แชร์

บทที่ 155

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ในตอนนี้สวีหลายได้จับกระบี่ไว้ในมือของเขาแล้ว และเมื่อหันไปเห็นฉากนี้เขาก็ตกตะลึงทันที

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน เขาเดินเข้ามาหยุดข้าง ๆ สวีหลายก่อนจะเอ่ยถามว่า “ศิษย์พี่รอง เมื่อครู่นี้ท่านทำได้อย่างไร?”

เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจผิด คิดว่ากรงเล็บของสัตว์ร้ายตนนั้นถูกสวีหลายฟันจนขาด

สวีหลายส่ายหัวก่อนพูดด้วยสีหน้าหนักใจว่า “มิใช่ฝีมือข้า!”

ขณะพูด เขาก็สอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ เพื่อพยายามค้นหาผู้ที่ออกมือช่วยเหลืออยู่ในเงามืด

แต่เมื่อสวีหลายกวาดตามองไปทั่วทิศ แต่กลับมิพบร่องรอยของผู้ที่ออกมือช่วยเหลือเลย

เห็นสัตว์ร้ายตัวนั้นยังคงแยกเขี้ยวหมายจะกัดอีกครั้ง สวีหลายจึงตวัดกระบี่ยาวในมือ ฟันหัวของมันจนขาดออกจากร่างทันที

หลังจากสังหารสัตว์ร้ายไปแล้ว เขาก็เอ่ยขึ้นเสียงดัง “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ออกมือช่วยเหลือ ข้าแซ่สวีผู้นี้รู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก หากท่านมิรังเกียจ เชิญแสดงตัวออกมาพูดคุยกันสักคราเถิด”

เสียงของเขาเปล่งออกมาด้วยกำลังภายใน มีพลังแผ่ก้องสะท้อนไปทั่วหุบเขา

ในระยะไกล ฉงชูโม่ที่กำลังนั่งสมาธิหมุนเวียนลมปราณ เมื่อได้ยินเสียงนี้ นางก็ตื่นเต้นจนลุกขึ้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 156

    “รู้สิ เมื่อครู่ข้าก็ถูกสัตว์ร้ายตนนี้เล่นงานอยู่เช่นกัน แถมข้ายังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย โชคดีที่ท่านผู้อาวุโสคนนั้นมาช่วยไว้ หลังจากที่เขาสังหารสัตว์ร้ายไปแล้ว เขาก็มุ่งหน้ามาทางนี้ แปลกจริง ตอนนี้เขาหายไปที่ใดแล้วเล่า?” ฉงชูโม่พูดพลางกวาดสายตาดูรอบ ๆ ด้วยความสงสัย สวีหลายถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “ท่านผู้อาวุโสที่เจ้าพูดถึง เขามีลักษณะเช่นใด?” “เขาสวมหน้ากากแปลก ๆ ข้ามิได้เห็นใบหน้าของเขา แต่เขาสวมชุดคลุมสีดำ จากเสียงของเขาข้าเดาว่าเขาเป็นคนชรา” “ดูท่าว่าเป็นยอดคนเร้นกายจากยุทธภพแล้วจริง ๆ น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีวาสนาได้พบหน้า” คำพูดของสวีหลายเจือไปด้วยความเสียดายเล็กน้อยตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่รอง ที่นี่มิควรอยู่นาน เราออกไปพูดคุยข้างนอกเถอะ” สวีหลายมิตอบ เพียงแค่หมุนตัวเดินออกไปข้างนอกทันที ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรีบตามไปฉงชูโม่ขมวดคิ้วถาม “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหัวเราะพลางตอบ “ข้ามาตามหาเจ้าและองค์รัชทายาทที่หลงโย่วนี่แหละ ขณะข้าเดินผ่านป่าต้นเฟิงข้าได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ป่ามาจากทางนี้ ข้าจึงตามเสียงมาดู คิดมิถึงว่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 157

