แชร์

บทที่ 261

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
ด่าหรือชมทำไมถึงฟังไม่ออก?

ข้ากำลังด่าเจ้าอยู่...

ครู่ต่อมา ตู้เหวินยวนก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว

เวลาล่วงเลยไป!

องค์ชายเก้าในวันนี้ไม่ใช่คนเสเพลไร้ประโยชน์อย่างในปีนั้นอีกแล้ว!

แต่เป็นคนที่มีความสามารถในการต่อสู้สูง เป็นนักกวีผู้มีความรู้มากมาย

ในหมู่คนทั่วไป ยังคงมองว่าองค์ชายเก้าเป็นดวงดาวแห่งการศึกษาที่ลงมาจุติยังโลกมนุษย์

เมื่อครู่ตนเพิ่งจะด่าจางเฉวียน บอกว่าลูกชายของเขาแย่กว่าดวงดาวแห่งการศึกษา

นี่ใช่คำด่าเสียที่ไหน

นั่นเป็นคำชื่นชมชัดๆ!

ปอดของตู้เหวินยวนแทบจะระเบิด

ด้านโต้แย้ง ตนพ่ายแพ้ให้องค์ชายเก้าครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังพอทน

เจ้าเด็กคนนี้ ปากคอเราะราย มีความคิดเฉียบไว และฉลาดนิดหน่อย

แต่จางเฉวียนเป็นผู้สูงศักดิ์คำพูดคำจาเงอะงะไม่ทันใคร ตนจึงได้พ่ายแพ้ไป

แบบนี้มันยากจะทนไหวจริงๆ!

ตู้เหวินยวนสะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธและพูดอย่างด้วยความโกรธ“หรงกั๋วกง ข้าจะไม่โต้เถียงกับเจ้า!”

หลังจากพูดเช่นนี้แล้ว ตู้เหวินยวนก็ยกมือคำนับต่อฮ่องเต้หวู่ “ฝ่าบาท บัณฑิตที่หยิ่งยโสอย่างหนิงชิงโหวไม่สามารถเป็นขุนนางได้! กระหม่อมไม่เห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ...”

ขุนนางคนอื่นๆ ยกมือคำนับ “พวกกระหม่อมก็ไม่เ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 262

    จางเฉวียนเองก็ประหลาดใจมาก มองดูหลี่หลงหลินด้วยสายตาล้ำลึกการพระราชทานสอบขุนนาง เป็นเรื่องใหญ่จางเฉวียนไม่แปลกใจเลยที่ฮ่องเต้จะเห็นด้วยอย่างไรก็ตาม สิ่งที่จางเฉวียนไม่คาดคิดก็คือขุนนางอย่างตู้เหวินยวนกลับเห็นด้วยอย่างเต็มใจเช่นนี้!เห็นได้ชัดว่าจิตใจของพวกเขา ถูกหลี่หลงหลินควบคุมเอาไว้ในกำมือได้แล้ว!“ความสามารถขององค์ชายเก้าช่างยากแท้หยั่งถึง!”จางเฉวียนตกใจไม่น้อยเขารู้ว่า ในราชสำนักนอกจากกองกำลังเดิมแล้ว ก็ยังมีกองกำลังใหม่ที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็เปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาพรวมของต้าเซี่ยในราชสำนัก!แต่สำหรับชนชั้นสูงอย่างจางเฉวียน ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร!อย่างไรเสีย องค์ชายเก้าก็เป็นชนชั้นสูงมาแต่กำเนิด และเป็นคนฝั่งตนเองด้วย!ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยของตระกูลซู ได้รับการสืบทอดมาจากตระกูลซู...ขณะที่จางเฉวียนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ฮ่องเต้หวู่ก็ตรัสว่า “หรงกั๋วกง เรื่องการสอบขุนนางพระราชทาน เจ้าคิดอย่างไร?”จู่ๆ จางเฉวียนก็ได้สติกลับมา แล้วรีบกล่าวว่า “ฝ่าบาทต้องการพระราชทานเปิดการสอบขุนนาง รับสมัครผู้มีความสามารถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคว้น นับว่าเป็นเรื่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 263

