แชร์

บทที่ 241

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
ซูเฟิ่งหลิงมองไปที่หลี่หลงหลินเงียบๆ ก่อนจะพบว่าเขาผิดปกติอย่างยิ่ง

โดยปกติแล้ว หลี่หลงหลินที่อยู่ยืนตรงต่อหน้าซูเฟิ่งหลิง เอาแน่เอานอนไม่ได้ ชอบหาเรื่องนางตลอด คอยล้อเลียนนางอยู่เสมอ เหมือนเด็กไม่มีผิด

วันนี้

หลี่หลงหลินกลับดูจริงจังมา ไร้ท่าทางล้อเล่น แม้แต่ตอนเดินใบหน้าก็เรียบตรง เขาก็ยังสง่างามมาก!

“บุรุษที่องอาจ หล่อเหลานัก!” ซูเฟิ่งหลิงน้ำลายไหลอย่างอดไม่ได้

ชุมนุมบทกวีกำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก

หนิงชิงโหวสมแล้วที่เป็นคนบ้าแห่งใต้หล้า มากความสามารถ สร้างกลอนงดงามออกมาได้

ไม่เพียงแต่ดวงตางามของหลิ่วหรูเยียนที่ไหวระริก แม้แต่มือก็ยังปรบไม่หยุด

แม้แต่ลั่วอวี้จู๋ก็พยักหน้าซ้ำๆ

นามของคน เงาของพฤกษ์

หนิงชิงโหวเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง ดีกว่าขุนนางในราชสำนักที่ดีแต่เอาหน้าประดับบารมี ไม่มีประโยชน์เท่าใดนัก

ในเวลาเดียวกัน ลั่วอวี้จู๋ก็รู้สึกเศร้าในใจ

ชายหนุ่มผู้มีความสามารถเช่นนี้ กลับไม่สามารถนำมาใช้งานได้ ทำได้เพียงดื่มด่ำกับฉากหน้าที่แสดง ละทิ้งเจตจำนง ยอมทำลายตนเอง

ไม่ใช่เพียงแค่ความเศร้าของหนิงชิงโหว

แต่เป็นความเศร้าของทั้งยุคสมัย!

แคว้นต้าเซี่ยที่ยิ่งใหญ่สูญเสียดวงอาทิต
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 242

    หลี่หลงหลินค่อนขอดอยู่ในใจข้าไม่มาพวกเจ้าก็จะให้ข้ามา!ข้ามาพวกเจ้าก็จะไล่ข้ากลับ!นี่ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาต้องการทำให้ข้าขายหน้าต่อหน้าพี่สะใภ้สี่ เพิ่มราศีของตนเองขึ้นมา!แต่ช่างน่าเสียดายผู้สุดขีดก็ยังเป็นผู้สุดขีด แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความรู้ แต่ก็ไม่เคยรับราชการอาศัยเพียงคำวิจารณ์พวกนี้ เทียบกับการยื่นถอนยศองค์ชายในราชสำนักแล้ว ก็นับเป็นเพียงการละเล่นของเด็กสามขวบเท่านั้น!หลี่หลงหลินพูดอย่างใจเย็น “ทักษะการดีดฉินของพี่สะใภ้สี่นั้นยอดเยี่ยมมาก! แต่พวกข้าอยู่ใต้หลังคนเดียวกัน ได้ยินมานานจนหน่ายแล้ว! แต่ว่า การฝึกซ้อมรอบที่สามเมื่อวานนี้ พี่สะใภ้สี่ยังเล่นให้ข้าฟังอยู่คนเดียว...”เขาพูดไม่จบประโยค เหลือเอาไว้ให้จินตนาการทันใดนั้น หนิงชิงโหวก็เริ่มกังวล จ้องมองไปที่หลิ่วหรูเยียน “แม่นานหรูเยียน เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”ตกดึกย่ำค่ำ ชายหญิงคู่หนึ่งดีดฉินด้วยกันตามลำพัง จะไม่เกิดอะไรขึ้นเลยหรือ?ใครจะไปเชื่อกัน?!ใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอาย นางพยักหน้าเล็กน้อยและยอมรับว่า “จริงเจ้าค่ะ...”ว้าว!ผู้สุดขีดทุกคนปั่นป่วนขึ้นมาทันทีมองไปที่หลี่หลงหลินอย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 243