    "นี่ ๆ งั้นก็ตกลงตามนี้ ถึงยามนั้นข้าจะไปหาท่านที่สำนักกระบี่สักการะ" ฉงชูโม่ถามด้วยความมิสบายใจ "พี่สวี เหตุใดท่านถึงแต่งงานกับบุตรีของสำนักกระบี่สักการะอย่างกะทันหันเช่นนี้ หรือว่ามีเรื่องยากลำบากอะไรอยู่หรือ?" สวีหลายยิ้มเล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ "ข้ากับเสวี่ยเอ๋อร์รักใคร่กันดี ไม่มีเรื่องยากลำบากอะไรเลย นางที่แต่งงานกับข้าต่างหากที่ต้องลำบาก" เมื่อฉงชูโม่ได้ยินเช่นนั้น ในใจของนางรู้สึกว้าวุ่น มีความรู้สึกหลากหลายผสมปนเป นางมิรู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรีบเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นว่า "ชูโม่ พวกเรารีบไปดูองค์รัชทายาทกันเถอะ หากเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ พวกเราคงอธิบายต่อฝ่าบาทมิได้แน่" "อืม" ฉงชูโม่พยักหน้า แล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ฉินซูอยู่ทันที สวีหลายและตู๋กูโฉ่วเยวี่ยตามไปติด ๆ มินานนัก พวกเขาก็มาถึงป่าเต้นเฟิง เสียงของฉินซูดังมาจากยอดไม้ "นี่ ชูโม่ เจ้ากลับมาได้ถูกเวลา รีบมาช่วยข้าที ข้าลงไปมิได้!" เมื่อฉงชูโม่และคนอื่น ๆ มองไปบนต้นไม้ พวกเขาก็อดที่จะหัวเราะออกมามิได้ ภาพที่เห็นคือ ฉินซูกำลังโอบกอดต้นไม้แน่น เสื้อคลุมของเขาพันก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 158

    ใบหน้าของฉงชูโม่แดงระเรื่อ รีบปล่อยมือจากฉินซูทันที ส่วนฉินซูเองก็ลอบถลึงตาใส่ตู๋กูโฉ่วเยวี่อย่างมิพอใจในใจคิดว่า ‘เหตุใดเจ้าต้องมายุ่งเรื่องของข้าด้วย?’เมื่อเห็นท่าทีของฉงชูโม่ที่แปลกไป สวีหลายจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย มองไปที่ฉินซู และเข้าสู่ภวังค์ความคิดหลังจากผ่านไปสองก้านธูป…พวกเขาก็มาถึงโรงเตี๊ยมริมทะเลสาบ เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจึงพูดขึ้นว่า "องค์รัชทายาท ศิษย์พี่รอง เชิญนั่งรอก่อน กระหม่อมจะไปเรียกเจ้าของร้านให้เอาสุราดี ๆ มาสักสองไห" เขาพูดจบก็เดินออกไปข้างนอกสวีหลายยกมือคารวะเล็กน้อยแล้วเตือนฉินซูว่า "องค์รัชทายาท ที่มณฑลหลงโย่วแห่งนี้วุ่นวายมาก ท่านควรรีบกลับไปเสียก่อนที่จะเกิดปัญหา" ฉินซูโบกมืออย่างมิใส่ใจ "มิเป็นไร ข้ามีชูโม่และโฉ่วเยวี่ยอยู่ด้วย ข้าย่อมปลอดภัยแน่นอน แต่เจ้าน่ะ? ชูโม่มาตามหาเจ้าไกลเพียงนี้ เจ้าไม่มีอะไรจะพูดกับนางบ้างหรือ?"สวีหลายยิ้มเบา ๆ และตอบว่า "กระหม่อมกับนางเป็นเพียงสหายกัน องค์รัชทายาททรงอย่าได้เข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูยักไหล่ "ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง แต่เจ้าดูเร่งรีบที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์กับนางเช่นนี้ เจ้าหมายความ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 159

    แน่นอนว่า เรื่องที่คลุมเครือและเหตุการณ์ที่ฉินซูฉวยโอกาสใกล้ชิด ฉงชูโม่ก็ละเลยมิได้เล่าถึง ขณะที่ฉงชูโม่เล่า ใบหน้าของนางก็เผยรอยยิ้มออกมาโดยมิรู้ตัวเมื่อสวีหลายเห็นเช่นนั้น เขายิ้มบาง ๆ พร้อมพูดเป็นนัยว่า "ดูท่าองค์รัชทายาทจะมิใช่คนเสเพลอย่างที่เล่าลือกันไว้ แถมพระองค์ยังดูจะดีต่อเจ้ามิน้อยเลย""ดีตรงไหนกัน เขาทำทุกอย่างก็เพื่อหวังผลประโยชน์ทั้งนั้น ข้าขี้เกียจจะพูดถึงเขาแล้ว"แม้ปากของฉงชูโม่จะกล่าวด้วยท่าทีมิไยดี แต่เมื่อพูดถึงฉินซู มุมปากของนางกลับยกขึ้นโดยมิรู้ตัว สวีหลายได้แต่ยิ้มส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนไปพูดคุยเรื่องทั่วไปกับนางในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น ฉินซูก็กลับเข้ามาจากข้างนอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนหน้านี้ เขาออกไปสูดอากาศแล้วพบว่า ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยแอบใส่บางอย่างลงในไหเหล้าเล็ก ๆ ไหหนึ่ง!ทำให้ฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยทำเช่นนี้ด้วยจุดประสงค์อะไร หรือว่า ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยถูกน้องชายคนหนึ่งของเขาซื้อตัวไปแล้ว?คิดเช่นนี้ ฉินซูจึงเกิดความสงสัยและในดวงตา แฝงแววอาฆาตเขาตัดสินใจแล้วว่า หากตู๋กูโฉ่วเยวี่ยคิดจะลงมือกับเขาจริง ๆ ก็อย่าหาว่าเขาไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 160

