง ดูดผงพิษทั้งหมดเข้าปากด้วยแรงดูดมหาศาลไปในพริบตา

แรงดูดมหาศาลนั้นทำให้ร่างของผู้อาวุโสถึงกับชะงักเล็กน้อย

และในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ สัตว์ร้ายก็เข้าประชิดตัวเขา เปิดปากกว้างก่อนจะงับลงไปอย่างรุนแรง

“กร๊อบ!”

เสียงกระดูกแตกดังขึ้น ผู้อาวุโสสำนักเบญจพิษถูกสัตว์ร้ายกัดจนศีรษะขาดออกจากร่างทันที ร่างไร้ศีรษะของเขาสั่นระริกก่อนจะร่วงลงกับพื้น

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ มิว่าจะเป็นฉงชูโม่ หรือฝั่งเฝิงไป่จงต่างก็สีหน้าด้วยความตกใจ

ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งของสำนักเบญจพิษก็รีบหันหลังแล้ววิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก

เฝิงไป่จงรี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 151

    เขี้ยวเหล็กและอาวุธลับของผู้อาวุโสเซี่ยงพุ่งเข้าใส่ร่างของสัตว์ร้ายอย่างแม่นยำ แต่มิคาดคิดว่า สัตว์ร้ายนั้นมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย และความเร็วของมันก็มิได้ลดลงเลย เฝิงไป่จงตกใจกลัวจนแทบเสียสติ พลางตะโกนใส่ฉงชูโม่ว่า “ยังมัวยืนบื้ออะไรอยู่ หากข้าตาย เจ้าจะเป็นเป้าหมายต่อไปของสัตว์ร้ายตัวนี้” “มิต้องให้เจ้ามาเตือนข้าหรอก” ฉงชูโม่ตอบเบา ๆ ก่อนพุ่งทะยานออกไปราวกับกระสุนปืน ในมือของนางถือกริชเขี้ยวมังกรที่ทอประกายเย็นวาบ หลังจากรวบรวมพลังนางก็พุ่งเข้าแทงสัตว์ร้ายอย่างรุนแรง คมกริชเกือบจะแทงเข้าไปที่ลำคอของสัตว์ร้าย แต่สัตว์ร้ายพลิกตัวหลบได้อย่างมิน่าเชื่อ หลีกเลี่ยงการโจมตีร้ายแรงของฉงชูโม่ไปได้พร้อมกันนั้น มันยังยกกรงเล็บคมกริบขึ้นสูงแล้วฟาดใส่นางอย่างรุนแรง ฉงชูโม่เบิกตากว้าง รีบยกกริชเขี้ยวมังกรขึ้นมาป้องกัน “แกร๊ง!” กรงเล็บของสัตว์ร้ายกระแทกเข้ากับใบมีดของกริช แรงอันมหาศาลนั้นทำให้ฉงชูโม่กระเด็นออกไป นางเซถอยหลังไปสิบกว่าก้าว ก่อนจะพยายามทรงตัวอย่างยากลำบาก ลมปราณในร่างกายของนางปั่นป่วนอย่างควบคุมมิอยู่ สุดท้ายทนมิไหว “อั่ก” กระอักเลือดออกมาเต็มปาก เมื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 152

    ทันทีที่เสียงนั้นสิ้นสุด ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นขวางอยู่ระหว่างฉงชูโม่และสัตว์ร้ายอย่างกะทันหัน “ท่านผู้อาวุโส! เหตุใดถึงเป็นท่าน?!” แม้ว่าฉงชูโม่จะมองมิเห็นใบหน้าของผู้มาใหม่ในเวลานี้ แต่เพียงเห็นเสื้อคลุมสีดำและแผ่นหลังอันสง่างามของเขา นางก็จำได้ทันทีว่าเขาคือบุคคลที่เคยชี้แนะในป่าเมืองอวี๋หางมาก่อน ชายชุดดำมิได้สนใจฉงชูโม่ สายตาเย็นเยียบไร้อารมณ์จ้องมองไปยังสัตว์ร้ายตรงหน้า สัตว์ร้ายดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความมิธรรมดาของชายตรงหน้า มันส่งเสียงครางเบา ๆ อย่างมิสบายใจ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มันกลับค่อย ๆ ถอยหลังกลับไปอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นเช่นนั้น เฝิงไป่จงและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงจนพูดมิออกเมื่อครู่นี้สัตว์ร้ายยังทำท่าทีดุร้ายราวกับจะกลืนกินทุกคน แต่เมื่อเห็นชายชุดดำคนนี้ มันกลับดูขลาดเขลา ยังมิทันจะต่อสู้ มันก็คิดจะหนีเสียแล้ว? ชายชุดดำหัวเราะเย็นชา ก่อนที่ร่างของเขาจะหายวับไปจากที่เดิมในทันทีชั่วพริบตาต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าสัตว์ร้าย! ขนของสัตว์ร้ายตั้งชันทั่วตัว สีหน้าของมันเผยความหวาดกลัวเหมือนมนุษย์ มันคำรามเสียงดัง พร้อมยกกรงเล็บคม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 153