    ดูเหมือนว่าตอนที่นางตัดแต่งกิ่งไม้เมื่อครู่นี้ มือหยกของนางถูกกิ่งดอกไม้แทง จนกระทั่งล้างมือถึงพบเข้าหลี่หลงหลินรีบคว้านิ้วที่บาดเจ็บของหลินกุ้ยเฟย แล้วใส่เข้าไปในปากของเขา พร้อมกับดูดมันเบาๆหลินกุ้ยเฟยหน้าแดงก่ำ “ลูกชาย มันสกปรก...”หลี่หลงหลินเงยหน้าขึ้น พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ ท่านลืมไปแล้วหรือ ตอนเด็กๆ ข้าติดเล่นมากจนนิ้วเจ็บ ท่านเองก็ช่วยข้าทำความสะอาดแผลเช่นนี้...ท่านยังไม่รังเกียจว่ามันจะสกปรก แล้วลูกจะรังเกียจท่านได้อย่างไร?”หลินกุ้ยเฟยนึกถึงสมัยที่หลี่หลงหลินยังเป็นเด็ก ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ใช่แล้ว ตอนนั้นเจ้ายังเด็ก เจ้าซนมากจริงๆ เจ้าเหมือนลิง มักจะปีนขึ้นปีนลูกที่สูงตลอด...”ในขณะที่ช่วยหลินกุ้ยเฟยพันผ้าพันแผลที่นิ้วของนาง หลี่หลงหลินก็พูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านแม่ ท่านชอบดูแลดอกไม้ ข้าไม่ขัดข้อง! แต่ว่างาตัดแต่งกิ่งไม้เช่นนี้เป็นงานลำบาก ให้บ่าวรับใช้ทำก็ได้...”หลินกุ้ยเฟยมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาของหลี่หลงหลิน พร้อมกล่าวว่า “ลูกชายข้าโตขึ้นแล้วจริงๆ รู้จักห่วงใยแม่ด้วย! แต่ว่าเรื่องความสุขที่เจ้าไม่เข้าใจ ก็ต้องไปลงมือทำเอง ถึงจะน่าสนใจ! ““จริงสิ เจ้าม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 264

    ทันใดนั้นฮ่องเต้หวู่ก็ลืมตาขึ้น แล้วพูดด้วยความประหลาดใจ “ความดีความชอบของข้า? แต่ว่าเมื่อก่อนนี้ข้าละเลยเจ้าเก้า ไม่เคยสั่งสอนแนะนำอะไรเจ้าเก้าเลยนะ...”หลินกุ้ยเฟยหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ท่านไม่ได้สอนบทเรียนกับเขา แต่ท่านก็เป็นแบบอย่างให้เขา! ลูกชายเคยบอกหลายครั้งว่าเขาอยากเป็นแม่ทัพเหมือนกับท่าน ต่อสู้ในสนามรบและจงรักภักดีต่อแคว้น...”ร่างกายของฮ่องเต้หวู่สั่นสะท้าน เขากล่าวด้วยความตกใจ “หรือว่าแม่ทัพชราในบทกวีหม่านเจียงหง ไม่ใช่แม่ทัพอาวุโสซู แต่เป็น...ข้า!”เดิมทีฮ่องเต้หวู่คิดว่าตัวเอกของบทกวีหม่านเจียงหงจะเป็นแม่ทัพอาวุโสซูแต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป!เพราะอย่างไร ครั้งหนึ่งตนก็เคยเข้าร่วมกองทัพ พิชิตทั่วสารทิศ และยังเคยประสบความสำเร็จมากมายจอนผมทั้งสองข้างของตนก็เริ่มขาว ผมขาวแต่เยาว์วัยหลินกุ้ยเฟยกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “บทกวีหม่านเจียงหงของลูกชาย! ต้องหมายถึงฝ่าบาทแน่นอนเพคะ! อย่างไร แม่ทัพอาวุโสซูก็เสียสละชีวิตเพื่อแคว้นไปแล้ว! แล้วจะรอบรวมใต้หล้าได้อย่างไร? ผู้ที่ทำเรื่องนี้ได้ มีเพียงฮ่องเต้คนเดียวเพคะ!”ฮ่องเต้หวู่รู้สึกตื่นเต้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 265

