ยามค่ำคืนโคมไฟสว่างไสวหลี่หลงหลินเพิ่งกลับถึงจวนสกุลซู ตกตะลึงพบว่า ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดของสกุลซูเตรียมอาหารเลิศรสไว้หนึ่งโต๊ะ กำลังรอตนแม้แต่กงซูหว่านก็เดินทางกลับจากภูเขาทิศประจิมหลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “วันนี้วันเกิดใครหรือ? อาหารเย็นมากมายถึงเพียงนี้?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะพลางพูด “ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถอยทัพ นี่เป็นเรื่องมงคลยิ่งใหญ่ พวกเราย่อมต้องฉลองสักครั้งหนึ่ง!”หลี่หลงหลินหัวเราะ ไม่พูดมากอีกชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถอยทัพ ก็แค่อุบายเล่นสนุก รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์!กระนั้น เขาเก็บไว้ภายในใจก็พอ ไม่สามารถพูดออกไปในสถานการณ์เช่นนี้ได้ ประเดี๋ยวจะทำลายความสนุกของทุกคนหนึ่งครอบครัวดื่มอวยพรให้กัน เสียงหัวเราะมีความสุขดังอย่างต่อเนื่องฮูหยินผู้เฒ่าซูเองก็ดีใจมาก ดื่มเหล้าเหลืองไปหลายจอก รู้สึกมึนเมาแล้ว ก็ขอตัวออกจากงานก่อน“ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่ายิ่งนัก!”หลี่หลงหลินมองเงาด้านหลังของฮูหยินผู้เฒ่า ลอบพูดภายในใจฮูหยินผู้เฒ่าเอ็นดูตนจริงๆคิดหาทาง สร้างโอกาสให้ตนเพียงผู้อาวุโสลุกออกไปแล้ว บรรยากาศงานเลี้ยงก็กลมกลืนกันมากยิ่งขึ้นพี่สะใภ้รูปโฉมงดงามทั้งสี่ ชน
“พี่สะใภ้สี่และตู้เหวินยวนมีความสัมพันธ์อันใด?”“หรือว่าข้าคิดมากไป?”หลี่หลงหลินลอบครุ่นคิดภายในใจลั่วอวี้จู๋ยกจอกสุรา พูดเสียงนุ่มนวล “องค์ชายเก้าเป็นประธานสามศาล ไต่สวนตู้เหวินยวน นี่คือเกียรติยศยิ่งใหญ่! เช่นนี้แล้ว ข่าวลือภายนอก ไม่ต้องทำอันใดก็ยุติลงไปด้วยตนเอง!”ซูเฟิ่งหลิงกลับกังวล มองหลี่หลงหลิน “ท่านไต่สวนเป็นหรือ? ตู้เหวินยวนจิ้งจอกเฒ่าคนนี้ เจ้าเล่ห์มากนัก! ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้ยินหนิงเซิงพูด ภายในสามศาล ล้วนคือศิษย์และสหายร่วมงานเก่าของเขา!”“ต่อให้เป็นฝ่าบาทก็ทำอันใดเขาไม่ได้!”ได้ยินถ้อยคำนี้ หลิ่วหรูเยียนตึงเครียดอยู่บ้าง สีหน้าเผือดซีด “ไม่หรอกกระมัง! องค์ชายเก้ามีสมุดบัญชี หลักฐานที่ไม่อาจหักล้างได้มิใช่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า “พี่สะใภ้สี่ ท่านไม่เข้าใจ! ในแวดวงราชการ ไม่สามารถหนีการปกป้องจากขุนนางพ้น! อย่างไรเสีย หากเป็นข้า จะแทงตู้เหวินยวนให้ตาย หลีกเลี่ยงมิให้จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนี้เป็นภัยต่อบ้านเมืองและราษฎร์!”วันนี้นางดีใจมาก ดื่มสุราหลายจอก ใบหน้าแดงเรื่อ พูดจาเหลวไหลอยู่บ้างตู้เหวินยวนชั่วดีอย่างไรก็เป็นอัครมหาเสนาบดีของต้าเซี่ย เจ้าสามารถฆ่าได
