กงซูหว่านส่ายหัวเบาๆ ใบหน้างดงามไร้ที่เปรียบเต็มไปด้วยความฉงน “ข้าเคยได้ยินแค่น้ำตาลแดง น้ำตาลข้าวมอลท์ น้ำผึ้งเท่านั้น... ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องน้ำตาลทรายขาวมาก่อน! มีน้ำตาลสีขาวด้วยหรือ?”หลี่หลงหลินก็ตระหนักขึ้นมาได้ทันใด เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียด ตั้งแต่ทะลุมิติมายุคนี้ของต้าเซี่ย ก็ยังไม่เคยเห็นน้ำตาลทรายขาว!อย่างไรก็ตาม หลี่หลงหลินจึงเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เอาล่ะ!ถ้าอยากทำต้าอีว่าน ก็ต้องเริ่มจากการทำน้ำตาลทรายขาวก่อน!เมื่อเทียบกับน้ำตาลทรายขาว น้ำตาลแดงมีกากปนมากเกินไป กินได้ไม่มีปัญหา แต่ใช้ในดินปืนไม่ได้โชคดีขั้นตอนการทำน้ำตาลทรายขาวไม่ซับซ้อนใน “คัมภีร์สิ่งประดิษฐ์ธรรมชาติสร้าง” มีวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้องเรียกว่า “วิธีขัดสีน้ำโคลนสีเหลือง”หากผลิตน้ำตาลทรายขาวได้ ไม่เพียงแต่จะใช้ทำดินปืนได้เท่านั้น แต่ยังสามารถขายได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่ปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนได้เท่านั้น แต่ยังทำกำไรได้จำนวนมากด้วย!ในสมัยโบราณ น้ำตาลเป็นของหายาก เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยจริงๆ!โดยเฉพาะทุ่งหญ้าทางเหนือ น้ำตาลทรายขาวเป็นดั่งทองคำ!น้ำตาลทรายขาวและซุปไก่
หนึ่งคือสิ่งที่บันทึกไว้ใน “คัมภีร์สิ่งประดิษฐ์ธรรมชาติสร้าง” นั้นเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น!คือสิ่งที่คนโบราณสร้างขึ้นมาหลอกแต่ทว่า นี่ไม่อาจอธิบายได้ น้ำตาลทรายขาวของยุคโบราณสร้างออกมาอย่างไรสองคือ มีวิธีขัดสีด้วยน้ำโคลนสีเหลืองอยู่จริงๆแต่นี่ก็เป็นความลับทางการค้าที่ถูกส่งต่อปากต่อปากของโรงผลิตน้ำตาลเช่นน้ำโคลนสีเหลือง ในนั้นก็มีบทความจำนวนมาก!น้ำโคลนสีเหลืองธรรมดาจริงหรือ?ดวงตาของหลี่หลงหลินเป็นประกาย เขาจับประเด็นสำคัญได้ “สะใภ้รอง โคลนสีเหลืองนี้ เอามาจากไหน?”กงซูหว่านสับสน “โคลนสีเหลืองมันก็มีอยู่ทุกที่ไม่ใช่หรือ ขุดขึ้นมาจากภูเขา แล้วก็ร่อนอย่างพิถีพิถัน!”หลี่หลงหลินส่ายหัว “ผิดแล้ว! ผิดแล้ว!”กงซูหว่านพูดด้วยความประหลาดใจ “ผิดตรงไหน?”หลี่หลงหลินถอนหายใจ “จริงๆ แล้ว หลักการขัดสีด้วยโคลนสีเหลืองมันง่ายมาก คือการดูดซับกากออกจากน้ำตาลแดง! โคลนสีเหลือธรรมดา แทบจะไม่มีแดงดูดซับมากขนาดนี้!”“วิธีการที่บันทึกไว้ในคัมภีร์เล่มนี้ หลายในพื้นที่ไป่เยว่!”“ดินเหลืองที่นั่นต้องไม่ใช่ดินเหลืองธรรมดา แต่เป็นดินขาวในพื้นที่!”“และเพื่อเลี่ยงการขึ้นรา เมื่อมันผ่านการเผาแล้ว
