แชร์

บทที่ 150

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“รองเจ้าสำนัก หนีเร็ว!”

ผู้อาวุโสสำนักเบญจพิษที่เพิ่งได้สติจากความตกตะลึง รีบตะโกนเสียงดังลั่น

จากนั้นเขาก็หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไปอย่างมิคิดชีวิต

แต่เขายังวิ่งไปได้มิกี่ก้าว สัตว์ร่างยักษ์นั่นก็กระโจนเข้าหาเขาราวภูเขาลูกย่อมถล่มเข้าใส่

เมื่อรู้สึกได้ถึงกระแสลมรุนแรงที่พัดมาจากด้านหลัง ผู้อาวุโสถึงกับตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบหันกลับแล้วโยนผงสีดำไปยังสัตว์ร้ายตัวนั้น

ผงนี้มีกลิ่นเหม็นสาบชวนคลื่นไส้ ชัดเจนว่ามันเต็มไปด้วยพิษร้ายแรง

แต่สัตว์ร้ายกลับอ้าปากกว้าง ดูดผงพิษทั้งหมดเข้าปากด้วยแรงดูดมหาศาลไปในพริบตา

แรงดูดมหาศาลนั้นทำให้ร่างของผู้อาวุโสถึงกับชะงักเล็กน้อย

และในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ สัตว์ร้ายก็เข้าประชิดตัวเขา เปิดปากกว้างก่อนจะงับลงไปอย่างรุนแรง

“กร๊อบ!”

เสียงกระดูกแตกดังขึ้น ผู้อาวุโสสำนักเบญจพิษถูกสัตว์ร้ายกัดจนศีรษะขาดออกจากร่างทันที ร่างไร้ศีรษะของเขาสั่นระริกก่อนจะร่วงลงกับพื้น

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ มิว่าจะเป็นฉงชูโม่ หรือฝั่งเฝิงไป่จงต่างก็สีหน้าด้วยความตกใจ

ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งของสำนักเบญจพิษก็รีบหันหลังแล้ววิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก

เฝิงไป่จงรี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 151

    เขี้ยวเหล็กและอาวุธลับของผู้อาวุโสเซี่ยงพุ่งเข้าใส่ร่างของสัตว์ร้ายอย่างแม่นยำ แต่มิคาดคิดว่า สัตว์ร้ายนั้นมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย และความเร็วของมันก็มิได้ลดลงเลย เฝิงไป่จงตกใจกลัวจนแทบเสียสติ พลางตะโกนใส่ฉงชูโม่ว่า “ยังมัวยืนบื้ออะไรอยู่ หากข้าตาย เจ้าจะเป็นเป้าหมายต่อไปของสัตว์ร้ายตัวนี้” “มิต้องให้เจ้ามาเตือนข้าหรอก” ฉงชูโม่ตอบเบา ๆ ก่อนพุ่งทะยานออกไปราวกับกระสุนปืน ในมือของนางถือกริชเขี้ยวมังกรที่ทอประกายเย็นวาบ หลังจากรวบรวมพลังนางก็พุ่งเข้าแทงสัตว์ร้ายอย่างรุนแรง คมกริชเกือบจะแทงเข้าไปที่ลำคอของสัตว์ร้าย แต่สัตว์ร้ายพลิกตัวหลบได้อย่างมิน่าเชื่อ หลีกเลี่ยงการโจมตีร้ายแรงของฉงชูโม่ไปได้พร้อมกันนั้น มันยังยกกรงเล็บคมกริบขึ้นสูงแล้วฟาดใส่นางอย่างรุนแรง ฉงชูโม่เบิกตากว้าง รีบยกกริชเขี้ยวมังกรขึ้นมาป้องกัน “แกร๊ง!” กรงเล็บของสัตว์ร้ายกระแทกเข้ากับใบมีดของกริช แรงอันมหาศาลนั้นทำให้ฉงชูโม่กระเด็นออกไป นางเซถอยหลังไปสิบกว่าก้าว ก่อนจะพยายามทรงตัวอย่างยากลำบาก ลมปราณในร่างกายของนางปั่นป่วนอย่างควบคุมมิอยู่ สุดท้ายทนมิไหว “อั่ก” กระอักเลือดออกมาเต็มปาก เมื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 152