    ก่อนที่ฉินซูจะพูดจบ ฉงชูโม่ก็ยื่นมือมาหยิกเนื้อส่วนเกินที่เอวของเขาอย่างแรง“โอ๊ยยย!!”ฉินซูร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เสียงเหมือนหมูกำลังถูกเชือด พลางลูบจุดที่ถูกหยิกเนื้อพร้อมกับถามด้วยสีหน้าบูดเบี้ยวว่า “เจ้ามาหยิกข้าด้วยเหตุใดเล่า?”ฉงชูโม่ยกกำปั้นเล็ก ๆ อย่างโอหัง “หากกล้าพูดเหลวไหลอีก หม่อมฉันจะซัดท่านแน่ จะเชื่อหรือไม่ก็ลองดู!” “ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาทเชียวนะ...” ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ ฉงชูโม่ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ฮึ! แค่องค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด อีกอย่าง อย่าลืมสิว่าหม่อมฉันได้รับพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษ หากหม่อมฉันจะตีท่าน หม่อมฉันมิต้องรับผิดชอบอะไรเลยด้วยซ้ำ”ฉินซูใบหน้าเง้างอถมึงทึง ก่อนเอ่ยอย่างจนใจว่า “ก็ได้ ข้ายอมเจ้าก็แล้วกัน” เขาหันไปทางตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพร้อมกับยักไหล่ แสดงให้เห็นว่าเขาทำอะไรมิได้ ส่วนตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็ได้แต่ยิ้มอย่างจนใจจากนั้น พวกเขาก็เริ่มกินดื่มและพูดคุยกันไปอย่างผ่อนคลายมินานนัก สวีหลายก็ดื่มเหล้าในไหเล็กนั้นจนหมด เขามองไหในมือแล้วกล่าวอย่างอาลัยอาวรณ์ “มิเสียทีที่เป็นสุราสลักบุปผาอายุหลายปีของหอสุราอมตะ แม้จะใส่ยาสลายพลังลงไป แ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 161

    อีกฝ่ายมิปฏิเสธประโยคหลังและพูดเสียงเรียบ “หลายปีมานี้ข้าพยายามครุ่นคิดอย่างหนัก ในที่สุดก็พบวิธีฝึกฝนที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองต่อไปได้”ฉงชูโม่ถามด้วยความประหลาดใจ “จริงหรือ? ในเมื่อความแข็งแกร่งของท่านเทียบได้กับระดับสวรรค์ขั้นต้นแล้ว นั่นหมายความว่าใช้เวลาอีกมินานท่านก็จะแข็งแกร่งเทียบเท่าหัวหน้าโหรหลวงตาแก่ตายยากผู้นั้น?”ในภาพจำของฉงชูโม่ คุณสมบัติของสวีหลายนั้นโดดเด่นยากหาใครเปรียบ หากมิใช่เพราะการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในตระกูลสวี อีกทั้งเขายังถูกไล่ออกจากสำนักหอดูดาวหลวงและถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวง ตอนนี้เขาคงได้ขึ้นไปอยู่ระดับสวรรค์ขั้นปลายซึ่งเป็นระดับสูงสุดแล้วสวีหลายโบกมือแล้วพูดว่า “ทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เส้นทางการฝึกฝนในตอนนี้ของข้าเป็นไปอย่างเชื่องช้ายิ่งนัก แต่โชคดีที่ไม่มีความขัดแย้งกับวิชายุทธที่ข้าเคยฝึกฝนมาก่อน”ฉงชูโม่พูดด้วยความเสียใจ “พี่สวี ท่านควรบอกเรื่องนี้กับข้าให้เร็วกว่านี้สิ หากข้ารู้มาก่อน ข้าคงจะขอร้องผู้อาวุโสท่านนั้นแก้ไขวิชายุทธที่มิสมบูรณ์ให้ท่าน”“โอ้? ผู้อาวุโสท่านนั้นที่เจ้าพูดถึงคือคนที่แอบช่วยข้าสังหา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 162

