หรงกั๋วกงจางเฉวียนเอ่ยออกมาอย่างตกตะลึง “ฝ่าบาท องค์ชายเก้าถวายเหล็กกล้าตีร้อยครั้งก็เพื่อบ้านเมืองพ่ะย่ะค่ะ!”เว่ยซวินรีบพูด “ใช่แล้ว ฝ่าบาท! ขอเพียงพระองค์ออกคำสั่งให้กรมโยธาผลิตเหล็กกล้าตีร้อยครั้งจำนวนมากออกมา ช่วงเวลาจะได้บดขยี้ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็อยู่อีกไม่ไกลแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เหล่าขุนนางบู๊เร่งไล่ตามหลัง ต่างพากันพูด “พวกกระหม่อมขอขอบพระทัยองค์ชายเก้าแทนทหารของต้าเซี่ยพ่ะย่ะค่ะ!”ทันใดนั้นเสียงตบบั้นท้ายม้าประจบเอาใจก็ดังขึ้นระลอกหนึ่งสีหน้าตู้เหวินยวนไม่สบอารมณ์สุดขีดองค์ชายเก้าทำถึงขั้นนี้ มอบวิธีทำเหล็กกล้าตีร้อยครั้งออกมา!นั่นคือเหล็กกล้าตีร้อยครั้งเชียวนะ!ความดีความชอบยิ่งใหญ่เพียงนี้ ฝ่าบาทแต่งตั้งองค์ชายเก้าเป็นอ๋องโดยตรงก็เหลือเฟือ!เพียงเหล่าขุนนางบุ๋นกลุ่มหนึ่งก็คิดเขย่าตำแหน่งขององค์ชายเก้า?ยากเกินไป!“เฮ้อ การต่อสู้ครั้งนี้ พ่ายแพ้อีกแล้ว!”ตู้เหวินยวนทอดถอนใจภายในใจแตกต่างจากที่ผ่านมา ครั้งนี้ตู้เหวินยวนยอมรับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง“เห็นที ทำได้เพียงเปลี่ยนวิธีการ สังหารด้วยคำชมเสียแล้ว!”ดวงตาตู้เหวินยวนกลิ้งกลอก สมองปรากฏแผนโหดเหี้ยมอำมห
สีพระพักตร์ฮ่องเต้หวู่ดีพระทัยมาก รีบตรัสถาม “เช่นนั้นเจ้าต้องการสิ่งใด? ขอเพียงเจ้าพูด เราก็จะประทานให้เจ้า!”ครั้งนี้ฮ่องเต้หวู่ดีใจอย่างแท้จริง อยากประทานรางวัลให้หลี่หลงหลินเว้นเสียแต่เงิน ก็คือตำแหน่งมิใช่หรือเหล็กกล้าตีร้อยครั้ง แลกกับตำแหน่งอ๋อง นี่เหลือเฟือมากนัก!สีหน้าหลี่หลงหลินลำบากใจอยู่มาก “ลูกมีคำขอไม่สมเหตุสมผลอย่างหนึ่ง! แต่ลูกกลัวเสด็จพ่อและเหล่าขุนนางไม่รับปากพ่ะย่ะค่ะ!”สายตาฮ่องเต้หวู่ตกลงบนตัวตู้เหวินยวน ตรัสว่า “คำขอของเจ้าเก้า เราต้องรับปากแน่! ขุนนางผู้ภักดี พวกเจ้าเล่า? คงไม่ห้ามเราประทานรางวัลให้เจ้าเก้าหรอกกระมัง?”ตู้เหวินยวนชะงักองค์ชายเก้าอันตรายยิ่งนัก!รู้อุบายผู้อื่นแล้วยังใช้อุบายนั้นโจมตีย้อนกลับได้ว่องไวเพียงนี้?แต่ถึงอย่างไรตู้เหวินยวนก็คือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ รีบคลี่ยิ้มเอื้อนเอ่ย “ฝ่าบาท ดูพระองค์รับสั่งเถิด! ประทานรางวัลแก่องค์ชายเก้า เป็นกระหม่อมเสนอเอง ไฉนเลยจะบิดพลิ้วได้เล่า!”“วันนี้กระหม่อมขอพูดตรงนี้เลย!”“หากคำขอขององค์ชายเก้า พรั่งพร้อมไปด้วยเหตุและผล ทำเพื่อราชสำนัก เพื่อต้าเซี่ย เพื่อฝ่าบาท!”“กระหม่อมก็ไม่มีเหตุผลให้ป
ฮ่องเต้หวู่เงียบงันไม่พูดจาเขากำลังชั่งน้ำหนักความร้ายแรงที่สตรีเป็นขุนนาง ไปจนถึงผลประโยชน์ที่เหล็กกล้าตีร้อยครั้งนำมาให้ ตกลงอย่างใดมีน้ำหนักมากกว่ากันหลี่หลงหลินตีฝีปากกับตู้เหวินยวนต่อ“ใต้เท้าตู้ ท่านเสียมารยาทแล้ว!”“องค์ชายเก้า ข้ามิได้เสียมารยาท! ท่านพูดว่าคนผู้นี้เป็นสตรี ข้าย่อมไม่รับปากตั้งแต่แรก!”“สตรีแล้วอย่างไร? เหตุใดไม่สามารถเป็นขุนนางได้?”“นักปราชญ์กล่าวว่าสตรีและคนถ่อยเลี้ยงดูยากเฉกเดียวกัน!”“แม่ท่านก็เป็นสตรี! นี่ก็เลี้ยงท่านมามิใช่หรือ?”“องค์ชายเก้า ท่านๆ...ท่านพูดจาหยาบคายเกินไปแล้ว ไร้ความสุภาพนอบน้อม!”เห็นได้ชัดว่าตู้เหวินยวนมิใช่คู่ต่อสู้ของหลี่หลงหลิน ถูกด่าก็ตาเหลือกจวนเจียนจะหมดสติไปแล้ว“พอแล้ว!”ฮ่องเต้หวู่เอ่ยขัดทั้งสองที่กำลังทะเลาะกัน“เจ้าเก้า!”ฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรหลี่หลงหลิน เปล่งเสียงหนัก “พี่สะใภ้รองของเจ้าคนนี้ต้องเข้ากรมโยธาให้ได้กระนั้นรึ?”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เหล็กกล้าตีร้อยครั้งนี้เป็นพี่สะใภ้รองค้นพบ...”ซูเฟิ่งหลิงตกตะลึง จับจ้องหลี่หลงหลินเหล็กกล้าตีร้อยครั้งนี้เป็นท่านค้นพบและสอนพี่สะใภ้รองมิใช่หรือ?เหตุใดเป็นพี่
หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “เสด็จพ่อ ตู้เหวินยวนจิตใจสกปรก ลูกสกปรกยิ่งกว่า! คนชั่วกำราบคนชั่ว! ลูกไม่กลัวพวกเขา!”ฮ่องเต้หวู่เอือมระอา “นี่มิใช่เรื่องกลัวหรือไม่กลัว...”หลี่หลงหลินเอ่ยปากสีหน้าจริงจัง “เสด็จพ่อ วิจารณ์ต่อหน้าก็ดี ฝีมือของอันธพาลก็ช่างเถอะ! ลูกไม่กลัว! แต่ลูกกลับกังวลเรื่องหนึ่ง...”ฮ่องเต้หวู่ชะงัก ตรัสถาม “เรื่องใด?”หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงหนัก “ลูกกำลังสงสัย ภายในราชสำนักนี้ ต่อให้ไม่มีคนสอดแนมของเผ่าหมาน แต่ก็มีพี่สามอยู่ด้วย! เคล็ดลับเหล็กกล้าตีร้อยครั้งนี้สำคัญมากนัก!”“หากความลับแพร่งพรายออกจากกรมโยธาไปถึงเผ่าหมานหรือซีเหลียง”“น่ากลัวว่า...”“ผลที่ตามมาไม่อยากจะนึกถึง!”ฮ่องเต้หวู่ได้ยิน ตกตะลึงพรึงเพริดความคิดของเขายังอยู่ที่อุบายเจ้าเล่ห์ของตู้เหวินยวน ยังคิดขั้นนี้ไม่ถึงใคร่ครวญดูหนึ่งรอบ เหงื่อเย็นผุดทั่วทั้งสรรพางค์กายฮ่องเต้หวู่ถ้อยคำนี้ของเจ้าเก้ามิได้เจตนาพูดเพื่อทำให้ผู้ฟังตื่นตระหนกภายในราชสำนักจะต้องมีคนมีเจตนาซ่อนเร้น คิดเป็นอื่นอยู่อย่างแน่นอน!หาไม่แล้วตกลงใครคือผู้แย้มพรายเบาะแสของกองทัพสกุลซูกันเล่า?ยังมีคนสอดแนมของเผ่าหมานอีกด้วย
