“ฮี่ๆๆ!”“คิดไม่ถึงล่ะสิ!”แม่นางน้อยตบท้องกลมๆ ของนางแล้ววางมาดเป็นผู้อาวุโส “ข้าเป็นพี่สะใภ้สามของเจ้า ซุนชิงไต้!"เสียงของนางชัดเจนและไพเราะ การเคลื่อนไหวของนางน่ารักและไร้เดียงสา ให้คนรู้สึกตลกเหมือนเด็กกำลังแกล้งเป็นผู้ใหญ่หลี่หลงหลินมองไปที่ซูเฟิ่งหลิงด้วยความสงสัย “นางเป็นพี่สะใภ้สามจริงๆ หรือ?”“จะไม่ใช่ได้ยังไงล่ะ?” ซูเฟิงหลิงกลอกตามองไปที่หลี่หลงหลินแล้วรีบไปหาซุนชิงไต้ พูดด้วยความกังวลว่า “พี่สะใภ้สาม เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่”ซุนชิงไต้กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้าแค่แกล้งหมดสติ!”ซูเฟิ่งหลิงกัดริมฝีปาก “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้! เจ้าสุนัขหลี่หลงหลินเจ้า ไม่ได้แตะต้องอะไรเจ้าใช่หรือไม่! เขาชั่วร้ายมาก...”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกต่อให้ลามกขนาดไหน ก็ไม่แตะต้องสาวน้อยนางหนึ่งหรอกกระมังหลี่หลงหลินคิดอยู่พักหนึ่ง รู้สึกว่ามันเป็นความผิดของเขายุคนี้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีข้าวกิน โดยเฉพาะสตรี ส่วนมากจะผอมและตัวเล็กจนยากที่จะบอกอายุที่แท้จริงของนางได้ในบรรดาญาติสตรีของตระกูลซู ลั่วอวี้จู๋ กงซูหว่าน หลิ่วหรูเหยียน และซูเฟิ่งหลิง ต่างเป็นหญิงสาวงดงามขาเรียวยาว เอวบาง และห
ราวกับผีที่หิวโหยกลับชาติมาเกิด ไม่ได้กินอาหารมาแปดชาติซูเฟิ่งหลิงกระตือรือร้นมาก นางตักผักใส่ชามของซุนชิงไต้พร้อมทั้งเกลี้ยกล่อมนาง “พี่สะใภ้สาม เจ้าต้องกินเยอะๆ นะ! ยังไงซะ องค์ชายเก้าก็เป็นคนเลี้ยง ดังนั้นกินให้เต็มที่!”ไม่เพียงแต่หลี่หลงหลินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหนิงชิงโหวและบัณฑิตหยิ่งยโสที่ตามมาทั้งหมดก็ตกตะลึงเช่นกัน“สาวน้อยคนนี้คือหมอเทวดาซุนชิงไต้จริงๆ หรือ?”“เรื่องทักษะทางการแพทย์ของนางยังไม่แน่ชัด แต่นางดูกินได้เยอะ!”“ตัวเล็กๆ แบบนี้กินได้เยอะขนาดนี้ได้ยังไง มันแปลกมาก!”หลี่หลงหลินมองดูซุนชิงไต้กินอาหารราวอย่างตะกละตะกลาม เหมือนกับคลื่นลมคลื่นฝน ทำลายจานแล้วจานเล่า และคร่ำครวญว่านางเกิดมาเสียเปล่า!ไม่ต้องพูดถึงทักษะการรักษาของนางเป็นอย่างไร พูดถึงเรื่องที่นางกินได้มากขนาดนี้ แต่ทำไมยังผอมในยุคปัจจุบัน จะต้องเป็นราชากินจุระดับโลกแน่!“เอ่อ...”“อิ่มแล้ว! สบายจริงๆ!”ซุนชิงไต้กินปลาและเนื้อจนหมดโต๊ะ จากนั้นก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับเรอออกมาอย่างสบายใจ “ไม่ได้กินอะไรสบายๆ แบบนี้มานานแล้ว! องค์ชายเก้า เจ้าช่างเป็นคนดีจริงๆ”หงายบัตรคนดีติดต่อกันถึงสองครั้ง ท
ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ซุนชิงไต้ก็ตรวจผู้ป่วยตนครบทุกคนแล้วดวงตาโตของนางจ้องมองไปที่หลี่หลงหลิน “น่องไก่ที่พวกเราตกลงกันไว้ล่ะ?”หลี่หลงหลินตกใจ แล้วมองไปที่ความยุ่งเหยิงบนโต๊ะ “นี่เจ้ายังกินได้อีกหรือ?”ซุนชิงไต้เม้มปาก แล้วทำแก้มป่อง “ข้าเอกลับไปกินตอนดึกไม่ได้หรือ?”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกความจุอาหารของสตรีผู้นี้ดีกว่าทักษะทางการแพทย์เสียอีก!หลี่หลงหลินได้แต่สั่งให้คนไปเอาน่องไก่สองชิ้นมาให้ชุนชิงไต้ซุนชิงไต้ใส่น่องไก่เข้าไปในอกเสื้อของนางแล้วจากไปอย่างมีความสุข คิดจะซ่อนตัวแทะมันใต้ผ้าห่มซูเฟิ่งหลิงเหนื่อยมาทั้งวัน จึงไม่คิดจะกลับไปที่จวนตระกูลซู แต่อยู่ที่เขาทิศประจิมถึงยังไงที่เขาทิศประจิมก็มีห้องว่างมากมาย หากไม่เข้าไปอยู่เลย ก็อาจจะเสียเปล่านางหาว “ข้าจะไปนอนแล้ว”“ช้าก่อน”หลี่หลงหลินหยุดซูเฟิ่งหลิงเอาไว้ “สะใภ้สามอายุเท่าไหร่กันแน่?”ซูเฟิ่งหลิงกลอกตามอง “เจ้าคิดอะไร? ไม่รู้หรือว่าอายุของเด็กสาวเป็นความลับ ห้ามถามสุ่มสี่สุ่มห้า ยังไงก็เถอะ อายุของพี่สะใภ้สามก็พอๆ กับข้านั่นแหละ...”หลี่หลงหลินถามแปลกๆ “แล้วนางกับพี่สามตระกูลซูรู้จักกันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงก็
“พวกขุนนางก็มีปากเสียงทะเลาะกันทุกวันในท้องพระโรง!”“ไหนจะวังหลัง ลูกชายของฉินกุ้ยเฟยตาย นางก็เอาแต่อยากตายทั้งวัน ตอนนี้ก็ป่วยหนักไม่ดีขึ้น!”“จะให้ข้ากินลงได้อย่างไร?”“มีแค่เจ้าเก้าเท่านั้น ที่ทำให้ข้าสบายใจได้บ้าง!”เมื่อฮ่องเต้หวู่นึกถึงหลี่หลงหลิน คิ้วที่ขมวดก็เลิกขึ้นอีกครั้ง แล้วถามว่า “ช่วงนี้มีข่าวอะไรจากเจ้าเก้าบ้างหรือไม่?”เว่ยซวินกระซิบว่า “องค์ชายเก้าสร้างเรื่องใหญ่อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ...”ฮ่องเต้หวู่เลิกคิ้ว สนใจขึ้นมา “เรื่องใหญ่? เกิดเรื่องอะไรขึ้นเว่ยซวินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “องค์ชายเก้ากำลังวัดที่ดินและจัดสรรที่ดินหนึ่งหมื่นไร่ให้กับผู้ลี้ภัยเพื่อทำการเกษตร ได้ยินว่ายังไม่ต้องเสียค่าเช่า! ขุนนางไม่พอใจมาก ต่างก็คิดว่าการทำเช่นนี้ขององค์ชายเก้านั้นไม่เหมาะสม แต่ก็ยังหาจุดบกพร่องไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อฮ่องเต้หวู่ได้ยินดังนั้น เขาก็ถูมือแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สมกับเป็นเจ้าเก้า แบ่งเบาความกังวลของข้าได้ทุกเวลาจริงๆ! เดิมทีข้ายังกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของพวกลี้ภัยนอกเมือง แต่เจ้าเก้าก็แบ่งที่นาให้พวกเขาทำกิน!”“วิธีนี้ ผู้ลี้ภัยไม่เพียงแต่จะมีที่ดินให้เพาะปลูกเท่านั้