    ฉงชูโม่ถามด้วยความสับสน “มีเรื่องอันใดอีกหรือเพคะ?”“หูเฟิงกับคนจากสำนักเบญจพิษสมคบคิดกัน ดังนั้นแน่นอนว่าเราต้องจัดการกับเขาก่อน”“อ้อ ใช่สิ หม่อมฉันลืมไปเลย”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยแค่นเสียงเย็นอย่างขุ่นเคือง “หึ ขุนนางชั่วช้าผู้นั้นบังอาจสมรู้ร่วมคิดกับสำนักในยุทธภพ และตั้งใจที่จะปลงพระชนม์องค์รัชทายาท กระบี่แห่งสำนักหอดูดาวหลวงเล่มนี้ของข้าได้รับการออกแบบมาเพื่อสังหารขุนนางชั่วผู้ทรยศโดยเฉพาะ”ฉงชูโม่พูดด้วยความโกรธ “เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลกันเถิด!”กลุ่มของพวกเขาออกจากโรงเตี๊ยมและมุ่งหน้าไปยังจวนผู้ว่าการมณฑล……ณ จวนผู้ว่าการมณฑลหูเฟิงกำลังดื่มชาและฮัมทำนองดนตรีอย่างมีความสุขหูก่วงเผิงถามอย่างมิสบายใจ “ท่านพ่อ คนจากสำนักเบญจพิษเหล่านั้นเชื่อถือได้หรือไม่? พวกเขาจะสามารถจัดการกับฉินซูองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดได้จริงหรือ?”“วางใจเถิด พิษของสำนักเบญจพิษนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในต้าเหยียนของเรา รองเจ้าสำนักเฝิงลงมือด้วยตัวเองเช่นนี้ ไม่มีทางที่องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดจะรอดไปได้”“เช่นนั้นก็ดี แต่หลังจากที่ฉินซูตายไป ก็มิรู้ว่าฝ่าบาทจะทรงแต่งตั้งให้องค์ชายองค์ใดเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 163

    “ถูกใส่ร้าย? หึ เจ้าหาข้ออ้างพาข้าออกจากเมือง แล้วคนจากสำนักเบญจพิษก็บังเอิญมาซุ่มโจมตีข้าในป่านอกเมือง ทุกอย่างชัดเจนเพียงนี้ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงบอกว่าตนถูกใส่ร้าย?”หูเฟิงพูดแก้ต่างด้วยความเสียใจ “องค์รัชทายาท นี่… นี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ กระหม่อมมิรู้จริง ๆ ว่าคนจากสำนักเบญจพิษทั้งห้าจะพำนักอยู่ในป่า หากรู้มาก่อน ต่อให้มอบความกล้าอีกร้อยเท่า กระหม่อมก็มิกล้าที่จะทำให้องค์รัชทายาทต้องตกอยู่ในอันตรายพ่ะย่ะค่ะ”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยตำหนิด้วยความโกรธ “หัวจะหลุดออกจากบ่าอยู่แล้วก็ยังมิยอมรับ คนจากสำนักเบญจพิษได้สารภาพแล้ว หากเจ้าสารภาพตามความเป็นจริง ทางสำนักหอดูดาวหลวงสามารถลดโทษคนในตระกูลของเจ้าได้ ทว่าหากปฏิเสธที่จะสารภาพ คดีก็จะถูกส่งกลับไปยังราชสำนัก ถึงตอนนั้นเจ้าก็รอโทษตัดหัวประหารเก้าชั่วโคตรได้เลย!”ใบหน้าของหูเฟิงซีดลงทันที เขาทรุดลงกับพื้น เหงื่อเย็นปกคลุมอยู่ทั่วหน้าผากของตนหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถามว่า “องค์รัชทายาท หากกระหม่อมรับสารภาพ ท่านจะปล่อยคนในครอบครัวของกระหม่อมไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ฉินซูยิ้มเยาะ “เจ้าคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอที่จะเจรจาต่อรองกับข้ารึ? ถึงแ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 530