    “อย่างแรก การพระราชทานการสอบในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อวันพระราชสมภพของไทเฮา ท่านเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง ถือเป็นการแสดงความกตัญญู!”“สอง หม่อมฉันได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าการสอบขุนนางต้าเซี่ยไม่ยุติธรรม มีการทุจริตต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว! หากท่านเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง ท่านก็จะสามารถให้ความยุติธรรมต่อบัณฑิตทั่วหล้าได้!”“สาม ท่านเป็นผู้ออกคำถามด้วยตัวเอง จะได้เป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความสามารถในการบริหารบ้านเมือง!”“หม่อมฉันไม่ได้มีเจตนาเห็นแก่ตัวจริงๆ หม่อมฉันคิดไตร่ตรองเพื่อฮ่องเต้เท่านั้นเพคะ...”ยิ่งหลินกุ้ยเฟยพูดมากเท่าไหร่ น้ำตาของนางก็ยิ่งไหลลงมามากเท่านั้น เหมือนดอกสาลี่ที่เปื้อนฝน ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกสงสารทันใดนั้น ฮ่องเต้หวู่ก็ใจอ่าน เอื้อมมือไปโอบเอวหลินกุ้ยเฟยเอาไว้ แล้วช่วยพยุงนางขึ้นมาพร้อมขอโทษ “สนมที่รักของข้า ข้าตำหนิเจ้าผิดแล้ว! การสอบขุนนางพระราชทานครั้งนี้ ข้าจะไม่ใช้ขุนนางเหล่านั้น ข้าจะออกหัวข้อด้วยตนเอง และเป็นผู้ตรวจการการสอบด้วยตัวเอง!”“แต่ข้าควรจะออกหัวข้ออะไรดีล่ะ?”หลินกุ้ยเฟยเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้ม นางเอื้อมมือปิดหูแล้วกล่าวว่า “หม่อมฉันไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 266

    หนิงชิงโหวเดินมาพร้อมกับบัณฑิตหยิ่งยโส มาถึงกระท่อมที่ทรุดโทรมหลังหนึ่งนี่คือกระท่อมที่คับแคบและทรุดโทรมที่เขาอาศัยอยู่นับตั้งแต่หนิงชิงโหวสอบตก และถูกปลดจากเกียรติยศ ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวันๆ แทบไม่เหมือนคนตอนนี้หลายคนมารวมตัวกันอยู่ที่หน้ากระท่อมมุงจากมีชาวบ้านมาดูความความครึกครื้นนอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากกรมพิธีการด้วยผู้นำก็คือบัณฑิตจากสำนักฮั่นหลินก็คือเฉินตันชิงอาจารย์ผู้มีพระคุณของชิงหนิงโหว!“ท่านอาจารย์...”“ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”หนิงชิงโหวเอามือปิดหน้า ไม่กล้ามองไปที่เฉินตันชิงเขาคือคนที่หยิ่งผยองที่สุดหลังจากสอบตก หนิงชิงโหวก็ตัดสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นในสำนักศึกษา และยิ่งไม่ไปพบหน้าเฉินตันชิงอาจารย์ผู้มีพระคุณของตนเลยแต่ไม่คิดว่าวันนี้เฉินตันชิงจะมาที่นี่ด้วยตัวเองหนิงชิงโหวรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าแสดงความเย่อหยิ่งต่อหน้าอาจารย์ของตน“ชิงโหว...”เฉินตันชิงถอนหายใจ น้ำตาไหลพราก “เจ้าไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง อาจารย์เองที่ไม่มีหน้ามาพบเจ้า! เรื่องในปีนั้น อาจารย์ไร้ความสามารถเอง ไม่อาจปกป้องเจ้าได้...”เฉินตันชิงเป็นบัณฑิตของสำนักฮั่นหลิน เป็นผ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 267

    ต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน!คราวนี้การสอบขุนนางพระราชทาน ต้องเป็นเวทีเต้นรำที่องค์ชายเก้าสร้างให้ตนโดยเฉพาะ!และเป็นเวทีเต้นรำที่ยุติธรรม!น้ำตาไหลพรากออกมาจากหางตาหนิงชิงโหว เขาคุกเข่าแล้วโขกศีรษะไปกับพื้น “ขอบพระทัยในความเมตตาขององค์ชายเก้า! ชิงโหวไม่มีอะไรจะตอบแทนในชีวิตนี้! มีเพียงขอสาบานจะติดตามไปจนวันตาย จนร่างกายจะแหลกสลาย!”เมื่อมาถึงจุดนี้ หนิงชิงโหวบัณฑิตที่หยิ่งยโสอันดับหนึ่ง รู้สึกซาบซึ้งใจต่อหลี่หลงหลินเป็นอย่างมาก!เฉินตันชิงเห็นท่าทางเช่นนี้ของหนิงชิงโหวเจ้าไม่ขอบพระทัยฮ่องเต้ แต่ไปขอบพระทัยองค์ชายเก้าทำไม?ฮ่องเต้พระราชทานการสอบขุนนาง เกี่ยวอะไรกับองค์ชายเก้า?เฉินตันชิงคิดว่าหนิงชิงโหวคงจะทนทุกข์ทรมานมากเกินไป จนเกิดปัญหากับสมองของเขา ในใจก็รู้สึกเศร้าจนพูดอะไรไม่ออก ตบไหล่เขาเบาๆ แล้วพาคนจากไปในพริบตา คนที่มามุงดูความคึกคักที่กระท่อมก็แยกย้ายกันไป เหลือเพียงหนิงชิงโหวและกลุ่มบัณฑิตผู้หยิ่งยโสเท่านั้นอย่างไรมันก็แค่การกู้เกียรติยศกลับมาเท่านั้นไม่ใช่ว่าสอบผ่านขุนนาง และยิ่งไม่ใช่สอบได้อันดับจอหงวนเดิมทีนี่ก็เป็นขั้นตอนเล็กๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไร!ในเวลา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 268

