“องค์ชาย”หลิ่วหรูเยียนน้ำตาเอ่อคลอเต็มหน้า คุกเข่าต่อหน้าหลี่หลงหลิน อ้อนวอนอย่างขมขื่น “ขอร้ององค์ชายออกหน้าแทนหม่อมฉันด้วย!”“ขอเพียงหม่อมฉันสามารถสังหารโจวซิงคนชั่วช้านี้เองกับมือ ล้างแค้นแทนชายหญิงคนแก่เด็กเจ็ดสิบสามคนของตระกูลหลิ่วได้”“หม่อมฉัน...ร่างกายของหม่อมฉัน ขอมอบให้องค์ชายได้เชยชมตามใจ...”หลิ่วหรูเยียนตกอยู่ในโลกีย์มาก่อน อย่างไรเสียก็เป็นคุณหนูใหญ่เกิดในตระกูลขุนนางนางได้ยินมาตั้งแต่เด็ก รู้ว่าแวดวงขุนนางต้าเซี่ยดำมืดมากเพียงใดต่อให้ส่งมอบหลักฐานความผิดของโจวซิงให้ราชสำนัก แต่ขุนนางก็ปกป้องขุนนางด้วยกันเอง เรื่องใหญ่กลายเป็นเล็ก เรื่องเล็กสลายหายไปโจวซิงบ้างก็อาจติดคุกหลายปี บ้างก็ถูกยึดทรัพย์ลงท้าย เขาก็สามารถหลุดพ้นจากการจองจำ ได้รับอิสระคืนมา กลับไปอยู่บ้านเกิด ใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุขชนิดที่ว่าสำหรับโจวซิงแล้ว ความทุกข์หลายปีนั้น กลับกลายเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่ง กลายเป็นช่วยสร้างชื่อเสียงตลอดชีวิตให้แก่เขา!หลิ่วหรูเยียนยิ่งคิด ภายในใจก็ยิ่งไม่อาจหักใจได้!ทว่านางเป็นสตรีคนหนึ่ง จะทำอันใดได้เล่า?ที่พึ่งเดียวของนาง ก็คือหลี
บางเรื่องหลี่หลงหลินไม่เคยชินที่จะลงมือทำเอง เพราะไม่อยากทำให้มือตัวเองเปื้อนแล้วจะนับประสาอะไรกับหญิงอ่อนแอคนหนึ่งอย่างหลิ่วหรูเยียน?แม้จะจับตัวโจวซิงมามัดไว้ต่อหน้าหลิ่วหรูเยียน จริงๆ นางจะมีความกล้าเพียงพอที่จะลงมือด้วยตัวเองหรือไม่?นอกจากความสงสัยแล้ว สิ่งที่หลี่หลงหลินมีมากกว่าก็คือความห่วงใยหลิ่วหรูเยียนมีมือเรียวเล็กดุจหยก ควรคู่กับการเขียนบทกวีหรือเล่นพิณ มิใช่ต้องมามัวหมองไปกับกลิ่นคาวเลือด…แต่แววตาของหลิ่วหรูเยียนเต็มไปด้วยความแน่วแน่ และเปล่งประกายไปด้วยความเกลียดชัง “หากข้าไม่ได้ลงมือสังหาร โจวซิง ขุนนางชั่วช้าด้วยมือของตัวเอง ข้า…คงยากที่จะลบล้างความแค้นในใจนี้ได้!”หลี่หลงหลินจ้องมองหลิ่วหรูเยียนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ได้! ข้าจะไปจัดการให้!”“แต่ก่อนหน้านั้น…”“คืนนี้เรามาจัดการหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ย ฉบับต่อไปให้เสร็จกันก่อน!”หลิ่วหรูเยียนรีบพยักหน้ารับ “แน่นอนอยู่แล้ว!”ด้วยการช่วยเหลือจากหลี่หลงหลิน ทำให้งานของหลิ่วหรูเยียนมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวท้ายที่สุด สำหรับหลิ่วหรูเยียน การทำหนังสือพิมพ์ยังเป็นสิ่งใหม่และแปลกไปส