    ทันทีที่เสียงนั้นสิ้นสุด ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นขวางอยู่ระหว่างฉงชูโม่และสัตว์ร้ายอย่างกะทันหัน “ท่านผู้อาวุโส! เหตุใดถึงเป็นท่าน?!” แม้ว่าฉงชูโม่จะมองมิเห็นใบหน้าของผู้มาใหม่ในเวลานี้ แต่เพียงเห็นเสื้อคลุมสีดำและแผ่นหลังอันสง่างามของเขา นางก็จำได้ทันทีว่าเขาคือบุคคลที่เคยชี้แนะในป่าเมืองอวี๋หางมาก่อน ชายชุดดำมิได้สนใจฉงชูโม่ สายตาเย็นเยียบไร้อารมณ์จ้องมองไปยังสัตว์ร้ายตรงหน้า สัตว์ร้ายดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความมิธรรมดาของชายตรงหน้า มันส่งเสียงครางเบา ๆ อย่างมิสบายใจ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มันกลับค่อย ๆ ถอยหลังกลับไปอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นเช่นนั้น เฝิงไป่จงและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงจนพูดมิออกเมื่อครู่นี้สัตว์ร้ายยังทำท่าทีดุร้ายราวกับจะกลืนกินทุกคน แต่เมื่อเห็นชายชุดดำคนนี้ มันกลับดูขลาดเขลา ยังมิทันจะต่อสู้ มันก็คิดจะหนีเสียแล้ว? ชายชุดดำหัวเราะเย็นชา ก่อนที่ร่างของเขาจะหายวับไปจากที่เดิมในทันทีชั่วพริบตาต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าสัตว์ร้าย! ขนของสัตว์ร้ายตั้งชันทั่วตัว สีหน้าของมันเผยความหวาดกลัวเหมือนมนุษย์ มันคำรามเสียงดัง พร้อมยกกรงเล็บคม

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 153

    กระแสลมรุนแรงโหมกระหน่ำ เฝิงไป่จงถูกกระแสพลังฝ่ามือกระแทกจนร่างระเบิดกลายเป็นละอองเลือด!ผู้อาวุโสเซี่ยงตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง รีบหันหลังวิ่งหนีไปทันทีชายชุดดำมิแม้แต่จะชายตามองเขา และมิได้ไล่ตามด้วย แต่เพียงฟาดฝ่ามือไปกลางอากาศในทิศทางที่ผู้อาวุโสเซี่ยงกำลังหลบหนีไป เสียง“ปัง” ดังขึ้นอีกครั้ง ร่างของผู้อาวุโสเซี่ยงระเบิดกลายเป็นละอองเลือดเช่นกัน เมื่อเห็นชายชุดดำใช้เพียงสองฝ่ามือก็จัดการเฝิงไป่จงและผู้อาวุโสเซี่ยจนร่างกลายเป็นละอองเลือด ใบหน้าของฉงชูโม่ก็เต็มไปด้วยความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก นางกำลังจะลุกขึ้นกล่าวขอบคุณ แต่ชายชุดดำกลับโบกมือแล้วกล่าวว่า “ตั้งใจดูดซับพลังจากแก่นแท้พลังให้ดี ของสิ่งนี้หาได้ยาก อย่าให้สูญเปล่า” “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ” ฉงชูโม่กล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ ก่อนจะนั่งลงขัดสมาธิและเริ่มฝึกหมุนเวียนลมปราณ ในขณะนั้นเอง มีเสียงคำรามกึกก้องดังมาจากที่มิไกลนัก ฉงชูโม่สะดุ้งเฮือก มองไปยังทิศทางที่เสียงดังมาด้วยความตกใจ เบื้องหน้านั้นคือหุบเขาเล็ก ๆ ที่ยามนี้ฝูงนกจำนวนมากพากันบินหนีขึ้นฟ้ากันไปอย่างตื่นตระหนก ชายชุดดำหรี่ตาลง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 154

    สายตาคมกริบของชายชุดคลุมสีดำมองลงมาจากที่สูง เมื่อเห็นสวีหลายสู้กับสัตว์ร้ายได้สูสี ชายชุดคลุมสีดำก็ยืนดูด้วยความสนใจอยู่บนยอดไม้ สัตว์ร้ายตัวนั้นดุร้ายอย่างยิ่ง กรงเล็บกวาดผ่านต้นไม้ใหญ่ทีไร ต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้นต่างก็ล้มระเนระนาด แม้จะบุกโจมตีอย่างรุนแรง แต่สวีหลายกลับมีทักษะทางกายที่พริ้วไหว สามารถหลบหลีกการโจมตีของสัตว์ร้ายได้ทุกครั้ง พร้อมกับใช้กระบี่ในมือฟันเข้าใส่ จนทิ้งรอยแผลเป็นเส้นยาวไว้บนตัวสัตว์ร้าย หากมิใช่เพราะหนังของมันทั้งหนาทั้งแข็ง ป่านนี้คงถูกฟันจนเหวอะหวะจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว เมื่อมิสามารถจัดการสวีหลายได้ในทันที สัตว์ร้ายก็เริ่มเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัด มันสูดลมหายใจเข้าลึก หน้าท้องพองโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นมันก็อ้าปากกว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมเต็มปาก ก่อนจะคำรามเสียงดังลั่นออกมา “โฮกกก!!”พลังเสียงอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านเป็นคลื่นแผ่ไปในอากาศ พุ่งเข้าใส่สวีหลายอย่างบ้าคลั่ง สวีหลายยังมีสีหน้าสงบนิ่ง ขยับกระบี่ในมือกวัดแกว่งกลางอากาศอยู่สองสามครั้ง คลื่นเสียงที่พุ่งมากลับถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปลิวผ่านข้างกายของสวีหลาย ก่อนจะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 155