หลายวันมานี้ กงซูหว่านร้อนใจมากป่าไผ่ไม่สงบอีกต่อไป ชาในมือเองก็ไม่หอมหวานแล้ว“องค์ชายเก้าสามารถพูดเอาชนะใจฝ่าบาท ให้ข้าเข้าวังเป็นขุนนางได้จริงหรือ?”“อุปนิสัยของข้านี้ เหมาะสมลอยเด่นอยู่เหนือเหล่าขุนนาง มอบใบหน้าประดับยิ้มให้ผู้อื่น ประจบสอพลอเอาใจคนกระนั้นรึ?”“แต่หากข้าไม่เข้ากรมโยธา เช่นนั้นสกุลกงซูจะทำเยี่ยงไร...”กงซูหว่านรู้สึกสับสนภายในใจพูดตามสัตย์จริง กงซูหว่านไม่ยินดีเดินบนเส้นทางสายนี้ อยู่ร่วมกับขุนนางทุจริตเหล่านั้นนางเพียงอยากหาสถานที่สงบแห่งหนึ่ง ศึกษาพัฒนาอย่างเต็มที่ ทำให้วิชากลไกของสกุลกงซูโด่งดังเลื่องชื่อปัญหาที่มีอยู่ในมือไม่มีการสนับสนุนจากราชสำนัก ต่อให้กงซูหว่านคิดค้นสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ออกมา แต่มีประโยชน์อันใดเล่า?ยังมิต้องเก็บไว้บนหิ้ง ปล่อยฝุ่นเกาะ ลงท้ายก็ถูกคนลืมหรอกหรือ?“พี่รอง...”“ข้าควรทำเยี่ยงไร?”กงซูหว่านมองภาพเหมือนของสามีผู้ล่วงลับ น้ำตาไหลนองหน้าอย่างไม่รู้ตัว“พี่สะใภ้รอง!”“พี่สะใภ้รอง!”ซูเฟิ่งหลิงโผล่พรวดพราดเข้ามาในลานป่าไผ่ ความสุขเกลื่อนหน้า “พี่สะใภ้รอง มีข่าวดี! ฝ่าบาทรับปาก ให้ท่านเข้าเป็นขุนนางในกรมโยธาแล้ว! มิ
อุปนิสัยของกงซูหว่านเป็นเช่นไร พวกนางล้วนรู้ดีนางเป็นสตรีดื้อรั้นมากคนหนึ่ง!หากตัดสินใจเรื่องใดไปแล้ว ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!ในเมื่อนางพูดว่าไม่อยากเข้าราชสำนักเป็นขุนนาง เช่นนั้นก็ไม่มีวันไป!ซูเฟิ่งหลิงเผยสีหน้าว้าวุ่น “พี่สะใภ้รอง ท่านไม่ยอมเข้าราชสำนักเป็นขุนนาง ไฉนไม่พูดตั้งแต่แรก? ฝ่าบาทล้วนรับปากไปแล้ว! หากท่านไม่ไป นี่ต้องถูกลงโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง! ฝ่าบาทจะต้องไม่พอพระทัยเป็นแน่!”กงซูหว่านขมวดคิ้ว “อ้างว่าป่วย! หากไม่ได้จริงๆ ก็แกล้งตาย! พวกเจ้าขุดสุสานให้ข้าแห่งหนึ่ง ตรงข้ามกันข้าสามารถอยู่ภายในนั้น ร้อยปีไม่ออกมาได้!!”“.....”ทุกคนพูดไม่ออกแล้วแม้แต่แกล้งตายกงซูหว่านก็คิดออกมาได้ เห็นได้ชัดว่าความคิดไม่ยอมเป็นขุนนางนี้แข็งแกร่งมาก!ปัญหาก็คือเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเหล็กกล้าตีร้อยครั้งต่อให้กงซูหว่านแกล้งตาย หลบอยู่ภายในสุสาน ฮ่องเต้ก็ไม่มีวันเลิกรา!“พี่สะใภ้รอง! พี่สะใภ้รอง...”ตอนนี้เอง หลี่หลงหลินที่มีสีหน้าดีอกดีใจมาที่ลานป่าไผ่เพื่อแจ้งข่าวดีต่อกงซูหว่าน“หา?”หลี่หลงหลินเปิดประตู พบญาติฝ่ายหญิงล้วนอยู่ทั้งหมด พูดยิ้มๆ “ทุกคนมาอยู่ที่นี่ทั้งหมดเลยหรื