หลี่หลงหลินไม่ได้หลับทั้งคืน จนร่างกายอ่อนล้าแทบหมดแรง เขามอบหมายให้ลั่วอวี้จู๋นำต้นฉบับของหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยไปส่งที่เขาทิศประจิม ส่วนตัวเขาเองกลับห้องไปพักผ่อนณ เขาทิศประจิม“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านพูดว่าอะไรนะ?”“หนึ่งแสนฉบับ?”กงซูหว่านหญิงงามผู้เยือกเย็นในชุดกระโปรงสีดำถึงกับตกใจอย่างมาก จนแทบไม่เชื่อหูตัวเองลั่วอวี้จู๋ถอนหายใจด้วยความจนใจ “การกระทำขององค์รัชทายาทในครั้งนี้ อาจดูเหมือนเหลวไหลอยู่บ้าง! แต่เขายืนกรานหนักแน่นมาก ข้าก็ไม่อาจพูดให้เขาเปลี่ยนใจได้”กงซูหว่านพยักหน้าเล็กน้อย มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าหลี่หลงหลินกำลังจะแต่งงานกับลั่วอวี้จู๋ดังคำที่ว่า ไม่มีลมก็ไม่มีคลื่นความสัมพันธ์ระหว่างหลี่หลงหลินกับพี่สะใภ้ใหญ่ก็สนิทสนมกว่าใครอื่นจริงในเมื่อสะใภ้ใหญ่โน้มน้าวเขาไม่ได้ การที่ตนจะเปิดปากพูดก็คงเปล่าประโยชน์ถ้าจะให้พิมพ์หนึ่งแสนฉบับ ก็ให้พิมพ์ไปเถิดนี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับช่างฝีมือที่จะได้สะสมประสบการณ์เพิ่มเติมในการใช้วิธีพิมพ์แบบหล่อแม่พิมพ์จากดินเหนียว ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ในระยะยาวลั่วอวี้จู๋มองไปที่กงซูหว่านก่อนเอ่ยถามว่า “การพิมพ์หนึ่งแส
แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับหลิ่วหรูเยียนกันเล่า?กงซูหว่านเป็นหญิงสาวที่ฉลาดเฉลียวอย่างยิ่ง ทว่าในชั่วขณะหนึ่งกลับไม่อาจเข้าใจได้ ใบหน้างดงามเย็นชาของนางเต็มไปด้วยความสงสัยลั่วอวี้จู๋กดเสียงลงต่ำพลางกล่าวว่า “น้องรอง เจ้าคงไม่รู้! ข้าได้ยินข่าวลือมาว่า สะใภ้สี่เดิมทีเป็นคุณหนูตระกูลขุนนางชั้นสูง แต่เพราะบิดาของนางไปล่วงเกินผู้มีอำนาจบางคน ครอบครัวจึงต้องพบกับจุดจบที่เลวร้าย บ้านแตกสาแหรกขาด”กงซูหว่านคิดตามแล้วก็เข้าใจในทันที นางเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “โจวซิง?”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้า “ใช่! โจวซิง เป็นหนึ่งในคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง”กงซูหว่านตกตะลึง “นั่นหมายความว่า...รัชทายาทต้องการช่วยน้องสะใภ้สี่ล้างแค้นให้ครอบครัวของนาง!”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าอีกครั้งหากไม่ใช่เพราะความกระหายที่จะแก้แค้น หลิ่วหรูเยียนคงไม่อดหลับอดนอนทั้งคืน เพียงเพื่อจัดทำหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยออกมาให้เสร็จสำหรับหลิ่วหรูเยียน การที่โจวซิงมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเพียงวันเดียว ก็ถือเป็นความทรมานสำหรับนาง“เข้าใจแล้ว!”กงซูหว่านสูดหายใจลึก ก่อนจะเอ่ยด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจะเร่งช่างฝีมือให้ทำงานล่วงเวลา!”“ในห้าวันน
“ขายหนังสือพิมพ์แล้ว!”“หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับล่าสุด!”ที่หน้าแผงหนังสือ คนงานใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาตะโกนประกาศเสียงดังลั่นสิ้นเสียงตะโกน ฝูงชนจำนวนมากก็หลั่งไหลมาจากทุกทิศทุกทาง ก่อนจะเข้าแถวต่อคิวกันยาวเหยียดจนกลายเป็นมังกรยาวหน้าแผงหนังสือบนชั้นสองของโรงน้ำชาบรรดาหญิงสาวตระกูลซูต่างเผยสีหน้าตกตะลึงขายดีขนาดนี้เลยหรือ?