วันรุ่งขึ้นหลี่หลงหลินยืนอยู่พิงราวบันได แล้วมองไปที่เขาทิศประจิม มองดูผู้คนที่พลุกพล่าน จากนั้นก็ทอดถอนใจ “มันช่างน่าเบื่อจริงๆ”ซุนชิงไต้กำลังเคี้ยวน่องไก่อยู่ข้างๆ แล้วทอดถอนใจเช่นเดียวกัน “ช่างน่าเบื่อจริงๆ”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกในฐานะหมอประจำโรงเรียนคนเดียวของเขาทิศประจิม เดิมทีควรจะยุ่งจนไม่มีเวลาแต่เพราะทักษะการรักษาของนางมันสูงมากเพียงหนึ่งชั่วยามสั้นๆ อาการป่วยที่สะสมมาหลายเดือนก็หายดีหมดแล้วหากนางไม่เบื่อแล้วจะมีใครเบื่อ?หลี่หลงหลินเอ่ยแนะนำ “สะใภ้สาม ทักษะทางการแพทย์ของเจ้านั้นล้ำเลิศมาก เคยคิดหรือไม่ว่าจะรับคนไว้สอนทักษะทางการแพทย์ให้พวกนางโดยเฉพาะ?”ซุนชิงไต้ตอบง่ายๆ ว่า “ไม่”หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “ทำไม?”ซุนชิงไต้ตอบว่า “น่าเบื่อ”หลี่หลงหลินก็ใช้ของหลอกล่อ “ข้าเพิ่มน่องไก่ให้เจ้าดีหรือไม่”ซุนชิงไต้ยิ้มหวานราวดอกไม้ พยักหน้าตอบว่า “ได้”หลังจากอยู่ด้วยกันมาหลายวัน หลี่หลงหลินก็รู้นิสัยของซุนชิงไต้ชัดเจนดีแล้วยกเว้นเรื่องการกิน การประเมินเรื่องราวต่างๆ ของนางจะมีเพียงคำว่าน่าเบื่อเท่านั้นแม้แต่การรักษาผู้ป่วย สำหรับซุนชิงไต้แล้ว ก็เป็นเพียงวิธีการหาเ
แต่เขาพยายามอย่างสุดความสามารถ นับว่าเป็นฮ่องเต้ที่ดีคนหนึ่งถ้าฮ่องเต้หวู่เป็นอะไรจริงๆ อย่างเช่นอยู่ๆ ก็เกิดป่วยขึ้นมา เช่นนั้นต้าเซี่ยก็อาจจะพังพินาศเป็นเสี่ยงๆ เกิดสงครามไปทั่วทุกที่ แม้แต่แผ่นดินก็จะหายไปสามารถกล่าวได้เลยว่าชะตาชีวิตของราษฎรทั้งหมดในต้าเซี่ย ล้วนถูกกำหนดโดยฮ่องเต้หวู่หลี่หลงหลินจึงพูดอย่างตรงไปตรงมากับซุนชิงไต้ “สะใภ้สาม ตามข้าเข้าไปวังไปรักษาอาการประชวรของเสร็จพ่อเถอะ”ซุนชิงไต้ตอบกลับสั้นๆ ได้ใจความ “ไม่ไป น่าเบื่อ”หลี่หลงหลินใช้ไม้ตาย “ในวังมีของกินมากมาย ถ้าเจ้าตกลงเข้าวัง ข้าจะให้ห้องเครื่องทำของอร่อยให้เจ้ากิน”ซุนชิงไต้น้ำลายไหล รีบพยักหน้า “ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะรออะไรอีกล่ะ ยังไม่รีบไปอีก?”เว่ยซวินมีสีหน้าประหลาดใจ มองไปที่หลี่หลงหลินแล้วกล่าวว่า “องค์ชายเก้า เด็กผู้นี้คือใคร? ทำไมเจ้าไม่ไปหาหมอเทวดาซุน มาพูดไร้สาระอะไรกับนาง?”หลี่หลงหลินทอดถอนใจกล่าวว่า “เว่ยกงกง นางนี่แหละคือสะใภ้สามของข้าซุนชิงไต้หมอเทวดาที่ว่า...”เว่ยซวินตกใจมาก สายตาจ้องมองไปที่ซุนชิงไต้อยู่ครึ่งวัน “แต่ว่าไม่ว่าจะมองอย่างไรนางก็เหมือนเด็กคนหนึ่ง...”หลี่หลงหลินขี้เกีย