    องค์ชายเก้า!ในความเงียบสงัดภายในหอคัมภีร์เหวินยวนบรรดาขุนนางต่างตกตะลึง และมีสีหน้าประหลาดใจวันนี้องค์ชายเก้าอยู่ในห้องทรงพระอักษรแต่ขุนนางส่วนใหญ่เห็นว่าองค์ชายเก้าเป็นเหมือนอากาศ แทบไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาพอคิดอย่างรอบคอบแล้วแท้จริงแล้วเป็นองค์ชายเก้าที่คอยชี้แนะการพัฒนาของเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นบทกวีสามบท หรือหนิงชิงโหวและการสอบขุนนางพระราชทาน ล้วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์ชาย!ตั้งแต่เริ่มแรกก็มีความขัดแย้งระหว่างขุนนางกับองค์ชายเก้า!แต่หลังจากที่หรงกั๋วกงมาถึง ความขัดแย้งก็เปลี่ยนไปเป็นการต่อสู้ระหว่างสองกลุ่มหลัก ชนชั้นสูงและขุนนาง และองค์ชายเก้าถูกเพิกเฉยไป!จริงๆ แล้วองค์ชายเก้าคือผู้บงการเบื้องหลังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่กลุ่มขุนนางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชนชั้นสูง ขันที และแม้แต่ฮ่องเต้ ล้วนกลายเป็นเบี้ยในมือของเขาและกำลังถูกบงการอยู่ในมือของเขา!ซี๊ด...เสียงสูดหายใจด้วยความตกใจก็ดังขึ้นใบหน้าของขุนนางทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยองค์ชายเก้าที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง จะฉลาดขนาดนี้ตอนนี้ปัญหามาแล้วองค์ชายเก้าต้องการทำอะไร?พวกขุนนางไม่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 269

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ขุนนางทุกคนก็ตกตะลึงหนิงชิงโหวได้เป็นจอหงวนไม่ว่าคนโง่อย่างจางอี้ก็สามารถกลายเป็นบัณฑิตชั้นสูงได้หรือ?องค์ชายเก้าดูแคลนระบบการสอบขุนนางที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปีนี้ต่ำไปหรือไม่?นอกเสียงจากว่าจะโกง!ส่วนคำถามนั้น ฮ่องเต้จะเป็นคนออกหัวข้อเอง ขัดขวางเส้นทางของการเล่นพรรคเล่นพวกและการทุจริตของขุนนางพวกขุนนางล้วนเป็นคนฉลาด แต่ก็ยังไร้มาตรการรับมือองค์ชายเก้ามีวิธีการอะไร ถึงสามารถรับประกันได้ว่าหนิงชิงโหวและจางอี้ได้?ตู้เหวินยวนส่ายหัว แล้วถอนหายใจ “นี่คือสิ่งที่ข้าคิดไม่ออก! ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตจอหงวน หรือบัณฑิตชั้นสูง ในเงื่อนไขที่ยุติธรรม นอกจากการแข่งขันเพื่อความสามารถและการเรียนรู้ที่แท้จริงแล้ว ก็ยังต้องอาศัยโชคด้วย...”“สรุปแล้ว ข้าคิดว่า ต่อให้ความคิดขององค์ชายเก้าจะพิถีพิถันแค่ไหน จะฉลาดล้ำลึกแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำได้!”ขุนนางคนหนึ่งพูดเสียงต่ำว่า “ถ้าเกิดว่า... ถ้าเกิดว่าองค์ชายเก้ามีวิธีการจริงๆ ล่ะ ให้หนิงชิงโหวและจางอี้สอบผ่าน จะทำอย่างไร?”ดวงตาของตู้เหวินยวนก็เย็นชาขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็คงต้องใช้วิธีการทุกอย่าง สู้กันให้ตายไปทั้งสองฝ่าย