มีเพียงหลี่หลงหลินที่ถือถ้วยชาไว้ในมือ จิบชาใสบริสุทธิ์ที่หวานละมุนเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของฟรี ใครบ้างจะไม่อยากได้?อย่าว่าแต่หนึ่งแสนฉบับต่อให้เป็นล้านฉบับ ก็ยังต้องถูกแย่งกันจนหมดเกลี้ยง!เพียงแต่พวกที่มาด้วยความหวังจะได้ของฟรีเหล่านี้ต้องผิดหวัง!หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยจำนวนหนึ่งพันฉบับที่แจกฟรีก่อนหน้านั้น เป็นเพียงการทดลองตลาดครั้งนี้ หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยกลับต้องจ่ายเงินซื้อ!“อย่าเบียด!”“อย่าเบียด!”“ต่อแถวดีๆ หนึ่งฉบับหนึ่งร้อยเหวิน!”หลี่หลงหลินเตรียมการล่วงหน้า โดยส่งกองทหารจากเขาทิศประจิมมารักษาความสงบเรียบร้อยในสถานที่“อะไรนะ? ไม่ใช่ของฟรีหรือ?”“คิดเงินด้วย?”“แถมยังต้องจ่ายตั้งร้อยเห
“ข้าก็เอาด้วย!”เหล่าบัณฑิตต่างหยิบเหรียญทองแดงออกมา แย่งกันซื้อหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยกันยกใหญ่ไม่ใช่เพียงเพื่ออ่านนิยายของหลิ่วหรูเยียนเท่านั้นแต่เพื่อดูว่าโจวซิงได้ก่อความผิดมหันต์อะไรไว้!ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยบนแผงก็ถูกซื้อจนเกลี้ยง พนักงานและเจ้าของร้านต่างรีบไปเติมสินค้าแต่พอวางขายก็ถูกแย่งซื้อจนหมดอีกชั้นสองของโรงน้ำชาบรรดาสตรีตระกูลซูเห็นภาพนี้ต่างก็ตกตะลึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยหนึ่งแสนฉบับก็คงไม่พอขาย!จวนตระกูลโจววันนี้เป็นวันหยุด โจวซิงจึงไม่ได้เข้าเฝ้า เขาถือกรงนกไว้ในมือ กำลังหยอกล้อกับนกแก้วที่พูดตามนี่คือสิ่งของล้ำค่าของเขา เขาเลี้ยงมันไว้ราวกับบรรพบุรุษโดยปกติแล้ว โจวซิงจะสอนให้มันท่องบทกวี เพื่ออวดต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆโจวกว่างบุตรชายคนโตรีบร้อนเข้ามา ในมือถือหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยไว้ ใบหน้าซีดเผือดอย่างมาก “ท่านพ่อ... ท่านพ่อ... เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”เขาเพิ่งออกไปเดินเล่นข้างนอก บังเอิญเห็นผู้คนกำลังแย่งซื้อหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยกันอย่างบ้าคลั่งด้วยค
“ซื้อไม่หมด?”โจวซิงมองไปยังหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยที่กองเป็นภูเขาอยู่ในลานบ้านด้วยความตกตะลึง “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”“รัชทายาทพิมพ์ออกมาทั้งหมดกี่ฉบับกันแน่?”“ไม่ใช่หนึ่งพันฉบับหรอกหรือ?”นิสัยของคนเรา มักจะฝังรากลึกครั้งก่อน หลี่หลงหลินพิมพ์หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยหนึ่งพันฉบับ แจกจ่ายฟรีในตลาดดังนั้น โจวซิงจึงคิดไปเองว่า หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับใหม่ที่หลี่หลงหลินพิมพ์ออกมานั้น อย่างมากก็คงราวๆ พันฉบับต่อให้ฉบับละสิบตำลึง โจวซิงก็ใช้เงินเพียงไม่กี่หมื่นตำลึงก็ซื้อได้หมดแล้วโจวซิงไม่กลัวว่าหลักฐานการกระทำผิดของตนจะแพร่กระจายในราชสำนักขุนนางต่างปกป้องกันเอง เรื่องใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องเล็กได้อย่างไรก็ตาม โจวซิงกลับไม่สามารถทนเห็นหลักฐานการกระทำผิดของตนแพร่กระจายไปทั่วในหมู่ประชาชน จนเป็นที่รู้กันไปทั่วได้อย่างที่เสิ่นชิงโจวพูดไว้เมื่อถึงตอนนั้น ประชาชนโกรธแค้น เทพเจ้าและมนุษย์ต่างรังเกียจไม่มีใครปกป้องเขาได้!