    ในตอนนี้สวีหลายได้จับกระบี่ไว้ในมือของเขาแล้ว และเมื่อหันไปเห็นฉากนี้เขาก็ตกตะลึงทันทีตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน เขาเดินเข้ามาหยุดข้าง ๆ สวีหลายก่อนจะเอ่ยถามว่า “ศิษย์พี่รอง เมื่อครู่นี้ท่านทำได้อย่างไร?” เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจผิด คิดว่ากรงเล็บของสัตว์ร้ายตนนั้นถูกสวีหลายฟันจนขาด สวีหลายส่ายหัวก่อนพูดด้วยสีหน้าหนักใจว่า “มิใช่ฝีมือข้า!” ขณะพูด เขาก็สอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ เพื่อพยายามค้นหาผู้ที่ออกมือช่วยเหลืออยู่ในเงามืดแต่เมื่อสวีหลายกวาดตามองไปทั่วทิศ แต่กลับมิพบร่องรอยของผู้ที่ออกมือช่วยเหลือเลย เห็นสัตว์ร้ายตัวนั้นยังคงแยกเขี้ยวหมายจะกัดอีกครั้ง สวีหลายจึงตวัดกระบี่ยาวในมือ ฟันหัวของมันจนขาดออกจากร่างทันที หลังจากสังหารสัตว์ร้ายไปแล้ว เขาก็เอ่ยขึ้นเสียงดัง “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ออกมือช่วยเหลือ ข้าแซ่สวีผู้นี้รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก หากท่านมิรังเกียจ เชิญแสดงตัวออกมาพูดคุยกันสักคราเถิด” เสียงของเขาเปล่งออกมาด้วยกำลังภายใน มีพลังแผ่ก้องสะท้อนไปทั่วหุบเขา ในระยะไกล ฉงชูโม่ที่กำลังนั่งสมาธิหมุนเวียนลมปราณ เมื่อได้ยินเสียงนี้ นางก็ตื่นเต้นจนลุกขึ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 156

    “รู้สิ เมื่อครู่ข้าก็ถูกสัตว์ร้ายตนนี้เล่นงานอยู่เช่นกัน แถมข้ายังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย โชคดีที่ท่านผู้อาวุโสคนนั้นมาช่วยไว้ หลังจากที่เขาสังหารสัตว์ร้ายไปแล้ว เขาก็มุ่งหน้ามาทางนี้ แปลกจริง ตอนนี้เขาหายไปที่ใดแล้วเล่า?” ฉงชูโม่พูดพลางกวาดสายตาดูรอบ ๆ ด้วยความสงสัย สวีหลายถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “ท่านผู้อาวุโสที่เจ้าพูดถึง เขามีลักษณะเช่นใด?” “เขาสวมหน้ากากแปลก ๆ ข้ามิได้เห็นใบหน้าของเขา แต่เขาสวมชุดคลุมสีดำ จากเสียงของเขาข้าเดาว่าเขาเป็นคนชรา” “ดูท่าว่าเป็นยอดคนเร้นกายจากยุทธภพแล้วจริง ๆ น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีวาสนาได้พบหน้า” คำพูดของสวีหลายเจือไปด้วยความเสียดายเล็กน้อยตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่รอง ที่นี่มิควรอยู่นาน เราออกไปพูดคุยข้างนอกเถอะ” สวีหลายมิตอบ เพียงแค่หมุนตัวเดินออกไปข้างนอกทันที ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรีบตามไปฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหัวเราะพลางตอบ “ข้ามาตามหาเจ้าและองค์รัชทายาทที่หลงโย่วนี่แหละ ขณะข้าเดินผ่านป่าต้นเฟิงข้าได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ป่ามาจากทางนี้ ข้าจึงตามเสียงมาดู คิดมิถึงว่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 157