    จากนี้จะมาขอให้นางช่วยเหลืออะไรอีกเช่นนั้นหรือ?ฝันไปเถอะ!ซูเฟิ่งหลิงโกรธจนทนไม่ไหว หยิกแขนของหลี่หลงหลินแล้วกระซิบ “ท่านมัวแต่นั่งบื้ออะไรอยู่เล่า?! ทำไมยังไม่รีบไปขอโทษสหายหนิงอีก?...”หลี่หลงหลินลุกขึ้นยืน เดินมาหาหนิงชิงโหวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าไม่กล้าโต้กวีกับข้า หนีไปกลางศึก พวกเราสองคน ใครกันแน่ที่ขี้ขลาด?”หนิงชิงโหวหยุดชะงัก หันกลับมามองหลี่หลงหลินด้วยความประหลาดใจ และหัวเราะเยาะ “ท่านตกลงจะโต้กวีกับข้า? แค่ท่านหรือ?”ฮ่าๆๆๆ!เหล่าผู้สุดขีดหยุดฝีเท้า เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะร่าหนิงชิงโหวมากความสามารถ ในด้านกวีไร้ผู้ใดเทียบเทียม หากไม่ใช่เพราะมีพวกคนทรามมาตีกรอบ เขาคงกลายเป็นปราชญ์อันดับหนึ่งด้านกวีไปนานแล้ว!องค์ชายเก้าเช่นเจ้านับเป็นอะไรได้?คนไร้ประโยชน์ โง่งมไม่รู้จักสุนทรีย์ มีผู้ใดไม่รู้ มีผู้ใดไม่เห็น!เจ้าขึ้นเหนือไปดูแลกองทัพ แต่กลับทูลความเท็จทางทหาร หนีไปกลางศึก ทำให้กองทัพตระกูลซูถูกกวาดล้าง ชายแดนเหนือพังทลาย!เจ้าร่ำเรียนอยู่ในสำนักศึกษาแห่งแคว้น แต่กลับไม่เคยตั้งใจเรียนเลยสักครั้ง เข้าห้องเรียนยามใดก็เอาแต่คอยเล่นจิ้งหรีดจนถูกอาจารย์ท่านไล่ตะเพิดออกน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 244

    แต่ว่าหลิ่วหรูเยียนไม่คิดว่าหลี่หลงหลินจะมีพรสวรรค์ในการเขียนบทกวีชายแดนเขาต้องเตรียมบทกวีสามบทเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อมาอวดบารมี!ใบหน้าของหนิงชิงโหวมืดมนลงเล็กน้อยบทกวีชายแดน?สิ่งที่เขาชำนาญน้อยที่สุดก็คือบทกวีชายแดนอย่างไรเสียบัณฑิตนักกวีที่อ่อนแอไม่อาจอยู่ในสนามรบ ยากจะอธิบายการต่อสู้ในสนามรบที่โหดร้าย!ทว่าหนิงชิงโหวเองก็มากพรสวรรค์คุ้นเคยกับบทกวีสามร้อยบท ไม่ได้แต่งมาก่อนก็ชนะได้ไม่ว่าบทกวีชายแดนของเขาจะย่ำแย่ แต่ก็ยังดีพอที่จะเอาชนะหลี่หลงหลินหนิงชิงโหวพยักหน้าตกลง “ได้! มาโต้บทกวีชายแดนกัน!”หลี่หลงลินยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อเป็นการโต้กวี เช่นนั้นรางวัลเล่า?”หนิงชิงโหวหัวเราะเยาะ “ในเมื่อเป็นบทกวีชายแดน ผู้ชนะคือราชา ผู้แพ้คือโจร! ผู้แพ้ต้องตกเป็นของผู้ชนะ ท่านกล้าหรือไม่?”องค์ชายเก้าผู้นี้ ช่างน่ารังเกียจจริงๆ!หนิงชิงโหวได้ตัดสินใจแล้ว หากหลี่หลงหลินพ่ายแพ้ เขาจะให้อีกฝ่ายระบำเปลือยก้น ทำตัวโง่เขลาต่อหน้าธารกำนัล อับอายตายไปเสีย!อยู่ที่ว่าเขากล้าหรือไม่แล้ว!หลี่หลงหลินพยักหน้าโดยไม่ต้องคิดว่า “ตกลง!”ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน หลี่หลงหลินหันไปมองซูเฟิ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 245

