ที่ดินได้มาโดยไม่เสียอะไร อันที่จริงก็คือการปรับที่ดินในสังคมศักดินา นี่ก็คือการเขย่ารากฐาน และเป็นการกระทำของกบฏต่อให้เป็นฮ่องเต้หวู่ก็ไม่สามารถทำได้นับประสาอะไรกับหลี่หลงหลินองค์ชายคนหนึ่งแต่หากพูดว่าเช่าก็ไม่เหมือนกันแล้ว สามารถอ้อมเกล็ดใต้คอของขุนนางชนชั้นสูงได้สำหรับเรื่องละเว้นค่าเช่า กลับพบได้บ่อยครั้งแม้แต่ผู้มีคุณธรรมในท้องถิ่นก็มักละเว้นค่าเช่าที่อยู่บ่อยๆสรุปว่าการกระทำของหลี่หลงหลินนี้ ต่อให้ตู้เหวินยวนจงใจหาเรื่องก็ไม่สามารถก่อเรื่องอันใดได้ คิดเพียงว่าเขาเป็นตัวโง่งม ที่ดินหนึ่งหมื่นหมู่กลับปล่อยเช่าโดยไม่เก็บเงินหนิงชิงโหวตื่นเต้นมาก ค้อมคำนับ “องค์ชายเก้า ข้าขอขอบคุณท่านแทนเหล่าทหารแล้ว!”เขาวาสนาดียิ่งนัก สามารถติดตามหลี่หลงหลินได้บนตัวของหลี่หลงหลินมีกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากผู้อื่นหรืออาจพูดว่าความคิดอ่านของหลี่หลงหลินอยู่เหนือคนในยุคนี้ไกลนักต่อให้เป็นนักปราชญ์ในอดีตก็ไม่สามารถเทียบเขาได้หลี่หลงหลินโบกมือ สีหน้าเรียบเฉย “ก็แค่เรื่องเล็กเท่านั้น! แต่...”ที่นาในภูเขาทิศประจิมต้องถูกจัดสรรปันส่วนทว่าใครเป็นคนไปประกาศเรื่องนี้ ก็ย
“แค่กๆ...”หลี่หลงหลินไอแห้งๆ อยู่สองครั้ง แล้วผลักซูเฟิ่งหลิงออกไป แล้วบ่นว่า “ทั้งตัวมีแต่เหงื่อ...”ซูเฟิ่งหลิงยกข้อศอกขึ้นดม แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าหอมกว่าข้าตายล่ะ”หลี่หลงหลินมุ่ยปาก “เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว เจ้าบอกมาว่ายอมหรือไม่ยอม?”ซูเฟิ่งหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าแบ่งทุ่งนาให้พวกทหาร นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ ข้ามีสิ่งใดจะไม่ยอม? ข้าเต็มใจยอมอย่างแน่นอน”หลี่หลงหลินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเรื่องนี้ก็เป็นอันตกลง...”กงซูหว่านกลับโพล่งขึ้นมาว่า “องค์ชายเก้า ข้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสม”หลี่หลงหลินมีสีหน้าประหลาดใจ มองไปที่กงซูหว่าน แล้วเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “พี่สะใภ้รอง เจ้าคิดว่าการแบ่งที่นาเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือ? ทำไมล่ะ?”หาซูเฟิ่งหลิงพูดเช่นนี้ หลี่หลงหลินก็คงคิดว่านางพูดจาเหลวไหลแต่คนที่ไม่เห็นด้วยคือกงซูหว่านนางคือสตรีที่ฉลาดมากที่สุดบางที นางอาจจะแตกต่างจนมีบางอย่างผิดปกติจริงๆกงซูหว่านขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่หลี่หลงหลิน “เจ้าคิดจะสร้างสถาบันวิจัยอยู่ในเขาทิศประจิมจริงๆ หรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้า “ใช่ เขาทิศประจิมมีฐานที่มั่นของกอง