    'ฉึก!'เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เข่าซ้ายของคนชุดดำถูกปราณดัชนีของฉินซูเจาะทะลุเลือดสีแดงสดพุ่งออกมา!และคนชุดดำก็เสียหลักทรุดลงไปสีหน้าเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ตะลึงจนพูดมิออก!หลังจากตั้งสติได้ เขาก็กระแทกฝ่ามือลงบนพื้น ร่างก็พุ่งออกไป!เขางอนิ้วทั้งสิบ มือทั้งสองราวกับกรงเล็บอินทรี จิกเข้าที่คอของฉินซูอย่างแรงด้วยปราณบริสุทธิ์อันแข็งแกร่ง นิ้วทั้งสิบของเขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเหล็กกล้า!"แมลงหวังโค่นต้นไม้ใหญ่ มิเจียมตัว!"ฉินซูหัวเราะเยาะ ยื่นมือออกไป จับข้อมือของคนชุดดำไว้ได้อย่างรวดเร็วจากนั้นก็ออกแรงอย่างรุนแรง!'กร๊อบ กร๊อบ!'หลังจากเสียงดังกรอบแกรบสองครั้ง กระดูกข้อมือของคนชุดดำก็แตก!กระดูกแหลมคมแทงทะลุเนื้อออกมา น่าขนลุกขนพอง"อ๊าก! มือข้า!!"คนชุดดำร้องโหยหวน หลังจากตั้งสติได้ เขาก็พูดด้วยเสียงสั่นเครือ "ท่าน ท่านเป็นผู้มีพลังระดับสวรรค์จริง ๆ!"เหตุผลที่เขาพูดเช่นนี้เป็นเพราะเขาเองเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับปฐพีขั้นสูงสุดพลังระดับนี้ แต่กลับไร้แรงต่อต้านเมื่อเผชิญหน้ากับฉินซู นี่แสดงให้เห็นว่า พลังของฉินซูแข็งแกร่งกว่าระดับปฐพี นั่นก็คือระดับสวรรค์

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 529

    ในขณะนั้นเสียงของฉินซูก็ดังมาจากป่าข้าง ๆ"ไว้ชีวิต!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดาบที่พวกตงฟางโซ่วสองคนฟันลงมาครึ่งทางก็หยุดชะงักคนชุดดำทั้งสองก็ตกใจจนเหงื่อเย็นเยียบไหลรินออกมา ราวกับได้เดินผ่านประตูนรกสวีเซี่ยงเฉียนพูดกับตงฟางโซ่ว "เจ้าเฝ้าพวกมันไว้ ข้าจะไปช่วยองค์รัชทายาท!""มิต้อง องค์รัชทายาทมียอดฝีมือช่วยเหลืออยู่ วรยุทธ์ของเราเข้าไปก็มีแต่จะสร้างความวุ่นวายเปล่า ๆ คอยคุ้มครองพวกใต้เท้าเซี่ยเถิด""ก็ได้ ข้าอยากจะเห็นเหมือนกันว่า ใครกันที่บังอาจลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท!"สวีเซี่ยงเฉียนพูดจบ ก็เอื้อมมือไปดึงผ้าปิดหน้าของคนชุดดำทั้งสองออกและได้เห็นว่าคนทั้งสองมีใบหน้าขาวสะอาด ไม่มีหนวดเครา ลักษณะอ้อนแอ้นเหมือนสตรีเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของคนทั้งสอง สวีเซี่ยงเฉียนก็ชะงักไปเขายื่นมือไปจับที่เป้าของคนทั้งสอง จากนั้นก็อุทาน "ให้ตายสิ พวกเจ้าเป็นขันทีจากสำนักขันทีฝ่ายพิธีการ!!"เมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าคนทั้งสองคุ้นหน้ามาก รู้สึกเหมือนเคยเจอที่ใดมาก่อนยามนี้เมื่อรู้ว่าคนทั้งสองเป็นขันที เขาก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าเคยเจอพวกเขาที่สำนักขันทีฝ่ายพิธีการขันทีจากสำนักขันทีฝ่ายพิธีการก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 528