ใช่ถ่านกัมมันต์ ไม่ใช่ของที่จะทำออกมาได้ง่ายๆประเด็นสำคัญมีอยู่สองข้อ หนึ่งคือสารกัมมันต์สารกัมมันต์ที่พบบ่อยที่สุดก็คือโพแทสเซียมคลอไรด์วิธีนี้ง่ายมาก เพียงเติมน้ำลงในขี้เถ้าไม้ที่มีโพแทสเซียมคลอไรด์อยู่ในนั้นจากนั้น เพียงแค่บดถ่าน ผสมกับขี้เถ้าไม้ จากนั้นก็นำไปรมควันแต่ภาชนะที่รมควัน จะต้องไม่ให้มีอากาศ นี่คือประเด็นที่สอง สำหรับคนโบราณ นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด!แม้แต่เผาอิฐหรือเผาเครื่องปั้นดินเผา ก็ยังไม่สามารถแยกอากาศออกไปได้จริงๆ!หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้นมองปล่องไฟสูงภายในสถาบันวิจัยเขาประจิมด้วยรอยยิ้ม!เตาถลุงเหล็กที่ใช้สำหรับการผลิตเหล็กเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการรมควันถ่านกัมมันต์ไม่ใช่หรือ?หลี่หลงหลินคิดในใจหลายครั้ง เมื่อตัดสินใจว่าไม่มีปัญหาใด ก็บอกวิธีการทำถ่านกัมมันต์ให้กับกงซูหว่านกงซูหว่านขมวดคิ้ว “องค์ชายเก้า ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้านะ! เดิมทีเจ้าบอกว่าเจ้าอยากจะประดิษฐ์อาวุธปืน! แต่สุดท้ายก็อยากจะทำน้ำตาล! ตอนนี้เจ้าอยากจะทำถ่านกัมมันต์อีกแล้ว!”“เหตุใดข้าถึงได้รู้สึกว่าสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่นี่มันตรงกันข้าม...”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สะใภ
“วิเศษมาก!”“นี่มันคือเวทมนตร์ชัดๆ!”เมื่อเหล่าช่างฝีมือเห็นน้ำตาลทรายขาวในภาชนะก็ตกใจ แล้วร้องเฮโลขึ้นมาแววตาที่เป็นประกายลุกโชนจำนวนนับไม่ถ้วน ต่างจับจ้องไปที่ตัวของหลี่หลงหลิน และมันก็เปี่ยมไปด้วยความเลื่อมใส!พูดตามตรงแม้ว่าเหล่าช่างฝีมือจะได้ยินกงซูหว่านพูดว่าหลี่หลงหลินเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ เป็นผู้คิดค้นวิธีทำถลุงเหล็กกล้าด้วยเตาหลอมแต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อจนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตนเองสิ่งที่หูได้ยินอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง สิ่งที่ตาเห็นต่างหากจึงจะเป็นเรื่องจริงในขณะนี้ พวกเขาก็ได้เห็นกับตาแล้วว่าหลี่หลงหลินผลิตน้ำตาลทรายขาวได้จริงๆ และวิธีการทำก็น่าเหลือเชื่อมากสิ่งนี้ล้มล้างความรู้ความเข้าใจของช่างฝีมือทุกคนไปโดยสิ้นเชิง!กงซูหว่านกำหมัดแน่นจนข้อนิ้วกลายเป็นสีขาวเล็กน้อยความตื่นเต้นภายในใจของนาง มันรุนแรงกว่าที่แสดงออกมา!“นี่คือน้ำตาลจริงๆ หรือ?”กงซูหว่านก้าวไปข้างหน้า ปลายนิ้วเรียวยาวของนางจิ้มลงบนน้ำตาลทรายขาว แล้วแลบลิ้นออกมาแล้วเลียเบาๆ“หวานมาก!”ทันใดนั้นดวงตาของกงซูหว่านก็เป็นประกาย รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงามที่เย็นชาของนางไม่มีสตรีนางไห