    “ศีรษะของชายหนุ่มขาวหม่น ความโศกเศร้าล่องลอยว่างเปล่า...”เสียงของหลี่หลงหลินดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เข้าถึงอารมณ์มากขึ้น ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูกซูเฟิ่งหลิงคิดร่างของท่านปู่ในใจ แล้วค่อยๆ รำหอกเงินตามความรู้สึก!ความรู้สึกที่จินตภาพนี้สื่อออกมา ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บทกวีได้อย่างยิ่ง!“แดนเหนือจนใจ ยังโปรยหิมะ!”“แค้นชังของประชา เมื่อใดม้วย!”“นั่งรถม้าไกล ทะลวงเขาเหอหลาน!”“ยามฝันลิ้มรสเนื้อศัตรู!”“ยามสรรค์ดื่มเลือดคนเถื่อน!”“เริ่มต้นใหม่ ปัดกวาดภูเขาลำน้ำเก่าแก่ สร้างวังแห่งสวรรค์!”กวีอีกสองสามบรรทัดถัดมา เสียงของหลี่หลงหลิน เริ่มน่าหลงใหลมากขึ้นเรื่อยๆ!ดวงตาของซูเฟิ่งหลิงฉายแววเกลียดชังไม่รู้จบ หอกสีเงินราวกับสายลม รัศมีสังหารแสนดุร้าย ราวกับว่านางกำลังต่อสู้กับคนป่าเถื่อนในสนามรบ!จบบทแล้ว!ทั้งสถานที่เงียบกริบ!หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็รู้สึกตัว โห่ร้องออกมาเสียงดัง“เยี่ยม!”“ช่างไพเราะนัก!”โดยเฉพาะญาติสตรีของตระกูลซูที่ต่างปรบมือชื่นชมด้วยกวีเพียงไม่กี่บรรทัด กลับแสดงถึงความโกรธที่ทหารของต้าเซี่ยมีต่อพวกหม่านอี๋ออกมาได้จนหมดในขณะเดียวกันก็พ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 246

    หนิงชิงโหวทั้งเสียใจและมึนงงบทกวีบทแรกของหลี่หลงหลินนั้นยอดเยี่ยม บรรยายถึงท่วงท่าที่กล้าหาญของแม่ทัพผู้เฒ่าซู และยังแสดงถึงความใฝ่ฝันของบัณฑิตทั่วหล้า!ใครบ้างไม่อยากฟื้นฟูแม่น้ำภูเขาที่เก่าแก่เหล่านั้นของต้าเซี่ยกลับคืนมา?บทกวีบทที่สอง แม้เทียบกันแล้วจะหยาบคาย แต่ก็เหมือนกับการรู้แจ้ง ปลุกหนิงชิงโหวขึ้นมาอย่างสมบูรณ์เขายังเป็นสุภาพชนยังมีหัวใจที่บริสุทธิ์!บัดนี้ ภูเขาลำน้ำพังทลาย หม่านอี๋ข่มเหงพวกเขาอย่างไร้ความปรานี ตนยังยอมทำตนเสื่อมทราม หลงระเริงอยู่ในหมูคณิกาตลอดทั้งวันได้อีกหรือ?ข้าเองก็อยากรับใช้ชาติ!ข้ายังต้องการทำอะไรเพื่อแว่นแคว้นและประชาชนแต่ว่า...ทำอันใดเล่า?หนิงชิงโหว ไร้ความรู้ด้านนี้แม้ว่าเขาจะเป็นพวกสุดโต่งและหยิ่งผยอง มักชี้ฟ้าด่าดิน กล่าวตำหนิราชสำนักแต่พูดให้ชัดแล้ว เขาเป็นนักรบชำระแค้นของคนรุ่นหลังเต็มไปด้วยมีความหลงใหล มีความทะเยอทะยานมากมาย แต่ไม่มีทางให้ได้รับใช้ชาติ วีรบุรุษไร้ที่ให้ได้เป็น!นี่คือความเศร้าที่แท้จริง!ผู้สุดขีดคนอื่นๆ ก็เหมือนกันกับหนิงชิงโหว หัวใจเจ็บปวด น่าสังเวชยิ่งกว่าเดิมในเวลานี้ กวีบทที่สามของหลี่หลงหลินก็ด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 247

    คนไม่มีพื้นฐานเข้าร่วมกองทัพ ต่อให้เก่งแค่ไหนก็จะถูกกลบฝัง ส่งไปแนวหน้าเป็นอาหารปืนใหญ่ ตายอย่างคนไร้ค่านี่เป็นเหตุผลว่าเหตุใดหนิงชิงโหวจึงไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมกองทัพรับราชการก็ไม่ได้ เข้ากองทัพก็ไม่ได้!ไม่มีทางอื่นที่จะไปในโลกนี้เหรอ?ข้าเพียงแค่อยากรับใช้ชาติเท่านั้นเอง!เหตุใดถึงได้ยากขนาดนี้?ดวงตาของหนิงชิงโหวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง!หลี่หลงหลินมองไปที่หนิงชิงโหวอย่างเฉยเมยและพูดว่า “ทางข้ามีอยู่หนึ่งเส้นทาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะยอมเดินหรือไม่?”หนิงชิงโหวตกใจ “เส้นทางใด?”หลี่หลงหลินพูดเสียงทุ้ม “ข้าต้องการสร้างกองทัพใหม่ ต้องการแม่ทัพที่มีความสามารถ! จากนี้ไป หากพวกเจ้าติดตาม! ข้าจะไม่ให้เกียรติ ไม่ให้ความมั่งคั่งกับพวกเจ้า เพราะนั่นเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว! แต่สัญญาว่าสักวันหนึ่ง พวกเจ้าจะเอาชนะพวกหม่านอี๋ด้วยน้ำมือของตนเอง ดื่มร่วมอาชาทะเลเหนือ ผนึกหล่างจูซวี[footnoteRef:1]!” [1: เป็นภูเขาซึ่งก็คือภูเขาเคนต์ทางตะวันออกของอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย ในเวลานั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับจัดพิธีบูชาฟ้าดินของซยงหนู] ทุกคนถึงกับตกใจ!พวกเขาว่าบ้าแล้ว แต่หลี่หล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 248