    "น้องสอง สวีเซี่ยงเฉียน พวกเจ้าสองคนอยู่คุ้มครององค์รัชทายาทและพวกใต้เท้าถาน ส่วนที่เหลือตามข้ามา!"ตงฟางไป๋พูดจบ ก็ยกดาบรบขึ้นฟ้า นำหน้าพุ่งเข้าโรมรันหลังจากพุ่งเข้าไปในกลุ่มศัตรู ดาบรบในมือของเขาก็ฟาดฟันอย่างรุนแรง ฟันคนไปหลายคนราวกับผ่าแตงคนอื่น ๆ ก็ตามเข้าไปต่อสู้กับโจรป่าที่บ้าคลั่งเหล่านี้แม้ว่าวรยุทธ์ของโจรป่าเหล่านี้จะมิแข็งแกร่งนัก แต่ก็มีจำนวนมากแม้ตงฟางไป๋กล้าหาญถึงเพียงนี้ แต่ก็มิสามารถฆ่าพวกมันให้หมดได้ในคราวเดียวตงฟางโซ่วและสวีเซี่ยงเฉียนที่เฝ้าอยู่หน้ารถม้า จ้องมองการต่อสู้อย่างมิกะพริบตา ดาบรบในมือของพวกเขาพร้อมที่จะฟาดฟันได้ทุกเมื่อในขณะที่การต่อสู้กำลังดุเดือด จู่ ๆ ก็มีร่างคนสองร่างพุ่งออกมาจากป่าข้าง ๆ !ทั้งสองปิดหน้า สวมชุดดำ คนหนึ่งกระโดดเข้ามา โจมตีฉินซูที่อยู่ข้างรถม้า"บังอาจนักเจ้าพวกโจร!!"ตงฟางโซ่วคำราม พลันกระทืบเท้ากับพื้น ร่างพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่สวีเซี่ยงเฉียนก็มิยอมแพ้ โบกดาบรบในมือใส่ชายชุดดำอีกคนในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้ตะลุมบอนกับคนชุดดำ ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากราวป่าหลังจากปรากฏตัว เท้าทั้งสองของเขาก็เหยียบหินก้อนใหญ่ข้า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 527

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็หยุดทันทีสวีเซี่ยงเฉียนถามอย่างระมัดระวัง "องค์รัชทายาท หยุดด้วยเหตุใดหรือ ที่นี่มิควรอยู่เป็นเวลานาน พวกเราควรรีบผ่านไปให้เร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูกล่าวสิ่งที่น่าตกใจ "ข้างหน้ามีการซุ่มโจมตี!""หา?!"สวีเซี่ยงเฉียนและคนอื่น ๆ ตกใจมาก รีบมองไปข้างหน้าเห็นเพียงตรงทางเลี้ยวข้างหน้าเป็นเนินดิน บนเนินดินเต็มไปด้วยพุ่มไม้ เหมาะแก่การซ่อนตัวตงฟางไป๋หยิบธนูขึ้นมายิงไปทางนั้นสองดอก!"อ๊าก!!"เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ร่างหนึ่งกลิ้งลงมาจากเนินดิน!เมื่อเห็นดังนั้น สวีเซี่ยงเฉียนและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึง!บนเนินดินนั้นมีคนจริง ๆ !!"บัดซบ โดนจับได้แล้ว รีบยิงธนูเร็วเข้า!"สิ้นเสียงผรุสวาท เสียงสายธนูจำนวนมากก็ดังขึ้นฉับพลัน ตามด้วยเสียงแหวกอากาศดังมามิขาดสาย!เมื่อสังเกตให้ดี ลูกธนูจำนวนนับมิถ้วนกำลังพุ่งออกมาจากเชิงเขา!ลูกธนูโปรยปรายลงมาราวกับห่าฝน!ตงฟางไป๋ตะโกนเสียงดัง "เกราะหวาย ป้องกัน!"เมื่อสิ้นเสียง ทุกคนก็หยุดฝีเท้า ยกเกราะหวายในมือขึ้นเหนือศีรษะพรึ่บพรั่บ ป้องกันรถม้าที่ฉินซูอยู่ไว้อย่างแน่นหนา'ฉึก ฉึก ฉึก...'ในพริบตา เกราะหวา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 526

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของซ่างกวนอวิ๋นซีก็มืดมนลงทันใด!นางเพียงแค่นเสียงเย็นชา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "หึ มันเป็นใครกัน หากกล้าพูดถึงเรื่องนี้ ข้ายินดีจะสังหารมันให้สิ้นเสีย!"มู่หรงเซี่ยวเทียนรีบโบกมือ พยายามโน้มน้าวอย่างขันแข็ง "ท่านเซียนซ่างกวนอย่าเพิ่งใจร้อน บิดาของหยวนหัวคืออ๋องเซียงหยางแห่งแคว้นใหญ่ มีอำนาจและอิทธิพลมาก อีกทั้งยังมีวรยุทธ์สูง แคว้นเล็ก ๆ อย่างพวกเรามิอาจแข็งขืนต่อพวกเขาได้!""พูดเช่นนี้ แสดงว่าท่านทรงต้องการให้ข้าแต่งงานด้วยหรือ?""ท่านเซียนซ่างกวน อิทธิพลของแคว้นใหญ่นั้นมิอาจมองข้ามได้ หากท่านแต่งงานย่อมเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อได้รับการสนับสนุนจากแคว้นใหญ่ การบ่มเพาะตนของท่านจะต้องก้าวหน้าไปอีกขั้น สถานะของเป่ยเยี่ยนของพวกเราจะสูงขึ้นตามอย่างแน่นอน""หึ องค์รัชทายาทช่างวางแผนเก่งเหลือเกิน พูดไปพูดมาก็เพื่อเป่ยเยี่ยนของท่านเอง!"มู่หรงเซี่ยวเทียนยิ้มประจบ "ข้าในฐานะจักรพรรดิแห่งเป่ยเยี่ยน ย่อมคิดถึงบ้านเมืองอยู่เสมอ อีกทั้งเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์แก่ตัวท่าน ข้าหวังว่าเมื่อหยวนหัวพูดถึงเรื่องแต่งงาน ท่านจะพยักหน้าตกลง""ข้าไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 525