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1030

    คำพูดครึ่งแรกของหลี่หลงหลิน ฮ่องเต้หวู่ฟังแล้วก็เบิกบานใจ สีหน้าท่าทางผ่อนคลาย แม้พระองค์จะทรงมีอายุเกินห้าสิบแล้ว ร่างกายก็ร่วงโรยลงทุกวัน มีโอรสเพียงเก้าคน ไม่สามารถให้กำเนิดคนที่สิบได้ แต่ฮ่องเต้หวู่ก็ยังรู้สึกว่าตนเองยังหนุ่มแน่น! บุรุษจนวันตายก็ยังคงเป็นเด็กหนุ่ม ฮ่องเต้หวู่ก็เช่นกัน! จนถึงบัดนี้ ฮ่องเต้หวู่ยังคงฝันหวานอยู่บ่อยครั้งว่าตนเองนำทัพสามเหล่าทัพ ออกรบด้วยตนเอง โบกมือเพียงครั้งเดียว หมานอี๋ก็มลายหายไป อันที่จริง ฮ่องเต้หวู่ไม่คิดจะสละราชสมบัติเลย ใครเล่าไม่อยากเป็นจักรพรรดิ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรพรรดิเช่นฮ่องเต้หวู่ ที่ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกรมาหลายสิบปี แต่กลับต้องคอยประนีประนอม ถูกเหล่าขุนนางควบคุม บัดนี้ พระองค์ทรงกุมอำนาจไว้ในมือ ได้ลิ้มรสชาติของอำนาจแล้ว สละราชสมบัติ? ฮ่องเต้หวู่ไม่ยอม! จนกระทั่งฮ่องเต้หวู่ได้ยินสองคำสุดท้าย ก็ขมวดคิ้ว และถามด้วยความประหลาดใจ “นอนพัก หมายความว่าอย่างไร?” หลี่หลงหลินตกใจจนเหงื่อแตก โชคดีที่ฮ่องเต้หวู่เป็นคนโบราณ ไม่เข้าใจความหมายของคำว่านอนพัก มิฉะนั้น พระองค์คงจะจับเขาถลกหนังทั้งเป็นแน่ จักรพ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1029

    เดิมทีห้องขังหนึ่งห้อง หากมีคนอยู่สามถึงห้าคน ก็ถือว่าแออัดมากแล้ว แต่ตอนนี้กลับยัดคนเข้าไปสามสี่สิบคน แออัดราวกับปลากระป๋อง ไม่มีแม้แต่ที่ให้วางเท้า หอบูชาฟ้าเทียนถานที่เดิมทีอึกทึกครึกโครม บัดนี้กลับเงียบสงัดในพริบตา ผู้คนที่เหลืออยู่ ต่างหวาดผวา ไม่มีใครคาดคิด ความวุ่นวายครั้งใหญ่ จะยุติลงด้วยวิธีนี้ สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือ มาตรการอันเฉียบขาดขององค์รัชทายาทหลี่หลงหลิน! พระองค์ช่างกล้าหาญยิ่งนัก! บัณฑิตทรงคุณวุฒิทั้งสิบสองคนแห่งต้าเซี่ย นอกจากซ่งชิงหลวนที่เสียชีวิตไปแล้ว บัณฑิตทรงคุณวุฒิอีกสิบเอ็ดคนที่เหลือ รวมถึงเสิ่นชิงโจว ต่างก็ถูกจับขังคุก! คราวนี้ หากหลี่หลงหลินมีใจเมตตา ไม่สามารถถอนรากถอนโคนสำนักปราชญ์ได้ พระองค์จะถูกบัณฑิตทั่วแผ่นดินด่าทอว่าอย่างไร? “ไป! รีบกลับบ้าน!” “ต่อไปนี้ห้ามมุงดูเรื่องสนุก!” “ต่อให้ฟ้าถล่ม ก็ห้ามมุงดูเรื่องสนุก!” “มุงดูเรื่องสนุก จะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้!” เหล่าราษฎรมีสีหน้าหวาดกลัว พากันแยกย้ายออกจากหอบูชาฟ้าเทียนถาน มีเด็กหนุ่มที่ไม่ยอมไป ก็ถูกบิดามารดาบิดหู ลากตัวกลับไป ตั้งแต่นี้ไป เกรงว่าราษฎรเมืองหลวงส่วนให