    "นี่ ๆ งั้นก็ตกลงตามนี้ ถึงยามนั้นข้าจะไปหาท่านที่สำนักกระบี่สักการะ" ฉงชูโม่ถามด้วยความมิสบายใจ "พี่สวี เหตุใดท่านถึงแต่งงานกับบุตรีของสำนักกระบี่สักการะอย่างกะทันหันเช่นนี้ หรือว่ามีเรื่องยากลำบากอะไรอยู่หรือ?" สวีหลายยิ้มเล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ "ข้ากับเสวี่ยเอ๋อร์รักใคร่กันดี ไม่มีเรื่องยากลำบากอะไรเลย นางที่แต่งงานกับข้าต่างหากที่ต้องลำบาก" เมื่อฉงชูโม่ได้ยินเช่นนั้น ในใจของนางรู้สึกว้าวุ่น มีความรู้สึกหลากหลายผสมปนเป นางมิรู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรีบเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นว่า "ชูโม่ พวกเรารีบไปดูองค์รัชทายาทกันเถอะ หากเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ พวกเราคงอธิบายต่อฝ่าบาทมิได้แน่" "อืม" ฉงชูโม่พยักหน้า แล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ฉินซูอยู่ทันที สวีหลายและตู๋กูโฉ่วเยวี่ยตามไปติด ๆ มินานนัก พวกเขาก็มาถึงป่าเต้นเฟิง เสียงของฉินซูดังมาจากยอดไม้ "นี่ ชูโม่ เจ้ากลับมาได้ถูกเวลา รีบมาช่วยข้าที ข้าลงไปมิได้!" เมื่อฉงชูโม่และคนอื่น ๆ มองไปบนต้นไม้ พวกเขาก็อดที่จะหัวเราะออกมามิได้ ภาพที่เห็นคือ ฉินซูกำลังโอบกอดต้นไม้แน่น เสื้อคลุมของเขาพันก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 158

    ใบหน้าของฉงชูโม่แดงระเรื่อ รีบปล่อยมือจากฉินซูทันที ส่วนฉินซูเองก็ลอบถลึงตาใส่ตู๋กูโฉ่วเยวี่อย่างมิพอใจในใจคิดว่า ‘เหตุใดเจ้าต้องมายุ่งเรื่องของข้าด้วย?’เมื่อเห็นท่าทีของฉงชูโม่ที่แปลกไป สวีหลายจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย มองไปที่ฉินซู และเข้าสู่ภวังค์ความคิดหลังจากผ่านไปสองก้านธูป…พวกเขาก็มาถึงโรงเตี๊ยมริมทะเลสาบ เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจึงพูดขึ้นว่า "องค์รัชทายาท ศิษย์พี่รอง เชิญนั่งรอก่อน กระหม่อมจะไปเรียกเจ้าของร้านให้เอาสุราดี ๆ มาสักสองไห" เขาพูดจบก็เดินออกไปข้างนอกสวีหลายยกมือคารวะเล็กน้อยแล้วเตือนฉินซูว่า "องค์รัชทายาท ที่มณฑลหลงโย่วแห่งนี้วุ่นวายมาก ท่านควรรีบกลับไปเสียก่อนที่จะเกิดปัญหา" ฉินซูโบกมืออย่างมิใส่ใจ "มิเป็นไร ข้ามีชูโม่และโฉ่วเยวี่ยอยู่ด้วย ข้าย่อมปลอดภัยแน่นอน แต่เจ้าน่ะ? ชูโม่มาตามหาเจ้าไกลเพียงนี้ เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับนางบ้างหรือ?"สวีหลายยิ้มเบา ๆ และตอบว่า "กระหม่อมกับนางเป็นเพียงสหายกัน องค์รัชทายาททรงอย่าได้เข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูยักไหล่ "ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง แต่เจ้าดูเร่งรีบที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์กับนางเช่นนี้ เจ้าหมายความ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 544