โจวกว่างก้มหน้า พูดเสียงสั่น “ได้ยินมาว่า... องค์รัชทายาทพิมพ์หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยออกมาหนึ่งล้านฉบับขอรับ!”ซี๊ด...โจวซิงสูดหายใจลึก ดว
โจวซิงเดินโซซัดโซเซเข้ามาในห้องขัง หมอบลงกับพื้น อ้อนวอนอย่างขมขื่น “ท่านราชครู...ช่วยข้าด้วย...”เสิ่นชิงโจวค่อยๆ หันกลับมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเวทนา มองลงไปยังโจวซิง “ข้ารู้เรื่องแล้ว!”“ไม่คิดเลยว่า หลี่หลงหลินจะลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ คนแรกที่กำจัดก็คือเจ้า!”“นี่เขากำลังจะตัดแขนขาของข้า!”หากเป็นขุนนางคนอื่น เสิ่นชิงโจวจะไม่สนใจเลยในราชสำนัก มีขุนนางกังฉินมากมาย!เจ้าจะฆ่าก็ฆ่า!เกี่ยวข้องอะไรกับข้า?ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหลี่หลงหลินยิ่งฆ่ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ขุนนางทั้งหลายรู้สึกหวาดระแวง และอาจก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชน!เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะยิ่งยุยง และโจมตีเจ้าอย่างรุนแรง!แต่คนแรกที่หลี่หลงหลินต้องการจะฆ่าคือโจวซิง!นี่มันยุ่งยากแล้ว!เสิ่นชิงโจวคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจยาว “ใต้เท้าโจว! เมืองหลวงไม่มีที่สำหรับเจ้าแล้ว! เจ้าหนีไปเถอะ”หนี?ร่างของโจวซิงสั่นสะท้าน มองเสิ่นชิงโจวด้วยความตกตะลึงระหว่างทาง โจวซิงครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆแต่โจวซิงไม่คิดว่า เสิ่นชิงโจวจะให้เขาหนี!หนีไปได้ แต่จะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังได้อย่างไร!ทรัพย์สมบัติข
“เสด็จแม่” หลี่หลงหลินโค้งคำนับให้ฮองเฮาหลิน “ฟ้ามืดแล้ว พระองค์รีบกลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ฮองเฮาหลินพยักหน้าเล็กน้อย ทว่ายังคงลังเลที่จะเอ่ยปาก หลี่หลงหลินขึ้นรถม้าพร้อมกับคนในตระกูลซู เพื่อออกจากวังกลับไปยังจวนสกุลซู ภายในรถม้า แม่ทัพผู้เฒ่าซูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “รัชทายาท เหตุใดพระองค์ถึงทำเช่นนี้? กลุ่มข้าราชการเต็มใจที่จะสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ เหตุใดพระองค์จึงปฏิเสธ?” ฟึบ! ทันใดนั้น สายตาของซูเฟิ่งหลิงและพี่สะใภ้ทั้งสี่ก็จับจ้องไปที่หลี่หลงหลิน ในใจพวกนางรู้สึกสงสัยเช่นเดียวกับแม่ทัพผู้เฒ่าซู นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะรวบรวมกลุ่มข้าราชการไว้ในมือ เหตุใดหลี่หลงหลินถึงปฏิเสธ แถมยังพูดจาดูถูกจนทำให้กลุ่มข้าราชการขุ่นเคือง? หรือว่า... หลี่หลงหลินไม่เข้าใจ ว่าหากกลุ่มข้าราชการสวามิภักดิ์ด้วย เขาก็จะทรงครองตำแหน่งรัชทายาทได้อย่างมั่นคง ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ แผ่นดินต้าเซี่ยจะอยู่ในมือของเขา? หลี่หลงหลินสีหน้าเคร่งขรึม เขาแงนมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “แผ่นดินต้าเซี่ยนี้ ผุพังเกินเยียวยานานแล้ว ข้าจะเอาไปทำอะไร?” บรรดาหญิงสาว
ฮ่องเต้หวู่ปวดหัวแทบระเบิด สองมือกดขมับคลึงเค้น สมองแทบเหลวเป็นแป้งเปียก ฮ่องเต้หวู่จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากหลี่หลงหลินอย่างจนปัญญา: “เจ้าเก้า เจ้าว่าข้าควรทำเช่นไรดี?” หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย: “เสด็จพ่อ ใกล้ค่ำแล้ว วันนี้แยกย้ายกันเพียงเท่านี้เถิด! สุขภาพของท่านสำคัญยิ่งนัก รีบกลับไปพักผ่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้หวู่ชะงัก: “แยกย้ายกันเพียงเท่านี้? แล้วคดีทุจริตของซ่งชิงหลวนเล่าจะทำเช่นไร?” หลี่หลงหลินผายมือ: “ก็ทำตามที่ควรทำ ตอนนี้เสด็จพ่อมีหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ให้พวกเขาไปสืบสวนก็สิ้นเรื่อง! ควรจับก็จับ ควรตัดสินก็ตัดสิน ควรประหารก็ประหาร!” “การสอบคัดเลือกขุนนางเป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง ครั้งนี้ต้องสืบสวนให้ถึงที่สุด!” ฮ่องเต้หวู่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในทันที เมื่อก่อนข้าพึ่งพาเหล่าขุนนางมากเกินไป จึงสูญเสียอำนาจในการตัดสินใจ ทำอะไรก็ต้องคอยระแวดระวัง กระทั่งถูกริดรอนอำนาจ เป็นฮ่องเต้เช่นนี้ ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก! แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ข้ามีหน่วยองครักษ์เสื้อแพร ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาขุนนางพวกนี้อีกต่อไป! ข้าอยากจะสืบสวนอย่างไร ก็ทำได้ตามใจ! ดี! ฮ่องเต้หวู
ฮ่องเต้หวู่ทรงกริ้วจัดเดิมที เขาทรงคิดว่าซ่งชิงหลวนเป็นผู้มีปัญญามาก มีคุณธรรมสูงส่ง เป็นที่เคารพนับถือ คาดไม่ถึงเลยจริงๆหลายปีมานี้ ซ่งชิงหลวนสมคบกับตู้เหวินยวน ผูกขาดการสอบขุนนาง ทุจริต ฉ้อฉล ไม่รู้ว่ารีดไถทรัพย์สินจากราษฎรไปเท่าไหร่การคดโกงเงินทองนั้น จริงๆ แล้วฮ่องเต้หวู่ไม่ได้ใส่พระทัยขุนนางทั้งราชสำนัก มีใครบ้างที่ไม่รับสินบน?บัณฑิตร่ำเรียนมาสิบปี หวังจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็เพื่ออะไรกัน?เพื่อทำตามความฝันและปณิธานของตนเอง?เหลวไหล!ใครบ้างที่ไม่ทำเพื่อเงินทอง?ปัญหาคือ คนดีรักทรัพย์สิน ก็ควรได้มาโดยชอบธรรมหากซ่งชิงหลวนเพียงแค่ยักยอกค่าเล่าเรียนเล็กๆ น้อยๆ นั่นก็แล้วไป!เขากลับใช้การสอบขุนนางเป็นเครื่องมือ!ช่างเกินไปแล้ว!มิน่าเล่า ในราชสำนัก ขุนนางที่ไร้ความสามารถจึงมีมากขึ้นเรื่อยๆแต่ละคนถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ตีสามครั้งก็ยังไม่ปริปากให้ไปปกครองบ้านเมือง ก็ทำได้แย่มิน่าเล่า หนิงชิงโหว ผู้มีความรู้ความสามารถ ถึงได้สอบตกแม้ว่าภายหลัง หนิงชิงโหวจะสอบได้จอหงวน ก็ยังเลือกที่จะไปเป็นอาจารย์อยู่ที่เขาประจิม ไม่ยอมเข้ารับราชการแท้จริงแล้ว รากฐานของต้าเซี่ย