สถาบันวิจัยภูเขาประจิม?ตนเองไม่จำเป็นต้องประจบเอาใจ ไม่ต้องพึ่งพาผู้มีอำนาจ ราชสำนักยังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด?กงซูหว่านตกตะลึง คล้ายกำลังอยู่ในห้วงฝัน!อยู่ที่ภูเขาทิศประจิมแยกออกจากโลกภายนอก อยู่ร่วมกับสหายรู้ใจ ร่วมกันประดิษฐ์สิ่งของ ค้นคว้าวิชากลไกไม่ต้องตีฝีปาก ไม่ต้องไปจัดการความสัมพันธ์อันวุ่นวายของคน อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่ายในการค้นคว้าสำคัญที่สุดคือสิ่งที่พวกเขาวิจัยออกมา ราชสำนักนำไปใช้สร้างคุณประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง มิได้กลายเป็นขยะไร้ประโยชน์!นี่มิใช่ชีวิตในฝันของนางหรอกหรือ?“องค์ชายเก้า นี่คือเรื่องจริงหรือ?”เสียงกงซูหว่านสั่นๆ คล้ายรอยแตกบนธารน้ำแข็งอายุนับหมื่นปีหลี่หลงหลินพยักหน้า สีหน้าเคร่งขรึม “ไม่กล้าปิดบังพี่สะใภ้!”ธารน้ำแข็งภายในหัวใจของกงซูหว่านพังทลายลงในทันใด ไม่อาจข่มอารมณ์ของตนได้อีก น้ำตาเอ่อล้น คุกเข่ากับพื้นพร้อมทั้งคำนับ “ขอบคุณมาก องค์ชายเก้า!”หลี่หลงหลินประคองกงซูหว่านขึ้น “พี่สะใภ้รอง ทำเช่นนี้ไม่ได้! เฟิ่งหลิง เจ้ารีบประคองพี่สะใภ้รองเข้าห้อง ให้นางสงบอารมณ์! ช่วงบ่ายพวกเราจะไปภูเขาทิศประจิมเพื่อเลือกสถานที่สถาบันวิจัย
หลี่หลงหลินพูดต่อ “ที่พักเล่า?”หนิงชิงโหวส่ายหน้าดังเดิม “ก็ไม่ใช่”หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “เช่นนั้นข้าก็ไม่เข้าใจแล้ว! กินดีอยู่ดี ให้พวกเขาร่ำเรียนโดยไม่เสียเงิน ทุกเดือนยังส่งเงินกลับบ้านของพวกเขาได้! ยังมีอันใดให้กังวล?”หนิงชิงโหวกระซิบ “พวกเขากังวลคนในครอบครัว สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยนอกเมืองไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว...”หลี่หลงหลินตกตะลึงคนเป็นทหาร ที่กังวลกลับมิใช่ตนเอง เพราะพวกเขาตัดสินใจเข้าสนามรบอยู่ทุกเมื่อ เตรียมเสียสละเพื่อบ้านเมืองพวกเขากังวลก็คือคนในครอบครัว!ตนเองกินดีอยู่ดีที่ภูเขาทิศประจิม มีเนื้อกินทุกมื้อคนในครอบครัวกลับอยู่อย่างอดอยากที่ค่ายผู้ลี้ภัยบัดนี้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยยังมีเบี้ยเลี้ยงทหาร สถานการณ์ของคนในครอบครัวของพวกเขาล้วนลำบากเพียงนี้ หากเกิดสงคราม พวกเขาเข้าร่วมออกศึกในสนามรบ สู้จนตายเล่า?ครอบครัวของพวกเขาก็ไม่ต้องเป็นผู้ลี้ภัยไร้บ้าน กลายเป็นขอทานหรอกหรือ?หนิงชิงโหวหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยว่า “เตี้ยนเซี่ย ข้าเองก็ใคร่ครวญมานานมากแล้ว! ต้องการคลายความกังวลของพวกศิษย์ มีเพียงทางเดียวก็คือมอบเงินให้ครอบครัวของพวกเขา...”หลี่หลงหลินปฏิ