    หวังฉือกล่าวโดยใช้เหตุผล “ท่านอ๋องซิ่น ข้าน้อยเพียงแต่ขอให้ฝ่าบาทประทานบำเหน็จแก่องค์รัชทายาท มิได้กล่าววาจาดูหมิ่นเบื้องสูงแต่อย่างใดแต่เป็นคำพูดของท่านเมื่อครู่ที่เป็นการยุยง ข้าน้อยเห็นว่าคนที่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายคงเป็นท่านเองมากกว่า!”ฉินหยางชี้ไปที่หวังฉือ มองอย่างโกรธเคือง “หวังฉือ เจ้าหมายความเยี่ยงไร เจ้าว่าข้ากำลังยุแหย่ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จพ่อและองค์รัชทายาทรึ?”“ข้าน้อยมิได้กล่าวเช่นนั้น แต่จริงหรือไม่ ท่านย่อมรู้แก่ใจพ่ะย่ะค่ะ!”คำพูดของหวังฉือ ทำให้ฉินหยางโกรธจัด!เขากล่าวอย่างโกรธเคือง “เสด็จพ่อ หวังฉือเป็นเพียงตุลาการศาลต้าหลี่ แต่กล้าพูดจาสามหาวในท้องพระโรง ซ้ำยังกล่าวหาว่าลูกยุยงปลุกปั่น สร้างความขัดแย้ง ลูกขอเสด็จพ่อโปรดลงโทษเขาสถานหนัก เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋องซิ่น ข้าน้อยเป็นขุนนางขั้นสอง ย่อมมีสิทธิ์ถวายฎีกา แต่ท่านกลับคอยขัดขวาง หรือว่าใครก็ตามที่พูดแทนองค์รัชทายาท ท่านก็จะให้ฝ่าบาทลงโทษสถานหนักหรือ?”เนี่ยหงเองก็สำทับอย่างมิพอใจ “ท่านอ๋องซิ่นช่างมีอำนาจยิ่งนัก คนภายนอกเห็นเข้าคงคิดว่าท่านเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักต้าเหยียน!”“พู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 543

    ในขณะเดียวกันหวังฉือและเนี่ยหงกำลังเดินไปยังพระราชวังในขณะนั้น เสนาธิการหลิวเว่ยแห่งศาลต้าหลี่ก็วิ่งตามมา และกระซิบข้างหูหวังฉือสองสามคำ!หวังฉือถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "จริงหรือ?"หลิวเว่ยพยักหน้าจริงจัง "จริงแท้แน่นอน คนผู้นั้นอยู่ที่ศาลต้าหลี่ของเรา!""ดี! เจ้าดูแลคนผู้นั้นให้ดี เตรียมพร้อมเข้าเฝ้าทุกเมื่อ!!"หลิวเว่ยพยักหน้าแล้วหันหลังจากไปเนี่ยหงที่อยู่ข้าง ๆ ถามด้วยความสงสัย "ใต้เท้าหวัง เกิดกระไรขึ้น?"หวังฉือแสร้งทำเป็นมีลับลมคมใน กล่าวยิ้ม ๆ ว่า "ประเดี๋ยวท่านก็รู้ วันนี้ต้องมีคนเคราะห์ร้ายแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า!"คำพูดของเขาทำให้เนี่ยหงสงสัยมากขึ้นมิว่าเนี่ยหงจะถามอย่างไร หวังฉือก็มิยอมบอกทำให้เนี่ยหงกระวนกระวายใจ มองด้วยสายตาขุ่นเคืองหนึ่งชั่วยามต่อมาพระตำหนักจินหลวนฉินอู๋ต้าวมองไปที่เฉาฉุนข้างกายเฉาฉุนจึงกล่าวเสียงดัง "ประกาศ องค์รัชทายาทเข้าเฝ้า!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ขุนนางทั้งหลายก็มองไปนอกประตูสีหน้าของฉินหงและฉินหยางอึมครึมอย่างมากฉินซูเดินเข้ามาอย่างองอาจ ท่ามกลางสายตาของทุกผู้ทุกนามตอนนั้นเขาสวมชุดมังกรสี่กรงเล็บ สวมกวานทองคำสามง่ามประดับอัญมณี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 542