เรื่องน่าอับอายของซ่งชิงหลวนเหล่านั้น ล้วนเป็นสิ่งที่นางกุขึ้นเองทั้งสิ้นหลักฐานของหลี่หลงหลินมาจากไหน?หรือว่าเพื่อช่วยนาง หลี่หลงหลินคิดจะปลอมแปลงหลักฐาน หลอกลวงเบื้องสูง?นี่... นี่ไม่ได้!การหลอกลวงเบื้องสูงเป็นความผิดมหันต์ต่อให้หลี่หลงหลินเป็นถึงรัชทายาท ก็ไม่อาจแบกรับไหว!ยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องเต้หวู่กำลังทรงกริ้ว ถึงขั้นคิดจะถอดหลี่หลงหลินออกจากตำแหน่งรัชทายาทหลี่หลงหลินเสี่ยงอันตราย หากถูกฮ่องเต้หวู่จับได้ ก็คงจะถึงคราววิบัติ“องค์รัชทายาท”“อนาคตของท่านยังอีกยาวไกล เพื่อหญิงต่ำต้อยเช่นข้า เหตุใดต้องทำลายอนาคตตนเอง?”หลิ่วหรูเยียนน้ำตาไหลอาบแก้ม คิดจะเปิดเผยความจริงหลี่หลงหลินรีบส่งสัญญาณให้ซูเฟิ่งหลิง “เจ้าพาพี่สะใภ้สี่ไปด้านข้าง อย่าให้นางพูดอะไรเหลวไหล”ซูเฟิ่งหลิงจับแขนหลิ่วหรูเยียน “พี่สะใภ้สี่ ท่านอย่าพูดอะไรเลย! ที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์รัชทายาทเถิด! มีเขาอยู่ ต้องไม่มีปัญหาแน่นอน”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า ถอยไปด้านข้างหลี่หลงหลินเห็นดังนั้น ก็ถอนหายใจยาวเกือบไปแล้ว!เกือบจะเกิดศึกภายใน ทำลายแผนการจนหมดสิ้นหลิ่วหรูเยียนยังขาดประสบการณ์ในเรื่องให
เมื่อมีหลี่เทียนฉี่เป็นหัวหอก เหล่าขุนนางก็ดาหน้าเข้ามาผสมโรง “ฝ่าบาท พระชายารัชทายาททำเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“กล้าขัดพระราชโองการอย่างเปิดเผย ช่างบังอาจยิ่งนัก!”“ซูเฟิ่งหลิงเป็นลูกหลานแม่ทัพ ไม่รู้ขนบธรรมเนียม รัชทายาท ท่านก็ไม่รู้หรืออย่างไร?”“ถูกแล้ว รัชทายาท! ท่านควรจะดูแลสตรีของท่านให้ดี! มิเช่นนั้นพูดมากไปก็จะเสียการ เป็นที่น่าอับอาย!”“หึๆ รัชทายาทขึ้นชื่อว่าเป็นคนกลัวเมีย เขาจะกล้าไปหือกับสตรีที่มุทะลุดุดันอย่างซูเฟิ่งหลิงหรือ? ไม่อยากอยู่แล้วหรือไร?”“คนหนึ่งกลัวเมีย อีกคนเป็นแม่เสือโคร่ง ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ!”“รัชทายาท ท่านจงดูแลแม่เสือโคร่งของท่านให้ดี อย่าปล่อยออกมาทำร้ายผู้อื่น”คำเยาะเย้ยถากถางถาโถมเข้ามาไม่หยุดซูเฟิ่งหลิงไม่สันทัดในการโต้เถียง ทั้งร้อนรนทั้งโกรธ น้ำตาคลอเบ้า แทบจะร้องไห้ออกมา “พวกเจ้า... พวกเจ้า...”“หุบปาก!”ในเวลานั้น เสียงตวาดดุจสายฟ้าฟาดก็ดังขึ้นในตำหนักฉางเล่อหลี่หลงหลินก้าวออกมา มือไพล่หลัง ท่าทางหยิ่งผยอง เอ่ยเสียงเย็น “รังแกผู้หญิง นับเป็นความสามารถอันใด? พวกท่านมีความสามารถ ก็มาโต้คารมกับข้าสักห้าร้อยยก แบบไม่มีกติกาก็ได้