ซุนชิงไต้เท้าสะเอว แล้วพูดด้วยความโกรธ “ขนมไหว้พระจันทร์ไม่อร่อย! ข้าอยากไปกินของอร่อยๆ ที่หอเทียนเซียง!”หลี่หลงหลินยิ้ม “ไม่ใช่ว่าขนมไหว้พระจันทร์น้ำเชื่อมไม่อร่อย! แต่ขนมไหว้พระจันทร์ใส่น้ำตาลทรายขาวอร่อยมาก!”ซุนชิงไต้มีสีหน้าสงสัย “น้ำตาลทรายขาว? ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน!”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สะใภ้สาม เอาอย่างนี้เถอะ! เจ้าช่วยข้าทำขนมไหว้พระจันทร์ ข้าจะเลี้ยงน้ำตาลทรายขาวเจ้า!”ขณะที่พูด หลี่หลงหลินก็หยิบถุงน้ำตาลทรายขาวออกมาด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ แล้วให้ซุนชิงไต้ดู“นี่คือน้ำตาลหรือ?”เห็นได้ชัดว่าซุนชิงไต้ไม่เชื่อ นางบุ้ยปากกล่าวว่า “น้ำตาลเป็นสีแดง สีเหลือง และสีดำ! จะมีสีขาวได้อย่างไร? เจ้าต้องโกหกข้าแน่ๆ!”หลี่หลงหลินพูดอย่างจนใจ “พี่สะใภ้ นี่เป็นน้ำตาลทรายขาวจริงๆ! ถ้าไม่เชื่อก็ชิมดู!”นี่คือคำที่ซุนชิงไต้รอคอย เอื้อมมือออกไปกำน้ำตาลทรายขาวมากำใหญ่ แล้วยัดใส่ปาก“หวานมาก...”ซุนชิงไต้ไม่เคยกินอะไรที่หวานขนาดนี้ หวานกว่าน้ำผึ้งเสียอีก ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายราวกับดวงดาวเล็กๆ!“อร่อยมาก!”“ข้าอยากกินอีก!”ซุนชิงไต้แลบลิ้นเล็กๆ ของนางออกมา เลียน้ำตา
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวที่หวานจนฟันแทบหลุด แม้ตาคนในราชวงศ์ก็ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน! เมื่อเปรียบเทียบกับผงปรุงรสไก่แล้ว น้ำตาลในสมัยโบราณคืออาวุธลับที่มีพลังการทำลายล้างสูง สามารถพิชิตใจคนทุกคนได้! ในเวลานั้นเป็นช่วงพลบค่ำแล้ว ซูเฟิ่งหลิงขี่ม้าคู่ใจกลับจากการฝึกทหารที่ภูเขาทิศประจิม มาถึงจวนตระกูลซู ทันทีที่นางผูกม้าเสร็จ ก็ได้กลิ่นหอมหวานลอยมาจากในครัว เมื่อตามกลิ่นไปก็ได้เจอกับ “อะไรเนี่ย ทำไมหอมหวานจัง?” หลี่หลงหลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์! ข้าให้พี่สะใภ้สามช่วยทำขนมไหว้พระจันทร์ เจ้าลองชิมดูสักชิ้นสิ!” ซูเฟิ่งหลิงท่าทางหยิ่งยโส “ขนมไหว้พระจันทร์จะอร่อยขนาดไหนกัน! ทั้งแพงทั้งเปรี้ยว...” “เปรี้ยว?” หลี่หลงหลินประหลาดใจ “เจ้าไปกินขนมไหว้พระจันทร์ที่ไหนมา?” ซูเฟิ่งหลิงตอบ “ก็ขนมไหว้พระจันทร์ผลไม้ไง! หอซิ่งฮวาก็มีขายอยู่ ขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นหนึ่งตั้งครึ่งพวงเงินเชียวนะ!” หลี่หลงหลินตกใจ แพงขนาดนั้นเลยหรือ? หนึ่งตำลึงเงินมีค่าเท่าหนึ่งพวงเงิน ขนมไหว้พระจันทร์หนึ่งชิ้นถึงกับต้องใช้ครึ่งตำลึงเงิน นี่แค่ขนมไหว้พระจ