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1028

    เหล่าขุนนางต่างสะใจกับความทุกข์ของผู้อื่น เยาะเย้ยราษฎร “สมองพวกเจ้า ถูกลาเตะมาหรือ!” “คำพูดขององค์รัชทายาท พวกเจ้าก็ยังเชื่อ?” “เขาขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าเล่ห์ แม้แต่พวกเรายังสู้ไม่ได้ นับประสาอะไรกับพวกเจ้า?” “ฮ่า ๆ สมน้ำหน้า!” ฉินฮั่นหยางรีบลุกขึ้นจากพื้น ใบหน้ายังคงบวมเป่ง ท่าทางสะใจยิ่งทำให้ดูน่าเกลียด “ฮึ่ม ๆ ๆ และแล้วพวกเจ้าก็มีวันนี้? กฎแห่งกรรมตามสนอง!” เมื่อครู่เขาแกล้งหมดสติ หากไม่ยอมอดทนแสร้งทำเป็นตาย เขาอาจจะถูกเจิ้งถูฮู่ตีตายไปแล้ว! ปัง! ฉินฮั่นหยางได้ทีรีบเดินเข้าไป เตะเจิ้งถูฮู่ เจิ้งถูฮู่เจ็บปวด ร้องออกมาเบา ๆ ดวงตาคมกริบดุจมีด จ้องมองไปยังฉินฮั่นหยาง ในใจของเขารู้สึกไม่ยินยอม อันที่จริง เมื่อครู่เขาออมมือ ใช้เพียงสามส่วนของแรง หากเจิ้งถูฮู่ใช้กำลังเท่าที่ใช้ฆ่าหมูในแต่ละวัน ตบหน้าฉินฮั่นหยางเพียงครั้งเดียว คงแปลกมากถ้าหัวเขาไม่หลุด! “น่าเสียดาย...” เจิ้งถูฮู่ถอนหายใจ “รู้เช่นนี้ ก็ไม่น่าออมมือ ยอมเสี่ยงชีวิต กำจัดคนชั่วคนนี้เสียก็ดี! ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว” ในโลกนี้ ไม่มียาที่กินแล้วจะย้อนเวลากลับไปได้ นอกจากความเสียใจแล้ว เจิ้งถูฮู่กล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1027

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ สำนักปราชญ์สะสมทรัพย์สินไว้อย่างมหาศาล กระทำการชั่วร้ายมากมาย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ลำพังแค่ค่าเล่าเรียนของสำนักศึกษาที่ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นที่น่าตกตะลึง ชาวบ้านทั่วไป ไม่มีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียน! บุตรชายของเจิ้งถูฮู่เฉลียวฉลาด มีพรสวรรค์ในการเรียน แต่เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน จึงไม่ได้เข้าเรียน ต้องมาช่วยเจิ้งถูฮู่ฆ่าหมู เป็นการเสียพรสวรรค์ไปอย่างน่าเสียดาย เพียงพริบตา ฉินฮั่นหยางก็ถูกตีจนหมดสติ ศีรษะบวมเป่งราวกับหัวหมู บนใบหน้าสามารถขูดน้ำมันออกมาได้ถึงสองเหลียง เหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีสภาพดีไปกว่ากัน บางคนฉวยโอกาสตอนชุลมุนถอดชุดบัณฑิตออก บางคนหลบซ่อนอยู่ในฝูงชน บางคนหมอบอยู่บนพงหญ้า เหล่าราษฎรมีสายตาที่เฉียบคม สามารถค้นหาบัณฑิตทรงคุณวุฒิทั้งสิบคนออกมาได้ทั้งหมด เพียะ...เพียะ...เพียะ... เสียงตบหน้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงร้องโหยหวนและเสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดดังไม่ขาดสาย บัณฑิตทรงคุณวุฒิทั้งสิบคนถูกตบจนหมดสติ ยังมีบัณฑิตอีกนับพันคน กุมท้อง กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1026