เช้าวันรุ่งขึ้นหลี่หลงหลินตั้งใจเข้าวังไปทักทายหลินกุ้ยเฟยที่ตำหนักฉางเล่อหลักๆ เพราะเขากังวลว่า ฉินกุ้ยเฟยจะมาหาเรื่องและก่อความวุ่นวายกับเสด็จแม่ของตนหลังจากออกมาจากตำหนักเย็น หลินกุ้ยเฟยสวมชุดพระราชวังที่สวยงาม ประดับศีรษะราคาแพงไว้บนหัว และยิ้มอย่างอ่อนโยน ดูท่าแล้วอารมณ์ดีไม่น้อย“เสด็จแม่”หลี่หลงหลินทักทาย แล้วถามเรื่องจริงจังขึ้นมา “ฉินกุ้ยเฟย ได้มาหาเรื่องอะไรท่านหรือไม่?”หลินกุ้ยเฟยยกมือขึ้น ชี้ไปที่ขันทีด้านนอกประตูสองสามคน “หัวหน้าเว่ยใส่ใจมาก ส่งทหารมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ ฉินกุ้ยเฟยไม่กล้าสร้างเรื่องอีกรอบหรอก ยิ่งไปกว่านั้น....เจ้าหกก็มาตายจาก ฉินกุ้ยเฟยเลยเศร้าโศกเสียใจจนล้มป่วย”หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “ป่วย?”หลินกุ้ยเฟยพยักหน้า “องค์ชายสี่ไปขอยารักษาทั่วทุกแห่ง ตามหาหมอเพื่อมารักษาอาการป่วยให้แม่ของเขา จริงสิ สะใภ้สามของเจ้าชื่อซุนชิงไต้มิใช่หรือ?”หลี่หลงหลินกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ใช่แล้ว ทำไมหรือ?”หลินกุ้ยเฟยพูดอย่างเกรงใจ “ว่ากันว่านางเป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ต่างก็ถูกชาวบ้านเรียกว่าพระโพธิสัตว์ องค์ชายสี่กำลังตามหาตัวนางไปทุกที่อยู
“เด็กโง่คนนี้ หลุดปากง่าย”หลี่หลงหลินนั่งรถม้ากลับไปที่เขาทิศประจิมลั่วอวี้จู๋กำลังพาคนไปวัดที่ดินเพื่อแบ่งให้กับพวกผู้ลี้ภัยส่วนกงซูหว่านก็กำลังพาคนไปทำรากฐานให้กับสำนักวิจัย กำลังยุ่งกันมากหลิ่วหรูเยียนไม่ได้อยู่ในเขาทิศประจิม แต่กำลังพาเหล่าหญิงหม้ายไปตัดชุดมัจฉาบินส่วนซูเฟิ่งหลิงก็ยิ่งมาก นำทหารฝึกซ้อม สั่งให้วิ่งอ้อมเขาทิศประจิมหนึ่งรอบ จนพระอาทิตย์ตกถึงได้กลับมาแม้แต่หนิงชิงโหว ก็กำลังสอนหนังสือให้กับพวกคุณชายเสเพลด้วยทั้งเขาทิศประจิม ทุกคนก็ยุ่งมาก เดินกันอย่างเร่งรีบหลี่หลงหลินเป็นคนเกียจคร้านเพียงคนเดียวที่เดินไปมา“ไม่ต้องทำอะไรเลย ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ!”“บางครั้งมันก็ค่อนข้างน่าเบื่อ...”“อย่างไรก็ไปพูดคุยกับฮูหยินผู้เฒ่าบ่อยๆ ไม่ได้?”หลี่หลงหลินรู้สึกเบื่อหน่าย นั่งอาบแดดอยู่บนโขดหิน“หัวหน้าสำนักศึกษา หัวหน้าสำนักศึกษา...”“เกิดเรื่องแล้ว”นักเรียนหน้าละอ่อนหลายคนวิ่งมาอย่างล้มลุกคุกคาม สีหน้าดูตื่นตระหนกหลี่หลงหลินลืมตาขึ้นแล้วพูดอย่างตื่นเต้น “เกิดอะไรขึ้น?”นักเรียนคนนั้นหายใจหอบแล้วพูดว่า “มีแม่นางน้อยคนหนึ่ง ไม่รู้ว่ามาจากไหน นางล้มอยู่หน้า