แสงจันทร์สว่างไสวหลี่หลงหลินมายังหอละอองฝน ใบหน้าประดับยิ้มอ่อน เพลิดเพลินกับการดีดพิณของหลิ่วหรูเยียนนางสวมชุดบาง สะท้อนแสงจันทร์ งดงามเกินบรรยาย ดุจนางเซียนลงมาจากสวรรค์งดงามมีเสน่ห์ เย้ายวนชวนหลงใหล!นี่คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างหลิ่วหรูเยียนและเซียวเม่ยเอ๋อร์!ตึกตัก...หลี่หลงหลินไม่เข้าใจเสียงดนตรี เพียงเพลิดเพลินกับความงามของหลิ่วหรูเยียน ราบกับกำลังหลงใหลและเมามายสตรีคนนี้งดงามเกินไปแล้ว มีเสน่ห์เกินไปแล้ว!มิน่าเล่าสำนักการสังคีตจึงยอมรับเป็นนางคณิกาอันดับหนึ่ง!แน่นอนนอกเหนือจากความงามของหลิ่วหรูเยียน ความสามารถของนางเองก็น่าประทับใจมากพิณนี้ ขาวเหลือเกิน...สายตาของหลี่หลงหลิน ตกลงใต้กระโปรงอย่างสุดจะหักห้ามใจ เท้าสีขาวราวหยกหิมะดุจผลึกใสประกายแวววาวนางไม่เพียงงดงาม รู้ความชอบของบุรุษ จับเอาไว้ได้อย่างง่ายดายก็คือของขวัญจากสวรรค์จริงๆ!เล่นจบหนึ่งบทเพลง หลี่หลงหลินยังเคลิบเคลิ้มกับความงามของหลิ่วหรูเยียน ไม่สามารถพาตนเองออกมาได้อยู่นานใบหน้าของหลิ่วหรู่เยียน ผลิยิ้มงดงามเย้ายวนชวนหลงใหลออกมา “องค์ชาย บทเพลงนี้ของหม่อมฉัน ท่านพึงพอใจหรือไม่?”
สมองของหลี่หลงหลินดังหึ่งๆเขาไม่ใช่คนมีจิตใจมั่นคงมีคนนั่งในอ้อมกอดแล้วจะไม่หวั่นไหว!พี่สะใภ้สี่ ท่านยั่วยวนข้าเช่นนี้ ข้าทนไม่ไหวนะ!หลี่หลงหลินกอดร่างนุ่มนิ่มดุจหยกมีชีวิต ใช้สติที่ยังเหลืออยู่พูดว่า “พี่สะใภ้สี่ ทำเช่นนี้ไม่ดี...”หลิ่วหรูเยียนเงยหน้า ขบเม้มกลีบปากพูดว่า “หม่อมฉันเคยสาบานมาก่อน ใครช่วยข้าฆ่าตู้เหวินยวนได้! ก็จะมอบร่างกายนี้ให้เขา!”หลี่หลงหลินชะงัก ได้สติขึ้นมาแล้ว “ท่านอยากให้ข้าฆ่าตู้เหวินยวน?”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า ดวงตาสะท้อนไอเย็น “ถูกต้อง! ขอเพียงฆ่าเขาได้ หม่อมฉันจะเป็นของท่าน!”หลี่หลงหลินยิ้มขมปร่า “นี่คือการแลกเปลี่ยนหรือ?”หลิ่วหรูเยียนชะงัก กดร่างกายหลี่หลงหลินลงกับพื้น กลีบปากแดงแนบลงบนแก้มของเขา ใช้สุ้มเสียงเย้ายวนพูดว่า “การแลกเปลี่ยนมีอะไรไม่ดีหรือ? คืนฤดูใบไม้ผลิผ่านไปอย่างไร้ร่องรอย! ท่านก็คิดว่าข้าเป็นนางคณิกาของสำนักการสังคีต อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลจะทำผิดต่อน้องหญิงเล็ก!”“ไม่ได้!”หลี่หลงหลินส่ายหน้า ดันร่างกายของหลิ่วหรูเยียนออกมือขวาลูบจมูก ด้านบนยังมีกลิ่นหอมของนางติดอยู่ร่างกายของนาง ทุกส่วนล้วนงดงามสมบูรณ์แบบหลิ่วหรูเยียน