    “หนี?” ฉินฮั่นหยางนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ขมวดคิ้วมุ่น เมื่อครู่เขายังโอ้อวดว่า หากฮ่องเต้หวู่ไม่ลงโทษองค์รัชทายาทหลี่หลงหลิน เขาก็จะไม่ลุกขึ้นจากที่นี่ ตอนนี้กลับจะต้องหนี? เช่นนี้แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ต่อไปจะใช้ชีวิตอย่างไร? “ท่านบัณฑิตทั้งหลาย!” “ก็แค่ราษฎรธรรมดา!” “จะมีอะไรน่ากลัว?” “พวกท่านกลัว แต่ข้าไม่กลัว!” ฉินฮั่นหยางลูบเครา ทำท่าทางราวกับเป็นผู้สูงส่ง อ๊าก! ร่างหนึ่งร้องโหยหวน ลอยมากระแทกพื้นตรงหน้าฉินฮั่นหยาง กลิ้งอยู่ครู่หนึ่งจึงหยุดนิ่ง ฉินฮั่นหยางหดรูม่านตาจนเท่ารูเข็ม เพ่งมองอยู่ครู่ใหญ่จึงจำได้ว่า คนผู้นี้คือศิษย์ของตน! แต่ถูกตีจนใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ไม่ต้องพูดถึงตนเองที่เป็นอาจารย์ ต่อให้เป็นแม่แท้ ๆ มาเห็นก็คงจำไม่ได้ “โหดร้าย!” ฉินฮั่นหยางรู้สึกหวาดหวั่น ความกล้าที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็มลายหายไป! “ใช่แล้ว!” “ราษฎรที่หยาบคายเหล่านี้ ลงมือโดยไม่ยั้งมือ!” “พวกเราเหล่าบัณฑิต จดจ่ออยู่กับการอ่านตำรา ไม่เคยจับอาวุธ จะไปสู้พวกอันธพาลเหล่านี้ได้อย่างไร?” “บัณฑิตฉิน วีรบุรุษย่อมไม่ยอมเสียเปรียบในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ! ห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1025

    พวกเขาจะไปเป็นหุ่นเชิดให้องค์รัชทายาท ทำร้ายสำนักปราชญ์ที่มีรากฐานแข็งแกร่งไปทำไม? อันที่จริง คำพูดเหล่านี้ก็มีเหตุผลอยู่บ้าง คนเราหากไม่เห็นแก่ตัวเสียบ้าง ก็จะถูกสวรรค์ลงโทษ ชาวบ้านตาดำ ๆ ไม่มีอำนาจวาสนา การรักษาตัวรอดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด! แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง องค์ชายใหญ่ สำนักปราชญ์ และเหล่าขุนนางร่วมมือกันขัดขวางไม่ให้ฝ่าบาทยกเว้นภาษีสามปี? การกระทำเช่นนี้เป็นการแย่งชิงผลประโยชน์ของคนทั้งแผ่นดิน! เพราะอย่างไรเสีย ฝ่าบาทก็เอ่ยออกมาแล้วว่าจะยกเว้นภาษี ราษฎรต่างก็มีผลประโยชน์เป็นของตนเอง! หลี่เทียนฉี่เป็นองค์ชาย เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ไม่สามารถแตะต้องได้ เหล่าขุนนางมีตำแหน่ง มีฐานะเป็นขุนนาง ก็แตะต้องไม่ได้เช่นกัน แต่พวกท่านเหล่าบัณฑิตทรงคุณวุฒิ และบัณฑิตทั้งหลายเล่า? ก็เป็นแค่บัณฑิตตกยากเท่านั้น จะมีอะไรให้น่าเกรงขาม! ต่อให้พวกท่านสำนักปราชญ์จะเป็นก้นเสือ วันนี้ข้าก็จะลองลูบดู! ในหมู่ราษฎร มีแกนนำหลายคนตะโกนขึ้นว่า “ตี!” “ตีพวกสุนัขรับใช้พวกนี้ให้หนัก!” “มีองค์รัชทายาทและฝ่าบาทคอยหนุนหลัง พวกเราจะกลัวอะไร?” มวลชนที่ไร้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1024

    หลี่หลงหลินคุกเข่าลงกับพื้นในทันที โค้งคำนับฮ่องเต้หวู่อย่างนอบน้อม “ลูกขอเป็นตัวแทนราษฎรทั้งแผ่นดิน ขอบพระทัยเสด็จพ่อ! ขอเสด็จพ่อทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี!” ไม่ว่าจะอย่างไร ฮ่องเต้หวู่ทรงตอบตกลงยกเว้นภาษีสามปี นี่เป็นเรื่องดีที่สร้างประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรต้าเซี่ย เป็นสิริมงคลแก่ต้าเซี่ย! เหล่าประชาราษฎร์ต่างตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ฝ่าบาททรงตอบตกลงยกเว้นภาษีแล้ว? เป็นไปได้อย่างไร? เหล่าบัณฑิตมิได้กล่าวว่าฝ่าบาททรงเย็นชา ไร้ความเมตตา เห็นแก่เงินยิ่งกว่าสิ่งใดหรอกหรือ? ทว่า ภายใต้สายตาของผู้คน คำพูดของฝ่าบาท ผู้คนนับพันนับหมื่นได้ยินอย่างชัดเจน วาจาจักรพรรดิ ยากจะตามคืน! นี่เป็นเรื่องจริง! สามปีข้างหน้า พวกเขาไม่ต้องเสียภาษีให้แก่ราชสำนักแล้ว! “นี่...นี่...” ราษฎรดีใจจนเกินบรรยาย ต่างโห่ร้องยินดี น้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน พรึบ...พรึบ... ราษฎรนับพันนับหมื่นคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะด้วยความซาบซึ้ง “ขอบพระทัยฝ่าบาท! ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี!” นอกจากจะขอบคุณฝ่าบาทแล้ว พวกเขายังขอบคุณองค์รัชทายาทหลี่หลงหลินยิ่งกว่า ผู้ที่มีสายตาแหล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1023