“ฮี่ๆๆ!”“คิดไม่ถึงล่ะสิ!”แม่นางน้อยตบท้องกลมๆ ของนางแล้ววางมาดเป็นผู้อาวุโส “ข้าเป็นพี่สะใภ้สามของเจ้า ซุนชิงไต้!"เสียงของนางชัดเจนและไพเราะ การเคลื่อนไหวของนางน่ารักและไร้เดียงสา ให้คนรู้สึกตลกเหมือนเด็กกำลังแกล้งเป็นผู้ใหญ่หลี่หลงหลินมองไปที่ซูเฟิ่งหลิงด้วยความสงสัย “นางเป็นพี่สะใภ้สามจริงๆ หรือ?”“จะไม่ใช่ได้ยังไงล่ะ?” ซูเฟิงหลิงกลอกตามองไปที่หลี่หลงหลินแล้วรีบไปหาซุนชิงไต้ พูดด้วยความกังวลว่า “พี่สะใภ้สาม เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”ซุนชิงไต้กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้าแค่แกล้งหมดสติ!”ซูเฟิ่งหลิงกัดริมฝีปาก “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้! เจ้าสุนัขหลี่หลงหลินเจ้า ไม่ได้แตะต้องอะไรเจ้าใช่หรือไม่! เขาชั่วร้ายมาก...”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกต่อให้ลามกขนาดไหน ก็ไม่แตะต้องสาวน้อยนางหนึ่งหรอกกระมังหลี่หลงหลินคิดอยู่พักหนึ่ง รู้สึกว่ามันเป็นความผิดของเขายุคนี้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีข้าวกิน โดยเฉพาะสตรี ส่วนมากจะผอมและตัวเล็กจนยากที่จะบอกอายุที่แท้จริงของนางได้ในบรรดาญาติสตรีของตระกูลซู ลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่าน หลิ่วหรูเหยียน และซูเฟิ่งหลิง ต่างเป็นหญิงสาวงดงามขาเรียวยาว เอวบาง และห
ราวกับผีที่หิวโหยกลับชาติมาเกิด ไม่ได้กินอาหารมาแปดชาติซูเฟิ่งหลิงกระตือรือร้นมาก นางตักผักใส่ชามของซุนชิงไต้พร้อมทั้งเกลี้ยกล่อมนาง “พี่สะใภ้สาม เจ้าต้องกินเยอะๆ นะ! ยังไงซะ องค์ชายเก้าก็เป็นคนเลี้ยง ดังนั้นกินให้เต็มที่!”ไม่เพียงแต่หลี่หลงหลินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหนิงชิงโหวและบัณฑิตหยิ่งยโสที่ตามมาทั้งหมดก็ตกตะลึงเช่นกัน“สาวน้อยคนนี้คือหมอเทวดาซุนชิงไต้จริงๆ หรือ?”“เรื่องทักษะทางการแพทย์ของนางยังไม่แน่ชัด แต่นางดูกินได้เยอะ!”“ตัวเล็กๆ แบบนี้กินได้เยอะขนาดนี้ได้ยังไง มันแปลกมาก!”หลี่หลงหลินมองดูซุนชิงไต้กินอาหารราวอย่างตะกละตะกลาม เหมือนกับคลื่นลมคลื่นฝน ทำลายจานแล้วจานเล่า และคร่ำครวญว่านางเกิดมาเสียเปล่า!ไม่ต้องพูดถึงทักษะการรักษาของนางเป็นอย่างไร พูดถึงเรื่องที่นางกินได้มากขนาดนี้ แต่ทำไมยังผอมในยุคปัจจุบัน จะต้องเป็นราชากินจุระดับโลกแน่!“เอ่อ...”“อิ่มแล้ว! สบายจริงๆ!”ซุนชิงไต้กินปลาและเนื้อจนหมดโต๊ะ จากนั้นก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับเรอออกมาอย่างสบายใจ “ไม่ได้กินอะไรสบายๆ แบบนี้มานานแล้ว! องค์ชายเก้า เจ้าช่างเป็นคนดีจริงๆ”หงายบัตรคนดีติดต่อกันถึงสองครั้ง ท
ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ซุนชิงไต้ก็ตรวจผู้ป่วยตนครบทุกคนแล้วดวงตาโตของนางจ้องมองไปที่หลี่หลงหลิน “น่องไก่ที่พวกเราตกลงกันไว้ล่ะ?”หลี่หลงหลินตกใจ แล้วมองไปที่ความยุ่งเหยิงบนโต๊ะ “นี่เจ้ายังกินได้อีกหรือ?”ซุนชิงไต้เม้มปาก แล้วทำแก้มป่อง “ข้าเอกลับไปกินตอนดึกไม่ได้หรือ?”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกความจุอาหารของสตรีผู้นี้ดีกว่าทักษะทางการแพทย์เสียอีก!หลี่หลงหลินได้แต่สั่งให้คนไปเอาน่องไก่สองชิ้นมาให้ชุนชิงไต้ซุนชิงไต้ใส่น่องไก่เข้าไปในอกเสื้อของนางแล้วจากไปอย่างมีความสุข คิดจะซ่อนตัวแทะมันใต้ผ้าห่มซูเฟิ่งหลิงเหนื่อยมาทั้งวัน จึงไม่คิดจะกลับไปที่จวนตระกูลซู แต่อยู่ที่เขาทิศประจิมถึงยังไงที่เขาทิศประจิมก็มีห้องว่างมากมาย หากไม่เข้าไปอยู่เลย ก็อาจจะเสียเปล่านางหาว “ข้าจะไปนอนแล้ว”“ช้าก่อน”หลี่หลงหลินหยุดซูเฟิ่งหลิงเอาไว้ “สะใภ้สามอายุเท่าไหร่กันแน่?”ซูเฟิ่งหลิงกลอกตามอง “เจ้าคิดอะไร? ไม่รู้หรือว่าอายุของเด็กสาวเป็นความลับ ห้ามถามสุ่มสี่สุ่มห้า ยังไงก็เถอะ อายุของพี่สะใภ้สามก็พอๆ กับข้านั่นแหละ...”หลี่หลงหลินถามแปลกๆ “แล้วนางกับพี่สามตระกูลซูรู้จักกันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงก็
“พวกขุนนางก็มีปากเสียงทะเลาะกันทุกวันในท้องพระโรง!”“ไหนจะวังหลัง ลูกชายของฉินกุ้ยเฟยตาย นางก็เอาแต่อยากตายทั้งวัน ตอนนี้ก็ป่วยหนักไม่ดีขึ้น!”“จะให้ข้ากินลงได้อย่างไร?”“มีแค่เจ้าเก้าเท่านั้น ที่ทำให้ข้าสบายใจได้บ้าง!”เมื่อฮ่องเต้หวู่นึกถึงหลี่หลงหลิน คิ้วที่ขมวดก็เลิกขึ้นอีกครั้ง แล้วถามว่า “ช่วงนี้มีข่าวอะไรจากเจ้าเก้าบ้างหรือไม่?”เว่ยซวินกระซิบว่า “องค์ชายเก้าสร้างเรื่องใหญ่อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ...”ฮ่องเต้หวู่เลิกคิ้ว สนใจขึ้นมา “เรื่องใหญ่? เกิดเรื่องอะไรขึ้นเว่ยซวินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “องค์ชายเก้ากำลังวัดที่ดินและจัดสรรที่ดินหนึ่งหมื่นไร่ให้กับผู้ลี้ภัยเพื่อทำการเกษตร ได้ยินว่ายังไม่ต้องเสียค่าเช่า! ขุนนางไม่พอใจมาก ต่างก็คิดว่าการทำเช่นนี้ขององค์ชายเก้านั้นไม่เหมาะสม แต่ก็ยังหาจุดบกพร่องไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อฮ่องเต้หวู่ได้ยินดังนั้น เขาก็ถูมือแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สมกับเป็นเจ้าเก้า แบ่งเบาความกังวลของข้าได้ทุกเวลาจริงๆ! เดิมทีข้ายังกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของพวกลี้ภัยนอกเมือง แต่เจ้าเก้าก็แบ่งที่นาให้พวกเขาทำกิน!”“วิธีนี้ ผู้ลี้ภัยไม่เพียงแต่จะมีที่ดินให้เพาะปลูกเท่านั้
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