    เหลยเจิ้นโบกมือปัดรำคาญ กล่าวว่า "ไปเถอะ ตั้งใจฝึกฝนให้ดี ข้าหวังว่าเจ้าจะสร้างชื่อในการประชุมระหว่างแคว้นในอีกมิกี่เดือนหน้าข้าง""เช่นนั้นข้าไปก่อน"จีอันพูดจบก็หันหลังเดินจากไปเหลยเจิ้นยกมือขึ้นค้ำหน้าผาก ขณะมองดูแผ่นหลังของเขา รู้สึกปวดหัวมากจีอันมีสายเลือดของชือโหยว หากปลุกพลังได้มากขึ้นก่อนการประชุมระหว่างแคว้น ต้าเหยียนก็จะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยที่จะก้าวเข้าสู่ยี่สิบอันดับแรกแต่จีอันผู้นี้เป็นคนใจร้อน และถูกกระตุ้นจากภายนอกได้ง่าย ดังนั้นแม้ว่าคุณสมบัติและศักยภาพจะดีมากแต่วรยุทธกลับมิกระเตื้องขึ้นเท่าที่ควรในช่วงตลอดหลายปีหากเขาตั้งใจฝึกฝนได้สักสองสามเดือน จะสามารถเทียบเคียงกับการฝึกฝนอย่างหนักของตู๋กูโฉ่วเยวี่ยและกู้เสวี่ยเจี้ยนเป็นเวลาหลายปีจีอันผู้นี้คือคนที่เหลยเจิ้นหวังพึ่งมากที่สุดในสนามประลองของการประชุมระหว่างแคว้นหลังจากมองส่งจีอันเดินจากไป เขายกมือขึ้นร่าย ปล่อยลำแสงสายหนึ่งออกมาในความว่างเปล่าเบื้องหน้าแสงสีขาวกระจายออกในอากาศ จากนั้นร่างของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็ปรากฏขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ในภาพ กู้เสวี่ยเจี้ยนกำลังกินดื่มอย่างเอร็ดอร่อย มีสาวใช้สอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 524

    ฉินหยางถามต่อ "เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?""ข้าก็มิทราบรายละเอียด ข้าก็เพิ่งได้รับข่าวมินานมานี้เอง"ฉินหยางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ที่พวกเขาหายตัวไปกะทันหัน คงจะมิใช่ถูกคนขององค์รัชทายาทจับตัวไปหรอกใช่หรือไม่?"ฉินหงส่ายหน้าน้อย ๆ "คงเป็นไปได้ยาก ท้ายที่สุดพวกเขาก็แค่ปล่อยข่าวเรื่องเรือสินค้าให้คนบางกลุ่มรู้ ส่วนคนที่เผยแพร่ข่าวออกไปจริง ๆ คือคนอื่น แม้ว่าองค์รัชทายาทจะรู้เรื่องเข้า ก็มิน่าจะตามสืบมาถึงตัวพวกเขาเร็วเช่นนี้""กันไว้ดีกว่าแก้ คนเหล่านั้นเป็นคนสนิทของเรา หากพวกเขาตกไปอยู่ในมือฉินซู พวกเราได้เจอปัญหาใหญ่เป็นแน่""ข้าถึงได้มาปรึกษาเจ้าเรื่องนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเพิ่มกำลังคนออกไปตามหาพวกเขา แล้วฆ่าปิดปากเสีย เพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง"ฉินหยางพยักหน้า "ได้ ข้าจะให้ผู้ดูแลในวังนำคนไป เจ้าจะให้คนของเจ้าออกเดินทางเมื่อไร?""รออยู่ข้างนอกแล้ว!""ดี ถ้าเช่นนั้นอย่ารอช้า ให้พวกเขาออกเดินทางเลย"จากนั้น คนสนิทของจวนอ๋องซิ่นและจวนอ๋องฉีก็นำผู้ใต้บังคับบัญชาลงใต้ มุ่งหน้าไปยังเหยี่ยนโจว......สำนักหอดูดาวหลวงเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิอยู่ในห้องโถงชั้นบนสุดในตอนนั้นเอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 523