    เห็นเพียงร่างทั้งสองที่พุ่งเข้ามาดุจลูกธนู แต่เมื่อมาถึงกลางทาง ร่างกายก็แข็งทื่อ ล้มลงมาจากอากาศเมื่อเห็นภาพนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง!เมื่อครู่พลังที่ระเบิดออกมาจากร่างทั้งสองนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งแต่บัดนี้พวกเขากลับล้มลงกับพื้น เกิดอันใดขึ้น?ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของทุกคน ร่างกายของคนทั้งสองก็เริ่มพองตัวอย่างรุนแรง แม้แต่อาภรณ์ก็เริ่มขาดวิ่น!เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็สั่ง “หลบ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกถึงลางร้าย รีบหลบหลังหินก้อนใหญ่ข้างทางหลังจากที่พวกเขาหลบได้ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดัง ‘เปรี้ยง เปรี้ยง’ สองครั้ง!จากนั้นก็มีลมพายุพัดผ่านไป ฝุ่นและหินปลิวว่อนไปทั่วครู่ต่อมา ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็ออกมาจากหลังก้อนหินเห็นเพียงพื้นดินที่คนทั้งสองอยู่เมื่อครู่ ถูกระเบิดเป็นหลุมสองหลุมรอบ ๆ หลุมเต็มไปด้วยเศษเนื้อและแขนขา น่าสยดสยองถานเหวยและคนอื่น ๆ ที่มิเคยเห็นความโหดร้ายของสงคราม ก็พลันท้องไส้ปั่นป่วนและอาเจียนมิหยุดตงฟางโซ่วพึมพำอย่างเหลือเชื่อ "เมื่อครู่สองคนนั้นระเบิดตัวเองหรือ?!""วิธีการตายน่าสยดสยองเช่นนี้ ข้าเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก พวก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 541

    “ท่านฝึกฝนจนถึงขั้นได้ยอดฝีมือระดับสวรรค์แล้วหรือเพคะ?”ฉินอู๋ฉางกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ถึงแม้จะพึ่งโอสถ แต่พลังของพวกเขาก็อยู่ในระดับสวรรค์จริง ๆ น่าเสียดายที่ฤทธิ์ยามิค่อยเสถียรนัก”“โอสถที่ถึงกับเพิ่มพลังถึงระดับสวรรค์ได้ ท่านได้มาจากที่ใดกัน?”เสียนเฟยตกใจมาก แม้นางจะมิเข้าใจวรยุทธ์ แต่ก็รู้ว่าระดับสวรรค์นั้นน่ากลัวเพียงใดฉินอู๋ฉางกล่าวอย่างภาคภูมิ “แน่นอนว่ามาจากเงื้อมมือของปราชญ์โอสถแห่งหุบเขาเทพโอสถ!”“ว่ากระไรนะ?! เทพโอสถก็อยู่ที่นี่กับท่านงั้นหรือ?”“ถูกต้อง ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน เขาก็ถูกข้าจับตัวมาปรุงยาเพิ่มพลังยุทธ์ให้กับข้าลับ ๆ”เสียนเฟยจึงเอ่ยพึมพำ “มิน่า ที่งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทฮองไทเฮา เทพโอสถจึงมิปรากฏตัว เมื่อต้นปีเขาเคยบอกว่าจะถวายโอสถอายุวัฒนะแก่ฝ่าบาทในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของไทฮองไทเฮา ต่อมาฝ่าบาทส่งคนไปตามหาเขาก็หาได้มีข่าวคราวไม่ นึกมิถึงว่าจะถูกท่านจับตัวไว้!”“หึ ในใต้หล้านี้มีโอสถอายุวัฒนะเสียที่ไหน ข้าว่าฉินอู๋ต้าวเป็นจักรพรรดิจนสมองเลอะเลือนไปแล้ว เมื่อข้าฝึกฝนยอดฝีมือระดับสวรรค์ได้มากพอ ข้าจะบุกเข้าวัง บีบให้ฉินอู๋ต้าวสละราชสมบัติ!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 540

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ฉางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พลันมองไปที่นอกประตูเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใคร เขาก็กระซิบตำหนิ "เจ้าอยากจะฆ่าพวกเราหรือไร บอกเจ้ากี่ครั้งกี่หนแล้ว อย่าเอ่ยเรื่องนี้ออกมา!"เสียนเฟยสะอื้นไห้ สีหน้าเศร้าสร้อยเมื่อเห็นดังนั้น ฉินอู๋ฉางก็ถอนหายใจเบา ๆ ดึงนางเข้ามาสวมกอดเสียนเฟยซบไหล่เขา ร้องไห้หนักกว่าเดิมฉินอู๋ฉางปลอบโยนสองสามคำ แล้วถามว่า "เจ้ายอมเสี่ยงโดนฝ่าบาทจับได้เพื่อมาถึงที่นี่ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเซียวเอ๋อร์หรือ?""เขาถูกฝ่าบาทสั่งขังในคุกหลวง..."นางพูดยังมิทันจบ ฉินอู๋ฉางก็อุทาน "ว่ากระไรนะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่!"เสียนเฟยก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังหลังจากฟังนางเล่า ฉินอู๋ฉางก็ขมวดคิ้ว"ไฉนเซียวเอ๋อร์จึงได้โง่เขลาเช่นนี้ เขียนจดหมายถึงหัวหน้าชนเผ่าโครยอ เนื้อความในจดหมายยังบอกให้ลงมือกำจัดองค์รัชทายาท ซ้ำยังให้สัญญาว่าเมื่อขึ้นครองราชย์จะยกเมืองให้เขาเพื่อกอบกู้บ้านเมือง เขามิรู้หรือว่านี่เป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นถูกประหารชีวิต!!""แล้วเจ้ายังคิดแผนกระไรเช่นนี้ ให้คนเลียนแบบลายมือของเซียวเอ๋อร์ เขียนถ้อยคำหมิ่นเบื้องสูง เจ้าคิดว่านี่จะหลอก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 539