ตำหนักจิ่นซิ่วฉินกุ้ยเฟยนอนอยู่บนเตียงที่ปิดด้วยม่านหลายชั้น ดวงตาตาของนางปิดสนิท และใบหน้าของนางก็เหมือนกระดาษทองคำองค์ชายสี่ หลี่จือดูแลนางอย่างดี เช็ดหน้าผากของฉินกุ้ยเฟยอย่างอ่อนโยนฮ่องเต้หวู่นั่งข้างๆ ใบหน้าถมึงทึง จ้องมองหมอหลวงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา “อาการของฉินกุ้ยเฟยเป็นอย่างไรบ้าง?”หมอหลวงก้มศีรษะลง “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ฉินกุ้ยเฟยยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่โกรธเคืองมาก จึงด่าว่า “ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ! แม้แต่อาการป่วยเล็กน้อยเช่นนี้ก็รักษาไม่ได้ ข้าจะเก็บพวกเจ้าเอาไว้แล้วมีประโยชน์อะไร!”พวกหมอหลวงตัวสั่นไม่กล้าพูดอะไรฮ่องเต้หวู่หงุดหงิดมาก เดินไปมาและถามขันทีที่อยู่ข้างๆ เขาว่า “เว่ยซวินหายไปนานแล้ว ทำไมหมอเทวดาซุนยังไม่มาอีก?”หลี่จือพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสด็จพ่อ ข้าได้ยินมาว่าหมอเทวดาซุนมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมีจิตใจเมตตาของพระโพธิสัตว์ ไม่มีทางไม่ช่วยคนที่กำลังจะตาย! ข้าเกรงว่า...เจ้าเก้ากำลังสร้างปัญหาอยู่...”ใบหน้าของฮ่องเต้หวู่มืดลง แล้วพูดด้วยความโกรธ “เจ้าสี่ พอได้แล้ว! ทำไมเจ้าไม่รู้จั
ข้าผู้เป็นถึงขันทีเก้าพันปี ผู้ยิ่งใหญ่ในราชสำนัก เล่นงานเหล่าขุนนางและขุนศึกได้ดั่งใจ จะมาถูกหลอกจากการที่เด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งเล่นแผลงๆ ได้อย่างไร? และยังอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้หวู่อีก เสียหน้ายิ่งนัก! เว่ยซวินจ้องมองหลี่หลงหลินอย่างโกรธเคือง "องค์ชายเก้า ทำไมท่านไม่บอกข้าแต่แรก..." หลี่หลงหลินยักไหล่ "ข้าก็นึกว่าเว่ยกงกงแกล้งกันเล่นๆ กับพี่สะใภ้สามอยู่! ไม่คิดว่าท่านจะเชื่อจริงๆ" เว่ยซวินโกรธจนหน้ามืดตามัวแทบจะเป็นลมล้มพับไป แต่ซุนชิงไต้กลับหัวเราะคิกคัก และรู้สึกว่ามันสนุกดี ฮ่องเต้หวู่มองหญิงสาวหน้าหวาน ด้วยใบหน้าขมวดคิ้วแล้วมองไปที่หลี่หลงหลิน "เจ้าเก้า นางคือซุนชิงไต้พี่สะใภ้สามของเจ้าหรือ?" หลี่หลงหลินพยักหน้า "พ่ะย่ะค่ะ" ฮ่องเต้หวู่ถามต่อ "ฝีมือด้านการแพทย์ของนางเป็นอย่างไร?" หลี่หลงหลินตอบอย่างไม่ลังเล "ฝีมือลึกล้ำดุจเทพเซียน!" ในใจแอบบ่นว่า ฝีมือการกินก็สุดยอดไม่แพ้กัน! ฮ่องเต้หวู่ยังคงเชื่อมั่นในหลี่หลงหลินมาก เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "ดี! งั้นก็ขอให้หมอเทวดาซุนรักษาฉินกุ้ยเฟยเถอะ!" ถึงแม้ว่าซุนชิงไต้จะดูร่าเริงเหมือนเด็กๆ แต่จริงๆ แล้วนางมีหัวใจของหมอ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