    หลังจากเขาออกไป เสียนเฟยก็พูดกับนางรับใช้ข้างกายว่า "ไป ไปเชิญขันทีเกามาพบข้าที""เพคะ!"นางรับใช้รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วหนึ่งเค่อต่อมาขันทีรูปร่างปานกลาง อายุประมาณห้าสิบปีก็เดินเข้ามาคนผู้นี้มีนามว่า เกาส่วง เป็นหนึ่งในขันทีผู้ดูแลสำนักขันทีฝ่ายพิธีการหลังจากเขามาถึงตำหนักอวี้จ้าว ก็คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม "ข้าน้อยขอคารวะพระสนมเสียนเฟย"เสียนเฟยโบกมือ "ลุกขึ้นเถิด""ขอบพระทัยพระสนมเสียนเฟย มิทราบว่าพระสนมเรียกข้าน้อยมา มีบัญชากระไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?"เสียนเฟยมิได้ตอบ แต่พยักหน้าให้นางรับใช้ผู้นั้นเล็กน้อยนางรับใช้ถอยออกไปอย่างรู้ความ ยังปิดประตูก่อนจากไปด้วยเมื่อเห็นดังนั้น เกาส่วงก็มีสีหน้าเคร่งขรึม พลางเอ่ยถามเสียงเบา "พระสนม มีข่าวจากหวงเฟิงส่งกลับมาหรือพ่ะย่ะค่ะ?""หวงเฟิงตายแล้ว""ว่ากระไรนะพ่ะย่ะค่ะ?!"เกาส่วงมีสีหน้าประหลาดใจ และพูดพึมพำ "หวงเฟิงมีพลังระดับสวรรค์ครึ่งขั้น ด้วยพลังเช่นนั้น นอกจากจะมิสำเร็จแล้วยังถูกฆ่าตายอีก เป็นไปได้อย่างไรกัน?""หึ แม้แต่บุตรแห่งนักปราชญ์และผู้อาวุโสหอดารารักษ์ยังตายด้วยน้ำมือฉินซู หวงเฟิงถูกฆ่าตาย เจ้ายังคิดว่ามีกระไรที่เป็นไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 522

    เสียนเฟยขมวดคิ้ว ถามว่า "เซียวเอ๋อร์ มีเรื่องกระไรตกอกตกใจขนาดนี้ เกิดกระไรขึ้นกันแน่?""หมู่เฟย เมื่อหลายวันก่อน ลูกเขียนจดหมายถึงหัวหน้าชนเผ่าโครยอ ทั่วป๋าชื่อ ให้เขาลงมือลอบกำจัดองค์รัชทายาทที่รอวันปลด แล้วให้สัญญาว่า เมื่อลูกได้ขึ้นครองราชย์ จะยกเมืองสองเมืองให้เผ่าของพวกเขาฟื้นฟูแคว้นผลคือเมื่อครู่ลูกได้รับข่าว ทั่วป๋าชื่อถูกฉินซูกำจัดไปแล้ว ซ้ำร้ายจดหมายที่ลูกเขียนก็ตกไปอยู่ในมือของฉินซู...""ว่ากระไรนะ?!"เสียนเฟยตกใจผุดลุกขึ้น พลันถามเสียงดัง "เซียวเอ๋อร์ เจ้าทำกระไรลงไป ชนเผ่าโครยอเป็นเผ่าใต้อาณัติของต้าเหยียน เจ้ากล้าเขียนจดหมายถึงหัวหน้าของพวกมัน? ไหนยัง… ยังให้เขากำจัดฉินซูอีก เจ้า..."นางพูดยังมิทันจบ ก็รู้สึกแน่นหน้าอกพร้อมด้วยร่างที่สั่นเทาเมื่อเห็นดังนั้น ฉินเซียวก็รีบเข้าไปประคอง "หมู่เฟย ท่านเป็นกระไรหรือไม่ อย่าได้บันดาลโทสะเลยพ่ะย่ะค่ะ หากท่านประชวรจะเป็นเรื่องใหญ่""เจ้าลูกมิรักดี เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ข้าจะมิโกรธได้อย่างไร? ปกติเจ้าออกจะฉลาด ไฉนถึงทำผิดพลาดโง่ ๆ เช่นนี้!"เสียนเฟยยิ่งพูดก็ยิ่งเดือดดาล และตบหน้าฉินเซียวฉาดหนึ่งฉินเซียวพูดอย่างมิยอมแพ้ "

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status