    ฉินฮั่นหยางในฐานะบัณฑิตทรงคุณวุฒิ มีความรู้ลึกซึ้ง วาทศิลป์เฉียบคม ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่หลงหลิน ฉินฮั่นหยางกลับกลายเป็นเหมือนเด็กสามขวบ ถูกเย้ยหยันจนไม่เหลือชิ้นดี! ในสมองของหลี่เทียนฉี่ ปรากฏภาพงานเลี้ยงชมดอกไม้ร้อยบุปผาขึ้นมา ทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกของฉินฮั่นหยางอย่างถ่องแท้ แต่ว่า หลี่เทียนฉี่ไม่กังวลแม้แต่น้อย มุมปากยังปรากฏรอยยิ้ม หลี่หลงหลินต้องการยกเว้นภาษีสามปี? ฝันไปเถอะ! เสด็จพ่อไม่มีทางตอบตกลงแน่นอน! ไม่มีใครรู้จักบิดาดีเท่าบุตร คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนเช่นไร ไม่เข้าใจอุปนิสัยของเขา แต่หลี่เทียนฉี่เป็นใคร? เขาเคยเป็นองค์รัชทายาท เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ต้าเซี่ย ปัจจุบันของหลี่หลงหลิน ก็คืออดีตของหลี่เทียนฉี่ ในยามที่หลี่เทียนฉี่เป็นที่โปรดปราน ฮ่องเต้หวู่ไม่เคยปิดบังสิ่งใดกับเขา ดังนั้น หลี่เทียนฉี่จึงเข้าใจนิสัยของฮ่องเต้หวู่เป็นอย่างดี หากจะให้บรรยายด้วยสองคำคือ – ขี้เหนียว ในเรื่องอื่น ๆ ฮ่องเต้หวู่อาจจะยังปิดบังอำพราง แสร้งทำเป็นลึกลับ ยากที่จะมองเห็นจิตใจที่แท้จริง แต่เมื่อใดที่เกี่ยวข้องกับเงินทอง ฮ่องเต้หวู่จะไม่เสแสร้ง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1022

    ยกเว้นภาษีสามปี? เหล่าประชาราษฎร์ได้ยินความปรารถนาของหลี่หลงหลินแล้ว สมองก็อื้ออึง ช่วงเวลาที่ผ่านมา ด้วยความพยายามของหลี่หลงหลิน สถานการณ์ของต้าเซี่ยค่อย ๆ เริ่มดีขึ้น ทางด้านเมืองซั่วเป่ย มีข่าวชัยชนะส่งมาอย่างต่อเนื่อง แผนการร้ายขององค์ชายสี่และชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็ถูกเปิดโปง ราษฎรต่างรู้สึกภาคภูมิใจ ได้ศักดิ์ศรีและความเชื่อมั่นกลับคืนมา แต่ปัญหาก็คือ ศักดิ์ศรีและความเชื่อมั่นนั้นกินได้หรือไม่? แน่นอนว่าไม่ได้! ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างต้าเซี่ยกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ หรือความขัดแย้งในราชสำนัก การแย่งชิงบัลลังก์ของเหล่าองค์ชาย เกี่ยวข้องอะไรกับราษฎร? อาจจะเกี่ยว แต่ก็ไม่มากนัก เพราะว่า ราษฎรไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ จากเรื่องเหล่านี้เลย ยังคงต้องดิ้นรนทำงานหนักเพื่อปากท้อง แต่การยกเว้นภาษีสามปีนั้นแตกต่างออกไป! ต้องรู้ว่า ภาษีในสมัยโบราณนั้นสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต้าเซี่ยซึ่งเป็นยุคปลายราชวงศ์ ขุนนางกังฉินเปรียบเสมือนปลวกที่กัดกินประเทศชาติจนย่อยยับ ทุกหย่อมหญ้ามีแต่ความเสียหาย งบประมาณขาดดุล ท้องพระคลังหลวงว่างเปล่า ราชสำนักไม่มีเงิน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status