หลิ่วหรูเยียนเห็นขุนนางทั้งราชสำนัก แทบจะเทใจสนับสนุนองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่ทั้งหมด พากันกล่าวโทษหลี่หลงหลินอย่างรุนแรง นางก็ตื่นตระหนก คิดว่าเคราะห์ใหญ่กำลังจะมาเยือนนางได้มอบชีวิตของตนให้แก่หลี่หลงหลินแล้ว ยินยอมที่จะตายแทนเขาดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้อหาใด หลิ่วหรูเยียนก็รับไว้ทั้งหมดโดยไม่ลังเล!“พี่สะใภ้สี่ เจ้า...”หลี่หลงหลินมองหลิ่วหรูเยียนด้วยความซาบซึ้งใจเขาก็คาดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะยอมสละได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อเขา!ตัวเขาเป็นถึงรัชทายาท ข้อหาหมิ่นประมาทบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ก็มีโทษเพียงแค่ริบเบี้ยหวัดเท่านั้นแต่หลิ่วหรูเยียนเป็นเพียงสามัญชน ไม่มีอำนาจ ไม่มีบารมี ไม่มีผู้หนุนหลังหากนางต้องรับโทษนี้ มีหวังต้องหัวหลุดจากบ่าฮ่องเต้หวู่เลิกคิ้วขึ้น มองหลิ่วหรูเยียนด้วยความประหลาดใจ “เจ้าจะรับผิดแล้วหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่า โทษนี้ เจ้าคนเดียวไม่อาจรับไหว!”บนใบหน้างดงามของหลิ่วหรูเยียน ปรากฏรอยยิ้มที่งดงามปนเศร้า “ฝ่าบาท ไม่ว่าจะเป็นโทษทัณฑ์ใด หม่อมฉันก็ยินดีรับไว้ทั้งหมด!”“ช่างเป็นคนมีน้ำใจ...”ฮ่องเต้หวู่รำพึงในใจ “มิน่าเล่า เจ้าถึงได้แต่ง “ความฝันในหอแดง” ได้...”
ไม่ยอมรับ!ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกไป ทั่วทั้งท้องพระโรงก็ตกอยู่ในความเงียบงันราวกับป่าช้า!เหล่าขุนนางเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูของตนได้ยินฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วแน่น แววตาฉายแววขุ่นเคืองและผิดหวัง “เจ้าเก้า! เจ้าไม่เข้าใจความหวังดีของข้าอย่างนั้นหรือ? จำเป็นต้องมาขัดขวางข้าต่อหน้าธารกำนัล ในงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผาเช่นนี้?”เขาเป็นทั้งฮ่องเต้และบิดา ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด ก็ต้องรักษาไว้ซึ่งบารมี!พูดกันตามตรงไม่ว่าใครก็ต่างมองว่าฮ่องเต้หวู่ทรงลำเอียงเข้าข้างหลี่หลงหลินอย่างเห็นได้ชัด ถึงขั้นที่เรียกว่าทรงโปรดปรานก็ว่าได้!การลงโทษให้ริบเบี้ยหวัดเพียงสามเดือน ก็เป็นเงินแค่สามร้อยตำลึงโทษทัณฑ์นี้เบาบางยิ่งนักพูดง่ายๆ ก็คือทำเป็นพิธีไปเท่านั้นหลี่หลงหลินจะไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่ปลายก้อยแต่ฮ่องเต้หวู่ทรงทำเพื่อหลี่หลงหลินถึงเพียงนี้หลี่หลงหลินกลับยังคงไม่ยอมรับผิด!“แม้แต่โทษเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ก็ยังไม่ยอมรับอีกหรือ?”“เจ้าเก้า เจ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก!”“ข้าหวังดีต่อเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เห็นค่า!”ฮ่องเต้หวู่ถอนหายใจในใจความหวังดีของเขาถูกหล