    หนิงชิงโหวเดินออกมาจากจวนตระกูลซูด้วยสีหน้างุนงง ฝีเท้าโซเซไปมา ราวกับว่าสูญเสียสติไปสิ้นแล้ว“สหายหนิง ยังเช้าอยู่ ไม่สู้พวกเราไปที่สำนักการสังคีต ไม่เมาไม่กลับ…” ผู้สุดขีดคนหนึ่งเสนอขึ้นมาคนอื่นๆ ต่างตอบรับอย่างเป็นเอกฉันท์อารมณ์ของพวกเขาถูกหลิ่วหรูเยียนผู้มากเสน่ห์ปลุกเร้า ต้องการไประบายอารมณ์กลับเหล่าคณิกาที่สำนักการสังคีต“พวกเข้าไปเถอะ ฉันไม่ไป...”หนิงชิงโหวพูดด้วยเสียงต่ำ“เอ๊ะ?”ผู้สุดขีดทั้งหมดตกใจ “แล้วเจ้าจะไปไหน?”หนิงชิงโหวตอบตรงๆ “กลับบ้าน ร่ำเรียน”ทุกคนละอายใจในหมู่พวกเขา สหายหนิงเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุด แต่เขากลับต้องกลับบ้านไปอ่านหนังสือความขยันหมั่นเพียรนี้ ช่างน่าจดจำเป็นประวัติการณ์ดูเหมือนว่า ผลกระทบจากบทกวีทั้งสามของหลี่หลงหลิน จะส่งผลต่อหนิงชิงโหวอย่างใหญ่หลวง ปลุกกระตุ้นเขาอย่างรุนแรง!“ถ้าเช่นนั้น... ข้าก็จะกลับบ้านไปร่ำเรียนด้วย!”“แยกย้ายกันไปเถอะๆ!”ผู้สุดขีดทั้งหลายพบว่ามันน่าเบื่อ จึงแยกย้ายกันกลับบ้านทีละคนทว่า ยังมีคนไม่กี่คนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แอบมาเล่นสนุกที่สำนักการสังคีตในขณะที่ดื่มด่ำกับคณิกา ก็อดไม่ได้ที่จะท่องกวีส

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 249

    จวนหรงกั๋วกงคุณชายใหญ่จางอี้ที่ไม่กลับมาทั้งคืน รีบวิ่งเข้าไปในบ้านแล้วตะโกนว่า “ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!”หรงกั๋วกงจางเฉวียนตื่นตระหนก ยืนขึ้นด่า “เช้าขนาดนี้มายืนตะโกนอยู่ข้างหูข้า เจ้าเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”จางอี้พูดอย่างตื่นเต้น “ท่านพ่อ ดูบทกวีทั้งสามนี้สิ! ข้าได้มาจากสำนักการสังคีตเมื่อคืนนี้!”เมื่อจางเฉวียนได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวทันทีสำนักการสังคีตมารดามันเถอะ เจ้าจะออกไปเที่ยวที่สำนักการสังคีตทั้งคืนอีกแล้วหรือ?เจ้าออกไปเที่ยวก็ออกไปเที่ยว แต่กลับกลับบ้านมาตะโกนโหวกเหวกรบกวนความฝันของผู้อื่น?ยังมาบอกว่าคัดลอกเอากวีกลับมา?ก็แค่บทกวีไม่กี่บท วุ่นวายอะไรเพียงนั้น?ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่คัดลอกเอามาจากสำนักการสังคีต ย่อมต้องผิดปกติพิลึกพิเรนทร์เป็นแน่....“ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!”จางเฉวียนโกรธมาก ถอดรองเท้าออก เตรียมจะทุบตีจางอี้“นายท่าน!”อวี่ซื่อเองก็ตื่นขึ้นมาแล้ว รีบห้ามจางเฉวียนไว้อย่างรวดเร็ว โน้มน้าวเขา “ท่านอย่าเพิ่งโทสะเลยเจ้าค่ะ แท้จริงแล้วเป็นกวีเช่นไร ท่านดูก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ!”จางเฉวียนระงับความโกรธ ก้มศีรษะลงอ่านบทกวีทันใดนั้น

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status