เมื่อซุนชิงไต้ได้ยินว่าพรุ่งนี้จะมีขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวให้กินอีก ก็ยิ้มจนหน้าบานทันที “ตกลง!” นางยอมแบ่งขนมไหว้พระจันทร์ที่เหลือออกมา มอบให้กับฮูหยินผู้เฒ่าซู รวมถึงลั่วอวี้จู๋และหลิ่วหรูเยียน ส่วนกงซูหว่านกำลังยุ่งอยู่ที่สถาบันวิจัยภูเขาทิศประจิม ถึงแม้ในวันไหว้พระจันทร์นางก็ยังต้องทำงานล่วงเวลา จึงไม่ได้ลิ้มรสขนมไว้พระจันทร์นี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะที่สถาบันมีน้ำตาลทรายขาวอยู่ กงซูหว่านจึงไม่ค่อยตื่นเต้นนัก หลังจากลั่วอวี้จู๋และหลิ่วหรูเยียนได้ลิ้มรสขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวแล้ว พวกนางต่างก็ทึ่ง หลิ่วหรูเยียนพูดด้วยความตกใจ “ข้าเคยคิดว่าขนมของสำนักการสังคีตนั้นประณีตมากแล้ว! แต่เมื่อเทียบกับขนมไหว้พระจันทร์น้ำตาลทรายขาวนี่ มันยังห่างชั้นนัก!” ลั่วอวี้จู๋ก็พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ใช่เลย! ตอนที่ข้าอยู่เจียงหนานก็ไม่เคยได้กินขนมรสเลิศเช่นนี้! ถ้านำออกไปขาย ต้องทำเงินได้มหาศาลแน่!” หลี่หลงหลินยิ้ม พร้อมเอ่ยชมเชย “พี่สะใภ้ใหญ่นี่ช่างมีหัวการค้าจริง ๆ! แต่ว่านะ แม้สุราจะหอมแค่ไหนก็ยังกลัวซอยลึก ยังต้องทำการตลาดให้ดีถึงจะได้!” ลั่วอวี้จู๋อึ้งไป “ทำการตลาด?”
หลี่หลงหลินพยายามหาคำพูดอยู่นาน จู่ ๆ ดวงตาก็เปล่งประกาย “เพราะพรุ่งนี้ในวังจะมีงานเลี้ยงครอบครัว! เจ้าคือพระชายา ย่อมต้องไปเข้าร่วม!” ซูเฟิ่งหลิงมุ่ยปาก “อย่ามาโกหกข้า! งานเลี้ยงครอบครัวน่ะจัดตอนกลางคืน ที่ชมจันทร์ไปพลาง รวมญาติไปพลาง การทำขนมไหว้พระจันทร์ทำตอนกลางวันได้ ไม่ต้องรอถึงเวลานั้นเลย!” หลี่หลงหลินถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เด็กโง่คนนี้ ทำไมถึงเริ่มฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ถึงขั้นจับได้ว่าข้าโกหก! หลี่หลงหลินสูดลมหายใจลึก และตัดสินใจใช้ไม้ตาย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “งานเลี้ยงครอบครัวจัดตอนกลางคืนก็จริง! แต่ถ้าข้าคาดไม่ผิด องค์หญิงของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือกับราชครูเกรงว่าจะมาร่วมงานด้วย!” เมื่อซูเฟิ่งหลิงได้ยินก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที และหายใจเร็วขึ้น “จริงหรือ? แต่งานเลี้ยงครอบครัวในวันไหว้พระจันทร์ พวกเขาเป็นคนนอก จะมาทำไม?” หลี่หลงหลินยิ้มเจื่อนๆ “ก็เพราะชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือต้องการสานสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานไงเล่า! และเซียวเม่ยเอ๋อร์เองก็วางแผนที่จะเลือกคู่ครองหลังจากเหล่าองค์ชายได้เลือกไปแล้ว หรือก็คือว่า แม้จะยังไม่ได้ตกลงกันจริงจัง แต่เซียวเม่ยเอ๋อร์ก็ไม่ถ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