ฮ่องเต้หวู่อ่านกลับไปกลับมาหลายรอบ ก็ยังไม่เข้าใจ “องค์ชายใหญ่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”หลี่เทียนฉี่ก้มหน้าทูล “ทูลเสด็จพ่อ ในหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับนี้ เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้ว! บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งชิงหลวน เป็นแบบอย่างที่ดี ลูกศิษย์มากมาย มีคุณธรรมสูงส่ง!”“องค์รัชทายาทกลับเขียนลงในหนังสือพิมพ์ ใส่ร้ายป้ายสี ทำลายชื่อเสียงของบัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง!”“บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งอ่านแล้ว โกรธจนกระอักเลือด แทบสิ้นลม จนถึงตอนนี้ก็ยังอาการสาหัส!”“ขุนนางทั้งราชสำนัก เป็นพยานให้บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่งได้”“เนื้อหาในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระสิ้นดี!”“ขอให้ฝ่าบาททรงประทานความเป็นธรรมแก่บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง และบัณฑิตทั้งแผ่นดินด้วย!”เมื่อสิ้นเสียงเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นต่างพากันยืนขึ้น แสดงความไม่พอใจ “ฝ่าบาท กระหม่อมทั้งหลายยินดีเป็นพยาน! เรื่องราวที่เขียนในหนังสือพิมพ์ ล้วนเป็นเรื่องโกหก พูดจาเหลวไหล!”“ใช่แล้ว ฝ่าบาท! บัณฑิตทรงคุณวุฒิซ่ง ไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน!”“หวังว่าฝ่าบาทจะทรงผดุงความยุติธรรม นำตัวผู้ปล่อยข่าวใส่ร้ายมาลงโทษ!”“หากบัณฑิตทรงคุณวุฒิ ยังถูกใส่ร้ายป้าย
เทพธิดาบุปผา?หลี่เทียนฉี่ยืนโดดเดี่ยวอยู่ในสวนของตำหนักฉางเล่อ ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านนี่มันเรื่องอะไรกัน?เริ่มจากเครื่องทำความร้อนใต้พื้นและลางดี จากนั้นหลี่หลงหลินก็แต่งบทกวีห่วยๆ...เอาเถอะไม่ใช่บทกวีไร้ค่า แต่เป็นบทกวีอมตะที่วิจิตรงดงามเสด็จแม่ของเขา ฮองเฮาหลิน จู่ๆ ก็ถูกฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นเทพธิดาบุปผา?ความรู้สึกถึงภยันตรายอันใหญ่หลวง ถาโถมเข้ามาดั่งคลื่นยักษ์ กลืนกินหลี่เทียนฉี่จนแทบจมหายไปในชั่วพริบตาโบราณว่า แม่มีคุณธรรมลูกจึงได้ดีในราชวงศ์ องค์ชายและพระมารดานั้นต่างต้องพึ่งพาอาศัย ส่งเสริมซึ่งกันและกันทำไมหลี่เทียนฉี่ถึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท?ไม่ใช่เพราะเขาเก่งกาจอะไรแต่เป็นเพราะว่า แม่ของเขาคือฮองเฮาหลู่!เขาคือโอรสองค์โตที่เกิดจากฮองเฮา!ดังนั้น เขาจึงเป็นองค์รัชทายาทโดยกำเนิด!บัดนี้ นางหลู่ถูกถอดถอน ถูกส่งไปยังตำหนักเย็นส่วนแม่ของหลี่หลงหลิน นางหลิน กลับได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา แถมยังกลายเป็นเทพธิดาบุปผาคราวนี้ตำแหน่งองค์รัชทายาทของหลี่หลงหลิน ก็มั่นคง ยากจะหาผู้ใดมาสั่นคลอน!“เจ้าเก้า...”“เจ้ามันเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก!”หลี่เทียน