    หลังจากมองอีกฝ่ายเดินออกไปจนลับสายตา สีหน้าของเสียนเฟยก็แปรปรวนนางมิคิดว่าฉินอู๋ต้าวจะสงสัย นี่มิใช่ลางดีนางครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็เผยสีหน้าเด็ดเดี่ยว!จากนั้นนางจึงกระซิบกับนางรับใช้ข้างกาย "ข้าจะออกจากวัง เจ้ารีบจัดการให้ข้าที!""บ่าวจะไปจัดการให้เพคะ พระสนมโปรดคอยสักครู่"นางรับใช้คำนับแล้วรีบเดินออกไปเสียนเฟยถอดชุดคลุมหงส์ออก และเปลี่ยนเป็นชุดนางกำนัลประมาณครึ่งชั่วยามต่อมาขันทีน้อยหลายคนก็แบกเกี้ยวมาที่หน้าประตูวังองครักษ์ที่เฝ้าประตูเห็นดังนั้นก็ยื่นมือออกมาขวาง"ท่านขันที ผู้ใดอยู่ในเกี้ยวหรือ?""เรียนรองหัวหน้าองครักษ์เฉิน ในเกี้ยวคือนางกำนัลคนสนิทของพระสนมเสียนเฟย นางมีธุระที่บ้าน พระสนมเสียนเฟยประทานอนุญาตให้นางออกจากวัง นี่คือป้ายประจำพระองค์ของพระสนมเสียนเฟย ขอรองหัวหน้าองครักษ์เฉินอำนวยความสะดวกด้วย"ขันทีน้อยคนหนึ่งพูดพลางยื่นป้ายประจำตัวของเสียนเฟยให้พร้อมกันนั้นก็ยัดเงินเล็กน้อยใส่มืออีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบองครักษ์มองดูแล้วก็เข้าใจความหมาย กล่าวว่า "เปิดม่านเกี้ยว ข้าจะตรวจตามระเบียบ""ขอรับ!"ขันทีน้อยเปิดม่านเกี้ยว ฝ่ายองครักษ์ก็มองเข้าไปพอเป็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 538

    หวังฉือกล่าวด้วยความเคร่งขรึม "ข้ารู้สึกว่ามันผิดปกติไปหมดทุกอย่าง หากจดหมายเป็นของอ๋องหนิงจริง เหตุใดเขาจึงส่งจดหมายให้ข้ากับท่าน อีกทั้งยังให้เผยหยวนถวายฎีกาถอดถอนเขาต่อหน้าธารกำนัลอีก เขาทำเช่นนี้ก็เท่ากับขุดหลุมฝังตัวเอง!"เนี่ยหงเองก็คิดมิตกเช่นกัน จึงกล่าวพึมพำ "หรือว่า… มีผู้อื่นใส่ร้ายอ๋องหนิง?"หวังฉือส่ายหน้าเล็กน้อย "ไม่มีทาง อ๋องหนิงเข้ากับคนในราชสำนักได้ทุกฝ่าย ไฉนจึงมีคนใส่ร้ายเขาเล่า"เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของหวังฉือก็มืดครึ้มลง กล่าวอย่างเคร่งขรึม "หรือว่านี่จะเป็นกับดักที่อ๋องหนิงสร้างขึ้นเอง เพื่อลากองค์รัชทายาทลงมาด้วย!"เนี่ยหงถามด้วยความสงสัย "ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?"หวังฉืออธิบาย "ข้าก็พูดมิถูก แต่ข้ารู้สึกว่าจุดประสงค์ของอ๋องหนิงต้องเกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน"เนี่ยหงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าช้า ๆ"หากท่านพูดเช่นนี้ ข้าก็เห็นว่ามีความเป็นไปได้ เพราะช่วงนี้อ๋องหนิงเสียท่าต่อองค์รัชทายาทหลายครั้งหลายครา คนที่เขาอยากจะแก้แค้นมากที่สุดก็คือองค์รัชทายาท""น่าเสียดายที่ยามนี้พวกเรายังมิรู้ว่าอ๋องหนิงจะทำการใดต่อไป ได้แต่คอยจับตาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 537