    กระแสลมรุนแรงโหมกระหน่ำ เฝิงไป่จงถูกกระแสพลังฝ่ามือกระแทกจนร่างระเบิดกลายเป็นละอองเลือด!ผู้อาวุโสเซี่ยงตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง รีบหันหลังวิ่งหนีไปทันทีชายชุดดำมิแม้แต่จะชายตามองเขา และมิได้ไล่ตามด้วย แต่เพียงฟาดฝ่ามือไปกลางอากาศในทิศทางที่ผู้อาวุโสเซี่ยงกำลังหลบหนีไป เสียง“ปัง” ดังขึ้นอีกครั้ง ร่างของผู้อาวุโสเซี่ยงระเบิดกลายเป็นละอองเลือดเช่นกัน เมื่อเห็นชายชุดดำใช้เพียงสองฝ่ามือก็จัดการเฝิงไป่จงและผู้อาวุโสเซี่ยจนร่างกลายเป็นละอองเลือด ใบหน้าของฉงชูโม่ก็เต็มไปด้วยความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก นางกำลังจะลุกขึ้นกล่าวขอบคุณ แต่ชายชุดดำกลับโบกมือแล้วกล่าวว่า “ตั้งใจดูดซับพลังจากแก่นแท้พลังให้ดี ของสิ่งนี้หาได้ยาก อย่าให้สูญเปล่า” “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ” ฉงชูโม่กล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ ก่อนจะนั่งลงขัดสมาธิและเริ่มฝึกหมุนเวียนลมปราณ ในขณะนั้นเอง มีเสียงคำรามกึกก้องดังมาจากที่มิไกลนัก ฉงชูโม่สะดุ้งเฮือก มองไปยังทิศทางที่เสียงดังมาด้วยความตกใจ เบื้องหน้านั้นคือหุบเขาเล็ก ๆ ที่ยามนี้ฝูงนกจำนวนมากพากันบินหนีขึ้นฟ้ากันไปอย่างตื่นตระหนก ชายชุดดำหรี่ตาลง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 154

    สายตาคมกริบของชายชุดคลุมสีดำมองลงมาจากที่สูง เมื่อเห็นสวีหลายสู้กับสัตว์ร้ายได้สูสี ชายชุดคลุมสีดำก็ยืนดูด้วยความสนใจอยู่บนยอดไม้ สัตว์ร้ายตัวนั้นดุร้ายอย่างยิ่ง กรงเล็บกวาดผ่านต้นไม้ใหญ่ทีไร ต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้นต่างก็ล้มระเนระนาด แม้จะบุกโจมตีอย่างรุนแรง แต่สวีหลายกลับมีทักษะทางกายที่พริ้วไหว สามารถหลบหลีกการโจมตีของสัตว์ร้ายได้ทุกครั้ง พร้อมกับใช้กระบี่ในมือฟันเข้าใส่ จนทิ้งรอยแผลเป็นเส้นยาวไว้บนตัวสัตว์ร้าย หากมิใช่เพราะหนังของมันทั้งหนาทั้งแข็ง ป่านนี้คงถูกฟันจนเหวอะหวะจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว เมื่อมิสามารถจัดการสวีหลายได้ในทันที สัตว์ร้ายก็เริ่มเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัด มันสูดลมหายใจเข้าลึก หน้าท้องพองโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นมันก็อ้าปากกว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมเต็มปาก ก่อนจะคำรามเสียงดังลั่นออกมา “โฮกกก!!”พลังเสียงอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านเป็นคลื่นแผ่ไปในอากาศ พุ่งเข้าใส่สวีหลายอย่างบ้าคลั่ง สวีหลายยังมีสีหน้าสงบนิ่ง ขยับกระบี่ในมือกวัดแกว่งกลางอากาศอยู่สองสามครั้ง คลื่นเสียงที่พุ่งมากลับถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปลิวผ่านข้างกายของสวีหลาย ก่อนจะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 155