ณ หอละอองฝนภายใต้แสงจันทร์ หลิ่วหรูเยียนน่าสงสารมาก “องค์ชาย หม่อมฉันเป็นสตรีในโลกีย์..”หลี่หลงหลินส่ายหน้าเบาๆ “ข้าไม่ใส่”หลิ่วหรูเยียนกัดกลีบปาก “ข้าเป็นพี่สะใภ้ของท่าน”หลี่หลงหลินเอ่ยปากว่า “ข้าก็ไม่สนใจ”หลิ่วหรูเยียนตกตะลึง น้ำตาคลอหน่วย สะอื้นพูดว่า “องค์ชาย เพราะเหตุใด?”หลี่หลงหลินยื่นมือออกไป เผยเอวคอดกิ่วของหลิ่วหรูเยียน พูดเสียงนุ่มนวล “รักใครสักคน ต้องการเหตุผลด้วยหรือ?”ทันใดนั้นหลิ่วหรูเยียนน้ำตาแตกแล้ว ร้องไห้กลายเป็นคนเจ้าน้ำตานับตั้งแต่เข้าสำนักการสังคีต ก็ไม่มีใคร พูดกับนางอย่างอ่อนโยนเช่นนี้อีก!ต่อให้เป็นคุณชายสี่สกุลซูที่หลงใหล ตั้งแต่เริ่มจนจบ ก็ทำให้ความรักของกลายเป็นการแลกเปลี่ยน!ทว่าอย่างไรเสียหลิ่วหรูเยียนก็เป็นคน ไม่ใช่สินค้า!จากหลี่หลงหลินที่นี่ หลิ่วหรูเยียนตามหาศักดิ์ศรีของตนพบใหม่อีกครั้ง!“ใช่แล้ว...”หลี่หลงหลินลุกขึ้นอย่างกะทันหัน มาหยุดหน้าโต๊ะเครื่องแป้งของหลิ่วหรูเยียน ดึงเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุดออก หากล่องหยกขาวเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาใบหน้าของหลิ่วหรูเยียน ทันใดนั้นกลายเป็นเผือดซีดดุจกระดาษ จับแขนของหลี่หลงหลินไว้แน่นๆ “องค์ชาย ท่านร
หลี่หลงหลินส่ายหัว “เจ้าจะฆ่าตู้เหวินยวนได้ด้วยดาบเดียวหรือไม่ไม่สำคัญ? แต่หากไม่มีเงิน เงินชดเชยของพวกหญิงม่ายจะทำอย่างไร?”สีหน้าของซูเฟิ่งหลิงแย่ลง “แล้วจะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินยิ้มเบาๆ “อีกเดี๋ยว เจ้าดูข้าทำงาน! ข้าจะทำให้ตู้เหวินยวนกลายเป็นสุนัขแก่ รับผิดชอบผลที่ตามมา!”เมื่อพูดจบแล้วหลี่หลงหลินพาซูเฟิ่งหลิงสวมเครื่องแบบทหาร ที่เอวแขวนวิหคมังกรแห่งต้าเซี่ย เดินมาที่ราชสำนัก“องค์ชายเก้า!”“องค์ชาย ท่านมาแล้ว!”“เชิญนั่ง!”เมื่อขุนนางใหญ่สามศาลเห็นหลี่หลงหลินมาแล้ว ก็รีบก้าวไปข้างหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตู้เหวินยวนสวมชุดคลุมสีเทา แม้ว่าจะถูกลดขั้นเป็นนักโทษ แต่ท่าทียังคงหยิ่งผยอง ไม่สนใจหลี่หลงหลิน เอามือไพล่หลง เงยหน้ามองฟ้าหลี่หลงหลินยิ้มกว้าง นั่งอยู่บนตำแหน่งตรงกลางที่สูงที่สุด หรี่ตามองขุนนางใหญ่สามศาล “การไต่สวนของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”ขุนนางใหญ่สามศาลมองหน้ากันแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทูลองค์ชาย พวกเราเพิ่งจะเริ่มไต่สวน”หลี่หลงหลินโบกมือ กล่าวด้วยความรำคาญ ข้าไม่สนใจ! เงินที่ตู้เหวินยวนยักยอกไปอยู่ที่ไหน? สืบดูแล้วได้เท่าไหร่?”เจ้ากรมอาญากล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “
“การลงโทษไม่นับเป็นหมอ!”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!”หลี่หลงหลินยิ้มอย่างเย็นชาแท้จริงแล้ว เขาเองก็รู้แต่แรกแล้วว่าการลงโทษตู้เหวินยวนแทบเป็นไปไม่ได้นี่เป็นความมั่นใจที่ทำให้ตู้เหวินยวนเย่อหยิ่ง!แต่ถ้าทำโทษไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไร?หรือว่าจะถ่วงเวลาไปกับตู้เหวินยวนไปแบบนี้?ด้วยนิสัยโลภมากของตู้เหวินยวน แม้ว่าจะถ่วงเวลาไปจนตาย ก็ไม่มีทางคายเงินออกมาแม้แต่ตำลึงเดียวเขาถ่วงเวลาไปได้แต่หญิงม่ายและเด็กกำพร้าที่กำลังหิวโหย ไม่อาจจะถ่วงเวลาได้แล้ว!“เฮอะ!”“ในเมื่อลงโทษไม่ได้!”“ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าก็ค่อยๆ ไต่สวนเถอะ!”หลี่หลงหลินแค่นเสียงเย็นชา สะบัดแขนเสื้อจากไป เข้าไปในห้องโถงทันทีซูเฟิ่งหลิงรีบตามไปจนทัน แล้วพูดด้วยความประหลาดใจ “นี่เป็นวิธีการของเจ้าหรือ?”หลี่หลงหลินยักไหล่ “ใช่ แล้วยังไง? ในเมื่อไม่สามารถลงโทษได้ หรือจะให้แทงตู้เหวินยวนตายทันทีด้วยดาบเดียว?”ซูเฟิ่งหลิงมองหลี่หลงหลินด้วยความตกใจ “เมื่อกี้เจ้าไม่ได้พูดแบบนี้!”หลี่หลงหลินยิ้ม กล่าวว่า “เชื่อข้า! ภายในสามวัน ข้าจะทำให้ตู้เหวินยวนสารภาพความผิดออกมา!”ซูเฟิ่งหลิงมุ่ยปาก สีหน้าไม่เชื่อ “โม้อีกแล้ว...”แม้ว
เสนาบดีศาลต้าหลี่สั่งนักการว่า “พวกเจ้าพาใต้เท้าตู้กลับไปส่งเข้าคุก และดูแลให้ดีด้วย!”นักการพยักหน้า แล้วคุมตัวตู้เหวินยวนจากไปแต่พวกเขาเพิ่งจะออกจากประตูใหญ่ฟรึ่บ!แสงเย็นเยียบจู่โจมเข้ามา กระบี่อาญาสิทธิ์อันแหลมคมชี้ไปที่คอของตู้เหวินยวนผู้ถือดาบสวมกระโปรงสีแดงเพลิง องอาจสง่างาม ผู้นั้นก็คือซูเฟิ่งหลิงหลี่หลงหลินเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม “ใต้เท้าตู้ พวกเราพบหน้ากันอีกแล้ว!”ที่แท้หลี่หลงหลินกับซูเฟิ่งหลิงที่เดินออกมาก่อน ก็ซ่อนตัวนั่งรอคอยกระต่ายอยู่แถวๆ นั้น รอให้ตู้เหวินยวนปรากฏตัวตู้เหวินยวนมีสีหน้าตกใจจนเกือบฉี่ราด กล่าวเสียงสั่นเครือ “องค์ชายเก้า เจ้าจะเอาอย่างไร? ที่นี่ศาลต้าหลี่ เจ้ากล้าดีนัก กล้าสังหารคนเลยหรือ?”หลี่หลงหลินกล่าวเย็นชา “พูดไร้สาระอะไร! เฟิ่งหลิง ลงมือ!”ซูเฟิ่งหลิงหยิบเชือกออกมา มัดไพล่หลังรั้งคอของตู้เหวินยวนอย่างรวดเร็ว แล้วโยนขึ้นไปบนรถม้าหลี่หลงหลินขึ้นไปบนรถม้าติดตามไปอย่างใกล้ชิด ตะโกนไปยังพวกนักการที่ตะลึงอ้าปากค้าง “ไปบอกใต้เท้าทั้งสามคนของพวกเจ้า ข้าจะพาตู้เหวินยวนไปไต่สวนที่เขาทิศประจิมเอง ให้พวกเขาไม่ต้องกังวล...”เหล่านักการพากันตะล
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