    ฉินอู๋ต้าวเปรียบเทียบจดหมายทั้งสองฉบับอย่างละเอียดแล้วโมโหหนัก!"อ๋องหนิงเอ๋ย กล้ามากที่พูดจาบจ้วงเช่นนี้ เฉาฉุน เรียกฉินเซียวเข้าวัง ข้าจะถามเขาต่อหน้าเอง!""รับพระบัญชา เรียกอ๋องหนิงเข้าเฝ้า!"หนึ่งชั่วยามต่อมาฉินเซียวก็เดินมาถึงเขากำลังจะคุกเข่าทำความเคารพ ฉินอู๋ต้าวก็ขยำจดหมายในมือแล้วปาใส่เขา"ลูกทรพี! เจ้ากล้าดีอย่างไรมาวิจารณ์ข้า เจ้าคงปีกกล้าขาแข็งมากขึ้นแล้วงั้นสิ!"ฉินเซียวแสร้งทำเป็นตกใจ จากนั้นก็เปิดจดหมายอ่าน ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทางบริสุทธิ์ใจ "เสด็จพ่อ ลูกมิผิด ลูกมิได้เขียนจดหมายนี้พ่ะย่ะค่ะ""หึ ๆ ท่านอ๋องหนิง ถึงตอนนี้ท่านยังจะปฏิเสธอีกหรือ? ข้าน้อยจำลายมือของท่านได้แม่นยำ อีกทั้งยังมีจดหมายของท่านเป็นหลักฐาน ท่านจะแก้ตัวกระไรอีก!""ใต้เท้าเผย ข้ากับเจ้าถือเป็นสหายสนิทชิดเชื้อ ไฉนเจ้าจึงใส่ร้ายข้าเช่นนี้เล่า..."ก่อนที่ฉินเซียวจะพูดจบ เผยหยวนก็กล่าวด้วยโทสะ "ก่อนหน้านี้ข้าน้อยดวงตามืดบอด จึงได้คบกับคนอกตัญญูเช่นท่าน""ก่อนหน้านี้เคยได้ยินท่านพูดถึงความผิดของฝ่าบาท ตอนนั้นข้าน้อยยังคิดว่าท่านเมาแล้วพูดจาเลอะเทอะ แต่คิดมิถึงว่าท่านจะบ้าคลั่งถึงขนาดนำคำพูดเหล่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 536

    หวังฉือกล่าวด้วยความจริงจัง "ข้ากังวลว่า หลังจากที่องค์รัชทายาทเสด็จกลับมา องค์จักรพรรดิจะทรงกดดันพระองค์หนักขึ้น!"เนี่ยหงโบกมือ "พูดตอนนี้ยังเร็วเกินไป บางทีช่วงนี้องค์รัชทายาทอาจจะสร้างความดีความชอบมากมาย จนองค์จักรพรรดิทรงพอพระทัยแล้วก็เป็นได้!""ที่พูดก็มีเหตุผล เอาเถิด คอยดูว่าองค์จักรพรรดิจะทรงมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากที่องค์รัชทายาทเสด็จกลับมา"......ในขณะเดียวกันภายในจวนอ๋องหนิงฉินเซียวถามองครักษ์ข้างกาย "อวี๋เฟิงไปไหน เหตุใดยังมิกลับมา?"องครักษ์กล่าวอย่างนอบน้อม "ทูลท่านอ๋องหนิง อวี๋เฟิงลาพักผ่อนสองสามวัน บอกว่ามีธุระกลับบ้านเกิด ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว เกรงว่าเขาจะกลับไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นหรือ แล้วตอนนี้ข้างนอกมีความเคลื่อนไหวใดบ้าง?""ทูลท่านอ๋องหนิง บ่ายวันนี้ ถ้อยคำหมิ่นเบื้องสูงแพร่กระจายไปทั่วโรงเหล้า โรงน้ำชา บัดนี้ทุกที่ที่ผู้คนพลุกพล่านในหลงเฉิง ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ"ฉินเซียวเผยรอยยิ้มอย่างผู้มีชัย "ดีมาก กลยุทธ์ของหมู่เฟยนั้นช่างเยี่ยมยอด ทำเช่นนี้ จดหมายขององค์รัชทายาทก็เป็นเพียงเศษกระดาษ มิอาจเป็นภัยต่อข้าได้อีก!"พูดจบก็สั่งองครักษ์ "เจ้าจงไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status