    ในตอนนี้สวีหลายได้จับกระบี่ไว้ในมือของเขาแล้ว และเมื่อหันไปเห็นฉากนี้เขาก็ตกตะลึงทันทีตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน เขาเดินเข้ามาหยุดข้าง ๆ สวีหลายก่อนจะเอ่ยถามว่า “ศิษย์พี่รอง เมื่อครู่นี้ท่านทำได้อย่างไร?” เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจผิด คิดว่ากรงเล็บของสัตว์ร้ายตนนั้นถูกสวีหลายฟันจนขาด สวีหลายส่ายหัวก่อนพูดด้วยสีหน้าหนักใจว่า “มิใช่ฝีมือข้า!” ขณะพูด เขาก็สอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ เพื่อพยายามค้นหาผู้ที่ออกมือช่วยเหลืออยู่ในเงามืดแต่เมื่อสวีหลายกวาดตามองไปทั่วทิศ แต่กลับมิพบร่องรอยของผู้ที่ออกมือช่วยเหลือเลย เห็นสัตว์ร้ายตัวนั้นยังคงแยกเขี้ยวหมายจะกัดอีกครั้ง สวีหลายจึงตวัดกระบี่ยาวในมือ ฟันหัวของมันจนขาดออกจากร่างทันที หลังจากสังหารสัตว์ร้ายไปแล้ว เขาก็เอ่ยขึ้นเสียงดัง “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ออกมือช่วยเหลือ ข้าแซ่สวีผู้นี้รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก หากท่านมิรังเกียจ เชิญแสดงตัวออกมาพูดคุยกันสักคราเถิด” เสียงของเขาเปล่งออกมาด้วยกำลังภายใน มีพลังแผ่ก้องสะท้อนไปทั่วหุบเขา ในระยะไกล ฉงชูโม่ที่กำลังนั่งสมาธิหมุนเวียนลมปราณ เมื่อได้ยินเสียงนี้ นางก็ตื่นเต้นจนลุกขึ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 156

    “รู้สิ เมื่อครู่ข้าก็ถูกสัตว์ร้ายตนนี้เล่นงานอยู่เช่นกัน แถมข้ายังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย โชคดีที่ท่านผู้อาวุโสคนนั้นมาช่วยไว้ หลังจากที่เขาสังหารสัตว์ร้ายไปแล้ว เขาก็มุ่งหน้ามาทางนี้ แปลกจริง ตอนนี้เขาหายไปที่ใดแล้วเล่า?” ฉงชูโม่พูดพลางกวาดสายตาดูรอบ ๆ ด้วยความสงสัย สวีหลายถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “ท่านผู้อาวุโสที่เจ้าพูดถึง เขามีลักษณะเช่นใด?” “เขาสวมหน้ากากแปลก ๆ ข้ามิได้เห็นใบหน้าของเขา แต่เขาสวมชุดคลุมสีดำ จากเสียงของเขาข้าเดาว่าเขาเป็นคนชรา” “ดูท่าว่าเป็นยอดคนเร้นกายจากยุทธภพแล้วจริง ๆ น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีวาสนาได้พบหน้า” คำพูดของสวีหลายเจือไปด้วยความเสียดายเล็กน้อยตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่รอง ที่นี่มิควรอยู่นาน เราออกไปพูดคุยข้างนอกเถอะ” สวีหลายมิตอบ เพียงแค่หมุนตัวเดินออกไปข้างนอกทันที ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรีบตามไปฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหัวเราะพลางตอบ “ข้ามาตามหาเจ้าและองค์รัชทายาทที่หลงโย่วนี่แหละ ขณะข้าเดินผ่านป่าต้นเฟิงข้าได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ป่ามาจากทางนี้ ข้าจึงตามเสียงมาดู คิดมิถึงว่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 157

    "นี่ ๆ งั้นก็ตกลงตามนี้ ถึงยามนั้นข้าจะไปหาท่านที่สำนักกระบี่สักการะ" ฉงชูโม่ถามด้วยความมิสบายใจ "พี่สวี เหตุใดท่านถึงแต่งงานกับบุตรีของสำนักกระบี่สักการะอย่างกะทันหันเช่นนี้ หรือว่ามีเรื่องยากลำบากอะไรอยู่หรือ?" สวีหลายยิ้มเล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ "ข้ากับเสวี่ยเอ๋อร์รักใคร่กันดี ไม่มีเรื่องยากลำบากอะไรเลย นางที่แต่งงานกับข้าต่างหากที่ต้องลำบาก" เมื่อฉงชูโม่ได้ยินเช่นนั้น ในใจของนางรู้สึกว้าวุ่น มีความรู้สึกหลากหลายผสมปนเป นางมิรู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรีบเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นว่า "ชูโม่ พวกเรารีบไปดูองค์รัชทายาทกันเถอะ หากเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ พวกเราคงอธิบายต่อฝ่าบาทมิได้แน่" "อืม" ฉงชูโม่พยักหน้า แล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ฉินซูอยู่ทันที สวีหลายและตู๋กูโฉ่วเยวี่ยตามไปติด ๆ มินานนัก พวกเขาก็มาถึงป่าเต้นเฟิง เสียงของฉินซูดังมาจากยอดไม้ "นี่ ชูโม่ เจ้ากลับมาได้ถูกเวลา รีบมาช่วยข้าที ข้าลงไปมิได้!" เมื่อฉงชูโม่และคนอื่น ๆ มองไปบนต้นไม้ พวกเขาก็อดที่จะหัวเราะออกมามิได้ ภาพที่เห็นคือ ฉินซูกำลังโอบกอดต้นไม้แน่น เสื้อคลุมของเขาพันก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 158

    ใบหน้าของฉงชูโม่แดงระเรื่อ รีบปล่อยมือจากฉินซูทันที ส่วนฉินซูเองก็ลอบถลึงตาใส่ตู๋กูโฉ่วเยวี่อย่างมิพอใจในใจคิดว่า ‘เหตุใดเจ้าต้องมายุ่งเรื่องของข้าด้วย?’เมื่อเห็นท่าทีของฉงชูโม่ที่แปลกไป สวีหลายจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย มองไปที่ฉินซู และเข้าสู่ภวังค์ความคิดหลังจากผ่านไปสองก้านธูป…พวกเขาก็มาถึงโรงเตี๊ยมริมทะเลสาบ เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจึงพูดขึ้นว่า "องค์รัชทายาท ศิษย์พี่รอง เชิญนั่งรอก่อน กระหม่อมจะไปเรียกเจ้าของร้านให้เอาสุราดี ๆ มาสักสองไห" เขาพูดจบก็เดินออกไปข้างนอกสวีหลายยกมือคารวะเล็กน้อยแล้วเตือนฉินซูว่า "องค์รัชทายาท ที่มณฑลหลงโย่วแห่งนี้วุ่นวายมาก ท่านควรรีบกลับไปเสียก่อนที่จะเกิดปัญหา" ฉินซูโบกมืออย่างมิใส่ใจ "มิเป็นไร ข้ามีชูโม่และโฉ่วเยวี่ยอยู่ด้วย ข้าย่อมปลอดภัยแน่นอน แต่เจ้าน่ะ? ชูโม่มาตามหาเจ้าไกลเพียงนี้ เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับนางบ้างหรือ?"สวีหลายยิ้มเบา ๆ และตอบว่า "กระหม่อมกับนางเป็นเพียงสหายกัน องค์รัชทายาททรงอย่าได้เข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูยักไหล่ "ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง แต่เจ้าดูเร่งรีบที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์กับนางเช่นนี้ เจ้าหมายความ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status